ตอนที่ 1365 หนี้ที่ต้องชดใช้คืน
วงกตมิติเวลา
เจ้าอ้วนไห่เย่คงและพวกหลังจากดิ้นรนต่อสู้อย่างยากลำบาก ด้วยการใช้กลยุทธ์พวกมากพวกเขาสามารถเอาชนะเทพทวารบาลแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จางเว่ยที่มาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาได้
“หึหึ ในที่สุดก็โค่นมันลงได้พวกนี้มีร่างอวตารกี่ตัวกันนี่? โจมตีแล้วโจมตีอีกไม่รู้จักหมดสิ้นเสียที” เจ้าอ้วนไห่รู้สึกว่าถ้าไม่ใช่เพราะกลยุทธ์คลื่นโจมตีมนุษย์นอกจากนี้ยังมีดาบอสูรเทาเถี้ย แมงป่องดาวฟ้าและอสูรกลืนฟ้าที่แข็งแกร่งทรงพลังพวกเขาคงไม่สามารถโค่นจางเว่ยเทพทวารบาลแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ได้ เป็นไปได้ไหมที่นักสู้ระดับเทพทั้งหมดสามารถฟื้นคืนชีพได้โดยอัตโนมัติ? ถ้าเป็นอย่างนั้นการต่อสู้ครั้งนี้คงจะยุ่งเหยิงและกินแรงมาก
“เจ้ารั้งอยู่ก็ได้”เย่คงตัดสินใจไปต่อ เขารู้ว่ามีอย่างเดียวที่เขาสามารถช่วยเย่ว์หยางได้ นั่นคือไปข้างหน้าต่อไป
ศัตรูต้องซุ่มโจมตีและวางกับดักเป็นหมื่น
ตอนนี้ อาจเป็นแค่จุดเริ่มต้น
ถ้าเรื่องทั้งหมดนี้ต้องอาศัยเย่ว์หยางเพียงลำพังบุกตะลุยใส่ศัตรูข้างหน้าอย่างนั้นจะมีสหายร่วมกลุ่มไว้มากมายเพื่ออะไร? เทียบกับเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางซึ่งเป็นคนแรกที่วางแผนเทียบกับราชันย์ไร้ใจผู้มีความหนักแน่นมั่นคงเทียบกับเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ซึ่งเป็นผู้ไร้เทียมทานในแดนสวรรค์ คนอย่างจางเว่ยเป็นแค่คนเฝ้าประตูที่ไม่มีอะไรสำคัญเลย!
ถ้าจางเว่ยที่เป็นหัวหน้ายามเฝ้าประตูยังไม่สามารถเอาชนะได้และพวกเขาจะสู้กับใครได้
นอกจากนี้ นี่ยังเป็นร่างอวตาร
ร่างที่แท้จริงยังคงอยู่ข้างหลังฉากยังไม่ได้ลงมือต่อสู้!
นกนางนวลสายลมดูแคลนเจ้าอ้วนไห่ไม่เลิกราและหลังจากเห็นเขาเข้ามาใกล้มากเกินไปหลังจากเสร็จสิ้นการต่อสู้ นางอดเหลือกตาไม่ได้“ไปอยู่ห่างๆ ข้าได้ไหม? และไม่ต้องมายิ้มให้ข้า นั่นใช้ไม่ได้ผลกับข้า!”
เจ้าอ้วนไห่ไม่ท้อ ตรงกันข้ามเขากลับมั่นใจอย่างไม่มีขีดจำกัด “ข้าไม่ตำหนิเจ้า, น้องหนู, สักวันเจ้าจะจำได้”
นางนวลสายลมพอได้ยินเจ้าอ้วนไห่พูดว่าน้องหนูนางโวยวายขึ้นทันที “เจ้าลิงเย่, เจ้าก้อนน้ำแข็ง ได้ยินเจ้าหมูอ้วนของพวกเจ้าพูดไหม? เขาพล่ามอีกแล้ว ข้าจะบ้าจริงๆ เจ้าไม่ต้องอธิบายแล้ว ไม่ต้องพูดอะไร แค่ไม่ต้องมาอยู่ให้ข้าเห็นหน้า หายไปอย่าให้เหลือร่องรอย ดีที่สุดคือหายไปตลอดกาล ข้าบอกแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ข้าไม่มีทางชอบหัวหมู ปล่อยให้ข้าได้มั่นใจในความฉลาดและวิสัยทัศน์ของข้าได้ไหม? ข้าเป็นคนไม่ใช่นกน้อยที่พวกเขาขังไว้ในกรงอีกต่อไป”
“อืม..ข้าไม่คิดว่าเป็นการทะเลาะที่ดี ก็ได้ต่อยตีเขาได้เลย เตะตีเขาไม่ต้องห่วงความรู้สึกของเรา” เย่คงพยักหน้ายินดีกับความโชคร้ายของคนอื่น
“ดูเหมือนว่าคุณภาพของคนยังคงน่าอึดอัด”องค์ชายเทียนหลัวคิดว่าเจ้าอ้วนไห่ทำเรื่องแย่มากเกินไป และตอนนี้ได้รับผลตอบแทนแล้ว
“ข้าก็ทำได้ดีไม่ใช่หรือ?บางครั้งข้าก็ต้องการทำอะไรดีๆ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ!”เจ้าอ้วนไห่รู้สึกว่าทุกคนอิจฉาตัวเขา ใครเล่าไม่อยากทำให้ดี ทำให้ดีก็ต้องยกย่องซึ่งเขาไม่ชอบ ในฐานะพี่ใหญ่ของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้โด่งดังไปทั้งโลก เขาต้องหลีกทางจนตัวเองไม่มีโอกาสได้ทำความดี
ดูเหมือนเขาลืมไปแล้วว่าเขาคือเจ้าอ้วนผู้ร้ายกาจเขาคือจอมปีศาจอ้วน
นี่น่ะหรือดี?
เสวี่ยทันหลางยืนยันรับรอง “คุณภาพของเจ้าอ้วนยังมีอยู่”
เจ้าอ้วนไห่ตื้นตันจนหลั่งน้ำตา “ข้ารู้ หนุ่มน้ำแข็งเข้าใจข้าอย่างแท้จริง!”
เกี่ยวกับความเชื่อพื้นฐานของเสวี่ยทันหลางเจ้าอ้วนไห่รีบเดินเข้ามาหาทันที “ไม่ต้องเข้ามาใกล้ ข้าหมายความว่าคุณภาพส่วนตัวของเจ้ามีแต่เมื่อเจ้าทำสัญญากับนกนางนวลไปแล้ว มันมีแต่อ่อนแอลง”
เย่คงกลั้นหัวเราะและช่วยเตือนความจำเขาอย่างจริงจัง “ดูเหมือนว่านี่เป็นเรื่องจริง เจ้าอ้วนไห่ไม่เคยมีคุณภาพความเป็นคนเลยตั้งแต่นั้น แต่เขาชอบทำเรื่องให้สวรรค์พิโรธหลายอย่างเช่นทำลายดอกไม้ ต้นไม้....” พี่น้องตระกูลหลี่เห็นด้วยกับเย่คงว่าเจ้าอ้วนไห่มีคะแนนติดลบ เขาปรบมือสนับสนุนเจ้าอ้วนไห่มีสามร้อยปากก็ยากจะพูด
เมื่อเขาเห็นนางนวลสายลมรังเกียจเขาไม่ยอมเข้าใกล้เขาอดเสียใจไม่ได้ “ข้าอยากตายจริงๆไม่มีใครห้ามข้าเลย!”
“เจ้าแน่ใจหรือ?สาวเจ้ากำลังจะไปหาคนอื่น!” เย่คงล้อเขา
“ไม่, ข้าจะไม่ทำพฤติกรรมของคนขี้ขลาดข้าต้องเอาชนะข่าวลือ ข้าต้องอดทนจนถึงที่สุด เพื่อยาหยีของข้า ข้าจะไม่ยอมแพ้!” เจ้าอ้วนไห่เมื่อได้ยินเกิดแรงฮึดสู้ทันทีเขาไม่ทันได้เช็ดน้ำตาปลอมก็วิ่งเข้าหานกนางนวลสายลมทันที “คนพวกนั้นเกลียดข้า เจ้าก็รู้อัจฉริยะผู้โชคดีอย่างข้า ว่ากันจากใจจริงตั้งแต่เริ่มต้นข้ามีเพียงแรดหนังเหล็กชั้นบรอนซ์ระดับสอง...ในตอนนั้นเย่ว์หยางมีเพียงฮุยไท่หลาง มันอยู่ชั้นบรอนซ์ระดับสาม เจ้าว่าพวกเขาไม่อิจฉาข้าหรือ?”
“อย่าเข้ามาใกล้ข้า อ๊า.. เจ้าหาที่ตาย!” นกนางนวลสายลมโมโหเตะเจ้าอ้วนลอยขึ้นสวรรค์เก้าชั้นฟ้า
ขณะรอให้เจ้าอ้วนไห่ร่วงลงมาจากท้องฟ้า
นางเห็นเท้าคู่หนึ่งอยู่ข้างหน้า
ดูเหมือนจะคุ้นเคยมากดูเหมือนว่านางอยากจะเห็น
เมื่อนางนวลสายลมเงยหน้ามองนางเห็นคนที่ไม่น่าเป็นไปได้มายืนอยู่ต่อหน้านาง นางอ้าปากกว้างค้างแทบจะยัดคางคกได้สองตัว
เย่ว์คงและเสวี่ยทันหลางกับพวกตกใจเพราะคนที่มาถึงนี้คือเย่ว์หยางตามข้อมูลที่ได้รับจากเจ้าแม่จันทราก่อนหน้านี้ คุณชายสามตระกูลเย่ว์ควรจะไปที่ภูเขากวงหมิงในแดนสวรรค์เพื่อหาเรื่องสู้กับเทียนอี้ แต่เขามาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?
เป็นไปได้ไหมว่า.....
“เจ้าเป็นตัวปลอมที่ทำให้เราคุณชายรำคาญที่สุด การปลอมตัวเป็นเหมือนศิษย์น้องข้าเจ้าไม่รู้หรือว่ามันทำให้ข้าโกรธ?” เจ้าอ้วนไห่ไม่สนใจว่าสามคูณเจ็ดได้ยี่สิบเอ็ดหรือไม่ใครก็ตามที่หล่อกว่าเขา งามสง่ากว่าเขา ปกติแล้วเขาจะไม่กล้าสู้กับเย่ว์หยางแต่ตอนนี้ข้างหน้านี้เป็นตัวปลอมเขาง้างหมัดและใช้วิชาหมัดฮิปโปดาวตกทันที
“เฮ้, รอเดี๋ยว!” เย่คงยังมึนงงสับสน ถามก่อนแล้วค่อยสู้อีกครั้งก็ได้ ทำไมต้องกังวล
นางนวลสายลมยิงพลังกระแสไฟฟ้า แต่...
เท้าบิน
เตะใส่สะโพกเจ้าอ้วนไห่อย่างแรง
เจ้าอ้วนไห่หัวทิ่มโคลนตามแรงเตะแทบไม่ต่างอะไรกับสุนัขแทะโคลน
เย่ว์หยางมีความเป็นมิตรเสมอ เขาไม่ถือสาที่เจ้าอ้วนใช้หมัดต่อยเขา เขาพยุงเจ้าอ้วนไห่ขึ้นจัดคอเสื้อให้เขาพลางยิ้มกล่าว “นี่ลูกพี่ไห่ไม่ใช่หรือ?วันนี้สุภาพเกินไปหรือเปล่า? ถ้าเจ้าดีใจที่ได้พบข้าไม่เห็นต้องให้ของขวัญข้าแบบนี้เลย! ข้ามิกล้ารับ เจ้าเป็นลูกพี่ถ้าเจ้าไม่คุ้มกันผู้น้อง อย่างนั้นเจ้าต้อง...”
เย่คงเมื่อได้ยิน
เขารีบผลักเจ้าอ้วนไห่ออกไปห่างๆ
ตราบใดที่เย่ว์หยางเรียกเจ้าอ้วนไห่ว่าลูกพี่นั่นไม่ใช่เรื่องดีแน่
ถ้าไม่อาจทนเข้าใจผิดจนตายบางทีการอยู่ห่างๆ จากเจ้าอ้วนไห่ยังปลอดภัยมากกว่า
ผู้ที่แสดงความเห็นอกเห็นใจเขาก็คือเสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัว แน่นอนว่าพวกเขาดีใจที่เห็นเย่ว์หยางกลับมาได้แต่กลับตรงข้ามกับเจ้าอ้วนไห่ที่โชคร้าย
อย่าว่าแต่พวกเขาเลยแม้แต่สาวนางนวลสายลมที่สูญเสียความทรงจำและลืมเรื่องในอดีตก็ยังรู้สึกได้ถึงอันตรายที่อธิบายไม่ได้
“แน่นอน ในฐานะพี่ใหญ่ข้าปกป้องเจ้าเสมอ เจ้าไม่ต้องกลัว ถ้าเกิดอะไรขึ้นให้มองหาข้าคุณชายไห่เรื่องใหญ่แค่ไหนข้าสามารถรับได้! คนที่สามารถสู้กับเจตจำนงฟ้าในตำนานได้ ก็คือข้า คุณชายผู้นี้ เอาเถอะน่าข้ารู้ว่าเมื่อข้าเห็นเจ้าพบกับความยากลำบากบางอย่าง ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าเจ้าไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยตนเองได้ ดังนั้นเจ้าถึงได้มาหาพี่ใหญ่ผู้ทรงพลังแข็งแกร่งผู้นี้ใช่ไหม?
“ใช่ ใช่แล้วสมกับเป็นลูกพี่จริงๆ” เย่ว์หยางชูนิ้วโป้งให้
“ฮ่าฮ่า,เจ้าคิดว่าลูกพี่อย่างข้ามีไว้เพื่ออะไรกัน? ข้าเป็นลูกพี่ผู้ฉลาดที่สุดในโลก!” เจ้าอ้วนไห่ยิ้มกว้าง
“ข้าเคยรู้จักคนงี่เง่าแบบนี้มาก่อนหรือ?” สาวนางนวลสายลมสับสนขณะมองดูเย่คงและพวก นางเองไม่ได้เป็นนกตาบอดนางติดตามเจ้านายผิดคนหรือไม่? เย่คงรีบปลอบนาง “ไม่เป็นไร, โรคโง่แบบนี้ไม่มีการแพร่เชื้อ!”
พี่น้องตระกูลหลี่พยักหน้ายืนยันข้อพิสูจน์
เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวมองหน้ากันเองมีปัญหาอะไรที่เย่ว์หยางคลี่คลายไม่ได้หรือ? จำเป็นต้องให้กลุ่มพวกเขาลงมือด้วยหรือ?
แปลก
คุณชายสามตระกูลเย่ว์นี่เป็นตัวปลอมหรือเปล่า?
ดูท่าทางของเจ้าอ้วนไห่ที่กำลังจะถูกทุบตายไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เห็นได้ชัดว่านี่คือคุณชายสามตระกูลเย่ว์ที่เตรียมจะมอบภารกิจ มีงานอะไรที่พวกเขาต้องลงมือเองจริงๆ? เมื่อทั้งสองคิดเช่นนั้นต้องบอกว่าความสงสัยฆ่าแมวได้
“ในฐานะที่เป็นลูกพี่ที่ซื่อตรงน่าเกรงขามไม่มีเหตุผลใดที่ข้าจะไม่ยืนยันลงมือทำเพื่อเจ้า!” เจ้าอ้วนไห่ไม่ได้พูดว่าต่อเป็นเป็นดงดาบภูเขากระบี่ก็จะทำ
“ความจริงเป็นเรื่องง่าย!” เย่ว์หยางยิ้มสดใสราวกับดวงอาทิตย์
“ดูเหมือนว่าเรื่องนี้คงเหลือทน!” เย่คงเห็นสีหน้าอารมณ์ของเด็กหนุ่มข้ามโลกก็รู้ว่านี่เรื่องเล็ก ถ้าเขายิ้มง่ายนั่นแสดงว่าเป็นงานหินมากขึ้น ในทางกลับกันหากเขามีใบหน้าที่จริงจังและดุด่าผู้คนอย่างไม่ไว้หน้าจนพวกเขาแทบแทรกแผ่นดินหนีนั่นอาจจะดีกว่า การยิ้มสดใสดุจพระอาทิตย์อย่างนี้ นั่นเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสถึงขั้นคอขาดบาดตาย
“ว่าไป” เจ้าอ้วนไห่ตบหน้าอกจนไขมันกระเพื่อมตอนนี้นับประสาอะไรที่ต้องการให้เขาช่วย แม้กระทั่งคิดจะปล่อยให้เขาไปตายเขาจะบอกโดยไม่ลังเลเลยว่า ไม่? ล้อเล่นน่า.. เมื่ออยู่ต่อหน้าน้องๆ ลูกพี่ก็ควรทำตัวให้เป็นลูกพี่ตัวอย่าง!
“นั่นสินะ ในฐานะผู้น้องของเจ้า ข้ากำลังยุ่งมากและต้องกังวลอีกหลายเรื่อง เจ้าเป็นลูกพี่ค่อนข้างสบายๆโดยทั่วไปแล้วข้าใช้แรงตัวเองได้ แต่ในเวลานี้ข้ายุ่งเกินไปไม่สามารถแบ่งเวลาให้ตัวเองได้” เย่ว์หยางมีเหตุผลที่จะขอให้ลูกพี่ช่วยเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างปัญหาอย่างไม่มีเหตุผล เจ้าอ้วนไห่รู้สึกตื้นตันใจมากเมื่อได้ยินเช่นนี้ ในฐานะลูกพี่ที่มีความสุข การไม่ช่วยแบ่งภาระปัญหาผู้เป็นน้องนี่เขายังจะเป็นลูกพี่ที่ดีอยู่หรือไม่?
เจ้าอ้วนไห่กำลังจะพูดเย่ว์หยางรีบห้าม “ข้ารู้ว่าเจ้าหมายถึงอะไร และข้าก็รู้ว่าเจ้าเป็นลูกพี่ที่ดีข้าควรทำหน้าที่ที่ข้าพึงทำ ลูกพี่ควรไปตามจีบสาว มีความสุขกับชีวิตข้าไม่มีเงื่อนไขอะไรแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องเป็นลูกพี่ถึงจะทำได้ ถึงข้าอยากจะทำแต่ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ
เย่คงอดหน้ามืดไม่ได้เจ้าอ้วนไห่อาจตายได้ในครั้งนี้ ยากนักที่คุณชายสามจะเรียกเขาว่าลูกพี่แต่นี่เขาเรียกเจ้าอ้วนไห่เป็นลูกพี่หลายครั้งแล้ว เจ้าอ้วนไห่จะรอดชีวิตได้จริงๆ หรือ?
เสวี่ยทันหลางรู้สึกว่าตอนนี้เขาสามารถสร้างสุสานรอเจ้าอ้วนไห่ได้เลย
จะจารึกคำขวัญป้ายหลุมศพว่ายังไงต้องคิดให้ดีเสียก่อนอย่างเช่นว่า โรคโง่ไม่มีการติดเชื้อ’
“ต้องการให้ข้าลงมือทำเรื่องอะไรหือ?” เจ้าอ้วนไห่ตื่นเต้นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตที่เขาจะได้รับบทเด่นมาถึงแล้ว
“ทำลายวงกตมิติเวลา” เด็กหนุ่มจากโลกอื่นอธิบายด้วยความอดทนเขากางแขนโอบไหล่เจ้าอ้วน และทำตัวอย่างเป็นกันเองมาก “วงกตมิติเวลานี้ไม่ยากจะทำลายแต่ข้าผู้น้องต้องทำ เพราะสถานะยังอ่อนด้อยอยู่ เจ้าบ้าเทียนอี้จะต้องรู้ ดังนั้นข้าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ข้าจึงต้องอาศัยลูกพี่”
“ฮ่าฮ่า,ตอนนี้เจ้ารู้แล้วใช่ไหมว่าข้าร้ายกาจแค่ไหน!” เจ้าอ้วนไห่ขยิบตาให้เย่คงกับพวกที่ซ่อนตัวอยู่ห่างไกลแต่คนพวกนี้ปฏิเสธจะร่วมมือ ทำให้เขาไม่สบายใจจริงๆ เมื่อมองกลับไปที่เด็กหนุ่มข้ามโลก ยิ่งมองก็ยิ่งเพลินตาสมแล้วที่เป็นศิษย์น้องของตัวเขา เขาคงต้องมอบหมายงานสำคัญๆให้พี่ใหญ่ได้ภูมิใจแน่นอน แทบจะเหมือนกับภูเขาไฟระเบิด ความภักดีในอกถ้าไม่ได้ระบายออกมาก็คงอึดอัด ในที่สุดเขาก็โพล่งคำพูดออกมา “ได้เลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่พี่ใหญ่อย่างข้า!”
“เป็นอันตกลง!” เย่ว์หยางยกนิ้วหัวแม่มือให้เขาอย่างไม่ลังเล
“ตอนนี้มีเวลาเท่าไหร่?” เจ้าอ้วนไห่ตื่นเต้นจำได้เลาๆว่าเจ้าบ้าตงฟางนับเวลาถอยหลังไว้ในวงกตมิติเวลา
“มีเวลามาก หนึ่งวันเต็ม” เย่ว์หยางบอกว่าเวลาไม่เป็นปัญหาแม้แต่น้อยในเวลาหนึ่งวันเต็มย่อมทำอะไรได้หลายอย่างไม่ใช่หรือ? เปลี่ยนเป็นยอดนักรบระดับเทพก็ง่ายที่จะทำลายโลกได้
“ไม่เป็นไร เอาตามนั้น” เจ้าอ้วนไห่รู้สึกว่าเขาสามารถทำอะไรได้หลายอย่างในวันเดียว
“ทำลายวงกตมิติเวลาขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วข้าต้องรีบไปดูสนามรบอื่นซึ่งมีการต่อสู้อย่างยากลำบาก” เย่ว์หยางโบกมือลาเจ้าอ้วนไห่
“ไปได้เลยที่นี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าผู้เป็นพี่ใหญ่ เจ้าไม่ต้องห่วง!” เจ้าอ้วนไห่ตื่นเต้นจนลืมแซ่ตระกูลไปแล้วเขาโบกมือให้เด็กหนุ่มข้ามโลกเป็นการรับประกัน
“รอเดี๋ยว...” เย่คงรีบห้าม “ทำลายวงกตมิติเวลา เราต้องทำอะไร?”
“ง่ายมาก,ข้าได้ทำเครื่องหมายไว้ตามเส้นทางเขาวงกตแล้ว พวกเจ้าจะไม่มีความสับสนอีกต่อไปและจะไม่พบกับภาพลวงตา ตราบใดที่พวกเจ้าเดินไปจนสุดทางและตะลุยผ่านด่านทดสอบเอาชนะตัวหัวหน้านั้นภารกิจเป็นอันสำเร็จได้อย่างง่ายดาย” เย่ว์หยางพูดง่ายๆ ราวกับกินถั่ว
“ถามหน่อยได้ไหม เขาวงกตนี้มีอยู่กี่ด่านกี่ระดับ?” องค์ชายเทียนหลัวถามอย่างระมัดระวังมาก
“อ่า..ก็ไม่มาก แค่ร้อยด่านเอง” ร้อยด่านของเด็กหนุ่มข้ามโลกเป็นจำนวนเล็กน้อย
“ร้อยด่าน?” เสวี่ยทันหลางรู้สึกเหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ
“ผู้พิทักษ์ด่านไม่ใช่นักสู้ระดับเทพจากแดนสวรรค์บนหรือตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม?” เย่คงมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
“ก็ไม่ใช่ระดับเทพทั้งหมดมีพวกอ่อนแอปนเปอยู่บ้าง นอกจากนี้นักสู้ระดับเทพ ข้าได้ฆ่าแทนพวกเจ้าไปสองสามคนแล้วราชันย์ไร้ใจที่ร้ายกาจที่สุดก็ติดอยู่ในดินแดนแห่งความฝันพวกเจ้าสามารถสู้กับบางคนได้อย่างง่ายดาย” เย่ว์หยางพูดง่ายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“โธ่เอ๊ย..แล้วเราจะเอาชนะได้อย่างไร?” เย่คงเมื่อได้ยินว่าคู่ต่อสู้คือราชันย์ไร้ใจเขาอดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นไม่ได้ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าราชันย์ไร้ใจแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตามเขาไม่สามารถซ่อนความกลัวไว้ได้ ใช้แค่นิ้วเดียว ก็สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้ นี่ไม่ใช่ภารกิจเลย แต่เป็นความตาย
“ไม่เป็นไร, เจ้าไปทำธุระของเจ้า เราจะจัดการเอง” ในความคิดของเจ้าอ้วนไห่มีแต่เขาเท่านั้นที่คู่ควรเป็นพี่ใหญ่ คนอื่นไม่คู่ควร
“จัดการมารดาเจ้าเถอะ เจ้ามีธุระ เจ้าก็ต้องใช้ความสามารถทำ เราทำไม่ได้แน่” เย่คงแทบจะเป็นลม
“.......” เสวี่ยทันหลางพูดไม่ออก
มันเจ็บปวดมากเมื่อสู้กับร่างอวตารจางเว่ยครั้งแล้วครั้งเล่ายังจะมีสามราชันย์อาวุโสของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เจ้าจะสู้อย่างไร? ภารกิจนี้ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเป็นพี่เขย อย่างนั้นเขาต้องคิดว่าฝ่ายตรงข้ามบ้าไปแล้ว
สามราชันย์ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์สามารถทำให้พวกผู้เยาว์เหล่านี้สั่นกลัวได้หรือไม่?
แม้ว่าราชันย์ไร้ใจผู้แข็งแกร่งที่สุดจะติดอยู่ในความฝันแต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ยังมีจ้าวภูผาและราชันย์ไร้พ่ายอีกสองคน! ต่อให้พวกเขาไม่อยู่ที่นั่นแต่ก็ยังมีคนอื่นอีก!
สำหรับพวกเขายกเว้นเจ้าอ้วนไห่ ทุกคนกำลังจะหาเรื่องคัดค้านเด็กหนุ่มข้ามโลก มีอยู่คนเดียวที่เห็นใจคือเจ้าอ้วนไห่?แต่พวกเขาไม่มีเวลาที่จะพูดคัดค้านเรื่องนี้เจ้าอ้วนไห่เป็นลูกพี่ไม่ใช่หรือ? แน่นอนว่าลูกพี่ย่อมต้องรับงานหนักอยู่แล้วเพื่อให้ทุกคนสงบอารมณ์ลงเล็กน้อย เย่ว์หยางผู้รอบรู้และใจดี ได้ยื่นข้อเสนอที่ยอดเยี่ยม“หากไม่มีบัลลังก์เทพพวกเจ้าคงจะทำงานลำบาก ความจริงข้าใช้ประโยชน์จากพลังเทพพวกเจ้าเป็นการส่วนตัวดูจากความสูงของรัศมีพลังเทพของพวกเจ้าที่พวกเจ้าได้แบกพลังเทพชะตาก่อนนั้นข้าจะให้พวกเจ้ายืมพลังเทพสักเล็กน้อยเป็นการชั่วคราว
“นั่นจะดีหรือ?”เย่คงและพวกตะลึงเมื่อได้ยิน
“ข้าจะให้ตราเทพกับพวกเจ้าแต่ละคนซึ่งจะเป็นพื้นฐานของบัลลังก์เทพในอนาคต แน่นอนพวกเจ้าจะยังไม่มีบัลลังก์เทพก่อน นี่เป็นสิ่งที่ข้าให้ยืมใช้ชั่วคราว พวกเจ้าสามารถใช้ตราเทพซึ่งจะทำให้พวกเจ้ามีพลังเทพอยู่ในมือในการต่อสู้ครั้งนี้”เย่ว์หยางชี้นิ้ว
รังสีเทพนับไม่ถ้วน
พุ่งเข้าหาระหว่างคิ้วของทุกคน
ทันใดนั้นร่างเทพซึ่งเป็นภาพมีลักษณะใกล้เคียงมนุษย์ลอยขึ้นมาจากทางด้านบนศีรษะของเจ้าอ้วนไห่เย่คง เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวกับพวก
เย่ว์หยางไม่รอให้ทุกคนได้ดีใจหันหายจากไปแต่ไม่ลืมบอกทุกคน “นี่เป็นทุนส่วนตัวที่ข้าให้พวกเจ้ายืมดอกเบี้ยต้องใช้คืนด้วย เก้าต่อสิบสาม”
ถ้าไม่ใช่เพราะประโยคนี้ภาพพจน์ของเด็กหนุ่มข้ามโลกคงจะดูสูงส่งทรงพลังมาก
แต่เพราะประโยคนี้เท่านั้น
แม้แต่คนที่เยือกเย็นที่สุดอย่างเสวี่ยทันหลางยังอดสงสัยเขาไม่ได้เลย“ถ้าคนผู้นี้ทำธุรกิจกับใคร น่ากลัวว่าคนที่ทำธุระด้วยคงไม่เหลือแม้แต่กระดูกพี่สาวข้าแต่งงานกับคนแบบนี้ได้ยังไง น่าสงสัย?”
**** **** ****