ตอนที่แล้วตอนที่ 612 ถังเทียนตอบโต้!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 614 ฉวยโอกาส

ตอนที่ 613 ภายในแผนการ


หลิงเซี่ยตื่นแต่เช้าตรู่ หลังจากอาบน้ำบิดานางก็เรียกหาตัวนาง เมื่อเห็นนาง เขายื่นชิ้นกระดาษให้นาง

นางรับกระดาษมาดูด้วยสีหน้าสงสัยและเมื่อนางอ่านเนื้อความในกระดาษแล้ว ความสับสนในตัวหายไปทันที  มือของนางเริ่มสั่นเหมือนกับว่าชิ้นกระดาษนั้นหนักเป็นพันตัน ปากของนางแห้ง  “นะนี่...นี่เป็นเรื่องจริงหรือ?”

“ใช่”หลิงหยวนหงยอมรับว่าเมื่อเขาได้รับข่าว เขาเองก็ไม่ต่างไปจากธิดาของเขา แต่ในทันใดนั้น เขาสงบจิตใจได้ทันที

“บ้าระห่ำเกินไปแล้ว”  หลิงเซี่ยพึมพำ

หลิงหยวนหงก็รู้สึกทำนองเดียวกัน  และพยักหน้า “บ้าระห่ำเกินไป”

เขาเปลี่ยนหัวข้อคุย  “เจ้าเข้าใจเรื่องของเขามากเพียงไหน?”

หลิงเซี่ยค่อยรู้สึกตัว  แม้ว่าหน้าของนางจะดูตกใจและฟุ้งซ่าน  แต่นางฝืนหัวเราะ  “แทบไม่มีอะไรเลย ครอบครัว เบื้องหลังฐานอำนาจของเขา ไม่มีอะไร”

“ยังจะไม่สงบเร็วๆนี้แน่”  หลิงหยวนหงถอนหายใจ  เพราะครอบครัวมีความร่ำรวยหนุนหลัง  พวกเขาหยั่งรากลึกในทวีปทรายขาวเครือข่ายของพวกเขาลึกซึ้งจนคนภายนอกไม่มีทางคิดถึงได้

ใจหลิงเซี่ยสั่นสะท้าน  นางรู้ว่าบิดาของนางรู้บางอย่าง

หลิงหยวนหงหัวเราะ “และตอนนี้มีคนบ้าและห้าวหาญโผล่ออกมาคนหนึ่ง  ข้าสงสัยว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันแน่”

หลิงเซี่ยไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าท่าทางที่ซับซ้อนหรือลังเลจากบิดานางมาก่อน  แม้ว่าเขาจะเป็นคนอ่อนโยนและเป็นกันเอง แต่เขาเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคงและมักมีความแน่วแน่ในหลายเรื่องและยากจะมีทางเลือกใดๆ

“สถานการณ์แย่มากนักหรือ?”  หลิงเซี่ยตัดสินใจลองถามดู

“แย่มาก”  หลิงหยวนหงถอนหายใจ  “ตั้งแต่สามปีที่แล้วเหออิงพาท่านหญิงโหรวไปพบเจ้าปกครองทวีป หลังจากนั้นมาเจ้าปกครองทวีปก็ละเลยงานปกครอง เมื่อสองปีที่แล้วข้าได้ยินว่ากิจการส่วนใหญ่ของทางการตกอยู่ในมือของท่านหญิงโหรวและข้ารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ในเงื้อมมือท่านหญิงโหรวช่างเรืองอำนาจนัก เพียงแค่สองปี  เหลือผู้อาวุโสอยู่ในแผนกภายในเท่าใด? เมื่อเดือนที่แล้วคุณชายใหญ่พบกับอันตรายร้ายแรง  ถ้าไม่ใช่เพราะท่านซัวปี่ไปปกป้องเขาได้ทัน  ข้าเกรงว่า...”

หลิงเซี่ยตาเบิกกว้าง  หน้าของนางเต็มไปด้วยอาการเหลือเชื่อ  “เป็นไปได้ไหมว่า...”

“พวกเขากำลังทำการเคลื่อนไหว”  หลิงหยวนหลงพูดน้ำเสียงหนักแน่น “กองพลที่สามและกองพลที่สี่เริ่มมีความโน้มเอียงไปทางเหออิงแล้ว  ท่านหญิงโหรวควบคุมหน่วยงานภายในไว้ได้และเริ่มแผ่อำนาจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตระกูลของทวีปทรายขาวกว่าครึ่งตอนนี้ตกอยู่ในความครอบงำของนาง”

“เจ้าปกครองทวีปไม่รู้เรื่องเหล่านี้เชียวหรือ?”  หลิงเซี่ยตะลึง

“เจ้าปกครองทวีปหลงสตรีจนโงหัวไม่ขึ้น ท่านหญิงโหรวควบคุมจวนของเจ้าปกครองทวีปไว้แล้ว และตอนนี้เราไม่สามารถพบกับเจ้าปกครองทวีปได้  ในจวนเต็มไปด้วยคนใช้ของท่านหญิงโหรว  ตอนแรกเราคิดว่าจะลอบเข้าจวน แต่ใครจะรู้กันว่าบ่าวไพร่เหล่านั้นมีพลังฝีมือสุดหยั่งคาด  และเราเสียคนไปหลายคน  เบื้องหลังของท่านหญิงโหรวไม่ง่ายอย่างที่เห็น”  หลิงหยวนหงขบฟันกล่าว

หลิงเซี่ยไม่เคยคิดว่าสถานการณ์จะเลวร้ายถึงขนาดนั้นหน้าของนางถึงกับถอดสี

“อย่างนั้นตอนนี้เราจะทำยังไง?”  หลิงเซี่ยถามอย่างผิดหวัง  แม้ว่านางจะเป็นคนฉลาด  แต่นางก็ยังอายุเยาว์อยู่ดี

หลิงหงหยวนผงกศีรษะ  “นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ข้าเรียกเจ้ามาที่นี่  เจ้าจำเป็นต้องทำสองเรื่อง  ประการแรก ไปควบคุมกองพลที่ห้าไว้ให้ได้”

“แต่คำสั่งที่แท้จริงยังไม่ถูกมอบหมาย...”  หลิงเซี่ยไม่เข้าใจ

“มันอยู่ที่นี่แล้ว  ถูกส่งมาเมื่อเช้านี้”  หลิงหยวนหงส่งคำสั่งแต่งตั้งให้หลิงเซี่ย  มันถูกเขียนและประทับตราคำสั่งเป็นทางการ   “ท่านซัวปี่จัดการเรื่องนี้ด้วยตนเองไม่ต้องรีรอหรือกลัว เจ้าต้องไปควบคุมกองพลที่ห้าในเวลาอันรวดเร็วที่สุด”

“เข้าใจแล้ว”  หลิงเซี่ยพยักหน้า

“เรื่องที่สองรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเหมิ่งหนานไว้” หลิงหงหยวนพูดทันที

“ทำไม?”  หลิงเซี่ยสะดุ้ง

หลิงหยวนหงจ้องมองด้วยนัยน์ตาลึก  “เราทำการประเมินเป็นอย่างดีแล้ว เหออิงและท่านหญิงโหรวเตรียมการภายในของพวกเขาไว้แล้ว  ถ้าทุกอย่างยังคงเป็นไปอย่างราบรื่น  โอกาสที่เราจะชนะก็คงน้อยลงทุกที  เราจำเป็นต้องมีตัวทำลายล้างจากภายนอกคนที่จะทำลายล้างได้ทุกอย่าง”

“ท่านกำลังพูดถึงเหมิ่งหนาน?”  หลิงเซี่ยคิดว่านางได้ยินผิด

“ถูกแล้วข้าเพิ่งได้ยินมา” หลิงหยวนหงไม่ปกปิดไว้ “เขาเป็นคนป่าเถื่อน ขวางโลกและกล้าหาญ จะมีใครอื่นที่สมบูรณ์แบบกับงานนี้เท่าเขา?”

“แต่...”  หลิงเซี่ยลังเล

“ท่านคิดว่าข้าจะใช้ประโยชน์จากเขาหรือ?” หลิงหยวนหงหัวเราะลั่น “ไม่ต้องห่วง  เจ้าไม่ต้องทำอะไรแค่ให้ความสนใจเขา  ถ้าเขามีเรื่องยุ่งยากก็ช่วยเหลือเขา ข้ามีลางสังหรณ์ว่าเขาเกิดมาเป็นตัวสร้างความฉิบหาย!”

หลิงเซี่ยถอนหายใจโล่งอก  นางไม่ปักใจเชื่อบิดาทั้งหมดนัก  แม้ว่านางกับเหมิ่งหนานจะรู้จักกันไม่นาน  แต่นางรู้สึกได้ว่าเขาเป็นคนตรงไปตรงมา  แต่ค่อนข้างเลินเล่อและไร้เหตุผล  และไม่ใช่คนประเภทที่บิดาของนางจะอธิบายได้

หลิงหยวนหงเห็นสีหน้าของหลิงเซี่ยก็เข้าใจความคิดของธิดาตนเอง เขาหัวเราะลั่นและไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม

********

เสียงระเบิดดังต่อเนื่องมาจากด้านนอก  เสียงครางและโหยหวนดังผ่านประตูใหญ่เข้ามา  ตลอดทั้งร่างของเหลยฟูเอ้อสั่นสะท้าน  ร่างของเขาสั่นและไม่มีศักดาและความน่ากลัวอยู่ในดวงตาอีกเลย  ทุกครั้งที่มีเสียงตะโกนดังมาจากนอกประตู ร่างของเขาจะสั่นกลัวและคิดถึงอนาคตที่มืดมัวปรากฏชัดอยู่บนสีหน้าของเขา

นี่คือฐานที่ใหญ่ที่สุดของของกุหลาบทอง  และมันกลายเป็นสุสานขนาดใหญ่

เขาสามารถแยกแยะเสียงที่คุ้นเคยออก พวกเขาคือพวกสถานะต้อยต่ำที่เคยประจบสอพลอและเอาใจเขา  แต่ตอนนี้พวกเขากลับถือดาบพยายามไล่ฆ่าเขา พวกเขาเคยสั่นสะท้านตกใจกลัวกับชื่อของกุหลาบทอง  แต่ปัจจุบันนี้ด้วยค่าหัวที่น่าประหลาดใจ  พวกเขากลับทิ้งความกลัวและรวมหัวกันวางแผนกินโต๊ะหน่วยกุหลาบทอง

สิ่งที่ทำให้เหลยฟูเอ้อกลัวที่สุดก็คือคนพวกนั้นต้องการชีวิตของพวกเขา

หมื่นล้านคลาวด์  หอกน้ำแข็งฟ้าพันก้านคือสิ่งที่ทำให้เหลยฟูเอ้อเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

และสิ่งที่ทำให้เขาสิ้นหวังมากยิ่งกว่าเดิมก็คือ  เจ้านายหายไป เขารู้ว่าเจ้านายมีอำนาจยิ่งใหญ่เพียงไหน และถ้าเขายินดีช่วยเขา เขาก็อาจรอดอยู่ได้

แต่เจ้านายไม่เคยปรากฏตัว

เป็นไปได้ไหมว่าเขากังวลว่าข้าจะเปิดเผยทุกอย่างที่เราทำ?

เสียงฝีเท้าจากด้านนอกดังใกล้เข้ามาทุกที  เหลยฟูเอ้อไม่สามารถรอต่อไปได้  เขามาที่เตาผิงและเปิดเส้นทางลับ  มันคือเส้นทางชีวิตสุดท้ายของเขา

แววที่เคร่งขรึมปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา  ทางลับมีกลไกบรอนซ์อยู่ข้างผนังที่ใต้บ้านมีการติดตั้งผลึกพลังงานที่ทรงพลังมาก ถ้าเขากดปุ่ม ภายในนาทีเดียว ระเบิดที่รุนแรงก็ทำลายสถานที่ทั้งหมดและคนที่ไล่ล่าเขาทุกคนพลอยถูกระเบิดไปกับสถานที่นั้นด้วย!

ทันใดนั้น เหลยฟูเอ้อรู้สึกเจ็บปวดที่อกของเขาสีหน้าของเขาขาวซีด ปลายกระบี่โผล่มาที่หน้าอกของเขา

เงาร่างค่อยๆ โผล่ออกมาจากด้านหลังเขาทันที

“หลายปีมานี้เจ้าทำได้ดีเฮ้อ.. เพราะความตายของเจ้า ข้าเองก็สูญเสียหนักเหมือนกัน  น่าเสียดาย”

เสียงเฉื่อยชาดังออกมาจากด้านหลังของเขา

เขามาหาเราเงียบๆ ....

หน้าของเหลยฟูเอ้อมีรอยยิ้มแปลกประหลาดและเขาล้มลง

เงาร่างนั้นไม่หลบหนีไปตามทางออก  แต่เขาปิดและขณะเดียวกันเขาย้ายศพของเหลยฟูเอ้อไปไว้ข้างโต๊ะ

สิบวินาทีต่อมา ปังประตูถูกกระแทกเปิดออกโดยฝูงคนบ้าคลั่ง

คนนับไม่ถ้วนเห็นเหลยฟูเอ้อนั่งอยู่บนเก้าอี้  นัยน์พวกเขาเป็นประกาย  ทุกคนโห่ร้องเฮโลเข้าหาร่างของเหลยฟูเอ้อบ้างก็ทะเลาะ ด่าทอ ต่อสู้กัน ทั่วทั้งสถานที่ตกอยู่ในความวุ่นวาย

ไม่มีใครสังเกตว่ามีคนที่ดูธรรมดาคนหนึ่งลอบออกไปจากห้อง

ปัง!

กลุ่มไฟมหึมาพุ่งออกมาจากใต้พื้นเกิดระเบิดรุนแรงทำให้ทั้งเมืองทรายขาวสั่นสะเทือน

ทุกคนวิ่งออกมาจากบ้านมองดูไฟที่ลุกโหมรุนแรงและหน้าพวกเขามีสีหน้าซับซ้อน

พวกกุหลาบทองจบสิ้นแล้ว กลุ่มผู้มีอิทธิพลใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดสูญสลายไปอย่างสมบูรณ์

พวกกุหลาบทองถูกทำลายโดยสิ้นเชิง

เงินจำนวนมหาศาลทำให้ผู้คนยอมเสี่ยงชีวิตอย่างสิ้นคิด  แม้ว่าพวกเขาจะกลัวต่อกลุ่มกุหลาบทอง แต่พวกเขาจะได้เหรียญคลาวด์มาช่วยปลดเปลื้องชีวิตพวกเขาทั่วทั้งทวีปทรายขาว ฐานทั้ง 32 ของพวกกุหลาบทองล้วนนองเลือดและกลุ่มที่ทรงอิทธิพลอำนาจและมีชื่อเสียงมากที่สุดในทวีปทรายขาวถูกถอนรากถอนโคนภายในคืนเดียว

ราตรีนองเลือด

ทวีปทรายขาวไม่ขาดแคลนคนรวยและคนมีอำนาจ  และมีคนที่ร่ำรวยและสกปรกอย่างถังเทียน แต่ไม่เคยมีใครใช้วิธีการที่โหดร้ายเพื่อแก้แค้น

ถังเทียนกลายเป็นผู้มีชื่อเสียง  และมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

แม้ว่าชื่อเสียงเช่นนี้จะไม่ใช่ชื่อเสียงที่ดีบ้าระห่ำ, โหดเหี้ยม, งี่เง่า ฯลฯ แต่ไม่มีใครกล้าตอแยเขา  ไม่มีใครกล้าดูแคลนเขา  กล่าวกันว่าเมื่อเหออิงผู้บัญชาการกองพลที่สองได้รับข่าว  เขาโกรธจัดจนฆ่านักระบำที่เขารักไปถึงสามคนเพื่อระบายความโกรธ

สำนักความมั่นคงร้างคนไปถึง 70% เพราะสมาชิกลาออก และเพราะสำนักความมั่นคงกลายเป็นอัมพาต สำนักความมั่นคงที่ไม่เคยเกรงกลัวผู้ใดกลับตกอยู่ในสภาพหวาดกลัวทำให้ชื่อเสียงของถังเทียนโด่งดังมากขึ้นเป็นประวัติการณ์

แค่เพียงวันเดียว ทั่วทั้งเมืองทรายขาวก็รู้กันว่ามีคนรวยที่เป็นจอมอิทธิพลและบ้าระห่ำอยู่คนหนึ่ง

ขณะที่เถียนฉีกวงวิ่งมาขอความช่วยเหลือเหออิง  เหออิงสงบใจได้เรียบร้อยแล้วและคิดหาวิธีโดยโดยเร็ว  เขาแค่นเสียง  “ใช่แล้ว สำนักความมั่นคงกลายเป็นอัมพาตอย่างนั้นก็ปล่อยไว้ก่อนคิดดูแล้วถ้าแม้แต่สำนักความมั่นคงก็ยังกลัวความดุร้ายของเขา  แล้วใครจะปกป้องพลเมืองของทวีปทรายขาว?  ใครจะปกป้องครอบครัว? สถานการณ์ความรุนแรงดังกล่าวจะทำให้ถนนของเมืองทรายขาวกลายเป็นธารโลหิต  และเมื่อเสียเลือดเสียเนื้ออย่างเพียงพอก็จะตระหนักถึงความสำคัญของสำนักความมั่นคง และพวกเขาจะเข้าใจว่าใครคือศัตรูที่แท้จริงของพวกเขา”

ความคิดของเถียนฉีกวงถูกปลุกเร้า  เขารู้สึกว่าความคิดเจ้านายมหัศจรรย์มาก

เจ้าเด็กนี่เป็นคนนอก ความเย่อหยิ่งของเขาจะทำให้ผู้คนพบว่ามันน่ารำคาญ สำนักความมั่นคงต้องดึงนักสู้ที่ไม่แข็งแกร่งเพียงไม่กี่คนออกมา  และเติมเชื้อไฟเข้าไปทำให้เมืองทรายขาวตกอยู่ในความวุ่นวายอย่างหนัก การฆาตกรรมการลักพาตัวจะทำให้ทุกคนและทุกครอบครัวรู้สึกเทความเกลียดชังไปที่เจ้าเด็กบัดซบนั่น

“ผู้น้อยรู้ว่าจะต้องทำยังไง”  เถียนฉีกวงกล่าวด้วยความเคารพ

เถียนฉีกวงเพิ่งออกไป  ก็มีเสียงดังออกมาจากในเงา  “เจ้ามีความคิดที่ไม่เลวเลย”

หน้าของเหออิงมีท่าทางดีใจ  เขาตอบอย่างเย็นชา  “ท่านอย่าให้อะไรเกิดขึ้นกับข้าดีกว่า! ข้าขอให้ท่านมาที่นี่เพื่อให้แก้ปัญหาคุณชายใหญ่  แต่ในที่สุดเจ้าก็ล้มเหลว  และตอนนี้ยังมีเรื่องยุ่งยากลำบากมากขึ้น  เจ้าอย่าเพิ่งหยุดไล่ล่าดีกว่า  เมื่อคุณชายใหญ่ตายเมืองทรายขาวก็จะเป็นของเรา และถึงเวลานั้น  เจ้าสามารถทำอะไรก็ได้ตามชอบใจ  แต่ก่อนนั้น เจ้าฆ่าเขาให้ได้ก่อนจะดีกว่า! ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าคนของเรากำลังจับตาดู  แล้วข้าจะเรียกเจ้ามาทำไม?”

“สบายใจได้  เขาจะตายในไม่ช้านี้”  เสียงในเงายังคงเฉื่อยชาเหมือนก่อน

เมื่อออกจากคฤหาสน์ของเหออิง  เถียนฉีกวงลาพักสำนักมั่นคงทันที  และตัวเขาเองกลับไปที่บ้านเพื่อแกล้งป่วยและเมืองที่ปั่นป่วนก่อนนั้น ก็ยิ่งปั่นป่วนมากขึ้น โลหิตเริ่มนองตามท้องทถนน

ในเวลานั้น ทุกคนเริ่มตระหนักถึงอันตราย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด