ตอนที่แล้วChapter 47 Causes trouble?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 49 The female of Luo Family

Chapter 48: Went back to tell once nine certainly


回去告诉曾九绝

จากคำพูดของเจ้าจื่อเห่าหอเทพยุทธ์ได้เอ่ยว่า,นิกายพันปิศาจได้ยอมจำนนต่อวังปิศาจทมิฬแล้ว,เขาได้นำอิทธิพลของวังปิศาจทมิฬออกมาเตือนตัวเอง,หากสังหารนิกายพันปิศาจ,เท่ากับล่วงเกินวิหารปิศาจทมิฬ.

จางจิน,เจ้าเหวินและพวกทั้งสี่ที่เผยยิ้ม.

ลู่อีผิ้งเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“นิกายพันปิศาจจำนนต่อวิหารปิศาจทมิฬแล้วนี่เอง,หากเจ้าไม่เอ่ย,ข้าไม่รู้เลยจริง ๆ,..หากเป็นแบบนั้น,ข้ายิ่งต้องฆ่า!”

เจ้าจื่อเห่าที่ใบหน้ากลายเป็นเคร่งขรึม.

ลู่อี้ผิงเอ่ยเพิ่ม“เจ้าเป็นศิษย์หอเทพยุทธ์อย่างงั้นรึ? ว่าแต่,ศิษย์หอเทพยุทธ์กลายเป็นหมารับใช้วิหารปิศาจทมิฬไปแล้วเมื่อไหร่กัน.”

“เจ้า!”เจ้าจื่อเห่าที่ทั้งโกรธและอาย.

เวลานั้น,ลู่เผิงก้าวไปด้านหน้าลี่เฟยแล้ว,มีดคู่ที่ตะวัดเหวี่ยงออกไป.

เจ้าจื่อเห่าที่เห็นลู่เผิงเพียงแค่ระดับโอสถทองคำ เมินเฉยคำพูดตัวเองอย่างคาดไม่ถึง,จึงเอ่ยออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว“แส่หาความตาย!”

ในมือของเขา หอกยาวที่พุ่งทะลวงออกไปในทันที.

“เก้ามังกรสะบั้นนภา!”

พลังเทพที่พวยพุ่ง,หมุนวนเป็นริ้วแสงพุ่งตรงไปยังอกของลู่เผิง.

ริ้วแสงเพลิงเก้าเส้นของมังกรเพลิงที่ส่องสว่าง.

แววตาของเจ้าจื่อเห่าที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,หอกเก้ามังกรของเขา,นับเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของหอเทพยุทธ์,แม้นว่าเวลานี้เขาจะเป็นเพียงเทพวิญญาณขั้นกลาง,ทว่าด้วยหอกเก้ามังกรนี้,แม้แต่เทพวิญญาณขั้นสุดท้าย,เขาก็สามารถรับมือได้.

เห็นหอกของเจ้าจื่อเห่าที่พุ่งตรงไปยังหน้าอกของลู่เผิง,ในเวลานั้นมือข้างหนึ่งด้านข้างที่ยกขึ้นกันหอกของเจ้าจื่อเห่าเอาไว้อย่างคาดไม่ถึง.

มือเปล่ากุมปลายหอก.

หอกยาวของเจ้าจื่อเห่าที่อยู่ในฝ่ามือของอีกฝ่าย,เสียงที่ดังหวีดหวิวเปลวเพลิงที่ลุกโชนพวยพุ่ง,แต่กับไม่อาจขยับเคลื่อนไปด้านหน้าไปได้แม้แต่นิ้วเดียว,นอกจากนี้ยังไม่ระคายผิวของอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ.

เจ้าจื่อเห่าและเข่อเจี่ย เผยความประหลาดใจอย่างหนัก,พบว่า,แท้จริงแล้วเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาด้านหลังของชายชุดน้ำเงินที่ลงมือ.

จางจินนั่นเอง.

Zhang Jin grips Zhao Zihao long spear, the complexion coldly, shakes, pulls out, then saw Zhao Zihao to be shaken to fly, but long spear fell in his hand.

จางจินที่คว้าหอกเจ้าจื่อเห่าเอาไว้นั่นเอง,ใบหน้าของเขาที่มืดครึ้มเย็นชา,ก่อนที่หอกจะสั่นไปมา,เวลาต่อมาร่างของเจ้าจื่อเห่าที่กระเด็นลอยออกไป,หอกยาวที่หล่นออกจากมือของเขาแล้ว.

เจ้าจื่อเห่าที่ลอยกระเด็นออกไป,ได้ยินเพียงเสียงร้องโหยหวนจากอีกฝั่ง เจ้านิกายพันปิศาจลี่เฟยได้ถูกลู่เผิงกุดหัวไปแล้ว.

เหล่ายอดฝีมือนิกายพันปิศาจคนอื่น ๆ จิตวิญญาณที่สั่นสะท้านเย็นยะเยือบ.

พวกเขาที่จ้องมองไปยังเข่อเจี่ย,ร้องตะโกนเพื่อให้ท่านเข่อเจี่ยช่วยชีวิต.

“เจ้าคืออาวุโสใหญ่สำนักเฟยฮัวเข่อเจี่ย?”ลู่อี้ผิงที่จ้องมองไปยังเข่อเจี่ย“ในเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่,ก็ดีข้าจะได้ไม่ต้องไปถึงสำนักเฟยฮัว.”

ได้ยินคำพูดที่เจือด้วยจิตสังหารของลู่อี้ผิง,อาวุโสใหญ่สำนักเฟยฮัวเข่อเจี่ยที่ใบหน้าเปลี่ยนสี,เร่งรีบเอ่ยออกมาว่า“ข้าคืออนุของบรรพชนชราหยางซือหยวนวิหารปิศาจทมิฬ.”

ลู่อี้ผิงที่สะบัดมือ ดึงร่างอีกฝ่ายลอยมาอยู่ด้านหน้า.“อนุหยางซือหยวนรึ? แล้วมีปัญหาอะไร?”

“เจ้าเป็นใคร?!”เข่อเจี่ยเอ่ยเสียงสั่น.

“ลู่อี้ผิง.”ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่แยแส.

เข่อเจี่ย,เจ้าจื่อเห่าได้ยิน,เวลานี้ใบหน้ากลายเป็นขาวซีด“เจ้าคือลู่อี้ผิง!”

เรื่องของเจ้านิกายน้อยนิกายภูตหยินเห่าตันได้แพร่กระจายออกไปแล้ว,เหล่ายอดฝีมือทั้งทวีปเทพยุทธ์,ต่างก็ได้ยินชื่อเสียงของลู่อี้ผิงกันหมดแล้ว.

ทั้งสองก่อนหน้านี้คาเดาสถานะของชายชุดน้ำเงินคงจะเป็นใครสักคนของสำนักอาชูร่า,ทว่าไม่คาดคิดแม้แต่น้อย ชายหนุ่มชุดน้ำเงินผู้นี้กับเป็นลู่อี้ผิง เซียนกู่ฉินนั่นเอง.

ทว่า,ทั้งสองไม่เข้าใจเลยว่าสำนักอาชูร่าที่เป็นเพียงกลุ่มอิทธิพลชั้นสองในทวีปเทพยุทธ์,เกี่ยวพันธ์อะไรกันลู่อี้ผิงกัน?

ลู่อี้ผิงไม่ได้สังหารเข่อเจี่ยอาวุโสใหญ่สำนักเฟยฮัวทันที,ทว่าทำการค้นวิญญาณของอีกฝ่าย.

เขาต้องการรับรู้ว่ามีใครคนอื่นสั่งการเข่อเจี่ยให้ทำการสังหารกวาดล้างคนของสำนักอาชูร่าหรือไม่?

เพียงไม่นาน,การค้นวิญญาณก็เสร็จสิ้น.

ใบหน้าของลู่อี้ผิงได้กลายเป็นเย็นชา.

คนที่สั่งเข่อเจี่ยสังหารกวาดล้างสำนักอาชูร่านั้น,ไม่ใช่เจ้านิกายเฟยฮัว,แต่เป็นบรรพชนชราสำนักเฟยฮัว ซุนฟาง!

อย่างไรก็ตามซุนฟางผู้นี้,ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของวังปิศาจทมิฬตั้งแต่แรกแล้ว.

ไม่เพียงซุนฟาง,บรรพชนชราอีกหลายคนในสำนักเฟยฮัวต่างก็ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของวิหารปิศาจทมิฬมานานแล้ว.

หลังจากค้นวิญญาณเสร็จ,เปลวเพลิงที่ลุกโชนล่วงหล่นบนร่างของอาวุโสใหญ่เข่อเจี่ย,จากนั้นอีกฝ่ายก็ถูกเพลิงกลืนกินสลายหายไปในอากาศ,แม้แต่ขี้เถ้าก็ไม่เหลือ,ทั้งแก่นหยวน,ดวงวิญญาณยังสลายหายไปด้วย.

เจ้าจื่อเห่าที่จ้องมองลู่อี้ผิง,แววตาที่ตื่นตระหนก.

เกี่ยวกับเรื่องของลู่อี้ผิง,เป็นที่โจษจันไปทั้งทวีปเทพยุทธ์,กล่าวว่าลู่อี้ผิงนั้นบ้าคลั่ง,กระทำอะไรตามใจไม่สนผู้ใด,ตอนนี้เห็นกับตา,แม้แต่สนมของบรรพชนชราวังปิศาจทมิฬ,ยังถูกเขาสังหารโดยไม่สนใจด้วยซ้ำ.

เสียงโหยหวนโอดโอยดังขึ้นไม่หยุด.

เขาที่เห็นเหล่ายอดฝีมือนิกายพันปิศาจที่ถูกลู่เผิงสังหารทีละคน ๆ.

พื้นที่แห่งนี้อยู่บนเกาะกลางทะเลทมิฬ,เหล่ายอดฝีมือนิกายพันปิศาจถูกผนึกพลังไม่อาจบินหนีได้จึงไม่มีทางให้หนีนั่นเอง.

เพียงไม่นาน,เสียงร้องโอดโอยก็หยุดลง.

เวลานี้บนลานยอดเขา,มีศพของนิกายพันปิศาจมากมายกองทับถมกันอยู่.

กลิ่นโลหิตที่แสบคาวจมูกฟุ้งกระจายไปทั่ว.

จางจินและคนอื่น ๆ ที่ก้าวออกไปช่วยลู่เผิงเก็บกวาดพื้นที่.

เจ้าจื่อเห่าที่ยืนขึ้น,ต้องการจากไป,แต่กับไม่กล้า.

ลู่อี้ผิงที่จ้องมองเขา,เมื่อสายตาของลู่อี้ผิงที่จ้องมองมา,ทำให้หัวใจของเจ้าจื่อเห่าหัวใจเต้นสั่นไหวโครมคราม,ก้มหน้างุด ๆ,ไม่กล้าสบตาลู่อี้ผิงแม้แต่น้อย.

“หอกเก้ามังกร,เป็นเซิ่งจิ่วเจี่ยมอบให้เจ้าอย่างงั้นรึ?”ลู่อี้ผิงเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่แยแส.

เซิ่งจิ่วเจี่ย?

เจ้าจื่อเห่าที่ดวงตาเบิกกว้าง,จับจ้องมองลู่อี้ผิงนี่เขารู้จักบรรพชนชราจิ่วเจี่ยหอเทพยุทธ์ด้วยอย่างงั้นรึ?

เทพยุทธ์จิ่วเจี่ย,นี่คือบรรพชนที่ทรงพลังที่สุดในยุคโบราณ,ทว่าชื่อที่แท้จริงของอีกฝ่ายก็คือ เซิ่งจิ่วเจี่ย,ผ่านมานานหลายปีแล้ว,ไม่มีใครกล้าเอ่ยนามจริงของอีกฝ่ายตรง ๆ ทุกคนต่างก็เรียกเขาว่าเทพยุทธ์

หอกเก้ามังกรนั้น,ไม่ใช่เทพยุทธ์จิ่วเจี่ยมอบให้เขา,แต่เป็นเทพยุทธ์อีกคนของหอเทพยุทธ์,ซึ่งเทพยุทธ์ผู้นี้ก็คือศิษย์สายตรงของเทพยุทธ์จิ่วเจี่ยนั่นเอง.

ได้ยินลู่อี้ผิงเอ่ยนามจริงของบรรพชนชราเทพยุทธ์จิ่วเจี่ย,เจ้าจื่อเห่าที่ใบหน้ากลายเป็นมืดครึ้ม,ถึงแม้นจะเป็นเจียวยวีสำนักไท่อี้,เมื่ออยู่ต่อหน้าบรรพชรา,ยังต้องเรียกว่า อาวุโสจิ่วเจี่ย

“ลู่อี้ผิง,เจ้าคงไม่คิดว่า เจ้าได้สังหารเห่าตัน,สวีซิวแล้วรู้สึกตัวเองไร้เทียมทาน,เจ้ากล้าเรียกชื่อบรรพชนชราเทพยุทธ์จิ่วเจี่ยด้วยชื่อตรง ๆ,มาดูว่าหากอยู่ต่อหน้าบรรพชราจิ่วเจี่ยแล้ว,เจ้ายังกล้าเรียกชื่อตรง ๆอีกใหม!”เจ้าจื่อเห่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

“ใช่.”ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่แยแส“ต่อให้จิ่วเจี่ยมาอยู่ต่อหน้าข้า,ข้าก็จะเอ่ยเช่นนั้น.”เวลานั้นเขาได้ยิงบอลพลังปะทะร่างเจ้าจื่อเห่าลอยกระเด็นออกไปทันที.

“กลับไปบอกเจ้าหนูจิ่วเจี่ยซะ,ให้เขาดูแลหอเทพยุทธ์ดี ๆ หน่อย,หากหอเทพยุทธ์เกี่ยวข้องอะไรกับวังปิศาจทมิฬอีกล่ะก็,เมื่อถึงเวลานั้นอย่าได้โอดครวญก็แล้วกัน.”ลู่อี้ผิงเอ่ยกล่าวดังไล่หลัง.

บรรพชนชราหอเทพพยุทธ์หลายคน,หลายรุ่นที่ใกล้ชิดกับวังปิศาจทมิฬเป็นอย่างมาก.

กล่าวได้ว่ามีแม้แต่ยอดฝีมือของหอเทพยุทธ์ที่แต่งงานกับสตรีวังปิศาจทมิฬอีกด้วย.

เจ้าจื่อเห่าที่ลอยกระเด็นออกจากเทือกเขาทะเลทมิฬ,ก่อนที่จะล่วงหล่นลงบนทะเลทมิฬ,ได้ยินเสียงของลู่อีผิ้ง,ทั้งตกใจและโกรธเกรี้ยว.

เขาที่ตะเกียกตะกายฉุดร่างที่ไม่อยู่ในสภาพดีนักขึ้นฝั่งอย่างยากลำบาก,ขณะมองย้อนไปยังเทือกเขาทะเลทมิฬ,ดวงตาที่เผยความเย็นชา,จากนั้นก็บินแหวกอากาศจากไป.

ไม่นานหลังจากนั้น,ลู่เผิงและพวกจางจินก็เก็บกวาดทุกอย่างเสร็จสิ้น.

ลู่อี้ผิงที่เข้ามาในห้องโถงอาชูร่า.

แม้นว่าห้องโถงอาชูร่าจะถูกเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ด้วยฝีมือของคนนิกายพันปิศาจ,ทว่าสิ่งก่อสร้างหลายอย่างก็ยังคงอยู่,ลู่อี้ผิงที่เดินไปรอบ ๆ,ไม่รู้ว่ามาถึงดินแดนบรรพชนอาชูร่าตั้งแต่เมื่อไหร่.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด