ตัวประกอบแรงค์ EX — 0005
2. ระบบสอนของตัวประกอบนิรนาม (4)
* * *
“อ…อย่าเข้ามานะ!”
ซนมินกิพูดตะกุกตะกักขณะก้าวถอยหลัง
สติน่าจะยังดีอยู่ เพราะเขาโยนกับดักใยแมงมุมใส่ไลโนเซรอนได้ทันท่วงที
ยาฟื้นฟูจากสารสกัดดอกข้าวโอ๊ตจะส่งกลิ่นหอมไปอีกไม่ต่ำกว่าหนึ่งนาที
เนื่องจากใช้กับอูซังฮุนไปแล้วหนึ่งครั้ง ตอนนี้กับดักใยแมงมุมจึงเหลืออีกแค่สองครั้ง
กับดักใยแมงมุมจะแสดงผลนานห้าวินาที ดังนั้นหลังจากผ่านไปสิบวินาที ซนมินกิต้องเล่นซ่อนหากับสัตว์อสูรโดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน
‘อีกสี่นาทีกว่าบาเรียจะคลายตัว ซนมินกิยื้อไม่ได้นานขนาดนั้นแน่’
คงต้องงัดวิธีสุดท้ายมาใช้
ตอนนี้สถานะของไลโนเซรอนเป็นยังไงบ้าง?
〈เปิดหน้าต่างสถานะของเอนามี〉
[ชื่อเอนามี] ไลโนเซรอนหมายเลขสิบสาม
[เกรด] R+
[สมญานาม] สัตว์อสูรสัตว์เลี้ยง, ข้ารับใช้ของเผ่าหมี
[พรคุ้มครอง] เชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายที่บอกให้ ‘ทำลายทุกสิ่งให้สิ้นซาก’
[สถานะ] เชื่องฟังโดยสมบูรณ์ (ยกเลิกไม่ได้) , การรับรู้ลดลง, ประสาทสัมผัสทื่อลง, สัญชาตญาณรุนแรงขึ้น, ค่าความถึกทนลดลง 12, ค่าพละกำลังลดลง 15, พลังป้องกันลดลง 8, พลังเวทลดลง 6, ค่าต้านทานเวทมนตร์ลดลง 9, ค่าความว่องไวลดลง 6, และค่าต้านทานการโจมตีพิเศษลดลง 13
[ค่าความสามารถโดยรวม] Lv.19
[สกิล]
พุ่งชนดุดัน Lv.3
…….
…...
…...
สมแล้วที่เป็นบาเรียเวทมนตร์ของเผ่าแท้ ที่เสริมแกร่งโดยคณาจารย์อันทรงเกียรติของโรงเรียนมัธยมปลายแสงเงิน
ไม่ผิดจากที่คาด ‘อาการผิดปกติ’ จากบาเรียกำลังซ้อนทับลงบนร่างกายไลโนเซรอนมากถึง ‘เจ็ดสิบ’ ชั้น
แม้การสัมผัส ‘บาเรียสนามสอบ’ จะไม่สร้างความเสียหาย แต่มันก็สร้างอาการผิดปกติเชิงลบจำนวนมาก
‘ถึงอย่างนั้น มันก็ยังแข็งแกร่งพอที่จะกว้างล้างเด็กมัธยมต้นได้ทุกคน’
ต่อให้ลดลงมากว่าครึ่ง แต่ค่าความสามารถโดยรวมของไลโนเซรอนก็ยังสูงถึง Lv.19
ส่วนของฉันคือ Lv.10
จริงอยู่ ความแตกต่างทางด้านค่าสถานะโดยรวม สามารถชดเชยได้ด้วยสกิลและกลยุทธ์
แต่ศัตรูในคราวนี้ไม่ใช่มนุษย์ มันคือสัตว์อสูรที่มีเลเวลสูงลิบ
‘เราทำได้… เราทำได้…’
ฉันเปลี่ยนการ์ดให้เป็น ‘มีดพับของนักลอบสังหารฝึกหัด’
ส่วนคมยาวประมาณหกเซนติเมตรเท่านั้น
แต่ศัตรูคือสัตว์อสูรที่สูงกว่าสองเมตรแม้จะยืนสี่ขา
ไม่มีทางที่จะไม่กลัว
ตัวฉันที่เคยเอาแต่ก้มมองหน้าจอมือถือและรอคอยความตายไปวันๆ
ตอนนี้ต้องปรี่เข้าหาสัตว์อสูร?
รู้สึกเหมือนหัวใจจะหลุดออกจากปาก
ในท่าถือมีด สองเท้าของฉันยังคงไม่ขยับ
มือข้างที่ถือมืดกำลังสั่น
แตกต่างจากตอนที่เล่นเกมด้วยการมองผ่านหน้าจอโทรศัพท์โดยสิ้นเชิง
“ช…ช่วยฉันด้วย! ไม่นะ! ไม่! อย่า!”
ระหว่างที่ฉันยังไม่ขยับตัว
ช่วงเวลาสิบวินาทีของซนมินกิได้หมดลง
สำหรับฉัน นับแต่นี้ไปคือโอกาสทอง
ไลโนเซรอนหลุดจากกับดักใยแมงมุมแล้วพุ่งเข้าใส่ซนมินกิทันที
ซนมินกิพยายามหนี แต่ก็ถูกสัตว์อสูรไล่ทันอย่างง่ายดาย
สวบ! กร๊อบ!
“อ๊าาาาา—!”
ฉันได้ยินบางสิ่งแตกหัก
ไลโนเซรอนยังคงไม่หยุด เอาแต่กระหน่ำแทงซนมินกิอยู่อย่างนั้น
สวบ! สวบ!
จนถึงจุดหนึ่ง ซนมินกิเลิกส่งเสียงร้อง
นั่นทำให้ความกลัวในใจฉันยิ่งพองตัว
‘ถ้าแผนการไม่ราบรื่น เราจะเป็นรายต่อไป’
ฉันสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ แต่ก็ยังไม่ขยับขา
ไลโนเซรอนมิได้ถูกตรึงไว้กับที่
นั่นเท่ากับว่า การโจมตีของฉันอาจทำให้มันเปลี่ยนเป้าจากซนมินกิ
“ไปเร็ว! เราต้องวิ่งแล้ว…!”
อูซังฮุนที่ยืนตัวแข็ง เริ่มซอยเท้าวิ่งหลังจากได้ยินเสียงตะโกนของจางนัมอุกที่ยืนอยู่ข้างๆ
จางนัมอุกที่ยังพอมีเรี่ยวแรง คงรอดไปได้ในสภาพร่อแร่
แต่อวัยวะไม่น่าจะอยู่ครบ
‘ส่วนอูซังฮุน… เขาไม่รอดแน่’
หลังจาก ‘โหมดฝึกสอน’ จบลง คงมีโพลีกอนเล็กๆ สองก้อนแสดงขึ้นเพื่อเป็นตัวแทน NPC ที่ตายไป
ขณะคิดแบบนั้น ฉันเริ่มวิ่งเข้าใส่สัตว์อสูร
〈สกิล ‘ใช้ได้ทุกอย่าง’ แสดงผล〉
มือขยับไปเอง
ฉันกำมีดในท่าจับค้อน จากนั้นก็จ้วงใส่สัตว์อสูรที่กำลังจู่โจมซนมินกิ
เมื่อการโจมตีครั้งแรกเริ่มขึ้น หลอดพลังชีวิตสีแดงเริ่มปรากฏขึ้นเหนือสัตว์อสูร
ไม่ลดลงเลย
หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง…
หลังจากสลับแทงและฟันหลายหนในท่าที่ไม่สร้างภาระให้กับมือ ความรู้สึกเดียวที่ได้รับกลับมา ไม่แตกต่างจากการใช้มีดดายหญ้าฟันใส่ก้อนหิน
มิอาจทำอันตรายใดๆ กับสัตว์อสูรที่มีผิวหนังทนทานราวกับหุ้มเกราะโลหะได้เลย
เนื่องจากคุณภาพของมีดและค่าสถานะของฉัน มีระดับต่ำกว่าเอนามีมาก
ต่อให้ทำซ้ำอีกสิบครั้ง หลอดพลังชีวิตของไลโนเซรอนก็คงลดลงไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์
“โชอึยชิน…!”
จางนัมอุกที่เห็นเหตุการณ์จากระยะไกล เผยสีหน้ากังวล
เพลเยอร์ที่น่าจะมีสกิล ‘วิสัยทัศน์’ อย่างเขา คงมองออกว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นแทบจะเป็นศูนย์
แต่ฉันหยุดไม่ได้ ถ้าหยุด ทุกสิ่งที่ทำมาจะสูญเปล่าทันที
ต้องรีบทำให้จบระหว่างที่สัตว์อสูรยังคงโจมตีซนมินกิ
ทว่า…
กลิ่นหอมของดอกข้าวโอ๊ตมลายหายไปแล้ว แทนที่ด้วยกลิ่นเนื้อเน่า
สัตว์อสูรที่ร่างกายชุ่มเลือดหันมาทางฉันโดยไม่สนใจซนมินกิอีก
‘บัดซบ…!’
ความกดดันในตอนนี้ เทียบไม่ได้เลยกับการเล่นเกมผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ
บางที ฉันคงเป็นเหมือนซนมินกิในอีกไม่ช้า
โฮกกกก—!
แต่สัตว์อสูรเพียงคำรามหนึ่งครั้งแล้วก็เมินฉัน
คงเพราะค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมกันแล้วแทบจะเป็นศูนย์
มันคงคิดว่าฉันไม่มีพิษมีภัย จึงหันไปทำตามคำสั่งของเจ้านายที่ระบุว่า ‘จงทำลายทุกสิ่งให้สิ้นซาก’
〈คำเตือน เอนามี ‘ไลโนเซรอน’ เตรียมใช้สกิล ‘พุ่งชนดุดัน’ 〉
ร่างกายไลโนเซรอนผุดหมอกสีแดง ซึ่งเป็นเอฟเฟคขณะเอนามีใช้สกิล
ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ร่างของฉันจะถูกป่นละเอียดด้วยคลื่นกระแทกที่เกิดจากสกิล
เร็วขึ้น
เร็วขึ้นอีก!
ฉันกระหน่ำแทงสุดชีวิต
“พอได้แล้ว…! หนีไป! โชอึยชิน!”
จางนัมอุกตะโกนจากระยะไกล
แต่ฉันยังคงกระหน่ำแทงมีดใส่ร่างกายที่กำลังผุดหมอกสีแดง
บี๊บ
〈ค่าความชำนาญอาวุธเพิ่มถึง 100%〉
เสียงของระบบดังขึ้น
สำเร็จ!
ฉันเล็งมีดที่กำลังส่องแสง บรรจงแทงใส่ไลโนเซรอนอย่างประณีต
〈เกรดของอาวุธเพิ่งจาก N- เป็น N〉
มีดที่จะเพิ่มคุณสมบัติหากเกรดเพิ่มขึ้น
มีดในมือฉันทะลวงผ่านหมอกสีแดงรอบตัวไลโนเซรอน และเสียบลึกเข้าไปในร่างกายสัตว์อสูร
ราวกับการโจมตีก่อนหน้าทั้งหมด ซึ่งมิอาจสร้างได้แม้แต่รอยขีดข่วน เป็นเพียงเรื่องโกหก
คมมีดปักใส่จุดสำคัญของไลโนเซรอน
สวบ!
〈การโจมตีพิเศษ ‘ตายคาที่’ แสดงผล〉
โฮกกกกก!
ไลโนเซรอนคำรามเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรงโดยไม่มีการขัดขืน
เมื่อล้มกระแทกพื้น ฉันยืนถือมีดค้างไว้เป็นเวลานาน เพื่อยืนยันให้แน่ใจว่าสัตว์อสูรตัวนี้จะไม่กระดุกกระดิกอีก
‘เราทำได้…!’
ก้มมองมือที่ไม่ขยับเขยื้อน ฉันสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ
ถ้าช้ากว่านี้อีกนิดเดียว ชะตากรรมคงลงเอยเหมือนกับซนมินกิ
ฝ่ามือข้างที่ถือมีดหยุดสั่นแล้ว แต่สมองของฉันกำลังขาวโพลน
“โชอึยชิน!”
จางนัมอุกและอูซังฮุนตะโกนเรียกฉันพลางวิ่งเข้ามาใกล้
วิ่งเร็วกว่าตอนวิ่งหนีอีกนะ…
เมื่อบรรยากาศเริ่มผ่อนคลาย ฉันอมยิ้ม
“ตายสนิท… โชอึยชิน นายเจ๋งมาก!”
“เกือบไปแล้ว… หรือว่านายตั้งใจ?”
จางนัมอุกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ส่วนอูซังฮุนยิ้มแย้มอย่างมีความสุข
อาจเป็นเพราะร่างกายกำลังหลั่งอะดรีนาลีน อูซังฮุนจึงไม่รู้สึกเจ็บ และยังพูดติดตลกได้
“ตั้งใจก็แย่แล้ว ใครจะอยากเอาชีวิตมาเสี่ยง? ฟู่ว… พวกนายก็ทำได้ดีเหมือนกัน”
ฉันตบไล่จางนัมอุกที่กำลังหลั่งน้ำตา
สำหรับเด็กมัธยมต้น การร้องไห้ต่อหน้าเพื่อนถือเป็นเรื่องที่น่าอาย สุ่มเสี่ยงแก่การถูกล้อในอนาคต
ฉันตบบ่าเขาแรงขึ้นอีกนิด จางนัมอุกเปลี่ยนสีหน้าก่อนจะอมยิ้ม
“อูซังฮุน เลือดที่แผลหยุดไหลแล้ว?”
“เป็นเพราะยาฟื้นฟูที่ซนมินกิสาดมาน่ะ ตอนนี้แผลดีขึ้นมาก”
ถึงเลือดจะหยุดไหลแล้ว แต่ถ้าขยับตัวส่งเดช แผลอาจจะฉีกอีกรอบ
แม้ตัวเองจะใกล้ตาย แต่อูซังฮุนไม่เคยแหกปากโหวกเหวก
‘ต่อให้บาดแผลแย่กว่านี้ เขาก็คงไม่พูดอะไรเหมือนเดิม’
เพื่อกันเหนียว ฉันฉีกเสื้อนอกชุดนักเรียนของอูซังฮุนออก และตัดด้วยมีดพับเพื่อทำเป็นผ้าพันแผลชั่วคราว
ก่อนที่จะนำเศษผ้าพันรอบอกอูซังฮุน ฉันเปลี่ยนมีดพับกลับไปเป็นการ์ด
ข้อมูลของไอเท็มมีการอัปเดต
〈เรียกดูข้อมูลของไอเท็ม〉
[ชื่อไอเท็ม] มีดพับของนักลอบสังหารฝึกหัด
[ลักษณะ] อาวุธ
[เกรด] N
[ความชำนาญ] 102%
[คุณสมบัติ] เพิ่มโบนัสค่า EXP ความชำนาญ 10%, ความว่องไว +2.5, พละกำลัง +0.5
[คุณสมบัติเสริม] มีโอกาสต่ำมากที่จะทำให้ศัตรูตายคาที่
[คำอธิบาย]
อาวุธหยาบๆ ที่หาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป
อัดแน่นไปด้วยความแค้นของเจ้าของเดิม—นักลอบสังหารฝึกหัด
เพื่อที่จะเสียบทะลวงคอของศัตรู เจ้าของเดิมได้ขัดเกลาทักษะโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
หากไม่ยอมแพ้จนถึงที่สุด การโจมตีก็อาจจะ…
—
ในการเผชิญหน้ากับเอนามีที่เลเวลแตกต่างกันเกินไป แม้ความเสี่ยงจะสูง แต่ผลตอบแทนก็สูงเช่นกัน
‘หนึ่งในสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน คืออัตราการเพิ่มค่าประสบการณ์และความชำนาญอาวุธ’
มีดเล่มนี้มีเกรดต่ำสุด แถมยังมาพร้อมโบนัสเพิ่มค่าความชำนาญ
ดังนั้น แค่โจมตีไม่กี่ครั้งก็เพิ่มเกรดได้แล้ว ตราบใดที่เป้าหมายเป็นเอนามีที่มีเลเวลสูงกว่ามาก
แถมอาวุธชิ้นนี้ยังมีคุณสมบัติเสริมจากการเลเวลอัป
มีโอกาสสุ่มติดการโจมตีพิเศษ ‘ตายคาที่’
‘มีโอกาสต่ำมากที่จะเกิดผล ‘ตายคาที่’ แถมยังเป็นอาวุธเกรดต่ำสุด จึงถือเป็นไอเท็มขยะที่ไม่มีใครอยากใช้’
บทสรุปจะต่างออกไปโดยสิ้นเชิงถ้าไม่มี ‘บาเรียสนามสอบ’ ของเผ่าแท้ ซึ่งช่วยสร้างอาการผิดปกติเพื่อลดทอนค่าสถานะโดยรวม
ฉันมั่นใจหลังจากส่องข้อมูลของไลโนเซรอน และพบว่า ‘ค่าต้านทานการโจมตีพิเศษ’ ของมันลดลง
‘โชคเข้าข้างพอสมควร’
ถึงดวงในการสุ่มไอเท็มจะห่วยก็เถอะ
หากได้รับอาวุธเกรดสูงกว่านี้ หรือมีประโยชน์กว่านี้ การยื้อชีวิตให้ครบสิบห้านาทีก็ไม่ใช่เรื่องยาก
เช่นเดียวกันกับ ‘พลังโชคชะตา’ หากสิ่งนี้ไม่แสดงผล คงมีคนตกเป็นเหยื่อของซนมินกิอย่างน้อยก็หนึ่งศพ
“โชอึยชิน… นายรัดแน่นไปไหม”
“อดทนไว้ก่อน จำเป็นต้องให้แผลถูกกดทับในระดับหนึ่ง การห้ามเลือดจึงจะเห็นผล”
อูซังฮุนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดว่าเจ็บ
ข้างๆ อูซังฮุนที่กำลังเก็บอาการ จางนัมอุกเอาแต่ร้องกระซิก
ตัวฉันที่เคยคาดหวัง ‘แฮปปี้เอนดิ้ง’ ก่อนตาย ฉากตรงหน้าช่วยเยียวยาหัวใจได้หลายส่วน
ยังไงชีวิตเก่าของฉันก็ไม่มีอนาคตอยู่แล้ว
มาทำให้โลกนี้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งดีกว่า
ถึงจะยังกังขากับสถานการณ์ตัวเองอยู่ก็เถอะ
‘หลังจากนี้…’
ได้เวลาแบ่งปันความยินดีร่วมกับพวกพ้องที่ช่วยกันฝ่าฟัน ‘โหมดสอนเล่น’ มาได้
เพราะนี่คือครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่มีคนเคลียร์ ‘ระบบสอนของตัวประกอบนิรนาม’
* * *
“นายช่วยมันทำไม?”
ซนมินกิกำลังนอนโชกเลือดอยู่ไม่ไกลจากอูซังฮุน
แม้อวัยวะจะยังครบสามสิบสอง แต่ตามร่างกายเต็มไปด้วยแผลฉกรรจ์
เดาไม่ออกเลยว่าแค่หมดสติหรือตายไปแล้ว
‘น่าจะยังมีชีวิตอยู่’
ใกล้กับร่างซนมินกิมีซากของ ‘หุ่นไล่กายัดนุ่น’ ที่อูซังฮุนยกให้ฉัน วางกระจัดกระจายอยู่สี่ชิ้น
“ไอเท็มที่ช่วยลดความเสียหาย”
ดูเหมือนเลเวลสกิลวิสัยทัศน์ของจางนัมอุกจะสูงมาก
ย้อนกลับไปตอนที่ผลของ ‘กับดักใยแมงมุม’ หมดลง ฉันใช้หุ่นไล่กายัดนุ่นเพื่อช่วยซนมินกิ
“ฉันยกให้นายเพราะอยากให้นายปลอดภัย ในเมื่อค่าสถานะของไลโนเซรอนลดลงมากเพราะบาเรีย หุ่นไล่กายัดหุ่นก็อาจช่วยให้นายรอดกลับไปได้”
เพลเยอร์ที่มีพลังพิเศษจะแข็งแกร่งกว่าคนปกติ จึงตายได้ยากกว่า
สำหรับเพลเยอร์ระดับมัธยมต้นปีสาม ค่าสถานะเฉลี่ยจะอยู่ที่เลเวลสิบ
ในกรณีของคนทั่วไป แม้จะแตกต่างกันตามการนิสัย แต่ก็ส่วนใหญ่ก็ไม่เกินเลเวลหนึ่งถึงห้า
คนปกติสามารถตายจากอาการช็อกเพราะแขนขาขาดพร้อมกัน แต่ซนมินกิคือเพลเยอร์มากพรสวรรค์ที่มุ่งมั่นจะเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนอันทรงเกียรติ
ย่อมไม่ตายง่ายนัก
“หุ่นไล่กามีไว้สำหรับนายที่ต้องรับบทเสี่ยง ไม่ใช่ไอ้ระยำขายเพื่อน”
“ฉันรู้”
“คิดจะปล่อยให้คนที่วางแผนฆ่านาย มีชีวิตรอดกลับไป?”
“ก็ไม่เชิง”
ใบหน้าอูซังฮุนบิดเบี้ยวราวกับกำลังเคี้ยวส้มเน่า
“ถ้าเขากลับตัวกลับใจได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
ไอ้ขยะนี่ไม่อยู่ในสายตาฉันอยู่แล้ว
‘แต่เราจะปล่อยให้ซนมินกิตายในโรงยิมไม่ได้’
สมมติว่าโรงเรียนแสงเงินที่ทรงเกียรติที่สุดในเกาหลีใต้ มีนักเรียนสอบเข้าคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะข้ารับใช้ของเผ่าหมี โดยที่อีกสามคนรอดชีวิต
คำวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหมดจะพุ่งตรงมาที่โรงเรียนและสามผู้รอดชีวิต
แม้ฉันจะเป็นตัวตั้งตัวตี แต่อีกสองคนก็ปฏิเสธความเกี่ยวข้องไม่ได้
‘เราน่ะไม่เป็นอะไรหรอก’
แต่คำถามคือ เด็กมัธยมปลายปีหนึ่งอีกสองคน จะรับมือกับชีวิตประจำวันที่พังทลายไหวหรือ
‘ถ้าเป็นไปตามที่เราคิด… ถึงซนมินกิจะรอดมาได้ก็คงไม่ปรับปรุงตัวเอง’
วิกฤติเฉียดตายไม่สามารถเปลี่ยนสันดานของมนุษย์
มันคือธาตุแท้ของซนมินกิที่ฉันได้เห็นในระยะใกล้
“ก็ได้”
อูซังฮุนเลิกโต้เถียง
บรรยากาศกระอักกระอ่วนทันที
จางนัมอุกมองเข้าไปในตาอูซังฮุน ก่อนจะมองมาทางฉันแล้วหาเรื่องชวนคุย
“ว่าแต่… ฉันให้การ์ดน้ำยานายไปสองใบหรือ? จำได้ว่ามันมีแค่สี่ใบ สงสัยจะจำผิด โชคดีจัง…”
บึ้ม!
ความพยายามในการเปลี่ยนบรรยากาศของจางนัมอุกกลายเป็นหมัน
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ประตูโรงยิมถูกทำลายพร้อมกับเสียงระเบิด
‘ยังเหลืออีกหนึ่งนาทีก่อนที่บาเรียจะคลายตัว’
ผู้ที่สามารถทำลายบาเรียของเผ่าแท้ ย่อมต้องมีระดับฝีมือใกล้เคียงกับเผ่าแท้
ทั้งฉัน จางนัมอุก และอูซังฮุน ต่างมองไปยังต้นเสียงด้วยใบหน้ากระวนกระวาย
‘บ้าน่า…’
เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า สมองฉันขาวโพลนทันที
ด้านหลังประตูโรงยิมที่ถูกทำลาย ชายคนหนึ่งกำลังยืนถือดาบใหญ่สีขาว
ฉันรู้จักดาบใหญ่เล่มนั้น
ตัดสายฟ้าผ่าเมฆา
กล่าวกันว่า มันคือเขี้ยวพยัคฆ์ขาวที่แค่เหวี่ยงก็สามารถตัดสายฟ้าและผ่าก้อนเมฆ
‘แบคโฮกุน…!’
ต่อให้ไม่เห็นดาบ ฉันก็จดจำเขาได้ทันทีจากเค้าโครงเงา
แบคโฮกุนคือตัวละครเดียวที่ฉันควบคุมได้ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
เป็นเพลเยอร์ตัวหลักที่ฉันฝึกฝนมากที่สุด และใช้งานมายาวนานที่สุดในเกมเพลเมโก
ทว่า…
‘แบคโฮกุนไม่ได้ปรากฏตัวในอีเวนต์นี้…’
โลกในปัจจุบันมีบางสิ่งผิดแผกไปจากเกมที่ฉันรู้จัก
______________________
ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (1/4)
ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:
https://www.facebook.com/bjknovel/
หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel