ตอนที่แล้วตอนที่ 1126 ข้ากลัวว่าเจ้าจะลืมข้า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1128 หนึ่งชีวิต หนึ่งจิต หนึ่งวิญญาณ

ตอนที่ 1127 แม่ผู้ฉลาดที่สุดในประวัติศาสตร์


“ทำไม?” เย่ว์หยางไม่สามารถข่มความโกรธได้เขาตะโกนใส่เทวทูตสาวผู้ถือคัมภีร์เงิน “ทำไมเป็นแบบนี้?  อธิบายให้ข้าฟัง!”

“พลังความแข็งแกร่งของนางใกล้ระดับเทพมากอยู่แล้วแต่นางยังไม่ฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บ และนางยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่ นางยังขาดพลังเทพตอนนี้พอพลังนางฟื้นฟูนางจึงเลื่อนไปเป็นระดับเทพและต้องออกจากหุบเขามนุษย์ไปโดยอัตโนมัติ”  เทวทูตสาวชุดขาวอธิบายอย่างเฉยเมย  “ในปีที่ผ่านมาประสบการณ์ของนางในหุบเขามนุษย์ทำให้นางได้ผลรับที่ดีมากมาย  ความจริงหลังจากสู้กับเทพปีศาจครั้งแรกนางอาจเห็นแสงสว่างและเลื่อนระดับได้ทันทีจากนั้นออกไปจากหุบเขามนุษย์   แต่ใจนางยังไม่อยากจากไปแม้จะพบกับความยากลำบากนางยืนกรานจะอยู่กับเจ้าต่อ อย่างไรก็ตามเจ้าควรทราบว่าผนึกในตัวนางมีขีดจำกัด  เป็นไปไม่ได้ที่นางจะรักษาสิ่งนี้ไว้ตลอดไป  และสำหรับนางการข่มบังคับพลังเอาไว้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ตอนนี้นางเลื่อนเป็นระดับเทพแล้ว การออกจากหุบเขามนุษย์นั่นเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรือ?”

“อย่างน้อยพวกเจ้าก็น่าจะให้พวกเราได้เตรียมตัวเตรียมใจกันบ้าง!” เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขามีความในใจเป็นพันคำที่อยากจะบอกกับนาง  ดังนั้นเขาได้แต่ดูนางจากไปโดยทำอะไรไม่ได้

“ความจริงแล้ว คนที่ข้าต้องการให้เข้าใจคือเจ้าไม่ใช่นาง!” เทวทูตหญิงชุดขาวผู้เป็นหัวหน้ายิ้ม

“ความสามารถในการผนึกของนางแข็งแกร่งมาก  แต่ในความเป็นจริงนางสามารถคงอยู่ได้ไม่เกินสองสามวัน  พลังเทพอยู่เหนือการควบคุมของนางไม่ว่าเราจะปรากฏตัวหรือไม่ก็ตาม ทันทีที่นางไม่สามารถควบคุมได้ผนึกจะแตกทำลายและนางจะถูกขับออกจากหุบเขา” เทวทูตสาวผู้ห้าวหาญรู้สึกว่าเย่ว์หยางไม่ควรจะพิรี้พิไรเรื่องอย่างนี้  หลังจากที่นางพูดคำนี้เย่ว์หยางค่อยรู้สึกว่าหลายวันมานี้ คุณชายหมิงจูดีต่อเขามาก เมื่อคืนที่ผ่านมานางแสดงอาการผิดปกติมากขึ้นเหมือนนางจะรู้ว่าผนึกของนางนั้นยากจะควบคุมเสียแล้ว

“เลื่อนเป็นระดับเทพเป็นเรื่องที่ดี เจ้าควรจะยินดีกับนาง”  เทวทูตสาวหน้ากลมผู้น่ารักปลอบเย่ว์หยาง

“เมื่อนางออกจากหุบเขามนุษย์  นางจะกลับไปที่ไหน?”  เย่ว์หยางถาม

“กลับสู่โลกคัมภีร์ ก่อนที่ประกายเทพของนางจะเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์นางยังต้องการเวลาอีกนานในการทำความคุ้นเคยและเสริมสร้างพลังในระดับนี้  ไม่ใช่ว่าพอเจ้าเลื่อนเป็นระดับเทพแล้ว  เจ้าจะได้เป็นเทพทันที  ในกิจที่ต้องทำหลายอย่างนี้จำเป็นต้องสร้างขึ้นอาทิ ร่างเทพ สำนึกเทพ ประกายเทพ ฯลฯ พลังเทพ บุคลิกของเทพ รวมทั้งความเชี่ยวชาญความเข้าใจอีกหลายด้านในที่สุดสิ่งเหล่านี้จะถูกสร้างในคัมภีร์เทพ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีวิธีการที่เรียกว่าเทพแท้  ขณะที่การเปลี่ยนไปเป็นเทพอย่างสมบูรณ์แบบจะมีพลังที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์สามารถไปในทุกที่ที่นางต้องการ จะห่างเป็นพันไมล์ล้านไมล์ก็ไม่ถูกจำกัดห้ามอีกต่อไป” เทวทูตหญิงชุดขาวพูดเสียงอ่อนโยนอธิบายถึงการเลื่อนเป็นระดับเทพ

“พวกเจ้าบอกได้ไหมอีกนานเท่าใดกว่าข้าจะพบนางได้” เย่ว์หยางต้องการรู้คำถามนี้ที่สุด

“บางคนจำเป็นต้องใช้เวลาหลายพันปีกว่าจะพบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่  บางคนใช้เวลาไม่กี่ร้อยปีและบางคนอาจจะสำเร็จได้ในเวลาไม่กี่สิบปี” เทวทูตสาวผู้ห้าวหาญอธิบาย

“อย่างน้อยก็หลายสิบปี...”  เย่ว์หยางพูดอะไรไม่ออกอีกเลย

คิดดูแล้วนางพญาเฟ่ยเหวินหลีเปลี่ยนมิติหลุมดำให้เป็นโลกหิมะน้ำแข็งก็ต้องใช้เวลาอีกมาก แม้ว่าจะยากลำบากอยู่บ้างในการเปลี่ยนมิติหลุมดำให้เป็นโลกน้ำแข็ง เขาคงยากที่จะเห็นหมิงเยี่ยกวงผู้ปลอมตัวเป็นคุณชายหมิงจูในช่วงเวลาสั้นๆ

ต้องบอกลากันอย่างยากลำบาก  ใครจะรู้กันว่าอยู่ด้วยกันเพียงไม่กี่วันแต่กฎสวรรค์ต้องมาพรากทั้งสองให้แยกจากกัน

คิดแล้วอยากจะบ้าจริงๆ!

ที่น่าจนใจที่สุดก็คือนางกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ไม่ได้กลับไปยังแดนสวรรค์ เป็นไปไม่ได้ที่จะส่งจดหมายรักไปหานางอีก

เย่ว์หยางหดหู่ใจอยู่นานแต่ก็ยังไม่ยอมหยุดถาม  “ข้าอยากพบนางยังมีหนทางอื่นบ้างไหม?”

เทวทูตสาวใบหน้ากลมน่ารักพยักหน้าให้ความหวังกับเขา  แต่ประโยคต่อไปของนางทำให้เขาพูดไม่ออกอีก  เพราะนางบอกเย่ว์หยางขณะยิ้ม“ตราบเท่าที่เจ้าเลื่อนชั้นเป็นระดับเทพ จากนั้นเชื่อมสำนึกเทพของนางด้วยสำนึกเทพของเจ้าเข้าด้วยกันสำนึกเทพของนางจะนำทางสำนึกเทพของเจ้า จากนั้นเจ้าก็สามารถเข้าไปยังดินแดนคัมภีร์อัญเชิญของนางได้”    คำพูดนี้แทบไม่ให้เย่ว์หยางลุกขึ้นจากพื้น  พูดดีๆถ้าเลื่อนเป็นระดับเทพมันง่ายเหมือนอย่างที่พูดคงไม่ต้องมานั่งทำความเข้าใจอย่างลำบากแน่

เย่ว์หยางไม่มีทางเลือกแต่ก็ยังถาม  “จะเลื่อนเป็นระดับเทพให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้ทำอย่างไร?”

เทวทูตสาวผู้เป็นหัวหน้ายิ้มเล็กน้อย  “ข้าไม่รู้เรื่องคนอื่น  แต่เจ้าเป็นข้อยกเว้นเล็กน้อย  บางทีเจ้าสามารถลองฝึกพิเศษได้...เจ้าเห็นคัมภีร์เงินในมือของข้าไหม?  นี่คือคัมภีร์สวรรค์และโลกน้อยที่มีความจริงภายในไม่สิ้นสุด  ถ้าเจ้าคิดว่าปลอมอย่างนั้นทุกอย่างจะเป็นภาพลวงตา ถ้าเจ้าคิดว่าจริง อย่างนั้นทุกอย่างจะกลายเป็นจริง”

เย่ว์หยางสงสัยคัมภีร์เงินในมือของนางมานานแล้วว่าเป็นทางเข้าหุบเขาสวรรค์โลกธาตุและมนุษย์!

พอได้ยินเช่นนี้ก็มีความมั่นใจมากขึ้น

เขาอยากเข้าไปข้างในและลองฝึกดู  แต่เย่ว์หยางไม่ใช่คนบ้าบิ่น

แน่นอนเขาต้องถามเรื่องสถานการณ์ภายในคัมภีร์เงินมิฉะนั้นจะเกิดอะไรขึ้น?

ในบรรดาเทวทูตสาวทั้งสามคนเทวทูตสาวผู้น่ารักจะไม่ทำให้เขาผิดหวังแน่นอน ส่วนเทวทูตสาวผู้ห้าวหาญอาจจะไม่ แต่เทวทูตสาวผู้ยิ้มอ่อนโยนนี้จะต้องระวังเขาอาจจะกลายเป็นคนตายโดยไม่รู้ตัว ถ้าเขาไม่ถามเขาไม่อาจลงมือทำได้

เย่ว์หยางคิดแล้วคิดอีกและถามอย่างระมัดระวัง  “ข้ามีประสบการณ์ผ่านประตูเป็นตายซึ่งเป็นบททดสอบภาพจริงในความลวงตาและภาพลวงตาที่กลายเป็นจริงข้าสามารถรู้วิธีแยกแยะถึงความแตกต่าง อะไรคือเงื่อนไขของการเข้าสู่โลกที่ไม่มีที่สิ้นสุดของคัมภีร์เงิน หลังจากเข้าไปแล้วจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอะไรบ้าง เพื่อแลกกับการกลับมาได้อย่างสำเร็จ

“หลังจากเข้าไปแล้วจะไม่สำเร็จและจะไม่สามารถกลับมาได้” เทวทูตสาวผู้เป็นหัวหน้าให้คำตอบที่เย็นชา  พี่สาว!โหดร้ายอะไรขนาดนั้น

“โลกไร้ที่สิ้นสุดในคัมภีร์เงินไม่มีแนวคิดเรื่องเวลาและมิติพื้นที่ เจ้าอาจอยู่ในนั้นเป็นเวลาหมื่นปีโดยไม่ได้ออกมาข้างนอกแม้แต่วินาทีเดียวหรืออาจใช้เวลาล้านปีหรือสิบล้านปีในนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเจ้าและกลับสู่ข้างนอกโดยเวลาไม่แตกต่างจากตอนที่เจ้าเข้าไปก็ได้”  เทวทูตสาวผู้ห้าวหาญอธิบาย

“ตราบใดที่เจ้าประสบความสำเร็จเจ้าสามารถออกมาได้ง่ายมาก” นี่คือคำพูดที่เทวทูตสาวหน้ากลมพูด

“แล้วจะทำให้สำเร็จได้อย่างไร?”  เย่ว์หยางอยากอาเจียนกับสิ่งที่พวกนางบอกว่าง่าย!

“เข้าใจตัวเองได้มาก  ความหมายของการทำลายและการสร้าง”เทวทูตสาวชุดขาวผู้เป็นหัวหน้าพูดเงื่อนไขการผ่านการฝึกฝนช้าๆ

“นี่ไม่ใช่เงื่อนไขของการผ่านด่านทั้งสามหุบเขามนุษย์ หุบเขาโลกธาตุ และหุบเขาสวรรค์หรอกหรือ?”  เย่ว์หยางหมดแรงจะถ่มน้ำลาย หุบเขาทั้งสามอยู่ในความควบคุมของเทวทูตสาวทั้งสาม  นักรบทุกคนในโลกนี้ล้วนแต่เขลา  พวกเขายังคงคิดว่าพวกเขาประสบความสำเร็จ  แต่ในความเป็นจริงพวกเขาเป็นคนโง่ไม่ได้สัมผัสกับหุบเขาโลกธาตุและหุบเขาสวรรค์ที่แท้จริงก็ยังไม่รู้ตัว

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไม่มีใครสามารถได้คัมภีร์เทพได้ในช่วงหลายพันปีมานี้

เทวทูตสาวทั้งสามไม่ได้เอาคัมภีร์เงินออกมาแล้วให้ผู้คนเข้าไปฝึก กฎเทพเจ้าดั้งเดิมไม่ต้องคำนึงถึงชีวิตนี้  ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงผลของการผ่านด่าน!

แม้แต่พวกที่เรียกว่าเทพปีศาจก็ยังถูกหลอกได้  สามสาวเทวทูตผ่านประสบการณ์มามากเขาไม่เคยคิดว่าการฝึกในสามหุบเขามนุษย์ โลกธาตุสวรรค์ที่น่าประทับใจจะกลายเป็นของปลอม และสามหุบเขาที่แท้กลับอยู่ในมือของผู้อื่น!

เย่ว์หยางอยากให้รางวัลด้วยการตบหน้าตัวเองดูสิว่าเขายังกล้าประเมินสามสาวเทวทูตนี้ต่ำเกินไปอีกหรือไม่...หากเขาไม่เข้าไปฝึก เขาคงไม่กล้าพูดถามเหตุผล “อะแฮ่ม.. ข้าอยากทราบเหตุผลจริงๆ ทำไมพวกเจ้าถึงบอกแต่ข้าคนเดียว?”

เทวทูตสาวผู้ห้าวหาญชื่นชมเขานางชำเลืองมองเขา “เรากำลังเชิญชวนคนที่มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จ  ไม่ใช่แค่เจ้า สิบห้าปีที่ผ่านมาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าได้เดินทางมาที่นี่และนางประสบความสำเร็จในการผ่านด่าน  แต่นางจากไปโดยไม่ยอมไปถึงระดับที่สิบบางทีนางอาจมีคัมภีร์เทพอยู่แล้วและต้องการให้โอกาสเจ้า!”

เทวทูตสาวหน้ากลมผู้น่ารักพยักหน้าเห็นด้วย  “ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว!”

เย่ว์หยางอ้าปากค้างมีคัมภีร์เทพอยู่แล้ว?

เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่าบางคนมีคัมภีร์อยู่แล้ว เขาไม่อยากเชื่อว่าคนที่มีคัมภีร์เทพอยู่แล้วจะเป็นพี่สาวของแม่สี่ซึ่งมีฐานะเป็นมารดาของเขา

“นางพญาเฟ่ยเหวินหลี และจักรพรรดิอวี้จ้านฟงก็ผ่านการฝึกฝนด้วยไม่ใช่หรือ?”  เย่ว์หยางข่มความตื่นเต้นและถามกลับ

“นางพญาผู้พิชิตผ่านด่านได้  แต่จ้านฟงไม่ได้ท้าทายผ่านด่านต่อเขาตั้งใจจะเข้าไปฝึกในหุบเขาสวรรค์ แต่ทำไมเขาไม่เข้าไปฝึกในหุบเขาโลกธาตุ? เขาต่อต้านความหมายของการทำลายที่แท้จริงจึงถอนตัวจากการทดสอบในตอนแรกเขาบอกว่าเขาจะมาทดสอบผ่านด่านอีกครั้ง แต่เขาไม่เคยกลับมา!”  เทวทูตหญิงผู้กล้าหาญรู้สึกประทับใจเขา

“เขาตายแล้ว ไม่มีทางกลับมาอีกแน่นอน!” เย่ว์หยางไม่กล้าจินตนาการถึงขอบเขตโลกไร้ขีดจำกัดว่าน่ากลัวแค่ไหน  จักรพรรดิอวี้ถึงไม่กล้าท้าทายผ่านด่าน

หรือคิดๆดูแล้วนางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็คงผ่านโลกไร้ที่สิ้นสุดที่น่ากลัวมาแล้ว

มิน่าเล่านางไม่พูดอะไรเกี่ยวกับความเป็นความตายของนางยังคงมีความลับเช่นนี้เอง

เย่ว์หยางชะงักและต้องการทำการเปรียบเทียบ “นางพญาเฟ่ยเหวินหลีและท่านแม่คนไหนฝึกได้เร็วกว่ากัน”

เทวทูตหญิงผู้น่ารักใช้มือลูบคางทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเล็กน้อย  “เวลาของนางพญาผู้พิชิตใช้เวลานานจนลืมแต่น่าจะสามพันกว่าปี แม้ว่านางจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างหนักในโลกไร้ที่สิ้นสุดแต่ความเร็วโดยรวมก็นับว่าค่อนข้างเร็ว!”

เย่ว์หยางถามต่อ  “แล้วท่านแม่ข้าเล่า?”

เทวทูตหน้ากลมผู้น่ารักชูนิ้วสามนิ้ว

“สามร้อยปี?” เย่ว์หยางถามอย่างไม่แน่ใจ

“งี่เง่า” เทวทูตหญิงผู้ห้าวหาญแค่นเสียงเย็นชา

“งั้นก็สามปี? ไม่ ไวเกินไป!”  เย่ว์หยางร้องลั่น

“สามวัน! นางเป็นผู้ที่ผ่านการทดสอบเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยภูมิปัญญาอันยอดเยี่ยมของนางไม่มีอะไรในโลกที่สามารถเอาชนะนางได้ในความเป็นจริงนางสามารถออกเดินทางได้ในสามชั่วโมงแต่เพื่อจะส่งต่อความรู้ให้กับคนรุ่นหลังนางใช้เวลาอยู่ต่อสามวัน  รวมแล้วนางใช้เวลาแค่สามวันเท่านั้น”  เทวทูตสาวผู้เป็นหัวหน้าตอบเย่ว์หยาง  เขาตกใจมากจนแทบทรุดหลั่งเหงื่อเยียบเย็น

ยอดเยี่ยมเกินไปแล้วมีแม่แบบนี้ไร้เทียมทานจริงๆ

นางพญาเฟ่ยเหวินหลียังต้องใช้เวลาสามพันปีถึงจะผ่านด่านได้นางสามารถทำได้ในสามวัน แถมยังมีเวลาเตรียมสมบัติให้คนรุ่นหลังนางด้วยนี่มันสติปัญญาแบบไหนกัน?

เย่ว์หยางรู้สึกเวียนหัวอยู่นานและในที่สุดเขารู้สึกว่าเขาถ้าเข้าไปข้างในและได้รับการบันทึกว่าช้าที่สุดในประวัติศาสตร์คงน่าละอายที่กลายเป็นลูกชายของนาง ดังนั้นเขาถามต่อ  “สถิติช้าสุดล่ะเท่าไหร่?”

เทวทูตสาวผู้ห้าวหาญตอบอย่างไม่พอใจ  “เจ้างั่งนั่นชื่อว่ามังกรปีศาจใช้เวลาล้านปี! ข้ากับพี่น้องพยายามโยนเขาออกนอกโลกไร้ที่สิ้นสุดไปหลายครั้ง  แต่น้องข้าใจดี ให้โอกาสเขาอยู่เรื่อย...”

เจ้างั่งนั่นเรียกว่ามังกรปีศาจหรือ?

เย่ว์หยางอดหัวเราะก๊ากไม่ได้  เจ้าผู้นี้ เขาอยากพบอีกครั้งดูซิว่าเขาจะทำหน้ายังไง!

ตอนนี้เริ่มตั้งไข่แล้ว  เย่ว์หยางรู้สึกว่าจะคงเป็นคนงี่เง่าอีกครั้ง  และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทดสอบนานถึงล้านปีในโลกที่ไม่มีสิ้นสุด

ถ้ามังกรปีศาจอยู่ใกล้ๆเขาจะถามความรู้สึกว่าอยู่ในโลกไร้ที่สิ้นสุดถึงล้านปี รู้สึกอย่างไรบ้าง!

มิน่าเล่าเทพมังกรทองผนึกเขาไว้แสนปีมังกรปีศาจออกมาก็ยังใจเย็นอยู่ได้

ปรากฏว่าเขาคุ้นเคยอยู่ก่อนแล้ว

เย่ว์หยางอดยิ้มไม่ได้และในที่สุดเขาโบกมือให้สามสาวเทวทูต  “ข้าจะเข้าไป  แต่รอให้ข้าคิดและเตรียมตัวก่อน   อย่างไรก็ตามถ้าทำลายสถิติเร็วที่สุดจะมีรางวัลอะไรพิเศษหรือไม่?”

“เจ้าไม่มีทางทำลายสถิติที่เร็วที่สุดได้!” เทวทูตหญิงผู้ห้าวหาญบอกกับเขาโดยตรงอย่างไม่เกรงใจ

“....” เย่ว์หยางคิดว่าแม่สาวนี่ดูถูกเหยียดหยามผู้คนเกินไป  ไม่จำเป็นต้องพูดอย่างนั้นเลยไม่ใช่หรือ?

“เป็นไปไม่ได้จริงๆที่เจ้าจะทำสถิติเหนือแม่เจ้าได้ แต่ข้าคิดว่ามีปัญญาแน่นอน  บางทีอาจไม่นานข้าเชื่อว่าเจ้าใช้เวลาไม่ถึงล้านปี!”  เทวทูตสาวน่ารักใช้คำพูดดีๆ ปลอบโยนเย่ว์หยาง

“.......” เย่ว์หยางพูดไม่ออก สติปัญญาเขาอยู่ในระดับเดียวกับมังกรปีศาจหรอกหรือ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด