ตอนที่แล้วตอนที่ 869 คลื่นดำมรณะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 871 ดูเหมือนเจ้าลืมใครไปหรือเปล่า?

ตอนที่ 870 ต้องมีคนยืนหยัดต้านทาน


เงาร่างนับสิบที่ยังคงยืนนิ่งหายไปในทันที

และขึ้นไปอยู่ในอากาศ!

ขณะนั้นเมฆดำม้วนตัวลงมาเหมือนกับมีชีวิต แผ่ขยายไปทั่วพื้นโลก และทุกอย่างถูกเมฆดำคลุมมืดมองไม่เห็นอะไร  แม้แต่สุดยอดสิ่งมีชีวิตอย่างพญาเหยี่ยวที่มีสายตาดี แม้ยื่นมือออกก็ยังมองไม่เห็น

เหล่าอสูรปีศาจและผู้พำนักหลบหนีจากอันตรายมากมายของคลื่นมรณะจากกาฬสุริยันต์  ทันใดนั้นพวกเขาถูกแสงดำในเมฆสีดำโจมตีทันที ในท่ามกลางความมืดมิดไม่มีแสงสว่างแม้แต่น้อย เสียงร้องโหยหวนขึ้นไม่ขาดสาย

เสือหน้ามนุษย์สร้างคลื่นพลังงาน

คลื่นพลังแสงในโลกมืด ถูกเมฆดำปกคลุมก็ส่องแสงได้เป็นครั้งคราว

อย่างไรก็ตามกาฬสุริยันต์ในท้องฟ้าคือรัศมีแสงดำและพลังแสงสว่างของเสือหน้ามนุษย์ถูกแสงสีดำกลืนกินจนพลังลดลง

โลกตกอยู่ในความมืดอีกครา... หลงหม่าเจ้าปัญญาและวีเซลหางดาบใช้เวลาช่วงไม่กี่วินาทีช่วยอสูรแรดและอสูรแมวลิงซ์และอสูรอื่นหนีไปทางด้านเสือหน้ามนุษย์, นางพญาผึ้งพิษ และด้านข้างพญาเหยี่ยวกับสามผู้นำ  ในเวลานี้ข้างผู้นำทั้งสามย่อมปลอดภัยที่สุดอย่างมิต้องสงสัย  หากอยู่ลำพังคนเดียวคาดว่าจะต้องเดินตามรอยพวกที่ตายไปแน่นอน

เคลื่อนกำลังไปทางตะวันออก”  สถานการณ์แย่มากพญาเหยี่ยวตัดสินใจอย่างไม่ลังเล

“ข้าจะคุ้มกันให้” เสือหน้ามนุษย์และนางพญาผึ้งพิษนำไปทางทิศตะวันออก เป็นทางเลือกที่ไม่เลว

ไกลออกไปทางทิศตะวันออกสามพันเมตรมีสระน้ำใสซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของอสูรน้ำและใช้เป็นที่หากิน  กาฬสุริยันต์สาดส่องรัศมีเข้มอยู่ในท้องฟ้า และแทบเป็นพลังที่ไร้เทียมทาน เป็นไปไม่ได้ที่จะเผชิญต้านทานแสงของมันได้

ความเป็นไปได้เพียงประการเดียวก็คือลงไปในน้ำ

ไม่ว่าจะเป็นแสงใดๆ ทันทีที่ฉายแสงลงน้ำ แสงจะถูกหักเหและพลังจะลดลงไปมาก

หากสามารถหนีลงไปในสระน้ำทางทิศตะวันออกได้  แสงอาทิตย์ที่กล้าแข็งนี้  อาจจะสูญเสียพลังโจมตีไปก็ได้

จ้าวคางคกได้ยินคำสนทนาระหว่างพญาเหยี่ยวและเสือหน้ามนุษย์แล้วก็หัวเราะลั่น  “ดี, ความคิดดี  ก็แค่สอนคนโง่ให้ปรบมือได้ น่าชื่นชม!  ปัญหาก็คือพวกเจ้าจะหนีไปยังบ่อที่อยู่ห่างออกไปสามกิโลเมตรได้หรือ?  ภายใต้พลังคลื่นมรณะ ภายใต้แสงมรณะ หนีไปเลย! ฮ่าฮ่า จงคร่ำครวญอย่างน่าเวทนาในขณะที่หลบหนีไปอย่างเจ็บปวด  ข้าจะเติมเชื้อเพลิงให้กับพวกเจ้า!  เราหวังว่าหลังจากฆ่าพวกนี้แล้ว  พวกเจ้าที่เหลือคงหนีลงบ่อได้ทัน!”

พญาเหยี่ยวแทบระเบิดอารมณ์โมโห  แต่เขาไม่รู้จะเถียงยังไง

แม้ว่าดวงตาจะมองไม่เห็นคนชั่วคราว แต่เขารู้ได้ว่ามีสุดยอดสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอยู่ข้างหน้าพวกเขา

แม้ว่าพวกมันไม่อาจเทียบกับกาฬสุริยันต์ แต่ก็คงเป็นอสูรที่ไม่ธรรมดา

ถ้าพวกเขาเข้าใจไม่ผิดนั่นควรเป็นอสูรที่หลานฟงและว่านหมอฝึกขึ้น มังกรไฟกรดและจ้าวแมลงกู่ทอง  อสูรทั้งสองไม่เพียงแต่มีสติปัญญาเท่านั้นแต่ยังมีพลังถึงปราณฟ้าระดับห้า  พญาเหยี่ยวมั่นใจว่าถ้าเป็นเขาสู้กับอสูรตัวเดียวก็ยังรู้สึกยากจะทนได้ แต่ถ้าถูกอสูรทั้งสองกดดันได้ น่ากลัวว่าสถานการณ์คงจะเลวร้าย

เสือหน้ามนุษย์ก็มีความรู้สึกแบบเดียวกัน

ความคิดแต่แรกเริ่มสูญสลายไปหมด

พอเพิ่มมังกรไฟกรดและจ้าวแมลงกู่ทอง กลายเป็นว่าพวกเขาถูกล้อมโดยอสูรที่ทรงพลัง

พลังของพวกเขาไม่แข็งแกร่งมาก แต่ยังห่างจากกาฬสุริยันต์ ใกล้เคียงกับมังกรไฟกรดและจ้าวแมลงกู่ทองประกอบกับข้อจำกัดอีสองสามอย่างจึงยากจะจัดการได้

จะทำยังไงดี?

ต้องมีบางคนยืนหยัดคอยป้องกันคลื่นพลังโจมตีก่อนเพื่อให้พวกเขาหนีไปได้มากขึ้น

ถ้าทุกคนป้องกันกันเองผลที่ตามมาก็คือจะถูกทำลายกันหมด

สิ่งที่เสือหน้ามนุษย์กังวลที่สุดก็คือระเบิดไร้เสียงของนางพญาผึ้งพิษ  ถ้าในบรรเจ้าอสูรที่น่ากลัวที่สุด ถ้าเสือหน้ามนุษย์ต้องเลือกเขาคงไม่เลือกพญาราชสีห์ ไม่เลือกจ้าวคางคก แต่จะเลือกนางพญาผึ้งพิษผู้นี้  นางไร้น้ำใจ โหดร้าย และเด็ดขาดที่สุด ไม่เชื่อถือใคร มีแต่บริวารที่ภักดีที่สุดเพียงไม่กี่คน  นางไม่เคยพบคนที่นางจะเชื่อใจได้อย่างแท้จริง  คนอย่างนางพญาผึ้งพิษหากบอกว่าไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับจ้าวคางคกเสือหน้ามนุษย์ไม่เชื่ออย่างแน่นอน

ถ้านางพญาผึ้งพิษเป็นหมากตัวหนึ่งที่ถูกวางไว้ในกลุ่มพวกตน

อย่างนั้นก็จบกัน

เสือหน้ามนุษย์สามารถเชื่อใจพญาเหยี่ยวได้ สามารถเชื่อใจใครก็ได้  แต่เขาไม่สามารถเชื่อนางพญาผึ้งพิษ

“ตอนนี้ บางคนต้องการยืนหยัดร่วมกับข้าสู้กับศัตรู  ทั้งอสูรปีศาจและผู้พำนักก็ได้ พวกเจ้าจำเป็นต้องเหลือคนไว้สักสองหรือสามคนไว้ช่วยเรา”  เสือหน้ามนุษย์กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก  เขากำลังกีดกันไม่ให้นางพญาผึ้งพิษเสนอตัวสู้ “จงให้ความสำคัญกับความสามารถเป็นพิเศษ!”

“นี่....”

ถ้าเป็นการต่อสู้ตามปกติ หลายคนคงขันอาสาลุกยืนขึ้นก่อน

แต่บัดนี้ต้องรั้งอยู่ข้างหลังเพื่อต้านศัตรูให้โอกาสสหายได้หนีไป  อย่างนั้นก็เท่ากับว่าตายในที่สุด

ปัญหาก็คือ ถ้าไม่มีใครรั้งอยู่เพื่อต้านทานศัตรู อย่างนั้นก็จะถูกศัตรูกำจัด ซึ่งเป็นผลที่เลวร้ายกว่ามาก

พญาเหยี่ยวกลืนน้ำลายอย่างกระวนกระวาย

ตามเหตุผลบอกว่าให้รั้งอยู่  แต่ภายใต้เงาแห่งความตายนั่นเป็นเรื่องสั่นคลอนปณิธานของพวกเขา ไม่มีใครอยากตาย  ในกรณีนี้ทุกคนต้องการหลบหนี ต่อให้เป็นพญาเหยี่ยวก็ไม่ยกเว้น

หุบเขาอสูรไม่ใช่สถานที่แสดงความยิ่งใหญ่ ตรงกันข้าม  ที่นี่เป็นสถานที่ชุมนุมปีศาจที่เห็นแก่ตัว

ไม่มีใครเชื่อถือใคร!

ไม่มีใครต้องการเสียสละเพื่อคนอื่น....

จ้าวอสูรทั้งสามยังไม่ทันเอ่ยปากพูด หลงหม่าและวีเซลหางดาบเริ่มรู้สึกว่าอากาศแน่นหายใจไม่ออก  ศัตรูกำลังจะมาถึง และสหายที่หลบหนีไปทีละคนนี้จะถูกกาฬสุริยันต์แผดเผาและถูกความมืดกลืนกิน  อสูรปีศาจและผู้พำนักที่หลบหนีไปตามลำพังถูกกำจัดและตายเหมือนกัน รอจนกาฬสุริยันต์สังหารคนพวกนี้และวกกลับมาก็จะถึงคราวตายของพวกเขาเอง

อสูรปีศาจ ผู้พำนัก อสูรแมวลิงซ์และอสูรแรดพากันเงียบทั้งหมด

ไม่มีใครกล้าพูดว่าเขาจะรั้งอยู่

นางพญาผึ้งพิษกระแอมทันที  “ในเมื่อต้องมีคนอยู่  ข้าก็จะอยู่!”

“อะไรนะ, ว่าไงนะ?”  เสือหน้ามนุษย์ตกใจ  ความจริงนั่นควรเป็นคำพูดของพญาเหยี่ยว ไม่ใช่ตำแหน่งที่นางพญาผึ้งพิษควรจะพูด ในใจของเขานั้นนางพญาผึ้งพิษคงจะไม่เสนอตัวมาเพื่อให้จ้าวคางคกโจมตีนางเอง นั่นไม่ใช่เรื่องแย่... ใครจะรู้กันเล่าว่านางพญาผึ้งพิษจะรั้งอยู่เพื่อต้านศัตรู เป็นเรื่องที่เขาไม่เชื่อหูจริงๆ

“เอาจริงหรือนี่? แม่นางผึ้ง เจ้าตั้งใจรั้งอยู่จริงๆ หรือ?”  พญาเหยี่ยวเข้าใจผิดไม่ต่างจากเสือหน้ามนุษย์เลย

“ข้ารู้ว่าในความเป็นจริงทุกคนค่อนข้างหวั่นเกรงข้า และคิดว่าข้าเป็นคนทรยศ  บางทีในอดีตที่ผ่านมาข้าอาจทำตัวเองน่าละอายไปบ้าง แต่ตอนนี้ข้าทิ้งทุกอย่างไปแล้ว บางทีเราอาจจะตายในไม่ช้าก็ได้ และกลายเป็นอาหารบำรุงเลี้ยงในการฝึกฝนให้อสูรอื่น แล้วเรายังจะทะเลาะไปกันทำไม? นั่นไม่มีประโยชน์อะไรแม้แต่น้อย  ทำไมข้าถึงต้องอยู่ด้วย? ไม่ใช่ว่าข้าเป็นผู้เสียสละที่ใหญ่แน่ แต่เป็นเพราะข้าจำเป็นต้องเลือก ข้าจะเผชิญหน้าและต้านทานศัตรูให้  เจ้าถอยออกไป  แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูด้วย เพียงแต่การต่อสู้ของพวกเจ้าเกิดขึ้นที่ใกล้สระ ข้าไม่ใส่ใจนักหรอกถ้าข้าจะสู้ที่นั่น แต่เจ้าเสือ! เจ้าคุ้นเคยกับการต่อสู้ทางน้ำเจ้าควรไปที่สระน้ำและแสดงพลังให้มากขึ้น...นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวแมลงกู่ทองเป็นอสูรประเภทหนอนแมลง ข้ารับมือมันได้ง่าย  ท่านเสือ ท่านเหยี่ยว ถ้าข้าคาดการณ์ได้ไม่ผิด ผลในท้ายที่สุดจะต่างกัน ข้าจึงตัดสินใจอยู่” คำพูดของนางพญาผึ้งพิษทำให้เสือหน้ามนุษย์และพญาเหยี่ยวตะลึงและรู้สึกผิด

ใครจะคาดคิดกันเล่าว่าในช่วงตัดสินเป็นตาย กลับกลายเป็นนางพญาผึ้งพิษที่เห็นแก่ตัวที่สุดที่ออกมาสู้เพื่อทุกคน

พญาราชสีห์ผู้เป็นเหมือนร่มไม้ก็ยังไม่ปรากฏตัว

เสือหน้ามนุษย์รู้สึกนัยน์ตาร้อนผ่าว “ท่านผึ้ง...”

เหมือนกับจะบอกว่าเขาเสียใจ

ถ้าเขารู้ว่านางพญาผึ้งพิษมีจิตใจกล้าหาญขนาดนั้น  อย่างนั้นเขาคงคบนางพญาผึ้งพิษเป็นสหายไปแล้ว

เมื่อครู่นี้เขายังสงสัยว่านางพญาผึ้งพิษจะเป็นผู้ทรยศหรือไม่  และต้องการโจมตีก่อน  ตอนนี้เสือหน้ามนุษย์เต็มไปด้วยความละอาย

เขาคือลูกผู้ชายคนหนึ่ง!

แต่กลับมิอาจเทียบได้กับสตรีที่เห็นแก่ตัวอย่างนางพญาผึ้งพิษ

พญาเหยี่ยวรู้สึกร้อนใจเช่นกันเขาตะโกนลั่น “ท่านผึ้ง! ข้าจะอยู่สู้ร่วมกับเจ้าให้ท่านเสือนำทุกคนจากไป  ชีวิตข้าจะร่วมสู้กับเจ้าจนถึงที่สุด  ถ้าไม่ตายเสียก่อนข้ายินดีจะเป็นสหายแท้กับเจ้า ไม่ต้องหวาดระแวงกันอีกต่อไปในอนาคต  จะไม่มีการต่อสู้ทะเลาะกันอีกต่อไป!”

นางพญาผึ้งพิษปฏิเสธคำขอของพญาเหยี่ยว “ข้ารู้ซึ้งน้ำใจของเจ้า แต่ต้องมีคนนำกลุ่มถอยกลับไปต้องมีคนเบิกเส้นทางและคนคุ้มกันหลัง เจ้ากับท่านเสือเหมาะสมที่สุดในระดับผู้นำแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาอีกแล้ว  ไปรีบไปเถอะ!  ถ้ามีคนยินดีจะอยู่ด้วย ข้าต้องการสหายสักสองสามคนช่วยข้าขัดขวางศัตรูด้วยกัน ข้าได้แต่รั้งจ้าวแมลงกู่ทองและมังกรไฟกรดได้ชั่วคราวเท่านั้น หวังว่าจะมีสหายช่วยยืนหยัดขัดขวางอสูรตัวต่อไป...”

วีเซลหางดาบตื่นเต้นจนมิอาจระงับได้อีกต่อไป

อารมณ์ปะทุขึ้นราวกับภูเขาไฟ สร้างความประทับใจให้กับหลายคน “คนอย่างข้าเริ่มจะเบื่อหน่ายชีวิตแล้ว จะตายเร็วตายช้าก็ช่าง ขอตายในการต่อสู้ดีกว่าอยู่อย่างกลัวตาย ใครจะรั้งอยู่กับข้า!”

หลงหม่าใช้ชีวิตอยู่ในหุบเขาอสูรมาหลายพันปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าจิตใจระอุกรุ่น

ก่อนที่วีเซลหางดาบจะพูด เขายังลังเลเล็กน้อย เขาบอกว่าเขายังคงเป็นผู้พำนักและยังมีชีวิตได้อีกหนึ่งครั้ง อาจมีโอกาสได้อีกครั้ง  แต่วีเซลหางดาบคำราม เขารู้สึกว่าเลือดกำลังจะเดือด เขายืนขึ้นตะโกนลั่น “ถูกต้อง จะเป็นจะตายก็ปล่อยให้สวรรค์ตัดสิน!  ถ้าพวกเจ้าต้องการชีวิตของข้า ก็เอาไปได้เลย แต่เจ้าต้องจ่ายคุณค่าทดแทนบ้าง!”

นอกจากหลงหม่าและวีเซลหางดาบแล้ว ยังมีอสูรแมวลิงซ์และอสูรแรดพวกเขายอมรั้งอยู่

ขณะนั้นทุกคนดูเหมือนจะลืมไปว่าหลักการเอาตัวรอดในหุบเขาอสูรก็คือความเห็นแก่ตัว

ดูเหมือนพวกเขาจะลืมไปแล้ว

เมื่อพวกเขาถูกฆ่า  พวกเขาจะตายจริงๆ

หลังจากทะเลาะกันสั้นๆ อย่างดุเดือดจึงได้ข้อสรุปให้นางพญาผึ้งพิษ หลงหม่าและวีเซลหางดาบจะรั้งอยู่ ขณะที่อสูรปีศาจที่เหลือมีพญาเหยี่ยวและเสือหน้ามนุษย์พากันหนีไปทางสระน้ำอย่างรวดเร็ว   เสือหน้ามนุษย์ตั้งใจว่าเมื่อไปถึงที่นั่นเขาต้องใช้คลื่นน้ำและพลังน้ำวนกลับมาช่วยนางพญาผึ้งพิษ หลงหม่าและวีเซลหางดาบจากสถานการณ์อันตรายให้ได้ทันที

“ข้ารู้แผนหลบหนีของพวกเจ้าแล้ว  มันดีมาก แต่ตัดสินใจไม่ทิ้งศัตรูร้ายกาจเอาไว้อย่างนั้นหรื? ฮ่าฮ่าฮ่า   ข้าเข้าใจผิดไปเอง ข้าไม่ควรถามคำถามปัญญาอ่อนแบบนี้เลยจริงๆ  ทุกคนก็รู้ว่าคนที่อยู่ในหุบเขาอสูรนั้นเห็นแก่ตัวที่สุด กลัวตายที่สุด ฮ่าฮ่า!  พวกเจ้ารู้หรือเปล่าว่าทำไมข้าถึงน่ากลัวกว่าพวกเจ้า?  ทำไมข้าถึงสามารถฆ่าพวกเจ้าได้ และทำให้พวกเจ้ากลายเป็นหนอนน่าสมเพชคร่ำครวญอย่างน่าเวทนา?  เหตุผลนั้นแสนง่าย  เพราะว่าข้าฉลาดมาก รู้จักการสร้างพันธมิตร รู้จักหาสหายที่จะให้ความร่วมมือ  ต่างจากพวกเจ้าแต่ละตนที่ไร้เดียงสา เอาแต่ห่วงปกป้องตัวเองหวังจะให้ตัวเองมีชีวิตยืนยาวนานอีกนิด ฮ่าฮ่า.....  น่าขันจริงๆ พวกเจ้าต้องการมีชีวิตยืนยาว แต่ไม่เคยเชื่อใจคนอื่น  และในที่สุดพวกเขาก็เหมือนต้องฆ่าตัวเองตายไปอย่างไร้มิตร!”  จ้าวคางคกเข้าร่วมสังหารหมู่ครั้งนี้ด้วยความกระตือรือร้น

เขาไม่รู้ว่าแค่เพียงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาที

พญาเหยี่ยว เสือหน้ามนุษย์และนางพญาผึ้งพิษรวมทั้งอสูรปีศาจและผู้พำนักที่เหลือเกิดความเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ในประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีตของจ้าวคางคก  ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาไม่ได้ยินการสนทนา ต่อให้เขาได้ยิน เขาก็คงไม่เชื่อว่าเป็นความจริง  มีคนโง่อยู่ในหุบเขาอสูรที่ยอมเสียสละเพื่อคนอื่นด้วยหรือ?  ถ้ามีจริง เขาเกรงว่าคงตายไปเมื่อหมื่นปีที่แล้ว?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด