ตอนที่แล้วตอนที่ 20-29 โปรดอย่าถือสา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20-31 ประมุขมหาเทพ

ตอนที่ 20-30 โองการจอมเทพ


เมื่อบุรุษผมสีเพลิงคว้ากระดาษชิ้นสีเขียวได้และกวาดตามอง  สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

บุรุษชุดดำเมื่อเห็นสถานการณ์ก็รีบบินหนีไปด้วยความเร็วสูงทันที

“ครั้งนี้ถือว่าเจ้าโชคดี”  บุรุษผมสีเพลิงชำเลืองมองบุรุษชุดดำ  แต่หน้าของเขายังคงยิ้มด้วยความตื่นเต้น  “นี่..นี่คือโองการจอมเทพหรือนี่?”  บุรุษผมสีเพลิงลูบโองการจอมเทพ  เขาสามารถรู้สึกได้ว่ากระดาษสีเขียวยังแฝงไปด้วยกลิ่นอายไม่ธรรมดา  และเขารู้สึกดีใจอย่างช่วยไม่ได้

เขาไม่มีอะไรมากไปกว่าอสูรเจ็ดดาวคนหนึ่งแต่ยังไม่ถึงระดับผู้บัญชาการ

“เพราะมันไม่เสียหายในมิติปั่นป่วน..กระดาษนี้ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน เป็นไปได้ว่ามีแต่จอมเทพจึงจะสร้างกระดาษที่ไม่ธรรมดานี้ได้”  บุรุษผมสีแดงเพลิงไตร่ตรอง  “ดูเหมือนข้อมูลจะเป็นเรื่องจริง  อืมมม ถ้าข้าเอาของนี้ไปเสนอให้มหาเทพ  ข้าควรจะต้องเลือกมหาเทพผู้ทรงพลัง  บรรพบุรุษของตระกูลออกุสตา  ประมุขมหาเทพแห่งแสง  ใช่แล้ว นั่นคือที่ๆ ข้าจะไป!”

โองการจอมเทพเป็นของไม่มีประโยชน์สำหรับเขา  แต่ถ้ามอบให้มหาเทพ ก็จะได้รับประโยชน์ยิ่งใหญ่

เขาไม่ลังเลอีกต่อไป บุรุษผมสีแดงเพลิงมุ่งหน้าไปยังเกาะโอไมท์แห่งทะเลก็อดโกล

เกาะโอไมท์มีวิหารสูงถึงหมื่นเมตร

“ศิลาเพลิงขาว นั่นสร้างมาจากศิลาเพลิงขาวล้วนๆ! ตระกูลออกุสตามีชื่อสมกับเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในจักรวาลจริงๆ เฉพาะวิหารนี้เท่านั้นก็เป็นสมบัติประมาณค่ามิได้”  บลันเนอร์ถอนหายใจชื่นชม  ขณะที่เขามองดูวิหารเจิดจรัสใจกลางเกาะโอไมท์

นักรบของตระกูลออกุสตากำลังนำทางจากด้านข้าง

“บลันเนอร์, เมื่อเจ้าเข้าไปในวิหารเจิดจรัสอย่ามองเลิ่กลั่ก มีคนสำคัญอยู่มากที่อาศัยอยู่ในวิหาร ถ้าเจ้าล่วงเกิน  พวกเขาอาจฆ่าเจ้าได้”  นักรบผมขาวที่อยู่ใกล้พูดกระซิบ  “นอกจากนี้,เจ้าพูดว่าเจ้ามีสมบัติสำคัญจะนำเสนอต่อประมุขตระกูล เจ้าต้องเสนอด้วยตนเอง  ถ้าเจ้าหลอกลวงประมุขตระกูล  เจ้าจะถูกตัดสินโทษ”

ในตระกูลออกุสตา  มียอดฝีมือระดับเจ้าแคว้นและผู้บัญชาการอยู่มาก

สำหรับอสูรเจ็ดดาวมีอยู่หลายคน แม้ว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ในช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดก็ยังมีผู้อาวุโสระดับอสูรเจ็ดดาวประมาณสองสามร้อยคน  แต่ตระกูลออกุสตามีระดับที่สูงกว่าตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์  ที่สำคัญคือนอกจากยอดฝีมือประจำตระกูลแล้ว  พวกเขายังมียอดฝีมือที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก

“ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าข้าจะกล้าหาญเพียงใด ข้าไม่กล้าหลอกลวงประมุขตระกูลออกุสตาแน่” บลันเนอร์หัวเราะเบาๆ

เขามีความมั่นใจมาก ถ้าแม้แต่โองการจอมเทพไม่ถือว่าเป็นของมีค่าแล้ว  แล้วอะไรจะมีค่าได้?

ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่บลันเนอร์คาด  ประมุขตระกูลออกุสตาโกลด์แมนผู้มีความหยิ่งและเย็นชา  แต่เมื่อเห็นเครื่องรางจอมเทพ  เขาถึงกับตื่นเต้นทันที  เขาสาบานว่าตระกูลออกุสตาจะให้รางวัลเขาแน่นอน  ขณะนั้นเองประมุขโกลด์แมนเผากระดาษชิ้นหนึ่งซึ่งมีอักษรรูนเต็มไปหมด เพื่อแจ้งประมุขมหาเทพ

“จำเอาไว้ ในช่วงเวลาสั้นๆ อย่าส่งเสียง  เมื่อมหาเทพอนุญาตให้เจ้าพูด นอกจากขณะคุกเข่าแล้วอย่าเงยหน้ามองประมุขมหาเทพ”  หลังจากเผากระดาษอักษรรูนแล้ว  โกลด์แมนรีบออกคำสั่ง

“ขอรับ, ท่านประมุขตระกูล”  บลันเนอร์ทั้งกังวลทั้งตื่นเต้น  นี่เป็นครั้งแรกของเขาที่จะได้เห็นมหาเทพ!

ขณะนี้เองรัศมีพลังมหาเทพธาตุแสงที่ทรงพลังปรากฏภายในห้องโถงใหญ่ของวิหารเจิดจรัส พลังของมหาเทพธาตุแสงกล้าแข็งรวมตัวกันเป็นรูปร่างจากนั้นกลายเป็นรูปมนุษย์คนหนึ่ง  มนุษย์ผู้นี้สวมชุดชาวสีขาวลวดลายสีทอง

“ท่านมหาเทพ” บลันเนอร์คุกเข่าทันทีและกดหน้าผากแนบพื้นด้วยอาการแสดงความเคารพ

“ท่านพ่อ” ประมุขโกลด์แมนคำนับแสดงความเคารพ

“โกลด์แมน!  เจ้าต้องการอะไร?”  เสียงอบอุ่นชัดเจนดังขึ้น

“คนพูดเป็นมหาเทพหรือ?  มหาเทพดูคล้ายอะไรกันแน่?”  บลันเนอร์รู้สึกกระวนกระวายใจมากขณะที่เขาคิดอย่างต่อเนื่อง

โกลด์แมนมองบิดาด้วยความเคารพ  ประมุขมหาเทพแห่งแสงสูงส่งและแข็งแกร่ง  ชุดยาวสีขาวที่หลวมปิดบังกล้ามเนื้อของเขาผมสีทองยาวเป็นประกายเหมือนกับดวงอาทิตย์ ผิวของเขาขาวมาก มองดูคล้ายหยกใส เขาไม่มีผมที่หน้า ขากรรไกรล่างของเขาดูเรียบเนียน แต่คิ้วของเขาสีทองเหมือนผม

คิ้วสีทองลู่ลงมาจากขมับของเขา

สายตาของประมุขมหาเทพอ่อนโยนเป็นกันเอง  แต่ขณะที่ยืนอยู่กับที่นั้นเขาทำให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับจักรวาลเอกภพ

“ท่านพ่อ, นี่คือบลันเนอร์  เขาต้องการเสนอสมบัติ  เมื่อข้าเห็นสมบัตินี้ข้าจึงได้อัญเชิญท่านพ่อทันที” โกลด์แมนเอากระดาษสีเขียวออกมา  “กระดาษนี่สมควรเป็นโองการจอมเทพ”

“โองการจอมเทพ?”

สายตาที่อ่อนโยนแต่เดิมของประมุขมหาเทพแห่งแสงคมกล้าขึ้นทันที  ดวงตาเพ่งมองกระดาษเขียวนั้นราวกับลูกธนูสองดอก

“แครก, แครก..”

ดาบแสงไร้ลักษณ์กระทบเข้าที่กระดาษจนปลิวกระเด็นออกไป แต่กระดาษเขียวก็ยังคงไม่เป็นอะไร

“ฮ่าฮ่า, โกลด์แมน เจ้าทำได้ดี นี่เป็นไปได้มากว่าจะต้องเป็นโองการจอมเทพ”  ขณะที่พูดประมุขมหาเทพแห่งแสงยื่นมือออก  และกระดาษสีเขียวลอยมาอยู่ในมือของเขา  ประมุขมหาเทพแห่งแสงอ่านกระดาษสีเขียวและขณะที่เขาอ่าน รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขาอีกครั้ง

“โอว.. เป็นของจริง”

มหาเทพแห่งแสงเห็นโองการจอมเทพมาหลายครั้งแล้ว  เขาสามารถตัดสินได้ทันทีว่าเป็นของแท้

ประมุขมหาเทพแห่งแสงกวาดตามองบลันเนอร์ที่ยังคุกเข่าอยู่กับพื้น  เขายิ้มและกล่าว  “ลุกขึ้นพูดเถอะ”  “ขอบคุณมหาเทพ”  บลันเนอร์ตื่นเต้นจนตัวสั่น  เขารีบลุกขึ้นยืน แต่เขายังคงยืนค้อมตัว

“เจ้าได้รับโองการจอมเทพนี้มาจากที่ไหน?”  ประมุขมหาเทพแห่งแสงถาม

“เรียนท่านมหาเทพ,เมื่อข้ากำลังสู้กับอีกคนหนึ่ง เกิดรอยแยกมิติและโองการจอมเทพนี้ปลิวออกมาจากรอยแยก  ข้าบังเอิญได้รับมาอย่างนั้นจุดที่เราต่อสู้นั้นอยู่ในกลางอากาศเหนือทะเลก็อดโกล” บลันเนอร์ไม่กล้าเงยหน้าจ้องมองมหาเทพโดยตรง  ดังนั้นเขายังคงก้มหน้าต่อไป  สายตาของเขาเพียงแต่มองเห็นชุดยาวเท่านั้น

ประมุขมหาเทพแห่งแสงเมื่อได้ยินเช่นนี้ก็เริ่มยิ้มกว้างมากขึ้น

“ฮ่าฮ่า จอมเทพแห่งวิถีชีวิตผู้ทรงอานุภาพ..อย่างนั้นท่านก็ตั้งใจส่งโองการจอมเทพมายังโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ของข้าสินะ ดูเหมือนภารกิจจอมเทพมีมาเพื่อให้ข้าทำได้สำเร็จอีกครั้ง”  ประมุขมหาเทพแห่งแสงอดหัวเราะไม่ได้

ประมุขมหาเทพแห่งแสงก็รู้ดีเช่นกัน!

เนื่องจากมิติปั่นป่วนกว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต  ถ้าใครบางคนหรือบางอย่างตกเข้าไปในนั้นคงเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่สิ่งนั้นหรือคนผู้นั้นจะเคลื่อนไหวไปตามต้องการด้วยตนเอง  เว้นแต่คนที่มีความสามารถของมหาเทพ  ถึงจะเคลื่อนไหวได้ตามต้องการ  สำหรับเทพชั้นสูง  ต่อให้เป็นพารากอนก็ตาม  เมื่อพวกเขาตกเข้าไปในมิติปั่นป่วนพวกเขาจะพบว่ายากจะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็คงเป็นเรื่องที่ยากสำหรับพวกเขาที่จะเคลื่อนเข้าไปใกล้ขอบเขตพิภพต่างๆ

แม้ว่าพวกเขาจะเข้าไปใกล้ขอบพิภพ  แต่พวกเขาจะโชคได้พบรอยแยกมิติต่อไปได้อย่างไร

ดังนั้นโดยทั่วไปเมื่อสุดยอดฝีมือถูกขับเข้าไปในมิตินั้น ต่อให้ผ่านไปล้านล้านปีบางทีพวกเขายังไม่สามารถหลบหนีออกมา

อย่างไรก็ตามภารกิจจอมเทพถูกจอมเทพสร้างขึ้นมา จอมเทพจะยอมให้โองการคำสั่งของพวกเขาอยู่ในมิติปั่นป่วนได้อย่างไร? ดังนั้นจอมเทพสามารถจัดการเพื่อที่ว่าแม้โองการจอมเทพจะตกลงไปในมิติปั่นป่วน  แต่จะกลับมาปรากฏในพิภพอื่นอย่างรวดเร็ว  และตอนนี้...โองการจอมเทพมาปรากฏอยู่ในโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์

เป็นเรื่องธรรมดาที่ประมุขมหาเทพแห่งแสงเชื่อว่าจอมเทพตั้งใจจะช่วยเขา!

“เจ้าทำได้ดีมาก”  ประมุขมหาเทพแห่งแสงมองดูบลันเนอร์จากนั้นยิ้ม  “โอมานตายแล้ว  ข้าเพิ่งจะขาดทูตมหาเทพ  อย่างนั้นเจ้าจงเป็นทูตมหาเทพ”

บลันเนอร์ตื่นเต้นจัดจนหน้าแดง  “ข้าจะได้เป็นทูตมหาเทพหรือนี่?  ข้าจะกลายเป็นทูตมหาเทพแล้ว?”  บลันเนอร์รู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในความฝัน  เขาไม่อยากจะเชื่อ  จากอสูรเจ็ดดาวธรรมดาได้เป็นทูตภายใต้การปกครองของประมุขมหาเทพแห่งแสงผู้ทรงอานุภาพ...สถานะของเขาได้ยกระดับอย่างยิ่งใหญ่  และเขาจะได้รับสมบัติมหาเทพ!”

“รีบคุกเข่า” ประมุขโกลด์แมนรีบบอกทางใจ

บลันเนอร์ค่อยรู้สึกตัว  จากนั้นรีบคุกเข่า  “ขอบคุณ ท่านมหาเทพ”

“อืม” ประมุขมหาเทพแห่งแสงพยักหน้าเล็กน้อย

“ท่านพ่อ” ประมุขโกลด์แมนคำนับและกล่าว “ความจริงข่าวโองการจอมเทพเริ่มแพร่กระจายมาได้สักพักหนึ่งแล้ว”

“เหรอ?” ประมุขมหาเทพแห่งแสงสงสัย

“ข่าวเพียงแต่แพร่กระจายอยู่ในแดนนรก  ข้าเพิ่งรู้มาเมื่อเร็วๆ นี้”  โกลด์แมนรีบกล่าว  “ข้อมูลนั้นอธิบายรายละเอียดถึงของสามอย่าง ไม่มีความแตกต่างกันระหว่างข้อมูลนั้นและโองการจอมเทพ  เพียงแต่มีจุดพิเศษสองสามจุด  ข่าวบอกว่าหนึ่งในเครื่องรางทั้งสามมุกวิญญาณที่ระบุไว้ในโองการจอมเทพอยู่ในความครอบครองของเทพพารากอนชื่อลินลี่ย์  ข่าวนี้ทำให้เกิดความปั่นป่วนใหญ่ในแดนนรก  แต่หลังจากนั้นก็เชื่อว่าเป็นข่าวลวง”

ประมุขมหาเทพแห่งแสงเลิกคิ้ว  “ลินลี่ย์?”

“ใช่แล้ว, ลินลี่ย์”  โกลด์แมนรีบกล่าว

“ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับความจริงของข่าวนี้”  ประมุขมหาเทพแห่งแสงหัวเราะอย่างเยือกเย็น  “ข้อมูลนั้นที่ว่าโองการจอมเทพอยู่ในมือของลินลี่ย์  แต่ในความเป็นจริงกลับลอยออกมาจากมิติปั่นป่วนเข้ามาในโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์และตกมาอยู่ในมือของข้า ดูเหมือนคนที่สร้างข่าวขึ้นมาต้องการจะทำร้ายลินลี่ย์”

แต่โกลด์แมนรีบกล่าว  “ท่านพ่อ ข้ากลับเชื่อตรงกันข้ามว่ามีความเป็นไปได้มากว่าโองการจอมเทพอยู่ในเงื้อมมือของลินลี่ย์ แต่เขาสร้างรอยแยกมิติและจงใจโยนเข้าไปในมิติปั่นป่วน  ไม่มีประโยชน์ใดที่จะเก็บโองการจอมเทพไว้ ที่สำคัญในเมื่อมีคนรู้ข้อมูลในโองการจอมเทพนั้น”

ประมุขมหาเทพแห่งแสงพยักหน้าเล็กน้อย

“ข้อคิดเห็นของเจ้ามีความเป็นไปได้”  ประมุขมหาเทพแห่งแสงครุ่นคิดชั่วครู่

โกลด์แมนรีบพูด  “ท่านพ่อข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องรางจอมเทพแพร่กระจายไปทั่วแดนนรกแล้ว  แต่นั่นถูกมองว่าเป็นข้อมูลเท็จ  ตอนนี้ดูเหมือนข้อมูลกระจ่างชัดแล้วว่าเป็นความจริง  นั่นหมายความว่าบางทีลินลี่ย์อาจจะได้รับมุกวิญญาณทั้งเก้าและเครื่องรางจอมเทพไว้จริงๆ แต่แน่นอนว่าโองการจอมเทพไม่ได้อยู่ในมือของลินลี่ย์ในตอนนี้  อย่างไรก็ตามมุกวิญญาณทั้งเก้าต้องอยู่ในมือของเขาแน่นอน”

“ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าเราจะสามารถหาเบาะแสหนึ่งในสามเครื่องรางได้เร็วนัก”  ประมุขมหาเทพแห่งแสงยิ้มและพยักหน้า

“ท่านพ่อ, ข้ามีข่าวเพิ่มเติมบอกท่าน  เมื่อสองสามเดือนที่แล้วเชกวินถูกลินลี่ย์ขับเข้าไปในมิติปั่นป่วน” โกลด์แมนรีบรายงาน “แต่ปัญหาใหญ่ก็คือเชกวินไม่ได้ทิ้งร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ไว้ในโลกภายนอก”  ความเร็วที่หน่วยข่าวกรองของตระกูลออกุสตาส่งมานั้นรวดเร็วมาก

“นี่มันอะไรกัน?เกี่ยวข้องกับลินลี่ย์ผู้นี้อีกแล้วหรือ?” ประมุขมหาเทพแห่งแสงอดขัดเคืองมิได้

“เกี่ยวข้องกับเครื่องรางที่สามเพชรกระจับแดง”  โกลด์แมนรีบรายงาน

“โอว เป็นเครื่องรางอีกชิ้นหรือ?”  ประมุขมมหาเทพแห่งแสงรู้สึกหงุดหงิด

เขาไม่สนใจความเป็นความตายของเชกวิน  แต่เครื่องรางทั้งสามล้วนดึงดูดความสนใจจากเขา

“แม้ว่าเชกวินจะได้เพชรกระจับแดง  และไปยั่วโมโหลินลี่ย์แต่ก็พบว่าเพชรกระจับแดงเป็นของปลอม เพราะเชกวินไปล่วงเกินเขา ลินลี่ย์บันดาลโทสะขับเชกวินเข้าไปในมิติปั่นป่วน”  โกลด์แมนรีบรายงาน

“โอว” ประมุขมหาเทพแห่งแสงอดให้ความสนใจเรื่องนี้มิได้

ปกติมหาเทพจะไม่เข้าแทรกแซงการต่อสู้ของพวกเทพ

“โกลด์แมน, ลินลี่ย์เป็นคนยังไง?”  ประมุขมหาเทพแห่งแสงถามทันที

โกลด์แมนตอบทันที  “ท่านพ่อ, ลินลี่ย์นับได้ว่าเป็นอัจฉริยะ  เขาเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์หลังจากสร้างชื่อในแดนนรกได้ไม่นาน เขาเข้าสู่สงครามมหาพิภพเขาเกือบถูกแม็กนัสฆ่าตาย แต่ลินลี่ย์กลับบรรลุพลังระดับใหม่ในช่วงใกล้เป็นใกล้ตายและกลายเป็นเทพพารากอน ระหว่างสงครามตัดสินของสงครามมหาพิภพเขาขับแม็กนัสเข้าไปในมิติปั่นป่วนได้  นอกจากนี้ลินลี่ย์ยังมีสัมพันธ์ที่ดีกับเบรุต หนึ่งในลูกหลานของเบรุตคนหนึ่งชื่อ ‘บีบี’ สนิทกับลินลี่ย์เหมือนกับเพี่น้องที่แท้จริง”

“มีสัมพันธ์ที่ดีกับเบรุต?”  ประมุขมหาเทพแห่งแสงพูดเย็นชา  “ทันทีที่ได้ยินชื่อเบรุตข้าก็อยากจะฆ่าเขาเสียแล้ว” ดวงตาของประมุขมหาเทพแห่งแสงมีแววอำมหิตปรากฏ

“ต่อให้เจ้ากล้ามากกว่าเบรุตสิบเท่า  เขาก็คงไม่กล้าเข้ามาในโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ของเรา เขาคงกล้าแต่เพียงซ่อนตัวอยู่ในแดนนรกเท่านั้น”  โกลด์แมนหัวเราะทันที

ถ้าลินลี่ย์ได้ยินคำพูดนี้  เขาคงตะลึงเป็นแน่ เห็นได้ชัดว่าเบรุตไม่ให้ความสำคัญกับการเดินทางไปโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์แม้แต่น้อย  เขาโกหกลินลี่ย์เมื่อเขาบอกว่าเขาไปพบประมุขมหาเทพแห่งแสง

“แดนนรก ข้าไม่ได้ไปที่นั่นมานานแล้ว”

ประมุขมหาเทพแห่งแสงเตรียมจากไปทันที

“ท่านพ่อ! แม้ว่าลินลี่ย์อาจจะมีมุกวิญญาณทั้งเก้าเม็ดก็จริง  แต่มหาเทพอื่นก็สืบเรื่องนี้ไว้แล้ว  และพวกเขาพูดว่าลินลี่ย์อาจไม่มีมุกวิญญาณก็ได้”  โกลด์แมนรีบบอก

“แม้ว่าจะมีโอกาสเพียงน้อยนิด  แต่เราไม่อาจปล่อยให้หลุดมือไปได้  ข้ายินยอมฆ่าผิดคนพันคนดีกว่าปล่อยให้รอดคนเดียวโดยไม่ตั้งใจ”

ประมุขมหาเทพแห่งแสงพูดอย่างใจเย็น  “ยิ่งกว่านั้นเขาเป็นคนของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเบรุต” หลังจากพูดเสร็จ ประมุขมหาเทพแห่งแสงหายตัวไปทันที

โกลด์แมนอดยิ้มมิได้  เขารำพึงกับตนเอง  “ฆ่าผิดคนพันคนดีกว่าปล่อยให้รอดคนเดียวโดยไม่ตั้งใจ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด