ตอนที่แล้วตอนที่ 579 แข่งสมบัติ ใครมั่งคั่งกว่ากัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 581 แย่งชิงคือทักษะแฝงเร้นของข้า

ตอนที่ 580 รบกัน? มีอะไรต้องกลัว


“เดี๋ยวก่อน” แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วก้าวยาวเข้ามาทันที  ร่างใหญ่โตมหึมาของเขาทำให้พื้นสั่นสะเทือน  “ข้าจะเป็นคู่ต่อสู้ให้เจ้าเอง!”

เย่ว์หยางมองดูราชันย์พันปีศาจ  เขาจะไม่รับคำท้าสู้หรือ?

อย่างไรก็ตาม  ราชันย์พันปีศาจไม่มองเย่ว์หยาง  เขาเดินเข้าหาเสียงหวี่ที่ท้อแท้และสิ้นหวังและมองดูเขาจากระยะห่างด้วยท่าทีของนักสู้คนหนึ่ง  “ข้าสามารถลบล้างคำสาปเช่นนี้ได้”

เหมือนกับว่าเสียงหวี่ได้รับการชุบชีวิต นัยน์ตาของเขากลับฟื้นคืนมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

เขามองดูราชันย์พันปีศาจอย่างตื่นเต้น  “จริงเหรอ, ท่านทำได้จริงเหรอ?”

ราชันย์พันปีศาจพยักหน้ารับรอง  “เทวทูตตกสวรรค์ม่อเฟยเดิมทีก็ได้รับผลจากคำสาปที่น่ากลัวเหมือนอย่างเจ้า  แต่เจ้ารู้ไหมว่าทักษะแฝงเร้นของข้าคืออะไร?  การแยก  ไม่เพียงแต่ทักษะแฝงเร้นแยกของข้าจะสามารถแยกสิ่งที่ส่งผลในด้านร้ายต่อเจ้าออกไปจากตัวเจ้าเท่านั้น  แต่มันสามารถแยกคนออกเป็นสองได้  เจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าพูดหรือไม่?  ในมือของข้า เจ้าจะไม่มีความทุกข์ทรมานแม้แต่น้อย... ตราบใดที่เจ้ามอบความจงรักภักดีและซื่อสัตย์ของเจ้าให้กับข้า   ข้าสามารถมอบโอกาสที่สองให้เจ้ามีร่างกายที่สมบูรณ์และแข็งแรงได้อีกครั้งแน่”

ไม่ต้องรอให้เสียงหวี่ตอบสนอง  นาคราชสมุทรเก้าหัวคุกเข่ากับพื้น

เข่าของเขาอยู่ต่อหน้านาคราชสมุทรเก้าหัวที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปลาบปลื้มและจริงใจ  “ท่านผู้แข็งแกร่งทรงพลัง  ท่านคือเจ้านายที่ข้าแสวงหาอยู่  เยาฟงยินดีมอบความจงรักภักดีต่อท่าน!  เยาฟงสาบานต่อเทพเจ้าว่า ข้าจะเคารพต่อราชันย์พันปีศาจเป็นเจ้านาย  ไม่ว่าจะสั่งให้ข้าทำงานอะไรก็ได้  ถ้าข้ามีความคิดหักหลัง ขอให้สวรรค์ลงโทษข้า!”

แววแปลกประหลาดแวบผ่านในดวงตาของราชันย์พันปีศาจ  ท่าทีนั้นหายไปอย่างรวดเร็วและไม่มีใครรู้ความหมายเบื้องหลังท่าทีนั้นนอกจากเย่ว์หยาง

เขาช่วยพยุงนาคราชสมุทรเก้าหัวด้วยตัวเอง สีหน้าของเขามีความสุข  “ข้าเข้าใจความตั้งใจของท่าน ไม่จำเป็นต้องคุกเข่าต่อหน้าข้าก็ได้ ลุกขึ้นเถิด  ความจริงเป้าหมายของข้าคือแดนสวรรค์ ข้าต้องการได้นักสู้มากขึ้นมาช่วยข้าจัดการหอทงเทียน, ทวีปกวงหมิงให้คนที่ต้องคำสาปจัดการ  ส่วนภาคพื้นสมุทรที่กว้างใหญ่จะมอบให้เจ้าจัดการ เยาฟงผู้จงรักภักดี  พวกเจ้าจะกลายเป็นผู้ปกครองรุ่นใหญ่ของหอทงเทียน  แม้ว่าพลังของเจ้าในตอนนี้อาจจะอ่อนไปเล็กน้อย ยังไม่สามารถเอาชนะจักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพได้  แต่ข้าจะมอบพลังให้พวกเจ้าทั้งสองคน  ในอนาคต  พวกเจ้าจะได้กลายเป็นนักสู้ปราณฟ้าแน่นอน...”

“ขอรับ, นายท่าน”  นาคราชสมุทรเก้าหัวคือแบบอย่างของใครก็ตามที่ต้องการติดตามเป็นบริวารของคนที่แข็งแกร่งกว่า  เมื่อเขาเห็นว่าราชันย์พันปีศาจยอมรับเขา  เขาก็เรียกเขาว่าเจ้านายทันที

“.....”  เสียงหวี่สั่นหลังจากได้ยินเช่นนี้

แต่เขาต้องคำสาปจึงไม่มีทางเลือก ได้แต่คุกเข่า หวังว่าราชันย์พันปีศาจจะใช้ทักษะแฝงเร้นแยกใช้กำจัดคำสาปจากร่างของเขา

เย่ว์หยางมองดูเหตุการณ์นี้อย่างเงียบๆ

เขาไม่ห้ามพวกเขา

ไห่อิงอู่ฉวยโอกาสนี้ใช้มือน้อยๆ ของนางจับมือของเขาไว้

เมื่อเย่ว์หยางรู้สึกถึงความเย็นเฉียบจากมือขาวผุดผ่องของนาง  ในที่สุดเขาก็รู้สึกตัวและโบกมือเขาบอกนางให้ออกไปจากสนามรบ  “ไปซะ, ที่นี่อันตรายเกินไป รีบพาสมาชิกเผ่าพันธุ์ทะเลออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้!  ถ้าการต่อสู้เกิดขึ้นจริงๆ  โลกหิมะน้ำแข็งนี่จะล่มสลาย!”

“ถ้า ถ้าข้าไป ท่านก็อยู่ที่นี่ตามลำพัง”  ไห่อิงอู่หวังจะอยู่ข้างตัวเขา  การต่อสู้ครั้งนี้ยากลำบากจริงๆ  เขาอาจตกอยู่ในอันตราย  นางไม่สนใจตำแหน่งจักรพรรดิสมุทร  ตราบใดที่นางสามารถอยู่ร่วมกับเขาได้  ทุกอย่างก็ไม่สำคัญ  ถ้าเขาตายในการต่อสู้  นางจะตายพร้อมกับเขา  ถ้าเขาแพ้ศึก นางสามารถปลอบโยนเขา

“เด็กโง่, เจ้าไม่เคยได้ยินกฎที่ว่าสตรีจะต้องเงียบ เมื่อบุรุษเตรียมลงมือกระทำการอย่างหนึ่งใช่ไหม?  ข้าไม่ได้เจรจาต่อรองกับเจ้า  เข้าใจไหม?  นี่คือคำสั่ง”  เย่ว์หยางโมโห

“ข้าจะฟังคำแนะนำของท่าน, ไม่เห็นต้องดุร้ายเลยนี่...”  ไห่อิงอู่รู้สึกว่านางผิดและอ้อนวอนอย่างอ่อนโยน  “ข้าจะฟังท่าน  แต่ท่านต้องกลับมา  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ท่านต้องไม่ฝืนจนเกินไป... ข้าจะรอท่านกลับมาพร้อมกับคนอื่น  ท่านต้องรู้ไว้ว่าถ้าท่านตาย  พวกเราจะไม่มีใครยอมมีชีวิตต่อไป.. สัญญากับข้า, ท่านต้องไม่เป็นเหมือนบิดาข้า  ท่านคือบุรุษที่ยอดเยี่ยมที่สุด  ต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับท่าน... ก่อนนี้ข้าโกรธท่าน  แต่ข้าผิดเองที่ทำเช่นนั้น  เมื่อท่านกลับมาจากศึกครั้งนี้  ข้าจะเป็นสตรีที่ดีที่สุดสำหรับท่าน  ข้าจะรอท่านอย่างสุดหัวใจ  จำไว้, ท่านต้องจำไว้ให้ดี  เราทุกคนกำลังรอท่าน!”

ยิ่งไห่อิงอู่พูดมากเท่าใด  นางก็ยิ่งรู้สึกหลงใหลมากขึ้น  นางกอดเย่ว์หยางและจูบเขาอย่างร้อนแรง

น้ำตานางไหลจนถึงริมฝีปาก

นางผละออกอย่างไม่เต็มใจถือสามง่ามจักรพรรดิสมุทรขึ้นและเดินออกไปโดยไม่เหลียวหน้ากลับมา  นางไม่ใช่สตรีไร้หัวใจ  แต่นางกลัวว่าจะใจอ่อน  ถ้านางหันหน้ามามองเขา  นางคงไม่กล้าพอเดินจากเขาไป

นางฉลาดและรู้ชัดเจนว่าศัตรูที่นางเผชิญหน้าเป็นเช่นไร

หนึ่งนั้นคือปีศาจโบราณนักสู้ปราณฟ้าระดับสาม  อีกคนหนึ่งจะน่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจโบราณ  เขาคือราชันย์พันปีศาจผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างความเดือดร้อนให้กับหอทงเทียนเมื่อสามพันปีที่แล้ว

ถ้าเย่ว์หยางมีความมั่นใจ  เขาจะไม่รอนานนักก่อนเริ่มโจมตี... ไห่อิงอู่รู้ว่าศึกครั้งอันตรายพอๆ กับสังเวียนมรณะและการต่อสู้ของเขาในแดนสวรรค์  เนื่องจากครั้งนั้นจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีอยู่ข้างๆ ตัวเขา  ตอนนี้ เขาต้องสู้ศึกครั้งนี้โดยไม่มีพวกนางคอยหนุนหลัง

ไห่อิงอู่แอบเกลียดตัวเอง  ทำไมนางถึงแข็งแกร่งไม่พอ?

ถ้านางแข็งแกร่งพอ  นางคงสามารถเคียงบ่าเคียงไหลช่วยรับภาระให้เขาได้

แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วไม่สนใจไห่อิงอู่และปล่อยให้จากไป  สำหรับปีศาจโบราณแล้ว นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่งก็แค่แมลงเล็กน้อย  ยิ่งกว่านั้นคู่ต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดของเขาก็คือคุณชายสามตระกูลเย่ว์  ตราบใดที่เขาฆ่าบุรุษผู้นี้ได้ ตลอดทั่วทั้งหอทงเทียนก็จะไม่มีใครสามารถหยุดยั้งราชันย์พันปีศาจได้

“มังกรลาวา, นางพญาผึ้งเพลิงและค้างคาวปีศาจของข้า จงออกมา”  แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วไม่ได้เรียกอสูรรบของเขาออกมาเมื่อเขาต่อสู้กับฟงจู้และเป่ยฟงเจียสั่ว  แต่เมื่อเย่ว์หยางเป็นศัตรู  แม่ทัพปีศาจไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย

ที่สำคัญคือ นี่คือสุดยอดอัจฉริยะที่เล่าลือกัน  สามารถตะลุยแดนสวรรค์และจับพะยูนนรกมาได้... เท่าที่แม่ทัพปีศาจเยี่ยนสั่วรู้ มีเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถทำเช่นนั้นได้  คนหนึ่งก็คือราชันย์พันปีศาจ,  อีกคนก็คือคุณชายสามตระกูลเย่ว์  มนุษย์อัจฉริยะเยาว์วัยผู้นี้คล้ายกับราชันย์พันปีศาจมาก  ต้องฆ่าเสียก่อนที่เขาจะเติบใหญ่กล้าแข็ง  มิฉะนั้น เขาจะได้รับพลังมากมายและอยู่ในระดับเดียวกับราชันย์พันปีศาจได้อย่างรวดเร็ว  แม้ว่าแม่ทัพปีศาจเยี่ยนสั่วจะยอมรับราชันย์พันปีศาจก็ตาม  แต่เขาไม่ยินดียอมรับอัจฉริยะมนุษย์อื่นที่คล้ายกันกับราชันย์พันปีศาจ

อัจฉริยะมนุษย์มีคนเดียวก็พอแล้ว

นี่คือสิ่งที่แม่ทัพปีศาจรู้สึกในใจ

อีกด้านหนึ่ง รัศมีทองปรากฏบนตัวของราชันย์พันปีศาจ และครอบคลุมทั้งนาคราชสมุทรและเสียงหวี่ผู้ต้องคำสาปด้วย

เย่ว์หยางหัวเราะใส่พวกนั้นไม่หยุด  ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องนาคราชสมุทรเก้าหัว  เสียงหวี่จากเผ่ามีปีกก็ไม่ใช่ตัวดีเช่นกัน  ถ้าพวกเขาตาย เย่ว์หยางไม่ได้เดือดร้อนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม  โลกนี้ไม่เคยขาดแคลนคนโง่  ถ้าพวกเขาถูกราชันย์พันปีศาจล่อลวง ก็คงเป็นเพราะพวกเขาโง่  ใครจะสนใจกันเล่าว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคนโง่

ภูเขาไฟลูกหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากพื้นสนามต่อสู้

ลาวาสีแดงดุจโลหิตถูกดันพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า ก่อตัวเป็นมังกรลาวาอสูรแพลตตินัมระดับสิบ  ความแข็งแกร่งของมันพอๆ กับนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเก้า  และขนาดของมันใหญ่กว่ามังกรเพลิงยักษ์สามตัวที่มังกรปีศาจแดนสวรรค์ได้เรียกออกมาก่อนหน้านั้นเล็กน้อย

แน่นอนว่าเหตุผลหลักที่แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วเรียกมังกรลาวาซึ่งไม่ใช่อสูรนักสู้หลัก แต่จะช่วยสร้างภูมิประเทศที่เป็นลาวาซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเขา

แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วสามารถต่อสู้ด้วยพลังเต็มร้อยถ้าเพียงแต่สภาพแวดล้อมมีอุณหภูมิที่สูง

ยิ่งอุณภูมิสูงก็ยิ่งดี

อากาศเย็นยะเยือกที่สาวปีศาจหิมะน้ำแข็งได้สร้างไว้ในสนามต่อสู้จนอุณหภูมิต่ำ ทำให้แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว  หลังจากเรียกมังกรลาวาออกมาเปลี่ยนสภาพพื้นที่  มันจะช่วยเอื้อประโยชน์กับเขามากมาย

นางพญาผึ้งเพลิงเป็นเพียงอสูรแพลตตินัมระดับสิบ  มันไม่ได้ถูกใช้เพื่อโจมตีศัตรูเป็นหลัก  แต่มันสามารถวางไข่ได้ต่อเนื่อง

ตราบใดที่มันอยู่ในลาวาภูเขาไฟได้ มันสามารถวางไข่ได้ไม่สิ้นสุด

ผึ้งทหารที่ฟักออกมาทุกตัวจะมีความแข็งแกร่งเท่านักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่ง  แม้ว่าพลังไฟของผึ้งทหารทุกตัวจะไม่มีประโยชน์ต่อนักสู้ปราณฟ้าก็ตาม  แต่มันยังคงมีความสามารถในการทำลายตัวเอง  แม้แต่นักสู้ปราณฟ้าก็ตกอยู่ในอันตรายได้ เมื่อเผชิญกับพลังทำลายตัวเองของผึ้งทหาร

ถ้าผสานเข้ากับทักษะแฝงเร้นสุสานของแม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่ว  พลังทำลายตนเองนี้จะเป็นทักษะโจมตีที่ไม่ธรรมดา

เมื่ออสูรตัวหนึ่งตาย  ทักษะแฝงเร้นสุสานจะสะสมพลังของอสูรที่ตายไว้หนึ่งในสิบส่วนได้ไม่หมดสิ้น

ข้อบกพร่องเพียงประการเดียวของวิชานี้ก็คือ ความจริงศัตรูจะไม่ถูกตรึงไว้กับที่ ดังนั้นศัตรูก็จะหนีไปได้ง่ายๆ...

แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วไม่ได้เรียกนางพญาผึ้งเพลิงมาจัดการกับฟงจู้และเป่ยฟงเจียสั่ว  เพราะไม่มีใครคอยตรึงศัตรูไว้ และคู่ต่อสู้ก็มีอาวุธสมบัติสำหรับตรึงอย่างเสากักมังกรและโซ่จันทราบั่นเศียรซึ่งเป็นสมบัติที่นางพญาผึ้งเพลิงกลัวมากที่สุด  ถ้าโคเงาไม่เอาโซ่ล่ามเทพออกมาด้วย  แม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่วคงไม่ลงมือโจมตีด้วยตนเอง

ตอนนี้เล่า?

เขารู้สึกโล่งใจ!

ราชันย์พันปีศาจอยู่ที่นั่นคอยหนุนหลังเขา  และศัตรูไม่มีสมบัติอะไรที่จะมาจำกัดนางพญาผึ้งเพลิงมิให้วางไข่ได้  พวกเขาจะต้องชนะศึกนี้แน่นอน

นอกจากนี้  เขามีค้างคาวปีศาจอสูรฟ้าระดับหนึ่ง  มันคืออสูรพิทักษ์ของเขา  ด้วยความสามารถดูดเลือดและพลังคลื่นเสียง  แต่ให้ศัตรูของเขาคือคุณชายสามตระกูลเย่ว์ที่ร่ำลือกันว่าเอาชนะคู่ต่อสู้ที่เป็นนักสู้ปราณฟ้ามาได้  แต่พวกมันก็ยังต้องพ่ายแพ้อย่างมิต้องสงสัย

“คุณชายสาม  ขอร่างของเจ้าให้ข้าเถอะ!  ข้าอยากกลายเป็นมนุษย์มานานแล้ว  ร่างกายที่โดดเด่นของเจ้าคือสิ่งที่ข้ามองหามานาน  ข้าสัญญาว่าจะใช้มันอย่างดี...”  นี่คือคำพูดจากใจของแม่ทัพปีศาจเยี่ยนซั่ว  แม้ว่าเขาจะเป็นปีศาจโบราณ  เขาก็คงไม่สามารถยกระดับมากไปกว่าปราณฟ้าระดับสามแน่  จากนั้นเขาตระหนักได้ว่ารูปแบบชีวิตที่ดีที่สุดก็คือมนุษย์อ่อนแอ ไม่มีชีวิตใดเปรียบเทียบได้  มนุษย์เท่านั้นมีร่างกายที่ดีที่สุดและมีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ดีที่สุด

“ข้าไม่ว่าหรอกในเรื่องนั้น  แต่เจ้าต้องถามอสูรของข้าดูก่อนว่าพวกเขาเห็นด้วยไหม”  เย่ว์หยางเรียกพวกเขาออกมาอย่างต่อเนื่อง นางฟ้านักรบอิคายังไม่ถูกนำออกมาใช้เนื่องจากนางคืออาวุธลับ  เขาต้องการเก็บนางไว้สำหรับรบกับราชันย์พันปีศาจผู้หยิ่งผยองเกินไป

นางพญากระหายเลือด, สาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิง, ตั๊กแตนมัจจุราช, ภูตเพลิงฟ้าถูกเรียกออกมาทีละรายๆ

สุดท้าย เป็นเสี่ยวเหวินหลีที่เก่งที่สุด

เสี่ยวเหวินหลีเรียกเมดูซาศิลา, นางเงือกวายุ, นาคาสายฟ้าและปีศาจอสรพิษน้ำแข็ง

เมดูซาศิลาและนางเงือกวายุเกลียดสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง  พวกนางเตรียมพร้อมต่อสู้ในน้ำ... เมื่อพวกนางออกมา, นางเงือกวายุเป่าสังข์วายุทันที  ดังนั้นเกิดเหตุมหัศจรรย์ทันที  เมฆครึ้มรวมตัวกันในท้องฟ้า  สายฟ้าแล่บแปลบปลาบ ฝนเม็ดหนาตกลงมานับไม่ถ้วน  ด้านหลังนางเงือกวายุ  คลื่นรุนแรงม้วนตัวเคลื่อนเข้ากวาดใส่ภูเขาไฟที่ก็กำลังพ่นลาวาเหมือนกับคลื่นสึนามิ

มังกรลาวาและนางพญาผึ้งเพลิงปล่อยความร้อนต่อต้านอย่างโกรธเกรี้ยว   คลื่นความร้อนทำให้น้ำระเหย

ลาวาจับก้อนแข็งเหมือนกับเป็นเขื่อนกั้นคลื่นสมุทรไว้ได้

น้ำและไฟปะทะกันอย่างรุนแรง

ทันใดนั้นเสียงดังแปลกประหลาดถูกปล่อยออกมา  พื้นที่สนามต่อสู้ทั้งหมดกลายสภาพเป็นพื้นที่ต่อสู้ของน้ำและไฟอย่างน่ามหัศจรรย์

ค้างคาวปีศาจ อสูรฟ้าระดับหนึ่งกระพือปีกและโฉบเข้าหาเย่ว์หยาง  แต่ก่อนที่มันจะได้ปล่อยคลื่นเสียงได้  ปีศาจอสรพิษน้อยจ้องใส่ค้างคาวปีศาจส่งผลให้มันชะงักค้างในท้องฟ้าทันที  นางพญากระหายเลือดปรากฏตัวและปล่อยคลื่นเสียงหวีดกรอกเข้าหูขนาดใหญ่ของค้างคาวปีศาจ

เมื่อแม่ทัพปีศาจเยี่ยนสั่วเตรียมช่วยเหลือค้างคาวปีศาจ  เย่ว์หยางก็มาปรากฏตัวอยู่หน้าของเขา

เย่ว์หยางไม่เคลื่อนไหวและกำลังวางแผนต่อศัตรูของเขา

เย่ว์หยางเผชิญการรบที่ยากลำบากกับศัตรูที่แข็งแกร่งมาหลายครั้งหลายคราแล้ว  การต่อสู้ใหญ่ครั้งแล้วครั้งเล่า  เย่ว์หยางเอาชนะมาได้หมด  และตอนนี้ยังมีอะไรต้องกลัวอีกเล่า?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด