ตอนที่แล้วตอนที่ 792 กุญแจสู่ชัยชนะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 794 คนกลางติดต่อ

ตอนที่ 793 วิเคราะห์ของชิวซิ่วหัว


การตายของเหมยเฉินซิ่วไม่ได้กระตุ้นให้เกิดความปั่นป่วนในกองทัพใหญ่ของทวีปกวงหมิงนัก

ทวีปกวงหมิงมีแม่ทัพนายกองซึ่งมีชื่อเสียงมาก และเหมยเฉินซิ่วเป็นแค่คนใหม่ซึ่งพวกเขามีอยู่มากมาย ท่านหญิงโหรวชื่นชมความฉลาดของเขาและเลื่อนเขาให้เป็นหัวหน้าโจรสลัดขาวซึ่งเป็นความปราณีที่ยากจะได้เห็น ท่านหญิงโหรวเป็นคนฉลาด ดังนั้นความแตกต่างในเรื่องอิทธิพลของคนทั้งสองจึงต่างกันมาก

ชิวซิ่วหัวซึ่งมีอายุห่างจากเหมยเฉินซิ่วช่วงใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสำเร็จในการรบ หรือศักดิ์ศรีย่อมแข็งแกร่งกว่ามากมาย ชิวซิ่วหัวเป็นผู้เยาว์ที่สุดในห้าแม่ทัพใหญ่ของทวีปกวงหมิง  ความฉลาดและพรสวรรค์ของเขาทำให้ทุกคนตกตะลึงและหลายคนเชื่อว่าเขาคือผู้นำที่ฉลาดที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวีปกวงหมิง  แม้ตั้งแต่ก่อนอายุ 30 ปี ความดีความชอบและความสำเร็จที่เขาได้รับนับเป็นอันดับหนึ่งและเขากลายเป็นบุคคลโดดเด่นสะดุดตาของห้าแม่ทัพใหญ่

ความอุตสาหะของมู่จือเสียที่คงอยู่มาเป็นเวลาสองสามทศวรรษทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาขยันและรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นการรุกหรือรับ  ม่อซินสามารถรับมือพวกเขาได้อย่างเชี่ยวชาญคล่องแคล่ว  แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีจุดอ่อน สมดุลและมั่นคงดูเหมือนจะเป็นความพิเศษของเขา  แต่ขณะเดียวกัน หลายคนไม่ต้องการจะต่อกรกับเขา เจียย่าได้รับการยกย่องว่าอสูรองครักษ์แห่งดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  เขาไม่ทำตัวเด่นดังและมีบุคลิกเก็บตัวยากจะออกจากสันโดษ โกวเฉิงเวิ่นเต้าสนุกกับการบุกโจมตี ความสามารถของเขาทำให้ผู้คนรู้สึกกลัว แต่เป็นคนเจ้าอารมณ์มาก และมีน้อยคนมากที่ชอบเขา

ชิวซิ่วหัวมีรูปร่างหล่อและมาจากคนมีชื่อเสียงหนุนหลัง  เขาเป็นคนสุภาพมีมารยาทเต็มไปด้วยพรสวรรค์ได้รับการยกย่องมานานในฐานะแบบอย่างของพลเมืองชาวกวงหมิงนับไม่ถ้วน  และกลายเป็นดาวรุ่งที่เจิดจรัสที่สุดของทวีปกวงหมิง

แต่ชิวซิ่วหัวที่ไร้เทียมทานได้รับความพ่ายแพ้

ชิวซิ่วหัวเผชิญหน้ากับกองพลเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ของกองกำลังพันธมิตรทั้งสองฝ่ายสู้รบกันอย่างดุเดือดร้อนแรงมาก กองพลเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในกองทัพระดับทองของภูมิภาคใต้และเทียบกับกองพลวายุใต้ระดับทองแล้ว กองพลเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งกว่ามาก

กองกำลังพันธมิตรของกองพลเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์มีกำลังพลรวมน่าประหลาดถึงหนึ่งแสนเก้าหมื่น  ขณะที่ชิวซิ่วหัวมีกำลังพลหนึ่งแสนห้าหมื่น

ทั้งสองฝ่ายเข้าสู้ศึกที่ดุเดือดในสมรภูมิกว้างไกลเกิน 800กิโลเมตรภายในทะเลพลังงาน ในที่นั้นพวกเขารบกันอยู่หลายวันทั้งรุกและรับและจบลงด้วยการคุมเชิง ชิวซิ่วหัวไม่ได้ล้มเหลว แม้ว่าเขายังอายุเยาว์ แต่เขาก็มีประสบการณ์ในการรบมาก และเข้าใจว่าการสู้รบขนาดใหญ่อย่างนั้น มีขึ้นมีลงอยู่เสมอ

นอกจากนี้ เขายังกำความได้เปรียบ  นอกจากทหารใต้บังคับบัญชาโดยตรงของเขา  เขายังมีกองทัพมาตรฐานดีอยู่ในมืออีกมาก กองทัพที่มีมาตรฐานดีทั้งหมดนี้อ่อนแอกว่ากองทัพใต้บังคับบัญชาโดยตรงของเขา  แต่มดหลายตัวสามารถล้มช้างได้ นอกจากกองทัพของเขาโดยตรงยังเป็นกองทัพที่มีเครื่องไม้เครื่องมือมาตรฐานทำให้กองทัพผสมของทวีปกวงหมิงสร้างสูตรกฎการรบที่ผ่านการรบมานับไม่ถ้วน  กฎนี้ได้มาโดยแลกเลือดมานับไม่ถ้วน

เทียบพวกเขากับภูมิภาคใต้ที่อยู่อย่างสงบรุ่งเรืองมานานมากพวกนั้นยังอ่อน กองพลเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์มีพันธมิตรมากมายรายรอบพวกเขา  แต่นอกจากทหารทั้งหมดนี้  พวกเขาขาดแคลนผู้บัญชาการที่แท้จริง  ดังนั้นการร่วมมือของพวกเขาจึงยุ่งเหยิง  และพวกเขายังมีการทะเลาะวิวาทกันเองให้เห็น

ความดื้อรั้นของกองพลเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์น่าชื่นชม  ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาแนวต้านของพันธมิตรจะตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง แต่ขณะที่เวลาผ่านไป จำนวนความได้เปรียบของพันธมิตรจะค่อยๆ หมดไป

แต่ ขณะที่ชิวซิ่วหัวคิดว่าชัยชนะอยู่ในเงื้อมมือเขา ก็มีกองกำลังหนึ่งโผล่ออกมาใกล้กองเรือของเขาเหมือนกับภูตพราย  เมื่อชิวซิ่วหัวพบว่าพวกเขาคือกองพลกาขาว จึงทำให้สถานการณ์เกินกว่าควบคุมได้

กองพลกาขาวดูไม่เหมือนเป็นกองทัพมือใหม่แม้แต่น้อย  พวกเขามีประสบการณ์มากเหมือนชาวนาแก่  พวกเขารู้วิธีฆ่าผ่านจุดวิกฤติของศัตรูใครจะคิดกันว่าพวกเขาเป็นกองทัพที่เพิ่งเลื่อนขึ้นเป็นกองทัพระดับทองไม่นาน?

พลังโจมตีของพวกเขารุนแรงและเด็ดขาด และกองทัพมาตรฐานทั่วไปพ่ายแพ้อย่างรวดเร็วภายใต้การโจมตีของพวกเขา

ชิวซิ่วหัวเข้าใจว่าหมายความว่ายังไง  เมื่อพวกเขาสูญเสียปีกที่ค้ำยัน

เป็นไปตามคาดแม่ทัพกองพลเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ยอมเสียโอกาสที่มาถึงเขา  พวกเขาทุ่มกำลังร่วมรุกโจมตีเต็มที่

ขณะที่ปีกด้านหนึ่งของชิวซิ่วหัวเริ่มพังทลายเขาออกคำสั่งโดยตรงกับกองทัพสายตรงของเขาให้ถอยทันที  ตอนนี้ฟงหวินม่าน แม่ทัพภายใต้บัญชาของเขานำกองกำลังของเขาทุ่มชีวิตตีฝ่าเพื่อเปิดโอกาสให้กองกำลังที่เหลือได้มีโอกาสถอย

ชิวซิ่วหัวเสียกำลังพลไปสามหมื่น  แปดพันคนสูญเสียไปขณะโอบล้อมและแปดพันคนนี้ทุ่มชีวิตฆ่าทหารอีกฝ่ายได้ถึงหมื่นห้าพันคน คนอย่างน้อยสองหมื่นคนของพวกเขาบาดเจ็บล้มตายมาจากทางกองพลกาขาว

สูญเสียกำลังพลไปสามหมื่นคนจากกองทัพแสนห้าหมื่นเป็นความเสียหายอย่างมาก  แต่เรื่องที่เจ็บปวดสำหรับชิวซิ่วหัวมาจากความตายของฟงหวินม่านแม่ทัพคู่ใจของเขา

ไป๋เยี่ยจิ้งจอกแดนใต้สร้างชื่อจากการรบครั้งนี้

เมื่อนึกถึงกองพลกาขาวแล้ว ชิวซิ่วหัวหน้าเขียวคล้ำทุกที

กองพลกาขาวไม่ได้มีคนมาก แต่ความสามารถในการสู้ของพวกเขาแข็งแกร่งมาก  และจากสิ่งที่ชิวซิ่วหัวบอกได้  พวกเขาแข็งแกร่งมากกว่ากองพลเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์

“เรือรบทุกลำมีอาวุธเกินจำนวนของเรือรบ  ตามบันทึกที่วิเคราะห์ไว้ เรือรบแต่ละลำมีอาวุธยุทโธปกรณ์เป็นสองเท่า  และมากกว่าเราหนึ่งเท่าครึ่ง”

คนที่พูดเป็นแม่ทัพภายใต้ร่มธงของชิวซิ่วหัว จื่อเชอเจียจิ้ง  เขามีรูปร่างสูงใหญ่ผมยาวประบ่าและหน้าตาที่หล่อนั้นดูอารมณ์เยือกเย็น แต่ตอนนั้นเสียงสุภาพของเขาไม่อาจปกปิดร่องรอยจนใจได้

‘นั่นเป็นเรื่องจนใจ’

อาวุธเรือรบ ราคาแพงโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาวุธที่ใช้โดยกองทัพระดับทอง พวกเขามีระดับที่สูงมากกว่าอาวุธเรือรบธรรมดา และยังแพงกว่ามาก เมื่อได้ยินว่าเรือรบของกองพลกาขาวทุกลำติดตั้งอาวุธมากกว่าพวกเขาถึง 1.5เท่า ทุกคนตกตะลึง พวกเขามีประสบการณ์กับพลังของเรือรบของกองพลกาขาว อาวุธเรือรบของพวกเขามีมาตรฐานสูงกว่าอาวุธพวกเขาเอง

อาวุธประจำเรือรบทุกลำมากกว่าของพวกเขา 1.5 เท่า!

กองทัพของทวีปกวงหมิงรู้ว่าเพราะอาวุธระดับสูงของพวกนั้นทำให้พวกเขามีข้อได้เปรียบต่อศัตรูอย่างมากมายนับไม่ถ้วน

สงครามคือการต่อสู้ด้วยเงิน!

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ทวีปกวงหมิงพ่ายแพ้ในสงครามที่สู้ด้วยเงิน?

ในช่วงเวลาเงียบสั้นๆ นี้ สีหน้าทุกคนกลายเป็นน่ากลัว

“อาจกล่าวได้ว่าทวีปซางโจวมีผลผลิตเฉพาะที่ไม่เหมือนใครก็คือทองดำและนั่นเป็นวัสดุชั้นดีสำหรับสร้างอาวุธเรือรบ  แต่แค่ทองดำก็สามารถผลิตออกมาเป็นอาวุธเรือรบระดับนั้นเชียวหรือ?  เราไม่เคยได้รับรายงานเรื่องนั้นมาก่อน”

จื่อเชอเจียจิ้งรู้สึกตัว

ทุกคนรู้ว่าทองดำของทวีปซางโจวสามารถผลิตเป็นอาวุธเรือรบได้ แต่ไม่มีใครคิดเลยว่าทองดำจะสามารถผลิตอาวุธเรือรบออกมาได้ในคุณภาพที่สูงขนาดนั้น!

นั่นเป็นระดับเดียวกับอาวุธเรือรบระดับเงิน มีความแตกต่างกันมากในเรื่องพลังระหว่างอาวุธ เนื่องจากอาวุธระดับเงินเป็นคำเรียกโดยทั่วไป  อย่างปืนใหญ่กระบี่รังผึ้ง องค์การค้าอาวุธผลิตออกมาด้วยคุณภาพที่ต่างกันทั้งหมดนี้ก็มีมาตรฐานที่ต่างกัน มีผลต่อพลังโจมตี, พลังของรัศมีกระบี่มีความต่างกันอย่างมาก และสำหรับอาวุธเรือรบขนาดใหญ่จะมีความซับซ้อนมากขึ้น มีการปรับแต่งผลิตให้เป็นอาวุธเรือรบที่แข็งแกร่งขึ้นและพื้นที่น้อยลงก็หมายความว่าจำนวนคนที่ต้องการใช้ปฏิบัติการน้อยลงด้วย ฯลฯ

สำหรับอาวุธเรือรบระดับทอง มีเพียงชิวซิ่วหัวและเรือรบของขุนพลใต้บังคับบัญชาโดยตรงของชิวซิ่วหัวเท่านั้นที่ติดตั้ง  เนื่องจากอาวุธเหล่านี้แพงมาก

เว่ยเยี่ยส่ายศีรษะ “อาวุธเรือรบทั้งหมดนี้อาจไม่จำเป็นต้องสร้างด้วยทองดำก็ได้  สัมพันธมิตรใต้ยังมีสมาคมการค้าสวีจี้  พวกเขาเป็นหนึ่งในห้าสุดยอดบริษัทค้าอาวุธของภูมิภาคใต้ การผลิตและจัดซื้ออาวุธจำนวนมากย่อมมีความเป็นไปได้”

“น่าเสียดาย การลอบจู่โจมของเหมยเฉินซิ่วที่ทวีปภูผาเหล็กล้มเหลว”

ใครบางคนพึมพำในห้องประชุมทำให้คนอื่นมีท่าทางไม่พอใจ ข่าวว่าแผนของเหมยเฉินซิ่วลอบจู่โจมทวีปภูผาเหล็กกะทันหันพวกเขาเพิ่งจะได้รับ  แต่ไม่มีใครใส่ใจ  พวกเขามั่นใจในตนเองว่าด้วยพลังของพวกเขาเอง  พวกเขาสามารถกำจัดศัตรูได้อย่างเด็ดขาด

จนกระทั่งเมื่อพวกเขาประสบกับการเสียเลือดเนื้อจึงได้ตระหนักว่าถ้าเหมยเฉินซิ่วทำได้สำเร็จ ก็คงจะเปลี่ยนการรบทั้งหมดได้อย่างสิ้นเชิง

“นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เราพ่ายแพ้”

เมื่อชิวซิ่วหัวพูด หัวใจทุกคนสั่นสะท้าน  ทุกคนก้มหน้าหลบตาได้แต่มองอกตนเอง

“อาวุธยุทโธปกรณ์ของกองพลกาขาวดีกว่าพวกเรา  แต่พวกเขามีแค่เพียงกองพลเดียว  ครั้งนี้ข้าประมาทเกินไปและประเมินศัตรูผิดพลาด”

เมื่อได้ยินคำพูดของชิวซิ่วหัวแม่ทัพสองสามคนต้องการจะพูด แต่ชิวซิ่วหัวโบกมือห้ามพวกเขา และพูดจริงจัง “ไม่ต้องห่วงว่าพวกเจ้าจะแพ้หรือชนะชั่วคราว  สิ่งสำคัญก็คือแก้ปัญหาความล้มเหลวของเรา  ทุกคนต้องรู้การเดินทัพครั้งนี้เป็นสิ่งที่มีความหมายต่อทวีปกวงหมิง”

ขุนพลทุกคนกลายเป็นจริงจัง

ตาของชิวซิ่วหัวเป็นประกายเจิดจ้าขณะที่เขาพูดอย่างใจเย็น  “ไม่ว่าเราจะชนะหรือแพ้ไม่สำคัญ  แต่ในการเดินทางครั้งนี้  ต้องมีชัยชนะฝ่ายเดียวเท่านั้น  และนั่นก็คือทวีปกวงหมิงเท่านั้น!”

จากนั้นจื่อเชอเจียจิ้ง “เมื่อมองจากมุมมองเล็กๆ ชัยชนะหรือพ่ายแพ้ของเราไม่ใช่เรื่องสำคัญ”

คำพูดของเขาได้รับความสนใจจากพวกที่เหลือทันที  หลายคนมีท่าทีไม่พอใจ  ‘เจ้าหมายความว่ากระไร  เราเดินทางมายาวนานและมาถึงภูมิภาคใต้ไม่ควรชนะ แต่จะต้องแพ้หรือ?’

ชิวซิ่วหัวยังไม่ขยับ “ว่าต่อไป”

“แม้ว่าคนในภูมิภาคใต้ก็คิดว่าเรามาที่นี่เพื่อพิชิตแผ่นดินพวกเขา จนถึงจุดที่แม้แต่เราเองก็คิดเหมือนกัน  แต่ข้าต้องการเตือนทุกท่านในที่นี้  ตั้งแต่แรกเริ่มเป้าหมายของเราอยู่ที่ทวีปซางโจวมาโดยตลอด”

คำพูดของจื่อเชอเจียจิ้งยังคงอ่อนโยน  แต่ก็เป็นการโยนระเบิดในทั้งห้อง  แม่ทัพสองสามคนมีท่าทีละอาย  ขณะที่คนอื่นไม่แน่ใจ

“ในการสู้รบครั้งแรก เราเหมือนกับมีดร้อนที่ผ่านการต่อสู้ ทำให้เราสูญเสียสติและด้วยใจที่ทะเยอทะยานไม่เหมาะสมนั่นทำให้เราคลาดเคลื่อนไปจากเป้าหมายของเรา ถ้าเราไม่สามารถดึงดูดกองพลเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์และกองพลกาขาว กองทัพระดับทองที่ยังเหลืออยู่มีไม่กี่กองทัพในภูมิภาคใต้  และทำให้พวกเขาไม่สามารถไปเสริมทัพให้กับทวีปซางโจว อย่างนั้นแม่ทัพโกวเฉิงเวิ่นเต้าและขบวนทัพของเขาก็จะมีการต่อต้านน้อยด้วยภารกิจยึดทวีปซางโจวของเรา เราจะทำภารกิจบางอย่างได้สำเร็จแน่นอน”

ขณะนั้นผู้นำสองสามคนที่เสียงของจื่อเชอเจียจิ้งไม่สามารถโน้มน้าวได้  แสดงท่าทีครุ่นคิด

“เป้าหมายของเราคือทวีปซางโจว”  ชิวซิ่วหัวไม่ลังเลใจและพูดต่อ  “รวมไปถึงข้า ความทะเยอทยานจะได้รับประโยชน์ของการพิชิตภูมิภาคใต้ก็ยังอยู่ในสายตาของเรา  ความล้มเหลวในครั้งนี้ไม่ได้เป็นผลเสียต่อเราแม้แต่น้อย เพราะทำให้เราได้ตระหนักถึงสถานการณ์ว่าเราอยู่ในสถานะที่ชัดเจน  ทุกคนแม้จะต้องแบกชื่อของผู้แพ้  แม้ว่าเราจะไม่ได้ความดีความชอบ  แม้ด้วยกองกำลังที่เหลือที่นี่  เราต้องถ่วงกองทัพระดับทองทั้งสองนี้ไว้!”

เขาลุกขึ้นยืน และมองดูแม่ทัพนายกองรอบๆเขาและพูดอย่างจริงจัง “สงครามครั้งนี้เริ่มจากจุดที่ทวีปกวงหมิงของเรามีเป้าหมายจะรวบรวมดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  ซึ่งเรามีแต่ต้องชนะ และพ่ายแพ้ไม่ได้! ทุกคนที่ยศต่ำกว่าข้า พวกเจ้าจะต้องเสียสละตนเองให้ดี ผู้ใต้บังคับบัญชาข้าทุกคน ใครก็ตามที่หนี จะต้องถูกตัดหัว”

“ด้วยดาบของข้า  ข้าจะเปลี่ยนสนามรบให้เป็นโรงประหารจะไม่มีใครคิดถึงเรื่องการหลบหนี

เขาทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ หน้าที่หล่อของเขากลายเป็นดูน่ากลัว ตาของเขาแดงก่ำ

แม่ทัพทุกคนได้รับผลจากเขาและตะโกนออกมาพร้อมเพรียงกัน  “ขอรับ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด