ตอนที่แล้วChapter 20 Strikes to kill
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 22 Fine martial-looking

Chapter 21 Senior ordinary military


高阶普通武者

ภายใต้คำอธิบายของเด็กทั้งสามที่สั่นไหวพูดไม่เป็นคำ,เหล่านักรบที่รวมตัวกันที่ดูสับสน,จากนั้นก็จ้องมองซูเห่าแปลก ๆ พวกเขาไม่อาจเชื่อได้,แม้แต่สงสัยว่านี่เป็นความจริงหรือไม่?

ซูเห่าที่จ้องมองบิดาอู๋หยุนเทียนเพื่อขอความช่วยเหลือ,ทว่าอู๋หยุนเทียนที่ขมวดคิ้วอยู่,ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร.

เขาจึงเอ่ยแก้ตัวด้วยท่าทางเขินอาย“อย่าฟังพวกชิงชิงที่พูดจาไร้สาระ,ข้าเพียงแค่โชคดีสังหารมันได้,เวลานั้นหมาป่าตาฟ้าพุ่งเข้ามา,เหมือนว่าข้าของมันเจ็บอยู่,เวลานั้น,ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น,ได้แต่ฟันมีดไปทั่ว,ไม่คิดเหมือนกันว่าจะสังหารมันได้อย่างบังเอิญ.”

เด็กห้าขวบ,สังหารหมาป่าตาฟ้าที่แข็งแกร่ง,เรื่องนี้ย่อมทำให้ทุกคนตื่นตะลึงเป็นธรรมดา,การเพิ่มเหตุผลของโชคเข้าไปด้วย จึงสามารถสังหารหมาป่าตาฟ้าได้,น่าจะเป็นเหตุผลให้ทุกคนสามารถยอมรับได้มากกว่า.

นักรบทุกคนที่ราวกับยอมรับคำแก้ตัวของซูเห่าจริง ๆ.

“เจ้าโกหก!”เหอชิงชิงที่ตะโกนออกมาทันที,ที่ซูเห่าเอ่ยจบ.

เหอเจี้ยนหยงที่ก้าวออกไปห้ามชิงชิงทันที“ชิงชิง,หยุดพูดได้แล้ว,ตอนนี้ที่นี่ยังมีอันตรายอยู่,ลู่กัว,เจ้านำเด็ก ๆ กลับไปก่อน!”

หลังจากนั้นเหล่านักรบก็ทำการค้นไปทั่วหมู่บ้านเพื่อหาเหล่าหมาป่าตาฟ้าที่หลุดเข้ามา,อาจจะมีบางตัวหลุดรอดสายตาของพวกเขาไป.

......

เรื่องที่ซูเห่าได้สังหารหมาป่าตาฟ้าเพียงคนเดียวได้กระจายไปทั่วหมู่บ้าน,พวกเขาเชื่อว่าซูเห่าสังหารหมาป่าตัวฟ้าได้นั้นเพียงเพราะโชคดีเท่านั้น,อย่างไรก็ตามถึงจะโชคดี,ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถสังหารหมาป่าตาฟ้าได้.

ต้องรู้ด้วยว่าความแข็งแกร่งของหมาป่าตาฟ้านั้นเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูง,ซูเห่าสามารถสังหารหมาป่าตาฟ้าได้,นี่ไม่เท่ากับว่าซูเห่านั้นเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูงแล้วหรอกรึ? เรื่องดังกล่าวได้ได้กระจายไปทั่วป้อมซาซานทันที.

“ท่านพ่อ,ทุกคนในป้อมปราการซาซานล้วนรู้แล้วว่าตอนนี้ข้าเริ่มฝึกฝนวิทยายุทธ์,ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาหรือไม่?”

“ไม้เด่นกลางป่า,มักถูกลมพัดหักโค่นลง” การที่ซูเห่าเป็นกังวลย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร,เขารู้ว่าโลกนี้แตกต่างจากโลกในชาติก่อน,ที่นี่ระบบกฎหมายยังคงล้าหลังมาก,การที่มีคนมากพรสวรรค์ปรากฏ,ย่อมทำให้ผู้คนอิจฉาได้ง่าย,แม้แต่ดึงภัยอันตรายเข้ามาหาได้.

อย่างไรก็ตาม,กล่าวตามจริง,วิกฤติของเขาผ่านไปแล้ว,เรื่องนี้ทำให้เขาวางใจได้ระดับหนึ่ง,เขารู้ว่าเวลานี้เขามีความสามารถป้องกันตัวเองได้อย่างแน่นอน,เรื่องอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้เขาตายนั้นย่อมลดน้อยถอยลง.

อู๋หยุนเทียนที่เหลือบมองซูเห่า,ส่ายหน้าไปมา“ที่นี่เป็นป้อมปราการซาซาน,ไม่ได้มีเรื่องชั่วร้ายอะไร,วางใจได้!”

จากนั้นเขาก็หันหน้าไปมองซูเห่าตรง ๆ,“เซี่ยงหวู่,เจ้าบอกออกมาตรง ๆ,ตอนนี้เจ้ามีระดับอะไรแล้ว?”

กล่าวตามจริงซูเห่าเองก็ไม่อาจบอกได้ถึงสถานการณ์ปัจจุบันของตัวเอง,ดังนั้นจึงเอ่ยคาดเดาออกมาว่า“ปราณโลหิตของข้าเวลานี้ควรจะถึงขีดจำกัดที่ร่างกายจะทนได้แล้ว,ข้ารู้สึกว่า,หากเพิ่มปราณโลหิตขึ้นอีกครั้ง,จะทำให้ร่างกายได้รับอันตราย.”

“เรื่องนี้? เป็นไปไม่ได้ที่ปราณโลหิตจะเพิ่มขึ้นเร็วขนาดนี้,หรือว่าเพราะคลื่นยกระดับปราณโลหิตอย่างงั้นรึ?”

ซูเห่าพยักหน้ารับ“ควรจะเป็นเช่นนั้น,ข้าสัมผัสได้ถึงความรู้สึกคอขวดเหมือนกับที่พ่อบอกข้าแล้ว,ทว่าข้าก็สามารถปรับเปลี่ยนความถี่,คลื่นยกระดับปราณโลหิตได้,ซึ่งจะทำให้ข้าผ่านคอขวดไปได้อย่างแน่นอน.”

อู๋หยุนเทียนที่หัวใจสั่นไหว,พูดไม่ออกอย่างคาดไม่ถึง,ทุกคนที่ปวดหัวกับคอขวดปราณโลหิต,ทว่าด้วย“คลื่นยกระดับปราณโลหิต” ที่บุตรชายคิดขึ้น,สามารถข้ามผ่านคอขวดไปได้โดยง่าย.

เขาเองก็เป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงมาห้าปีแล้ว,ปริมาณปราณโลหิตยากจะยกระดับขึ้นไปอีกได้,เขาคิดว่าด้วยการสะสมประสบการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายจะทำให้มีโอกาสตัดผ่านระดับไปได้.

หนึ่งปีก่อน,เขาได้ยินบุตรชายเอ่ย“คลื่นยกระดับปราณโลหิต”เขาได้รับฟังและค้นหาคลื่นยกระดับปราณโลหิตอย่างจริงจัง,ทว่าไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ไม่ก้าวหน้า,ทำให้เขารู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก,เป็นความจริง,โลกของอัจฉริยะ,ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้.

ถึงปัจจุบัน,เขาจะลองพยายามหาเป็นครั้งคราว,ทว่า,“คลื่นยกระดับปราณโลหิตนั้น”ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะหาเจอ.

ซูเห่าผู้ชี้แนะ ก็ไม่อาจช่วยอะไรได้,คลื่นยกระดับปราณโลหิตนั้น,มีอยู่จริง ๆ,ทว่าคนทั่วไปไม่สามารถค้นพบเท่านั้นเอง.

เหมือนกับที่ทุกคนรู้,เมื่อมนุษย์อยู่ในสถานการณ์อันตราย,อดรีนาลีนจะหลั่งออกมาลับ ๆ.

อย่างไรก็ตามนอกจากรู้ว่าอดรีนาลีนได้หลั่งออกมาจากต่อมหมวกไต,ทว่าสมองไม่อาจบอกได้ถึงการคงอยู่ของมันและมีอยู่มากมายเท่าไหร่.

ซูเห่าที่ได้ใช้การวิเคราะห์อันทรงพลังของเสี่ยวกวง,เพื่อติดตาม“คลื่นยกระดับปราณโลหิต” สำหรับคนอื่น“คลี่นยกระดับปราณโลหิต” ไม่มีวิธีช่วยเหลือในการค้นหา,ทำได้แค่รู้ว่า,สิ่งนี้พิเศษอย่างไร,จะต้องวิเคราะห์ตามหลักการอย่างไร,สำหรับอู๋หยุนเทียนกับวิธีการที่ล้ำยุคเช่นนี้,ย่อมไม่อาจเข้าใจได้.

เว้นแต่ซูเห่าจะมีวิธีการใหม่ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ“คลื่นยกระดับปราณโลหิตนี้”สรุปสร้างแบบฝึกให้ง่ายกว่านี้,ถึงจะมีความเป็นไปได้สำหรับคนในโลกนี้ที่จะเข้าใจ“คลื่นยกระดับปราณโลหิต”

“เซี่ยงหวู่,ออกมาที่สนามกับข้า.”อู๋หยุนเทียนที่ลุกขึ้น,ก้าวออกไปด้านนอก.

ซูเห่าพยักหน้ารับและก้าวตามไป.

อู๋หยุนเทียนที่คลี่ฝ่ามือออกไปยื่นไปด้านหน้าซูเห่า“ต่อยมายังฝ่ามือข้าเต็มกำลัง”

“ตกลง”ซูเห่าที่รับคำ,ก้าวไปด้านหน้า,พร้อมกับรวมปราณโลหิต,สะสมพลังงาน,พร้อมกับต่อยหมัดไปยังกลางฝ่ามือ.

“ปัง~”

หมัดของเขาที่เกิดเสียงดังกังวาน,อู๋หยุนเทียนยังคงนิ่งเฉย,ก่อนที่จะหดฝ่ามือผลักซูเห่าให้ถอยออกไปด้วยแรงกระแทกสองสามเมตร.

“ท่านพ่อร้ายกาจมาก!”ซูเห่าที่เอ่ยชม,แสดงท่าทางตรงไปตรงมาเหมือนเด็ก ๆ ทั่วไป.

อู๋หยุนเทียนที่เผยยิ้มขม ส่ายหน้าไปมา,ซูเห่าไม่เห็นว่ามือของเขาที่ชักกลับนั้น สั่นเล็กน้อย,เขารู้สึกว่าฝ่ามือของเขาถึงกับชาขึ้นมาเหมือนกัน.

อู๋หยุนเทียนเอ่ยออกมาเล็กน้อย“ความแข็งแกร่งของเจ้าควรจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูงแล้ว.”

ซูเห่าที่เผยความสงสัย“ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูงอย่างงั้นรึ?”

อู๋หยุนเทียนเอ่ยอธิบาย“ใช่,ผู้ฝึกยุทธ์แบ่งออกเป็นห้าขอบเขต,ต่ำสุดคือผู้ฝึกยุทธ์,จากนั้นก็เป็นจอมยุทธ์,ปรมาจารย์ยุทธ์,บรรพจารย์ยุทธ์,และบรรพชนยุทธ์คือระดับสูงสุด,แต่ละขอบเขตเองก็แบ่งออกเป็นขั้นต้น,กลางและสูง,ความแข็งแกร่งของเจ้าเวลานี้ได้มาถึงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูง,ส่วนข้าตอนนี้เป็นจอมยุทธ์ขั้นสูง.”

ซูเห่าที่พยักหน้ารับ“เป็นเช่นนี้นะเอง,คนทั่วไปจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูง,จำต้องใช้เวลานานเท่าใด?”

อู๋หยุนเทียนเอ่ยอย่างช่วยไม่ได้“คนทั่วไปไม่อาจหาปราณโลหิตได้,ก็ไม่อาจเป็นผู้ฝึกยุทธ์ได้ตลอดไป,เจ้าคงต้องการถามว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปใช้เวลานานเท่าไหร่ที่จะไปถึงขั้นสูง,ปรกติแล้วเมื่ออายุ 16 ปี,ก้าวสู่ระดับสูงในอายุ 16 ปีก็ถือว่ามากพรสวรรค์แล้ว,ส่วนมากแล้วก็จะใช้เวลาเลย 16 ปีกันทั้งนั้น.”

ซูเห่าที่ดวงตาเบิกกว้าง,ชี้มายังตัวเอง“แล้วข้าล่ะ?”

อู๋หยุนเทียนที่จ้องมองซูเห่าชั่วขณะ,ไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกมาเช่นกัน.

หลังจากนั้น,อู๋หยุนเทียนก็เปลี่ยนเรื่อง“เซียงหวู่,เนื่องจากเจ้ามาถึงระดับนี้ได้แล้ว,ข้าก็ไม่มีอะไรต้องกังวล,ข้าเชื่อว่าเจ้าก็จะมีเส้นทางของตัวเอง,ตอนนี้ข้าจะบอกเกี่ยวกับเส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์,ว่าควรจะเดินไปอย่างไร.”

หลังจากนั้นเขาก็เงียบไปชั่วครู่เอ่ยออกมาว่า“ข้าสอนเจ้าได้ไม่มากนัก,เจ้าจะเดินไปได้ไกลแค่ใหน,ก็ต้องพึ่งตัวเอง.”

“อืม!”ซูเห่าที่พยักหน้ารับ.

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด