ตอนที่แล้วตอนที่ 802 กระบี่พญาเขียวใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 804 เมืองม้าบินที่รุ่งเรืองและสงบสุข

ตอนที่ 803 สำเร็จ


ถังเทียนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นภายนอกเขาหมกมุ่นอยู่ในโลกของตัวเองอย่างสิ้นเชิง

เมื่ออยู่ในเกราะเทพเจ้าเขามีสติปัญญาแหลมคมมากและฉลาดเชี่ยวชาญในกฎธรรมชาติ  แต่ภายในมิติอิสระของกระบี่พญาเขียว สายใยกฎธรรมชาติสองสายที่เติบโตมาด้วยกันมีผลต่อเขาอย่างยิ่งใหญ่

สายใยกฎธรรมชาติของกระบี่พญาเขียวรวมเข้าด้วยกันกับกฎอวกาศถังเทียนรู้คุณค่าของมันดี  ในแดนบาปนักสู้สามารถฝึกกฎธรรมชาติได้ประเภทเดียว เป็นความเข้าใจร่วมกันในแดนบาปว่าไม่สามารถเข้าใจได้มากกว่ากฎเดียวกฎธรรมชาติกฎเดียวก็เพียงพอสำหรับนักสู้ที่จะได้รับการรู้แจ้งความหมายของกฎอย่างแท้จริง

ถังเทียนยังคงมีความคิดเช่นเดียวกัน  แต่ในตัวกฎมันเองก็มีข้อเสียของตัวเองและนั่นก็คือขีดจำกัดของมัน  การฝึกกลุ่มวิชาหนึ่งเป็นสิ่งที่สวรรค์วิถีก็มี  แต่น้อยคนนักจะทำได้

เนื่องจากสถานการณ์สู้รบใดๆจะยุ่งยากซับซ้อนตลอดกาล กระบี่เล่มหนึ่งตัดกฎธรรมชาติได้เป็นล้านอาจฟังเหมือนกดขี่กันเกินไป  แต่ความจริงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก  นักสู้ส่วนใหญ่เลือกจะชำนาญในด้านใดด้านหนึ่งและเลือกเรียนกลุ่มวิทยายุทธที่เกื้อหนุนกันก็สามารถเผชิญสถานการณ์ได้ทุกประเภท

การใช้วิทยายุทธกลุ่มวิชาเดียวหมายความว่าพวกเขาต้องการความร่วมมือประสานงานมากขึ้นจึงจะสามารถเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้

แต่ในแดนบาปถังเทียนไม่เห็นการร่วมมือเป็นกลุ่มแต่อย่างใด

ถังเทียนคงจะมีความรู้สึกว่าความจริงเรื่องนี้แปลก  ถ้าเขาเพิ่งเข้ามาในแดนบาปแต่ตอนนี้ถังเทียนไม่พบว่าแปลก ในทุกที่ที่เขาผ่านมา  เขาไม่ชอบแดนบาปที่สุด  นี่เป็นสถานที่หยุดนิ่ง ไม่เพียงแต่พวกเขาสูญเสียความกล้าหาญจะยืนหยัดและต่อสู้เท่านั้นแต่พวกเขายังสูญเสียความกล้าที่จะก้าวออกไป และพวกเขามีชีวิตอยู่เหมือนกับว่าพวกเขารอให้เติบโตแก่และตายไป  พวกเขาไม่มีอารมณ์จะสำรวจ ไม่มีอารมณ์จะสร้าง

หนุ่มชาวฟ้าไม่ชอบแดนบาปแม้แต่น้อย

เขาส่ายศีรษะและทิ้งความคิดที่ซับซ้อนทั้งหมดออกไปจากใจ ความคิดเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะเก็บมาคิดมันซับซ้อนเกินไปสำหรับหนุ่มชาวฟ้า หนุ่มชาวฟ้าจะให้ความสนใจกับร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญอย่างเดียว  ‘บางทีปิงอาจสนใจที่นี้หรือถังโฉ่วอาจจะสนใจก็ได้?’

หนุ่มชาวฟ้าไม่ชอบทำหลายอย่างที่เขาไม่มีความถนัด

แต่เขาตระหนักได้ว่าเขากลับมีความสนใจในเรื่องอื่นอย่างมาก

‘มีกฎธรรมชาติอยู่จริงๆเท่าใดกันแน่?’  ไม่มีใครรู้ พวกมันมีอยู่มากมายกว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนกับดวงดาวในท้องฟ้า  และยังเป็นหนึ่งในเหตุผลให้แดนบาปยังไม่ถูกสำรวจ  กฎธรรมชาติในแดนบาปเป็นเหมือนทะเลอัญมณี  ไม่ว่าจะเลือกเม็ดใดก็เป็นอัญมณีงดงามแพรวพราว

ในสวรรค์วิถีวิทยายุทธทั้งหมดจะถูกสร้างและพัฒนาหลายรุ่นอย่างช้าๆเป็นกระบวนการที่ช้าและยากลำบาก ที่ซึ่งพลังงานบริสุทธิ์ไม่มีค่า  เคล็ดการใช้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเลือดเหงื่อและน้ำตาของทุกรุ่น

‘กฎธรรมชาติไม่ขาดในเรื่องการเปลี่ยนแปลง’นั่นเป็นสิ่งที่คนในแดนบาปคิดกัน สำหรับความเข้าใจของพวกเขา พวกเขาควรจะหากฎธรรมชาติที่เหมาะสมภายในทะเลกฎธรรมชาติ  พวกเขาไม่ต้องดูแลหรือสนใจการหลอมรวมกฎต่างๆ และต้องการเพียงหากฎธรรมชาติที่พวกเขาต้องการ

แต่ถังเทียนคิดแตกต่างออกไป

เขาเป็นหัวหน้าผู้นำมานานแล้วดังนั้นเขาจึงคิดแตกต่างจากคนธรรมดา  ตัวอย่างเช่นเขาจะคิดว่า มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการผลักดันให้เป็นระบบใหญ่เขาไม่ใช่คนที่ชอบลุยเดี่ยวอีกต่อไป เขามีกลุ่มดาวหมีใหญ่และทวีปซางโจวและเป็นเจ้าเหนือหัวอย่างมิต้องสงสัย

เมื่อหน่วยสุญญตาเริ่มฝึกกฎธรรมชาติถังเทียนมีการค้นพบบางอย่าง กฎธรรมชาติที่พวกเขาได้รับการรู้แจ้งเป็นกฎธรรมชาติที่ธรรมดาและฝึกได้ง่ายที่สุด

ไม่ใช่เรื่องแปลก ก่อนที่พวกเขาจะได้รับร่างพลังกายเป็นศูนย์สมาชิกหน่วยสุญญตาทุกคนยังอ่อนแอมาก ดังนั้นกฎธรรมชาติที่พวกเขามีจึงถูกหยุดเอาไว้ในระดับผิวเผิน ตรงจุดนี้พวกเขาไม่อาจเทียบได้กับชาวท้องถิ่นที่เติบโตในแดนบาป  สำหรับสวี่เย่และคนที่มีระดับเขา  พวกเขาจะสะดุ้งตกใจกับการรู้แจ้งกฎของหน่วยสุญญตา  แต่พวกเขาจะมีความรู้สึกจำเจน่าเบื่อหน่ายกันทุกคน  และคนอื่นรู้สึกไม่พอใจ

แต่ถังเทียนไม่เห็นในทำนองนั้น

เขาเองทำตัวเป็นตัวอย่างระดับปัจจุบันของเขาแข็งแกร่งมากกว่าในอดีตหลายเท่า และได้เห็นเกราะเทพเจ้ารู้เคล็ดต่อสู้หลายอย่าง  แต่เขาต้องการใช้วิทยายุทธพื้นฐานอยู่บ่อยครั้ง

เกี่ยวกับกองทัพขนาดใหญ่สิ่งที่มากเกินไปอาจไม่จำเป็นต้องดีก็ได้

สำหรับกรณีของหน่วยสุญญตาเป็นเรื่องประโยชน์ของกองทัพ

กฎธรรมชาติสามถึงห้าแบบก็สามารถสร้างชื่อได้มากแล้ว  และเมื่อพวกเขาสามารถหลอมรวมผสานกันได้ก็หมายความว่ามีความหลากหลายมากขึ้น  หลายๆอย่างที่แดนบาปไม่ให้ความสนใจ กลับเป็นขุมทรัพย์สำหรับถังเทียน

นอกจากความสามารถในการเพิ่มความสามารถต่อสู้ให้กับหน่วยสุญญตาแล้วยังช่วยเพิ่มความสามารถให้กับถังเทียนอย่างมากมาย

เขาคิดถึงเรื่องเกราะเทพเจ้าของเขาแล้วมันคือสิ่งที่สร้างจากสายใยกฎธรรมชาติหลายอย่างจริงๆ แต่สายใยกฎธรรมชาติทั้งหมดนี้ยังอยู่ในความวุ่นวายและยุ่งเหยิง  ถังเทียนเคยคิดจะแยกกฎเหล่านั้นออก เนื่องจากเขารู้สึกว่ามันคือปมสำหรับความก้าวหน้าของเกราะเทพเจ้า  แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างไร  เขาไม่พบวิธีสางสายใยกฎธรรมชาติ

สายใยกฎธรรมชาติที่คล้ายคลึงกันทั้งสองในมิติอิสระที่เติบโตคู่กันเปิดเผยความรู้นี้กับเขา

‘ข้าจะสามารถทำอย่างนั้นได้ไหม?’

แต่เขาก็ตระหนักได้โดยเร็วว่าสายใยกฎธรรมชาติของเขาเองไม่สามารถเติบโตได้  ‘ภายใต้สถานการณ์อะไรสายใยกฎธรรมชาติจึงจะเติบโตได้?’ เขาทบทวนถึงสายใยกฎธรรมชาติในมิติอิสระของกระบี่พญาเขียวอย่างระมัดระวัง

‘ทำไมพวกมันจึงเติบโตได้?’

การเติบโตเป็นเรื่องธรรมดาที่สุดของชีวิต  และชีวิตทั้งหมดจะไม่หยุดเติบโตเมื่อคงอยู่

ส่วนพื้นฐานที่สุดของการเติบโตก็คือต้องได้การเสริมบำรุง

‘กฎธรรมชาติไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่การเติบโตของมันต้องได้สิ่งบำรุงเลี้ยงบางอย่างหรือ?’

‘แต่ถ้ามันใช่เล่า งั้นอะไรคือสิ่งบำรุงให้สายใยกฎธรรมชาติเติบโต?’  เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องกระบี่พญาเขียว  ‘เป็นไปได้ไหมว่าไม้หมึกคลื่น? เป็นไปได้!  แต่นั่นก็หมายความว่าทุกคนก็ต้องการสิ่งบำรุงเลี้ยงที่ต่างกันหรือไม่?’

‘เกราะเทพเจ้าบรรจุกฎธรรมชาติมากมาย จำเป็นต้องได้ปริมาณงานที่เหมาะสม...’

ถ้าเป็นคนธรรมดาคนใดคนหนึ่งเผชิญหน้ากับปริมาณงานที่น่ากลัว  พวกเขาคงรู้สึกขลาดกลัวแน่นอน  นอกจากนี้ยังเป็นแค่อาคันตุกะคนหนึ่งด้วย  ถังเทียนไม่รู้สึกขลาดกลัวแม้แต่น้อย  แต่เขากลับเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นแทน  ถ้าคำถามทั้งหลายเหล่านี้ได้รับการคลี่คลาย  นั่นหมายความว่าพลังของเกราะเทพเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน!

‘ข้าจะหาหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อบำรุงเลี้ยงสายใยกฎธรรมชาติ!’

ถังเทียนวิ่งออกมาจากห้อง  เขากระตือรือร้นอยากจะทำการทดสอบ

ทันทีที่เขาวิ่งออกมาจี๋เจ๋อรออยู่ด้านนอกห้องตลอดเวลาก้าวออกมาข้างหน้าพูดด้วยท่าทางสุภาพ  “นายท่าน!”

ถังเทียนหยุดด้วยความประหลาดใจ  “มีเรื่องอะไร?”

“เรื่องเล็ก”  จี๋เจ๋อพยักหน้าและโค้งคำนับ

เมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องเล็กถังเทียนโบกมือ  “ถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ต้องตามหาข้า  ข้ากำลังยุ่งมาก”

จี๋เจ๋อรู้สึกว่าเหมือนถูกยั่วต้องรีบไล่ตามเขาทันที “ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย  ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยขอรับ”

ถังเทียนถูกรบกวนจึงพูดอย่างเหลืออด  “พูดไป เรื่องอะไร?”

“นั่นคือ...นี่คือดาบของผู้น้อย  ข้าหวังว่านายจะช่วยตรวจสอบดูบ้าง”

จี๋เจ๋อยิ้มประจบ  สมาชิกที่มองอยู่ในระยะไกลมองดูอย่างรังเกียจ

จี๋เจ๋อไม่สนใจแม้แต่น้อย  ยิ้มนิดหน่อยจะเป็นไรไป  ดาบพิศวงเป็นฉายาของเขาและยังเป็นชื่อของดาบเขา กระบี่พญาเขียวเป็นสมบัติระดับต่ำกว่า และคุณภาพแตกต่างกันเมื่อเทียบกับดาบพิศวง แต่พลังที่มันสร้างหลังจากที่นายท่านเล่นกับมันแล้วทำให้หัวใจของเขาหนาวยะเยือกมันเอาชนะดาบพิศวงของเขาได้ทั้งระดับอย่างสิ้นเชิง

สมบัติเป็นสิ่งมีค่าและราคาแพงมากในแดนบาป  และมีเพียงไม่กี่ชิ้นที่มีชื่อสมบัติคือวัตถุที่ไม่สามารถใช้เงินซื้อหากันได้ และไม่เคยได้ยินว่าพลังของสมบัติสามารถเพิ่มขึ้นได้ ถ้าข่าวเช่นนั้นถูกปล่อยออกไป  ทั่วทั้งแดนบาปจะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้แน่  พวกตัวประหลาดเฒ่าไม่มีของดีๆอยู่กับตัวหรือ?  ค่ายฝึกฝนเล็กๆจะต้องเต็มไปด้วยผู้คนแน่นอน

‘เกิดอะไรขึ้นกับรอยยิ้ม!’

‘ผู้นำคนหนึ่งสามารถรับหรือยืนหยัดได้ตามต้องการ อำนาจอาจไม่ใช่สิ่งที่น่ายกย่องแน่นอน!’

‘เถอะน่า, นายท่าน ได้โปรด!’

เขามองดูถังเทียนอย่างจริงจังสายของเขาน่าสงสารและมุ่งหวังเหมือนคนกำลังจะอกหัก

น่าเสียดายที่ถังเทียนมองไม่เห็น  “เอามานี่”

จี๋เจ๋อตกใจเขาเตรียมพยายามสร้างความโปรดปรานมากมาย แต่ก่อนที่เขาจะเริ่มเขา...สำเร็จแล้วหรือ? แต่เขารู้สึกตัวโดยเร็ว เขาเอาดาบพิศวงของเขาออกมา  “นายท่าน, คิดว่าท่านจะทำอะไรกับมันได้บ้าง!”

“จะดีหรือถ้ามันพังเล่า?”

หัวใจของจี๋เจ๋อตึงเครียด  หน้าของเขาแดง ‘โอวพระเจ้า,ข้าลืมเรื่องนั้นไปได้ยังไง!’

ดาบพิศวงมีประวัติศาสตร์ที่พิเศษ  มันถูกสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษของเขาได้รับการดูแลเป็นอย่างดีมาหลายรุ่น มันจะเป็นยังไงถ้าตกอยู่ในมือของเขา

‘ถ้ามันจะต้องพัง...’

แต่คำพูดก็ได้กล่าวไปแล้ว  และสายเกินกว่าสำนึกเสียใจ  เขารู้สึกเหมือนกับว่ากลืนเมล็ดแข็งๆมันยากจะกลืนได้ ขณะที่เขาพูดอย่างน่าสงสาร “นายท่านโปรดอย่าขู่ขวัญข้าน้อย”

ถังเทียนมองดูเขาอย่างหยอกล้อ“ดูท่าทางย่ำแย่ของเจ้าสิ”

“นายท่านยิ่งใหญ่  ผู้น้อยอย่างข้าจะเทียบกับท่านได้ยังไง?”  จี๋เจ๋อยกยอเขาทันที

“นั่นก็จริง!” ถังเทียนดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น เขาตบไหล่จี๋เจ๋อและเปลี่ยนอารมณ์ทันที “สบายใจได้, ข้าจะระวัง,ถ้ามันพังจริงๆ..”

จี๋เจ๋อสงบใจได้ นายท่านก็ร่ำรวยและรับผิดชอบเขามั่นใจว่าเขาคงจะได้รับการชดใช้

“อย่างนั้นเจ้าก็ต้องถือว่าตัวเองโชคร้าย”  ถังเทียนพูดราวกับว่าเป็นจริงเป็นจัง

หน้าของจี๋เจ๋อเขียวคล้ำ เขาก้มหัวต่ำ  รู้สึกสำนึกเสียใจอยู่ในใจ  เขาเกลียดตนเองจนอยากจะตีอกชกหัวตัวเองนัก ‘ข้าลืมตัวเพราะความโลภในสิ่งของ ข้าต้องเสียของนี้ไปเพราะความโง่แท้ๆ

‘ถ้ามันต้องพังไปจริงๆ..’

‘บรรพบุรุษ ได้โปรดอย่าคลานออกมาจากหลุมและตามหาศิษย์ผู้นี้เลย!’

‘ศิษย์ผู้นี้ไม่มีอาวุธอะไรต่อไปอีกแล้ว!’

ถังเทียนไม่สนใจจี๋เจ๋อ  ความจริงก็เหมือนกับว่ามีบางคนส่งหมอนให้เขาขณะที่เขาต้องการจะหลับ  เขาเรียนรู้ส่วนต่างๆ อีกครั้ง ‘สำหรับจี๋เจ๋อเอาดาบพิศวงให้เขา เขาเป็นคนดีคนหนึ่งจริงๆ’

ถังเทียนกระแอมเบาๆ  “ข้าจะมอบภารกิจสำคัญให้เจ้า”

“นายท่านโปรดแนะนำ”  จี๋เจ๋อคร่ำครวญอย่างไร้เรี่ยวแรง

ถังเทียนทำเป็นไม่ได้ยินเขา  “หาวัสดุสองสามอย่างที่ใช้สร้างอาวุธแล้วเอามาที่นี่”

“นายท่าน!  ท่านต้องการวัสดุแบบใด?”  จี๋เจ๋อถามอย่างอ่อนแรง

“ทุกอย่างที่มี”  ถังเทียนตอบ

‘ทุกอย่าง..ที่มี...’

จี๋เจ๋อจ้องมองนายท่านอย่างว่างเปล่า  ‘นายท่าน,ท่านคิดว่ากำลังสั่งอาหารตามสั่งหรือนี่? ท่านต้องการให้เอาทุกอย่างที่มีท่านรู้ไหมว่าในโลกนี้มีวัสดุอยู่เท่าใด? ล้อเล่นกันหรือเปล่า?’

ถังเทียนชำเลืองมองเขา  “ยิ่งมีหลายชนิดก็จะดีต่อดาบพิศวงของเจ้า”

จี๋เจ๋อสั่น ตาของเขากลายเป็นสีแดงและเหมือนกับว่าตื่นเต้น  “ผู้น้อยจะไปเอามาเดี๋ยวนี้แหละ”

เมื่อเห็นจี๋เจ๋อหายไปเหมือนลมถังเทียนดีใจทันที  ‘เป็นคนงานที่ใช้ง่ายจริงๆ’

เมื่อสมาชิกที่อยู่ในระยะไกลสังเกตพวกเขา  พวกเขาไม่ได้ยินเสียงสนทนา แต่เมื่อเห็นถังเทียนรับดาบพิศวงของจี๋เจ๋อ  และจี๋เจ๋อจากไปอย่างตื่นเต้น  ทุกคนฮือฮาทันที

“เขาทำสำเร็จ!  จี๋เจ๋อทำได้สำเร็จ!”  เสี่ยวชิวตื่นเต้นมาก

“สำเร็จอะไรกัน?”เล่าปี๋ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“ช่างหัวมันเถอะ”เสี่ยวชิวพูดด้วยสีหน้าอิจฉา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด