ตอนที่แล้วตอนที่ 155: พลังที่ซ่อนอยู่!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 157: ไม่มีทางเลือก!

ตอนที่ 156: สำนักวิหคสังหาร


ตอนที่ 156: สำนักวิหคสังหาร

ใบมีดของเซเลสเชียลมูนกระจายกันออกไปล่องลอยในอากาศ โดยใบมีดบางใบเคลื่อนที่อย่างเชื่องช้าและใบมีดบางใบก็กำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว

“ทำลายมันซะ!” เซี่ยเฟยส่งเสียงตะโกนดังลั่นพร้อมกับบังคับให้ใบมีดทั้ง 18 พุ่งเข้าจู่โจมกำแพงอากาศที่กักขังเขาเอาไว้

ใบมีดแต่ละใบหมุนด้วยความเร็วสูงราวกับใบเลื่อยไฟฟ้าและทิ้งภาพติดตาให้ผู้คนได้พบเห็น

วิธีการโจมตีโดยการหมุนใบมีดแบบนี้เป็นการโจมตีที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เพราะมันกำลังฉีกกระชากมวลอากาศออกจากกัน

การตอบโต้ของชายหนุ่มทำให้ผางไห่รู้สึกตกตะลึง เขาจึงผสานมือเข้าด้วยกันเพื่อทำการสร้างกำแพงอากาศขึ้นมาใหม่ไม่ให้เซี่ยเฟยหนีรอดจากการควบคุมไปได้

น่าเสียดายที่ผางไห่ประเมินพลังจิตของเซี่ยเฟยต่ำเกินไป

วือ! วือ!

เมื่ออยู่ต่อหน้าการโจมตีอันทรงพลังกำแพงอากาศก็เริ่มถูกฉีกออกจากกันเหมือนกับกระดาษ

แควก!

เซี่ยเฟยรู้สึกเหมือนกับกำลังฉีกกระชากผ้าให้ขาดออกเป็นชิ้น ๆ เมื่อกำแพงอากาศถูกทำลายเขาก็ก้าวขาออกมาจากการปิดล้อม

“เอานี่ไปกินซะ!” เซี่ยเฟยทำการควบคุมใบมีดทั้ง 18 ใบให้ลอยกลับมารวมตัวกันกลายเป็นดาบยาวอีกครั้ง พร้อมกับทำการฟาดมันออกไปในแนวดิ่งอย่างรุนแรง

“เขาเป็นผู้ใช้พลังจิตจริง ๆ!”

“เขามีพลังพิเศษถึงสองอย่างได้ยังไง!”

ผางไห่อุทานพร้อมกับขมวดคิ้วเพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าเซี่ยเฟยไม่ได้มีเพียงแค่ความเร็วเท่านั้น แต่เขายังสามารถใช้พลังจิตได้อีกด้วย!

มันมีกฎที่ไม่ได้เขียนไว้ในพันธมิตรว่าถ้าหากใครต้องการจะเป็นนักสู้ชั้นยอดคนคนนั้นก็ไม่สมควรที่จะฝึกฝนความสามารถที่แตกต่างกันขึ้นมาในเวลาเดียวกัน เพราะมันจะสูญเสียเวลาในการฝึกฝนความสามารถใดความสามารถหนึ่งไป

แต่เซี่ยเฟยก็ได้ฝ่าฝืนกฎที่ไม่ได้บัญญัตินี้!

เซี่ยเฟยไม่เพียงแต่จะได้ครอบครองพลังพิเศษถึงสองประเภทเท่านั้น แต่เขายังได้ฝึกฝนพลังทั้งสองประเภทจนถึงระดับสูงอีกด้วย

คนที่มีพลังพิเศษ 2 ประเภทสามารถแสดงพลังออกมาได้อย่างมหาศาล ซึ่งผลลัพธ์ของการใช้พลังพร้อมกันสองประเภทนี้มันก็ไม่ได้เหมือนกับเครื่องหมายบวกในวิชาคณิตศาสตร์ แต่มันให้ผลลัพธ์คล้ายกับตัวเลขยกกำลัง!

ฉินหมางสัมผัสได้ถึงออร่าที่เปลี่ยนแปลงไปของเซี่ยเฟย เขาจึงคิดว่าชายหนุ่มน่าจะได้เรียนรู้วิชาการต่อสู้ใหม่เขาจึงได้มีความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นเช่นนี้

แต่สิ่งที่ชายชราคิดถูกต้องเพียงแค่ครึ่งเดียว เพราะสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาไม่ได้มีเพียงแต่วิธีการต่อสู้ในรูปแบบใหม่เท่านั้น แต่มันยังรวมถึงพลังพิเศษในรูปแบบใหม่ด้วย!

พลังจิต!

นี่คือพลังใหม่ที่เซี่ยเฟยเพิ่งได้รับมาและเขาก็เป็นผู้ที่ครอบครองพลังพิเศษถึงสองพลังในเวลาเดียวกัน!

ถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะไม่ได้พัฒนาพลังพิเศษทั้งสองชนิดจนถึงขีดสุด แต่เขาก็พัฒนาพลังขึ้นมาให้มากพอจะต่อสู้กับคู่ต่อสู้อันทรงพลังได้

ประสบการณ์ในการต่อสู้ของเขาเกิดขึ้นมาจากการพยายามเอาชีวิตรอดนับครั้งไม่ถ้วน และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเซี่ยเฟยถึงมีความมั่นใจและสงบนิ่งได้มากกว่าตัวเขาเมื่อ 1 ปีก่อน

“วันนี้ผมต้องไปเจอแอวริลให้ได้!” เซี่ยเฟยพูดอย่างเย็นชาพร้อมกับชี้เซเลสเชียลมูนเข้าหาชายชรา

ฟึ่ม!

ทันทีที่พูดจบจิตสังหารที่สามารถทะลุทะลวงได้ทุกสิ่งก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเซี่ยเฟย

ความโกรธเกรี้ยวกำลังแผดเผาอยู่ภายในใจของเขาอย่างต่อเนื่องและใครก็ตามที่พยายามขวางทางจะถูกบดขยี้กลายเป็นผุยผง!

ผางไห่แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาเล็กน้อย แต่ในเวลาเพียงแค่ไม่นานสีหน้าของเขาก็กลับมาเป็นปกติ

พลังจิตเป็นหนึ่งในพลังพิเศษจำนวนนับไม่ถ้วน โดยพลังนี้ทำให้ผู้ใช้พลังสามารถเข้าควบคุมวัตถุชนิดต่าง ๆ ได้ ตราบใดก็ตามที่วัตถุชิ้นนั้นมีน้ำหนักหรือปริมาตรอยู่ในขอบเขตของผู้ควบคุม

ในความเป็นจริงแม้แต่เซี่ยเฟยก็ไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่ที่เขาเริ่มทำการฝึกฝนวิชามนตราอสูร เขาก็ไม่เพียงจะเริ่มสื่อสารกับสัตว์ร้ายได้เท่านั้นแต่สมองของเขายังเริ่มสร้างคลื่นพลังจิตขึ้นมาอีกด้วย

หลังจากผ่านมรสุมและการนองเลือดที่ดาวมรดกมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน คลื่นพลังจิตภายในสมองของเขาก็ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างเต็มที่และทำให้เขาได้กลายเป็นผู้ใช้พลังจิตด้วยเหตุนี้เอง

สาเหตุที่เซี่ยเฟยเลือกเซเลสเชียลมูนเป็นอาวุธใหม่ของเขานั่นก็เพราะว่าอาวุธชนิดนี้ทำขึ้นมาจากวัตถุดิบผสมที่มีชื่อว่าโครรี่อัลลอย โดยมันเป็นโลหะที่สั่นพ้องกับคลื่นพลังจิตของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี มันจึงเป็นโลหะที่มักจะนำมาทำเป็นอาวุธให้กับผู้ใช้พลังจิต

“คุณรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากคุณเข้าไปในคฤหาสน์ซันเซ็ทวิลล่าโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต” ผางไห่ยังคงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ไม่รู้และไม่อยากรู้ด้วย”

“คุณกับคุณหนูมีสถานะที่แตกต่างกันและมีชีวิตที่ไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย” ผางไห่กล่าวออกไปอย่างมีนัยยะ

เซี่ยเฟยเคยได้ยินคำพูดประเภทนี้มาระยะหนึ่งแล้วและทุกคนก็ดูเหมือนกับว่าจะมองเห็นเขาเป็นหนูตกถังข้าวสาร

“ผมรู้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ถ้ารู้แล้วทำไมถึงยังยืนกรานจะไปหาคุณหนูอีก!”

“ผมไม่ได้จะไปหาคุณหนูของคุณ แต่ผมจะไปหาแอวริล”

“แอวริลก็คือคุณหนูและคุณหนูก็คือแอวริล”

“ผมรู้”

“ถ้ารู้แล้วทำไมถึงยังดื้อด้านอยู่อีก!”

“คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่?” เซี่ยเฟยเริ่มหัวเราะเยาะ

“ผมแค่หวังว่าคุณจะไม่ล่วงเกินคุณหนูของเรา” ผางไห่กล่าว

“ไม่ล่วงเกิน? เรื่องนี้แอวริลต้องเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเองมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคุณ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยกรอยยิ้มที่มุมปาก ซึ่งหลังจากที่เขาพูดจบเขาก็ค่อย ๆ เดินขึ้นไปบนภูเขา

การเคลื่อนที่ของเขาในคราวนี้ไม่ใช่การวิ่งด้วยความรวดเร็วแต่กำลังเดินขึ้นไปทีละก้าวอย่างไม่เร่งรีบราวกับว่ามันไม่มีอะไรในคฤหาสน์ซันเซ็ทวิลล่าจะมาหยุดเขาได้

กลุ่มบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านล่างเดินกลับขึ้นมาอีกครั้งและกลุ่มบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านบนก็เริ่มเดินลงมาจากภูเขา

พวกเขาเริ่มเตรียมอาวุธของตัวเองและจ้องมองไปที่ชายหนุ่มจากระยะไกล

แม้ว่าจะถูกรุมล้อมจากศัตรูแต่เซี่ยเฟยก็ยังคงไม่พูดอะไรและค่อย ๆ ก้าวเท้าขึ้นไปอย่างมั่นคงเหมือนเดิม

“โจมตี!”

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนขึ้นมาแต่พวกบอดี้การ์ดทุกคนเริ่มทำการลงมือโดยมีเป้าหมายเป็นเซี่ยเฟยเพียงแค่คนเดียว

ผางไห่ส่ายหัวและเผยรอยยิ้มออกมาอย่างขมขื่น จากนั้นเขาก็เดินตามเซี่ยเฟยขึ้นไปบนภูเขาโดยไม่ได้พยายามจะหยุดพวกบอดี้การ์ดหรือหยุดเซี่ยเฟยเอาไว้เลย

ในเวลาเพียงแค่ไม่นานบอดี้การ์ดประมาณ 7-8 คนที่อยู่ด้านหน้าก็ล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด

เซี่ยเฟยสามารถทำการจู่โจมได้อย่างเฉียบขาด เพราะไม่เพียงแต่เขาจะสามารถสลายพลังของพวกบอดี้การ์ดได้เท่านั้น แต่เขายังไม่ทำให้บอดี้การ์ดพวกนี้กลายเป็นคนพิการอีกด้วย

บอดี้การ์ดในส่วนที่เหลือรีบถอยห่างออกไปจากเซี่ยเฟยและทุกครั้งที่ชายหนุ่มก้าวเท้าไปข้างหน้า 1 ก้าวพวกเขาก็จะถอยหลังตาม 1 ก้าวด้วยเหมือนกัน

เซี่ยเฟยได้กลายเป็นอสูรร้ายที่กำลังโกรธเกรี้ยวและจิตสังหารที่เขากำลังปล่อยออกมาก็ทำให้ทุกคนสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว

“ผู้อาวุโสผางพวกเราควรจะทำยังไงดี?”

“ผู้อาวุโสถ้าเราไม่หยุดเขาเอาไว้ นายท่านจะต้องลงโทษพวกเราแน่ ๆ”

“พวกเราควรจะทำยังไงกันดี?”

พวกบอดี้การ์ดพยายามขอคำแนะนำจากผางไห่ แต่ชายชราก็ยังคงนิ่งเฉยราวกับว่าเขาไม่ได้ยินอะไร

เหตุการณ์นี้เป็นภาพที่แปลกประหลาดจริง ๆ เพราะมันมีบอดี้การ์ดหลายร้อยคนกำลังรุมล้อมเซี่ยเฟยเอาไว้อยู่ แต่มันกลับไม่มีใครกล้าเข้ามาหยุดชายหนุ่มเอาไว้สักคนทำให้ชายหนุ่มเดินเข้าไปในเขตคฤหาสน์ด้วยสถานการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

แต่ในทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ผงะขึ้นมาอย่างฉับพลัน

สัญชาตญาณที่ไม่ธรรมดาของเขากำลังตระหนักถึงอันตรายและมันก็ดูเหมือนกับมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นบนยอดเขา

นั่นมันกลิ่นเลือด!

ด้วยการปรากฏตัวของเขานี่เองมันจึงทำให้บอดี้การ์ดเกือบทั้งหมดมาล้อมรอบตัวเขาเอาไว้และทำให้การป้องกันบนยอดเขาตกอยู่ในสถานะที่อ่อนแอ หากมันมีคนคิดจะลงมือในตอนนี้จริง ๆ สถานการณ์บนยอดเขาก็จะไม่มีคนคอยป้องกัน!

แอวริล!

เซี่ยเฟยรีบถีบเท้าอย่างแรงและวิ่งไปที่ยอดเขาด้วยความเร็วสูงสุด

“หลบไป!”

ตูม!

เมื่อแอวริลอาจจะตกอยู่ในอันตรายเซี่ยเฟยก็ไม่สนใจใครอีกแล้ว

เซเลสเชียลมูนถูกกวาดออกไปด้านข้างและทำให้บอดี้การ์ดที่ยืนขวางทางล้มลงไปทีละคน

ในเวลาเดียวกันผางไห่ก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่ยอดเขาเช่นกัน เขาจึงรีบออกวิ่งตามเซี่ยเฟยไป

“กลับไปที่ยอดเขาเดี๋ยวนี้!!” ผางไห่ตะโกนสั่งการ

เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง เพราะทั้งผางไห่และเซี่ยเฟยต่างก็มีเป้าหมายเป็นยอดเขาในเวลาเดียวกัน

ก่อนที่ใครจะทันได้ตั้งตัวพวกเขาก็รีบวิ่งตามเซี่ยเฟยและผางไห่ด้วยความสับสน

ฟุบ!

เซี่ยเฟยสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วมากกว่า 3,000 เมตรต่อวินาที เขาจึงใช้เวลาเพียงแค่ 2 วินาทีในการวิ่งขึ้นมาถึงยอดเขา

พื้นที่บริเวณยอดเขาถูกปรับให้เรียบและปูด้วยแผ่นหินสีขาววางเรียงรายทั่วทุกที่ โดยพื้นที่บริเวณนี้มีอาคารขนาดใหญ่วางเรียงกันอยู่สามหลัง ซึ่งอาคารตรงกลางเป็นอาคาร 5 ชั้นและมีขนาดใหญ่ที่สุด ส่วนอาคารซ้ายขวาเป็นอาคาร 4 ชั้นที่มีลานสำหรับการจอดยานอวกาศขนาดเล็ก

ก่อนที่เซี่ยเฟยจะยืนได้อย่างมั่นคงเขาก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เพราะบนพื้นเต็มไปด้วยซากศพของบอดี้การ์ด บางคนมีรอยตัดที่ลำคออย่างเรียบร้อยและยังคงมีเลือดสด ๆ ไหลซึมออกมาคล้ายกับว่าพวกเขาเพิ่งเสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี้

“มีคนอื่นแอบเข้ามา!” เซี่ยเฟยพูดกับอันธอย่างตื่นตระหนก

“นี่มัน… คนลงมือเป็นพวกสำนักวิหคสังหาร”

“ฉันไม่มีเวลาอธิบายแล้ว พวกสำนักวิหคสังหารกับสำนักเงาสังหารเป็นองค์กรนักฆ่ามืออาชีพเหมือนกัน รีบออกตามหาแอวริลเร็ว ๆ เข้า!” อันธกล่าวด้วยเสียงอันจริงจัง

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างจริงจังก่อนที่จะเริ่มใช้วิชาพรางจิตแอบวิ่งตรงไปทางอาคารหลังตรงกลางอย่างเงียบ ๆ เพราะสัญชาตญาณของเขากำลังร้องบอกว่ามันมีโอกาสสูงมากที่ศัตรูจะอยู่ในอาคารนี้

หากไม่มีชุดต่อสู้คอยปกป้องร่างกายการพยายามวิ่งด้วยความเร็วสูงจะทำให้ร่างกายของชายหนุ่มได้รับความเจ็บปวด โชคดีที่ร่างกายของเซี่ยเฟยมีความแข็งแกร่งมากกว่าเมื่อก่อน มันจึงทำให้เขาพอที่จะหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ได้ แต่ก็ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บจากการใช้ความเร็วได้ทั้งหมดอยู่ดี

ทันใดนั้นประตูของอาคารก็เปิดออกพร้อมกับชายชุดดำ 4 คนที่เดินออกมาจากด้านใน โดยพวกเขาสวมใส่ชุดเสื้อผ้าที่เหมือนกันและทุกคนก็ถืออาวุธรูปร่างประหลาดอยู่ในมือ

อาวุธชนิดนี้มีรูปร่างเหมือนเปลวไฟแต่มันเป็นใบมีดอันดุร้ายที่มีความคมอย่างน่ากลัว

ชายชุดดำคนหนึ่งแบกม้วนผ้านวมเอาไว้บนบ่า ซึ่งเมื่อพิจารณาจากผ้านวมแล้วมันน่าจะมีใครบางคนถูกห่อเอาไว้ในนั้น

ในขณะที่พวกเขาเดินออกมาจากประตูมันก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่เซี่ยเฟยกำลังวิ่งไปที่ประตูพอดิบพอดี มันจึงทำให้ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ระยะห่างระหว่างพวกเขาห่างกันเพียงแค่ไม่กี่สิบเมตรทำให้เซี่ยเฟยมีเวลาเพียงแค่ 0.0001 วินาทีในการตอบสนองต่อสถานการณ์

ชายชุดดำทั้งสี่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี พวกเขาจึงรีบแยกออกเป็น 2 กลุ่ม โดยชายชุดดำที่ถือผ้านวมถอยกลับไปหลังประตู ขณะที่ชายชุดดำอีกสามคนได้พุ่งตัวออกมาขวางเซี่ยเฟยเอาไว้

เพียงแค่ได้พบกันเซี่ยเฟยก็รู้ว่าคนพวกนี้ได้ใช้วิชาคล้าย ๆ วิชาพรางจิตทำให้พวกเขาสามารถเก็บซ่อนกลิ่นอายของตนเองเอาไว้ได้

เห็นได้ชัดเลยว่าคนพวกนี้คือนักฆ่ามืออาชีพ!

“ปลดปล่อย” เซี่ยเฟยส่งเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวพร้อมกับทำการตวัดเซเลสเชียลมูนออกไปในมุม 45 องศา ก่อนที่ใบมีดทั้ง 18 ใบจะหลุดออกมาพุ่งจู่โจมในทิศทางที่แตกต่างกัน

ฟุบ!

ชายหนุ่มเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเข้าสู่ตัวอาคารโดยทิ้งศพที่ถูกฟันจนขาดทั้งสามเอาไว้ด้านหลัง

ในระหว่างกระบวนการเซี่ยเฟยทำการสังหารหนึ่งในนักฆ่าด้วยมือของตัวเอง และทำการสังหารนักฆ่าอีกสองคนด้วยใบมีดทั้ง 18 ใบ

เมื่อได้เห็นเพื่อนถูกฆ่าตายนักฆ่าชุดดำด้านหลังประตูก็ส่งเสียงอู้อี้ก่อนที่จะกระโจนหนีออกไปทางหน้าต่าง จากนั้นเขาก็กดปุ่มที่อุปกรณ์ขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่บนแขน โดยอุปกรณ์นี้ทำหน้าที่คล้ายกับเครื่องส่งสัญญาณ

ด้านหลังของอาคารเป็นเหวลึกซึ่งการร่วงลงไปด้านหลังอาคารนี้จะทำให้กระดูกทั่วทั้งร่างแตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

แต่ถึงกระนั้นเซี่ยเฟยก็ยังกระโดดลงไปในหุบเหวอย่างไม่ลังเล

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าคนที่อยู่ในห่อจะใช่แอวริลหรือไม่ แต่ตราบใดที่มันมีโอกาสแม้แต่ 0.01% เขาก็จะไม่มีวันยอมพ่ายแพ้!

***************

สนพ.เซียนอ่านเข้าร่วมแคมเปญ Pinto Birthday จัดใหญ่ครบรอบ 1 ปี E-book ลดสูงสุด 80% อย่าลืมไปซื้อสะสมกันได้น๊า ตามลิงก์นี้เลยจ้า https://bit.ly/3M9vXUI 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด