ตอนที่แล้วตอนที่ 613 ภายในแผนการ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 615 ตัดปากอ่าว

ตอนที่ 614 ฉวยโอกาส


ในพริบตาเดียวระเบิดที่น่ากลัวของบุรุษหนุ่มที่โยนไปในเมืองทรายขาวก็ถูกลืมเลือนอย่างรวดเร็ว

อะไร,ข้าให้เงินเจ้าไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?

เจ้าบอกว่าราคาสูงพอแล้วไม่ใช่หรือ?นั่นได้ผลใช่ไหม? โอว ถ้ามันได้ผลอย่างนั้นก็ดีไป ดี ดี หนุ่มผู้นี้งานยุ่งและรวยมาก ตอนนี้มีเรื่องล้นมือพวกเจ้าทุกคนคงไม่เข้าใจถึงความเจ็บปวดของหนุ่มผู้นี้แน่

ปัญหาปัจจุบันของถังเทียนก็คือการใช้เงินคืน!

เป็นการใช้เงินอย่างสนุกสนานและสร้างอิทธิพลอย่างมากแต่ในพริบตา เขาจ่ายเงินไปสองสามพันล้าน เงินยืมมา ดังนั้นถังเทียนจึงต้องกระตุ้นให้ปิงถลุงทองดำและรีบใช้ทองดำใช้หนี้  เมื่อปิงได้ยินเรื่องภาระหนี้สินเป็นพันล้านที่ถังเทียนก่อเอาไว้  เขาแทบจะกระอักโลหิต

ถังเทียนกังวลเรื่องการใช้คืนเงิน  แต่สวีจินไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย  ถังเทียนมีเหมืองทองดำ  เขาจะขาดแคลนเงินได้ยังไง? แต่ผลตอบแทนของถังเทียนก็ทำให้เขาตาเป็นประกายเช่นกัน และเขายิ่งตื่นเต้นมากขึ้น

ธุรกิจอาวุธเกลียดความสงบสุข!

วิธีการของถังเทียนง่ายมากและโหดเหี้ยมจนทำให้ผู้คนขนลุกแหกกฎเกณฑ์ด้วยประการทั้งปวง และก่อให้เกิดความปั่นป่วน  เพราะถังเทียน ตลาดจึงเกิดความวุ่นวายและไม่ปลอดภัย มันคือความปั่นป่วน และธุรกิจอาวุธเจริญรุ่งเรือง  ธุรกิจของสมาคมการค้าสวีจี้รุ่งเรืองสุดขีด

ถ้ามีคนอย่างเขามามากขึ้น  ใครจะรู้ว่าข้าอาจจะทำเป้าในปีนี้ก็ได้

สวีจินมีความสุขอยู่ในใจมาก  เขาไม่ได้ทำงานแล้วรู้สึกเบื่อดังนั้นจึงรีบมาคอยล้อมหน้าล้อมหลังถังเทียนเขาอยากรู้อยากเห็นเรื่องของถังเทียนมาก

ขณะเดินเข้าไปในลานบ้านตระกูลหลิง  เขาสังเกตเห็นริชาร์ดกำลังวุ่นวายกับการรับข้อมูลเกี่ยวกับสิบสามตระกูล หลังจากที่ทุกคนพบว่าริชาร์ดมีคนหนุนหลังให้ค้นคว้าวิจัย ผู้ค้าข่าวกรองทั้งหมดในเมืองทรายขาวกลับมีชีวิตชีวามากขึ้น  หลายๆคนรู้สึกว่าถังเทียนเป็นคนโง่ในเรื่องการใช้เงิน และต้องการจะฉวยโอกาสจากเขา แต่โชคไม่ดีที่พวกเขาพบกับริชาร์ด

ริชาร์ดไม่ใช่ผู้มีชื่อในเรื่องประมวลข่าวกรอง แต่เขารู้และเข้าใจสิบสามตระกูลลึกซึ้งมากกว่าใครและเขาสามารถแยกแยะข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้และที่ไม่น่าเชื่อถือได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากหลายคนต้องมาชนกับกำแพงอย่างริชาร์ด  ชื่อเสียงของริชาร์ดยิ่งเพิ่มมากขึ้นในวงการ

สวีจินที่เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิดย่อมรู้เรื่องทั้งหมดนี้เป็นธรรมดา  เขาทักทายริชาร์ดอย่างสุภาพ  คนที่มีความสามารถสมควรได้รับความนับถือ

สวีจินเตรียมจะพบถังเทียน  แต่ได้รับการบอกเล่าว่าเขากำลังฝึก  เขาใจเย็นและเป็นลูกผู้ชายที่สงบจริงๆถึงกับยังมีอารมณ์ฝึก

หลังจากเข้าไปในลานบ้านเขาเห็นบุรุษหนุ่มคนหนึ่งกำลังพึมพำกับตนเอง พูดเรื่อยเปื่อยและไม่สนใจเรื่องอื่น

สวีจินสังเกตว่าเขาดูค่อนข้างเรียบร้อย  และหลังจากนั้นชั่วขณะเขาจึงตระหนักได้ว่าบุรุษหนุ่มนั้นดูคล้ายกับริชาร์ด และหลังจากไตร่ตรองอยู่เขานึกขึ้นได้ว่ามีริชาร์ดจูเนียร์อยู่ในกลุ่มของถังเทียนด้วย

สวีจินตอนแรงไม่ต้องการรบกวนริชาร์ดจูเนียร์  แต่เขาได้ยินริชาร์ดจูเนียร์พูดคำว่า ‘วิญญาณ’ เขาอดหยุดเงี่ยหูฟังไม่ได้

หลังจากฟังอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รู้ได้ว่าริชาร์ดจูเนียร์น่าจะค้นคว้าเกี่ยวกับพลังวิญญาณ

เขายิ้มในใจเขาไม่รู้สึกชอบใจ นับตั้งแต่การเกิดขึ้นของทวีปเกียรติยศชาวยุทธแล้วการค้นคว้าพลังวิญญาณกลายเป็นงานวิจัยที่ได้รับความสนใจที่สุด  แต่สวีจินรู้ว่ามันเป็นหลุมลึกมากเพียงไหน  ผู้คนนับไม่ถ้วนถลำตัวเข้าสู่งานค้นคว้าและไม่เคยคลานกลับออกมาได้

เข้าใจง่ายๆว่า วัตถุวิญญาณแพงเกินไปและไม่มีโดยทั่วไป

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทวีปเกียรติยศชาวยุทธแก้ปัญหานั้นได้ยังไง  แต่เห็นได้ชัดว่า คนอื่นๆไม่สามารถแก้ปัญหานั้นได้

แต่ริชาร์ดจูเนียร์ก็ยังพึมพำคำพูดสองสามคำที่ทำให้สวีจินสนใจ สวีจินเข้าใจและรู้จักพลังวิญญาณมากกว่าคนทั่วไป  และทั้งสองคนเริ่มปรึกษาพูดคุยทันที

เมื่อใดก็ตามที่ริชาร์ดจูเนียร์พบกับคนที่มีความสนใจอย่างเดียวกัน เขาจะตื่นเต้นมากและเชิญให้สวีจินเข้ามาดูห้องค้นคว้าของเขาทันที

สวีจินพอใจมากหลังจากได้พูดคุยกัน ความคิดและความรู้ของริชาร์ดจูเนียร์ทำให้ตาของเขาเป็นประกาย เขาตื่นเต้นมากถึงขนาดที่มีความคิดจะอำนวยความสะดวกให้กับการค้นคว้าของเขา

และเมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องวิจัยของริชาร์ดจูเนียร์และเห็นหิ้งที่เต็มไปด้วยสมบัติวิญญาณ เขาถึงกับตะลึงทันที

วัตถุวิญญาณ!

ช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่กี่ปีอะไรก็ตามที่มีพลังวิญญาณจะถือว่าเป็นสมบัติ ทวีปเกียรติยศชาวยุทธฝึกฝนขึ้นมาได้อย่างไร? เพราะพลังวิญญาณจึงมีความได้เปรียบของพลังวิญญาณ  ข้อได้เปรียบตรงที่สำคัญที่สุดก็คือมันมีภูมิปัญญา ถ้าเซียนสามารถสร้างพลังวิญญาณได้ อย่างนั้นพวกเขาก็สามารถสร้างเซียนพลังวิญญาณ และสรุปกฎธรรมชาติในตัวมันเอง กลไกเช่นนั้นจะทำให้พลังวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นและฉลาดขึ้นและทำให้มีพลังเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา

หลังจากเรียกสติกลับคืนมา เลือดของสวีจินดูเหมือนจะไม่เหลืออยู่ในตัวแล้วเขารู้สึกหนาวยะเยือกทันที

หลังจากรู้ว่าวัตถุวิญญาณมาจากถังเทียนสวีจินเบนหางเสือไปหาถังเทียนทันที และขอซื้อวัตถุวิญญาณ

ถังเทียนตกใจ  เขาไม่เคยมีความตั้งใจจะขายวัตถุวิญญาณ  ถ้าวัตถุวิญญาณปรากฏขึ้นในตลาด  อย่างนั้นจะไม่เป็นการบอกทวีปเกียรติยศชาวยุทธว่ามีคนจากสวรรค์วิถีมาปรากฏตัวในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์หรอกหรือ? การดึงดูดความสนใจของทวีปเกียรติยศชาวยุทธในตอนนี้ก็เท่ากับหาเรื่องตาย

สวีจินหวังจะปกปิดความลับของถังเทียนสวีจินตกลงอย่างดีใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพอรู้ว่าถังเทียนปฏิเสธขายสมบัติวิญญาณ  เขาหวังว่าจะสามารถร่วมงานค้นคว้าของริชาร์ดได้

ถังเทียนคิดอยู่ชั่วขณะจากนั้นจึงเห็นด้วย เขายังต้องเห็นแก่หน้าของเจ้าหนี้ของเขาด้วย

สวีจินมีความสุขมาก เขารู้ว่าการค้นคว้าของริชาร์ดจูเนียร์มีศักยภาพกว้างขวางและนั่นคือสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุดในการลงทุน เขารวบรวมอุปกรณ์ของห้องวิจัยทั้งหมดของสมาคมการค้าสวีจี้และส่งมาให้และจากนั้นเขาจึงลงทุนงานค้นคว้าและช่วยเหลือห้องวิจัยของริชาร์ดจูเนียร์มาตลอดหลายปี

เขามีจิตสำนึกและไม่แจ้งข่าวให้หอการค้าสวีจี้ทราบ เนื่องจากเป็นการรักษาชีวิตของเขา

เขายิ่งสงสัยสถานะของถังเทียนมากยิ่งขึ้น  มีวัตถุวิญญาณหลายอย่าง  เขายังคงเดาและคาดถึงภูมิหลังของถังเทียน

การแสดงออกที่แปลกไปมากของสวีจินดึงดูดความสนใจของไป๋เยี่ยและคนอื่นๆทันที

เมืองสามวิญญาณ

“นี่คืออาวุธเรือรบที่ใช้พิเศษบนเรือรบ  เรือรบของพวกเขาทรงพลังมาก  ถ้าเราไม่มีเรือรบเป็นของตนเอง  เราจะแพ้แน่นอน และข้าตระหนักได้ว่าร่างพลังกายเป็นศูนย์และเรือรบมีความเข้ากันได้เป็นอย่างดี  ข้าไม่รู้ว่าจะนำเรือรบมาด้วยยังไงจึงได้มาแต่พิมพ์เขียว วัสดุและอาวุธเรือรบ ทั้งหมดนี้เจ้าลองศึกษาดู”

ถังเทียนบอกเซรีน

สายตาของเซรีนสนใจอยู่ที่อาวุธเรือรบอย่างเดียว อาวุธอย่างหนึ่งที่มีรูปแบบที่แตกต่างไปจากสวรรค์วิถี  มีพลังที่น่ากลัวดึงดูดให้เซรีนหลงใหล

ถังเทียนสำแดงพลานุภาพของปืนใหญ่กระบี่รังผึ้งทันทีพลังของมันน่ากลัวทำให้ทุกคนตกใจกลัว

ทุกคนหน้าถอดสี ถ้ากองทัพของพวกเขาเผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นนั้น  พวกเขาไม่มีทางตอบโต้ได้เลย

“ช่างมีความสามารถที่ทรงพลังจริงๆ!”  ถังโฉ่วพึมพำ  ทันใดนั้นเขามีคำถามทันที  “สมาพันธ์ชาวยุทธมีเรือรบอย่างนี้ไหม?”

“ไม่, ถ้าพวกเขามี  อย่างนั้นใครจะสามารถหยุดพวกเขาได้?”  ผีผาตอบอย่างมั่นใจ  จากนั้นนางพูดต่อ  “ถ้าเป็นกรณีอย่างนี้ก็น่าจะมีความสามารถในการสื่อสารระหว่างวิหารเซียนและดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ แต่พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนย้ายระหว่างทั้งสองได้ ในกรณีนี้ห้องวิจัยค้นคว้าของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ควรจะอยู่ที่วิหารเซียน!”

“ถูกต้อง”ถังโฉ่วเรียกความรู้สึกกลับมาทันที “เทียบกับพวกเขาแล้ว เราได้เปรียบมากกว่า เราสามารถเอาห้องวิจัยพลังวิญญาณเข้าไปในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้และสมบัติดวงดาวของเราเอาไปที่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้  เราสามารถเอาวัสดุกลับมาสวรรค์วิถีได้และสร้างเรือรบในสวรรค์วิถี เราเพียงแต่จำเป็นต้องเรียนรู้และค้นคว้าดู และเราจะสามารถกำจัดสมาพันธ์ชาวยุทธและวิหารเซียนได้ทันที  นอกจากร่างพลังกายเป็นศูนย์ของเราแล้วไม่มีใครหยุดเราได้  สมบัติดวงดาว,สมบัติวิญญาณ  นายท่านนำไปที่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้ก็คือความได้เปรียบของเรา”

คำพูดของถังโฉ่วปลุกเร้าทุกคน

“เวลา สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราในตอนนี้ก็คือเวลา  เราต้องรีบเร่งก่อนที่ประตูดวงดาวจะเปิด  นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้น  ความได้เปรียบของเราจะกลายเป็นศูนย์ไปทันที”

ความตึงเครียดเต็มอยู่ในห้องทันที

เซรีนหัวเราะทันทีและพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ก็เหมือนกับครั้งสุดท้ายไม่ใช่หรือ เราแค่ทุ่มสุดตัวใช่ไหม? เราไม่ได้ทำมาโดยตลอดหรือ? นอกจากนี้ เรามีความได้เปรียบใหญ่เช่นนั้นอยู่แล้ว ยังดีกว่าครั้งนั้นมาก!”

หมอกควันในใจทุกคนถูกกวาดออกไป  และกำลังใจในการทำงานเพิ่มขึ้นทันที

“ถูกแล้ว!  เงื่อนไขของเราตอนนี้ดีกว่าครั้งสุดท้ายมาก

“ใช่แล้ว นั่นก็ถูก!”

……

เมื่อเห็นทุกคนตื่นเต้นมาก ถังเทียนรู้สึกว่าเขาไม่มีความยุ่งยากอีกต่อไปทันที

ลานบ้านของหลิงเซี่ยอยู่ไม่ไกลจากร้านน้ำชา สวีจินถูกไป๋เยี่ยและไป๋เสี่ยวฉุดไปนั่งดื่มน้ำชา

ไป๋เยี่ยฝืนหัวเราะ  “คนผู้นี้บ้าระห่ำจริงๆ!  ถ้าข้าซื้อกองทัพให้เขา  ด้วยอารมณ์ของเขา  ถ้ามีใครตอแยเขาข้าคาดว่าเขาคงจะเหยียบย่ำพวกนั้นจนราบ”

ไป๋เสี่ยวมีท่าทางหม่นหมองรางวัลค่าหัวของถังเทียนทลายสามัญสำนึกและเหตุผลของเขา  การจะทำอะไรฝ่ายหนึ่งก็ย่อมได้  แต่แผนการอยู่ไหน?  วิธีการ? แผนจัดการ? ไม่มีเลย มีแต่วิ่งเข้าชนคู่ต่อสู้เพื่อใช้เงินจัดการ...

นั่นมันวิธีการอะไรกัน?

เมื่อคิดว่าใครก็ตามที่จะตอแยกเขาในอนาคต โดยไม่ต้องพูดอะไรสักคำรางวัลสองสามพันล้านจะบินออกไปอีกครั้งเพื่อกำจัดศัตรูของเขาอย่างสิ้นเชิงไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันกันตลอดไป

จุดที่สำคัญคือนั่นเป็นการทำลายกฎ นั่นไม่ใช่วิธีที่ตระกูลระดับสูงใช้จัดการ  ทุกคนมีเงิน ถ้ากระทำอย่างนั้นเขามีแต่จะกลายเป็นศัตรูกับตระกูลใหญ่โดยเปิดเผย

“แต่นั่นมีอะไรที่เกี่ยวกับเราเล่า?”  สวีจินที่เข้าข้างถังเทียนเต็มที่พูดอย่างไม่พอใจนัก“ที่สำคัญคือเพราะเงินเท่านั้น ข้าสามารถขายให้เขา เราไม่มีอะไรต้องกลัวเมื่อถึงเวลาสงคราม”

“เจ้าก็ถือโอกาสขูดกำไร!”  ไป๋เยี่ยพูดอย่างเหยียดหยาม

“นั่นก็ถูก!  ข้าอยู่วงการนี้อยู่แล้ว!”  สวีจินตื่นเต้น  “ผู้อาวุโส ถ้าท่านกลัวเขาจะหาเรื่องยุ่งยาก  นั่นก็ดีเหมือนกันท่านลุงสามารถส่งกองทหารให้ข้าก็ได้ ข้าจะซื้อจากท่าน”

สวีจินไตร่ตรอง  เขาต้องการได้รับความโปรดปรานจากถังเทียน เนื่องจากหัวใจของเขาทุ่มให้กับวัตถุพลังวิญญาณไปหมด  เขาเห็นได้ชัดว่านั่นเป็นการพนัน  ถ้าเขาชนะ อนาคตของเขา  ลูกของเขา ไม่ไม่ ครอบครัวของเขาจะรุ่งเรืองไปอีกหลายชั่วคน ถังเทียนคือผู้ร่ำรวยแท้จริง ถ้าเขาพลาดไป เขาจะต้องเสียใจไปทั้งชีวิตและหลายรุ่น

มีบางอย่างผิดปกติ!

บางอย่างผิดปกติแน่นอน!

ไป๋เยี่ยและไป๋เสี่ยวมองหน้ากันเอง  ไป๋เยี่ยหัวเราะ  “เขาจะหาเรื่องลำบากเข้ามาหาตัวแน่นอน ถ้าเจ้าอยากได้รับความโปรดปรานจากน้องเหมิ่ง  ก็คงไม่ง่ายขนาดนั้น เพียงแต่ใช้พลังรุนแรงอย่างแท้จริงก็สามารถทำเช่นนั้นได้  น้องเหมิ่งห้าวหาญมาก ห้าวหาญถึงขนาดที่ไม่มีอะไรห้าวหาญไปกว่านี้แล้ว!  กองทัพที่ข้าเลือกให้เขาเดินทางมาแล้ว”

สวีจินเป็นบุรุษที่มีประสบการณ์โชกโชน  และเขาตระหนักได้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น  ดังนั้นเขาหัวเราะ  “ผู้อาวุโสไป๋ช่างมีเครือข่ายที่ลึกซึ้งจริงๆ”

สวีจินที่เรียกความรู้สึกคืนกลับมาได้แล้วเป็นคนที่ลื่นไหลอยู่อยู่แล้วเขาไม่ยอมให้ข้อมูลรั่วไหล

ลุงและหลานตระกูลไป๋อดติงเขาไม่ได้

“ข่าวเร็วๆ นี้ไม่ดีเลย”  ไป๋เสี่ยวกล่าว  “ตลาดตกอยู่ในความยุ่งเหยิง  มีข่าวลือไปทุกที่  ดูเหมือนมีการฆาตกรรมอยู่สองสามคดี และหลายคนวิพากษ์วิจารณ์กล่าวโทษว่าพี่เหมิ่ง  คิดว่าเขาเป็นคนทำลายกฎหมาย

“ใครบางคนต้องการต้านเขา”  สวีจินเป็นคนที่มีประสบการณ์  และพูดได้โดยไม่ลังเล  “อาจจะเป็นเหออิง  เขาคือคนที่น่าสงสัยที่สุด”

“ถูกแล้ว” ไป๋เยี่ยถอนหายใจ  “เร็วๆ นี้ทวีปทรายขาวตกอยู่ในสถานการณ์วุ่นวาย  ข้าหวังว่าน้องเหมิ่งจะไม่ถูกดึงเข้าไปในเรื่องนี้”

สวีจินฝืนหัวเราะ  “ผู้อาวุโส ท่านเข้าใจถูกแล้ว”

ลุงหลานตระกูลไป๋สะดุ้ง  ทั้งสองคนมองไปตามสายตาที่สวีจินกำลังมองดูและตกใจทันที

“คุณชายใหญ่!”

“หลิงเซี่ย!”

หลิงเซี่ยและคุณชายใหญ่ปรากฏตัวที่ทางเข้าลานบ้านตระกูลหลิง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด