ตอนที่แล้วตอนที่ 591 บอกแล้วว่าไม่มีเงิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 593 ขึ้นเรือ

ตอนที่ 592 ปากอ่าว


ในที่สุดก็ต้องเป็นถังเทียนที่เดินทางร่วมกับสือเซินและปัญหาก็คือการเลือกผลิตภัณฑ์  ขณะที่เลือกสินค้า ปิงตะลึง ถังเทียนเก็บของเอาไว้กองเป็นพะเนินทั้งหมดนั้นเป็นของที่แตกต่างกัน และเป็นของประหลาดทั้งหมด  แล้วอะไรดีล่ะ?  เมื่อพวกเขาถามสือเซินเขามีสีหน้าจนใจกับเรื่องนั้น สือเซินไม่เคยเห็นของประหลาดแบบนั้นมาก่อน พอๆ กับไม่รู้ราคา

ปิงตัดสินใจไปหาอาเฮ่อเพื่อขอคำแนะนำ  แต่เมื่อเห็นอาเฮ่อฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง  ปิงไม่มีแก่ใจไปรบกวนเขา หลิงซิ่วและจิ่งหาวก็คร่ำเคร่งฝึกฝนเช่นกัน  ความล้มเหลวของพวกเขากระทบกระเทือนจิตใจพวกเขามาก

ปิงได้แต่หาร้านค้าท้องถิ่นผ่านหวังจุนเซียน  แต่ผู้ค้าท้องถิ่นส่ายศีรษะ  เขาไม่เคยเห็นของประหลาดแบบนั้นมาก่อน  ดังนั้นเขาจะตีราคาได้ยังไง

จากนั้นปิงคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดและนั่นก็คือให้ถังเทียนติดตามสือเซิน สุ่มหาไปตามที่เห็นว่าเหมาะสม เขาค่อยออกมา

ปิงคาดว่าทวีปฝานซิงโจวจะยังไม่ตอบโต้รวดเร็วนัก  พวกเขายังตั้งหลักไม่ได้และการตายของซุนเจี๋ยทำให้พวกเขาไม่ประมาทความแข็งแกร่งของถังเทียน  เนื่องจากพวกเขาสงสัยเบื้องหลังของถังเทียน

ช่วงเวลาที่ว่างเว้นนี้เป็นเวลาที่สำคัญสำหรับทวีปซางโจว  และปิงมีเรื่องสำคัญมากขึ้นต้องดำเนินการ

โดยดำเนินการผ่านหวังจุนเซียน  ดาวอีกสองดวงของทวีปซางโจวเริ่มอพยพและคนพวกนั้นไม่ยินดีไปจากทวีปซางโจวจึงถูกดึงมาที่ปราสาทดำ  แม้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของทวีปซางโจว  แต่ประชากรของปราสาทดำก็เพิ่มถึง 60,000อย่างรวดเร็ว ปราสาทดำไม่สามารถรองรับคนได้มากเกินไป ดังนั้นด้วยความช่วยเหลือของเซรีนความคิดสร้างป้อมปราการจึงเกิดขึ้น

โดยมีปราสาทดำเป็นศูนย์กลาง หอคอย 12แห่งถูกขยายออกไปข้างนอกและใช้เคล็ดการสร้างเมืองสมบัติ  หอคอยเหล่านั้นจะแบ่งพลังงานรอบๆสร้างเป็นป้อมปราการขนาดยักษ์

ปิงที่เป็นผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วเมื่อเห็นแผนของเซรีนถึงกับสูดหายใจหนาวเหน็บ

ตามแผนการของเซรีน ถ้าป้อมปราการสร้างสำเร็จ  พวกเขาจะสามารถควบคุมพลังงานของดาวหญ้าแดงได้ถึงหนึ่งในสี่ และนี่จะทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์ในการต่อสู้เพื่อรักษาพื้นที่ของตนเอง  เซรีนต้องการรวมป้อมปราการนั้นและเรียกว่า“ป้อมปราการไพรกระบี่” และนางคำนวณไว้ว่าถ้าจำนวนหอคอยมีถึง 36  เนื่องจากผลทับซ้อนกัน  อาคารเหล่านั้นจะสามารถควบคุมพลังงานได้ทั้งดาวหญ้าแดง

เมื่อถึงเวลานั้นดาวหญ้าแดงจะกลายเป็นดาวป้อมปราการที่ไร้เทียมทานใครทำลายไม่ได้

ปิงพยายามทำแบบจำลองด้วยตนเองสองสามครั้งและตระหนักได้ว่าเพื่อให้สามารถโจมตีและโค่นล้มป้อมปราการก็ต้องทุ่มเทราคาที่สูงเกิน

เขาไม่ลังเลใจ เริ่มผลักดันแผนป้อมปราการไพรกระบี่  ด้วยกำลังคนที่มีอย่างเพียงพอในมือของเขาแต่ขณะเดียวกันเสิ่นหรงกับเซี่ยอันสองผู้อาวุโสแห่งกองพลที่36 ก็คิดคำนวณงบประมาณสงครามที่กำลังจะมาถึงได้ แม้ว่ากำลังคนจะฟรี ความสามารถในการสู้ก็ฟรี  แต่อาหาร ยา  อุปกรณ์การฝึกฝน ฯลฯทั้งหมดนี้ถึงราคา 120 ล้านคราวด์อย่างน่าประหลาด

การขาดแคลนเงินกลายเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด

ถังห้าวโกรธจัดเขาเริ่มโวยวายไม่พอใจที่แผนการฝึกของเขาเองถูกตัดจนสั้น  แต่ประโยคหนึ่งของปิงว่า “เจ้าเป็นนายใหญ่ถ้าเจ้าไม่คิด ใครจะคิด” ทำให้เขากลับมาสู่ความเป็นจริง

ก็ได้ ใครมาขอให้ข้าเป็นนายใหญ่เล่า ถังเทียนไม่มีทางเลือกได้แต่บังคับตนเองไปกับสือเซิน

แต่ไม่นานหลังจากพวกเขาเริ่มออกเดินทางถังเทียนก็กลับคืนอาการดังปกติ

ปัง ปัง ปังถังเทียนก้าวไปบนแผ่นสุญญากาศและตะโกนดังลั่นขณะวิ่งมาข้างหน้าปล่อยระเบิดความเร็วเสียงไว้ด้านหลังเขา

เมื่อเห็นดังนั้นสือเซินรั้งสายตากลับมาที่พวกของเขาและกล่าว “รักษาตำแหน่งไว้ ใส่ใจอย่าให้เกิดข้อผิดพลาด”

ทุกคนปฏิบัติตามขณะที่ทั้งหน่วยแยกกันอย่างรวดเร็ว  เหมือนกับนกยักษ์กำลังกางปีก  คนสังเกตการณ์กวาดไปมารอบๆ

เทียบกับเสียงเฮของถังเทียนแล้ว กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวของสือเซินกลายเป็นเงียบเหมือนกับฝูงค้างคาวที่บินอยู่ในท้องฟ้า กองกำลังปีศาจมีความแข็งแกร่งวินัยส่วนบุคคลที่โดดเด่นแสดงออกมาถึงความอยู่ตัว ระหว่างทางไม่มีใครปรากฏให้พวกเขาเห็นและพวกเขายังคงเงียบอยู่ตลอด

ถังเทียนกำลังสนุกกับการบินของเขา  หลังจากได้วิชาปรับสภาพพลัง  เขาก็ชอบเคล็ดวิชานี้ทันที  เขาทดลองพลังในระดับต่างๆ หลายรูปแบบ การเดินทางที่รุนแรงกลายเป็นการฝึกตัวเขาเองโดยการฝึกซ้อมต่อเนื่องไม่ขาดสาย มักจะมีผลลัพธ์ตามมาเสมอและวิชาพลังปรับสภาพของถังเทียนก็สร้างคลื่นระเบิดเสียงได้ขนาดเล็กและน้อยลงเรื่อยๆ

หลังจากบินมาเป็นช่วงเวลานาน สือเซินพูดทันที  “นายท่าน เราจำเป็นต้องบินสูงขึ้นไปกว่านี้ เราอยู่ที่ปากอ่าวแล้ว”

“ข้างหน้า? ปากอ่าว?  นั่นคืออะไร?”  ถังเทียนประหลาดใจ

สือเซินลอบตกใจ นายท่านไม่รู้จักว่าปากอ่าวคืออะไร? เป็นไปได้หรือที่ทวีปคนเถื่อนจะแตกต่างจากภูมิภาคใต้?  เขาอธิบาย “เราจำเป็นต้องเพิ่มระดับขึ้นไปอีก 25 กิโลเมตรในท้องฟ้าและตรงไปที่ปากอ่าวก็จะสามารถเข้าไปในทะเลพลังงานได้”

“ทะเลพลังงาน? พวกท่านไม่ใช้ประตูดวงดาวกันหรือ?”  ถังเทียนประหลาดใจ

“ประตูดวงดาว?” สือเซินประหลาดใจเช่นกัน  แต่เขาตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและส่ายศีรษะ “ภูมิภาคใต้ไม่มีประตูดวงดาวผู้น้อยไม่เคยได้ยินของอย่างประตูดวงดาว อาจเป็นไปได้ไหมนั่นเป็นการค้นพบล่าสุดของทวีปคนเถื่อน?”

ก่อนที่ถังเทียนจะสามารถตอบ  สายพานแสงก็ปรากฏในสายตาของเขา ทำให้เขาตกใจ

ขนาดของสายพานแสงมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 150 เมตรสร้างจากเส้นใยแสงมากมายลอยละล่องเหมือนแม่น้ำแสงและที่ปลายอีกด้านหนึ่งมันทอดยาวลึกเข้าไปในท้องฟ้า

“นี่คือปากอ่าว?” ถังเทียนหลงใหลกับสายพานแสงอย่างสิ้นเชิง เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ใช่แล้ว” สือเซินรู้ว่านายของเขาไม่เคยเห็นปากอ่าวมาก่อน  เขามองดูสายพานแสงและกล่าว  “โชคดีที่สายพานแสงนี้เล็กและเรือรบไม่สามารถผ่านไปได้ ถ้าไม่อยางนั้น เราจะอยู่ในอันตราย”

“เรือรบ?” ถังเทียนสนใจวลีใหม่ที่ดึงดูดใจอีกครั้ง

ดูเหมือนนายท่านไม่ค่อยไปที่ไหนในอดีตที่ผ่านมา...

สือเซินอธิบาย “เมื่อเราออกปากอ่าวไป เราจะไปถึงทะเลพลังงาน ทะเลพลังงานจะเป็นที่เต็มไปด้วยพลังงานไม่มีที่สิ้นสุดและมีสิ่งสกปรกจำนวนมากและมีคุณสมบัติกัดกร่อนที่รุนแรงดังนั้นจึงไม่ใช่สถานที่สำหรับคนอ่อนแอ ถ้าระยะทางไกลเกินไป  เราก็จำเป็นต้องนั่งเรือไป ซึ่งจะมีนักสู้ผู้แข็งแกร่งจะคอยป้องกันเรือจากพลังกัดกร่อน  เรือรบถูกใช้เป็นพิเศษในการใช้รบในทะเลพลังงานและทรงพลังมาก มีเรือรบบางลำที่สามารถรับทหารได้ทั้งกองทัพมันสามารถช่วยให้ทหารมีพลังเพิ่มขึ้น”

“ทรงพลังมาก!”  ตาของถังเทียนเป็นประกาย  “เมื่อไหร่เรามีเงินเราจะซื้อเรือรบสักลำ!”

เมื่อสือเซินได้ยินเช่นนั้น  แววตื่นเต้นวาบผ่านในดวงตาของเขา  เขาต้องการเป็นเจ้าของเรือรบของตนเอง แต่แม้แต่เรือรบลำเล็กที่สุดก็เป็นภาระที่เขาไม่เคยแบกรับมาก่อน  ทุกครั้งที่พวกเขาบินอยู่ในทะเลพลังงาน  ร่างกายของพวกเขาจะถูกกัดกร่อนอย่างมากมาย  ถ้าการกัดกร่อนไม่ถูกล้างออกอย่างถูกต้อง  พวกเขาอาจได้รับบาดเจ็บที่ไม่สามารถเยียวยาได้

การฟื้นฟูหลังจากสู้รบ มักจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากมาย

หลังจากเข้าไปในสายพานแสง สือเซินเตือนถังเทียนทันที “นายท่าน บินขึ้นไป”

“ตกลง!”  ถังเทียนกระตือรือร้น ก้าวขึ้นไปบนแผ่นสุญญากาศเขายังคงใช้วิชาปรับสภาพพลัง เขาบินขึ้นไปเร็วขึ้นทุกทีและทิ้งห่างพวกที่เหลือไปอย่างรวดเร็ววิชาปรับสภาพพลัง ครอบงำได้สมบูรณ์แบบขณะที่บินขึ้นในแนวตั้งหรือแนวนอน

ยี่สิบห้ากิโลเมตรบินขึ้นไปในท้องฟ้าถังเทียนไม่เคยบินสูงมากมาก่อน  แต่ในอดีตจุดสูงสุดที่เขาไปถึงก็คือเหนือเมฆ

ยิ่งเขาบินสูง สายพานแสงก็หนาขึ้นจะเหมือนว่าพวกเขากำลังบินขึ้นไปในท่อขนาดใหญ่

หลังจากใช้วิชาปรับสภาพพลังบินสูงขึ้น 25 กิโลเมตรแม้เพราะถังเทียนมีร่างกายน่ากลัว แต่เขาก็รู้สึกเพลีย สือเซินและพวกที่เหลือไม่มีตรงไหนที่ดีกว่า ทุกคนมีสีหน้าเหนื่อยล้า  การบินตรงๆภายในพลังงานต้องอดทนมากกว่าการบินธรรมดาหลายเท่า

ในขณะนี้ความเข้มข้นพลังงานรอบตัวพวกเขากลายเป็นหนาแน่นขึ้นมาก  แสงรังสีของสายพานแสงมีพลังทะลุทะลวงมากสือเซินและพวกที่เหลือต้องกระตุ้นม่านพลังแสงป้องกัน  แต่เมื่อพวกเขาเห็นร่างของถังเทียน  พวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นภาพต่อหน้าพวกเขา

พลังงานทั้งหมดที่เต็มไปด้วยคุณสมบัติกัดกร่อนดูเหมือนจะถูกผลักออกจากร่างของถังเทียนในระยะห่างหนึ่งเมตรด้วยพลังไร้ลักษณ์  และไม่สามารถเข้ามาใกล้ตัวเขาแม้แต่นิ้วเดียวมีพื้นที่สุญญากาศอยู่รอบตัวถังเทียน

สือเซินและคนของเขาคิดว่าตนเองเป็นผู้มีความรู้แต่เมื่อเห็นภาพข้างหน้ากับตา พวกเขาถึงกับตกใจ

อะไรกันนี่?

ข้าไม่เคยได้ยินได้เห็นมาก่อน!

อาเหล่งและพวกที่เหลือยิ่งรู้สึกนับถือมากยิ่งขึ้นวิทยายุทธปัจจุบันทั้งหมดถูกผูกขาดโดยสำนักและตระกูลใหญ่และมีอำนาจ วิทยายุทธของท่านเหมิ่งหนานไม่เคยเห็นจากที่ใดมาก่อนและนั่นต้องเป็นวิชาพิเศษแน่

สือเซินยิ่งสงบมากว่า เขาคร้านจะคิดเสียแล้ว เป็นเพราะเขาตระหนักว่าไม่ว่าเขาจะคิดมากเท่าใด  เขาก็ไม่มีทางเข้าใจได้  ในอดีตเขาเป็นคนทำการตัดสินใจของทั้งหน่วยและรู้สึกว่าเหนื่อยมาก แต่ปัจจุบันนี้ เขาเพียงแต่ฟังคำสั่งและไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก

เขาไม่สนใจแล้วว่าท่านเหมิ่งหนานมาจากที่ใด

ควั่บ, ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าเขาทำลายม่านพลังกั้น  ในทันใดนั้นแสงแพรวพราวก็หมองลงและสายตาเขาก็ฟื้นเป็นปกติ

ในที่สุดถังเทียนก็เข้าใจว่าทะเลพลังงานที่สือเซินพูดถึงนั้นคืออะไร

พื้นที่ว่างข้างหน้าของเขาเต็มไปด้วยพลังงานที่วุ่นวายปั่นป่วนและไม่มีที่สุดซึ่งหนาแน่นมาก พลังงานที่ปั่นป่วนทั้งหมดไม่ได้ถูกจำกัดไว้ให้ทำอะไร  มีพลังงานที่หมุนวนบางอย่าง บางอย่างที่เหมือนปลากำลังแหวกว่ายส่วนกลายเป็นดาวหางพุ่งเป็นแนวโค้ง บางส่วนก็เป็นดาวลอย

สีสันของพวกมันแตกต่างกันอย่างมากมาย  บางส่วนก็สีสันงดงาม

เมื่อเข้าไปในอวกาศที่วุ่นวายมาก  ภาพที่เห็นดูงดงามน่าหลงใหลทำให้ถังเทียนตกตะลึงไปหมด  เขารู้สึกตัวหลังจากผ่านไปนาน และชื่นชม“สวยจริงๆ”

เมื่อสือเซินได้ยินเช่นนั้น เขารู้ว่านายท่านเหมิ่งหนานไม่เคยเห็นทะเลพลังงานมาก่อน และเขาเตือน  “ไม่เพียงแค่สวยเท่านั้น”

“ยังมีอะไรอื่นอีก?” ถังเทียนโพล่งออกมา

“อันตราย” สือเซินอธิบาย “มีกระแสพลังงานที่ปั่นป่วนบางสายลอยอยู่ซึ่งอาจมีขนาดใหญ่พอๆกับดวงดาวก็ได้ ถ้าท่านไม่ระวังให้ดีและบินเข้าไปใกล้มัน ท่านจะถูกมันกลืนก็ได้ สิ่งที่เห็นเหล่านี้ก็ถือว่าดีแล้ว เนื่องจากไม่อาจพบเห็นได้ง่ายที่น่ากลัวที่สุดก็คือ กระแสพลังงานปั่นป่วนเฉพาะแบบที่ไม่เหมือนใครกระแสพลังงานปั่นป่วนเหล่านี้อันตรายมาก แต่พวกมันก็ยังปกปิดตัวเองและผสานกับกระแสปั่นป่วนอื่นและไม่ง่ายที่จะป้องกัน  ถ้าเจ้าสัมผัสเข้ากับมันเจ้าคงได้แต่ตำหนิตนเองว่าเจ้าโชคร้าย”

ถังเทียนตะลึง  “อย่างนั้นเราไม่สามารถป้องกันมันได้หรือ?”

“ใช่แล้ว” สือเซินพยักหน้า “นั่นคือเหตุผลที่นั่งเรือย่อมดีกว่า การป้องกันของบนเรืองจะแข็งแกร่งกว่า ปลอดภัยกว่า แม้ว่าจะเป็นเรือสินค้าก็ยังปลอดภัย ตอนนี้มีคนน้อยมากที่บินผ่านได้เนื่องจากจะมีอันตรายแน่นอน”

“เราต้องซื้อเรือสักลำในอนาคตแน่!”  ถังเทียนตัดสินใจจากนั้นเขาคิดถึงปัญหาทันทีและถาม “เราจะหาดาวหญ้าแดงเจอได้ยังไงเมื่อเรากลับมา?”

“แผนผังทะเลพลังงานและเสาหลักพลังงาน”  สือเซินตอบ “เมื่อบินออกต่อไป นายท่านจะตระหนักได้ว่าปากอ่าวมีความชัดเจนมาก  แม้ว่าปากอ่าวของดาวหญ้าแดงจะไม่ใหญ่  แต่ตราบใดที่ท่านยังวนเวียนอยู่ในระยะ 250กิโลเมตร ท่านจะรู้สึกได้”

“ไปต่อเถอะ ไปต่อ” ถังเทียนกระตือรือร้นอย่างมาก สิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นก็คืออากาศในอวกาศว่าง

ด้วยอากาศ เขาสามารถใช้วิชาปรับสภาพพลังได้อย่างสะดวก

“ไปกันเถอะ, หนทางไม่สั้น!”สือเซินตั้งข้อสังเกตและนำทางต่อ

กลุ่มของพวกเขาเริ่มเดินทางเข้าไปในทะเลพลังงาน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด