ตอนที่แล้วChapter 110 Yashan carapace rune/symbol writing
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 112 Action

Chapter 111 Temple forest city eldest child


寺林城老大

หลังจากหยาซานนำซูเห่ามายังพื้นที่ทิศเหนือ,เสียงเล็ก ๆ ก็ดังขึ้น“พี่ใหญ่เหว่ย,เขาปรากฏขึ้นที่นี่,พวกเราจะหาเขาอย่างไร.”

ซูเห่าเอ่ย“ไม่จำเป็นต้องหา,ข้ารู้เขาอยู่ที่ใหน!”

หยาซานที่รู้สึกอิจฉา,ต้องการเอ่ยในใจเสียงดัง“พี่ใหญ่,ข้าก็ต้องการความสามารถนั่น!”

อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดเขาก็ไม่กล้าพูด,เพราะพี่ใหญ่เหว่ยนั้นช่วยเขามามากแล้ว,เขายังจะกล้าขออะไรอีกรึล่ะ?

หลังจากซูเห่านำหยาซานมายังถนนใหญ่,เขาก็เอ่ยออกมาว่า,ไป!เขาอยู่ด้านหน้า,จัดการเต็มที่!”

ทั้งสองที่ใช้อักขระ“ดูดซับแสง”ทำให้กลมกลืนไปในความมืดได้อย่างมิดชิด.

หยาซานพยักหน้ารับ,ดึงดาบยาวออกมา,ก้าวออกไปช้า ๆ,ด้วยความจริงจัง,ตรงไปยังถนนด้านหน้า.

ในลำดับเดียวกัน,มนุษย์กลายพันธ์ขั้นสูงกว่าจะมีกลิ่นอายกดข่มขั้นต่ำ,ผู้บ้าบิ่นขั้นสองโดยปรกติจะซ่อนตัวให้ห่างจากขั้นสาม,อสูรหนามทะลวงให้ไกล.

ทว่าวันนี้,อาซานที่สะกดข่มแรงกดดันดังกล่าว,ก้าวเข้าไปหาอีกฝ่ายเอง.

เขาต้องการล้างแค้นให้ภรรยาและบุตร! เขาต้องการพลัง,ทว่าพลังนั้นจำเป็นต้องพยายามโดยเฉพาะต้องช่วงชิงมาจากอสูรหนามทะลวงด้านหน้าของเขา.

ขอเพียงได้กินอีกฝ่ายสักคำ...

เวลานี้อสูรหนามทะลวงที่เห็นหยาซานห่อหุ้มด้วยกลุ่มความมืดมิด.

ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้แปลงร่าง,มนุษย์กลายพันธ์ไม่อาจสัมผัสตำแหน่งของอีกฝ่ายได้,ทว่าหลังจากกลายร่าง,กลิ่นอายมนุษย์กลายพันธ์ก็แผ่รัศมีออกมาอย่างชัดเจน.

เกราะของอสูรหนามทะลวงเต็มไปด้วยหนามตั้งชี้ชันกระจายไปทั่วร่างเหมือนกับโลหะจริง ๆ,รูปร่างคล้ายกับผู้บ้าบิ่น,ทว่าความหนาของเกราะนั้นแตกต่างกันเหมือนกับรถตู้กับรถถัง.

เกราะของอสูรหนามทะลวงนั้นหนาเป็นมันเงา,เหมือนกับสัตว์อสูรจากโบราณ.

เพียงแค่มองรูปลักษณ์ก็บอกได้ว่าหยาซานผู้บ้าบิ่นนั้นไม่ใช่คู่มือของอีกฝ่ายเลย.

ส่วนหยาซานที่เผชิญหน้ากับอสูรหนามทะลวง,หัวใจของเขาที่เต้นเร็ว,แม้แต่หลั่งเหงื่อที่เย็นยะเยือบออกมาเต็มหน้าผาก.

ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม,ฝ่ายตรงข้ามยืนอยู่ต่อหน้าเขา,ข้าจะเอาชนะเขาได้จริง ๆรึ?

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาคิดถึงมนุษย์กระดูก,เขาก็ก้าวไปด้านหน้าอย่างมั่นคง“ข้าจะไม่แพ้,ข้าจะต้องล้มเข้า!รวมทั้งอสูรหนามทะลวงข้าไม่อาจแพ้ได้,ในอนาคตปิศาจกระดูกยิ่งแข็งแกร่งกว่านี้อีก.”

อสูรหนามทะลวงที่มุมปากกระตุกเห็นลวดลายเกราะของอีกฝ่ายที่มีความมืดมิดปกคลุม,ไม่แน่ใจว่านี่คืออสูรบ้าบิ่นหรือไม่?

แม้นว่ารูปลักษณ์ด้านนอกจะมองไม่เห็นชัดนัก,ทว่าสัมผัสนี้ไม่ผิดแน่,ผู้บ้าบิ่น,ในสัมผัสของเขา,อ่อนแอไร้ประโยชน์ไม่ต่างจากขยะ,กับหวังในเนื้อของเขาอย่างงั้นรึ?

อสูรหนามทะลวง,ที่โบกมือปรากฏค้อนหนามขึ้น,กล่าวหยัน“เจ้าขยะ,เจ้าใจกล้ามากที่มายืนอยู่ด้านหน้าของข้า,ต้องการกินเนื้อของข้ารึ? หึ หึ หึ!”

ซูเห่าที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ลับ,เตรียมเข้าช่วยอีกฝ่ายตลอดเวลา.

แม้นว่าเขาจะสามารถช่วยหยาซานลงมือสังหารอสูรหนามทะลวงได้,ทว่าซูเห่าไม่ทำเขาต้องการให้หยาซานมีความกล้า,ส่งเสริมให้อีกฝ่ายกล้าเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า,ไม่เช่นนั้นเขาจะล้างแค้นปิศาจกระดูกได้อย่างไร.

ชีวิตของตัวเอง,ก็ต้องจัดการด้วยตัวเอง,ไม่ควรให้คนอื่นช่วยได้.

อย่างไรก็ตาม,ซูเห่าเชื่อว่าหยาซานจะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้,ต้องไม่ลืมว่าอีกฝ่ายมีรูนสลักมากมาย,ขอเพียงเปิดใช้งานทั้งหมด,ก็ไม่มีทางพ่ายแพ้อีกฝ่าย.

หยาซานไม่เอ่ย,กระตุ้น“คม” “เจาะเกราะ”บนดาบ,พร้อมกับเปิดใช้งาน“แข็ง” “โก่งโค้ง” “ม่านพลัง”และรูนอื่น ๆ บนเกราะของตัวเอง.

หยาซานสลัดความคิดฟุ้งซ่าน,พุ่งเข้าหาอสูรหนามทะลวงทันที.

อสูรหนามทะลวงก็ลงมือเช่นกัน,ค้อนหนามที่เหวี่ยงออกไปอย่างรุนแรง.

ในเวลาต่อมา.

กระบองของอสูรหนามทะลวงถูกตัดออกไปพร้อมกับข้อมือทั้งสองร่วงหล่นลงบนพื้น.

อาซานที่ฟาดฟันดาบออกไปอีกครั้ง.

“พรึด!”

อสูรหนามทะลวงที่ยกแขนขึ้นป้องกันถูกฟันขาดอีกครั้ง,คมดาบที่เฉือนไปถึงคอ โลหิตไหลทะลักออกมา.

อสูรหนามทะลวงบาดเจ็บ,คาดไม่ถึงจะไม่ตาย,หลังจากที่ตั้งสติได้,ใบหน้าที่เผยความตกใจและหวาดกลัว,เร่งรีบวางแผนถอยหนีทันที,พร้อมกับกระตุ้นพลังรักษาฟื้นฟูบาดแผลที่คอของเขาอย่างรวดเร็ว.

ในเวลานี้หยาซานที่ใช้พลังไปเป็นจำนวนมาก,หายใจหอบ,ทว่าอสูรหนามทะลวงมีโลหิตไหลย้อยบาดเจ็บหนักแล้ว,เขาต้องไล่ล่าไม่ยอมแพ้เด็ดขาด.

อย่างไรก็ตามอสูรหนามทะลวงที่ยังหนีไปได้ไม่ไกล,ริ้วแสงดาบก็พุ่งมาอย่างรวดเร็ว,ศีรษะของอสูรหนามทะลวงที่ขาดหล่นลงพื้น,ดวงตาเบิกกว้างกลมโต,ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น.

ในเวลานั้นซูเห่าที่เช็ดโลหิตที่ดาบ,ตะโกนเสียงดัง“หยาซาน,ปิศาจด้ายกำลังมา,รีบเก็บเนื้อแล้วออกจากที่นี่!”

หยาซานพยักหน้ารับ,ก้มลงเก็บแขนที่ขาดของอีกฝ่าย,ก่อนเร่งรีบจากไป,หนีอย่างรวดเร็ว.

ไม่นานหลังจากนั้น,หยาซานที่คืนกลับร่างต้น,หากไม่เพราะว่าร่างกายมีโลหิตไหลออกมา,เขาคงไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้,ตัวเองได้รับบาดเจ็บหนัก.

หยาซานที่ฟื้นฟูตัวเองอย่างรวดเร็ว,จากนั้นทั้งสองก็เปลี่ยนทิศทาง,เข้าไปซ่อนตัวในความมืด.

ปิศาจเส้นด้ายที่มาถึงหน้าศพของอสูรหนามทะลวง,ดวงตาเบิกกว้าง,เผยท่าทางตกใจประหลาดใจ“ปิศาจรัตติกาล,ต้องเป็นปิศาจรัตติกาลอย่างแน่นอน,เจ้าอยู่ใหน? รีบส่งเนื้อราชาควบคุมคืนมาให้กับข้าซะ!!!”

อย่างไรก็ตาม ปิศาจเส้นด้าย,เวลานี้กับไม่เห็นใครเลย.

เขาค้นหาไปรอบ ๆ เต็มไปด้วยความโกรธและบ้าคลั่ง,วิ่งพล่านไปรอบ ๆ.

เขาคิดถึงเนื้อราชาควบคุม,หัวใจของเขายิ่งสั่นไหวปรารถนาที่จะวิวัฒนาการอย่างที่สุด.

“อ๊ากกก”ปิศาจเส้นด้ายที่ร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธ.

......

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว.

หนึ่งปีหลังจากนั้น,ซูเห่ามีอายุเก้าปี.

ร่างกายของจูเห่าเหรินนั้นเติบโตเร็วมาก,เวลานี้เขาสูงถึงหนึ่งเมตรแปดสิบ,ร่างกายบึกบึน.

เขามีลักษณะของจูเห่าเหรินสมบูรณ์,ดูประณีตหล่อเหล่าเหมือนกับเอลฟ์.

ยิ่งสวมเสื้อผ้าไหม,ยิ่งทำให้เขาดูเหมือนกับนายน้อยจากตระกูลร่ำรวย.

ร่างกายเขาหนาแน่นยิ่งกว่าชาติที่แล้ว,จิงซีเองก็มีปริมาณมากกว่า,เวลานี้แทบจะเทียบได้กับบรรพจารย์ขั้นสูงด้วยซ้ำ,ขอบเขตสัมผัสของเขาขยายออกไปถึง 3500 เมตร,เป็นครั้งแรก,แทบจะเป็นครึ่งหนึ่งของเมืองซือหลินแห่งนี้.

ขอเพียงแค่เขาไปยืนอยู่ใจกลางเมือง,กระตุ้นจิงซี,ไม่มีใครที่จะหลบพ้นจากเรดาร์ของเขาได้.

ความปลอดภัยในเมืองแห่งนี้,ขอเพียงเขาไม่หาเรื่องมนุษย์กลายพันธ์ขั้นสี่สองคน,ไม่มีอะไรคุกคามเขาได้.

มนุษย์กลายพันขั้นสี่สองคนเวลานี้ก็คือ,ลำดับมนุษย์ปั่น,ปิศาจด้ายซือเข่อ,ส่วนอีกคนลำดับมนุษย์เกราะ,ปิศาจกระดูกเต๋อลี่.

ปีก่อนซือเข่อที่บ้าคลั่ง,ไม่อาจหาปิศาจรัตติกาลพบ,เขาจึงได้ไปหาท้าทายเต๋อลี่,โดยคิดว่าเนื้ออีกครึ่งหนึ่งของราชาควบคุมคงอยู่ในมือเต๋อลี่.

เต๋อลี่ที่รับมืออย่างยากลำบากเหมือนกัน,ทว่าภายในใจก็ดีใจ,ที่ซือเข่อมีเนื้อ“ราชาควบคุม”เพียงครึ่งเดียว,จึงวิวัฒนาการไม่ได้,ไม่เช่นนั้นเขาต้องออกจากเมืองแห่งนี้แน่.

ที่จริงหลังจากนั้นสองปี,ซือเข่อก็เข้าใจ,ปิศาจความเร็วเฟยหลุนและปิศาจกระดูกเต๋อลี่นั้นถูก อันวางแผนหลอกให้ต่อสู้กัน.

เพราะจิตใจของเขาบิดเบี้ยวเป็นอย่างมาก,เพราะโกรธจัด,ถึงจะรู้ แต่ก็ไม่ยอมรับ

เขาต้องการหาที่ระบาย,สะลายความแค้นในใจเขาจำเป็นต้องมีแพะรับบาป

อย่างไรก็ตามสำหรับซูเห่า,เรื่องที่คนเหล่านี้ก่อขึ้นมานั้น,ไม่อาจบอกได้ว่าใครเป็นคนถูกหรือผิด.

สิ่งที่เขาต้องการทำนั้นง่ายมาก,เขาต้องสังหารปิศาจเส้นด้ายและปิศาจกระดูกแน่,เพื่อให้มนุษย์กลายพันธ์ในเมืองนี้ออกมาเป็นวัตถุดิบ,และควบคุมให้เมืองนี้ให้สงบ,เขาจะได้ศึกษาวิจัยเรื่องยีนอย่างเงียบสงบไม่มีใครมารบกวน.

ซูเห่าตัดสินใจสังหารปิศาจกระดูกและปิศาจเส้นด้ายนั้น มีสองเหตุผล.

ใกล้จะครบสองปี,ตามที่เขารับปากหยาซานเกี่ยวกับการแก้แค้น,เขาไม่ต้องการกลับคำพูด.

อีกเหตุผล,เพราะเมื่อวานตอนเย็นปิศาจเส้นด้ายและปิศาจกระดูกต่อสู้กัน,ทำให้บ้านของเขาพังทลายลง.

หากไม่เพราะเขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว,นำหยาซานและไท่นีหนีออกไปเร็ว,เกรงว่าไท่นีคงตายด้วยลูกหลงเหมือนกับแม่และพี่ชายของเธออีกครั้งแน่.

นอกจากนี้ที่พักของเขายังเป็นบ้านที่เพิ่งย้ายมาใหม่ด้วย.

หนึ่งปีก่อน,ปิศาจเส้นด้ายและปิศาจกระดูกก็ต่อสู้กัน,ทำให้บ้านซูเห่าพังครั้งหนึ่งแล้ว,เวลานั้นเขาเตรียมตัวไว้แล้ว,จึงทนได้,ทว่าตอนนี้ยังเกิดขึ้นอีกครั้ง,เขาไม่อาจทนได้จริง ๆ.

การต่อสู้โดยไม่สนใจใครเลย,เป็นการกระทำที่เกินไปแล้ว.

สองปีมานี้ทั้งการต่อสู้เล็กใหญ่ทั่วเมือง,ทำให้สิ่งก่อสร้างทั่วเมืองเสียหาย,จนไม่มีสถานที่ปลอดภัยให้เขาวิจัยอย่างสงบ ๆ,ด้วยเหตุนี้งานวิจัยของเขาจึงไม่ราบรื่นเลย.

นอกจากนี้สองปีมานี้,ผู้คนในเมืองเริ่มลดลง,เพราะมีคนได้รับผลกระทบมากมาย,ผู้คนนับไม่ถ้วนอพยพออกจากเมือง,ไปตั้งถิ่นฐานในเมืองข้างเคียงแทน.

การอพยพย้ายถิ่นฐานของวัตถุดิบทดลอง,ทำให้งานวิจัยของซูเห่าติดขัดและลดระดับประสิทธิภาพลงมาก.

ดังนั้น,ในเมื่อเขาพร้อมแล้ว,หากไม่สังหารพวกเขาแล้วจะเก็บเอาไว้เพื่ออะไร?

ซูเห่าตัดสินใจทันที,นับจากคืนนี้เป็นต้นไป,เขาจะเข้าควบคุมเมืองแห่งนี้,หากใครไม่ยอมรับ,ตาย!!!

จากนี้เขาจะเป็นผู้ควบคุมเมืองซือหลินแห่งนี้ไว้เอง.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด