ตอนที่แล้วตอนที่ 1127 แม่ผู้ฉลาดที่สุดในประวัติศาสตร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1129 ไม่ต้องกลัว ยังมีพี่ชายทั้งคน!

ตอนที่ 1128 หนึ่งชีวิต หนึ่งจิต หนึ่งวิญญาณ


กลับเข้ามาในโลกคัมภีร์

เมื่อฟังเย่ว์หยางพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการเข้าสู่โลกไร้ที่สิ้นสุดในคัมภีร์เงินเย่ว์หวี่ผู้มักสนับสนุนน้องชายนางเต็มร้อยกลับคัดค้านแข็งขัน

แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่มักจะขัดแย้งกับเย่ว์หยางบ่อยๆกลับสนับสนุนเป็นคนแรก ขณะที่นางเซียนหงส์ฟ้ายังคงเงียบแน่นอนว่านอกจากทั้งสามฝ่ายนี้แล้วยังอี้หนานและเย่ว์ปิงที่ยังสับสนอยู่  พวกนางไม่รู้ว่าควรสนับสนุนหรือคัดค้านได้แต่กระพริบตาปริบๆ รอฟังความเห็นของทุกคน พวกนางพร้อมจะทำตามเสียงส่วนใหญ่โดยไม่มีอะไรกังวล

ไม่ว่าจะสนับสนุนหรือต่อต้าน ทุกคนก็ต้องพูดเหตุผล

ทุกคนเริ่มเงียบ เกิดอะไรขึ้น?

“สถานะของเทวทูตหญิงทั้งสามไม่เป็นที่รู้จัก และหากเข้าสู่การทดสอบในโลกน้อยที่อยู่ในมือพวกนางจะเป็นอย่างไรถ้าเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้มันยากพอที่จะตรวจสอบด้วยตัวเองได้และยังต้องเข้าใจการทำลายล้างและการสร้างใหม่... ถ้าใช้เวลานานจริงๆ  เจ้าจะอยู่คนเดียวนานๆ ได้ยังไงเสี่ยวซาน? ข้าไม่ต้องการให้เจ้าได้รับผลกระทบจากความคิดในการเข้าทดสอบนี้!  เจ้าไม่ใช่คนที่สามารถทนความเดียวดายได้  ถ้าเจ้าต้องการอยู่คนเดียวให้ได้ล้านปี  เจ้าจะกลายเป็นบ้า  ข้าไม่อาจทนดูเจ้ากลายเป็นแบบนั้นได้!  อีกจุดหนึ่งแม้ว่าเจ้าจะมีความเข้าใจอย่างถี่ถ้วน  เจ้าอาจได้รับการเปลี่ยนระดับไปเป็นเทพทันที  จากนั้นจากนั้นเจ้าจะต้องออกจากหุบเขามนุษย์เช่นเดียวกับหมิงเยี่ยกวงและสร้างประกายเทพและร่างเทพบางทีต้องใช้เวลาอีกนานมากกว่าจะกลับมา... เสี่ยวซาน เรากำลังรอเจ้าอยู่ทุกวัน เพราะเรารู้ว่าเจ้าจะกลับมาอีกแน่นอน ตอนนี้เจ้ากำลังผจญภัยผ่านด่านเจ้าคิดถึงความรู้สึกของเราบ้างหรือไม่?  ทำไมไม่ทำทีละขั้นตอน?  เราไม่จำเป็นต้องไปถึงระดับเทพในรวดเดียวได้  ตราบใดที่ทุกคนก้าวไปด้วยกันเราจะเป็นหนึ่งเดียวกัน จับมือก้าวไปพร้อมกันนี่แหละดีที่สุดแล้ว  เจ้าไม่จำเป็นต้องดูแลทุกอย่างเพียงคนเดียวและเราไม่อยากเห็นเจ้าเหนื่อยมาก!” ทัศนคติของเย่ว์หวี่นั้นมั่นคงมากนางไม่ต้องการให้เย่ว์หยางเข้าสู่โลกน้อยเพื่อฝึกฝนผ่านด่าน

“มันก็สมเหตุสมผล เจ้าควรคิดเผื่อเราด้วย”  อู๋เหินอ่อนโยนและนุ่มนวลเหมือนน้ำนางพยายามพูดดีๆ

“ข้าเองก็รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยงในตอนนี้”  องค์หญิงโล่วฮัวสนับสนุน

“....” อี้หนานและเย่ว์ปิงมองหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

ถ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่พูดอีกต่อไป  พวกนางจะสนับสนุนมติของพี่เย่ว์หวี่

ที่สำคัญเย่ว์หวี่ถูกต้อง ทุกคนทนดูเขาเข้าไปฝึกตามลำพังไม่ได้ ถ้าเป็นการนั่งๆ นอนๆ รอเป็นหมื่นปี นั่นเป็นเรื่องขมขื่นเกินไป! หุบเขามนุษย์ในปัจจุบันนี้ยังไม่ถูกทำลายยังพอมีเวลาเคลื่อนไหวโดยยังไม่ต้องลงมือทันที

ตอนนี้ไม่ใช่วินาทีสุดท้ายที่เทพปีศาจจะบุกจู่โจม  ไม่จำเป็นต้องเข้าสู่โลกไร้ที่สิ้นสุดที่น่ากลัวนั่น

ทันทีที่เข้าไปภายใน จะไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้

นี่คือเรื่องที่ทุกคนไม่เต็มใจเห็น

เย่ว์หยางดูไม่ค่อยดีนักบอกได้ว่าเขายังไม่รู้ปัญหาได้มากพอ

ลองไปปรึกษากับเสี่ยวเหวินหลีและตั่วตั่วก่อนแล้วค่อยตัดสินใจต่อไป ทัศนคติของเด็กหนุ่มข้ามโลกค่อนข้างเป็นประชาธิปไตย

ยิ่งมองเขาอย่างนี้

หลายคนยิ่งรู้สึกปวดใจมากขึ้น

ผู้ที่ต้องการช่วยเขาอย่างชัดเจนกลายเป็นอุปสรรคของเขาไปได้อย่างไร?

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยืนขึ้นทันทีและให้ความเคารพเย่ว์หยางจากนั้นนางเงยหน้าขึ้น “ความจริงข้าก็อารมณ์เดียวกับทุกคนข้าไม่ต้องการให้เขาลองเสี่ยงทดสอบตามลำพังข้าไม่ต้องการเห็นเขาแบกรับภาระทั้งหมดไว้บนบ่าคนเดียว  ข้าเป็นกังวลมากที่สุดว่าเมื่อมีคนลุกขึ้นยืนเพื่อช่วยเขาแต่ข้าไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญพอจะรับผิดชอบ ตอนนี้เทพปีศาจกำลังจะมาผู้เดียวที่สามารถช่วยเขาได้ก็คืออู๋เสียน่าเสียดายที่นางยังคงหลับอยู่ไม่มีใครน่าเชื่อถือได้!”

เมื่อทุกคนฟังอยู่ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชูกำปั้นขึ้น“ด้วยเหตุนี้ ในเวลานี้เราจึงต้องหาวิธีที่จะทำอะไรบางอย่างให้เขาแม้ว่ามันจะเป็นการแบ่งเบาภาระได้เล็กน้อย แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย! นี่ไม่ใช่การฝึกฝนของเขาในหุบเขามนุษย์เท่านั้น  แต่ยังเป็นการฝึกฝนของเราด้วย!”

ราชันย์ปีศาจใต้ดูเหมือนจะมีข้อสงสัย  “เชี่ยนเชี่ยน!  เจ้ามีวิธีการอะไรดีๆ บ้างไหม?”

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนส่ายหน้า  “ไม่!”

ขณะที่ทุกคนผิดหวัง นางเสริมคำพูดต่อ  “แต่ข้ามีวิธีที่โง่ที่สุด!”

คราวนี้ก่อนที่นางจะทันได้ตอบ นางเซียนหงส์ฟ้าก็ตอบสนองก่อนนางหัวเราะ  “ประตูเป็นตายเราใช้วิธีการของประตูเป็นตายเพื่อจำลองโลกไร้ที่สิ้นสุดของ หุบเขาโลกธาตุน้อยและหุบเขาสวรรค์น้อย  เจ้าเด็กนี่มีสนามพลังสร้างโลก..ถ้าเจ้าสามารถผ่านประตูเป็นตายได้ เจ้าก็อาจรู้แจ้งความหมายที่แท้จริงของการทำลายและการสร้างได้จากนั้นทุกอย่างก็ง่าย!”

“ข้าไม่ถนัดในการสร้างข้าคิดว่าข้าขอรับผิดชอบในการรู้แจ้งการทำลาย!”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองไปทางเย่ว์หวี่เห็นได้ชัดว่าต้องการให้เย่ว์หวี่กับอู๋เหินทำความเข้าใจในความหมายการสร้าง

“เราจะรับผิดชอบการเข้าใจด้านสร้างสรรค์เอง!” องค์หญิงโล่วฮัวดึงอี้หนานผู้มีความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณและความคิดสร้างสรรค์อย่างยอดเยี่ยมและแน่นอนเย่ว์ปิงผู้ได้รับพลังที่ไม่มีสิ้นสุดจากอักขระรูนป่าโบราณ สาวน้อยผู้นี้ไม่ถนัดในเรื่องสร้างคนหรือสิ่งของ  แต่ถ้าเป็นเรื่องพืชพันธุ์  นางนับเป็นอัจฉริยะด้านนี้

“ทำลาย สร้างนั่นเป็นสิ่งหนึ่งไม่ใช่หรือ?”  ราชันย์ปีศาจใต้รู้สึกว่านี่คือพลังของนางนางถือผีผาหยกอย่างสง่างาม

“ข้าเห็นด้วย!” แน่นอนว่าจักรพรรดินีเทียนฟาหรือนางเซียนหงส์ฟ้าก็มีความรู้สึกอย่างเดียวกัน

สำหรับพวกนางทั้งคู่บางครั้งการทำลายก็เท่ากับการสร้าง และบางครั้งการสร้างก็เท่ากับการทำลาย

ตัวอย่างเช่นองค์หญิงมังกร.ราชันย์ปีศาจใต้เมื่อสร้างสรรค์บทเพลงที่ไพเราะจับใจนั่นอาจหมายถึงการทำลายล้างศัตรูหรืออาจจำเป็นต้องทำลายชีวิตบางอย่างดังนั้นนางจึงต้องสร้างเสียงเพลงที่ไพเราะตามธรรมชาติ.....  ไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดินีเทียนฟาหรือมารกฎฟ้าการสร้างและทำลายล้างอยู่ในมือของนาง แม้ว่านางมักจะใช้พลังทำลายล้างสูงกว่าและทำให้โลกหวาดกลัวแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางก็มีพลังความคิดที่สร้างสรรค์ที่ทรงพลังเช่นกัน

เซี่ยอีและหลิวเย่ พวกนางจะอึดอัดใจเล็กน้อย

พวกนางทั้งคู่ต้องการจะช่วยบ้างสักเล็กน้อย  แต่พวกนางกลัวว่าไม่มีความสามารถมากพอ  ดังนั้นจักรพรรดินีเทียนฟาจึงไม่ได้มองพวกนาง

แนวคิดก็คล้ายกับอีกสามคนคือ จักรพรรดินีสมุทรไห่หลาน,เจ้าแคว้นมรกตไป๋ลู่และหัวหน้าลี่เยี่ยน

สำหรับการรู้ว่าตนเองไม่สามารถช่วยได้อย่างเป่าเอ๋อและมารเคราะห์ฟ้าพวกนางเกรงว่าจะทำให้ปั่นป่วนวุ่นวายมากกว่า จึงได้แต่ทำตัวเป็นเด็กดีและนั่งตั้งใจดูเหมือนเด็กนักเรียนชั้นประถมมองดูชั้นเรียนอย่างตั้งใจ

“พวกเจ้าจะนั่งเฉยทำไมกัน มาช่วยกันเถอะ!”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตะโกนลั่น

“แต่เราทำอะไรไม่เป็น!”  เป่าเอ๋อคิดว่าถ้าให้ช่วยกินซาลาเปานางคงช่วยกินได้สักสองลูก

“พวกเจ้าไม่ต้องทำอะไร เจ้าจะต้องยืนอยู่ตรงนั้นและรับผิดชอบในส่วนที่เป็นนิรันดร”

“ข้าไม่เข้าใจ!”  เป่าเอ๋อส่ายหน้ารัว

“ไม่เข้าใจ ทำโง่ไปได้ เจ้าเข้าใจมาร้อยปีแล้ว...”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนให้รางวัลนางด้วยเกาลัดเผาและลูบศีรษะเป่าเอ๋อด้วยความสงสารดวงตาโตของนางมีน้ำตาคลอเบ้าชวนให้ผู้คนสงสาร ในช่วงเวลาตึงเครียดนี้โดยไม่รู้ตัวทุกคนไม่มีเวลาว่างให้ความสนใจนางจนนางแทบจะร้องไห้ออกมา

“เกิดอะไรขึ้นเป่าเอ๋อ? ไม่เอา ไม่ร้องไห้!” ตอนนี้เย่ว์หยางกลับมาจากการพูดคุยปรึกษากับเสี่ยวเหวินหลี อาหง อาหมันตั่วตั่ว เจี้ยงอิงและสองพี่น้องเหยา-หยู เขาลูบศีรษะเป่าเอ๋อและนางโผเข้ากอดเขาถือโอกาสระบายความคับข้องใจ

“มันเจ็บ” เป่าเอ๋อจะทำตัวเอาแต่ใจเมื่ออยู่หน้าเย่ว์หยางแต่เมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลับมา นางกระโดดยืนตัวตรงยิ่งกว่าคันทวนทันที

นางไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน และยิ่งไม่กลัวเย่ว์หยางนางไม่กลัวนางเซียนหงส์ฟ้า

นางกลัวอยู่เพียงสองคน

คนหนึ่งคือแม่สี่ และอีกคนหนึ่งคือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

รอยยิ้มของแม่สี่ทำให้นางซุกซนเล็กน้อยทำอะไรไม่ถูก  และองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนนัยน์ตาแม่เสือสาวทำให้เป่าเอ๋อไม่กล้าซนต่อหน้านาง? นางกลัวถูกถลกหนัง

ไม่เพียงแต่นางเท่านั้น สาวมารเคราะห์ฟ้าจอมป่วนทำลายที่ทำให้สมาชิกวังมารต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากันทุกคนพอเห็นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน นางยังต้องเดินอ้อม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอารมณ์ไม่ดีรับประกันได้ว่านางจะต้องอยู่ให้เป็นในโลกคัมภีร์

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดถึงวิธีช่วยเย่ว์หยาง  “เราต้องการลองใช้วิธีของประตูเป็นตาย.. เราต้องให้เกิดความแน่ใจอย่างแท้จริงค่อยไปต่ออีก  เจ้าจะว่ายังไง?”

นางไม่แน่ใจว่านางจะทำได้สำเร็จ ที่สำคัญคือเย่ว์หยางเป็นเจ้าของสนามพลังสร้างโลก ไม่ใช่นาง

แม้ว่าทุกคนที่นี่จะผ่านประตูเป็นตายมาแล้ว

แต่การก้าวข้ามและผ่านประตูเป็นตายจะช่วยให้เข้าใจถึงความหมายการทำลายล้างและการสร้างสรรค์ซึ่งมีความยากระดับแตกต่างกัน  เช่นเดียวกับที่พวกเขาได้รับการฝึกฝนในประตูเป็นตาย  เย่ว์หยางได้รับการฝึกฝนในประตูเป็นตาย  และความสำเร็จและผลประโยชน์ที่พวกเขาได้รับก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เย่ว์หยางพยักหน้าตกลง “ข้าเพิ่งคุยเรื่องนี้กับเสี่ยวเหวินหลีและพวกนางจะช่วยข้าเจี้ยงอิงและตั่วตั่วจะกลับมาจากฝึกพิเศษยกเลิกการฝึกเดิมไปก่อน!” เจี้ยงอิงยิ้มเล็กน้อยและโบกมือเพื่อแสดงให้เห็นว่าเย่ว์หยางไม่เกี่ยวข้อง  ตั่วตั่วพยักหน้าให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและโปรยกลีบดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมชื่นใจเต็มท้องฟ้าสร้างโลกกลีบดอกไม้ที่สวยงามขณะที่นางพูดอย่างอารมณ์ดี “องค์หญิง!  เพราะความเห็นแก่ตัวของข้าทำให้ท่านต้องกังวลความจริงข้า เจี้ยงอิงและเสี่ยวเหวินหลีทั้งสามคนกำลังอยู่ในระหว่างฝึกฝนแต่กลัวจะกระทบอารมณ์ของท่าน ข้าจึงไม่พูดออกมา...”

เสี่ยวเหวินหลีไม่พูดอะไรเลยนอกจากจับแขนของเย่ว์หยางไว้แน่นเหมือนเคย

เจี้ยงอิงโบกมืออีกครั้ง “แม้ว่าข้าจะก้าวหน้า แต่ข้าก็ยังห่างชั้นและไม่อาจเทียบกับเสี่ยวเหวินหลีได้ ไม่อาจเทียบตั่วตั่วที่ยกระดับเป็นเทพไปแล้วข้ายังเทียบไม่ได้เลย”

“ตั่วตั่วอยู่ในระดับเทพแล้วหรือ?”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตกใจ

“ถ้าเสี่ยวเหวินหลีไม่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน  เธอยืนยันตลอดว่าจะอยู่กับนายท่านตลอดเวลาบางทีเธอคงถึงระดับเทพเร็วกว่าข้าไปแล้ว ในความเป็นจริง ข้าไม่มีความสุขกับการเข้าถึงระดับเทพต้องใช้เวลานานในการกลั่นสร้างประกายเทพไม่มีทางออกไปจากโลกคัมภีร์ได้อย่างปกติ และข้ากังวลใจมาก” ตั่วตั่วค่อนข้างถ่อมตัว แต่นางเซียนหงส์ฟ้าได้ทราบข่าวตรงๆ แล้วถึงกับพูดไม่ออก

“เจ้าเลื่อนเป็นระดับเทพตั้งแต่เมื่อใด?”  เย่ว์หยางผู้เป็นเจ้านายยังสับสนไม่รู้ตัว

“เมื่อตอนที่เราสู้กับจ้าวสุริยาข้าเกือบจะยกระดับใหม่ได้ในตอนนั้นและจากนั้นก็ยกระดับเมื่อตอนนายท่านยกระดับเช่นกัน...ความจริงข้าไม่ต้องการเลื่อนระดับเป็นชั้นเทพเร็วนัก อย่างไรก็ตามการฝึกฝนจะช้าลงเหมือนอย่างเสี่ยวเหวินหลีที่ไม่มีแรงกดดันที่จะฝ่าฟันฝึกฝนต่อไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อเสริมสร้างตนเองและสะสมความก้าวหน้าในอนาคตที่ยิ่งใหญ่กว่า!”ตั่วตั่วยิ้มให้เย่ว์หยาง  “ไม่ต้องกังวลให้ข้าใช้ดอกหนามน้อยนี้เพื่อช่วยท่าน ท่านเป็นคนที่เลี้ยงดูข้าด้วยมือตัวเองและเปลี่ยนข้าจากต้นดอกหนามที่อ่อนแอที่สุดในโลกกลายเป็นเทพธิดาบุปผาในวันนี้ ในฐานะเจ้านายของต้นดอกหนามน้อยๆท่านจะไม่รับการสนับสนุนจากข้าบ้างหรือ?”

พอนางโบกมือโลกคัมภีร์ทั้งหมดกลายเป็นทะเลดอกไม้ทันที

สร้าง!

นี่คือการสร้าง!

ชั่วขณะความคิดหนึ่งไม้ดอกหลากหลายพันธุ์ก็เติบโตขึ้นตั่วตั่วผายมือช้าๆ ดอกไม้ที่บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมและจากนั้นก็เหี่ยวเฉาและเกิดเป็นผลอ่อนนี่คือการทำลายหรือไม่? อย่างไรก็ตามการทำลายครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นตัวแทนของชีวิตใหม่!  ดอกไม้หายไปไม่เหลือ แต่ผลไม้ชีวิตเริ่มออก..คล้ายกับที่นางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้กล่าวไว้การทำลายและการสร้างเป็นอย่างเดียวกันหรือไม่?

นางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้มองหน้ากันเองอย่างหวาดๆ พวกนางยังรู้ไม่ลึกซึ้งทั้งที่เพิ่งจะพูดถึงไม่นาน

พวกนางทำแค่โบกมืออย่างตั่วตั่วและเกิดคลื่นดอกไม้งดงามโบกมืออีกครั้งดอกไม้ก็กลับมาเสื่อมโทรมอีกครั้ง

นี่คือพลังของเทพ?

แข็งแกร่งมากเหลือเกิน!

ตั่วตั่วเหมือนกับเห็นความสงสัยในใจทุกคนนางยิ้มและส่ายศีรษะแสดงให้เห็นว่าเย่ว์หยางหรือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนร่วมมือกับนาง  เมื่อเย่ว์หยางสร้างหุ่นรบจักรกลนางชี้ไปที่หุ่นจักรกลเปลี่ยนหุ่นโลหะให้เป็นกลีบดอกไม้นับไม่ถ้วนและกลีบดอกไม้ก็เหี่ยวแห้งเฉาไปในท่ามกลางสายลมและกลายเป็นดินแดงในที่สุดก็กลายเป็นหุ่นรบที่ถูกเจาะชอนไช...มองผิวเผินเหมือนกับหุ่นศึกที่เย่ว์หยางสร้างแม้แต่โครงสร้างภายในก็เหมือนกันทุกอย่าง

แต่ทุกคนเห็นว่านี่ไม่ใช่หุ่นศึกที่เย่ว์หยางสร้างอีกต่อไป

เพราะไม่มีพลังงานความคิดที่สร้างโดยเย่ว์หยางอีกต่อไป

เจ้าของมันตอนนี้คือตั่วตั่ว

ตั่วตั่วส่งสัญญาณให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้ดาบโจมตีนาง  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชักดาบจากฝักและถ่ายเทพลังปราณเข้าไปในดาบ เป็นพลังที่ทำลายฟ้าทลายดิน..  ตั่วตั่วปาดมือเบาๆ พลังปราณฟ้าก็หายไปทันทีกลายเป็นสายฝน ในสายฝนหุ่นรบธาตุโลหะกระโดดออกมาและกลายเป็นสายรุ้งภายใต้นิ้วของตั่วตั่วสะท้อนกลับไปหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

พลังที่สะท้อนกลับไปนี้เท่ากับพลังทั้งหมดที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโจมตีตามคำชี้แนะของตั่วตั่วก่อนหน้านี้

ถ้าไม่ใช่เพราะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนขวางดาบป้องกันไว้ทันเวลาเกรงว่านางอาจได้รับบาดเจ็บจากดรรชนีดาบรุ้งนี้

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกระเด็นออกไปร้อยเมตร

ทุกคนที่เห็นภาพนี้ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีมองดูหน้ากันเอง

นี่คือพลังที่แท้จริงของเทพหรือ?  ถ้าเป็นอย่างนั้นนักรบระดับเทพก็สามารถอยู่อย่างไร้เทียมทานในโลกไม่มีใครเทียบได้?

“หลังจากเข้าใจแจ่มแจ้งพลังทำลายล้างและพลังสร้างสรรค์ นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของพลังเทพราชันย์  แต่พลังยิ่งใหญ่ที่แท้จริง  แต่พลังที่แท้จริงก็ก็สามารถเป็นเอกลักษณ์ของหุบเขามนุษย์ได้นั่นจะต้องเป็นนักรบที่น่าเกรงขามที่สุดถึงจะมีเจตจำนงที่น่ากลัวที่สุด  เจตจำนงนั้นเรียกได้ว่าเป็นนิรันดรหรือเรียกได้ว่าเจตจำนงราชันย์ ภายใต้เจตจำนงราชันย์ไม่มีสิ่งใดสามารถทำลายได้และไม่มีสิ่งใดสามารถสร้างขึ้นได้ ทุกอย่างเป็นนิรันดร...ในความนิรันดรนั้น  พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือพลังนิรันดร์และเจตจำนงสูงสุดในการควบคุมสรรพสิ่ง!  ตอนนี้ข้าสามารถควบคุมพลังปราณดาบและวิธีการต่อสู้ต่างๆของท่านได้ แต่ก็มีหลายอย่างที่ยังทำไม่ได้ ตัวอย่างเช่นปราณกระบี่ของนายท่านวงจักรล้างโลก วงจักรนิรันดร สนามพลังสร้างโลกอย่างนายท่านเป็นต้นถ้าเปลี่ยนจากองค์หญิงเป็นเจ้าตำหนัก ข้าไม่สามารถควบคุมทักษะแฝงเร้นหกรับรู้และสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ของท่านได้ไม่สามารถเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างคัมภีร์อัญเชิญของท่านและอสูรพิทักษ์ ไม่สามารถเปลี่ยนให้ท่านรับเอาประตูเป็นตายเพื่อฝึกฝน บางทีข้าอาจสับสนได้แต่นั่นไม่ใช่ความนิรันดร”

“ถ้าเราต้องการแข็งแกร่งมากกว่าคนอื่น  แค่พลังเทพเท่านั้นยังไม่เพียงพอ”

“เราต้องกลั่นสร้างพลังให้เป็นประกายเทพ สร้างความนิรันดร์ เจตจำนงราชันย์ของเราจะไม่มีวันสั่นคลอน

“สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเราต้องเข้าใจว่าอะไรคือพลังเทพราชันย์นั่นคือความนิรันดร์คือความแท้จริงอย่างแรกบางทีอาจมีสิ่งที่เหนือมากกว่าแข็งแกร่งและมีความนิรันดร์มากกว่าขึ้นอยู่กับทุกคนที่แสวงหา ต้องทำความเข้าใจทักษะแฝงเร้นและตัดสินใจเลือกความสำเร็จในอนาคตของทุกคน  ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้านายข้าไม่ต้องการให้ท่านเลื่อนระดับไปเป็นเทพในทันที ในทางตรงกันข้าม เขาต้องเสริมสร้างพื้นฐานและลับความสามารถตนเองเหมือนสร้างเนินทรายจากเนินทรายเป็นกองหินและเป็นภูเขาสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า”

“ถ้าเขาใช้เวลาสั้น ก็จะไม่มีโอกาสลับฝีมือเลยเป็นไปได้ที่จะผ่านด่านด้วยความอุ่นใจ แต่ข้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ นั่นเป็นการทำลายการเติบโตของเขา”

“ตอนนี้สิ่งเดียวที่ข้าทำได้คือให้แรงบันดาลใจในการรู้แจ้งที่ข้ารู้สึกแก่พวกท่าน”

“ข้าหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อนายท่านและเป็นประโยชน์ต่อทุกคน!

ตั่วตั่วประกบมือเข้าด้วยกัน

ทั่วทั้งโลกคัมภีร์เต็มไปด้วยฝนดอกไม้อีกครั้งดอกไม้แต่ละดอกมีจิตวิญญาณและสติปัญญาราชันย์แฝง เมื่อสัมผัสร่างของคนเบาๆเหมือนกับจะบอกความลับบางอย่าง ทำให้ผู้คนที่ยังไม่ได้รู้แจ้งมีความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเย่ว์หยางได้รับแรงบันดาลใจลึกที่สุด อสูรพิทักษ์ของเขาล้วนทรงพลังไม่มีเหตุผลใดที่เจ้านายจะเป็นเพียงสวะ

ในแนวทางนี้

ตั่วตั่ว เจี้ยงอิงและเสี่ยวเหวินหลีพวกนางสามารถบรรลุด้วยตัวเองได้!

และเขาต้องทำให้ดียิ่งกว่าเพราะเขามีเทพธิดากระบี่ฟ้าคอยแนะนำ มีพี่น้องหงส์เพลิงที่มีพลังโดดเด่นคอยปกป้อง ในความรู้สึกที่ขยายออกมานี้เย่ว์หยางคำราม จิตวิญญาณขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนมุมมองจอกว้างรอบตัวและการทำลาย การสร้าง และความรู้ต่างๆที่มองอย่างตื้นเขินก็ขยายอยู่ในใจอย่างนับประมาณไม่ได้

เย่ว์หยางรู้สึกตื่นตาเป็นระยะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถรู้สึกได้  ตรงกันข้ามความรู้ขยายมากขึ้นๆเป็นการยากที่จะเลือกทางเลือกเดียว

“ปัง!”

เขารู้สึกเหมือนติดอยู่ในโลกความรู้ทางจิตวิญญาณราวกับติดยาเสพติด...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด