ตอนที่แล้วตอนที่ 20-28 หลอกกันเล่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20-30 โองการจอมเทพ

ตอนที่ 20-29 โปรดอย่าถือสา


“เพชรกระจับแดงนี้เป็นของปลอมจริงๆ! เชกวินลอยตัวนิ่งอยู่กับที่ในกลางอากาศ ชุดเขียวยาวของเขาโบกสะบัด  กล้ามเนื้อหางตาของเขากระตุก  เขาอดก้มหน้ามองดูศพของโบรดีในท่ามกลางป่ามิได้ ”ข้อมูลที่ปราสาทอสูรรับรองเป็นความจริง..ไม่น่าจะปลอมแน่นอน ข้าตรวจสอบมาด้วยตนเองเช่นกัน และชาวเผ่าล็อตเตก็มีหลักฐานพิสูจน์เช่นกัน!  ดังนั้น เพชรกระจับแดงเป็นสมบัติแน่นอน  อย่างนั้นของจริงอยู่ที่ไหน?”

เชกวินรวบรวมข่าวกรองไว้มาก

“ใต้เท้า,ศพของโบรดีมีประกายเทพเดียวอยู่ในร่างเท่านั้น เราตรวจสอบก่อนหน้านั้นแล้ว เขามีร่างแยกมากกว่าหนึ่งร่าง เพชรกระจับแดงของแท้ต้องถูกร่างดั้งเดิมของเขาเอาไปด้วยแน่”  อสูรเจ็ดดาวที่ยืนอยู่ด้านหลังเชกวินส่งสำนึกเทพบอกเขา

“ข้ารู้!” ตาของเชกวินเต็มไปด้วยความดุร้ายขณะที่เขาแค่นเสียงเย็นชา

เชกวินไม่โง่  แน่นอนว่าเขารู้ว่าโบรดีมีแผนการอะไรอยู่  แดนนรกมีเทียมเทพและเทพแท้นับไม่ถ้วน  สำหรับพวกเขาบางคนใช้ประกายเทพมาเพื่อยกระดับเป็นเทพชั้นสูงนั้นไม่มีอะไร  มีเทพมากมายผู้ต้องการรุ่งเรืองในระยะเวลาสั้นแม้อาจจะต้องตายก็ตาม ตราบเท่าที่จะทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง!

พวกเขาไม่อยากตายไปอย่างเงียบงัน ความตายที่ไม่มีใครรู้ในการต่อสู้กับพวกโจรหรืออย่างอื่นเป็นความตายที่ไร้ค่า

ความตายของโบรดีเป็นเหตุให้อสูรเจ็ดดาวที่นี่ล้วนจดจำเขา

“เขาสละร่างแยกศักดิ์สิทธิ์และหลอกล่อยอดฝีมือกลุ่มใหญ่ได้ ฮึ่ม..บางทีเขาตั้งใจจะดึงดูดความสนใจให้เรามาที่นี่และคอยจับตาที่นี่  ขณะที่ร่างหลักของเขาพาภรรยาของตนหนีไปที่อื่น”  แม้แต่เชกวินก็ยังโกรธ  เขาจดจำชื่อของโบรดีไว้ในใจ

ความจริงถ้าร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของโบรดีทำลายแหวนเก็บสมบัติ  เนื่องจากพลังของเชกวินเมื่อเขาสงบใจลงได้ บางทีเขาคงจะคาดเดาความจริงได้!  นอกจากนี้ ข่าวว่าโบรดีมีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์คนเผ่าล็อตเตก็รับรองไว้  ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะสันนิษฐานได้ว่าร่างหลักของโบรดีเอาเพชรกระจับแดงหนีไป  ถ้าเขารู้ตัวว่าเขาต้องตาย เขาจะพกเพชรกระจับแดงไว้กับตัวเองให้เสียของหรือ?

เนื่องจากเขาไม่สามารถหลบเลี่ยงพวกเขาได้  ทำไมไม่จงใจทิ้งแหวนและใช้มันหลอกล่อยอดฝีมือเหล่านี้เล่า?”

“ข้าโดนโบรดีทำร้ายสาหัสเลยทีเดียว”  เชกวินรู้สึกขมขื่นในใจ  เขาอดชำเลืองมองลินลี่ย์และบีบีที่อยู่ไกลๆไม่ได้  “ถ้าข้าได้รับเพชรกระจับแดง จากนั้นไม่ว่าข้าจะล่วงเกินลินลี่ย์ยังไงก็ตาม  แต่ข้าก็ไม่สนใจ  ... ด้วยอารมณ์ของลินลี่ย์ บางทีเขาคงไม่ปล่อยข้าง่ายๆ”

ก่อนหน้านี้แม้ว่าลินลี่ย์และเชกวินจะมีข้อพิพาทในสมรภูมิมหาพิภพแต่นักสู้หลักบนเวทียังเป็นลินลี่ย์กับแม็กนัส ส่วนเชกวินและโอมานเป็นแค่ตัวประกอบ ดังนั้นก่อนหน้าวันนี้ ลินลี่ย์จึงไม่ได้รู้สึกขัดเคืองอะไรกับเชกวินนักและไม่สนใจจะลงมืออำมหิตต่อเขา

เชกวินเข้าใจเรื่องนี้ดีซึ่งเป็นเหตุผลให้เมื่อเขาเห็นลินลี่ย์เขาไม่หนี

แต่บัดนี้...สถานการณ์เปลี่ยนไป!

“ข้าเย้ยหยันดูถูกเขาโดยตรง...แล้วเขาจะทำอะไรกันแน่?”  เชกวินกังวล  เขาต้องการหนีทันที แต่ตอนนี้ลินลี่ย์และบีบีไม่สนใจเขาอย่างเห็นได้ชัด  ถ้าเขาหนีทันที เขาคงจะดึงดูดความสนใจจากลินลี่ย์และโดนลินลี่ย์ไล่กวดทันที

ดังนั้นเชกวินแค่ยืนนิ่งกับที่เงียบๆ หวังว่าลินลี่ย์จะไม่ให้ความสนใจเขา เขาจะรอให้ลินลี่ย์จากไป!

และโดยอาการอย่างนี้เชกวินลอบจับตาดูลินลี่ย์และบีบีที่อยู่ไกลๆ

ไม่เพียงแค่เชกวินเท่านั้น  แม้แต่อสูรหกดาวและเจ็ดดาวทุกคนร้อยกว่าคนก็ยังจับตาดูลินลี่ย์เช่นกัน พวกเขาทุกคนต้องการรู้...ว่าลินลี่ย์จะแก้แค้นเชกวินอย่างไร!

“ไปกันเถอะ!”  คำพูดของลินลี่ย์ทำให้เชกวินรู้สึกดีใจแทบคลั่ง

“ใต้เท้า,ท่านทั้งสองจะไปเดี๋ยวนี้เลยหรือ” อสูรเจ็ดดาวทั้งสองคนดีใจเช่นกัน พวกเขาระบายลมหายใจโล่งอก

“พี่ใหญ่, เราจะจากไปทั้งอย่างนี้หรือ?” บีบีอดพูดขึ้นไม่ได้

“โอว..จริงสิ ข้าเกือบลืมเรื่องบางอย่างไป” ลินลี่ย์กำลังจะจากไป จากนั้นเขายิ้มและหันมามองเชกวินในที่ห่างไกล  “บีบี!  ดีนะที่เจ้าเตือนข้า  ข้าเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว  บีบี เมื่อครู่นี้ใครพูดกับเราว่าถ้าข้ามีความสามารถ ให้ข้าขับเขาเข้ามิติปั่นป่วนได้เลย?”

บีบีได้ยินเช่นนี้ก็ถอนหายใจพร้อมกับอธิบาย  “พี่ใหญ่, จะเป็นใครไปได้เล่า?  แน่นอนย่อมต้องเป็นท่านเชกวินผู้กล้าหาญของเรา..นอกจากเขาแล้ว จะมีคนอื่นสักกี่คนที่กล้าเข้ามิติปั่นป่วน?”

คำถามของลินลี่ย์และบีบีและคำตอบทำให้เชกวินที่อยู่ห่างไกลสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

“หนี!”  เชกวินส่งสำนึกเทพบอกทันที

ทันใดนั้นในท้องฟ้าเหนือเทือกเขาเนวิลล์เชกวินและอสูรเจ็ดดาวทั้งสองที่รับใช้เขาแยกย้ายหนีไปด้วยความเร็วสูง

“ควั่บ!”

ร่างพร่ามัวเหมือนภาพฝันหลายรูปกระพริบวาบอยู่ในท้องฟ้าและจากนั้นร่างพร่าเลือนร่างหนึ่งปรากฏอยู่ข้างเชกวิน  มีเสียงดังปัง ความรู้สึกในร่างของเชกวินชะงักจากนั้นเขาถูกกระแทกกระเด็นถอยหลัง  แต่แล้วในพริบตาร่างเลือนรางมาปรากฏอยู่ต่อหน้าเชกวิน

“ท่านเชกวิน, เจ้าตั้งใจจะไปไหน ไม่ร่ำลากันสักคำเลยหรือ?”  หน้าของลินลี่ย์ยังคงยิ้มขณะเขามองดูเชกวิน

แต่เชกวินเห็นแววเย็นชาในสายตาของลินลี่ย์

เป็นไปได้ยังไงที่ลินลี่ย์จะยอมปล่อยเชกวินไป  เนื่องจากสิ่งที่เชกวินเพิ่งทำลงไป?  ถ้าเขาปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปลินลี่ย์จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

ตัวอย่างเช่นมหาเทพอาจไม่ต้องการเข้าแทรกแซงเรื่องของพวกเทพ แต่ถ้าเทพตนหนึ่งกล้าเยาะเย้ยดูถูกมหาเทพหรือแทรกแซงเรื่องสำคัญของมหาเทพหรือละเมิดศักดิ์ศรีของมหาเทพ มหาเทพนั้นคงไม่ไว้ชีวิตคนที่ล่วงละเมิดง่ายๆ  สถานะของลินลี่ย์อย่างเดียวในฐานะสุดยอดฝีมือในหมู่เทพ ทำให้เขาไม่ยอมปล่อยให้คนอื่นดูถูกดูหมิ่นเขาได้!

“ลอร์ดลินลี่ย์” เชกวินฝืนยิ้ม  “ข้า..ข้าสับสนไปครู่หนึ่ง”

“เจ้าไม่ได้สับสน”  ลินลี่ย์ส่ายศีรษะซ้ำๆ  “เจ้าสับสนเรื่องอะไร?  เจ้าเป็นคนฉลาดอยู่แล้ว!  เจ้าพูดออกมาเองไม่ใช่หรือ?  ต่อให้ข้าขับเจ้าเข้ามิติปั่นป่วนมหาเทพแห่งแสงผู้ทรงพลานุภาพจะเข้าขัดขวางและช่วยเหลือเจ้า”

หน้าของเชกวินบิดเบี้ยวน่าเกลียด

ประมุขมหาเทพแห่งแสงจะช่วยเขาหรือ?

นั่นคงจะเป็นเพราะเขาถือเพชรกระจับแดงเพื่อประโยชน์จะให้ได้เครื่องรางจอมเทพ  ประมุขมหาเทพแห่งแสงคงจะแทรกแซงและใช้ความพยายามมากขึ้นในมิติปั่นป่วนเพื่อช่วยเขา!  แต่ถ้าเขาไม่มีเพชรกระจับแดงเล่า ประมุขมหาเทพแห่งแสงจะไม่รีบช่วยเขาทันทีโดยไม่จำเป็น

ประมุขมหาเทพแห่งแสงมีสถานะใดแล้ว?

บางทีสักวันเมื่อเขาอารมณ์ดีเขาอาจมาช่วยเชกวินก็ได้  แต่จากนั้นบางทีอาจจะผ่านไปร้อยล้านปี หรือล้านล้านปี

“ลอร์ดลินลี่ย์  ท่านมีศักดิ์ศรีสถานะของพารากอนที่ยิ่งใหญ่  ข้าไม่คู่ควรให้ท่านโกรธ”  เชกวินรีบกล่าว  “ข้า,เชกวินยินดีให้ข้อเสนอกับท่านลอร์ดลินลี่ย์ สมบัติทั้งหมดของข้าและพลังมหาเทพของข้า ลอร์ดลินลี่ย์! โปรดยกโทษให้ข้าในครั้งนี้ด้วย” เชกวินมองดูลินลี่ย์อย่างเปี่ยมไปด้วยความหวัง

แต่ลินลี่ย์เพียงแต่มองเชกวินเงียบๆ

หัวใจเชกวินตึงเครียด

“สมบัติ? พลังมหาเทพ?  บอกข้าที...ข้ายังขาแคลนดสิ่งเหล่านี้อีกหรือ?”  ลินลี่ย์พูดในที่สุด

“ลอร์ดลินลี่ย์ ท่านต้องการให้ข้าทำอะไร? โปรดบอกข้า!”  เชกวินรีบกล่าว

เชกวินไม่สนใจหน้าตาอีกต่อไป เขารู้ดีว่า...เขาไม่มีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์อยู่ข้างนอกดังนั้นเมื่อเขาติดอยู่ในมิติปั่นป่วน ต่อให้ประมุขมหาเทพแห่งแสงไปตามหาเขา เนื่องจากขนาดของมิติปั่นป่วนที่ใหญ่โตมหาศาลประมุขมหาเทพแห่งแสงจะหาเขาพบได้ยังไง? การใช้ความพยายามอย่างหนักเป็นเรื่องสำคัญมาก!

หรือว่าประมุขมหาเทพแห่งแสงจะเตร็ดเตร่อยู่ในกระแสพลังสนามพลังปั่นป่วนเพื่อตามหาเขา?

ถ้าเขาเป็นพารากอนบางทีประมุขมหาเทพแห่งแสงอาจทำเช่นนั้นแม้เหนื่อยอ่อนก็ตาม แต่เชกวินยังไม่มีคุณสมบัติทำให้ประมุขมหาเทพแห่งแสงทำเช่นนั้นกับเขา

“ถ้าข้าติดอยู่ในมิติปั่นป่วน  ข้าอาจจะติดอยู่ในนั้นตลอดไป  ไม่มีใครพูดกับข้า  และข้าคงไม่สามารถพบเห็นใครอื่น ข้าจะต้องไหลไปตามกระแสพลังปั่นป่วนจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งชีวิตแย่ยิ่งกว่าตาย” เชกวินเข้าใจเรื่องนี้ในใจ

“ลอร์ดลินลี่ย์?”  เชกวินในตอนนี้ทั้งเชื่อฟังและทั้งเคารพ

“พี่ใหญ่ จะเปลืองคำพูดกับเขาทำไม?”  บีบีแค่นเสียงเย็นชา จากนั้นมองดูเชกวิน  “เชกวิน!  เจ้าต้องการจะไปและทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสินะ?  เจ้าช่างฝันหวานจริงๆ!  ถ้าเจ้า เชกวินล่วงเกินมหาเทพและยังชิงของที่เป็นของมหาเทพไปอีก  เป็นไปได้หรือที่เจ้าร้องขอความเมตตา  มหาเทพจะยอมไว้ชีวิตเจ้า? แม้ว่าพี่ใหญ่ข้าจะยังไม่อาจเทียบได้กับมหาเทพก็ตาม  แต่เขาใช่ว่าจะยอมให้ใครลอบทำร้ายกันง่ายๆ”

ลินลี่ย์ยิ้มจากนั้นเหยียดมือและฟันที่ด้านข้าง..

“ควาก..”

เหมือนกับเสื้อผ้าที่ถูกฉีกออก  รอยฉีกมิติยาวร้อยเมตรปรากฏขึ้นทันที  และมีขนาดกว้างหลายเมตร  มีพลังดึงดูดที่แข็งแกร่งโดยรอบ

“ลินลี่ย์, ประมุขมหาเทพจะไม่ไว้ชีวิตเจ้า!!!”  เชกวินเริ่มร้องขณะที่เขาหนี

“ควั่บ” ดูเหมือนลินลี่ย์คล้ายจะเทเลพอร์ตได้เขาปรากฏตัวและคว้าคอของเชกวินกระชากกลับหลังเหวี่ยงเชกวินเข้าไปในรอยแยกมิติเหมือนใช้แรงธรรมดา  เชกวินตะโกนด่าด้วยความโกรธ  “มหาเทพจะไม่ไว้ชีวิตเจ้า!!!”  เสียงของเขายังคงก้องอยู่ในพื้นที่  แต่รอยแยกมิติหายไปไม่เหลือร่องรอย

ลินลี่ย์ชำเลืองมองด้านหลัง

“เชกวินผู้นี้..ถ้าเขาไม่มีสมบัติมหาเทพคอยปกป้องทั้งภายในและภายนอกข้าต้องการฆ่าเขาจริงๆ” บีบีพูดด้วยความเกลียดชัง “ตอนนี้พอเราขับเขาเข้าไปในมิติปั่นป่วนได้ข้าคาดว่าประมุขมหาเทพแห่งแสงจะเข้าไปช่วยเขาได้”

เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างที่เชกวินทำให้บีบีไม่พอใจอย่างมาก

“การช่วยเขาคงไม่ใช่เรื่องง่ายเว้นเสียแต่เขามีร่างแยกอยู่ที่โลกภายนอก” ลินลี่ย์มองดูกลุ่มอสูรหกดาวและเจ็ดดาวที่ต่างมีสีหน้าตกตะลึง  จากนั้นกล่าว “บีบี อยู่ที่นี่ต่อไปไม่มีประโยชน์แล้ว กลับกันเถอะ  โอว,ส่งสองคนนั้นกลับบ้านก่อน”

ลินลี่ย์และบีบีพาเด็กหนุ่มหน้ากลมและชายชราน่ากลัวเข้าไปในอสูรโลหะและออกไปทันที

ในกลางอากาศยอดฝีมือร้อยกว่าคนและสมาชิกของเผ่าล็อตเตถอนหายใจตกตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาเห็น

“ทรงพลังจริงๆ เทพพารากอนเป็นอย่างนี้นี่เอง!แค่เพียงวาดมือเท่านั้น โดยไม่ต้องใช้พลังมหาเทพเขาก็สามารถสร้างรอยฉีกมิติขนาดนั้นได้ เมื่อไหร่พลังโจมตีของข้าจะแข็งแกร่งได้สักหนึ่งในสิบของลอร์ดลินลี่ย์?”

“คาดว่าเชกวินนั้นมีพลังเทียบได้กับเทพอสูร 108ของแดนนรกเราและยังมีระดับพลังที่สูงในหมู่พวกเขา เชกวินคนเดียวก็มีพลังมากพอจะฆ่าพวกเราได้ทุกคน  แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าลอร์ดลินลี่ย์.. เจ้าเห็นไหมนั่น?  เชกวินเหมือนกับเด็กทารก  เมื่อเขาถูกลอร์ดลินลี่ย์คว้าคอก็ไม่สามารถต่อต้านได้เลย ด้วยแรงเหวี่ยงธรรมดา เขาก็ถูกโยนเข้าไปในรอยแยกมิติ  ลอร์ดลินลี่ย์ผู้นี้.. แข็งแกร่งมากเหลือเกิน!”

“ก่อนหน้านั้นเชกวินทำตัวหยิ่งยโสมากเกินไป  ฮ่าฮ่า  นั่นคือผลที่เขาสมควรได้รับ!”

“เขาสมควรได้รับแล้ว!  เขาควรจะนึกถึงสถานะของตัวเอง  ว่าคนอย่างเขาควรจะล่วงเกินลอร์ดลินลี่ย์หรือ? นั่นมิต่างอะไรกับการส่งแกะเข้าปากเสือหรอกหรือ?  รนหาที่ตายแท้ๆ”

ในสายตาของกลุ่มยอดฝีมือแดนนรกเหล่านี้  สมควรแก่เหตุแล้วที่ลินลี่ย์สั่งสอนและลงโทษเชกวินอย่างนั้น  ถ้าลินลี่ย์ไม่ลงมือเช่นนั้น  เขาคงถูกคนอื่นตั้งข้อสงสัยลับหลังเขาแน่

กลุ่มของลินลี่ย์ต้องการหาที่อยู่ของร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของโบรดี  แต่ไม่มีทางทำได้เช่นนั้น ความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือโบรดีคงจากไปโดยผ่านประตูเทเลพอร์ตและไม่มีความจำเป็นที่ใครบางคนจะต้องบันทึกชื่อหรือข้อมูลอื่นเมื่อเวลาพวกเขาใช้วงเวทเทเลพอร์ต  และในแต่ละปีมีคนหลายคนในแดนนรกที่มีวัตถุประสงค์จะทำการค้าแลกเปลี่ยนบางอย่างจึงต้องเดินทางผ่านประตูเทเลพอร์ต

พวกเขาจะตามหาเขาได้ยังไง?

นอกจากนี้ลินลี่ย์ไม่มีคุณสมบัติจะค้นหาเขา เพราะทหารผู้รับคำสั่งและทหารผู้เฝ้าวงเวทเทเลพอร์ตเป็นคนของมหาเทพ

โลกธาตุแสงศักดิสิทธิ์  ทะเลกอสโกล!

“ครืนนน” คลื่นนับไม่ถ้วนม้วนเกลียวเป็นระลอกไปข้างหน้า ในฐานะที่เป็นทะเลอันดับหนึ่งของโลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ทะเลก็อดโกลมีขนาดที่กว้างใหญ่มาก ล่วงเข้าไปในทะเลมีเกาะมากมายกระจายอยู่เหมือนดาวในท้องฟ้า

ในอากาศเหนือทะเลมีร่างสองร่างกำลังต่อสู้กันอยู่เป็นเหตุให้มิติแตกฉีก

“ควากกกก”

เงาปีศาจลวงตาของนกหงส์เพลิงขนาดใหญ่ยาวพันเมตรโผล่ขึ้นมาหลังบุรุษผมแดงทันที และจากนั้นจุดสีแดงที่กลางหน้าผากของบุรุษนั้นเปล่งแสงทันที และแสงรังสีแดงยิงออกมาเจาะผ่านท้องฟ้าตรงเข้าหาบุรุษชุดดำผมยาวที่อยู่ข้างหน้าเขา

บุรุษชุดดำแค่นเสียง  และจากนั้นชั้นม่านน้ำปรากฏรอบตัวเขา

“แครก..”

ม่านน้ำถูกยิงทะลุและจากนั้นแสงสีแดงเข้าไปในร่างของบุรุษชุดดำ ร่างของบุรุษชุดดำสั่นสะท้าน จากนั้นมีเลือดหยดออกจากปาก

“บลูเมอร์!  หยุดไว้แค่นี้เถอะ”  บุรุษชุดดำรีบกล่าว  ในแง่ความเร็ว เขาด้อยกว่าบุรุษข้างหน้าเขา  ใครบางคนที่ไวสามารถหนีจากศัตรูที่แข็งแกร่งได้ แต่บางคนที่ช้าไม่มีทางเลือกถ้าไม่ใช้วิธีที่รุนแรงกว่าหรือไม่ก็ขอความเมตตา

“เจ้าฝันไปเถอะ”  บุรุษผมแดงแค่นเสียงด้วยความโกรธ  เคียวเพลิงสีแดงในมือของเขาสับลงช้าๆ

“วีดดด” เสียงฉีกอากาศเกิดขึ้นอีกครั้ง

แต่ในทันใดนั้น

“ควั่บ!!”  เงาแสงสีเขียวยิงออกมาจากรอยฉีกมิติ  และมันบินตรงเข้าหาบุรุษผมแดง  บุรุษผมแดงตกใจ  “มีบางอย่างบินออกมาจากมิติฉีกขาดด้วยหรือ? มีบางอย่างที่สามารถรอดอยู่ได้ในมิติปั่นป่วนโดยไม่ได้รับความเสียหายหรือ?”  บุรุษผมแดงอดเอื้อมมือไปคว้าไว้ไม่ได้

ชิ้นกระดาษเขียวปรากฏอยู่ในมือเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด