ตอนที่แล้วตัวประกอบแรงค์ EX — 0008
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตัวประกอบแรงค์ EX — 0010

ตัวประกอบแรงค์ EX — 0009


3. ซูเปอร์โนว่าไร้นาม (4)

* * *

ในโรงยิมที่มืดมิด ท่ามกลางเสียงนักเรียนที่ถูกแปลง และเสียงอันน่าขนลุกของสัตว์อสูรกำลังพุ่งชนบาเรีย

ใบหน้านักเรียนถูกโมเสกจนเห็นแค่ดวงตา แต่ใครก็ตามที่เพิ่งดูข่าวคงจำได้ทันทีว่านักเรียนคนนั้นคือใคร

นักเรียนมัธยมต้นที่เพิ่งกลายเป็นดาราดังฉายา ‘ฮีโร่ตัวน้อย’

ฮีโร่ตัวน้อยกำลังเล็งการ์ดไอเท็มไปยังนักเรียนที่บาดเจ็บจนเคลื่อนไหวได้ลำบาก

— เรื่องราวจะต่างออกไป… ถ้าใช้เหยื่อล่อที่ยังมีชีวิต… ตระกูลเผ่าแท้จะต้องพึงพอใจมากแน่หากมีคนตายไปสามคน… พวกเหยื่อล่อทั้งหลาย

— คิดจะใช้ ■■■ เป็นเหยื่อล่อจริงๆ รึไง? เขาบาดเจ็บเพราะนายนะ! ไอ้คนเนรคุณ!

— เนรคุณ? พูดจาเป็นเด็กไปได้ กำลังเล่นเป็นเด็กน้อยม.ต้นอยู่หรือ? นายเองก็มาถึงตรงนี้ได้เพราะเหยียบย่ำคะแนนของคนอื่นขึ้นมา! ยิ่งตอนนี้ทุกคนกำลังเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไม่ใช่แค่คะแนน!

ฮีโร่ตัวน้อยใช้ไอเท็มการ์ดกับเพื่อนนักเรียนทีมเดียวกัน

* * *

คณะกรรมการของมูลนิธิฮวังมยอง ซึ่งถูกโจมตีจากกระแสสังคม ตัดสินใจเผยแพร่วิดีโอดังกล่าว

จุดยืนของคณะกรรมการมูลนิธิฮวังมยองมีดังนี้

‘ในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการเพิ่งยืนยันได้ว่านักเรียนคนดังกล่าวมีพฤติกรรมที่ไร้ยางอาย จึงตัดสินใจงดออกค่ารักษาพยาบาลและการสนับสนุนด้านอื่น พร้อมกับเผยแพร่วิดีโอเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดของสาธารณชน’

เพิ่งยืนยันได้?

‘เพิ่งทราบความจริงอะไรกัน มูลนิธิรู้ทุกอย่างมาตั้งแต่แรกแล้ว!’

วิดีโอที่มูลนิธิฮวังมยองมอบให้สื่อเป็นเวอร์ชันตัดต่อ

เหลือไว้แค่ดวงตาของผู้เข้าสอบ แม้แต่ชื่อที่ตะโกนก็ยังถูกเซนเซอร์

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่อยากให้เรื่องราวบานปลาย หรือเป็นความหวังดีของเสือเหลือง แต่ฉากที่ฉันโยนขวดยาใส่ซนมินกิก็ถูกตัดออกเช่นกัน

เมื่อวิดีโอจากมูลนิธิฮวังมยองถูกเผยแพร่เป็นวงกว้าง กระแสสังคมก็ตีกลับทันที

สื่อมวลชนต่างใช้ผู้ประกาศข่าวหลักของตน ลงเสียงบรรยายในวิดีโอนั้น

และนำวิดีโอไปโพสต์ลงในช่องข่าวของสถานีตัวเอง จนมียอดผู้ชมสูงกว่าหนึ่งล้านวิวในพริบตา

ฮีโร่ตัวน้อย ‘ซนมินกิ’ กลายเป็น ‘ซนเมากาว’ ทันที

บทความที่เกี่ยวข้องกับซนมินกิเต็มไปด้วยคอมเมนต์ประณาม ‘ซนเมากาว’

[ฮีโร่? ฮะฮะฮะ! ก็แค่เมากาวแหละน่า]

[ซ น เ ม า ก า ว]

[คิดจะใช้เด็กที่บาดเจ็บเพราะช่วยตัวเองเป็นเหยื่อล่อ? ซนเมากาว 1, ปีศาจ 0, เหล่าเพลเยอร์ที่ได้รับพรคุ้มครองจากซาตานคงหนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมากันบ้างแล้ว~~~~]

[น่าขนลุกชะมัด;;;; ระยำยิ่งกว่าเอนามีเสียอีก]

[มูลนิธิฮวังมยอง ได้โปรดอย่าจ่ายค่าพยาบาลให้ไอ้สารเลวนั่น เอาเงินไปจ้างทนายแพงๆ ดีกว่า… โกรธชะมัด]

[ถ้าให้เงินหมอนั่นก็นับว่าโง่เต็มที]

ฝ่ายซนมินกิตอบสนองทันควัน

แม้จะไม่ได้ออกอากาศทางฟรีทีวีหรือหนังสือพิมพ์เจ้าใหญ่ แต่ก็มีบทความที่สนับสนุนซนมินกิผุดขึ้นเป็นระยะ

[น้ำตาของฮีโร่ตัวน้อย ‘ตอนนั้นผมกลัวมาก ขอโทษเพื่อนๆ ทุกคนด้วยครับ’]

[ระบบรักษาความปลอดภัยสุดห่วยแตกของมูลนิธิฮวังมยอง บีบให้เด็กหนุ่มหัวกะทิต้องจนมุม]

[เปิดเผยวิดีโอ ‘ฮีโร่ตัวน้อย’ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าตัว ระวังจะถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทจนเสียชื่อเสียง]

แต่กระแสสังคมตีกลับนานแล้ว

ฆ่าคนอื่นเพื่อความอยู่รอด?

จริงอยู่ อาจมีคนเห็นใจกับประเด็นนี้

ฝ่ายซนมินกิจึงพยายามหันคมดาบเข้าหามูลนิธิฮวังมยอง

อย่างไรก็ดี ประชาชนไม่ให้อภัยซนมินกิที่เคยหลอกลวงพวกตนและแสร้งทำเป็นฮีโร่

[ปล่อยไอ้เวรนั่นอยู่คนเดียวไปเถอะ! ไร้ยางอายฉิบ]

[คำแปล: เอาเงินฉันคืนมา]

[โรงเรียนมีหน้าที่คุ้มครอง?? เสียชื่อเสียง?? โรงเรียนอุตส่าห์ใจดีทำโมเสกกับแปลงเสียงให้แล้ว และก่อนจะเข้าศูนย์สอบ ก็มีการเซ็นหนังสือสาบานว่าจะไม่เอาผิดทางโรงเรียนหากได้รับบาดเจ็บ ฮะฮะฮะ!]

[พอเห็นชื่อนักข่าวที่เขียนบทความพวกนี้แล้ว เป็นคนเดียวกับที่เขียนบทสัมภาษณ์ชุดแรกนี่นา? ไอ้ปุ๋ยคอกเอ้ย! รับเงินมาเท่าไรวะ?]

[หลังจากอ่านบทความอย่างละเอียด เนื้อหาใช้คำว่า ‘เปิดเผย’ ไม่ใช่ ‘กล่าวหา’ และจะแจ้งความฐาน ‘หมิ่นประมาท’ ไม่ใช่ ‘ใส่ร้าย’ นักข่าวก็กลัวติดคุกเหมือนกันสินะ ฮะฮะ!]

และในวันถัดมา

ในเว็บคาเฟ่แห่งหนึ่ง ใครบางคนเปิดเผยเรื่องราวของซนมินกิ

เนื้อหาทำนองว่า โรงเรียนมัธยมต้นได้ ‘แอบดัน’ เกรดของซนมินกิขึ้น เพื่อให้เขามีสิทธิ์สอบเข้าโรงเรียนแสงเงิน

ผู้เขียนเปิดเผยว่า มีสองถึงสามวิชาที่พวกเขาเรียนดีกว่าซนมินกิ แต่เมื่อประกาศคะแนนรายวิชา อันดับของซนมินกิกลับไม่เหมือนเดิม

เป็นกลุ่มคนที่สงสัยว่าจะมีการแก้ไขเกรด

ไม่เพียงเท่านั้น ทันทีที่กระทู้ถูกเผยแพร่ออกไป เจ้าของกระทู้ยังได้ประจานข้อความ ‘ยอมรับเชิงข่มขู่’ จากซนมินกิ ซึ่งแนบรหัสนักเรียนเจ้าของกระทู้มาด้วย

คล้ายกับซนมินกิมั่นใจใน ‘แบ็ค’ ของตัวเองเสียเต็มประดา และพยายามข่มขู่ว่า ‘ถ้าแกเปิดเผยเรื่องนี้ สาบานได้เลยว่าแกจะไม่มีวันได้เรียนม.ปลาย’

‘จริงอยู่ ถ้าซนมินกิล้มลงเมื่อไร เราค่อนข้างมั่นใจว่าคนที่ถูกซนมินกิ ‘เหยียบค่ำคะแนน’ จะออกมาช่วยประจาน’

แต่ไม่คิดว่าจะเล่นหนักขนาดนี้

[เกี่ยวกับกระทู้จากนักเรียนโรงเรียนเดียวกันที่ถูกซนเมากาวโกงเกรด ขอสรุปในสามประโยค 1. ซนเมากาวมีแบ็คดี + โรงเรียนรู้เห็นเป็นใจ, 2. ซนเมากาวยืนยันกับเจ้าของกระทู้ด้วยตัวเอง + ข่มขู่, 3. ซนเมากาวเป็นไอ้ระยำตัวแม่]

[นี่มันอาชญากรรมไม่ใช่รึไง? พยายามฆ่า, ทำร้ายร่างกาย, โกงเกรด แถมยังข่มขู่! ไปติดคุกซะ!]

[แค่อายุสิบหกยังทำขนาดนี้ ถ้าหลุดเข้าไปในโรงเรียนที่ทรงเกียรติที่สุดในเกาหลีใต้สำเร็จ จะมีคนตกเป็นเหยื่ออีกเท่าไรกันนะ? แค่คิดก็หลอนแล้ว!]

เมื่อถึงจุดนี้ บทความที่คอยสนับสนุนซนมินกิทยอยหายไป

และเหยื่อของคำด่าทอมิได้มีแค่ซนมินกิ

ย้อนกลับไปในตอนที่ซนมินกิเล่าวีรกรรมของตนต่อหน้าสื่อ พ่อแม่ก็มีส่วนเช่นกัน

[ถ้าอยากเห็นหน้าพ่อแม่ของซนเมากาว รอดูข่าวทางทีวีได้เลย^^]

[ฉันเคยทำงานที่บริษัทของพ่อแม่ซนเมากาวอยู่เดือนนึง ตอนนี้เป็นอดีตพนักงานแล้ว]

[ฉันกำลังอัปโหลดลิงก์ของเว็บไซต์บริษัทพ่อแม่ซนเมากาว~~~ จะโดนฟ้องไหมน๊า~~~~~~ ขากกกกก—ถุ้ย!]

[พนักงานที่ไม่ใช่พนักงานประจำเกือบทั้งหมดในบริษัทถูกใช้แรงงานเยี่ยงทาส จากมุมมองของพนักงานประจำ ถึงฉันจะเล่าละเอียดไม่ได้ แต่บอกได้คำเดียวว่าบริษัทของพ่อแม่ซนเมากาวน่ะ ‘ของจริง’ …]

พ่อแม่ของซนมินกิทำธุรกิจขายสินค้าบริโภคให้สมาคมเพลเยอร์และทีมโปรเพลเยอร์

เมื่อชื่อบริษัทถูกเผยแพร่ ได้เกิดการประท้วงในคาเฟ่ของสมาคมเพลเยอร์และทีมโปรเพลเยอร์ เพื่อขอให้ยุติการทำธุรกิจกับบริษัทพ่อแม่ซนมินกิ

นอกจากนั้น ผู้ระดมทุนเพื่อเตรียมบริจาคเงินให้ซนมินกิในตอนแรก ปัจจุบันหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ความโกรธแค้นของผู้ที่เคยโอนบริจาค เบนเป้าไปหาครอบครัวซนมินกิทันที

[คายเงินบริจาคออกมาซะ! ไอ้ครอบครัวสันดานหมา!]

[ฉันตกเป็นเหยื่อของซนเมากาวเต็มๆ ไม่ใช่แค่เคยเขียนคอมเมนต์ให้กำลังใจ แต่ถึงขั้นบริจาคเงินช่วยเหลือ… อัปยศจนอยากตาย]

[↑ไปด้วยกัน TT TT]

[จะฆ่าตัวตายแค่เพราะเคยสนับสนุนให้ซนเมากาว? ช่วงเดือนธันวาคมแบบนี้ น้ำในแม่น้ำฮันไม่แข็งไปแล้วหรือ? ไปดูก่อนแล้วค่อยมาพูด]

[↑ ไม่รู้รึไงว่ามีเพลเยอร์คอยประจำการอยู่แถวแม่น้ำฮัน ตอนนี้อัตราฆ่าตัวตายที่นั่นต่ำมาก]

[ฉันเพิ่งตั้งคาเฟ่สำหรับระดมสมองหาวิธีทวงเงินบริจาคคืนจากซนเมากาว ตอนนี้กำลังปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางในอนาคต… ที่ใครตกเป็นเหยื่อกรุณาเข้าร่วมด้วย]

ประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังจากวิดีโอถูกเผยแพร่

ซนมินกิตกอยู่ในวิกฤติทางการเงิน

ถ้ารวมเงินค่าปิดปาก ค่ารักษาพยาบาล ค่าทนาย และเงินที่จ่ายให้สื่อ ทั้งหมดมีมูลค่ารวมหลักพันล้านดอลล่าส์

แถมบริษัทต่างๆ ยังส่งสัญญาณเตรียมคว่ำบาตรบริษัทพ่อแม่ซนมินกิในสัญญาแบบปีต่อปี

แน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขามีเงินไม่พอที่จะฟื้นฟูแขนขา

ไม่ใช่แค่นั้น โรงเรียนมัธยมปลายทั้งหมดปฏิเสธใบสมัครของซนมินกิ มิใช่แค่โรงเรียนแสงเงิน

ซนมินกิกลายเป็นคนพิการที่เต็มไปด้วยหนี้สินผู้กอดวุฒิการศึกษาม.ต้น

ในปลายเดือนธันวาคม ซนมินกิพังทลายลงโดยสมบูรณ์

เมื่อหัวข้อเกี่ยวกับซนมินกิเริ่มซาลง ทิศทางความสนใจเปลี่ยนไปเล็กน้อย

[ผู้ทำผลงานอันดับหนึ่งในการปรามสัตว์อสูร คุณโช? หรือคุณโจ? ทำไมถึงไม่ออกมาพูดอะไรเลย? หรือว่าเขาก็ถูกซนมากาวข่มขู่?]

[ถูกซนเมากาวข่มขู่แน่นอน]

[เมื่อลองมาคิดดูมันก็แปลก ทำไมเด็กคนอื่นถึงไม่เป็นอะไรเลย? ทำไมถึงไม่มีใครสนใจผู้ทำผลงานอันดับหนึ่งที่ได้รับเลือกจากเพลเยอร์ SAT-K เลย?]

[นั่นสินะ ทำไมซนเมากาวถึงได้บาดเจ็บอยู่คนเดียว? ทำน้ำยาหกใส่ตัวเองรึไง?]

[ผู้ทำผลงานอันดับหนึ่งเรียนห้องเดียวกับฉัน! ม.3/8 โรงเรียนมัธยมต้นแก่นสาร แต่เขาคงเหนื่อยมาก หลังจากวันนั้นก็ไม่มาโรงเรียนอีกเลย T-T]

[เขาพยายามช่วยซนเมากาวแล้วไม่ใช่หรือ? ในช่วงต้นคลิปก่อนที่ซนเมากาวจะขว้างขวดยา ฉันได้ยินเขาพยายามโน้มน้าว เท่ชะมัด!]

ซนมินกิถูกกระแสสังคมโจมตีอีกครั้ง แต่เขาพูดอะไรเกี่ยวกับพวกเราไม่ได้

เพราะติดสัญญาห้ามเล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้น หากฝ่าฝืนจะต้องจ่ายค่าปรับแสนแพง

ระหว่างที่สถานการณ์ดำเนินไป ฉันปิดโฮโลแกรมด้วยสีหน้าพึงพอใจหลังจากอ่านบทความและคอมเมนต์ทั้งหมด

เป็นไปตามแผน

ไม่สิ ประสบความสำเร็จยิ่งกว่าแผนที่วางไว้เสียอีก

* * *

“พักหลังมานี้ การอ่านข่าวกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของฉันไปแล้ว คอยบันทึกข่าวที่น่าประทับใจเก็บไว้ วันไหนท้อใจก็ย้อนกลับไปอ่าน”

อูซังฮียิ้มอย่างอ่อนโยนพลางแสดงโฮโลแกรมหน้าจอ ต่อหน้าพวกเราที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในห้องอูซังฮุน

“หมอนั่นโทรมาตื๊อทุกวัน ตอนแรกก็ชื่นใจอยู่หรอก แต่หลังๆ ชักเริ่มรำคาญ มันบอกว่าอยากอัป SNS ว่าพวกเราสี่คนอยู่ด้วยกันอย่างสนิทสนม… เสียแขนขาไปไม่ใช่รึไง ทำไมถึงทำตัวเหมือนเสียสมอง?”

อูซังฮีสางผมยาวสลวยท่ามกลางแสงแดด ดูสมกับเป็นนักบวชหญิงของเทพธิดาแห่งการรักษา

แม้คำพูดคำจาจะฟังดูโหดร้ายไปหน่อยก็ตาม

จางนัมอุกไม่ตอบสนองมากนัก เพียงดื่มชาแอปเปิลที่อูซังฮียกมาเสิร์ฟ

ดูเหมือนจะชินกับธาตุแท้ของเธอแล้ว

“ฉันไม่ได้บอกเบอร์ติดต่อของพวกนายกับใครเลย แค่ทำเป็นนึกๆ แล้วสุดท้ายก็แกล้งลืม วางใจได้”

อูซังฮีวางแก้วน้ำผลไม้และเครื่องดื่มลง ก่อนจะเดินมาหาฉันด้วยรอยยิ้มสดใส

“ขอบใจนะอึยชิน ทั้งหมดเป็นเพราะนาย… ขอโทษที่ไม่เชื่อใจตั้งแต่แรก ฉันจะชดใช้บุญคุณครั้งนี้ให้แน่นอน”

“ไม่จำเป็น อันที่จริง ไม่ต้องทำอะไรเลยจะดีกว่า”

“ใจดีจังเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า ตอนนี้ฉันเป็นรุ่นพี่ของอึยชินแล้ว เรียกฉันว่าพี่ซังฮีก็ได้”

อูซังฮียิ้มสดใสขณะมองหน้าฉัน

อูซังฮุนที่มองจากด้านข้าง ทำหน้าเหมือนกับกำลังเห็นสัตว์ประหลาด

“หึ… พี่ซังฮี~”

ป้าบ!

ฝ่ามือของอูซังฮีกระแทกลงบนแผ่นหลังอูซังฮุน

อูซังฮุนไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่ผิวหน้าเริ่มกลายเป็นม่วงคล้ำ

สกิลหัตถ์คมมีดของอูซังฮีอยู่ที่ Lv.3…

อาการบาดเจ็บจากคราวก่อนจะแย่ลงไหมนะ?

“ถ้าอย่างนั้นก็เล่นกันให้สนุกนะ ถ้ามีอะไรก็เรียกฉันได้”

เมื่ออูซังฮีเดินออกไป ฉันทิ้งตัวนอนลงบนพื้นอย่างสบายใจ

แต่ยังไม่ทันจะถึงพื้น หลังของฉันสัมผัสกับลูกบาสฯ

ฉันนำลูกบาสขึ้นมาหมุนเล่นบนนิ้วพลางกล่าว

“แล้ววันนี้นัดมารวมตัวกันทำไม? ฉลองวันหยุดปิดเทอม?”

แม้พวกเราจะคุยกันบ่อยในกลุ่มแชต แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอหน้ากันนับตั้งแต่วันเซ็นสัญญาปิดปาก

ฉันไม่ได้ไปโรงเรียนมัธยมต้น แต่อีกสองคนยังไปตามปกติ ก็เลยไม่มีโอกาสได้เจอกัน

“เพื่อแสดงความยินดีกับนายไง พ่อซูเปอร์โนว่าไร้นาม”

ไปได้ยินมาจากไหนเนี่ย?

“ฉันเห็นในเว็บไซต์ทางการของสมาคมเพลเยอร์ มันเขียนอยู่ตรงรายชื่อผู้พิชิตเอนามีที่มีค่าหัว”

อูซังฮุนเล่าเสริมราวกับอ่านใจฉันออก

ย้อนกลับไปในระหว่างที่ซนมินกิกำลังพังทลาย ฉันเข้าๆ ออกๆ สมาคมเพลเยอร์บ่อยครั้ง

ได้ยินว่าเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่บุคคลทั่วไปอายุสิบหกปีซึ่งไม่ได้ลงทะเบียนอยู่ใน SAT-K สามารถจัดการกับเอนามีที่มีค่าหัวได้ ส่งผลให้มีปัญหาในการบันทึกข้อมูล

ฉันไม่อยากใช้ชื่อจริง จึงบอกให้พวกเขาคิดขึ้นมาเอง ทางเพลเยอร์ SAT-K จึงสุ่มชื่อนี้มาให้โดยอ้างอิงจากสภาพแวดล้อม

ผลลัพธ์คือ ‘ซูเปอร์โนว่าไร้นาม’

ฮงกยูบินพูดว่า…

‘เหมาะมากสำหรับเด็กม.ต้นที่เก่งกาจและกระตือรือร้นแต่ยังไม่ได้ลงทะเบียน’

ฉันไม่ชอบรอยยิ้มของฮงกยูบินเลย แต่เท่าที่ฟังดูก็ไม่ได้แย่

แม้ในตอนนี้ ฉันจะเป็นแค่ซูเปอร์โนว่าไร้นามซึ่งมีสถานะเป็นแค่เพลเยอร์ชั่วคราว แต่อีกไม่กี่วันก็จะอายุครบสิบเจ็ดและกลายเป็นเพลเยอร์ปกติ

“ขอบใจนะซังฮุน… จริงสิ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นายกับจางนัมอุกก็จะกลายเป็นเพลเยอร์เต็มตัวแล้วนี่? มาฉลองกันไหม?”

(*วิธีนับอายุแบบเกาหลี คลอดจากท้องแม่ = 1ขวบ, ทุกวันขึ้นปีใหม่บวกเพิ่มอีกหนึ่งขวบ)

“ก็ไม่เลว ฉันว่างอยู่พอดี”

“ว่าแต่ พวกเราจะฉลองกันแบบไหน?”

“มาเล่นเกมกันเถอะ”

“นี่”

ขณะฉันกับอูซังฮุนคุยเล่นกัน

ระหว่างกำลังเตรียมจับจอยเล่นเกมต่อสู้ จางนัมอุกทิ้งระเบิด

“ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เข้าเรียนที่โรงเรียนแสงเงิน… แต่เป็นโรงเรียนเพลเยอร์เตรียมทหาร และอนาคตจะเป็นทหาร”

“หา?”

“อะไรนะ!”

ทั้งฉันและอูซังฮุนต่างอ้าปากค้างกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด

ดวงตาที่เด็ดเดี่ยวของจางนัมอุก ส่องประกายอยู่ด้านหลังแว่น

“ฉันลองสอบเข้าโรงเรียนแสงเงินเพราะเกรดถึง แต่ไม่ได้อยากเรียนตั้งแต่แรก”

สอบเข้าโรงเรียนที่ทรงเกียรติที่สุดในเกาหลีใต้แค่เพราะ ‘เกรดถึง’ ?

ถ้านักเรียนม.ปลายกว่าสองล้านคนของเกาหลีใต้ได้ยินเข้า ใครบางคนคงตั้งค่าหัวจางนัมอุกจนเขาถูกลอบสังหาร

อย่างไรก็ดี เสียงของจางนัมอุกทั้งขึงขังและเจือความเศร้า

“ฉันไม่ได้กล้าหาญเหมือนซังฮุน ไม่ได้เจ้าแผนการเหมือนอึยชิน… ฉันถนัดแต่การทำตามคำสั่งและแหกปากตะโกน”

“โลกนี้ยังมีคนอีกมากที่ทำแบบนายไม่ได้”

“ฉันก็เหมือนกับซนมินกิ… ไม่ฉลาดพอที่จะคิดแผนแบบอึยชิน และไม่กล้าฝากชีวิตไว้กับอึยชินเหมือนซังฮุน”

“จางนัมอุก…”

สายตาอูซังฮุนบ่งบอกว่าเขาต้องการโน้มน้าวจางนัมอุก

อย่างไรก็ดี จางนัมอุกส่ายหน้าพร้อมกับกล่าวอย่างหนักแน่น

“ฉันสมัครสอบโรงเรียนแสงเงินแค่เพราะเกรดถึงและมีพรสวรรค์ ในใบสมัครกรอกไว้ว่าความฝันคือการได้เข้าร่วมทีมโปรเพลเยอร์ แต่ในความเป็นจริง ฉันไม่เคยมีฝันแบบนั้น”

“อย่าไปจริงจังกับความฝันของเด็กม.ต้นมาก ถ้ามีใครมาถามฉัน ก็คงตอบว่าอยากเป็นประธานาธิบดีโดยไม่ลังเล”

“แต่พวกนายอยากเรียนที่โรงเรียนแสงเงินนี่ ส่วนฉันไม่ใช่”

อูซังฮุนปิดปากเงียบเพราะไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ

“ธรรมเนียมของโรงเรียนแสงเงินที่ให้คุณค่ากับอิสรภาพ นั่นไม่เหมาะกับฉันเลย… ถ้าฝืนดันทุรังต่อไป มีแต่ฉันจะกลายเป็นตัวถ่วงของพวกนาย”

จางนัมอุกกล่าวจากใจจริง

คำพูดของเขายังไม่หมด

“แต่ฉันยังอยากเป็นคนที่ปกป้องผู้อื่นได้ ถ้าคิดจะเรียนรู้สิ่งนั้น โรงเรียนเตรียมทหารตอบโจทย์กว่ามาก”

ถ้ากล้าพูดถึงขนาดนี้ แปลว่าคงไตร่ตรองมาอย่างดีตลอดหลายวัน

แล้วฉันควรพูดอะไร?

คำแนะนำเกี่ยวกับชีวิตในกรมทหาร?

เปรียบเทียบและวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนระหว่างโรงเรียนแสงเงินกับโรงเรียนเตรียมทหาร?

หากแววตาของจางนัมอุกมีความลังเลแม้เพียงเล็กน้อย ฉันคงให้คำแนะนำข้างต้นไป

“อื้อ เข้าใจแล้ว”

แต่สำหรับตอนนี้ สิ่งที่จางนัมอุกอยากได้ยินใน ไม่ใช่เรื่องพวกนั้น

“ติดต่อมาหาได้ทุกเมื่อ ถึงฉันจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ก็ยินดีรับฟัง”

จางนัมอุกไม่ได้เล่าให้เราฟังเพราะอยากถูกโน้มน้าว แต่เล่าเพราะต้องการบอกความในใจ

แค่อยากให้ ‘เพื่อน’ รับฟังการตัดสินใจของตน

“นายพูดเหมือนตาลุงเลย”

“เป็นตาลุงป่ะเนี่ย?”

ท่าทีที่จริงจังเกินไปของฉัน ทำเอาเด็กม.ต้นสองคนถึงกับผงะ

ไม่นานหลังจากนั้น พวกเรากลับมาคุยกันด้วยบรรยากาศปกติ

จางนัมอุกคลายสีหน้าตึงเครียดลงและร่วมวงสนทนาด้วยนิสัยขี้บ่นเหมือนเดิม

* * *

ในฤดูหนาว ตอนกลางวันจะสั้นเป็นพิเศษ

หลังจากกินมื้อเย็นที่บ้านอูซังฮุนก่อนเวลาเล็กน้อย พวกเราตัดสินใจแยกย้ายก่อนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า

ครอบครัวของอูซังฮุนบ่นเสียดายที่พวกเราค้างคืนไม่ได้

พ่อแม่ของจางนัมอุกมารับถึงบ้าน ส่วนฉันก็ปฏิเสธ

ตอนนี้มีระบบขนส่งสาธารณะให้เลือกกลับบ้านสามวิธี

รถไฟใต้ดิน รถเมล์ และแอร์บัสไร้คนขับ

แอร์บัสไร้คนขับค่าโดยสารแพงมาก แถมยังไม่มีป้ายจอดย่านคนจนที่ฉันอาศัย จึงตัดสินใจกลับด้วยรถเมล์

ขณะกำลังรอรถเมล์อยู่กับอูซังฮุนที่มาส่ง

“จางนัมอุกอาจไม่ทันสังเกต แต่ฉันคาใจบางเรื่องมานานแล้ว”

“เรื่อง?”

ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บนถนน

เสียงเดียวที่ได้ยินดังมาจากรถที่วิ่งอยู่ริมถนน

“ในตอนนั้น ฉันค่อนข้างแปลกใจที่นายโยนขวดยาใส่ซนมินกิ แทนที่จะเป็นบาเรียสนามสอบเพื่อเพิ่มดีบัฟให้ไลโนเซรอน”

เพิ่งเคยได้ยินอูซังฮุนพูดยาวขนาดนี้

แม้แต่ตอนที่เกือบตายเพราะถูกหักหลัง เขาก็ไม่ได้พูดยาวนัก

คงเป็นข้อสงสัยที่คาใจมานาน

“อึยชิน… นายรู้ตั้งแต่ตอนไหนหรือ”

ฉันไม่ตอบ

นับตั้งแต่วินาทีที่ ‘พลังโชคชะตา’ ทำงาน ฉันก็คาดเดาเส้นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดและวางแผนรับมือไว้

‘ใครก็ตามที่เล่นเกมจนถึงบทสุดท้าย ก็คงคิดและทำแบบฉัน’

มีแค่ไม่กี่เหตุการณ์ที่จะหลีกหนีจากเส้นเรื่องนั้นได้

ซนมินกิต้องเลิกใช้อูซังฮุนเป็นเหยื่อ หรือไม่ก็เลิกชักนำสื่อเพื่อเอาความดีใส่ตัวเอง

หรือถ้าเขาขอโทษอูซังฮุนอย่างจริงใจสักครั้ง เรื่องราวก็คงไม่ดำเนินมาถึงจุดนี้

แต่ซนมินกิเลือกเส้นทางที่เลวร้ายที่สุดเสมอ

“ฉันได้เงินค่าหัวมาแล้ว ไว้ไปหาอะไรกินกันไหม?”

อูซังฮุนจ้องฉันที่เปลี่ยนเรื่องหน้าตาย

ดูเหมือนว่าเขาจะเลิกคาดหวังกับคำตอบ

“ฉันก็มีเงินค่าปิดปากเหมือนกัน ไว้นัดจางนัมอุกมากินด้วยกันนะ”

จะว่าไป เงินค่าปิดปากแพงกว่าค่าหัวเอนามีเสียอีก

ฉันพ่ายแพ้

แม้ฉันกับจางนัมอุกจะได้ส่วนแบ่งจากเงื่อนไขที่เพิ่มขึ้น แต่เราสองคนก็ต้องหารครึ่ง

ฉันฉายโฮโลแกรมเพื่อดูเผื่อเอาไว้ ว่าถ้ามีโอกาสควรไปฉลองที่ไหนกันดี

AI ของเซิร์ชเอนจินแนะนำสถานที่สองแห่ง

บุฟเฟ่ต์พิเศษสำหรับฤดูหนาวของชั้นดาดฟ้าโรงแรม ‘โฮเทลสโนว์แอนด์แอร์’ ซึ่งมีวิวชมแม่น้ำฮัน

คอร์สอาหารค่ำแบบลิมิเต็ด เพื่อรำลึกการมาเยือนเกาหลีใต้ของเชฟ-เพลเยอร์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส

ดูดีทั้งคู่

ขณะฉันครุ่นคิดอย่างจริงจังระหว่างบุฟเฟต์โรงแรมกับอาหารคอร์ส

“ขอบใจนะ โชอึยชิน”

อูซังฮุนขอบคุณอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

* * *

ไม่กี่วันถัดมา วันที่หนึ่งมกราคม

ซูเปอร์โนว่าไร้นาม—โชอึยชิน—กลายเป็นเพลเยอร์อย่างเป็นทางการเมื่ออายุครบสิบเจ็ดปี

เมื่อเข็มวินาทีของนาฬิกาขยับผ่านเลขศูนย์

เสียงระบบดังขึ้น

〈ท่านสามารถใช้ ‘แสงประทาน’ 〉

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (1/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด