ตอนที่แล้วตอนที่ 17-32 ขโมยไก่ไม่สำเร็จเสียข้าวเปล่าๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17-34 ประมุขแปดตระกูลใหญ่

ตอนที่ 17-33 เปาโลไม่เต็มใจยอมแพ้


เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงมาถึงขั้นนี้ ในใจเปาโลไม่อาจยอมรับผลเช่นนี้ได้ “เฮลส์และพี่ชายตายทั้งคู่ ด้วยผลเช่นนี้ฝ่ายของเราสูญเสียอสูรเจ็ดดาวไปสองคน แต่ฝ่ายเผ่ามังกรฟ้าของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่เสียใครสักคน!”

น่าอับอาย!

เมื่อผลของการต่อสู้นี้เป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวาง นี่จะเป็นผลให้สมาชิกคนอื่นของตระกูลดูหมิ่นดูแคลนเขา และประมุขตระกูลคงไม่พอใจเช่นกัน

“แต่คนผู้นี้มีสมบัติมหาเทพ” เปาโลมองดูฟูโซ่ แม้ว่าในใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ แต่เขาก็ต้องยอมรับ ที่สำคัญคือการต่อต้านคัดค้านหมายถึงความตาย! เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย

“ดูจากร่างแปลงของเจ้า เจ้าคงมาจากตระกูลแอ็ชคลอฟท์แห่งแดนยมโลกสินะ” ฟูโซ่มองลงมาจากด้านบน จากนั้นพูดเฉื่อยชา “เมื่อเจ้ากลับไป ข้าฝากคำพูดถึงประมุขตระกูลของเจ้าด้วย บอกว่าแค่ครั้งนี้เท่านั้นข้าจะยอมเห็นแก่หน้าประมุขตระกูลของเจ้า ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่ถ้าครั้งต่อไป เจ้ายังกล้าทำอะไรกับลินลี่ย์สหายข้า อย่างนั้นหึหึ.. หึหึ ใช่แล้ว เจ้าคงนึกผลที่ตามมาออก แค่จำไว้เพียงเรื่องเดียวว่าพวกเจ้าอย่าทำอะไรลินลี่ย์ สำหรับคนอื่น ข้าจะไม่ยุ่ง”

เปาโลใจสั่นสะท้าน

ขณะที่เอ็มมานูเอลทำสีหน้าปั้นยาก เขาชำเลืองมองดูฟูโซ่ “เจ้าคนตัวโตผู้นี้ดูเหมือนมีสัมพันธ์ฉันสหายกับลินลี่ย์ แทนที่จะมีมิตรภาพกับตระกูลของข้า” คำพูดของฟูโซ่ทำให้มีความชัดเจน..

เขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในการสู้รบระหว่างแปดตระกูลใหญ่และตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์

ใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความสงสัย

“ฟูโซ่กับข้า...ในความเป็นจริงแล้วเราพบกันและพูดคุยกันครั้งเดียวคือเมื่อช่วงเวลาที่เขาหลบหนี ความจริงมิตรภาพระหว่างเรายังไม่ลึกซึ้งขนาดนั้น เพื่อประโยชน์ของข้า เขายินดีหันไปเผชิญหน้ากับแปดตระกูลใหญ่หรือ?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ

เป็นไปได้หรือว่าเขามีบารมีขนาดนั้น?

เป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจเหตุผลที่ฟูโซ่จะช่วยข้า แต่การคุกคามประมุขตระกูลฝ่ายศัตรูเล่า? นี่เป็นเรื่องยากจะเข้าใจได้

“ได้, ข้าจะถ่ายทอดคำพูดของเจ้าแน่นอน” ใจของเปาโลยังคุกรุ่นด้วยความโกรธ แต่มองผิวเผิน เขายังคงก้มหน้ายอมรับ ตอนนี้เปาโลกลับคืนร่างเป็นมนุษย์ แม้แต่อสรพิษที่ห้อยอยู่ที่หูของเขาสองตัวก็ยังไม่กล้าส่งเสียงขู่

“ดี, งั้นไสหัวไปได้แล้ว!” ฟูโซ่โบกมือ

เปาโลกลายเป็นแสงพุ่งหายเข้าไปในส่วนลึกของป่าเขาหายลับไปในทันที

หลังจากบินไปได้ราวยี่สิบ หรือสามสิบกิโลเมตร เปาโลลงมายืนบนพื้น หน้าของเขาเริ่มบูดบึ้งด้วยความโกรธ และดวงตาที่เหมือนอสรพิษของเขาเต็มไปด้วยแววน่ากลัว

“หรือว่าข้าจะยอมกลับไปแต่โดยดี? แล้วบอกว่าข้าล้มเหลวในการฆ่าอสูรเจ็ดดาวสักคนหนึ่ง แต่ว่าอสูรเจ็ดดาวของฝ่ายเราตายไปสองคน?” เปาโลโมโห

ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ถ้าผู้อาวุโสอื่นภารกิจล้มเหลว แต่เขาคือเปาโล! คนระดับที่เป็นไม้ตายเด็ดของตระกูล สำหรับเขาที่พบกับผลของการปฏิบัติภารกิจเช่นนี้... สมาชิกอื่นของแปดตระกูลใหญ่คงจะพูดคุยเรื่องนี้ลับหลังเขา

เขาไม่อาจรับความอับอายเช่นนี้ได้!

เมื่อคนมีอายุขัยไม่จำกัดในฐานะที่เป็นสุดยอดฝีมือเหล่านี้ ลึกๆ แล้วเขามักจะเห็นแก่หน้าตาชื่อเสียง

“ไม่ เป็นไปได้ว่าฟูโซ่นั่นอาจจะจากไป เมื่อเขาจากไป... ข้าสามารถเข้าไปสกัดกั้นและฆ่าพวกเขาได้แน่” เปาโลตาเป็นประกาย แม้ว่าเขาจะไม่กล้าฆ่าลินลี่ย์ แต่เขายังกล้าฆ่าเอ็มมานูเอล

“ควั่บ”

พลังมหาเทพของเขากลายเป็นสีใส และทันใดนั้นแผ่ออกไปในระยะหลายสิบกิโลเมตร พบว่าฟูโซ่ ลินลี่ย์และเอ็มมานูเอลทั้งสามคนยังร่วมสนทนากันอยู่

พลังของมหาเทพสามารถใช้เป็นโจมตีวัตถุและสามารถเป็นพลังโจมตีวิญญาณด้วย

เมื่อใช้สำนึกเทพตรวจสอบในความเป็นจริงเป็นแค่การแผ่พลังจิตของนักสู้เท่านั้น

พลังมหาเทพนี้เนื่องจากสามารถเปลี่ยนไปเป็นพลังโจมตีวิญญาณและม่านพลังวิญญาณได้ก็ย่อมใช้สำหรับเป็นสำนึกเทพตรวจสอบได้ และได้ผลที่ดีมาก แม้ว่าระยะและพื้นที่ใช้จะห่างไกลมาก! แต่แน่นอน สุดยอดฝีมือธรรมดาจะยินยอมใช้พลังมหาเทพเพื่อส่งสำนึกเทพตรวจสอบได้ยังไง?

ผลของการใช้พลังมหาเทพตรวจสอบ ก็คล้ายกับมหาเทพตรวจสอบด้วยตนเอง เป็นธรรมดาที่ฟูโซ่ ลินลี่ย์และเอ็มมานูเอลจะไม่ทันสังเกตแม้แต่น้อย

“เฮ้, คนตัวเล็ก, ตอนนี้เจ้ากลับไปก่อน” ฟูโซ่ชี้มาทางเอ็มมานูเอล “ข้ากับลินลี่ย์ไม่ได้พบกันมานานแล้ว เรามีเรื่องต้องคุยกัน รีบกลับไปเลย อะไร, เจ้าต้องการแอบฟังเราพูดกันหรือ เด็กน้อย?”

เอ็มมานูเอลไม่กล้าพูดอะไรต่อ

“ลินลี่ย์, อย่างนั้นตอนนี้ข้าจะกลับไปก่อน” เอ็มมานูเอลยิ้มให้ลินลี่ย์ขณะที่คำนับให้ฟูโซ่ด้วยความเคารพยำเกรง แต่ฟูโซ่เพียงแต่แค่นเสียงทำให้เอ็มมานูเอลค่อนข้างอับอาย

“ผู้อาวุโสเอ็มมานูเอล ขอให้เดินทางโดยปลอดภัย” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น

“ผู้อาวุโสลินลี่ย์ เจ้าจะต้องเดินทางกลับด้วยตนเอง เจ้าต้องระมัดระวังศัตรูด้วยเช่นกัน”

“เดินทางกลับเอง?” เปาโลที่กำลังใช้พลังมหาเทพตรวจสอบอดยิ้มมิได้ และจากนั้นเขาหรี่ตาสีเหลืองหม่นทันที “ต้องต้องรีบแล้ว พลังมหาเทพของข้าเกือบจะหมดแล้ว ข้าต้องฉวยโอกาสที่เวลายังเหลือน้อยนิดนี้ฆ่าเจ้าเอ็มมานูเอล”

เปาโลกลายเป็นประกายแสงไล่ตามไปทันที

หยดพลังมหาเทพหลังจากที่ใช้มาช่วงเวลาหนึ่ง แม้ว่าเปาโลจะไม่ได้ใช้พลังมหาเทพ เขาก็ยังสามารถฆ่าเอ็มมานูเอลได้ง่าย เนื่องจากความจริงก็คือ เวลานั้นเอ็มมานูเอลไม่มีความสามารถสู้โต้ตอบได้แม้แต่น้อย

เอ็มมานูเอลเดินทางกลับไปยังทิศตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ หน้าของเขาหมองคล้ำน่ากลัว

ครั้งนี้เขาต้องการให้ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของลินลี่ย์ถูกฆ่า เป้าหมายเช่นนั้นกลับล้มเหลว แต่นั่นเป็นเรื่องรอง ที่สำคัญยิ่งกว่า.. เขาไม่เพียงแต่ไม่ได้อะไรเลย เขายังต้องใช้หยดพลังมหาเทพออกไปอีกด้วย!

“หยดพลังมหาเทพ... ข้ามีเพียงหยดเดียว!” เอ็มมานูเอลรู้สึกผิดหวังในใจอย่างมาก

ถ้าใครต้องใช้พลังมหาเทพไปแล้ว อย่างน้อยเขาก็ต้องได้ประโยชน์โภคผลมาอวดกัน แต่เขาได้รับอะไรกลับมา?

“บรรพบุรุษตายแล้ว พลังมหาเทพสำรองของตระกูลหมดไปอย่างต่อเนื่อง และในความเป็นจริงเรื่องนี้ดูแลโดยประมุขเผ่า ประมุขเผ่ามักจะลำเอียงต่อข้า... เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะให้หยดพลังมหาเทพกับข้าอีก?”

ขณะที่กำลังบินกลับ เอ็มมานูเอลยังนึกถึงสิ่งที่ต้องทำ

“ทั้งหมดเป็นความผิดของลินลี่ย์ เขาไม่ยอมใช้หยดพลังมหาเทพเพื่อผนึกพลังกับข้าสังหารเปาโล ถ้าเราฆ่าเปาโลได้... ประมุขเผ่าก็อาจจะมอบหยดพลังมหาเทพอีกหยดหนึ่งกับข้าตอบแทนความดีความชอบ” ใจของเอ็มมานูเอลยังคงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

แต่ขณะนั้นเอง....

“เอ๊ะ?” ในทันใดนั้นเอ็มมานูเอลรู้สึกกลัวขึ้นมาในใจ เขาอดหันไปดูไม่ได้ และขณะที่เขาหันนั้นเอง สายฟ้าสีดำดูเหมือนกระแทกใส่เขา พลังน่ากลัวซึ่งเปล่งออกมาจากประกายแสงดำทำให้สีหน้าของเอ็มมานูเอลเปลี่ยนเป็นซีดขาวทันที

“พลังมหาเทพ!” ตาของเอ็มมานูเอลเหลือกถลน

“ปัง!”

ตลอดทั้งร่างของเอ็มมานูเอลระเบิดออก และประกายเทพของเขาร่วงหล่น

ขณะนั้นเอง ร่างหนึ่งปรากฏในกลางอากาศเป็นชายชราศีรษะโล้น นั่นคือผู้อาวุโสเปาโลนั่นเอง

“ฮึ่ม..อย่างน้อยข้าก็ฆ่าอสูรเจ็ดดาวได้ เมื่อข้ากลับไป ข้าก็พอจะมีข้ออ้างให้ตัวเอง” ผู้อาวุโสเปาโลไม่ยินดีจะยอมรับผลเช่นนี้ แต่หลังจากฆ่าเอ็มมานูเอลแล้ว เขาค่อยรู้สึกดีขึ้นมาก เมื่อเขากลับไปรายงาน....

เขาสามารถอธิบายได้สมบูรณ์ว่าเหตุผลที่ลินลี่ย์ไม่ตายเป็นเพราะฟูโซ่ผู้นั้น เขาไม่มีความสามารถทำอะไรในเรื่องนี้ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ฆ่าอสูรเจ็ดดาวได้อีกคนหนึ่ง

“วูบบบ”

แค่เพียงโบกมือ ผู้อาวุโสเปาโลรับแหวนเก็บสมบัติ จากนั้นแค่นเสียงเย็นชา “งั้นเขาก็ยังมีร่างแยกเก็บไว้ที่เทือกเขาสกายไรท์ อย่างนั้นแหวนนี้ไม่มีประโยชน์กับข้า” เขาเพิ่มกำลังเล็กน้อย ก็ทำให้แหวนเก็บสมบัติแตกเป็นเสี่ยง

สำหรับประกายเทพที่ลอยอยู่หน้าเขา ผู้อาวุโสเปาโลไม่สนใจเก็บไว้ เขาไม่สนใจของอย่างนั้น

“เอ๊ะ?”

ผู้อาวุโสเปาโลก้มหน้ามองดู รัศมีที่ล้อมรอบตัวเขาหายไปเกือบหมด

“ไปดีกว่า” ผู้อาวุโสเปาโลฉวยโอกาสบินไปทางทิศตะวันออกและหายลับไปในทันที และขณะที่ผู้อาวุโสเปาโลบินจากไป ร่างสองร่างบินมาทางนี้ เป็นลินลี่ย์กับฟูโซ่

ลินลี่ย์ก้มหน้ามองดูพื้นอย่างระมัดระวัง

เขาคุยกับฟูโซ่อย่างสบายอารมณ์ แต่ทันใดนั้นเขารู้สึกได้ถึงระลอกพลังประหลาดและเขารีบตามไปดูทันที เศษซากศพที่กระจัดกระจายของเอ็มมานูเอลยังคงอยู่บนพื้น ประกายเทพและสมบัติเทพของเขาลอยอยู่กับที่เช่นกัน

“ข้ายังคงมาช้า” ลินลี่ย์กล่าว “เอ็มมานูเอลตายแล้ว” ลินลี่ย์พลิกมือเก็บประกายเทพและสมบัติเทพไว้ในแหวน

“ถ้าเขาตาย ก็ปล่อยให้ตายไปเถอะ มันจะเรื่องใหญ่ตรงไหน?” ฟูโซ่พูดเหยียดหยาม

ลินลี่ย์อดหัวเราะไม่ได้

ตาย?

ลินลี่ย์ไม่ได้รู้สึกเศร้าใจในการตายของเอ็มมานูเอลแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้ช่วงเวลาที่อันตราย เอ็มมานูเอลจงใจทำเป็นไม่ได้ยินลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพเรียก เขาไม่ยอมช่วย คิดหวังว่าเปาโลจะได้ฆ่าลินลี่ย์

“อย่างไรก็ตาม ด้วยความตายของเขา ข้าคงจะพบกับปัญหาเล็กน้อยเมื่อกลับไป” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว เอ็มมานูเอลในตระกูลนั้นค่อนข้างมีสายสัมพันธ์กับคนมาก “ฮึม.. เราจะคอยดูกันต่อไป ที่สำคัญเปาโลเป็นคนฆ่าเขา

เมื่อรู้สึกได้ถึงรัศมีพลังมหาเทพจากทางด้านนี้ ลินลี่ย์สามารถเดาได้ว่านี่เป็นการกระทำของเปาโล

“นี่, ฟูโซ่ ท่านยังพูดไม่จบเลย” ลินลี่ย์หันไปมองฟูโซ่และหัวเราะขณะพูดคุย

“โอว, ใช่แล้ว เมื่อปีนั้นเมื่อข้าไปถึงทวีปมูจา ข้าได้รับสมบัติมหาเทพของข้า” ขณะฟูโซ่พูด เขาเริ่มหัวเราะจนตาหยีอย่างอารมณ์ดี เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกดีใจมาก

ทวีปมูจา? ลินลี่ย์รู้ว่านี่เป็นหนึ่งในห้าทวีปแดนนรก

“ลินลี่ย์, เจ้าเคยเห็นมหาเทพบ้างไหม?” ฟูโซ่พูดทำให้ดูลึกลับ

ลินลี่ย์ส่ายหน้า “ไม่, ข้าเคยเห็นแต่ในบันทึกรูปมหาเทพ อย่างไรก็ตามทั้งหมดที่ข้าเห็นก็เป็นเพียงรูปหน้าเลือนรางจากพลังงาน”

“นั่นแค่ภาพลวงตาที่มหาเทพสร้างขึ้น ไม่ใช่ร่างมหาเทพที่แท้จริง” ฟูโซ่พูดเยาะเย้ย “ลินลี่ย์! นั่นเป็นเรื่องที่เจ้าไม่รู้...เมื่อข้ามาถึงทวีปมูจา ข้าพบกับสุดยอดฝีมือและร่วมประลองกับเขา!”

“ประลองหรือ?” ลินลี่ย์ตะลึง

“ไม่ว่าจะประลองอะไร ข้าก็แพ้!”

ฟูโซ่พูดพลางถอนหายใจ “เราประลองพลังโจมตีวัตถุ ข้าแพ้ ข้าประลองพลังโจมตีวิญญาณ ข้าก็ยังแพ้ เราเลยประลองความเร็ว ข้าก็แพ้อีก.. แม้ในขณะที่ประลองความแข็งแกร่งทางกายภาพที่ข้าภูมิใจ ข้าก็ยังแพ้อีก”

“ท่านแพ้ทุกอย่างเลยเหรอ?” ลินลี่ย์ตกใจ ขณะเดียวกันเขาสามารถคาดว่าความจริงคืออะไรอย่างช่วยไม่ได้

“เพียงแต่ต่อมาข้าถึงพบว่า....

ฟูโซ่หัวเราะ “เขาคือมหาเทพ!”

แม้ว่าลินลี่ย์จะคาดเดาไว้เช่นนี้ แต่เมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาก็ยังตกใจอยู่ดี หลังจากนั้นชั่วขณะ เขาก็หัวเราะลั่น “ฮ่าฮ่า, ฟูโซ่! ท่านประลองกับมหาเทพจริงๆ หรือนี่? ฮ่าฮ่า..”

“ก็ข้าจะไปรู้ได้ยังไงเล่าว่าเขาเป็นมหาเทพ? เขาซ่อนพลังที่แท้จริงไว้ ข้าแค่นึกว่าเขาเป็นเทพชั้นสูงอีกคนหนึ่ง” ฟูโซ่ถอนหายใจ “เขาไม่ได้เปิดเผยอำนาจพลังที่สง่างามของเขาแต่อย่างใด.. แต่ในที่สุด เมื่อเขาถามข้าว่ายินดีจะเป็นทูตของเขาหรือไม่ เขาจึงค่อยแสดงพลานุภาพของมหาเทพออกมา ถึงตอนนั้นข้าจึงได้รู้ว่าเขาเป็นมหาเทพ”

“มหาเทพของธาตุชนิดใด?” ลินลี่ย์ถาม

“มหาเทพธาตุไฟ!”

ฟูโซ่หัวเราะ “ข้าเองเป็นผู้เชี่ยวชาญใช้ไฟ เมื่อข้าประลองกับเขาในเรื่องพลังโจมตี เราทั้งสองใช้พลังโจมตีธาตุไฟ ลินลี่ย์... ข้ามีความรู้สึกว่าตั้งแต่ข้าพบกับเจ้า ข้ามีโชคดียอดเยี่ยมจริงๆ!”

“ครั้งแรกที่ข้าพบเจ้า ข้าหลีกหนีสัญญาทาสนานนับปีไม่ถ้วนได้”

“และจากนั้น แค่เพียงไม่กี่ร้อยปีต่อมา ข้าก็กลายเป็นทูตของมหาเทพได้”

ฟูโซ่ยินดีกับตัวเอง “นี่คือสมบัติมหาเทพที่มหาเทพประทานให้ข้า พลังของข้าเทียบได้กับเทพอสูรมาตั้งแต่แรก ตอนนี้ข้าได้สมบัติมหาเทพมาด้วย ฮ่าฮ่า,, ในทั่วทั้งแดนนรก มีน้อยคนมากที่แข็งแกร่งเหนือข้า

“น้อยคนมากที่เหนือท่านหรือ? ท่านหมายความว่ามีบางคนที่ยังแข็งแกร่งกว่าท่านอีกหรือ?” ลินลี่ย์หัวเราะ

“ข้าก็ว่าไม่กี่คน”

ฟูโซ่กล่าว “ที่สำคัญในแดนนรกมีทูตของมหาเทพอยู่จำนวนหนึ่ง แต่มีน้อยคนมากที่จะมีพลังเทพธรรมชาติทรงพลัง แต่ความจริง ผู้ที่ทรงพลังมากที่สุดกว่าเทพชั้นสูงทุกคนก็คือพารากอน”

ลินลี่ย์พยักหน้า

พารากอนเชี่ยวชาญและหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุได้ทั้งหมด การหลอมรวมเคล็ดความรู้สึกลึกลับห้าเคล็ดและหลอมรวมเคล็ดหกเคล็ดทั้งหมดจนเชี่ยวชาญ.. แม้ว่าจะมีความแตกต่างเพียงหนึ่งเคล็ดความรู้ แต่ความแตกต่างในแง่พลังนั้นมากมายมหาศาล

“ข้าอยู่ในแดนนรกมานานมากแล้ว แต่ข้าไม่เคยเห็นพารากอนแม้แต่คนเดียว” ลินลี่ย์หัวเราะ

“ข้าก็ไม่เคยเหมือนกัน” ฟูโซ่ส่ายศีรษะจนใจ “ก็อย่างที่มหาเทพบอก เทพชั้นสูงระดับพารากอน แม้ในแง่พลังจะด้อยกว่ามหาเทพ ความจริงแม้แต่จำนวนก็ยังน้อยกว่ามหาเทพ..”

ลินลี่ย์เห็นด้วยกับเรื่องนี้เหมือนกัน

“ข้าสงสัย..ถ้ามีคนหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับทั้งหมดได้กลายเป็นพารากอน เป็นผู้ไร้เทียมทานในหมู่เทพชั้นสูง... เขาจะมีพลังแบบไหนกันแน่” ลินลี่ย์ถอนหายใจกับตัวเอง

“ลินลี่ย์, ข้ามีเรื่องหลายอย่างต้องไปจัดการ จะต้องไปเดี๋ยวนี้แล้ว” ฟูโซ่หัวเราะ “สำหรับตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า อย่าไปสู้กับพวกเขาอย่างโง่เง่าไม่หยุดหย่อน ป้องกันตัวเองและฝึกฝนพลังตนเองให้ก้าวหน้าก่อน” หลังจากพูดเสร็จฟูโซ่ก็บินจากไป

ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ มองดูฟูโซ่จากไป

“ได้เวลากลับแล้ว” ลินลี่ย์ก้มหน้ามองดูศพของเอ็มมานูเอลบนพื้น จากนั้นบินตรงไปที่ภูเขาสภายไรท์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด