ตอนที่แล้วตอนที่ 578 ราชันย์พันปีศาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 580 รบกัน? มีอะไรต้องกลัว

ตอนที่ 579 แข่งสมบัติ ใครมั่งคั่งกว่ากัน


“มังกรปีศาจแดนสวรรค์” ราชันย์พันปีศาจอัญเชิญคัมภีร์ชั้นศักดิ์สิทธิ์ที่สว่างเจิดจ้าและทาบฝ่ามือกับคัมภีร์เบาๆ  แสงสีทองสว่างวาบขึ้น มังกรปีศาจขนาดมหึมาปรากฏตัวอยู่เหนือศีรษะของเขา  มังกรปีศาจนี้ไม่ใช่อสูรชั้นศักดิ์สิทธิ์  แต่มันมีพลังอสูรฟ้าระดับหนึ่งขั้นสูง  เนื่องจากมันเป็นอสูรประเภทมีปีก  พลังรบของมันจึงไม่ด้อยไปกว่ายักษ์ภูเขาหิมะอสูรฟ้าระดับสองแต่อย่างใด  ตลอดทั้งร่างของมันมีเพลิงสีดำลุกโชน เกล็ดเหมือนทำจากหินอัคนี  เขาแหลมเหมือนหอกปีศาจ  ปีกยามที่กางออกยาวเกือบร้อยเมตร  หัวของมันดูดุร้ายน่ากลัว  นัยน์ตาปีศาจดำมืดลึกเหมือนถ้ำแฝงอันตรายเจือจางเหมือนกับจะกลืนกินชีวิตทุกอย่างได้

เย่ว์หยางยังมีสีหน้าไร้ความรู้สึก  ราชันย์พันปีศาจน่ากลัวอย่างแน่นอน

เขาเป็นเจ้าของคัมภีร์ชั้นศักดิ์สิทธิ์

นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ว์หยางเห็นนักรบมนุษย์ครอบครองคัมภีร์ชั้นศักดิ์สิทธิ์

มังกรแดนสวรรค์คำรามลั่นในท้องฟ้า  มันพ่นเปลวเพลิงเป็นสายยาวมาก  ที่คาดไม่ถึงก็คือมันใช้พลังพิเศษเรียกผลึกอัญเชิญออกมาและเริ่มทำการอัญเชิญ

มังกรไฟยักษ์สามตัวมีขนาดครึ่งหนึ่งของมังกรปีศาจแดนสวรรค์ปรากฏตัวในสนามรบทันทีที่มันถูกอัญเชิญออกมา  พวกมันไม่ใช่อสูรศักดิ์สิทธิ์  แม้ว่าระดับของพวกมันทุกตัวก็ยังเป็นอสูรแพลตตินัมระดับสิบ  แต่ความสามารถต่อสู้ของพวกมันแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่านักรบมนุษย์ อย่างน้อยก็เท่ากับปราณก่อกำเนิดระดับแปด

มังกรฟ้าแดนสวรรค์อสูรฟ้าระดับหนึ่งขั้นสูง  บวกกับมังกรไฟยักษ์ที่มีพลังเท่ากับนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปด

ศึกนี้ควรจะเผชิญหน้ายังไงดี?

แม้ว่าตั๊กแตนมัจจุราชจะถือกำเนิดมาพร้อมกับความสามารถในการต่อต้านสัตว์ตระกูลมังกรและชอบกินมังกร  แต่มังกรปีศาจแดนสวรรค์ไม่ใช่ของขบเคี้ยวของตั๊กแตนมัจจุราชในตอนนี้... นางพญากระหายเลือดก็เชี่ยวชาญในการบิน  แต่นางจะสู้กับมังกรสามตัวอายุพันปีและมังกรอีกตัวที่อายุห้าพันปีได้อย่างไร?  เย่ว์หยางคิดจนหน้าผากย่น  เขาจะเอาชนะมังกรแก่ทั้งสี่ตัวนี้ได้อย่างไร?

“ไมโบนเป็นนักสู้ที่ดี  ข้าหวังว่าคุณชายสามคงชอบเป็นคู่ต่อสู้ให้มัน”  ราชันย์ปีศาจมีแววยินดีอยู่ในดวงตา  เมื่อเห็นว่าศัตรูของเขาจนแต้ม  นั่นเป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเขา

“นายท่าน, อาหมันของอาสาสู้ศึก!”

โคเงาอาหมันออกมาจากโลกคัมภีร์เชิดหน้ายืนอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยาง

ราชันย์พันปีศาจหัวเราะลั่นเมื่อเห็นเช่นนี้

นางโคเงาต้องการจะสู้กับมังกรยักษ์สี่ตัวหรือ?  นี่เป็นเรื่องตลกชัดๆ  แม้แต่มังกรไฟยักษ์ก็สามารถบดขยี้นางได้ง่ายดาย  อย่าว่าแต่ไมโบนมังกรแดนสวรรค์ที่ทรงพลังที่สุดเลย

เย่ว์หยางหลับตาและสูดหายใจลึก  เขาเรียกคัมภีร์ออกมาและซ้อนเงาปีศาจยักษ์บนตัวของอาหมัน  อาหมันมีหัวใจธรณีสารและพลังงานของไตตันโบราณ  นางคือเทพนักรบสตรีที่ไม่มีวันเหนื่อย  ตราบใดที่นางยังคงยืนอยู่กับพื้น  ไม่มีใครเอาชนะนางได้  นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมังกรแดนสวรรค์แน่นอน  แต่ถ้านางทำให้มังกรแดนสวรรค์ถูกตัดกำลังทีละนิดๆ พลังของมันจะหมดได้ในที่สุด

โคเงาอาหมันเหวี่ยงโซ่ล่ามเทพออกไปขณะที่นางระเบิดพลังออกมาด้วยความส่งเสริมจากเงาปีศาจยักษ์

นางลากมังกรฟ้าที่หยิ่งผยองและดีใจลงมากับพื้น

นางล้วงบอลเวทสนามประลองมรณะและทำลายทันที ลากมังกรแดนสวรรค์หายไปพร้อมกัน

เย่ว์หยางไม่รู้ว่าอาหมันจะต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะเอาชนะมังกรปีศาจแดนสวรรค์ที่แข็งแกร่งได้  เขาหวังว่าเนตรมรณะจะสามารถใช้งานได้ทำให้ประหยัดเวลาได้อีกมาก

มังกรยักษ์สี่ตัวและนางโคเงาคู่ต่อสู้หายไปพร้อมกัน  เรื่องนี้ทำให้ราชันย์พันปีศาจโมโหยิ่งขึ้น  เขาคืออัจฉริยะพิเศษที่ไม่มีใครเทียบได้มานานสามพันปี  จึงไม่ยอมรับว่าเขาไม่สามารถเอาชนะเด็กอายุยี่สิบปีทั้งที่เขามีสัตว์ระดับอสูรฟ้าอยู่มากมาย

“เทวทูตตกสวรรค์...”  ราชันย์พันปีศาจต้องการใช้อสูรพิชิตเย่ว์หยางให้ได้

เขาเป็นราชันย์พันปีศาจในโลกนี้ด้วยอสูรนับไม่ถ้วนที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้  ถ้าเขาไม่สามารถข่มเจ้าเด็กนี่ได้  เขาจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร?

เขารู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นเย่ว์หยางเผชิญหน้ากับอสูรของเขาอย่างใจเย็นมากและโต้ตอบความเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขา

จะแข่งกันด้วยอสูรใช่ไหม?  มาดูกันว่าอสูรของใครจะมีมากกว่าและของใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน

ราชันย์พันปีศาจชูมือและรังสีสว่างเจิดจ้าเป็นล้านๆ สายยิงออกมาจากคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์  ภายในรังสีเจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์  เงาร่างดำสายหนึ่งเดินทอดน่องออกมา  ลักษณะของเขาทำให้สนามต่อสู้ถูกเงาทาบทับ  แม้แต่แสงรัศมีก็บดบังจนหายไป เทวทูตมีปีกที่กางออกแล้วยาวมากกว่าสิบเมตร ปรากฏอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยาง  อย่างไรก็ตาม  พลังงานนี้และกำลังของเขาสามารถทำให้แสงหายไปได้

ปีกของเขาดำเหมือนหมึกและขนแต่ละเส้นเหมือนกับธนูดำหรือมีดดำ มีรังสีฆ่าฟันที่รุนแรง

เกราะสมบัติชั้นทองเข้ม กระบี่เทพมารดำสนิท... เทียบกับกระบี่แสงศักดิ์สิทธิ์ต้องคำสาปในมือของเสียงหวี่แล้ว กระบี่เทพปีศาจดูชั่วร้ายและแข็งแกร่งกว่า พลังกระหายเลือดเปล่งออกมาจากคมกระบี่ เหมือนกับว่ากระบี่เทพมารต้องการจะดื่มเลือดมนุษย์

แม้ว่าเทวทูตตกสวรรค์จะมีพลังปราณฟ้าระดับหนึ่ง  แต่ความสามารถของเขาก็ถึงขั้นสุดยอดในพลังปราณฟ้าระดับหนึ่ง  เขามีสายตาที่ดูเฉลียวฉลาด แค่ดูก็รู้ได้ทันทีว่ายากจะรับมือได้

เทวทูตตกสวรรค์ที่มีสติปัญญาน่ากลัวยิ่งกว่าเพชรฆาตโบราณสองตัวเสียอีก

“โห, ศัตรูแบบไหนกันที่ท่านต้องเรียกข้าออกมาด้วย?”  เทวทูตตกสวรรค์ค่อยๆ ลอยลงมาที่พื้น  เขาชี้มาที่เย่ว์หยาง แต่กลับเป็นตาดำของเขาที่มองอยู่แต่ราชันย์พันปีศาจ  “องค์ราชา, เจ้าเด็กไร้ดั้งจมูกบังอาจยั่วท่านหรือ?  อย่าโกรธกริ้วไปเลย  รอเดี๋ยวม่อเฟยจะช่วยท่านฆ่ามัน!  ท่านยังจำได้ไหม?  สามพันปีที่แล้ว มีเด็กหยิ่งยโสคนหนึ่งที่ต้องการท้าทายศักดิ์ศรีของท่าน?  ช่างน่าขัน, อย่าหงุดหงิดไปเลย ราชาของข้า ข้าจะใช้กระบี่ของข้าตัดหัวมันมาให้ท่านเพื่อระงับความโกรธของท่าน!”

“โธ่เอ๊ย...กระเทยนี่หว่า...”  เย่ว์หยางไม่สามารถทนต่อการดัดเสียงของเทวทูตตกสวรรค์  เขาทำหน้าพะอืดพะอมทันที

ไม่มีทางเลือกอื่นเนื่องจากน้ำเสียงนี้อ่อนช้อยอย่างในตำนานขนานแท้

สำหรับคนที่เก็บตัวอยู่ในบ้านตลอดเวลา เย่ว์หยางคงไม่สามารถอดทนต่อคนแบบนี้ได้  แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ในโลก และมันมีเหตุผลของการคงอยู่ของพวกมัน ดังนั้นเย่ว์หยางได้แต่ทำเป็นเหมือนว่าเขาไม่ได้ยิน  ความจริงเขากลัวว่าตัวเองจะติดเชื้อดัดเสียงแบบนี้ไปด้วยถ้าเขาฟังมากเกินไป

เจ้าฮุยไท่หลางดันไม่อยู่ตอนนี้เสียด้วย  ตั๊กแตนมัจจุราชก็ยังอ่อนแอเกินไป  นางพญากระหายเลือดและมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงก็ไม่ต่างกันมาก  ใครจะสู้ในรอบต่อไปกันแน่?

เย่ว์หยางปวดหัว

เขาตระหนักได้ว่าราชันย์พันปีศาจผู้ใช้ชีวิตมานานหลายพันปีเป็นคนบ้าคนหนึ่งแน่แท้

น่าประทับใจมากพออยู่แล้วที่มีอสูรระดับอสูรฟ้า  แต่เขากลับมีเป็นกลุ่ม และทุกตนก็มีพลังมากกว่าตัวก่อนๆ... ขณะที่นางเซียนหงส์ฟ้ากำลังถอนหายใจและเตรียมตัวพบกับศัตรูที่จู่โจมเข้ามา เงาร่างสองร่างวิ่งตรงมาตามทางเดิน

ผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่วกวาดกรงเล็บต้องการสังหารคนทั้งสองที่เข้ามาตามทางผ่าน

แต่สตรีน้ำแข็งขยายตัวขึ้น มันสูงพอๆ กับผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่วที่สูงแปดสิบเมตร สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือเมื่อนางพ่นอากาศเย็นออกมาจากปาก  ทั่วทั้งสนามต่อสู้เปลี่ยนสภาพเป็นโลกหิมะน้ำแข็งทันที  เกล็ดหิมะตกกระจายรอบๆ สายลมเย็นจนถึงขั้วกระดูก  น้ำแข็งจับตัวอยู่บนพื้นอย่างรวดเร็ว ภายในพริบตา  พื้นก็กลายเป็นน้ำแข็งและมีหิมะปกคลุม

ผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่วกำลังมองดูเพลิงใจมือของเขาอย่างตกใจ  มือข้างนั้นแข็งเนื่องจากความเย็น แม้แต่ไฟก็พลอยกลายเป็นน้ำแข็งไปด้วย

ดาบเทพเล่มหนึ่งฟันลงจากเหนือหัวเขา

แม้ว่าพลังของดาบจะยังไม่เพียงพอ  แต่พลังสังหารที่สามารถฆ่าสรรพชีวิตได้ในหนึ่งวินาทีจากดาบก็สามารถขู่ขวัญผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่วได้ จนเขาต้องรีบหลบทันที

เขาไม่โง่พอจะสู้กับอาวุธระดับเทพโดยตรง

แม้แต่ราชันย์พันปีศาจก็มีท่าทีตื่นเต้นทันทีเมื่อเห็นอาวุธระดับเทพนี้

“ดาบเทพจักรพรรดิอวี้จากตำนานน่ะหรือ?”  ราชันย์พันปีศาจถอนหายใจแผ่วเบา  แม้ว่าอาวุธระดับเทพจะอยู่ต่อหน้าเขา  แต่เขารู้ตัวดีว่าเขาไม่มีโอกาสได้อาวุธเทพที่นักดาบสตรีนี้เป็นเจ้าของ

“ข้ามาสายเล็กน้อย เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนผู้กล้าหาญและน่าเกรงขามไม่ได้มองดูราชันย์พันปีศาจและไม่มองทั้งเทวทูตตกสวรรค์ที่พร้อมจะเข้าโจมตีเย่ว์หยางแล้ว  หลังจากนางบังคับผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่วให้ถอยไป  นางเก็บดาบเทพไว้ที่ด้านหลังของนาง และสาวเท้ายาวเข้าหาเย่ว์หยาง  ในสายตานางมีแต่เจ้าเด็กนี่ที่นางทั้งรักทั้งเกลียดพร้อมกันเท่านั้น บางทีอาจเป็นเพราะต้องการเอาชนะไม่อยากแพ้  บางทีอาจเป็นเพราะต้องการปฏิเสธว่านางก็หลงรักเขา บางทีความรู้สึกที่มีต่อเขาคงพัฒนาดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปนาน  อย่างไรก็ตาม  นางไม่รู้ตัวว่าเมื่อใดกันแน่ที่นางเริ่มชอบผู้ชายที่หัวเราะเหมือนกับเป็นคนชั่วร้าย  ถ้าไม่ใช่เพราะเสวี่ยอู๋เสียที่เป็นคู่หมั้น นางยังจะชอบเขาไหม?  ถ้าเขาไม่แตะเนื้อต้องตัวนาง นางยังจะชอบเขาอยู่ไหม?  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่สามารถคลี่คลายเรื่องนี้ได้ นางจึงตัดสินใจเลิกคิด  มีความสุขกับชีวิตที่เรียบง่ายมากกว่าซับซ้อน   แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ตราบเท่าที่นางยังรู้ว่าเขาอยู่ลึกในหัวใจนาง และเป็นคนเดียวที่นางคิดถึง

“องค์หญิง!  ข้าน้อยถูกคนอื่นรังแกจะแย่อยู่แล้ว”  เย่ว์หยางสำออยอย่างน่าสงสาร

“ไม่เป็นไร,  ข้าจะฟันมันแก้แค้นให้เจ้า”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่เคยพูดอะไรอย่างปกติธรรมดา  แต่ต่อหน้าศัตรู  นางคือซือเจ๊นักดาบวังหลวงที่มีความสามารถที่สุด ไม่ใช่แค่แม่เสือสาวที่หยิ่งและเอาแต่ใจ

“ต่อให้เจ้ากระเทยที่น่าตายนั้นยั่วโมโห  แต่ฝีมือเขาก็ไม่เลวนะ  เจ้าจะรับมือเขาได้ด้วยตัวเองไหวไหม?”  เย่ว์หยางกังวลห่วงใยเล็กน้อย

“สาวตระกูลเสวี่ยก็อยู่นี่เช่นกัน”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูด  เสวี่ยอู๋เสียลอยตัวลงมา  ต่างกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่ใช้หมัดของนางทุบอกเย่ว์หยางทักทาย  นางอ้าแขนและกอดเขาไว้และใช้ปากสีดุจเชอรี่จูบแก้มเย่ว์หยาง  “ราชันย์พันปีศาจไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น  ข้าเชื่อว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะเขาได้!  จำไว้เจ้าคือบุรุษที่ข้ารู้สึกว่าโดดเด่นที่สุดในสามโลก”

“ตลกร้าย  พวกเจ้าคิดว่าคำพูดพลอดรักที่ไร้สาระไม่กี่คำจะขู่ขวัญข้าจนถอยหนีได้หรือ?”  เทวทูตตกสวรรค์หัวเราะเย็นชา  หลังจากพูดด้วยความโมโห  “มีเพียงราชาของข้าเท่านั้นเป็นบุรุษที่โดดเด่นที่สุดในโลก  พวกเจ้าทุกคนก็แค่สวะ  ราชาของข้าเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เหมาะกับหอทงเทียนอย่างแท้จริง  และเป็นบุรุษที่แท้จริงที่จะพิชิตโลก”

“เราจะฆ่าเจ้าผู้นี้ก็แล้ว.... ฝีมือของเรามีจำกัด  ดังนั้นเราช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้เอง” เสวี่ยอู๋เสียจูบปากเย่ว์หยาง

รู้สึกตัวเบาว่องเสียเหลือเกิน

จูบของนางทำให้เย่ว์หยางมีไฟและเพิ่มพลังใจให้เขา

ไห่อิงอู่มองดูภาพนี้อย่างอิจฉา  นางก็ต้องการโผเข้าอ้อมแขนเขาและจูบเขาด้วยเช่นกัน

แต่นางรู้ว่ามีสตรีที่โดดเด่นสองคนอยู่ในอ้อมแขนของเขา  ถ้านางต้องการประชันขันแข่งต่อหน้าของทั้งสองคน  นางก็ต้องโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังคงกอดเย่ว์หยาง  แต่เมื่อเย่ว์หยางพยายามจูบปากนาง

นางหันหน้าหลบแล้วให้เขาจูบแก้มนางแทน

ในทางตรงกันข้าม เสวี่ยอู๋เสียนมีสายฟ้าอยู่ในมือซ้ายของนางและน้ำแข็งอยู่ในมือขวานางก็ลอยตัวเข้าหาเทวทูตตกสวรรค์

หลังจากหลุดจากอ้อมกอดของเย่ว์หยาง นางดึงม้วนเวทสนามประลองตัดสินออกมา  ม้วนเวทสนามประลองตัดสินนี้จะส่งตัวพวกเขาไปยังอีกมิติหนึ่ง  แต่ไม่ใช่มิติชนิดเดียวกับบอลเวทสนามประลองมรณะ  พวกนางเป็นคู่หมั้นของเขา  แม้ว่าพวกนางมั่นใจว่าจะฆ่าศัตรูได้  แต่พวกนางก็ต้องระวังแผนของศัตรู  ดังนั้นพวกนางจึงไม่ยินดีเข้าไปในสนามประลองมรณะซึ่งต้องสู้กันจนตายไปข้างหนึ่ง พวกนางกลับเข้าไปในมิติต่อสู้แทนซึ่งเปิดโอกาสให้นางมีโอกาสหลบหนี

เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพบเทวทูตตกสวรรค์  เมื่อม้วนเวทสนามประลองตัดสินถูกเปิดใช้งาน  ทั้งสามคนก็หายไปทันที

“ระวังตัวด้วย...”  ราชันย์พันปีศาจรู้สึกไม่สบายใจทันที  เขาเตือนเทวทูตตกสวรรค์เป็นครั้งสุดท้าย  หวังว่าม่อเฟยจะระมัดระวังระหว่างต่อสู้กับสตรีทั้งสอง ไม่ทำให้เขารู้สึกแย่  พวกเขาดูเหมือนไม่แข็งแกร่งเท่าใด  แต่สัญชาตญาณนักรบของเขาบอกเขาว่า พวกนางอันตรายมาก  อันตรายเกินกว่าที่พวกเขาเห็น

“ผู้อาวุโสราชันย์พันปีศาจ  เจ้ายังมีอสูรฟ้าอื่นๆ อีกบ้างไหม?”  เย่ว์หยางถามขณะหัวเรา  ราชันย์พันปีศาจไม่ตอบสนอง  และเย่ว์หยางเงยหน้าขึ้น  “ถ้าไม่มี งั้นตาข้าบ้างละน่ะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด