ตอนที่แล้วตอนที่ 911 ต้นทุนเจรจาต่อรอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 913 สมคบคิด

ตอนที่ 912 แววตกต่ำของวิหาร


“ถึงเวลาหงายไพ่ของเราบนโต๊ะแล้ว”  หัวหลิวซางมองเมืองหิมะขาวที่อยู่ห่างไกล  หน้าของเขามีแววจริงจัง  “ถ้ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์เลือกเข้าร่วมกับวิหาร  เราจะใช้มาตรการอะไรจัดการ?”

ตาของทุกคนหันไปมองซาดรา  เขาคือผู้นำของกลุ่มพันธมิตรอย่างชัดเจน

“อย่างนั้นเราจะทำลายพวกเขา”  ซาดราพูดโดยไม่ลังเล  เขาพูดอย่างใจเย็น  “เราจะทุ่มเทกำลังของเราเต็มที่ทำลายพวกเขา”

ทุกคนพยักหน้าของพวกเขา  ถ้ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์เลือกวิหาร พวกเขาจะเป็นภัยคุกคามต่อสี่ตระกูลใหญ่อย่างใหญ่หลวง  และไม่ว่าพวกเขาจะต้องทุ่มเทกำลังมากมายเพียงใด  พวกเขาต้องทำลายกลุ่มการค้าตระกูลเมซฟิลด์ให้ได้

ดังนั้น พวกเขาจึงนำกองทัพของพวกเขากองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดของสี่ตระกูลใหญ่ มาควบคุมเมืองหิมะขาว

เมืองหิมะขาวถูกวางกำลังไว้และตกอยู่ในสภาพกดดันอย่างอธิบายไม่ถูก  อำนาจของสี่ตระกูลใหญ่ครอบคลุมท้องฟ้าทวีปเซียน

เทียบกับพฤติกรรมที่บีบบังคับของตระกูลชั้นสูงแล้ว  การกระทำของวิหารดูเหมือนอ่อนแอกว่ามาก  การกระทำของโซเฟียที่กวาดล้างค่ายตระกูลชิวด้วยกองอัศวินกวงหมิงไม่ใช่แค่เรื่องระบายความโกรธของนาง เกือบทั้งหมดของผู้อาวุโสของวิหารถูกระดมเรียกตัวมาทั้งหมด พวกเขาถูกส่งไปยังสถานที่ต่างของทวีปเซียนเพื่อสร้างการเชื่อมโยงกับกองทัพต่างๆและเตรียมพร้อมสำหรับความพยายามสุดท้ายของพวกเขา

แต่สิ่งที่คนอื่นเห็นก็คือสัตว์ร้ายที่ดิ้นรนพยายามเป็นครั้งสุดท้าย  ประมุขตระกูลใหม่ทั้งหมดผู้ถูกถามหาต่างก็รับคำ  แต่ในความเป็นจริง กลับย่อหย่อนในการกระทำ

วิหารมีอำนาจต่อรองน้อยเกินไปจริงๆ  นอกจากอัศวินกวงหมิงแล้ว  พวกเขาไม่มีอะไร  เจียย่าประจำการอยู่ที่ทวีปเว่ยเย่กวน  และไม่ชัดเจนว่ามู่จื่อเสียตายแล้วหรือว่ายังอยู่และกองทัพหลวงของวิหารก็อยู่ในภูมิภาคใต้ทั้งหมด สำหรับนายพลโทของทวีปกวงหมิง พวกเขาล้วนโยงใยเกี่ยวข้องกับตระกูลชั้นสูงในหลายทางและทัศนคติของพวกเขายังคลุมเครือ

วิหารที่ทรงอำนาจสามารถพึ่งพาได้แต่เพียงตระกูลชั้นสูงใหม่  แต่การเพิ่มขึ้นของตระกูลชั้นสูงใหม่ซึ่งเป็นเรื่องที่หละหลวมและซับซ้อนยังคงมีความคิดที่ซ่อนเร้น  กองทัพของพวกเขาอ่อนแอและพวกเขายังขาดความน่าเชื่อถือ  สิ่งที่ร้ายแรงมากกว่าก็คือพวกเขากังวลกับสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของวิหาร

หลายๆ ตระกูลชั้นสูงใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาลอบก่อตั้งความเป็นพันธมิตรกับสี่ตระกูลชั้นสูง

แม้จะรู้ความจริงว่าอาจเป็นเรื่องไม่ดีสำหรับพวกเขาถ้าตระกูลชั้นสูงชนะ แต่พวกเขารู้ว่าพวกเขาจะสามารถรอดอยู่ได้โดยยืนเคียงข้างผู้ชนะ

ความขัดแย้งกันระหว่างตระกูลชั้นสูงได้เพิ่มขึ้นและการเอาใจออกห่างและอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับวิหารไม่ใช่เรื่องลับอีกต่อไป

วิหารตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย  เนื่องจากพวกเขาตกต่ำลงทุกที

วิหารมีแนวโน้มตกต่ำแต่ยังได้เปรียบตระกูลระดับสูงเอาชนะใจกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ได้หรือ?

การตกต่ำครั้งนี้ขนาดที่ผู้อาวุโสซีอุสถึงกับปรากฏตัวในเมืองหิมะขาวตามลำพัง

บนถนนว่างเปล่าร่างเดียวดายของผู้อาวุโสซีอุสมองเยือกเย็น ไม่มีการรักษาความปลอดภัยที่หนาแน่นรอบตัวเขา  ไม่มีพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่  ไม่มีคนมายืนคำนับเขาหรือมีแสงฉายลงมาที่ตัวเขา

ทุกคนที่ได้เห็นภาพเช่นนี้ก็คงรู้สึกท้อแท้

เป็นวิหารที่สร้างทวีปกวงหมิง วิหารที่ดำรงตำแหน่งถืออำนาจปกครองโดยไม่ถูกทำลายมานานหลายปี  ดูเหมือนว่าจะพังทลายลงเหมือนตึกในชั่วค่ำคืน

ในท้องฟ้าโฮลอดยิ้มอย่างช่วยไม่ได้  “วิหารรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถชิงคนไปจากเราได้และส่งซีอุสมาเพียงลำพัง

หัวหลิวซางและม่ออี้กู่ยิ้ม พลังของกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ลึกล้ำยากจะหยั่ง  เว้นแต่พวกเขาถูกบังคับพวกเขาจะไม่มีทางทำสงครามกับพวกเขา และถ้ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์เข้าร่วมเป็นพันธมิตร  การล่มสลายของวิหารจะเป็นเรื่องของเวลา

ตาของซาดราเป็นประกายดูจริงจัง  “อย่าประมาท”

ม่ออี้กู่หยิ่งผยอง “ท่านยังคิดว่าวิหารยังจะมีกลอุบายอย่างอื่นอีกหรือ?”

“ฮ้า!” หัวหลิวซางมีสีหน้าเหยียดหยาม “วิหารจบสิ้นแล้ว เวลาของพวกเขามาถึงแล้ว ดูซีอุสที่เงียบปิดปากไม่พูดแล้วตอนนี้ข้ารู้สึกดีใจจริงๆ ปกติเขามักจะหยิ่งยโส เขากับวิหารก็เหมือนกันนั่นแหละ”

ซาดราส่ายศีรษะ “พวกเจ้าทุกคนลืมไปคนหนึ่ง”

โฮลสะดุดเล็กน้อย จากนั้นถาม“ประมุขผู้อาวุโสหรือ?”

หัวหลิวซางยิ้มแหยๆ เขาฝืนตัวยิ้ม  “พวกเจ้าก็คิดมากเกินไป  ประมุขผู้อาวุโสทรงพลังมาก  ข้ายอมรับเรื่องนั้น  แต่ข้าไม่เชื่อว่าแค่ลำพังประมุขผู้อาวุโสจะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ทั้งหมดได้”

ม่ออี้กู่พยักหน้า  “ถูกแล้ว แม่ครัวที่ฉลาดที่สุดย่อมไม่ทำอาหารโดยไม่มีข้าว เขาไม่มีไพ่ไว้เล่นแล้วเขาจะสู้ได้ยังไง?”

ซาดราพูดอย่างเฉื่อยชา  “หวังว่าข้าคงจะคิดมากไป”

ความกังวลของเขาไม่เพียงแต่ไม่ลดลง  แต่ยังเพิ่มขึ้น  เขาแตกต่างจากพวกที่เหลือ  เนื่องจากเขารู้สึกประมุขผู้อาวุโสมาก่อน และมีความเข้าใจต่อประมุขผู้อาวุโสอย่างลึกซึ้ง  เขารู้ว่าประมุขผู้อาวุโสทรงพลังแค่ไหน  แม้ว่าเขาจะไม่ปรากฏตัวบ่อยนักก็ตาม

ตั้งแต่เริ่มต้นซาดรากังวลถึงประมุขผู้อาวุโสเป็นที่สุด คนที่ไม่เคยมีความรู้สึกว่ามีความคงอยู่ และไม่ใช่โซเฟีย หรืออัศวินกวงหมิง

แต่เขารู้ว่าไม่มีประโยชน์กับการพูดมากเกินไปและเขาทำได้แต่เพียงระมัดระวัง การวิเคราะห์สถานการณ์ต่อหน้าเขา แม้ว่าจะรอบคอบและมองการณ์ไกลแล้วก็ตาม แต่เขาไม่สามารถคิดออกว่าวิหารจะกลับมาได้อย่างไร แต่เขารู้ว่าประมุขผู้อาวุโสไม่ใช่คนที่ยอมแพ้หรือยอมรับความพ่ายแพ้

โฮลเลิกดีใจและกล่าว  “ข้าจะไปทดสอบเขาดู”

ไม่มีในพวกเขาที่เป็นคนธรรมดาและพวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่อาจประมาทได้จนกว่าทุกอย่างจะจบลง การสู้รบจะเป็นตัวกำหนดว่าตระกูลของพวกเขาจะอยู่หรือตาย  ถ้าพวกเขาชนะ พวกเขาจะกลายเป็นเจ้าทวีปกวงหมิงอย่างแท้จริง  และถ้าพวกเขาแพ้ ตระกูลของพวกเขาจะติดตามพวกเขาดิ่งเหวจมสู่การสาปแช่งนิรันดร์

ซีอุสเดินไปตามถนน  เขากลัว เมืองหิมะขาวถูกศัตรูครอบครอง  และเขารู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนลูกแกะที่เดินเข้าถ้ำเสือ  แต่เขาต้องทำให้ได้  เพราะเป็นคำสั่งของประมุขผู้อาวุโส

เขายังคงเค้นสมองของเขาต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถเข้าใจความหมายของประมุขผู้อาวุโส แม้ว่าเขาเขาจะโน้มน้าวให้กลุ่มการค้าเมซฟิลด์ให้ร่วมกับวิหาร  ศัตรูก็จะไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป

นอกจากนี้ ซีอุสไม่มีความมั่นใจในเงื่อนไขที่พวกเขาสามารถเสนอได้ เขาไม่เข้าใจคำสั่งของประมุขผู้อาวุโสแม้แต่น้อยทางวิหารได้ระดมสถานที่ต่างของทวีปเซียนตามคำสั่งของประมุขผู้อาวุโส ซีอุสเห็นว่าเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ซึ่งมีแต่จะทำให้คนอื่นเห็นว่าวิหารสูญเสียการควบคุมสถานการณ์เพียงไหน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการกระทำอย่างนั้นนั่นคล้ายกับกางข่าย ซีอุสคิดว่าพวกเขาอาจพิจารณาทุ่มกำลังโจมตีและทำลายกตรกูลกลุ่มการค้าเมซฟิลด์

‘กลุ่มการค้าเมซฟิลด์ก็คือทุนต่อรองสุดท้ายที่ข้าสามารถได้’

แต่ประมุขผู้อาวุโสไม่สนใจคำแนะนำของเขาและยังคงดื้อรั้น

ซีอุสเต็มไปด้วยความเศร้าใจ  เขารู้สึกว่าวิหารตกอยู่ในอันตรายจริงๆ  ‘บางทีครั้งนี้หรือว่าข้าจะตายในเมืองหิมะขาว’ เขาเต็มไปด้วยอารมณ์แง่ลบ

ทันใดนั้น ตาของเขางุนงง ร่างๆหนึ่งปรากฎตัวขวางทางเขาไว้

เขาเงยหน้าและจำได้ว่าเป็นโฮล

โฮลหัวเราะ “ทำไมผู้อาวุโสถึงมาที่นี่ตามลำพังเล่า หรือว่าวิหารไม่กังวลห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้อาวุโสซีอุส?  หรือว่าท่านคิดว่าดาบในมือของเราไม่คมพอ?และเราไม่สามารถตัดศีรษะของผู้อาวุโสได้?”

ซีอุสทิ้งอารมณ์แง่ลบทั้งหมดออกไปจากใจและพูดอย่างสงบ  “ไม่ว่าเจ้าจะสามารถฆ่าข้าได้หรือไม่ รอจนกว่าข้าพบกับผู้อาวุโสซิ่นก่อน ข้าเชื่อว่าผู้อาวุโสซิ่นมีการตัดสินใจที่ถูกต้องเอง”

โฮลแค่นเสียง “ดูจากท่าทางของท่าน ท่านไม่ได้ต้องการมาพบผู้อาวุโสซิ่นเลย”

ซีอุสหัวเราะ “หรือว่าเจ้าสามารถทำการตัดสินใจแทนผู้อาวุโสซิ่นได้?  ข้าว่าผู้อาวุโสซิ่นคงเห็นด้วยกระมัง”

โฮลสะดุ้ง เขามีความกลัวผู้อาวุโสซิ่นอย่างมาก เขาไม่กล้าขวางซีอุสและห้ามเขาไม่ให้พบกับผู้อาวุโสซิ่น

คำพูดของผู้อาวุโสซิ่นและความตั้งใจของเขาชัดเจนเขาต้องการให้พวกเขาเตรียมคุณค่าพร้อมกัน ในสถานการณ์ที่เขาได้เปรียบ  เป็นเรื่องไร้เหตุผลมากกับการตอแยผู้อาวุโสซิ่นและกลุ่มการค้าเมซฟิลด์  นอกจากนี้ไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น โฮลไม่เชื่อว่าวิหารจะยื่นข้อเสนออะไรที่ดีกว่าพวกเขา

การมาโดยลำพังของซีอุสคือข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด

โฮลเปิดทางให้ และแสดงท่าทางสุภาพ  “เราไปด้วยกัน”

ซีอุสสูดหายใจลึก จากนั้นเดินต่อ

***************

กลุ่มการค้าเมซฟิลด์

จี๋เจ๋อมองอาซิ่นด้วยสายตาเหลือเชื่อ  “เจ้าหยุดทำตัวแบบนี้ได้ไหม?เจ้าอย่าทำตัวเหลวไหลในช่วงเวลาสำคัญแบบนั้นดีกว่า คุณหนูเสี่ยวม่านคงไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”

เสี่ยวม่านที่มุมห้องแค่นเสียง  แต่นางพอใจกับคำว่า “คุณหนูเสี่ยวม่าน”ของจี๋เจ๋ออย่างเห็นได้ชัด

อาซิ่นมองดูจี๋เจ๋ออย่างเหยียดหยาม“เจ้าคิดแทนข้าหรือ?  มา มาเรียกข้าว่าผู้อาวุโสซิ่นอย่างว่าง่ายเสียดีๆ”

จี๋เจ๋อแค่นเสียงจากนั้นเบนหน้าหนี  “คุณหนูเสี่ยวม่านเขาให้ข้าเรียกเขาว่าผู้อาวุโส”

เสี่ยวม่านจ้องมองอาซิ่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ

อาซิ่นตะลึง เขาตะลึงกับความหน้าด้านของจี๋เจ๋อ ที่สามารถใช้คำพูดเหล่านั้นออกมาได้...

ถังเทียนและเชียนฮุ่ยนั่งอยู่ที่มุมด้านหนึ่งมองดูทั้งสามอย่างมีความสุขเชียนฮุ่ยหัวเราะ แต่รอยยิ้มของนางหายไปทันที ขณะที่นางพูดขึ้นด้วยความกังวล  “พี่เทียน, ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ”

“บางอย่างผิดปกติ?”  ถังเทียนให้ความสนใจนางทันที  เขาถาม “มีอะไรผิดปกติ?”

ถังเทียนเชื่อใจการตัดสินใจของเชียนฮุ่ย   เขารู้ว่าเชียนฮุ่ยมีสติปัญญาฉลาดกว่าเขามาก

พวกที่เหลือหยุดหยอกล้อและมองดูเชียนฮุ่ย

เชียนฮุ่ยไม่ตอบถังเทียน  แต่หันไปถามเมลิซซา  “คุณหนูเมลิซซา,อาคันตุกะที่ผ่านมาไม่กี่วันนี้เป็นทางวิหารมากกว่าหรือว่าตระกูลชั้นสูง?”

เมลิซซาตกใจ นางสนองตอบอย่างรวดเร็ว “ข้าจะไปนับสถิติเดี๋ยวนี้”

มีลูกค้าหลายคนในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจดีจนเหนื่อยกับการจัดการรับมือ

หลังจากนั้นไม่นานเมลิซซากลับมา  นางมีสีหน้าสับสน “นายท่าน, คุณหนูเชียนฮุ่ย,เราได้บันทึกไว้ มีลูกค้าฝั่งพันธมิตรตระกูลชั้นสูงมากกว่า น่าจะราวๆ 60%”

“วิหารตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ  ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเนื่องมาจากหลายเหตุผล ดังนั้นวิหารและพันธมิตรตระกูลชั้นสูงจึงต้องการเรา  และตามเหตุผล วิหารต้องการเรามากกว่า  แต่ทำไมยังมีอาคันตุกะจากพันธมิตรตระกูลชั้นสูงมากกว่า  มันแปลกไม่ใช่หรือ?”  เชียนฮุ่ยให้ความสนใจปัญหาทันที

เมื่อเชียนฮุ่ยเอาปัญหาออกมาพูดอย่างชัดเจน  ถังเทียนจึงได้ตระหนัก และสับสน  “นั่นก็ถูก พวกเขาไม่กังวลหรือไง?”

“วิหารทำตัวแปลกเมื่อเร็วๆนี้  พวกเขาทำอยู่เพียงเรื่องเดียว”  เชียนฮุ่ยเสริม  “พวกเขาแยกย้ายพวกผู้อาวุโสทั้งหมด  ผู้อาวุโสทั้งหมดไปพบกับตระกูลต่างๆ แต่พวกเขาดูเหมือนไม่ใส่ใจถึงผลการปฏิบัติงาน ข้าสังเกตว่าสถานที่ซึ่งผู้อาวุโสวิหารแยกย้ายกันไปก็ไม่มีกองทัพอยู่ที่นั่น”

“พวกเขาพยายามจะรับทุกคนเนื่องจากพวกเขาอยู่ในวิกฤติหรือเปล่า”  ฝูเจิ้งจือถาม

“ไม่,มีบางอย่างผิดปกติ” อาซิ่นสีหน้าจริงจังขณะที่เขาส่ายศีรษะ

ในบรรดาพวกเขา นอกจากเชียนฮุ่ยคนที่ฉลาดที่สุดก็คืออาซิ่น เขายังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ และมีอันตรายแอบแฝงซุ่มซ่อนอยู่ในอากาศ

“วิหารถือครองอำนาจปกครองทวีปกวงหมิงมานานมาก  แต่การตอบโต้นั่นของพวกเขามันอ่อนแอไปหน่อยไม่ใช่หรือ?”

หน้าของเชียนฮุ่ยดูเหมือนมีแสงเปล่งออกที่สามารถมองหลายอย่างออกทำให้นางได้รับความเคารพนับถือ ขณะนั้นทุกคนจำฉายานางได้ เทพธิดาสงคราม

“ดูเหมือนเราจำเป็นต้องคลี่คลายความลึกลับให้ได้ในวันนี้”  ถังเทียนพึมพำ ดวงตาของเขาเป็นประกายแวววาว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด