ตอนที่แล้วตอนที่ 55 ตัดมือเพื่อช่วยชีวิต(อ่านฟรี05/02/2566)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 57 มาถึงค่ายลี้ภัยเมืองหินเหล็ก(อ่านฟรี07/02/2566)

ตอนที่ 56 หนีด้วยรถบัสโรงเรียน(อ่านฟรี06/02/2566)


ตอนที่ 56 หนีด้วยรถบัสโรงเรียน

ว๊ากกก!!!

ขณะที่เสียงคำรามของผู้ติดเชื้อดังวุ่นวายไปหมด พวกมันคล้ายกับฝูงผึ้งแตกรังที่กำลังไล่ตามโจมตีผู้บุกรุก เรนและหลินนั้นได้หนีลงมาจนอยู่ที่ห้องบนชั้น 2 ของอาคาร ตอนแรกพวกเขาคิดจะหนีไปทางบนดาดฟ้า แต่ว่าด้านบนดาดฟ้าของฝั่งตรงข้ามกลับเต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อ พวกมัน โดนกลิ่นเลือดสด ๆ ล่อลวงมาที่นั่น และมีบางตัวที่ดันทำบันไดที่ผู้กองเชนพาดเอาไว้ตกลงไปด้วย

ที่จริงถ้าขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าเรนอาจจะพอกระโดดข้ามไปยังตึกตรงข้ามได้ แต่ไม่ใช่กับหลิน ต่อให้เรนอุ้มเธอไปด้วยมันก็ไม่ควรทำ เพราะร่างของหลินไม่ทนทานแบบเรน และการมีน้ำหนักมาเพิ่มยิ่งทำให้โอกาสในการกระโดดไปถึงของเรนน้อยลงไปอีก

ดังนั้นทางเลือกเดียวของพวกเขา คือการหาเส้นทางลงไปยังด้านล่างเพื่อไปรวมตัวกับทุกคน

แต่ว่าสถานการณ์ก็ไม่เป็นเป็นใจนักเนื่องจากตามทางเดินมีผู้ติดเชื้อมากเกินไป ผู้ติดเชื้อจากในเมืองเริ่มมารวมกันที่นี่แล้ว ยิ่งเวลาผ่านไปมันจะยิ่งมากกว่านี้อีก

เรนคิดหนักสายตากวาดมองผ่านหน้าต่างไปเรื่อย ๆ พร้อมกับปลดปล่อยสภาวะแรกของเขาแล้วและเริ่มดูดซับพลังงานจากหินพลังงานใหม่

หลินเองก็ด้วย ตอนที่พวกเขาออกมาจากชั้นสาม เรนได้ย้อนไปเก็บพวกของที่ปรากฏมาจากศพผู้ติดเชื้อที่เขาฆ่าไป ทำให้ได้สิ่งของมามากมายพอสมควร

“เจอทางบ้างไหม” หลินที่พึ่งดูดซับพลังงานไปจนเต็มได้เดินมาถามเรน

“พอมีอยู่ แต่ว่าอันตรายหน่อย” เรนกล่าวขึ้นมา ขณะที่แววตานั้นมองไปยังด้านหนึ่งของอาคาร มันเป็นลานจอดรถ เขาชี้ให้หลินมองดู

“เห็นรถบัสโรงเรียนคันสีเหลืองนั้นไหม มันมีผู้ติดเชื้ออยู่ด้านใน”

“เห็นอยู่ทำไมเหรอ”

“ถ้าเดาไม่ผิดผู้ติดเชื้อที่อยู่ในรถบัสคันนั้นคงเป็นคนขับ แสดงว่าเขามีกุญแจอยู่กับตัว ผมจะไปล่อพวกตัวเกะกะรอบ ๆ ออกไป คุณวิ่งไปที่นั่นและขับรถบัสนั้นออกมาได้รับผมแล้วได้ไหม” เรนหันไปมองหน้าหลิน

“ฉันไม่เคยขับรถบัสมาก่อน” หลินตอบไปตามตรง ก่อนจะรีบพูดต่อว่า “แต่ฉันจะลองดูก็แล้วกัน ตอนนี้คงไม่มีตำรวจคนไหนมาสนใจหรอก”

“ในกลุ่มเราก็มีตำรวจมาด้วย” เรนพูดติดตลก

หลินยิ้มออกมาเล็กน้อยและถามว่า “เราจะลงไปยังไงจากตรงนี้”

“อย่างนี้ไง”

เรนใช้สภาวะแรกจำลองพลังอีกครั้งและใช้แขนโอบกอดเอวดึงตัวของหลินเข้ามา จากนั้นเขาก็กระโดดออกไป มือของเรนอีกข้างนั้นคว้าเอาขอบหน้าต่างไว้อีกที

“อ่า!” หลินตกใจ ก่อนจะใช้แขนทั้งสองข้างกอดเรนไว้แน่นเพราะกลัวตกลงไป

เรนในตอนนี้ห้อยตัวอยู่ที่ชั้นสอง แต่ด้วยขนาดตัวของเขา ทำให้เท้าและพื้นนั้นอยู่ห่างกันไม่กี่เมตรเท่านั้น หลังจากกะจังหวะดี ๆ แล้วเรนก็ปล่อยมือและลงพื้นด้วยความเร็ว

ตุบ!

เท้าทั้งสองข้างของเรนนั้นพื้นได้อย่างปลอด หลินที่กอดคอเรนแน่นก็ปลอดภัยเช่นกัน

ไม่มีเวลาให้ทั้งสองกอดกันอยู่นานมากนัก ผู้ติดเชื้อก็ค้นพบเรนและหลินแล้ว

“ไป” เรนปล่อยหลินลง จากนั้นก็วิ่งเข้าไปใส่พวกผู้ติดเชื้อ เขาล่อพวกมันให้ออกมาห่างจากจุดที่หลินอยู่

หลินซุ่มมองดูผู้ติดเชื้อครึ่งร้อยวิ่งตามเรนไป เธอก็อาศัยจังหวะนั้นรีบวิ่งตรงไปหารถบัสโรงเรียน หญิงสาวมาถึงผู้ติดเชื้อด้านในรถบัสก็พุ่งเข้ามาหาเธอในทันที

แต่ว่าประตูมันปิดอยู่ ทำให้ผู้ติดเชื้อตัวนั้นหน้ากระแทกประตูและไม่สามารถทำอะไรเธอได้

หลินรีบวิ่งอ้อมไปยังทางด้านฝั่งคนขับ ก่อนจะใช้ปืนยิงเข้าใส่กระจกจนแตก เธอเอื้อมผ่านกระจกแตกเข้าไป ก่อนจะเปิดมันได้สำเร็จ ตอนนั้นเองผู้ติดเชื้อคนขับตัวเดิมก็กระโจนเข้าใส่หญิงสาว

โชคดีที่หลินนั้นเตรียมตัวอยู่ก่อนแล้ว เธอจึงถอยหลบได้พ้น ทำให้ผู้ติดเชื้อตกจากรถบัสโรงเรียนหน้ากระแทกพื้น หลินจัดการยิงซ้ำไปที่หัวในระยะเผาขนจนมันตายคาที่

เธอรีบค้นตัวศพ ก่อนจะพบกุญแจและก็เดินผ่านศพที่เลือดนองพื้นไปขึ้นรถบัส จากนั้นก็รีบปิดประตูฝั่งคนขับ ก่อนจะเข้าไปตรวจสอบตามเบาะนั่งด้านใน เธอไม่อยากจะโดนผู้ติดเชื้อโจมตีขณะที่ขับรถอยู่แน่นอน

ด้านในนั้นไม่มีผู้ติดเชื้ออื่นอีก หญิงสาวติดเครื่องและเริ่มทำความคุ้นเคยกับรถอยู่ครึ่งนาที ก่อนจะรีบขับออกไปอย่างทุลักทุเล ตรงไปหาเรนที่กำลังวิ่งตรงมาทางเธอ

เรนวิ่งมาถึงก็รีบขึ้นมายังประตูรถบัสโรงเรียนที่หลินเปิดให้ เขาพูดออกมาด้วยความดีใจว่า “คุณทำได้”

“แน่นอน เราจะไปไหนต่อ” หลินถาม

“ไปอีกฝั่งของตึกตรงไปจอดรอพวกคนอื่น ๆ เดี๋ยวผมจะไปล่อพวกมันเอง” ว่าแล้วเรนก็วิ่งลงจากรถไปอีกครั้ง เขายังมีงานที่ต้องล่อพวกผู้ติดเชื้ออยู่อีก

...

ขณะเดียวกันที่ห้องสมุดของอาคารเรียนเก่า ในตอนนี้พวกเขากำลังช่วยกันกั้นประตูขวางพวกผู้ติดเชื้อไว้ โชคดีที่อาคารนี้เป็นอาคารเรียนเก่า ประตูที่ใช้สมัยก่อนจะเป็นไม้แข็งและหนา ซึ่งทนทานมาในระดับหนึ่ง ไม่เหมือนกับอาคารสมัยใหม่ที่มักเป็นประตูกระจก หรือไม่ก็พวกประตูไม้อัดบาง ๆ

“เธอเป็นยังไงบ้าง” ผู้กองเชนเดินเข้ามาถามอาการของรินดากับหลิน ด้านข้างของรินดานั้นมีเด็กสาวที่เธอพามาด้วยกำลังนั่งให้กำลังใจด้วยความเป็นห่วงอยู่ไม่ห่าง

“อาการทรงตัวแล้ว เลือดไม่ไหลอีก ดูเหมือนฉันจะคิดถูกยานั้นได้ผล” ไอรากล่าวขึ้นมาด้วยแววตาผ่อนคลายลง

“ดีแล้ว แต่ว่าตอนนี้เรามีปัญหาใหม่แล้ว เราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน ต้องหาทางออกไปจากที่นี่ ไปรวมกับเรน” ผู้กองเชนกล่าวขึ้นมา

หลินได้ยินก็คิดอย่างเห็นด้วย ถ้ายังอยู่ที่เดิมมีหวังตายแน่

ลุงบุญและลีก็ด้วย แต่ทั้งคู่คิดไม่ออกเลยว่าจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง ทั้งทางเดินนั้นเต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อที่กำลังรอให้พวกเขาออกไปหาอยู่

“มีเสียงรถ” ผู้กองเชนเหมือนจะได้ยินเสียงรถก็รีบวิ่งไปดูที่หน้าต่างในทันที ก่อนจะเห็นว่าด้านล่างมีรถบัสโรงเรียนที่พึ่งชนผู้ติดเชื้อจนเละไปหนึ่งถึงสองตัว ก่อนที่ประตูจะเปิดออกมา หลินโบกมือให้พวกเขา

“ลงมาเร็ว” หลินตะโกนบอก

“แม่สาวนั้นหมายความว่ายังไง ด้านนอกมีผู้ติดเชื้ออยู่ เราจะลงไปได้ยังไง” ลุงบุญหันไปถามผู้กองเชน

“นอกซะจากว่าไม่มีพวกมัน” ผู้กองเชนเหมือนจะนึกอะไรอีก รีบวิ่งไปที่ประตู ก่อนจะใช้หูแนบฟัง เขาได้ยินเสียงกลุ่มของผู้ติดเชื้อกำลังวิ่งออกไปจากที่นี่

“เรน” ผู้กองเชนพูดออกมาและยิ้มในทันที

“เตรียมตัวออกไปจากที่นี่ เรนกำลังล่อพวกมันผู้ติดเชื้อที่ขวางพวกเราออกไปอยู่” ผู้กองเชนกล่าวด้วยความยินดี ก่อนจะเดินไปดันเอาของที่ขวางประตูออกมาและเข้ามาอุ้มตัวของรินดาที่กำลังสลบอยู่ขึ้นมา

ไอราถือขวานของตัวเองและจับมือของเด็กสาวไว้

“ไม่ต้องกลัวนะพี่ชายที่แข็งแกร่งมาก ๆ มาช่วยพวกเราแล้ว” ไอรากล่าวกับเด็กสาว

“อืม” มินนาพยักหน้า

“ลุงช่วยผมหน่อยได้ไหม” ลีขอความช่วยเหลือจากลุงบุญ เนื่องจากขาเขาเจ็บ จึงไม่สามารถเดินไปได้สะดวกนัก

ลุงบุญเข้ามาช่วยประคองลีและถามว่า “ขาไปโดนอะไรมา”

“โดยเธอยิง” ลีตอบขณะที่มองไปที่รินดา

ลุงบุญดูจะประหลาดใจอย่างมาก แต่ลีก็รีบพูดต่อว่า “ผมสมควรโดนแล้ว”

“พวกมันไปหมดแล้ว” ไอราเปิดประตูและมองดู

“ไป” ผู้กองเชนกล่าวขึ้นมา พวกเขารีบพากันออกมาในทันที คนที่นำหน้านั้นเป็นไอราและมินนา ตามหลังมาด้วยผู้กองเชนที่อุ้มรินดามา และปิดท้ายด้วยลุงบุญและลี

ว๊ากกก!

ตอนนั้นก็มีเสียงคำรามของผู้ติดเชื้อดังมาจากข้างหลัง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงตะโกนที่ว่า

“ปิดประตู! ปิดประตู!”

“พวกพูดได้” ไอรากล่าวด้วยสีหน้ากังวล

“ช่างมัน รีบออกไปก็พอ” ผู้กองเชนกล่าวด้วยท่าทีกัดปาก เพราะเอาต้องอุ้มรินดาลงจากบันไดชั้นสามทำให้รู้สึกเหนื่อยไม่ใช่เล่น

แต่ในที่สุดพวกเขาก็ลงมาจนถึงชั้นล่างและเปิดประตูออกมาด้านนอกอาคารได้สำเร็จ

ว๊ากกก!!!

ผู้ติดเชื้อตัวหนึ่งโผล่มาด้านหน้าในตอนที่พวกเขาเปิดประตูพอดี หลินตกใจมาก เธอจับขวานในมือขึ้นมาตามสัญชาตญาณ แต่ก่อนจะได้ลงมือตอนนั้นก็มีรถบัสโรงเรียนคันสีเหลือง ขับมาด้วยความเร็วสูง ชนเข้าใส่ตัวของผู้ติดเชื้อเต็ม ๆ จนมันกระเด็นไถลไหลไปกับพื้นเป็นทางยาวเลือดถึง 5 เมตร

“ขึ้นมา” หลินเปิดประตูรับทุกคนขึ้นมาบนรถในทันที

หลังจากที่ขึ้นมากันหมดแล้ว ไอราก็หันไปถามหลิน

“แล้วเรนละ”

ปัง!

ตอนนั้นเองก็มีคนกระโดดใส่หลังคาของพวกเขา ก่อนที่จะกระโดดลงจากหลังคารถต่อ ซึ่งเป็นเรนนั้นเอง

“ไป ๆ เร็ว” เรนวิ่งขึ้นมาบนรถด้วยสภาพโชกเลือด ทำเอาลุงบุญที่ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนถึงกับมองตาค้างไปทันที

หลินนั้นขับรถออกไปจากโรงเรียนในทันที แม้จะชนกับผู้ติดเชื้อบ้าง แต่ว่าก็ยังสามารถประคองรถไปต่อได้

“เดี๋ยว เราต้องไปเอารถคันนั้น ของพวกเราอยู่ที่นี่นั่นทั้งหมด” ผู้กองเชนที่พุ่งวางรินดาลงที่เบาะ ได้เข้ามาบอกกับหลิน

หลินมองเรนทันที เพื่อถามว่าจะเอายังไง

“ใส่ล้อไม่ถึง 3 นาทีก็ขับออกไปได้แล้ว” ผู้กองเชนหันมาพูดกับเรน

เรนพยักหน้าตกลง ทั้งน้ำและอาหารของพวกเขาอยู่บนรถหมด การขนมันมายังใช้เวลามากกว่าที่ใส่ล้อรถเข้าไปซะอีก

“ตกลง รีบไป ก่อนที่พวกด้านหลังจะตามมาทัน” เรนกล่าว

รถบัสโรงเรียนขับด้วยความเร็ว ก่อนจะออกจากซอยและตรงไปยังถนนเส้นหลังได้สำเร็จ ซึ่งไม่ไกลมีรถออฟโรดคันสีดำของพวกเขาจอดอยู่

“ไปกันสองคนพอ คุณกับผม” เรนบอกกับผู้กองเชน ก่อนจะพากันลงไปที่รถออฟโรด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด