ตอนที่แล้วตัวประกอบแรงค์ EX — 0007
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตัวประกอบแรงค์ EX — 0009

ตัวประกอบแรงค์ EX — 0008


3. ซูเปอร์โนว่าไร้นาม (4)

* * *

“เข้าใจแล้ว”

ซังฮุนพยักหน้ารับทันที

ซังฮีและนัมอุกจ้องซังฮุนด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“นี่! ซังฮุน!”

ซังฮีผู้เลิกสวมหน้ากากของหญิงสาวอ่อนโยน คำรามเสียงดัง

นัมอุกเปลี่ยนมามองซังฮีด้วยใบหน้าตกตะลึง

“ฉันจะทำตามที่อึยชินบอก”

“แม้แต่ไอ้งั่งก็ยังไม่งั่งขนาดนี้! ลืมไปแล้วรึไงว่านายเกือบตาย?”

แม้ซังฮีจะคำรามอย่างดุเดือด แต่ซังฮุนยังคงมองมาทางฉันแล้วพูดเสียงเรียบ

“อึยชิน อธิบายให้ทุกคนเข้าใจสิ”

สายตาทุกคู่หันมาจับจ้องฉัน

ไม่แน่ใจว่าซังฮุนอ่านความคิดฉันได้ หรือแค่เชื่อใจกันแน่ แต่ฉันตัดสินใจเล่าทุกสิ่งในหัวออกไป

“ตอนนี้ซนมินกิถูกสังคมมองว่าเป็นฮีโร่ และเราสามคนเป็นแค่ลูกมือที่รอดชีวิตมาได้เพราะการเสียสละของเขา… ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ผิดเสียทีเดียว”

ซนมินกิเสียแขนขวาและขาขวาเพราะไอเท็มที่ฉันโยนใส่

เขาชิงออกมาสัมภาษณ์เป็นคนแรก ว่ายอมสละชีวิตของตนเพื่อช่วยเหลือพวกพ้อง

ตอนนี้ซนมินกิจึงไม่ต่างอะไรกับตัวเอกในการ์ตูนเด็กผู้ชาย

“ต่อให้พวกเราที่อวัยวะยังอยู่ครบเปิดโปงความจริง แต่สังคมจะมองว่าเราใส่ร้ายซนมินกิที่กำลังจะกลายเป็นคนดัง… หากต้องการชนะคดี เราต้องได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิฮวังมยอง หรือสมาคมเพลเยอร์ หรือโรงเรียนมัธยมปลายแสงเงิน แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเขาคงไม่ช่วยออกหน้าให้แน่”

จุดประสงค์ของสมาคมเพลเยอร์คือการ ‘ปราบปรามเอนามี’ และ ‘คุ้มครองผู้เล่น’

พวกเขาไม่มีหน้าที่หรืออำนาจ ที่จะช่วยเหลือเด็กมัธยมต้นซึ่งยังไม่ได้ลงทะเบียนเพลเยอร์อย่างเป็นทางการ

ที่ฮงกยูบินแวะมาหาฉันในวันนั้น เพราะ ‘เพลเยอร์ที่ไม่ได้ลงทะเบียน’ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจำกัดเอนามีที่มีค่าหัว

‘และด้วยจุดยืน คงยากที่มูลนิธิฮวังมยองจะเคลื่อนไหว’

สิ่งที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาของสังคมมากพอๆ กับเรื่องของซนมินกิ คือปัญหาด้านความปลอดภัยที่โรงเรียนแสงเงิน—ซึ่งดำเนินการโดยมูลนิธิ—กำลังเผชิญอยู่

มีแค่ผู้เชี่ยวชาญส่วนน้อยและเพลเยอร์ที่มองว่า ‘ทั้งที่ถูกแทรกแซงโดยเผ่าแท้ แต่กลับเกิดความเสียหายแค่นี้’

สำหรับคนส่วนใหญ่ในเกาหลี พวกเขาเข้าใจเพียงว่า มีนักเรียนม.ต้นเกือบตายระหว่างการสอบเข้าโรงเรียนแสงเงิน

“สมมติว่าทนายฝั่งเราเก่งพอที่จะกดดันให้ศาลออกหมายเรียกวัตถุพยานได้ และการสืบสวนเป็นไปอย่างราบรื่น จนเราได้รับวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ในโรงยิม… แต่ต้องไม่ลืมว่าซนมินกิเป็นแค่เด็กม.ต้น นี่เป็นเหตุการณ์ที่เด็กสี่คนเผชิญหน้ากับเผ่าแท้ เป็นใครจะไม่สติแตกบ้าง? แค่เขาแสร้งสำนึกผิดในศาล ต่อให้เป็นคดีฆาตกรรม แต่ก็จะลงเอยแค่การคุมประพฤติ”

แม้จะเป็นโลกที่มีความขัดแย้งกับต่างโลก แต่เกาหลีใต้ก็ยังเป็นเกาหลีใต้

สิทธิมนุษยชนในเยาวชน มักปกป้องผู้กระทำผิดมากกว่าเหยื่อ

พวกเขาคลั่งไคล้หลักการที่ให้ความสำคัญกับผู้กระทำผิดเป็นอันดับหนึ่ง ภายใต้ฉากหน้าของ ‘สิทธิมนุษยชน’ และการ ‘บำบัดผู้กระทำผิด’

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของเยาวชน แค่ใช้อายุเป็นเกราะกำบังก็ได้รับความเห็นใจได้ง่าย ต่อให้เป็นคดีร้ายแรงก็ตาม

ยิ่งผู้กระทำผิดคาบช้อนทองมาเกิด ก็ยิ่งสะดวกต่อการใช้สื่อครอบงำประชาชนเพื่อเรียกคะแนนสงสาร

ส่งผลให้ประชาชนบางส่วนเกิดความสงสารผู้กระทำผิดมากกว่าเหยื่อเสียอีก

“ซนมินกิสามารถเผยแพร่บทความผ่านสื่อได้ภายในหนึ่งวัน หมายความว่าทางนั้นน่าจะมีเส้นสายกับสื่อ การต่อสู้อย่างตรงไปตรงมาอาจใช้เวลานานและทำให้ฝ่ายเราเจ็บตัว เป็นการต่อสู้ที่มีโอกาสชนะไม่มาก และถึงจะชนะก็เสียมากกว่าได้”

ฉันเริ่มเจ็บคอเมื่อพูดติดกันยาวๆ

ตอนที่สู้กับไลโนเซรอนยังไม่พูดมากเท่านี้

ฉันกลืนชาบ๊วยที่เริ่มชืดเพื่อให้ลำคอชุ่มชื้น

ชาบ๊วยที่หายร้อนไปหลายส่วน มีรสขมฝาดกว่าปกติ

แม้จะผ่านไปหลายสิบวินาทีหลังจากฉันหยุดพูด แต่ห้องก็ยังเงียบ

ฉันจึงพูดทิ้งท้าย

“อันดับแรกก็ต้องตกลงกับเขาก่อน จากนั้น…”

* * *

ฝ่ายซนมินกิตอบรับข้อเสนอทันที

เขากำลังจะกลายเป็นดาราดัง

จิตวิญญาณแห่งความเสียสละ ที่ยอมแลกแขนขาเพื่อความอยู่รอดของเพื่อนอีกสามคน

ตำนานที่จะถูกกล่าวขานอย่างยิ่งใหญ่ภายในรั้วโรงเรียนแสงเงิน

หน้าตาที่ดูดีกว่ามาตรฐาน

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ซนมินกิจึงได้รับสายโทรศัพท์จากสื่อบันเทิงอย่างล้นหลาม

ถ้าได้เป็นสตาร์เพลเยอร์ เงินค่าปิดปากหลักพันล้านวอนแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาเลย

‘ในทางกลับกัน ถ้าถูกขุดประวัติในอดีตขึ้นมาหลังจากโด่งดังแล้ว สถานการณ์อาจเลวร้ายยิ่งกว่า’

ซนมินกิพยายามใส่เงื่อนไขอย่างละเอียด ต่อให้ต้องเพิ่มเงินปิดปากก็ตาม

เมื่อเสนอไปว่าฉันกับนัมอุกก็จะยอมเงียบด้วย เพื่อแลกกับเงินค่าปิดปากที่เพิ่มขึ้น เขาตอบตกลงโดยไม่ลังเล

กลับกัน ทางนั้นเสนอกลับมาว่า หากมีการละเมิดเงื่อนไข ฝ่ายเราต้องจ่ายค่าปรับเป็นสามเท่าของค่าปิดปาก

ลงเอยด้วย ค่าปรับมีมูลค่าสูงลิบลับ จนแม้แต่ครอบครัวซนมินกิที่ทำธุรกิจหลายอย่างก็จ่ายไม่ไหว

“ไอ้พวกหน้าโง่”

ซนมินกิสบถต่อหน้าทนายความและผู้ปกครอง

เขาที่โผล่หน้ามาในสภาพนั่งวีลล์แชร์ ปิดปากเงียบตลอดทั้งกระบวนการ และเผยธาตุแท้เมื่อเซ็นลงนามในเอกสารเสร็จ

เมื่อบรรลุข้อตกลงแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะยกเลิกสัญญาไม่ได้อีก เว้นเสียแต่จะเขียนเงื่อนไขพิเศษกำกับไว้

‘เพราะรู้เรื่องนี้ดี ก็เลยรอให้เซ็นสัญญาเสร็จก่อนสินะ’

เมื่อนัมอุกที่อยู่ด้วยกันเตรียมพูดบางสิ่งด้วยความเดือดดาล ฉันใช้ศอกแยงสีข้างเพื่อให้เขาปิดปาก

กับนัมอุกที่มีนิสัยแบบนี้ ถ้าพาซังฮีมาด้วย ความรุนแรงคงเกิดขึ้นหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์

“ซังฮุน แบบนี้ดีแล้วแน่นะ?”

นัมอุกพูดกับซังฮุนที่ยังมีสีหน้าปกติ

ซังฮุนตอบอย่างใจเย็น

“ใช่… เพราะสีหน้าของอึยชินตอนนี้… ยังคงเหมือนกับตอนที่เขาเล่าแผนให้พวกเราฟัง”

ฉันกำลังทำหน้าแบบไหน…?

ลองมองภาพสะท้อนในกระจก แต่ใบหน้าของฉันก็ยังดูปกตินี่นา

* * *

ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงเรียนแสงเงิน เพราะมีนัดกับประธานมูลนิธิฮวังมยอง

อีกฝ่ายไม่ใช่คนที่นักเรียนจะนัดพบได้ง่าย แต่ในกรณีของฉันได้รับอนุญาตทันทีที่แจ้งความประสงค์กับแจกอล

“ท่านประธานบอกว่าอยากคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว”

หากไม่นับอาจารย์ใหญ่และรอง จูกัด·แจกอล—หัวหน้าฝ่ายธุรการ—คือบุคคลที่ใกล้ชิดกับคณะกรรมการมากที่สุด

ฉันโชคดีที่วันนั้นรับนามบัตรของแจกอลมา

ไม่อยากนั้น ในกรณีเลวร้าย ฉันอาจต้องติดต่อผ่านฮงกยูบิน

“ขอบคุณที่ช่วยเป็นธุระให้นะครับ”

“ครูไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากโทรถาม”

ประมาณหนึ่งนาทีหลังจากขึ้นแอร์ชัตเทิล (Air Shuttle) ภายในมหาวิทยาลัย

ฉันแทบมองไม่เห็นอาคารเรียนหรือสิ่งอำนวยความสะดวก เพราะนี่เป็นเส้นทางสำหรับผู้เยี่ยมชม

ได้เห็นแค่ผู้คนที่เดินขึ้นแอร์ชัตเทิลหรือแอร์บอร์ด (Air Board) ไม่มากนัก

น่าเสียดาย นี่เป็นโอกาสที่จะได้เห็นทิวทัศน์โรงเรียนด้วยตาตัวเอง

นับตั้งแต่สอบเสร็จ ฉันมีเรื่องให้ต้องคิดมากมาย

‘ยังไงพอเข้าเรียนก็คงได้เห็นจนเบื่อ ช่างมันเถอะ’

ขณะครุ่นคิด แอร์ชัตเทิลแล่นมาหยุดหน้า ‘ตึกเงินจรัส’ ซึ่งเป็นอาคารหลักของโรงเรียนแสงเงิน

อาคารสีขาวที่มีต้นเสาสีทองค้ำจุน คอยสร้างเส้นโค้งเว้าอันงดงามบนท้องฟ้า

หน้าต่างกระจกที่ปกคลุมด้านนอกเกือบทั้งหมด ยามนี้กำลังสะท้อนแดด ทำให้ทั้งอาคารดูคล้ายกับถูกหุ้มด้วยแสงอาทิตย์

‘เหมือนกับ CG ในเกมเลย’

เมื่อเดินผ่านทางเดินพื้นหินอ่อนธรรมชาติพลางอุทานชื่นชมความงามในใจ ฉันเห็นป้าย ‘ห้องประธานกรรมการ’ บนประตูแกะที่สลักภาพเสือ

“ครูไปทำงานก่อนนะ เสร็จแล้วโทรมา”

ทั้งที่วันนี้มีงานต้องทำ แต่ก็ยังอุตส่าห์พาเด็กม.ต้นมาส่งถึงหน้าห้องประธาน?

ฉันเตรียมจะขอบคุณเขาอีกครั้ง แต่แจกอลเดินกลับไปแล้ว

ตอนนี้ประธานไม่อยู่ห้อง เพราะการประชุมกับสมาคมเพลเยอร์ใช้เวลานานกว่าที่คิด

“ขออภัยในความไม่สะดวก ขณะนี้ท่านประธานไม่อยู่”

เลขาแนะนำให้รอ จากนั้นก็ยกกาแฟออกมาเสิร์ฟ

โซฟาและโต๊ะไม้มะฮอกกานีขลิบทอง รวมถึงถ้วยชากระเบื้องเคลือบสไตล์จีน

องค์ประกอบทั้งหมดทำให้ฉันรู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก

‘นี่อาจเป็นส่วนหนึ่งของบททดสอบ’

ฮวังมยองโฮ—ประธานมูลนิธิฮวังมยอง—ชายประหลาดที่ชอบเฝ้ามองและทดสอบผู้คน

ถ้าทำตัวไม่เข้าตาเขา แผนการใช้ชีวิตในโรงเรียนของฉันคงลำบากขึ้นมาก

“ขอบคุณครับ”

ฉันคำนับเล็กๆ แล้วนั่งลงบนโซฟาในท่าผ่อนคลาย

เลขายิ้มสดใสอย่างมีเลศนัย

“ท่านประธานจะมาถึงในอีกสิบนาทีค่ะ”

ได้เห็นรอยยิ้มของเธอ ฉันฉุกคิดขึ้นมาได้

ในเกมเพลเมโก เธอก็คอยยิ้มแบบนี้อยู่ด้านหลังประธานเสมอ

ถ้ามีตัวตนอยู่ในเกม ก็น่าจะตรวจสอบข้อมูลตัวละครได้สินะ?

ทว่า

〈ตัวละครนี้ไม่ได้ถูกลงทะเบียนในฐานข้อมูล ไม่สามารถเรียกดูข้อมูลส่วนบุคคล〉

เฉกเช่นนักเรียนและครูในโรงเรียนมัธยมต้น ฉันตรวจสอบข้อมูลไม่ได้

‘แม้เลขาของมยองโฮจะไม่มีบทพูดในเกม แต่ก็มีตัวตนแน่นอน… ถึงอย่างนั้นระบบก็บอกว่ายังไม่ได้ลงทะเบียน?’

ในหนังสือเซตติ้งก็ไม่ได้เขียนถึงเลขาของมยองโฮไว้

แค่กล่าวถึงว่า ประธานมยองโฮมีเลขาอยู่หนึ่งคน

กำลังจะบอกว่า ตัวตนที่มองเห็นอนาคตได้อย่างจักรวาลเหนือรูป ก็มิอาจมองเห็นข้อมูลส่วนบุคคล ถ้าบุคคลนั้นไม่ใช่ตัวละครสำคัญภายในเกม?

หลังจากผุดสมมติฐาน ฉันเริ่มอนุมานในสิ่งที่น่าขนลุกทันที

‘ตอนนี้อนาคตคงเปลี่ยนไปมากแล้ว เพราะฉันดันช่วยให้คนที่ควรตายมีชีวิตรอด… สักวันอาจได้เจอกับศัตรูที่เราส่องข้อมูลไม่ได้’

แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดี

จะบอกให้ปล่อยนัมอุกกับซังฮุนตาย เพื่อให้ฉันคาดเดาอนาคตได้ต่อไป?

ใครจะไปทำลง

“นักเรียนอึยชิน”

เมื่อฉันเงยหน้า ประธานมยองโฮกำลังยืนอยู่

เส้นผมอาจมีสีเทาตามอายุ แต่กลับยังดูสมบูรณ์จนน่าทึ่งสำหรับชายวัยหกสิบปี

ไม่สิ เขาไม่ได้อายุหกสิบ

‘เพราะมยองโฮคือเผ่าแท้’

และยังเป็นตำนานของเผ่าเสือที่มีอายุมากกว่าห้าพันปี ดำรงอยู่มาตั้งแต่ก่อนตำนานสร้างชาติเสียอีก

〈เรียกดูข้อมูลตัวละคร ‘ฮวังมยองโฮ’ 〉

[ชื่อ] ฮวังมยองโฮ

[สมญานาม] ประธานมูลนิธิฮวังมยอง, ตำนานของเผ่าเสือ, เสือเหลืองแห่งตำนานสร้างชาติ, ผู้พิทักษ์แดนศักดิ์สิทธิ์

[พรคุ้มครอง] ‘เทพสวรรค์เต็มใจที่จะทำให้คำขอเป็นจริง’

[แสงประธาน] (ปิดใช้งาน)

[สถานะ] ปกติ

[ค่าสถานะโดยรวม] Lv.??

[สกิล]

กระโจน Lv.??

เนตรส่อง Lv.??

คำราม Lv.??

(โหลดล้มเหลวบางส่วน)

[คำอธิบาย]

เสือเหลืองแห่งตำนานสร้างชาติ

ได้รับพลัง ‘อยู่ได้ทุกที่’ จากเทพสวรรค์

ตราบใดที่พรคุ้มครองของเทพสวรรค์ไปถึง เขาจะอยู่ได้ทุกที่ตามใจต้องการ

เขาอาสาปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์ที่จองจำเสือขาวเอาไว้ และเทพสวรรค์ก็อนุญาต

(โหลดล้มเหลวบางส่วน)

ในหนังสือเซตติ้ง ข้อมูลของเผ่าแท้ส่วนใหญ่จะระบุว่า (ไม่เปิดเผย) และในโลกนี้ก็เช่นกัน

ฉันเคยคิดว่า ที่รายละเอียดส่วนใหญ่ของเผ่าแท้ไม่ปรากฏในหนังสือเซตติ้ง เป็นเพราะพวกเขาไม่ใช่ตัวละครที่ควบคุมได้

‘แต่ในความเป็นจริง การวิเคราะห์ของจักรวาลเหนือรูปอาจไม่สมบูรณ์แบบ เพราะถูกขัดขวางโดยอำนาจของเผ่าแท้’

มยองโฮคือบุคคลที่ได้รับพลังจากเทพสวรรค์ ซึ่งนับว่าหาได้ยากแม้แต่ในหมู่เผ่าแท้

“สวัสดีครับ”

“เชิญนั่ง”

ฉันลุกขึ้นพร้อมกับคำนับอย่างสุภาพ

หลังจากมยองโฮนั่งลงฝั่งตรงข้าม เขายิ้มแล้วเชิญฉันนั่ง

“นักเรียนอึยชินแสดงฝีมือได้น่าทึ่งมาก ทั้งไหวพริบในการวิเคราะห์สถานการณ์ และฝีมือในการทำให้แผนเป็นจริง รวมถึงปฏิกิริยาตอบสนองต่อเหตุไม่คาดฝัน ทุกสิ่งล้วนอยู่ในเกณฑ์ยอดเยี่ยม ทางเรายินดีอย่างยิ่งที่จะต้อนรับนักเรียนมากความสามารถเข้าสู่โรงเรียนแสงเงิน”

ริ้วรอยชัดเจนขึ้นขณะอีกฝ่ายยิ้ม

ถ้าไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริง ชายคนนี้คงดูเหมือนคนแก่ที่ดำรงตำแหน่งสูงทั่วไป

ขณะกำลังครุ่นคิดว่าควรพูดยังไงให้เข้าทาง มยองโฮชิงพูดก่อน

“อยากพบฉันเพราะคดีของซนมินกิใช่ไหม”

มยองโฮยังคงยิ้มอย่างมีความสุข

ย้อนกลับไปในตอนที่เล่นเกม ฉันไม่เคยเข้าใจความคิดของมยองโฮเลย

มยองโฮแทบไม่มีการเคลื่อนไหว ทั้งที่โลกเต็มไปด้วยโศกนาฏกรรม

ทำตัวราวกับเป็นเพียงผู้ชมคนหนึ่ง

“เรื่องราวที่เกิดขึ้นในการสอบภาคปฏิบัติ ถูกบันทึกไว้ในวิดีโอทั้งหมด แต่ทางเราไม่มีนโยบายที่จะเผยแพร่ เว้นเสียแต่จะได้รับหมายเรียกวัตถุพยานจากศาล”

แม้แต่ในยามที่ตึกเงินจรัสถูกย้อมด้วยสีแดง

หรือแม้แต่ในยามที่แบคโฮกุน—สหายร่วมเผ่าพันธุ์และเพื่อสนิทที่อยู่ด้วยกันมานานกว่าห้าพันปี—กำลังจะตาย ชายคนนี้ก็มิได้ปรากฏตัว

‘อันที่จริง สิ่งที่ผิดคาดที่สุดในเกมก็คือ เรื่องที่มยองโฮไม่ยอมโผล่มาช่วยโฮกุนในฉากสุดท้าย…’

เมื่อถึงจุดหนึ่ง เขาหายไปจากเกมโดยสมบูรณ์ และมิได้กลับมาปรากฏตัวอีกเลย

“คณะกรรมการอยากให้เรื่องนี้ยุติโดยเร็วน่ะ”

ฉันอาจยังไม่เข้าใจมยองโฮทั้งหมด แต่เข้าใจนิสัยบางข้อของเขา

ความสนุก

มิฉะนั้น ไม่มีทางที่นักเรียนม.ต้นจะได้สิทธิ์เข้าพบประธานใหญ่มูลนิธิฮวังมยองแบบตัวต่อตัว

“ผมไม่ได้มาเพื่อขอร้องเรื่องนั้น”

มยองโฮจะตอบสนองก็ต่อเมื่อเขาได้เห็นในสิ่งที่ต้องการ สิ่งที่น่าสนใจ หรือสิ่งที่คาดไม่ถึง

“ผมมาที่นี่เพื่อขอให้คุณยกเลิกการจ่ายค่าพยาบาลให้ซนมินกิในทุกกรณี”

ดวงตาของเขาสว่างขึ้นเล็กน้อย

“…แค่นั้น?”

“ใช่ สำหรับเรื่องอื่น เราจะเคารพการตัดสินใจของคณะกรรมการ”

หัวหน้าคณะกรรมการรู้จักตัวจริงของมยองโฮ

ถ้ามยองโฮอยากทำสิ่งใด หัวหน้าคณะกรรมการก็จะไม่คัดค้าน เว้นเสียแต่เรื่องนั้นจะเป็นอันตรายต่อชีวิต

ได้ยินคำพูดฉัน มยองโฮเผยความตื่นเต้นในดวงตา

ริ้วรอยบนใบหน้าลึกขึ้น

“ถ้าอย่างนั้น ฉันมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ”

เงื่อนไข?

“เธอต้องเข้าเรียนห้อง 0”

ห้อง 0

ห้อง 0 คือห้องเรียนพิเศษ แต่ไม่ได้พิเศษในทางที่คนอื่นเข้าใจ มันคือห้องที่รวบรวมเด็กมีปัญหาไว้ด้วยกันภายใต้ฉากหน้า ‘นักเรียนศักยภาพสูง’ เป็นห้องที่ต้องได้รับการเอาใจใส่มากกว่าปกติ

‘ความน่าปวดหัวอยู่ที่กลุ่มเด็กมีปัญหานี่แหละ’

การที่เด็กมีปัญหาได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่ทรงเกียรติที่สุดในเกาหลีใต้ หมายความว่าเด็กคนนั้นเก่งกาจจนทางโรงเรียนยอมหลับตาข้างหนึ่ง

การเข้าเรียนห้อง 0 ไม่ต่างจากกอดระเบิดเวลาที่ไม่รู้ว่าจะ ‘บึ้ม’ ตอนไหน

อย่างไรก็ดี คำตอบของฉันนั้นชัดเจน

* * *

สามวันหลังจากทำข้อตกลงกับมยองโฮ

หัวข้อของ ‘ฮีโร่ตัวน้อย’ ที่เริ่มซาลง กลับมาเป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง

‘เสือเหลืองเคลื่อนไหวแล้วสินะ’

เครื่องฉายโฮโลแกรมที่ถูกพัฒนาให้อยู่ในรูปต่างหู ฉันซื้อมันด้วยเงินจากการปราบสัตว์อสูร

เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ที่พ่นอนุภาคโฮโลแกรมไปในอากาศ ฉันใช้มันเปิดอ่านข่าวจากเว็บไซต์หลัก

[มูลนิธิฮวังมยองที่ดำเนินการโรงเรียนแสงเงิน ปฏิเสธการออกค่ารักษาพยาบาลให้ ‘ฮีโร่ตัวน้อย’ ซนมินกิ]

[‘ฮีโร่ตัวน้อย’ ซนมินกิยังใช้ประกันของเพลเยอร์ไม่ได้… คาดว่าค่ารักษาพยาบาลน่าจะทะลุสองพันล้านวอน]

[‘ฮีโร่ตัวน้อย’ ต้องเผชิญวิกฤติล้มละลายเพราะเสี่ยงชีวิตช่วยเพื่อน]

[ภายใต้หน้ากากของโรงเรียนมัธยมปลายที่ทรงเกียรติที่สุดในเกาหลี พวกเขาคือจอมสับปลับที่เปลี่ยนคำพูดหลังจากผ่านไปเพียงหนึ่งสัปดาห์]

[มูลนิธิฮวังมยองเปลี่ยนใจโดยให้เหตุผลว่า ‘มีการค้นพบข้อเท็จจริง’]

ระหว่างที่บทความมากมายเผยแพร่สู่โลก พ่อแม่ของซนมินกิปรากฏตัวทางทีวีเพื่อให้สัมภาษณ์

—พวกเขาเปลี่ยนคำพูดในชั่วข้ามคืน ตัวแทนของมูลนิธิเคยบอกกับเราว่า ‘พวกคุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล จงใช้ไอเท็มอย่างเต็มที่เพื่อให้ร่างกายมินกิฟื้นฟูกลับมาเร็วที่สุด ทางเราเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยของผู้เข้าสอบได้อย่างทั่วถึง’ แต่ตอนนี้ดันกลับคำ บอกว่าทางมูลนิธิจะไม่สนับสนุนค่ารักษา หมอแจ้งว่าพวกเขารักษามินกิต่อไม่ได้ และกำลังจะถูกนำตัวออกจากโรงพยาบาล เว้นเสียแต่ว่าเราจะจ่ายค่าพยาบาลให้ครบตามจำนวน… เราได้ยินมาว่า การฟื้นฟูแขนขาจำเป็นต้องใช้เงินหลายพันล้านดอลล่าส์…

ฉันอ่านความเห็นใต้บทความ

[มูลนิธิฮวังมยองรวยที่สุดในเกาหลีใต้แล้ว ไม่รู้จะงกอะไรนักหนา]

[โรงเรียนแสงเงินมีประกันอุบัติเหตุ ดังนั้นบริษัทประกันต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลในทุกการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในโรงเรียน แต่พวกเขากลับบอกว่าจะไม่ออกค่ารักษาพยาบาลให้ซนมินกิ?]

[โรงเรียนแสงเงินห่วยแตกสิ้นดี นั่นคือเหตุผลที่ฉันไม่เข้าเรียนที่นั่น]

[↑ไม่เข้าเรียนX, ไม่มีปัญญาเข้าเรียน O]

[ไม่อยากเชื่อว่าโรงเรียนมัธยมปลายที่ทรงเกียรติที่สุดในเกาหลีใต้จะทำแบบนี้ น่าเศร้าใจจังเลยนะ ไอ้พวกไร้ยางอาย!]

ในบทความเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล บางความเห็นเสนอให้รวบรวมเงินบริจาคให้ซนมินกิ

[เรากำลังเปิดรับบริจาคสำหรับฮีโร่ม.ต้น—ซนมินกิ—ผู้ต้องพิการขณะต่อสู้กับสัตว์อสูรเพื่อช่วยเหลือพวกพ้อง]

[นักเรียนซนมินกิ พยายามเข้านะ! ถึงจะเป็นเงินจำนวนไม่มาก แต่ฉันก็อยากสนับสนุน]

[โอนเรียบร้อย]

[มินกิผู้น่าสงสาาร~~~~~!! ฉันจะสนับสนุนเธอ สู้เค้านะ!!]

[ฉันจะไปประท้วงคนเดียวหน้าโรงเรียนแสงเงิน… ถ้าใครมีอุดมการณ์เหมือนกันให้ติดต่อมา พวกเราจะได้ไปเป็นกลุ่ม]

ผ่านไปหนึ่งถึงสองวันหลังจากบทความถูกปล่อย

มูลนิธิฮวังมยองยังคงไม่ออกมาแสดงจุดยืน

จนกระทั่งความสนใจของสื่อปะทุถึงขีดสุด และประชาชนได้รวมกลุ่มกันประท้วงหน้าโรงเรียน

วิดีโอที่มีโรงยิมมืดๆ เป็นฉากหลังถูกเผยแพร่ในรายการทีวีสาธารณะ

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (1/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด