ตอนที่แล้วตอนที่ 19-17 แฮมเมอร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19-19 เหตุไม่คาดคิด

ตอนที่ 19-18 รายชื่อ


“ถ้าเราวิ่งไปชนกำแพงเหล็กจริงๆน่ะหรือ?” ตอนนี้ลินลี่ย์ค่อนข้างกังวลเช่นกัน

ในบรรดาผู้บัญชาการ มีอยู่จำนวนหนึ่งที่ต้องใช้คำอธิบายว่ายากต่อกร  ถ้าพวกเขาไปเจอคนแบบนั้นเข้า เขากับบีบีคงจะตกอยู่ในอันตรายอย่างแท้จริง จักรวาลนี้สามารถให้กำเนิดอสูรเทพที่น่ากลัวอย่างหนูกินเทพ  ขณะที่มีอสูรเทพสามารถปรับเปลี่ยนเวลาได้อย่างมังกรฟ้า  ก็ย่อมอาจให้กำเนิดอสูรเทพอื่นที่น่ากลัวได้เช่นกัน  เบรุตเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งรองจากมหาเทพบลัดริจ มีความเป็นไปได้มากกว่ายังจะมีบางคนที่มีพลังเทียบได้กับเขา

ลินลี่ย์ไม่กล้าประมาทผู้บัญชาการทุกคน

“ช่างเถอะ ในสมรภูมิมหาพิภพเนื่องจากผู้บัญชาการต้องการฆ่ากันเอง อะไรก็เกิดขึ้นได้”  บีบีบ่น  “จะต้องมีโชคจนได้น่ะ  ข้าว่าอย่างนั้น”

“เราเสียเปรียบมาก” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ  “ผู้บัญชาการที่เข้าร่วมในสงครามมหาพิภพล้วนคุ้นเคยกับผู้บัญชาการฝ่ายอื่น  เรารู้น้อยเกินไป...  นี่ทำให้เราโจมตีศัตรูโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ  ตัวอย่างเช่นแฮมเมอร์  ถ้าเรารู้ว่าเขาเป็นใครล่วงหน้า  เขาคงไม่ให้เขาผ่านมาใกล้จนยั่วโมโหเขาแน่นอน”

ลินลี่ย์ถอนหายใจ

ที่สำคัญ เขาเพิ่งแค่ถึงระดับเทพอสูรเท่านั้น

“เราเสียเปรียบจริงๆ เรารู้จักคนน้อยเกินไป” บีบีพูดอย่างจนใจ

ทันใดนั้นลินลี่ย์ตาเป็นประกาย

ลินลี่ย์ตบศีรษะตนเองจากนั้นหัวเราะเยาะตนเอง  “บีบี, ดูข้าสิ ใจข้าหมกมุ่นมึนงง  เจ้ากับข้าไม่รู้จักพวกเขา  แต่เราสามารถไปถามคนอื่นได้ไม่ใช่หรือ?”

“เอ๋?”  บีบีตกใจ

“ร่างแยกธาตุไฟของข้ายังอยู่ในทวีปยูลาน  ข้าสามารถไปถามปู่เบรุตของเจ้าได้”  ลินลี่ย์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

บีบีเริ่มหัวเราะทันที “ใช่แล้ว ปู่ต้องรู้ดีแน่นอน ทำไมข้าไม่ทันคิดเรื่องนี้นะ?”

หลังจากมาถึงสงครามมหาพิภพ ลินลี่ย์กับบีบีมัวแต่จดจ่อดูอันตรายจากสภาพแวดล้อม  พวกเขาเพียงแต่คิดจะล่าและฆ่าผู้บัญชาการอื่นดังนั้นจึงไม่มีความคิดอะไรอย่างอื่น

“บีบี, ตอนนี้อย่าเพิ่งออกไปข้างนอก ประการแรกให้ข้าทำความรู้จักผู้บัญชาการของพิภพอื่นๆ ก่อน  และทำความรู้สึกว่าใครยากจะจัดการได้ใครจัดการได้ง่าย จากนั้นเราจะค่อยเลือก” ลินลี่ย์หัวเราะ บีบีพยักหน้าเช่นกัน  พวกเขายังมีเวลาอีกมากและไม่รีบเร่ง

ทวีปยูลาน ไพรทมิฬ

“ควั่บ” ทั่วทั้งพื้นพิภพปกคลุมไปด้วยสีขาวปุยหิมะล่องลอยลงมาจากท้องฟ้า ขณะที่ร่างสีแดงเลือนรางพุ่งผ่านอากาศเหนือไพรทมิฬด้วยความเร็วสูง ขณะนั้นเองลินลี่ย์ร่างสีแดงเพลิงผมสีแดงมุ่งหน้าไปยังปราสาทโลหะของเบรุต  ปราสาทอสูรโลหะนี้คุ้นเคยกับลินลี่ย์ดีอยู่แล้วและไม่ได้ขัดขวางเขาแม้แต่น้อย ขณะที่ลินลี่ย์ลงมายืนที่พื้น เขาเดินเข้าไปในปราสาทอสูรโลหะ

ภายในลานหน้าปราสาทอสูรโลหะ

เบรุตในชุดดำกำลังยืนนิ่งกับที่มือถือหนังสือเล่มหนึ่งจากนั้นนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ที่สร้างขึ้นจากอสูรโลหะ ใบไม้หนากันไม่ให้หิมะร่วงใส่

“ลอร์ดเบรุต” ลินลี่ย์คำนับด้วยความเคารพ

เบรุตหันมาหัวเราะขณะมองเขาอย่างใจเย็น  “โอว, ลินลี่ย์!  เจ้าต้องการอะไรหรือ?หรือว่าเจ้าไปพบเจอปัญหายุ่งยากอะไรในสมรภูมิมหาพิภพ?”  หลังจากพูดแล้วเบรุตก้มหน้าพลิกดูหนังสือในมือของเขาอีกครั้ง

“ลอร์ดเบรุต! บีบีกับข้าลงมืออย่างยากลำบากในสมรภูมิมหาพิภพ  เราพบเป้าหมาย แต่ใครจะคาดคิดกันเล่า...เป้าหมายทรงพลังแข็งแกร่งมากจะแม้ว่าข้ากับบีบีผนึกกำลังกันก็ยังไม่ใช่คู่มือของเขา  โชคดีที่ความเร็วไม่ใช่หนึ่งในจุดเด่นของเขาและเขาไม่มีฝีมือในการสู้ระยะห่าง  ดังนั้นเราจึงหลบหนีเอาชีวิตรอดมาได้”  ลินลี่ย์พูดอย่างละอาย

เบรุตปิดหนังสือด้วยความประหลาดใจ

“เจ้ากับบีบีผนึกกำลังกันแล้วก็ยังไม่ใช่คู่มือของเขาหรือ?”  เบรุตถาม “เจ้าสองคนสู้กับคนเดียวคนหนึ่งใช้ทักษะเทพธรรมชาติกับวิญญาณและประกายเทพ ขณะที่อีกคนหนึ่งใช้พลังโจมตีวัตถุ เจ้าทั้งสองส่งเสริมกันได้เป็นอย่างดี ใครยังจะป้องกันต้านรับพวกเจ้าได้”

“เขาชื่อแฮมเมอร์” ลินลี่ย์รายงานชื่อ

“เขาน่ะหรือ?”

เบรุตอดหัวเราะไม่ได้ “ฮ่าฮ่า...เจ้าทั้งสองไม่รู้จักกลัวอะไรเลยจริงๆ  เจ้ากล้าไปยั่วโทสะเจ้าคนตัวโตงี่เง่านั่น!  เป็นคนอื่นจะวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้เมื่อพวกเขาเห็นเขา  พลังโจมตีวัตถุของแฮมเมอร์จัดอยู่ในสิบสุดยอดฝีมือทั่วทั้งจักรวาล ต่อให้เป็นประมุขกัซลีสันของเจ้าก็ยังทนหมัดของแฮมเมอร์ไม่ได้”

“ข้าได้เรียนรู้หลังจากนั้น”  ลินลี่ย์ฝืนหัวเราะ

“ลอร์ดเบรุต, หมัดของแฮมเมอร์ทรงพลังมากขนาดไหน?”  ลินลี่ย์รู้สึกสับสน“ข้าเองก็ฝึกฝนมาทางกฎธาตุดินเหมือนกัน และเห็นพลังโจมตีของลอร์ดเรดคลิฟ  แต่ข้าไม่เข้าใจทำไมหมัดของแฮมเมอร์และพลังเตะของเขาจึงทำได้อย่างนั้น...”  ลินลี่ย์ส่ายศีรษะแสดงอาการสับสน

ลอร์ดเรดคลิฟก่อนหน้านี้มีทักษะพลังโจมตีวัตถุได้ดีเช่นกัน  และเขาหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้ห้าเคล็ด  พลังของเขาจึงยิ่งใหญ่มาก  เมื่อลินลี่ย์และเขาปะทะหมัดกันลินลี่ย์ยังคงด้อยกว่าเล็กน้อย

“นั่นเป็นพรสวรรค์ธรรมชาติของเขา!”  เบรุตหัวเราะ

“พรสวรรค์ธรรมชาติ?”  ลินลี่ย์ตกใจ

“เจ้ารู้ไหมว่าเขาหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้เท่าใด?”  เบรุตหัวเราะ

“ไม่ทราบ” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “สูงหรืออาจจะต่ำก็ได้?”

“เขาหลอมรวมได้สี่เคล็ด” เบรุตหัวเราะใจเย็น “นี่คือสิ่งที่ข้าได้ยินมาจากมหาเทพ เมื่อตอนที่อยู่ข้างเขา”

ลินลี่ย์ตะลึง หลอมรวมได้สี่เคล็ด ก็ทำให้เขาเป็นอสูรเจ็ดดาวได้  แต่พลังที่แฮมเมอร์ใช้ออกมาแข็งแกร่งน่ากลัวนัก

ถ้าใครจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากมายหลังจากหลอมรวมแค่เคล็ดลึกลับสี่เคล็ด พลังของพรสวรรค์ธรรมชาติของเขาคงสามารถจินตนาการได้!

“แฮมเมอร์ผู้นี้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์พลังที่ยิ่งใหญ่และพลังป้องกันตัวของเขาก็เหลือเชื่อเช่นกัน! ตามตำนานกล่าวไว้ว่า...เมื่อโลกธาตุดินศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างคราวแรก  มีภูเขาน้อยสีทองก่อตัวขึ้น หลังจากผ่านการบำรุงเลี้ยงมานานนับปีไม่ถ้วน  มันกลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตก็คือแฮมเมอร์นั่นเอง”  เบรุตหัวเราะ  “เจ้ารู้ไหม? ทันทีที่เขาถึงระดับเทียมเทพ เขากลายเป็นทูตมหาเทพและได้รับสมบัติมหาเทพชนิดปกป้องวิญญาณ”

“หือ?...”  ลินลี่ย์พูดไม่ออก

เป็นทูตมหาเทพขณะเป็นเทียมเทพน่ะหรือ?

“ร่างของเขาไม่อาจทำลายได้เนื่องจากเขามีสมบัติมหาเทพชนิดปกป้องวิญญาณ จะฆ่าเขาให้ได้นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้  เพราะร่างของเขาเกิดจากภูเขาทองที่ไม่เหมือนใครซึ่งเกิดขึ้นมาพร้อมกับโลกธาตุดินศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง  พลังของเขายิ่งใหญ่มาตั้งแต่เกิด  แม้ว่าจะไม่ต้องใช้เคล็ดความรู้ลึกลับแต่หมัดของเขาก็สามารถทำลายมิติได้ ตอนนี้เขาหลอมรวมได้สี่เคล็ด มีคนไม่กี่คนนักหรอกที่จะรับหมัดของเขาได้”  เบรุตพูดชื่นชม

ลินลี่ย์รู้สึกพูดไม่ออก ทักษะเทพธรรมชาติบางอย่างก็ร้ายกาจเหลือเกิน

“ข้า, เป็นหนูกินเทพตนหนึ่งการหลอมปรับแต่งประกายเทพเป็นจุดแข็งของร่างกายข้า แต่แฮมเมอร์เกิดมาพร้อมกับร่างกายที่แข็งแกร่งทรงพลัง”  เบรุตหัวเราะอย่างใจเย็น “อย่างไรก็ตามว่ากันในแง่ความทนทานของร่างหยาบ  แฮมเมอร์ยังด้อยกว่าเราเหล่าหนูกินเทพ”

ลินลี่ย์เข้าใจเรื่องนี้ดีเช่นกัน ที่สำคัญร่างกายของหนูกินเทพเทียบได้กับประกายเทพ

“ลอร์ดเบรุต  ครั้งนี้เราอยู่ในสภาพที่เสียเปรียบอย่างหนัก!  ดังนั้น ข้าต้องการถามท่าน  ลอร์ดเบรุต,ท่านสามารถให้ข้อมูลของยอดฝีมือระดับเทพอสูรจากโลกธาตุใหญ่บ้างได้หรือไม่  ให้ข้าได้ทำความเข้าใจพวกเขา ด้วยวิธีนั้นเราจะได้ไม่ต้องบุ่มบ่ามไปพบเจอยอดฝีมือชั้นสูงอีก”  ลินลี่ย์รีบกล่าว

เบรุตพยักหน้าเล็กน้อย

“ข้าคาดคิดแล้วว่าเจ้าจะต้องมาหาข้า” เบรุตโบกมือและปรากฏหีบทองแดงอยู่ข้างหน้าเขา  “หีบนี้มีข้อมูลมากมายจัดเอาไว้อยู่ภายใน  รวมทั้งผลึกบันทึกด้วยเช่นกัน  เอาไปดูและทำความเข้าใจให้ดีสุดยอดฝีมือของโลกธาตุต่างๆ”

ลินลี่ย์อดมองหีบทองแดงอย่างตื่นเต้นไม่ได้

เมื่อมีสิ่งนี้ เขาคงจะเตรียมรับมือกับศัตรูได้หลายคน

“อ่านอยู่ที่นี่แหละ ถ้ามีอะไรสงสัย เจ้าถามข้าได้” เบรุตหัวเราะอย่างใจเย็น

“ขอบคุณลอร์ดเบรุต” ลินลี่ย์เดินไปเปิดดูหีบทันที

ภายในมีผลึกบันทึกอยู่เป็นจำนวนมาก  ขณะที่เอกสารก็มีเป็นปึกใหญ่เช่นกัน ลินลี่ย์ขนหีบไปอยู่ที่มุมหนึ่งทันทีจากนั้นเริ่มอ่านอย่างระมัดระวังอยู่ที่ลานว่างแห่งนั้น

“แม็กนัสแห่งแดนสวรรค์ สุดยอดฝีมือผู้ติดอันดับห้าสุดยอด ฝึกมาในวิถีชะตา ดูเหมือนเป็นเทพชั้นสูงพารากอน...” ลินลี่ย์เริ่มอ่านอย่างจริงจัง ข้อมูลเกี่ยวกับสุดยอดฝีมือคนแล้วคนเล่าเข้ามาอยู่ในใจของลินลี่ย์ และลินลี่ย์ตอนนี้เริ่มทำความเข้าใจอย่างแท้จริง...

ดังนั้นบรรดาสิบเอ็ดดินแดนใหญ่มียอดฝีมือจำนวนมากซ่อนตัวถือสันโดษ

ต้องทำความเข้าใจว่าลำพังเจ็ดกฎธาตุธรรมชาติและสี่วิถีก็มีมหาเทพรวมกันเจ็ดสิบเจ็ดคนแล้ว จำนวนสุดยอดฝีมือเทพชั้นสูงจะหย่อนกว่ากันได้ยังไง?

แต่เพียงแค่วันเดียวลินลี่ย์ก็อ่านเอกสารจบทั้งหมดและดูผลึกบันทึกจบด้วยเช่นกัน

ตอนนี้ลินลี่ย์มีความรู้สึกจริงๆว่า...มียอดฝีมืออยู่ในจักรวาลโลกธาตุมากมายนัก!

“สิบเอ็ดพิภพใหญ่...ดูเหมือนกับว่าจะมีพารากอนไม่ถึงสามสิบคน” ลินลี่ย์ลอบประหลาดใจ “กล่าวอีกนัยหนึ่ง แต่ละพิภพที่มีจะมีพารากอนแค่สองหรือสามคน และพารากอนเหล่านี้ก็ยังเป็นแค่สงสัยว่าจะเป็นพารากอนเท่านั้น!  ขณะที่มหาเทพสิบเอ็ดพิภพใหญ่มีเพียงเจ็ดคนเท่านั้น” ในที่สุดลินลี่ย์ก็ตระหนักว่าพารากอนนั้นหาได้ยากอย่างแท้จริง!

ขณะที่ยอดฝีมือระดับผู้บัญชาการเล่า?  มีมากยิ่งกว่า!

ตัวอย่างเช่นในแดนนรก มีเจ้าแคว้นถึง 108คนและผู้บัญชาการขุมนรก 108 คน! เฉพาะแดนนรกที่เดียวก็มียอดฝีมือระดับผู้บัญชาการถึง 216 คน และนั่นไม่รวมยอดฝีมือหรือสุดยอดฝีมือที่เกษียณตนเองไม่รับตำแหน่งเจ้าแคว้นอย่างเป็นทางการ ยากที่จะคำนวณได้ว่าความจริงแล้ว มียอดฝีมือเกษียณตนเองออกไปเท่าใด

เฉพาะแดนนรกก็มีหลายร้อยคน บางทีอาจจะเกือบพันคนที่มีพลังระดับผู้บัญชาการ

และสามพิภพชั้นสูงหรือเจ็ดโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์อีกเล่า?

“มีมากมายคนจริงๆ!”  ลินลี่ย์รำพึงกับตนเองอย่างอัศจรรย์ใจ “เพียงแต่พวกเขาส่วนใหญ่ไม่เข้าร่วมในสงครามนี้แน่นอน

นี่เป็นเพราะสิบเอ็ดพิภพใหญ่คงอยู่มานานมากแล้ว เมื่อลินลี่ย์อยู่ในเผ่ามังกรฟ้าและได้พบเจอผู้อาวุโสของตระกูล เขาตระหนักได้ว่าผู้อาวุโสเหล่านี้มีชีวิตมานานมากจนไม่รู้เวลา  จากตรงนี้ ทุกคนก็คาดได้ว่า.. ประวัติศาสตร์ของดินแดนต่างๆ นั้นมีมานานเพียงไหน

สมเหตุผลแล้วที่หลังจากผ่านมานานนับปีไม่ถ้วนจะมียอดฝีมือเพิ่มขึ้นอีกหลายคน

ลินลี่ย์ปิดหีบทองแดง

ครั้งนี้เบรุตเดินเข้ามาหาจากลานว่าง  แล้วหัวเราะอย่างเยือกเย็น  เขากล่าว “โอว, อ่านเสร็จแล้วหรือ?”

“ถูกแล้ว” ลินลี่ย์สูดหายใจลึก

รายนามยอดฝีมือที่ทรงพลังนี้ทำให้ลินลี่ย์เข้าใจภาษิตที่ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า  แม้ว่าเขาจะเพิ่งผ่านเกณฑ์ระดับเทพอสูรได้ก็ตาม  แต่เฉพาะแดนนรกก็มียอดฝีมือระดับนี้ถึง 216คนยังไม่นับยอดฝีมือที่เกษียณและยอดฝีมือเร้นสันโดษ

“หลังจากเรียนรู้สิ่งนี้แล้วต่อไปอย่าได้มั่นใจจนเกินไปอีกเล่า” เบรุตพูดและหัวเราะอย่างเยือกเย็น “สมรภูมิมหาพิภพเป็นสถานที่อาจเป็นหรือตายได้ทุกเมื่อ  ดังนั้นผู้บัญชาการผู้ไม่มั่นใจจนเกินไปจะไม่ปรากฏโฉมหน้าที่แท้จริงกับผู้คน”

“อย่าแสดงโฉมหน้าที่แท้จริง?”  ลินลี่ย์ตะลึง “อย่างนั้นข้าอ่านข้อมูลเหล่านี้ไปก็ไม่มีประโยชน์งั้นหรือ?”

หลังจากได้อ่านเอกสารและดูผลึกบันทึกแล้ว ลินลี่ย์เรียนรู้ลักษณะของคนเหล่านี้และสุดยอดไม้ตายของพวกเขา  แต่ถ้าพวกเขาเปลี่ยนโฉมหน้า  แล้วเขาจะจำแนกได้ยังไง?

“ไม่ต้องกังวลจนเกินไป ก็มีแต่พวกอ่อนแอเท่านั้นที่เปลี่ยนโฉมหน้าลักษณะ ขณะที่ยอดฝีมือที่แท้จริงจะมั่นใจตนเองอย่างสิ้นเชิง  พวกเขาจะไม่ยอมเปลี่ยนลักษณะโฉมของตนเองเพราะพวกเขาไม่กลัวใคร”  เบรุตกล่าว

ลินลี่ย์ได้แต่พยักหน้า

เป็นเรื่องยากจะตัดสินความเหนือชั้นหรือด้อยฝีมือในบรรดายอดฝีมือชั้นสูงที่แท้จริง  ยอดฝีมือชั้นสูงในหมู่เทพอสูร  ตัวอย่างเช่นเทพชั้นสูงพารากอนบางคนอาจกล่าวได้ว่าอยู่ในสามหรือห้าสุดยอดของโลกธาตุโดยเฉพาะ  ไม่มีทางกล่าวว่าเขาย่อมดีที่สุดแน่นอน  ที่สำคัญหลังจากฝึกฝนอยู่ในระดับสูงล้ำ...ต่อให้มีความแตกต่างในเรื่องของพลัง ก็ยากที่พวกเขาจะฆ่ากันได้

“ลอร์ดเบรุต กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตราบเท่าที่ข้าเผชิญกับใครบางคนที่ข้าไม่รู้จักข้าก็ควรโจมตี”  ลินลี่ย์หัวเราะ

“ถูกแล้ว” เบรุตหัวเราะเช่นกัน

“ความจริงสงครามมหาพิภพเป็นเรื่องไร้ประโยชน์มาก”  จู่ๆ เบรุตก็ส่ายศีรษะ  “ก็เหมือนกับโกดังสุสานนั่นแหละเพื่อใช้ลดจำนวนสุดยอดฝีมือ แต่แน่นอนนั่นก็ยังให้กำเนิดสุดยอดฝีมือได้เช่นกัน”

“เอ๋?” ลินลี่ย์ตกใจ

โกดังสุสาน?

“ลอร์ดเบรุต ท่านกำลังบอกอะไร?”  ลินลี่ย์อดโพล่งออกมาไม่ได้

เบรุตพูดอย่างเยือกเย็น “มีคนมากมายเกินไปและมียอดฝีมือในพิภพต่างๆ มากมายเกินไป  นอกจากนี้พิภพเหล่านี้คงอยู่มานานเป็นอสงไขยปี ความคงอยู่ที่นานมากเป็นผลให้เกิดยอดฝีมือนับไม่ถ้วน! สงครามมหาพิภพเป็นเครื่องมือใช้ลดจำนวนยอดฝีมือ  ทุกล้านล้านปีในทุกพิภพจะดำเนินการให้มีสงครามมหาพิภพ เพื่อใช้ลดจำนวนยอดฝีมือ”

“สงครามมหาพิภพจะดำเนินไปเป็นเวลาพันปี! ในช่วงเวลาพันปีนั้นจะมีแต่เพียงผู้บัญชาการมาต่อสู้และเข่นฆ่ากันเอง  ขณะที่พวกที่ไม่ต้องการจะสู้ก็จะเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในค่าย! และในที่สุดของสงครามมหาพิภพ กองทัพทั้งสองฝ่ายจะต่อสู้กันที่สะพานข้ามทะเลดวงดาวและเข้าร่วมเข่นฆ่ากันอย่างบ้าคลั่ง!”  เบรุตพูดพลางหัวเราะ  “สำหรับคนส่วนใหญ่ นี่คือการฆ่าตัวตาย  แต่คนส่วนน้อยถือว่านี่คือโอกาสที่ยอดเยี่ยม”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด