ตอนที่แล้วตอนที่ 930 โง่เหลือเกิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 932 การตัดสินใจของตระกูลหัว

ตอนที่ 931 ความโกรธของตู้เค่อ


หลังจากศึกษาเพลิงศักดิ์สิทธิ์มาเป็นเวลานาน ตู้เค่อก็มีความเข้าใจสถานการณ์และใจของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม

ในสนามพลังกฎธรรมชาติ  เขาเป็นปรมาจารย์อย่างแท้จริง  และมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำให้เขาเคารพได้

คนแรกก็คือถังเทียน

พลังของถังเทียนยังไม่ถือว่าเข้าใจเรื่องสนามพลังกฎธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง  แต่ความสามารถของเขาทำลายกฎทั้งปวงได้  ถังเทียนไม่สนใจว่ากฎธรรมชาติใช้อย่างไร เขาจะใช้วิธีการที่ป่าเถื่อนและไม่สมเหตุผลดึงเอากฎออกมาใช้  ในแง่สนามพลังกฎธรรมชาติ  ถังเทียนเหมือนผู้เหี้ยมหาญ  เกราะเทพเจ้าตื่นรู้ของเขาก็คือกรงสำหรับกฎธรรมชาติ

ผู้สร้างเพลิงศักดิ์สิทธิ์เดินตามทางอีกแนวหนึ่งการเปลี่ยนกฎธรรมชาติและพลังงานในมือของเขาทำให้คนอื่นทึ่ง เขาเป็นเหมือนผู้วิเศษแห่งสนามพลังกฎธรรมชาติ เขาดึงกฎธรรมชาติและพลังงานเข้ามาอยู่ในเงาและเปลี่ยนมันเป็นของตัวของเขาเอง  และด้วยน้ำมือของเขาเอง  เขาไปถึงจุดสุดยอด  กฎธรรมชาติเทียมพลังงานกลวงสร้างความอัศจรรย์ได้เหมือนกับเวทมนตร์  และปล่อยความรู้สึกที่งดงามจนอธิบายไม่ถูก

ตู้เค่อถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าเทียบกับแรงไร้เหตุผลและความป่าเถื่อนของถังเทียนแล้ว เพลิงศักดิ์สิทธิ์ยังบรรจุไปด้วยความงดงามและและความละเอียดประณีตที่เขารักและชื่นชมมากกว่า ความงดงามของเพลิงศักดิ์สิทธิ์เป็นผลมาจากการทดลองหลายพันครั้ง ใครจะคาดคิดกันว่าผู้สร้างจะต้องใช้ความพยายามไปมากมายเพียงไหนจึงจะสร้างขึ้นมาได้

จากนั้นเขาตระหนักได้ว่าเขาประเมินวิหารกวงหมิงต่ำเกินไป และส่วนลึกของวิหารยังมีผู้ที่คู่ควรแก่การเคารพบูชาอย่างแท้จริง

แต่ในที่สุด เขาก็ยังเป็นบุรุษผู้ได้รับการรู้แจ้งสนามพลังกฎธรรมชาติ  และหลังจากได้ทราบหลักการที่ชัดเจนขึ้น  เขาสามารถโต้แย้งได้  ด้วยพลังของสนามพลังกฎธรรมชาติ  เขายืนอยู่บนพื้นที่ไร้เทียมทาน  ในสนามพลังกฎธรรมชาติ  เขาคือพระเจ้า

เพลิงศักดิ์สิทธิ์คือรูปแบบสภาวะระหว่ากฎธรรมชาติและพลังงาน แต่สุดท้ายมันก็ไม่พ้นไปจากทฤษฎีลึกซึ้งของกฎธรรมชาติและพลังงาน

ชั้นของเปลวเพลิงแดงทะลักอยู่โดยรอบตัวเขา  แต่เมื่อเวลาผ่านไป เพลิงแดงค่อยๆ หมองลงกลายเป็นเพลิงแดงเลือนราง จนกระทั่งกลายเป็นไม่มีสีสัน  เปลวเพลิงกลับกลายเป็นไรสีสัน และมีพลังลุกไหม้เลือนรางจนแทบจะดับได้ทุกเมื่อ  และไม่ปลดปล่อยความอบอุ่นแต่อย่างใด นี่คือเปลวเพลิงที่ตู้เค่อจับมาจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าสภาวะสมดุลของมันจะไม่น่าทึ่งเท่ากับเพลิงศักดิ์สิทธิ์แต่ในเนื้อแท้ทั้งสองไม่มีความแตกต่างกัน

มันใช้กฎธรรมชาติเทียมอยู่ภายในแกนกลางและมีพลังงานกลวงเช่นกัน

ตู้เค่อไม่ยินดี  เทียบกับเพลิงศักดิ์สิทธิ์ทองแล้ว เปลวเพลิงที่ไม่มีตัวตนนี้ซึ่งเขาเลียนแบบมายังหยาบมาก  ‘ใช่แล้ว นี่คือวิธีที่ดีที่สุดที่ข้าสามารถทำได้ในตอนนี้  เมื่อการสู้รบจบลง  ข้าจะค่อยๆ เรียนรู้และค้นคว้าดู’

ด้วยร่างกายของเขาที่คลุมไปด้วยเพลิงโปร่งใส  ตู้เค่อวิ่งเข้าไปในทะเลเพลิงศักดิ์สิทธิ์ทอง

เพลิงศักดิ์สิทธิ์ทองถูกเพลิงใสรอบตัวเขากันเอาไว้  ข้อสันนิษฐานของเขาถูกต้อง  เขาไม่รู้สึกกดดันจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์  พวกมันมีกลิ่นอายที่คล้ายกัน ซึ่งป้องกันไม่ให้เพลิงศักดิ์สิทธิ์โจมตีตู้เค่อ เพลิงศักดิ์มองดูเพลิงไร้ลักษณ์รอบตัวตู้เค่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์เดียวกัน

ความคิดของตู้เค่อไม่อาจนับว่าแยบยล  แต่ก็ง่ายและตรง  และใครๆ ก็สามารถพูดถึงปมได้เมื่อมองเห็น ผู้สร้างเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่ลืมความคงอยู่ของแดนบาปอย่างเห็นได้ชัด และเป้าหมายของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ก็คือพลังงานและกฎธรรมชาติ แต่ผู้สร้างไม่เคยคาดว่าจะมีคนผู้คลี่คลายความลับของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างรวดเร็วนัก  และทั้งยังพบจุดอ่อนข้อบกพร่องของมัน

ตู้เค่อบินไปโดยไม่ซ่อนตัวจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งไปได้ไกลเท่าที่เขาสามารถเห็นได้

ขณะที่เขาบินอยู่นั้นท่าทางสบายใจหายไปจากใบหน้าของตู้เค่อ กลับกลายเป็นความเครียดเข้ามาแทน เขามีความคิดว่าวิหารใช้เพลิงศักดิ์สิทธิ์ผนึกแค่อ่าวพลังงาน  แต่เขาตระหนักได้โดยเร็วว่าปริมาณเพลิงศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นกว่าที่เขาคิดเสียอีก เมื่อเขาเข้าไปในเพลิงศักดิ์สิทธิ์ของอ่าวพลังงานและเสาเพลิงที่ยื่นขึ้นไปในท้องฟ้า หน้าของเขาเปลี่ยน

เขาไม่เคยคาดว่าฉากภาพที่อลังการจะปรากฏอยู่ในทวีปเซียน  ‘ฝีมือของวิหารน่าทึ่งอย่างแท้จริง’

ยิ่งเขาบินลึกเข้าไปก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ ไม่มีใครจากวิหารออกมาสงสัยในตัวเขา กลับมีแต่เมืองที่เปลี่ยนเป็นเมืองผีแทน และไม่มีใครอยู่เลย  โดยรอบเขาสามารถเห็นกำแพงพังทลายและเสาหลอมละลายเนื่องจากอุณหภูมิที่สูง  มีจำนวนเพลิงศักดิ์สิทธิ์มากมายลอยขึ้นท้องฟ้าทั้งหมดดูคล้ายปุยดอกแดนดิไลออนเต็มท้องฟ้า

‘เกิดอะไรขึ้นในทวีปเซียนนี้กันแน่?’

หัวใจของตู้เค่อเต็มไปด้วยความตกใจ  ‘หรือว่าเกิดการสังหารหมู่ที่นี่?’

เขาเงยหน้าและมองดูเสาเพลิงที่ไหลส่งเพลิงศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปในท้องฟ้า และที่ประกายเพลิงที่คล้ายปุยดอกแดนดิไลออนรอบตัวเขาทั้งหมด สายตาของเขาเห็นเพลิงศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากกำลังลอยล่อง  พวกมันไม่ใหญ่ ส่วนใหญ่มีขนาดเท่านิ้วมือและใหญ่ที่สุดไม่เกินขนาดกำปั้น แต่มีจำนวนไม่สุดสิ้นเหมือนทรายในทะเลทรายไม่สามารถนับได้

ตู้เค่อจ้องมองเพลิงศักดิ์สิทธิ์อย่างงงงวย  ‘เพลิงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดนี้เล็กมากซึ่งก็หมายความว่าระดับของนักสู้ยังอยู่ในระดับต่ำมาก  แต่ว่าเพราะมีมากมาย...’

ทันใดนั้นความคิดน่ากลัววาบผ่านเข้ามาในใจของเขา  ‘เป็นไปได้หรือว่า...’

ตู้เค่อรู้สึกความหนาวยะเยือกแล่นตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงหลังศีรษะผมขนทุกส่วนในตัวลุกชันโดยมิได้ตั้งใจ หลังจากกลับมายังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  เขามักคิดว่าพลเมืองชาวดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จะใช้ชีวิตที่ปลอดภัยและโชคดี  และรู้สึกว่าพลเมืองของแดนบาปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย  แต่ฉากภาพข้างหน้าสลายความประทับใจไปจากเขา

‘นี่มันเกินไป...อำมหิตเกินไป!’

เขาเคยเห็นความโหดร้ายในแดนบาปมาแล้วทุกอย่าง แต่ยังไม่อาจเทียบได้กับฉากภาพที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าเขาซึ่งทำให้เขารู้สึกกลัว เขาไม่สามารถเทียบกับอะไรได้ คนบ้าคลั่งแบบไหนจึงสามารถทำเรื่องที่น่ารังเกียจและอำมหิตโหดร้ายแบบนี้ได้?

หลังจากตกใจและกลัว  สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งเครียด

‘ถ้าข้ายังประมาทและไม่สนใจศัตรูที่เสียสตินี้ต่อไป เป็นไปได้ว่าข้าอาจจะกลายเป็นขุดหลุมฝังศพให้ตนเอง’

ตู้เค่อเร่งความเร็วมองหาสัญญาณของถังเทียนไปทั่วทุกที่ เขาเชื่อหนักแน่นว่าถังเทียนจะยังไม่พ่ายแพ้ง่ายๆ  แม้ว่าเพลิงศักดิ์สิทธิ์จะมีความโดดเด่น  แต่ถังเทียนไม่ใช่นักสู้ที่อ่อนแอแน่นอน ตู้เค่อไม่เคยเห็นนักสู้ที่แข็งแกร่งระดับถังเทียนมาก่อน  นอกจากนี้ ถังเทียนยังมีความเป็นอัจฉริยะโดยธรรมชาติเมื่อเข้าสู่การต่อสู้  เขาจะมีสัญชาตญาณเหมือนสัตว์ร้าย และด้วยความใจเย็นและจิตใจที่มั่นคงในการสู้รบ  เขาถือว่าเป็นเครื่องจักรนักสู้ที่แข็งแกร่ง

ถังเทียนอาจจะแพ้ในแง่ความลึกซึ้งหรือขอบเขต แต่ในการสู้รบจริงที่ซึ่งเต็มไปด้วยคมหอกคมดาบ ตู้เค่อเชื่ออย่างหนักแน่นโดยไม่ลังเลเลยว่าถังเทียนจะมาถึงจุดสุดยอดเหมือนเขาได้

ตู้เค่อสูดหายใจลึก  ราวกับว่ามีเพลิงสุมอยู่ในใจเขา

เขาปรารถนาให้ถังเทียนชนะ และเขาต้องการจะมีส่วนร่วมสู้กับถังเทียนด้วยเสมอ  พลเมืองทวีปเซียนก็เป็นเหมือนลูกหลานวิหารไม่ว่าพวกเขาจะเป็นหรือตายไม่มีความสำคัญกับเขา แต่เขาก็ยังโกรธอยู่ดี

นั่นเป็นความโกรธที่สมควรซึ่งออกมาจากส่วนลึกของหัวใจเขา

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเพลิงทองปลดปล่อยรัศมีที่ศักดิ์สิทธิ์  แต่มันทำให้ตู้เค่อรังเกียจ

************************

คำสั่งสูงสุดของสัมพันธมิตรใต้

“เวลาโจมตีเต็มกำลังมาถึงแล้ว”

ปิงแตกต่างจากปกติ  เขาไม่คาบบุหรี่อีกต่อไป  เขายังอยู่ต่อหน้าแผนที่มีสีหน้าเคร่งเครียด สายตาของเขากวาดมองแม่ทัพนายกองต่อหน้าเขา ส่วนใหญ่ยังหน้าอ่อนวัยไร้เดียงสา แต่เด็กหนุ่มทั้งหมดเหล่านี้เป็นทหารผ่านศึกมาแล้วและเชี่ยวชาญในสนามรบ  พวกเขาอุดมไปด้วยประสบการณ์ต่อสู้และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดี ทั่วทั้งดาราจักเซียนศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครกล้าดูแคลนพวกเขา

สายตาของพวกเขาเป็นประกายตื่นเต้น  แต่หน้าของพวกเขายังคงมั่นคง

เซี่ยอวี่อันมีความคิดลึกซึ้ง ครั้งล่าสุดเขารู้สึกได้ว่าอารมณ์ของท่านปิงไม่ถูกต้องและเขาได้รับการคาดการณ์ยืนยัน สำหรับเขาเวลาโจมตีเต็มกำลังก็ยังไม่ถูกต้อง  ม่อซิน ชิวซิ่วหัวและโกวเฉิงเวิ่นเต้ายังมีความวิตกต่อกันอยู่  แต่พวกเขายังไม่สามารถควบคุมตนเองไว้ได้

การขัดแย้งภายในของวิหารเป็นเหตุให้เกิดความไม่สงบอย่างรุนแรง การปลุกเร้าจากความขัดแย้งมุมมองที่แย้งกันยังต้องใช้เวลา  และถ้าพวกเขามีการเคลื่อนไหวของตนเอง  พวกเขาจะสามารถบังคับศัตรูที่ถูกทำลายไปแล้วให้รวมตัวกันอีกครั้ง

เซี่ยอวี่อันเชื่ออย่างมั่นคงว่าเขาสามารถเห็นได้  ท่านปิงคงจะเห็นได้เช่นกัน  แต่ปิงยังคงทู่ซี้ทำต่อและเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่ฝืนทน  ในสัมพันธมิตรใต้มีเพียงคนเดียวที่สามารถทำให้ปิงตัดสินใจเช่นนั้น และนั่นก็คือผู้นำสัมพันธมิตรใต้ ถังเทียน!

เซี่ยอวี่อันสามารถคาดเดาได้ว่านายท่านถังเทียนอาจจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ขณะที่ปิงวางแผนใช้การโจมตีเต็มกำลังเพื่อดึงความสนใจของทวีปกวงหมิงลดแรงกดดันให้ถังเทียน

เขาไม่พูดอะไรแต่สนับสนุนการตัดสินใจของปิง  แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบัน  ยังไม่เหมาะสำหรับโจมตีเต็มกำลัง  แต่ความสำคัญของนายท่านถังเทียนมีน้ำหนักเกินกว่าจะสูญเสียได้

ระยะเวลาของการหายไปของถังเทียนทำให้ปิงจัดการแผนงานประจำวัน เกี่ยวกับงานประจำวันของปิงมีระบบงานที่ละเอียดและเป็นแบบแผนบังเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนและกำลังของสัมพันธมิตรใต้ก็มีคุณภาพแบบก้าวกระโดด  เทียบกันแล้วนายท่านถังเทียนดูเหมือนไม่คงอยู่ แต่สมาชิกหลักของสัมพันธมิตรใต้รู้ว่าถังเทียนอาจถูกแทนที่ในสัมพันธมิตรใต้ได้ไม่ว่าปิงจะดำเนินการได้ดียังไง เขาไม่สามารถแทนที่นายท่านถังเทียนได้

แม้ว่าถังเทียนไม่ได้อยู่ใกล้ๆ แต่อิทธิพลของเขาที่มีต่อสัมพันธมิตรใต้ไม่เคยหยุดนิ่งทุกคนรู้ว่าท่านปิงมีการเชื่อมโยงติดต่อกับนายท่านถังเทียนด้วยวิธีการลับๆ

นายท่านปิงเป็นผู้บัญชาการที่โดดเด่น  แต่ไม่ใช่ผู้นำที่โดดเด่น

เมื่อคิดได้เช่นนั้นเซี่ยอวี่อันรู้สึกงงทันที  ‘ปกติ, ข้าไม่รู้สึกว่านายท่านถังเทียนคงอยู่เลย แต่ทำไมข้าถึงคิดว่านายท่านถังเทียนเป็นผู้นำที่ดี?’

ไม่มีความสงสัยเลยว่าถังเทียนมีความสำคัญของต่อสัมพันธมิตรใต้และเพื่อประโยชน์ของเขา เป็นการยอมรับได้ถ้าพวกเขาจะสูญเสียไปบ้างสองสามกองทัพ  แต่ถ้ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับนายท่านถังเทียน ไม่ว่าพวกเขาจะได้เปรียบในสมรภูมิมากเพียงไหน  ก็ไม่มีประโยชน์ต่อสถานการณ์

นอกจากนี้เซี่ยอวี่อันคาดเดาว่าเขาไม่เคยบอกใครในข้อสงสัยว่านายท่านถังเทียนคงแทรกซึมเข้าทวีปกวงหมิงไปแล้ว  เขาเดาได้จากร่องรอยสองสามอย่าง ตัวอย่างเช่นท่านปิงส่งกองทัพเข้าสมรภูมิตั้งใจดึงดูดความสนใจของทวีปกวงหมิง เขามีความรู้สึกว่าถ้านายท่านถังเทียนอยู่ในทวีปกวงหมิงเขาคงก่อกวนทวีปกวงหมิงจนปั่นป่วนอย่างสิ้นเชิง

‘เอาล่ะ,บางทีข้าคงคิดมากเกินไป....’

เซี่ยอวี่อันทิ้งควมคิดที่ซับซ้อนออกไปทั้งหมดจากใจและเพ่งความสนใจและสมาธิกลับไปที่สมรภูมิ ใจของเขาทำงานอย่างรวดเร็ว  แม้เมื่อเขาอยู่ในแนวหลัง  เขาก็ลอบติดต่อกับแนวหน้า แม้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดีที่สุดในการบุกโจมตีเต็มกำลัง  แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครคิด  นอกจากนี้ เท่าที่เห็นศัตรูอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากมาก ถ้าพวกเขาไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้ พวกเขาอาจเป็นต้นเหตุกระตุ้นให้ทวีปกวงหมิงล่มสลายก็เป็นได้

ภายในสายตาที่สงบของเขายากจะมองเห็นแววความตื่นเต้นได้และเลือดลมในตัวเขาเริ่มพลุกพล่าน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด