ตอนที่แล้วตอนที่ 1381 หัวหน้าเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงผู้ปกป้องเจตจำนงสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1383 ผู้พิทักษ์และผู้เสียสละ

ตอนที่ 1382 โปรดเรียกข้าว่าเด็กดี!


โลกแกนสมดุล

เย่ว์หยางซึ่งอยู่ในอารมณ์เกรี้ยวกราดทุบตีเทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิงอยู่ครึ่งชั่วโมงก่อนจะค่อยๆ ได้สติฟื้นคืนจากความโกรธ

เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงเคยต่อสู้กับกับยอดฝีมือเทพระดับสูงอย่างจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อมังกรปีศาจ เย่ว์หยางและจื้อจุน เขาเหนื่อยล้าแล้ว ที่สำคัญสถานการณ์ต่อสู้เปลี่ยนไปอย่างมากเพื่อจะฝ่ากำแพงปราณออกไปเขาถูกกฎสวรรค์ทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่าและได้รับบาดเจ็บสาหัสในทันที  หลังจากใช้พลังต้องห้ามแล้วเขาถูกจื้อจุนใช้พลังรุ้งสามสีโจมตีอย่างหนักเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงแม้จะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตามความอดทนของเขาก็มาถึงขีดจำกัดได้  เพลิงอมฤตอาวุธเทพชะตา บวกกับเย่ว์หยางไล่ทุบเขาอย่างบ้าคลั่ง

ตอนนี้ร่างเทพของเขาหมองประกายลงและบัลลังก์เทพพลังทลายไปนานแล้ว เขาสามารถยึดร่างป้องกันเส้นทางโบราณข้างหน้าไว้ได้

นับเป็นปาฏิหาริย์!

แม้แต่เย่ว์หยาง

หลังจากสติสัมปชัญญะกลับคืนมา เขาอดถอนหายใจกับปณิธานป้องกันของเขาไม่ได้

“คนผู้นี้เก่งกว่าข้า แม้ข้าไม่อยากจะยอมรับก็ตามแต่ข้าก็ต้องยอมรับ” มังกรปีศาจไม่ค่อยชื่นชมผู้อื่นแต่เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถทำอย่างเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิง  ร่างกายของเขาถูกทุบตีเล่นงานอย่างหนัก  แต่เจตจำนงของเขายังคงป้องกันไม่ให้เสวี่ยอู๋เสียผนึกปิดเส้นทางโบราณ

“ไม่ธรรมดา เย่ว์ไตตัน, มีพลังระดับเดียวกับจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ”เจี้ยนจางเซิงเสียงสั่น เขารู้สึกว่าเขาละอายใจจริงๆ  เขาเป็นผู้สูงอายุที่อยู่มานานแล้วยังกล้าทำหยิ่งยโสได้อย่างไร?

“เจ้ายังพลาดเทพพิทักษ์ทะเลมรณะและเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ไปได้อย่างไรและยังมีมารดาของเย่ว์ไตตัน....” ชี่ตันจื้อไม่อาจทนได้

เขาไม่เคยเห็นยอดฝีมือมากมายหลายคนมาก่อนในชีวิต

ก่อนนั้นเขาคิดว่าตนเองค่อนข้างเก่ง แต่ไม่ว่าใครก็ตามเอามาเปรียบเทียบแล้วกลายเป็นตัวตลก!

มังกรปีศาจพยักหน้าและเขาเห็นด้วยที่ว่าคนพวกนี้ผิดปกติธรรมดาแต่จู่ๆ เขาถึงตาใส่เจี้ยนจางเซิงและชี่ตันจื้อด้วยความโกรธ  “ไม่ใช่แล้ว ทำไมไม่มีชื่อข้า?  ข้าไม่น่ากลัวหรือ?  ข้าไม่เหมือนคนที่เหนือธรรมดาหรือ?”

เจี้ยนจางเซิงและชี่ตันจื้อหลั่งเหงื่อเยียบเย็น

และมีสีหน้าเจื่อน

อย่างไรก็ตามไม่ใช่เรื่องดีที่ทำให้มังกรปีศาจซึ่งเป็นมือสังหารอันดับหนึ่งของแดนสวรรค์โกรธ  และเขาเรียกตัวเองว่าเป็นพี่ใหญ่ของเย่ว์ไตตัน “ใช่แล้วเป็นไปได้อย่างไร? ท่านนั่นแหละไม่ธรรมดาที่สุด!ความไม่ธรรมดาของท่านไม่มีใครเทียบได้!เย่ว์ไตตันผู้ไม่ธรรมดาก็ยังเรียกท่านว่าพี่ใหญ่ นั่นถูกต้องแล้ว ถ้าท่านไม่ธรรมดาและใครที่ไหนเล่าที่ไม่ธรรมดา? แน่นอนว่าท่านไม่เพียงแต่ไม่ธรรมดาเท่านั้นเป็นความธรรมดาที่ไม่มีใครคัดค้านแน่นอน”

มังกรปีศาจหลังจากได้ฟังคำเยินยอนี้แล้วเขามีความสุขในหัวใจ เขาคือพี่ใหญ่ในนั้น

แต่หลังจากคิดไตร่ตรองแล้วดูเหมือนไม่ปกติ

แต่เขาหาไม่เจอ

เจี้ยนจางเซิงและชี่ตันจื้อมีอาการสนองตอบพวกเขาหลั่งเหงื่อเยียบเย็น เกรงว่ามังกรปีศาจจะจับปมได้พวกเขารีบตะโกนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจทันที “อา..อันตราย!”

ฮุยไท่หลางถูกจื้อไจ้เทียนจับได้และกดปากขนาดใหญ่ของมันกดลงและไถลไปกับพื้นเป็นหมื่นเมตรมันไม่สามารถหลุดออกมาได้อีกด้านหนึ่งอาหมันที่ใช้ค้อนเทพชะตาและอาหงตกอยู่สภาพอันตรายมากกว่า  ทั้งคู่รับมือฮั่วเล่อเทียนผู้มองโลกในแง่ร้ายแต่พลังมิได้ด้อยกว่าถ้าไม่ใช่เพราะเสวี่ยอู๋เสียและเจ้าเมืองโล่วฮัวคอยช่วยจากภายในกำแพงแก้วเป็นระยะๆเกรงว่าพวกนางคงรับมือได้ไม่ถึงสิบวินาที

มีแต่เพียงเจ้าแม่จันทราที่ได้เปรียบ

ที่นางสู้ด้วยตอนนี้ก็คือเทียนฉวงหรือจิวจื้อเทียนที่ชอบลอยตัวอยู่ในส่วนสูงสุดของท้องฟ้าและมีพลังโจมตีที่โหดร้าย

แม้แต่จิวจื้อเทียนเองก็ยังเชื่อว่าเขามีพลังที่เหนือกว่าสหายทั้งสองและเขาเลือกเจ้าแม่จันทราผู้แข็งแกร่งที่สุดเป็นคู่ต่อสู้ด้วยความมั่นใจแต่หลังจากสู้ไปแล้วเขาเสียใจเล็กน้อย

เพราะเจ้าแม่จันทราเป็นศัตรูที่สู้ได้ยาก

จิวจื้อเทียนใช้กลยุทธ์เป็นหมื่นๆอย่าง แต่ละอย่างล้วนเป็นกลยุทธ์สังหารที่ร้ายกาจโจมตีทำร้ายได้ไม่มีที่สุด

อย่างไรก็ตามฝ่ายตรงข้ามไม่ประสบผลสำเร็จในการสังหารนี่คือศัตรูที่แข็งแกร่งที่เชี่ยวชาญในพลังนิรันดร์และมีพลังเทพชะตาจิตสังหารไม่สามารถส่งผลต่อพลังจันทรา ต่อให้มีเมฆครึ้มปกคลุมดวงจันทร์ก็ตามมันสามารถหลุดออกมาจากเมฆได้ ดวงจันทรามีความสว่างเป็นนิรันดรไม่มีอำนาจพลังในภายนอกมาทำลายล้างได้ จิวจื้อเทียนเห็นว่า จื้อไจ้เทียนสู้ได้อย่างสบายๆ ก็อดบ่นด้วยความไม่พอใจ“จื้อไจ้เทียน มาแลกคู่ต่อสู้กันเถอะ จิตสังหารของข้าสามารถฆ่าเจ้าสุนัขเถื่อนนั่นได้แต่เจตจำนงผ่อนคลายของเจ้าสามารถสู้กับพลังจันทรานี้ได้แน่...”

“ก็ได้”จื้อไจ้เทียนไม่คัดค้านเขารู้แต่แรกแล้วว่าจิวจื้อเทียนเลือกเจ้าแม่จันทราเป็นคู่ต่อสู้นั้นเป็นการเลือกที่ผิด แต่เพื่อความกลมเกลียวสามัคคี เขาไม่พูดตรงๆตอนนี้ได้โอกาสที่ดีแล้ว

“ทำไมข้าจะแลกกับเจ้าไม่ได้เล่าเจ้าหมาป่าล้างโลกตัวนี้ มันอันตรายมาก”  ฮั่วเล่อเทียนไม่พูดตรงๆ เรื่องที่จิวจื้อเทียนสู้กับฮุยไท่หลาง

“เจ้าหมายความว่ายังไง?”  จิวจื้อเทียนรู้สึกว่าเขาถูกดูหมิ่นโดยตรง

“ก็แค่เสนอไม่ต้องใส่ใจนักหรอก” พลังของฮั่วเล่อเทียนไม่ด้อยไปกว่าจิวจื้อเทียน  เพียงแต่เขาเกรงใจสหายผู้นี้เมื่อเห็นหน้าของจิวจื้อเทียนผิดปกติ เขารีบเปลี่ยนเรื่องทันที ไจ้จื้อเทียนมองดูที่เทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิงและเห็นว่าเขายังคงปกป้องเส้นทางโบราณได้อย่างมั่นคงและเย่ว์หยางหยุดไม่ได้โจมตีต่อ เขาจึงเสนอเปลี่ยนกับจิวจื้อเทียนด้วยตนเอง

“ไอ้หมาจรจัด  ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!” จิวจื้อเทียนในตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับฮุยไท่หลาง  ความหยิ่งความมั่นใจกระจายอยู่เต็มในใจของเขา

“เมี้ยววว!” ฮุยไท่หลางเผลอทำเสียงน่ารัก

“เจ้ากำลังหาที่ตาย!” จิวจื้อเทียนเห็นว่าตาสุนัขของฝ่ายตรงข้ามไม่เหลือบมองตัวเขา ทำให้เขาอดโมโหไม่ได้  “ข้าจะต้องเปลี่ยนเจ้าจับทำเนื้อสุนัขหม้อไฟถ้าทำไม่ได้ก็อย่าเรียกข้าเป็นจิวจื้อเทียนเทพสังหารอันดับหนึ่งแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์”

เทพสังหารอันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์?ฮุยไท่หลางใช้เล็บแคะขี้หู

เขากำลังโม้กับใคร?

เจ้าอ้วนงี่เง่าคนหนึ่งอ้างว่าตนเองเป็นคนที่หล่อที่สุดในหอทงเทียนเป็นผู้ที่เทพเจ้าทั้งจักรวาลต้องอิจฉาตลอดกาล!

ฮุยไท่หลางเมื่อเห็นเจ้านายคืนสติ  มันหยุดสู้และรีบพุ่งไปหาเจ้านายทันที ประจบเจ้านายเป็นงานสำคัญกว่าการต่อสู้กับนักฆ่าอันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้ทำความเข้าใจถึงสถานการณ์นี้เย่ว์หยางเตะมันลอยละลิ่วถึงเก้าชั้นฟ้า เจ้าหมาบ้า บังอาจมาขวางทางเราคุณชาย

เขารีบพุ่งไปที่ข้างหน้าเจ้าแม่จันทราทันที

ทันใดนั้นร่างกายของเขาอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว

เหมือนกับถูกถอดกระดูกออกไปเขาล้มกับพื้น สีหน้าเฉยเมย แต่หน้าของเขาไม่หดหู่อีกต่อไป แต่เต็มไปด้วยความสุข

เจ้าแม่จันทรามองมาที่เขาอย่างอธิบายไม่ถูกและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อมองไปที่เด็กหนุ่มนี้ดูเหมือนเขาจะมีน้ำตาแห่งปีติเล็กน้อย ทันใดนั้นในใจนางรู้สึกเหมือนกับเป็นมารดานางโอบกอดเขาไว้แน่น  “ไม่ต้องกลัวข้ายังอยู่ ข้าจะไม่จากเจ้าไป ตอนนี้เจ้าคงเข้าใจผิดแน่นอน!”

“เข้าใจผิด?” เย่ว์หยางรู้สึกเสียใจเป็นระยะๆเขาจำได้ว่าเทพพิทักษ์เขากวงหมิงยิงรังสีพิพากษาอุกฤษใส่จื้อจุนอย่างชัดเจนไม่ใช่หรือ?

“นางได้รับบาดเจ็บแต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิตและกลับไปพักแล้ว เพราะนางมีบัลลังก์เทพราชา ไม่เพียงแต่ควบคุมความเป็นของศัตรูเท่านั้น  แต่ยังควบคุมชีวิตตัวนางเองด้วย! นางมีความเข้าใจชีวิตอย่างถ่องแท้ จากเป็นสู่ความตาย จุติจากความตาย  จากประตูเป็นตาย ประกายเทพบัลลังก์เทพและกฎสวรรค์เปลี่ยนเป็นควบคุมความเป็นความตายได้อย่างอิสระ  ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลไปเมื่อครู่นี้เป็นเพียงความเข้าใจผิด...” เจ้าแม่จันทราพูดอย่างนี้ เย่ว์หยางหน้าแดงด้วยความอายทันที

ดูเหมือนเขากังวลมากเกินไปเมื่อเขาเห็นอาการของจื้อจุนเป็นอย่างนั้น ทำให้เขาโกรธและบ้าคลั่งทันที

เขาคิดไม่ถึงเลยว่านางเข้าใจวิถีแห่งความเป็นความตายดีแล้ว

เขาเห็นเสวี่ยอู๋เสียและคนอื่นๆถูกกั้นออกจากกันด้วยกำแพงแก้วและดูเหมือนว่าอาหมันและอาหงมองผิวเผินเหมือนกำลังถูกไล่ต้อนแต่ในความเป็นจริงพวกนางลอบให้ความสนใจทางด้านนี้โดยเฉพาะสาวน้อยผู้ซุกซนอย่างเป่าเอ๋อ เขาตีหน้าไม่ถูกหัวเราะแก้เก้อและรีบผละออกจากอ้อมกอดของเจ้าแม่จันทราทำเป็นเหมือนกับว่า ‘เหนื่อย แค่ขอพักเท่านั้นเอง’ เพื่อปกปิดอาการเก้อเขิน

เสวี่ยอู๋เสียและคนอื่นๆแสร้งทำเป็นไม่เห็น พวกนางหันไปให้ความสนใจอาหมันและอาหง ทั้งสองต่อสู้อย่างรัดกุมมากขึ้น  อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์แผนการบและเพื่อความปลอดภัยของพวกนาง  พวกนางไม่สามารถออกไปแบ่งเบาแรงกดดันและความกังวลด้วยตนเองได้

เจ้าแม่จันทราฉวยโอกาสจากการที่เสวี่ยอู๋เสียและคนอื่นไม่สนใจรีบจูบเย่ว์หยางเหมือนแมลงปอแตะผิวน้ำ

นางงับหูเขา“ครั้งต่อไปเมื่อนางหลับก็ลองทำอย่างอื่นบ้างดูเหมือนมีท่าอีกมากมายที่ข้ายังไม่ได้เรียนรู้!  เด็กหนุ่มผู้กล้าหาญเจ้าจะต้องได้รับความสุขเป็นรางวัลแน่!”

“เฮ้,โปรดเรียกข้าว่าเด็กดี! ข้ามีอุดมการณ์เป็นเด็กดีและกล้าหาญ!” เย่ว์หยางพยักหน้าจริงจัง

บุรุษที่หน้าหนาราวกับกำแพงเมืองและไม่รู้จักอายอย่างเขาเหมือนเป็นยาชูกำลัง

ความอายหรือคุณธรรมถูกวางทิ้งไว้ก่อนแล้ว

ฮุยไท่หลางแกล้งทำเป็นหูหนวกมันฉลาดฟังความจริงปล่อยให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา มิฉะนั้นมันจะตกอยู่ในอันตรายและอาจกลายเป็นสุนัขหม้อไฟรสจัดจ้านได้...ก่อนที่มันจะมีเวลาชูนิ้วหัวแม่มือเพื่อยกยอเจ้านายที่หล่อเหลา ก็ถูกจิวจื้อเทียนคว้าคอและเหวี่ยงออกไปหมื่นเมตรจากแรงระเบิดขนาดใหญ่ฮุยไท่หลางถูกยั่วโมโหก็กระโดดออกมาและไล่ตามจิวจื้อเทียนโดยไม่ยอมให้อภัย  ให้ตายเถอะ, กลั่นแกล้งรังแกหมา  ก็ได้หมาตัวนี้จะสู้กับเจ้า!

จื้อจุนไม่ตาย

ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งนี้ทำให้เย่ว์หยางที่ร้องไห้อย่างสิ้นหวังหดหู่ใจและหวังจะให้โลกเปลี่ยนแปลงกลับเป็นเหมือนเดิมรู้สึกสบายใจทันที

แต่ความตั้งใจต่อสู้ในใจของเขาเพิ่มขึ้นเป็นหมื่นเท่า

เพื่อปกป้องสาวๆอันเป็นที่รัก

ไม่ว่าใครมาก็ไม่มีประโยชน์

ไม่ว่าจะเป็นเทพพิทักษ์แห่งเขากวงหมิง?หรือเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้

ใครก็ตามที่กล้าขวางทางแห่งความสุขของเขาเขาจะถล่มให้เละ... ดีล่ะ ถ้ามีความคิดแบบนี้ก็ให้คู่ต่อสู้ประลองชะตาอีกฝ่ายเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้รู้กันไปเลย เกรงว่าจะทำให้เขาตกตะลึง เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ยอมตัดอารมณ์และละความปรารถนาทุกอย่างในโลกเพื่อความก้าวหน้า  ยอมทุ่มเทเพื่ออนาคตนี้  แต่คุณชายสามตระกูลเย่ว์ยังคงทำตัวเป็นผู้กล้ามีความรักลึกซึ้งระหว่างบุรุษสตรีเขาไม่ได้สนใจว่าวันใดที่ต้องแบกความรับผิดชอบอันหนักหน่วงต้องแก้ไขปัญหาเพื่อความอยู่รอดและฟื้นฟูสามเผ่าพันธุ์ใหญ่ของหอทงเทียน

ชีวิตของเย่ว์หยางมีเป้าหมายเดียวเสมอ

นั่นคือเป็นตัวของตัวเองทำให้สาวๆ มีความสุขทุกวี่วัน เขาคิดง่ายๆ แค่นี้เอง!

เย่ว์หวี่กอดเจี้ยงอิงที่อ่อนแอมากและรักษาอาการบาดเจ็บของนางอย่างอดทนค่อยๆ บรรเทาอาการบาดเจ็บและปล่อยให้ร่างนางฟื้นตัวทีละน้อย“คราวหน้าอย่าเพิ่งหมดหวังเราทุกคนรู้ว่าเจ้าต้องการพยายามอย่างหนักและต้องการสนับสนุนเขา แต่การเปลี่ยนแปลงที่อันตรายเกินไปจะทำให้เขากังวลมาก  แค่นี้เขาก็แทบบ้าแล้วและเจ้าคงไม่ต้องการให้เขาบ้าเลือดมีแต่ความคิดเข่นฆ่า!”

“ข้าขอโทษจริงๆ”  สาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงแค่พยายามพิสูจน์ตนเองแต่ผลที่ตามมาทำให้นางต้องเสียใจภายหลัง

“เจ้าปลอดภัยแล้วข้าอยากจะออกไปข้างนอก แต่เสวี่ยอู๋เสียและเชี่ยนเชี่ยนไม่ยอมให้ไป”  เย่ว์หวี่ต้องการออกไปช่วยน้องชายให้ความช่วยเหลือนาง แต่นางเป็นมนุษย์ ไม่ใช่อสูรพิทักษ์ที่สามารถฟื้นคืนชีพได้หลังจากตายแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกศัตรูจับได้ หรือถูกฆ่าซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการประลองชะตาของเย่ว์หยางเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจึงตัดสินใจว่าในขณะนี้ทุกคนสามารถอยู่ในกำแพงแก้วนี้เท่านั้นจนกว่านักสู้ที่ดีที่สุดจะมาพวกนางค่อยออกไปต่อสู้ตามแผนและทุ่มเทพลังให้มากที่สุด

“อย่าวิ่ง! มาใส่เสื้อผ้าก่อน” หลิวเย่ขี่กวางทะลุมิติ แต่นางไม่สามารถไล่ตามเทพธิดาบุปผาน้อยที่ไม่นุ่งผ้าวิ่งซุกซนไปรอบๆ

“ตั่วตั่วนางสูญเสียความทรงจำก่อนหน้านี้ไปอย่างสิ้นเชิงหรือ?”  เซี่ยอีถามราชันย์ปีศาจใต้ที่อยู่ใกล้ๆอย่างกังวล

“เป็นไปได้ยังไง?”  เจ้าเมืองโล่วฮัวกรอกตาเมื่อได้ยิน

“แล้วทำไมเจ้าถึงไม่ใส่เสื้อผ้า?”เซี่ยอีคิดว่าตั่วตั่วดูเหมือนเหมือนจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

“เธอไม่ได้กลับไปเป็นเด็กนานแล้วคงจะคิดถึงมาก!” สุ่ยอู๋เหินเข้าใจคนอื่นได้ดี

“เจ้าจะถูกตีนะถ้าไม่ใส่เสื้อผ้า อย่าดื้อ นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ห้ามเลียนแบบ!” จุ้ยมาวอี้ยกตัวอย่างนี้ให้ลูกสาวของนาง แพนด้าน้อยหนิวหนิวเธอเป็นเด็กดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะเธอตั้งใจฟังคำพูดมารดาของเธอ เธอทำตาโตมองไปที่เย่ว์หยางที่นอกกำแพงแก้วเมื่อเห็นเขามองเข้ามาก็โบกมือให้เขาอย่างตื่นเต้น

“เจ้าไม่รู้สึกเครียดเลยนะ...”ปรากฏว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกังวลจนกลัวจะพลาด อดบ่นไม่ได้

พี่น้องนี่มันคือการประลองของเทพจอมราชันย์!

จริงจังกว่านี้ได้ไหม?

อย่างไรก็ตามนี่นับว่าดีเหมือนกัน

ถ้าฝูงชนกลัวตายเอาแต่ร้องไห้เสียใจตีอกชกหัว นั่นคงเป็นเรื่องแย่

**** *** ****

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด