ตอนที่แล้วChapter 114: Chu Tong hurries back
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 116: Do not blame my Zheng Shangqing to do without sparing anyone's sensibilities

Chapter 115 Masters in pouring tree


主人在浇树(求首订)

ที่งานชุมนุมกระบี่,บรรพชนชราฉิวเยว่ที่เห็นฉู่ถงก็เร่งรีบโค้งคำนับ“คารวะผู้ก่อตั้ง!”

“คารวะท่านฉู่ถง!”เหล่าประมุขตระกูล,บรรพชนชรา,ผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ ต่างก็แสดงความเคารพ.

ฉู่ถงที่จ้องมองไปยังทุกคน เอ่ยออกมาว่า“ลุกขึ้น,ดำเนินงานชุมนุมกระบี่ต่อไป.”จากนั้นเขาก็บินตัดอากาศกลับไปยังดินแดนบรรพชน.

หลังจากฉู่ถงไปแล้ว,ฉิวเยว่และทุกคนต่างก็ลุกขึ้น.

ผู้คนต่างพูดคุยกันเสียงเบา.

“ท่านฉู่ถงและเจ้าคนแซ่ลู่นั้น ไม่รู้ว่าเกี่ยวอะไรกัน? ไม่ใช่ว่าเป็นศิษย์ที่เขารับจากภายนอกหรอกนะ?”

“ท่านฉู่ถงไม่เคยรับศิษย์มาก่อน,แต่ก็อาจจะไม่แน่!”

เห็นฉู่ถงกลับมา,ผู้คนต่างก็คาดเดาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฉู่ถงและลู่อี้ผิงอีกครั้ง.

ที่จริงตั้งแต่เมื่อวาน,ผู้คนมากมายต่างก็คาดเดาความสัมพันธ์ของฉู่ถงและลู่อี้ผิงมาโดยตลอด.

หลังจากนั้นซุนหงหยวนลุกขึ้น,ก้าวไปหาฉิวเยว่,เอ่ยออกมาว่า“ท่านฉิวเยว่,ท่านอู๋จินกั๋วถูกสังหาร,นิกายของพวกเราให้ที่พักพิงต่อลู่อี้ผิง,ตอนนี้ทุกกลุ่มอิทธิพลต่างก็กล่าวตำหนินิกายกระบี่กุยหยวนพวกเรา.”

“ข้าได้ยินมาว่า,เจ้าสำนักกระบี่ไท่ชิงโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก,แม้แต่ให้บรรพชนชราเจิ้งซ่างชิงถึงกับออกมาจากการปิดด่าน!”

“พวกเราให้ที่คุ้มภัยลู่อี้ผิง,ไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อย.”

ฉิวเยว่ที่จ้องมองซุนหงหยวนคราหนึ่ง.

เมื่อวาน,ซุนหงหยวนถูกวัวกระทิงมังกรเขาทองคำตบจนกลายเป็นหัวหมู,แม้ว่าจะอาการดีขึ้นแล้ว,ทว่าเขาก็รู้ว่าซุนหงหยวนนั้นคลั่งแค้นเป็นอย่างมาก.

เขาที่เอ่ยปากออกมาทันที“ข้าเข้าใจความหมายของเจ้าดี,ข้าเองก็คิดว่าการล่วงเกินสำนักกระบี่ไท่ชิงและนิกายฉินหัวเพื่อลู่อี้ผิงนั้นไม่คุ้มค่า,ทว่าด้วยตำแหน่งของข้ามันไม่มีน้ำหนัก,พูดไปมันก็ไม่มีความหมายอะไร.”

ซุนหงหยวนที่ดูลังเลเอ่ยออกมาว่า“ท่านและท่านกงอี้ฟ่านและอีกหลายคนที่รู้จักกันดี,หากว่าเกลี้ยกล่อมชักจูงกลุ่มพรรคพวกท่านกงอี้ฟ่าน,ให้พูดกับบรรพชนชราเฟิงเหวิน.”

“หากบรรพชนชราเฟิงเหวินเห็นด้วย,กล่าวเตือนผู้ก่อตั้ง,ผู้ก่อตั้งก็จะรู้จักแยกแยะได้เอง.”

ฉิวเยว่ครุ่นคิด,ก่อนจะเอ่ยออกมว่า“คืนนี้,ข้าจะพูดคุยกับพวกท่านกงอี้ฟ่าน.”

ทว่าในเวลานั้น,ฉู่ถงที่เข้ามาในดินแดนบรรพชนแล้ว.

เฟิงเหวินและบรรพชนชราคนอื่น ๆ ที่เร่งรีบมาทักทายฉู่ถง.

“คนล่ะ?”ฉู่ถงเอ่ยถามเฟิงเหวิน,น้ำเสียงที่ยากจะระงับไม่ให้สั่นได้.

เฟิงเหวินและคนอื่น ๆ ที่เห็นฉู่ถงตื่นเต้นดีใจ,ก็ตะลึงไปเหมือนกัน.

“ตอนนี้เขาอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์.”เฟิงเหวินที่เร่งรีบเอ่ยตอบทันที.

โถงศักดิ์สิทธิ์,คือตำหนักที่ดีที่สุดในดินแดนบรรพชน.

หลังจากฉู่ถงให้คนก่อสร้างสถานที่ดังกล่าวขึ้นมา,เฟิงเหวินและคนอื่น ๆ ต่างก็แนะนำเชื่อหลายอย่าง,ทว่าฉู่ถงกับตั้งชื่อว่าโถงศักดิ์สิทธิ์.

เฟิงเหวินเอ่ยว่า ลู่อี้ผิงอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์,ฉู่ถงก็ตื่นเต้นดีใจ,เร่งรีบบินไปยังโถงศักดิ์สิทธิ์ทันที.

เฟิงเหวินและบรรพชนคนอื่น ๆ ต่างก็ก้าวตามไป.

ผ่านไปไม่นาน,ฉู่ถงและคนอื่น ๆ ก็มาถึงโถงศักดิ์สิทธิ์.

ฉู่ถงที่มาถึงโถงศักดิ์สิทธิ์,สูดหายใจลึก,เพื่อระงับความตื่นเต้น,จากนั้นก็ก้าวเข้าไป.

เฟิงเหวินและคนอื่น ๆ ที่ก้าวตาม,ฉู่ถงห้ามเอาไว้,เอ่ยออกมาว่า“เฟิงเหวินมากับข้าก็พอแล้ว,พวกเจ้ารอข้าอยู่ด้านนอก.”

หลังจากนั้น,เขาก็นำเฟิงเหวินเข้าไปด้านใน.

เหล่าบรรพชนชราคนอื่น ๆ ที่เห็นท่าทางของท่านฉู่ถง,ก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันและกันด้วยความงงงวย.

หลังจากเข้ามาในโถงศักดิ์สิทธิ์,ฉู่ถงที่ก้าวด้วยเสียงเบาที่สุด,ราวกับว่ากลัวจะรบกวนคนด้านใน.

เฟิงเหวินที่ตามฉู่ถงมา,ถึงกับตะลึง.

โถงศักดิ์สิทธิ์,มีพื้นที่สามส่วน.

ที่ด้านหน้าเป็นลานสวนสองชั้น,ขณะเขาก้าวมาถึงชั้นแรก,เห็นบุรุษที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อผมสีทอง,ยืนเฝ้าประตูอยู่ลานด้านนอก,แน่นอนว่านี่คือวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ.

ฉู่ถงที่เห็นวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,แขนขาที่สั่นไปมา,ก้าวไปด้านหน้า,โค้งคำนับด้วยความเคารพอย่างที่สุด“เด็กน้อยฉู่ถง,คารวะท่านเสี่ยวจิน!”

เฟิงเหวินที่ชงักคาดไม่ถึงแม้แต่น้อย,เห็นท่าทางโค้งคำนับ,เคารพและตื่นเต้นของฉู่ถง,เขาก็งงไปนานเหมือนกัน.

เด็กน้อยฉู่ถง?

ท่านเสี่ยวจิน?!

สมองของเขาที่หมุนกลิ้งไปมาแทบจะหลุดลอยออกจากศีรษะไปแล้ว.

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเห็นท่าทางตื่นเต้นดีใจของฉู่ถง,ก็เผยยิ้มพราย.“เด็กน้อยฉู่ถง,ไม่พบกันหลายปี,ตอนนี้ดูดีขึ้น.”

ฉู่ถงได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็เผยยิ้ม.

เฟิงเหวินกล่าวได้ว่า ไม่เคยเห็นผู้ก่อตั้งเผยยิ้มดีใจขนาดนี้มาก่อน.

“ในอดีตได้ท่านเสี่ยวจินสั่งสอนทำให้ก้าวมาถึงตอนนี้ได้.”ฉู่ถงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม.

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ยกมือขึ้นตบบ่า,เอ่ยด้วยยิ้ม“หลายปีมานี้,ร่างกายของเจ้าดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งขึ้นมาก,ใช้ได้,ทว่าความแข็งแกร่ง,ยังเป็นไก่อ่อนอยู่.”

ในอดีต,เขาที่ตบไหล่ฉู่ถง,ฉู่ถงแทบทนไม่ไหว,เกือบจะแบนบี้เสียทุกครั้งไป.

เมื่อครั้งอยู่ในป่าศักดิ์สิทธิ์,ฉู่ถงได้รับการดูแลจากวัวกระทิงมังกรเป็นอย่างมากชนิดที่เรียกได้ว่า“หฤโหดทารุณทรกรรม”

อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงความทรมานถูกเคี่ยวเข็ญในเวลานั้นเขากับรู้สึกสุดยอดเช่นกัน.

เรื่องที่เกิดขึ้น,ทำให้เขาจดจำได้ไม่ลืม.

แม้แต่หลายปีมานี้,เขายังปรารถนาที่จะกลับไปให้วัวกระทิงมังกรเขาทองคำข่มเหงอีกด้วย.

ได้ยินวัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยว่าความแข็งแกร่งของฉู่ถงเป็นแค่ไก่อ่อน,เฟิงเหวินได้แต่กลืนน้ำลายคำโต.

หากผู้ก่อตั้งเป็นแค่ไก่อ่อน,แล้วข้าล่ะ? เป็นลูกเจี๊ยบอ่อนอย่างงั้นรึ? หลินซินปินและคนอื่น ๆ,ก็อ่อนด้อยยิ่งกว่าลูกเจี๊ยบอ่อนอ่อนอย่างงั้นรึ?

ฉู่ถงเผยยิ้มให้กับวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ“เด็กน้อยฉู่ถงหลายปีมานี้ไม่เคยลืมเรื่องที่ท่านเสี่ยวจินคอยสั่งสอน,ทำให้ร่างกายของข้าแข็งแกร่งขึ้นเช่นนี้.”

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้ม,เอ่ยออกมาว่า“ไปสิ,จูเหรินกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่.”

รดน้ำต้นไม้?

ฉู่ถงและเฟิงเหวินที่เต็มไปด้วยความสงสัย.

เป็นความจริง,ลู่อี้ผิงกำลังรดน้ำต้นไม้จริง ๆ.

เขาใช้วารีดาราฮุ่นตุ้นและพรวนดินลมหายใจเก้าสวรรค์เพื่อบำรุงเจี้ยนมู่.

เหมือนเช่นเมื่อวาน,เมื่อใช้วารีดาราฮุ่นต้นหนึ่งชาม,เจี้ยนมู่ก็เติบโตขึ้นมาอีกเล็กน้อย.

รวมจากเมื่อวานนี้,ดูเหมือนว่ามันจะมีขนาดสูงขึ้นอีกเล็กน้อย.

เจี้ยนมู่ที่แผ่ลมปราณปฐมกาลฮุ่นตุ้นออกมารอบ ๆ.

นอกจากนี้เจี้ยนมู่ยังแผ่รัศมีแสงสีทอง,แม้นว่าจะเป็นตอนกลางวัน,ทว่าก็ยังดูงดงามเป็นอย่างมาก.

ฉู่ถงและเฟิงเหวินทั้งสองที่ก้าวเข้ามา,เห็นลู่อี้ผิงกำลังรดน้ำด้วยวารีดาราฮุ่นตุ้น.

วารีดาราฮุ่นตุ้นภายใต้แสงแดดที่สาดส่องมันหักเหแสง ดูงามตา,ราวกับแสงดาราที่อยู่ในแดนฝัน.

เฟิงเหวินที่ก้าวเข้ามา,เห็นแสงดาราที่นวลลออ,ดวงตาแทบหลุดจากเบ้า,เอ่ยอุทาน“นั่นมันวารีดาราฮุ่นตุ้น?!”

“เป็นวารีดาราฮุ่นตุ้น?!”

เขาแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่กลุ่มอิทธิพลยักษ์ใหญ่มากมายในจิวเทียน เพื่อวารีดาราฮุ่นตุ้นไม่กี่หยดแทบจะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินแย่งชิงกัน

กับกลายเป็นว่าเวลานี้เป็นน้ำรดต้นไม้ของลู่อี้ผิงไปแล้ว!

นอกจากนี้ยังไม่ได้รดเพียงไม่กี่หยกอีกด้วย!

ต้นไม้!

สายตาของเขาที่จ้องมองเจี้ยนมู่,เห็นลมปราณปฐมกาลฮุ่นตุ้นที่หมุนวนกระจายอยู่รอบ ๆ และแผ่แสงสีทองนวลตา

นี่มันต้นไม้อะไรกัน?

ในโลกนี้ หากว่าต้นไม้ต้นนี้เติบโตแล้วปล่อยปราณปฐมกาลฮุ่นตุ้นที่สมบูรณ์ออกมาได้เช่นนี้,เมื่อได้ดูดซับจะน่าตื่นตะลึงขนาดใหน,กล่าวได้ว่าความแข็งแกร่งเมื่อบำเพ็ญใต้ต้นไม้ดังกล่าวจะต้องเติบโตโผทะยานราวกับโผบินอย่างแน่นอน.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด