ตอนที่แล้วChapter 109 Does not know that Young Master can dare?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 111 Don’t blame me for killing you

Chapter 110 Your Zither Way is at what realm!


你琴道到底是什么境界!

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำแค่นเสียง“ทำไมจะไม่กล้าแข่งกับเจ้าล่ะ? สาวน้อย,เจ้าคิดว่าก้าวสู่ระดับเซียนกู่ฉินแล้ว,ในวิถีกู่ฉินคิดว่าตัวเองไร้เทียมทานแล้วรึ?”

สวีเฉี่ยวหยินที่ตกใจ,เผยยิ้มออกมา“เฉี่ยวหยินไม่กล้าเอ่ยว่าวิถีกู่ฉินของข้าไร้เทียมทาน.”นางจ้องมองลู่อี้ผิง“มีปัญหาอะไร,คุณชายไม่กล้ารึ?”

จากนั้นก็เอ่ยเพิ่ม“ได้ยินจากศิษย์น้องเอ่ยว่า,คุณชายเมื่อครั้งอยู่ในร้านได้กู่ฉินชั้นยอดจากยุคโบราณ,แม้แต่ศิษย์น้องของข้าก็ไม่อาจเล่นได้,คุณชายสามารถนำมาใช้ประลองเพื่อให้เฉี่ยวหยินได้เปิดหูเปิดตาหน่อยได้หรือไม่?”

วัวกระทิงมังกรเขาทองคำขณะจะเอ่ยปาก,ลู่อี้ผิงก็ก้าวไปด้านหน้า,เห็นกู่ฉินในมือของสวีเฉี่ยวหยินซึ่งเป็นกู่ฉินสีขาวหิมะ,ก็เอ่ยออกมาว่า“จักรวาลบนผืนหิมะ.”

กู่ฉินในมือของสวีเฉี่ยวหยินนั้นเป็นกู่ฉินมีชื่อในยุคโบราณ,จักรวาลบนผืนหิมะ.

ในอดีตนั้น,นี่คือกู่ฉินของเจ้าวังกู่ฉินศักดิ์สิทธิ์.

ในยุคโบราณ,วังกู่ฉินศักดิ์สิทธิ์,และวังเทวะเป่ยโตต่างก็มีชื่อเสียงทัดเทียมกัน.

สวีเฉี่ยวหยินได้ยินคำพูดดังกล่าว,ก็เผยยิ้ม“ไม่คาดคิดเลยว่าคุณชายจะรู้จักกู่ฉินในมือของข้าด้วย,ในมือของข้าก็คือกู่ฉินจักรวาลบนผืนหิมะ,เป็นกู่ฉินของเจ้าวัง,วังกู่ฉินศักดิ์สิทธิ์.”

“จักรวาลบนผืนหิมะ,ข้าได้รับมาโดยบังเอิญ.”

เหล่าบรรพชนชราหลายคนที่เร่งรีบมาได้ยินมาว่ากู่ฉินในมือของสวีเฉี่ยวหยินเป็นกู่ฉินโบราณของเจ้าวังกู่ฉินศักดิ์สิทธิ์,ก็กลายเป็นวุ่นวายขึ้นมาทันที.

ในยุคโบราณ,จ้าววังเทวะเป่ยโตว,คือยอดฝีมือค่ายกลอันดับหนึ่ง.

ส่วนเจ้าวังกู่ฉินศักดิ์สิทธิ์,คือมือกู่ฉินอันดับหนึ่งเช่นกัน.

ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่แยแส“เจ้าจะบอกว่า,วิถีกู่ฉินของเจ้าวังกู่ฉินศักดิ์สิทธิ์ได้ทิ้งเอาไว้,แล้วเจ้าได้รับมันมาอย่างงั้นรึ?”

สวีเฉี่ยวหยินที่เผยยิ้ม“ใช่แล้ว,เฉี่ยวหยินโชคดี,ได้เรียนรู้วิถีกู่ฉินของเจ้าวังกู่ฉินศักดิ์สิทธิ์.”

เสียงดังอืออึงของผู้คนที่ดังขึ้นอีกครั้ง.

“ไม่แปลกใจเลยว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีก้าวถึงดินแดนเซียนกู่ฉินได้,แท้จริงแล้วได้รับมรดกของเจ้าวังกู่ฉินศักดิ์สิทธิ์มานี่อง!”

“ข้าคิดว่าวิถีกู่ฉินของธิดาศักดิ์สิทธิ์,คงเหนือกว่าจ้าววังกู่ฉินศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วเป็นแน่!”

เสียงผู้คนมากมายที่พูดคุยกันไม่หยุด.

วังกระทิงมังกรเขาทองคำได้ยินก็แค่นเสียงดูแคลน.

เพียงแค่ก้าวถึงดินแดนเซียนกู่ฉิน,กล้าเอ่ยว่าเหนือกว่าเจ้าวังกู่ฉินศักดิ์สิทธิ์,เหลวไหลสิ้นดี?

ในเวลานั้น,ที่ด้านหน้าของลู่อี้ผิงก็ปรากฏ,กู่ฉินมังกรทมิฬลอยอยู่ด้านหน้าของลู่อี้ผิง.

สวีเฉี่ยวหยินจ้องมองกู่ฉินด้านหน้าลู่อี้ผิงที่มีรอยไหม้รูปมังกรทมิฬ,ไม่อาจยืนยันได้จึงเอ่ยออกไปว่า“นี่คือกู่ฉินมังกรทมิฬอย่างงั้นรึ?”

“ถูกแล้ว,นี่คือกู่ฉินมังกรทมิฬ.”ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่แยแส“เจ้าต้องการแข่งขันอย่างไร?”

สวีเฉี่ยวหยินเผยยิ้ม“ข้าไม่คิดเลยว่ามันคือกู่ฉินมังกรทมิฬจริง ๆ!”นางที่เผยยิ้ม“ง่าย ๆ,ต่างคนต่างเล่น,หากคุณชายสามารถทำลายท่วงทำนองกู่ฉินจักรวาลบนพื้นหิมะของข้าได้,เช่นนั้นข้าก็แพ้!”

“หากข้าแพ้,จักรวาลบนผืนหิมะนี้ก็จะเป็นของคุณชาย!”

“หากคุณชายแพ้,กู่ฉินมังกรทมิฬก็จะเป็นของข้า,เป็นอย่างไร?”

“แน่นอน,คุณชายสามารถเล่นเพลง,แล้วข้าทำลายท่วงทำนองเพลงของคุณชายก็ได้.”

สวีเฉี่ยวหยินเอ่ยออกมาเล็กน้อย.

ลู่อี้ผิงเอ่ย“หากข้าลงมือ,เพียงแค่สายกู่ฉินขยับ,เจ้าก็แพ้แล้ว,เจ้าลงมือก่อนเลย.”

ผู้คนรอบ ๆ ที่ได้ยิน,ต่างก็เผยความโกรธเกรี้ยวออกมาทันที.

“โอหังมากเกินไปแล้ว!”เหออี้จ้องมองลู่อี้ผิงด้วยความโกรธ“วิถีกู่ฉินของข้าด้อยกว่าเจ้าก็จริง,แต่เจ้าคิดว่าวิถีกู่ฉินของเจ้าเหนือล้ำมากมายขนาดนั้นเลยรึ? ต่อหน้าศิษย์พี่ของข้า เจ้าก็แค่ตัวตลก! ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของข้าได้ก้าวสู่ระดับเซียนกู่ฉินแล้ว,ไม่มีกู่ฉินก็สามารถบรรเลงเพลงได้ดั่งใจนึก,สามารถที่จะสะบั้นจิตใจของเจ้าให้แหลกสลายได้แล้ว!”

สวีเฉี่ยวหยินจ้องมองลู่อี้ผิง,ใบหน้าที่ยิ้มไม่คล้ายยิ้ม“ในเมื่อคุณชายมั่นใจ,สวีเฉี่ยวหยินก็จะไม่เกรงใจ.”กล่าวจบที่ด้านหน้าของนาง,ปรากฏกู่ฉินอีกชิ้นเป็นกู่ฉินที่มีลวดลายเปลวเพลิงลุกไหม้.

กู่ฉินเปลวเพลิง,มีรูปลักษณ์เหมือนกับกู่ฉินจักรวาลบนผืนหิมะ,แตกต่างเพียงสี,ที่ราวกับว่ากู่ฉินจักรวาลบนผืนหิมะได้กลายเป็นอุปกรณ์เทวะธาตุเพลิงไปแล้ว.

สองกู่ฉิน,ด้านซ้ายและด้านขวาลอยอยู่ด้านหน้าของกู่เฉี่ยวหยิน.

ด้านซ้ายสวีเฉี่ยวหยินคือกู่ฉินเปลวเพลิง,ด้านขวาคือกู่ฉินจักรวาลบนผืนหิมะ.

“ธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีต้องการเล่นฉินคู่!”

“เล่นกู่ฉินคู่,ไม่เคยได้ยินมาก่อน,สามารถทำได้ด้วยรึ?!”

“ธิดาศักดิ์สิทธิ์สวีได้เข้าสู่ดินแดนเซียนกู่ฉินแล้ว,การเล่นกู่ฉินคู่เพลงคู่,ก็เท่าเล่นเพลงเซียนกู่ฉินที่ทรงพลังเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า?”

ผู้คนต่างก็ตื่นตะลึงไปตาม ๆ กัน.

หวงจิว,ฟ่านอี้หลาน,ฟ่านเซิ่งทั้งสามต่างก็ตกใจ.

สองกู่ฉินสองท่วงเพลง? ใบหน้าของลู่อี้ผิงที่ดูไม่แยแส.

“ขอแสดงฝีมืออันต่ำต้อย.”สวีเฉี่ยวหยินที่เอ่ยปากออกมาทันที,มือที่วางไปบนกู่ฉินทั้งสอง.

ทันใดนั้น,เสียงของกู่ฉินที่ก้องกังวานไปทั่วสวรรค์และปฐพี.

กู่ฉินจักรวาลบนผืนหิมะที่ส่งเสียงท่วงทำนองที่เย็นยะเยือบ,ไอหิมะที่ล่องลอยว่อนไปทั่วสารทิศ,ร่ายกรำไปทั่วทุกทิศทาง,เกล็ดหิมะที่เริ่มล่วงหล่นลงสะสมทับถมกัน.

ดูเหมือนหิมะจริง,มากกว่าภาพลวงตา.

ทว่ากู่ฉินด้านซ้ายมือ,เสียงที่ดังกึกก้องส่องแสงสีแดงรัศมีแสงสีโลหิตออกมา,กำเนิดก่อรูปเป็นดอกบัวเพลิงลอยว่อนกระจายไปทั่วอากาศเช่นกัน.

บัวเพลิง,ทีผสานเข้ากับเกล็ดหิมะ,สองแสงสองเฉดสีที่ตัดกันไปมาดูงดงามเป็นอย่างมาก,ท้องฟ้าที่เป็นประกายหักเหแสง,สวรรค์และปฐพีที่กลายเป็นโลกเปลวเพลิงและหิมะไปแล้ว.

จากนั้น,ผู้คนที่มองไปรอบ ๆ,ต้นไม้ใบหญ้ารอบ ๆ,กลายเป็นบัวเพลิงเมื่อถูกแสงสีแดงอาบ,และกลายเป็นเกล็ดหิมะเมื่อถูกเกล็ดหิมะล่วงหล่นใส่.

บางคนที่คิดว่าตาฝาด,ถึงกับยกมือขึ้นสีตาของตัวเองซ้ำ ๆ.

“เสียงแห่งการสร้าง!”

“หมื่นสร้างสวรรค์และปฐพีด้วยทำนองกู่เจิ้ง!”

“นี่คือดินแดนเซียนกู่ฉิน!”

ผู้ฝึกฝนวิถีกู่ฉินรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.

บัวเพลิง,เกล็ดหิมะ,ที่เหมือนกับคลื่นอสุรกาย,กำลังเคลื่อนไหวกวาดม้วนไปยังทิศทางของลู่อี้ผิงและวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ผลักกระแทกผู้คนรอบ ๆ อย่างบ้าคลั่ง.

บัวเพลิงและเกล็ดหิมะที่มืดฟ้ามัวดิน,ทำให้ฟ่านอี้หลานและฟ่านเซิ่งใบหน้าเปลี่ยนสี.

บัวเพลิงและเกล็ดหิมะที่เปลี่ยนรูปจากต้นไม้ใบหญ้าก่อนหน้านี้กำลังเคลื่อนที่ไหลพุ่งเข้าหาพวกเขา.

ทว่าขณะที่บัวเพลิงและเกล็ดหิมะจะไหลเชี่ยวกรากไปถึง,กู่ฉินมังกรทมิฬของลู่อี้ผิงก็ดังขึ้นทันที.

เพียงแค่เสียงเดียว.

ราวกับสายฟ้าคำราม.

เปรี้ยง!!!!

สวรรค์และปฐพีล่มสลาย.

คลื่นแสงที่น่าหวาดกลัวได้กวาดม้วนเหล่าอสูรกายคลื่นก่อนหน้านี้ไปจนสิ้น.

แสงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังลึกล้ำ,ทุกหนแห่งที่มันเคลื่อนที่ผ่าน,บัวเพลิงและเกล็ดหิมะต้องสลายหายไป,พลังอำนาจที่พุ่งไปยังด้านหน้าสวีเฉี่ยวหยินทันที.

ทุกคนที่ตะลึงงันอ้าปากคร้าง.

ลู่อี้ฟิงยังไม่ทำอะไรอย่างชัดเจน,เพียงแค่ยืนอยู่เฉย ๆ,คาดไม่ถึงว่ากู่ฉินมังกรทมิฬจะส่งเสียงออกมาเองอย่างงั้นรึ?

นี้มันทักษะอะไรกัน?

“หมายความว่าอย่างไร?!”

ในเวลานั้น,ยอดฝีมือกู่ฉิน,ไม่มีใครเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย.

เพียงแค่เสียงเดียวกับทำลายทุกอย่างให้พังทลายลง,สวีเฉี่ยวหยินถึงกับใบหน้าเปลี่ยนสี,มือทั้งสองข้างของนางที่เริ่มเห็นเป็นภาพเงาดอกบัว,ริ้วแสงภาพมายาที่เคลื่อนที่เร็วขึ้นและเร็วขึ้นกำลังวาดละเลงไปบนกู่ฉินทั้งสอง.

“หัตถ์บุษบาผลิบาน!”

บางคนที่จำทักษะที่สวีเฉี่ยวหยินได้ใช้ออกมาได้.

สวีเฉี่ยวหยินที่ใช้หัตถ์บุษบาผลิบาน,แน่นอนว่าฝีมือของนางนั้นเหนือกว่าเหออี้ที่เคยใช้ก่อนหน้านี้มาก,ริ้วแสงทีเจิดจ้า ส่องออกมาจากกู่ฉินทั้งสอง.

อย่างไรก็ตาม,มันกับไร้ประโยชน์,ไม่อาจขวางกันคลื่นเสียงจากมังกรทมิฬได้เลย.

คลื่นเสียงที่สวีเฉี่ยวหยินปล่อยออกมานั้นพังทลายแทบจะในทันที,ก่อนที่คลื่นพลังจะกระแทกร่างของนาง,ลอยกระเด็นออกไป, กู่ฉินทั้งสอง จักรวาลบนผืนหิมะและกู่ฉินเปลวเพลิงที่สั่นไปมา.

ทว่าท่วงทำนองกู่ฉินที่ปกคลุมฟ้าดินก่อนหน้านี้ได้สลายหายไปแล้ว,สวรรค์และปฐพีกลายเป็นเงียบสงบแทน.

หลังจากสวีเฉี่ยวหยินที่ล่วงหล่นนอนกองอยู่บนพื้น,ผ่านไปนานเหมือนกัน,นางก็ค่อย ๆ พยุงร่างลุกขึ้นมา,ร่างกายที่เปื้อนไปด้วยฝุ่น,ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ“นี่มันทักษะอะไรกัน? ข้าก้าวสู่เขตแดนเซียนกู่ฉินแล้วแท้ ๆ,และยังเล่นสองกู่ฉินผสาน,เท่ากับพลังเซียนกู่ฉินสองเท่า,แล้วจะพ่ายแพ้เจ้าได้อย่างไร! นี่วิถีฉินของเจ้าอยู่ในขอบเขตอะไรกันแน่!”

ลู่อี้ผิงเอ่ยออกมาอย่างไม่แยแส“ทุกคนรู้ว่ามีเขตแดนเซียนกู่ฉิน,แต่คงไม่คิดหรอกนะว่าเขตแดนเซียนกู่ฉินเขตแดนที่สิบนั้นคือสูงสุดแล้ว เหนือเขตแดนเซียนกู่ฉินนั้นยังมี,เขตแดนจักรพรรดิกู่ฉินและเขตแดนบรรพชนกู่ฉินอยู่อีก!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด