ตอนที่แล้วตอนที่ 17-33 เปาโลไม่เต็มใจยอมแพ้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17-35 ภัยคุกคามใหญ่!

ตอนที่ 17-34 ประมุขแปดตระกูลใหญ่


หุบเขาอ่างโลหิต

“วืดดด!” เอ็มมานูเอลในตอนนี้กำลังบินด้วยความเร็วสูงผ่านไปตามหุบเขาอ่างโลหิต นักรบอื่นภายในหุบเขาอ่างโลหิตอดจ้องมองไม่ได้ งงขณะที่เอ็มมานูเอลบินผ่านไปด้วยความเร็วสูง

“นี่คือผู้อาวุโสเอ็มมานูเอลแห่งเผ่ามังกรฟ้าไม่ใช่หรือ? ทำไมเขาอยู่ในอาการเร่งร้อนอย่างนั้น?”

“ไม่รู้ ต้องมีเรื่องด่วนเกิดขึ้น”

นักรบภายในหุบเขาอ่างโลหิตอดพูดคุยกันเองไม่ได้

ตอนนี้เอ็มมานูเอลไม่สนใจคำพูดนินทาของคนอื่น หัวใจของเขาเหมือนกับมีไฟร้อนรุ่มคุกรุ่นไปด้วยความโกรธ เขาตรงไปยังที่อยู่ของฟอร์ลันบิดาของเขา

“โครม!” ประตูถูกผลักเปิดออก

ฟอร์ลันนั่งดื่มน้ำชาอยู่ในห้องตนเองเงียบๆ เขาอดเงยหน้าด้วยความสงสัยไม่ได้ “เอ็มมานูเอล, เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”

เอ็มมานูเอลไม่พูดอะไร แต่กระแทกปิดบานประตู

“ปัง!” เอ็มมานูเอลคุกเข่าข้างหนึ่ง เข่าของเขากระแทกพื้น แม้แต่พื้นที่แข็งก็ยังแตกจากแรงกระแทกนั้น

“เอ็มมานูเอล เจ้าเป็นอะไรไป...” ฟอร์ลันยืนขึ้นทันที

“ท่านพ่อ!” เอ็มมานูเอลเรียกด้วยความเศร้าและโกรธ

“มันเกิดอะไรขึ้น?” ฟอร์ลันรู้สึกสังหรณ์ไม่ดี...

“ร่าง..ร่างแยกธาตุน้ำของข้าตายแล้ว! เป็นเพราะเจ้าลินลี่ย์! เป็นเพราะมัน!!!” เอ็มมานูเอลกล่าว ร่างของเขาสั่นไปทั้งตัว “ทั้งหมดเป็นเพราะมัน! ตอนแรกเขาจงใจปฏิเสธการร่วมมือ และจากนั้นเขาแยกทางกับข้า!”

“ร่างแยกธาตุน้ำของเจ้าตาย?”

ใจของฟอร์ลันว่างเปล่าไปครู่หนึ่ง บุตรชายของเขามีร่างเพียงสองร่าง หนึ่งเป็นร่างแยกธาตุน้ำ อีกหนึ่งเป็นร่างแยกธาตุลม พลังของร่างแยกธาตุลมของเขายังธรรมดา และไม่สามารถหลอมรวมเคล็ดลึกลับอะไรได้

บุตรของเขาไม่มีโอกาสปรับแต่งประกายเทพธาตุน้ำและฟื้นคืนพลังระดับเดิมของเขาได้

“เกิดอะไรก็ขึ้น? อธิบายให้ชัด” ฟอร์ลันรีบกล่าว

“ได้, ท่านพ่อ”

หน้าของเอ็มมานูเอลเต็มไปด้วยความโกรธ ตอนนี้เขาพบคนจะระบายความในใจจึงเริ่มพูดถึงรายละเอียดทันที เพียงแต่เมื่อคำพูดออกมาจากปากของเอ็มมานูเอล เรื่องก็ถูกเปลี่ยนไป เหมือนกับว่าทุกอย่างเป็นการกระทำของลินลี่ย์ เขาพยายามทำร้ายเอ็มมานูเอล

ตำหนักมังกรฟ้า ชั้นที่ห้าในห้องข้าง

ประธานผู้อาวุโสนั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิบนเสื่อฝึกอยู่เงียบๆ ทันใดนั้นประธานผู้อาวุโสขมวดคิ้ว และลืมตาขึ้น “ทำไมพวกเขาสองคนถึงมาที่นี่?” ประธานผู้อาวุโสยืนขึ้นและเดินไปที่โถงใหญ่ทันที

“ประธานผู้อาวุโส!” เสียงของฟอร์ลันดังขึ้น

และจากนั้น ฟอร์ลันและเอ็มมานูเอลเข้ามาในโถงใหญ่ชั้นที่ห้า

“พวกเจ้ามีอะไร ถึงได้รีบร้อนกันขนาดนี้!” ประธานผู้อาวูโสตวาดเสียงเย็นชา น้ำเสียงแสดงความไม่พอใจ

“ประธานผู้อาวุโส ร่างแยกธาตุน้ำของเอ็มมานูเอลตายแล้ว” ฟอร์ลันพูดอย่างแตกตื่น

“เอ๊ะ?” ประธานผู้อาวุโสตกใจ นางมองเอ็มมานูเอลอย่างช่วยไม่ได้ “เอ็มมานูเอล เจ้ากับลินลี่ย์ไปรับภารกิจด้วยกันไม่ใช่หรือ? นอกจากนี้ เจ้ากับลินลี่ย์ยังมีหยดพลังมหาเทพด้วย”

“ปัง!” เอ็มมานูเอลคุกเข่าลงอย่างแรง

“ท่านประธานผู้อาวุโส ลินลี่ย์กับข้าเผชิญกับอสูรเจ็ดดาวสามคน ทุกคนล้วนแข็งแกร่งมาก หนึ่งนั้นคือผู้อาวุโสเปาโลแห่งตระกูลแอ็ชครอฟท์” เอ็มมานูเอลรีบกล่าว

หน้าของประธานผู้อาวุโสเปลี่ยนไป “เป็นเขาจริงๆ หรือ? ด้วยสถานะของเขา เขาควรจะมีหยดพลังมหาเทพ”

“อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้ากับลินลี่ย์ใช้พลังมหาเทพของพวกเจ้าทั้งคู่ร่วมสู้กัน ต่อให้เปาโลใช้พลังมหาเทพ เจ้าทั้งสองเมื่อผนึกกำลังกัน ก็น่าจะเอาชีวิตรอดมาได้” ประธานผู้อาวุโสกล่าว

“เจ้าลินลี่ย์นั่นเอาแต่มองข้าตายโดยไม่ยอมช่วยอะไร!”

เอ็มมานูเอลรีบกล่าว “เมื่อข้าตกอยู่ในอันตราย เขาไม่ยอมช่วยแม้แต่น้อย หลังจากมียอดฝีมือคนหนึ่งปรากฏตัวและสั่งให้เปาโลหยุดการโจมตีชั่วคราว ยอดฝีมือผู้นั้นสั่งให้เปาโลจากไป ดังนั้นข้าจึงคิดว่าข้าปลอดภัยแล้ว จากนั้นลินลี่ย์พูดว่าเขามีเรื่องจะคุยกับยอดฝีมือผู้นั้น ดังนั้นให้ข้าจากไปก่อน”

“ข้าไม่ได้สงสัยอะไร ดังนั้นจึงออกมาก่อน แต่ใครจะคาดคิดกันเล่าว่า...” เอ็มมานูเอลเต็มไปด้วยความโกรธและความเศร้าเสียใจ “ประธานผู้อาวุโส ขณะที่ข้าจากไป ข้าถูกเปาโลลอบทำร้ายอีกครั้งและฆ่าข้า ประธานผู้อาวุโส... มันต้องเป็นแผนของลินลี่ย์แน่ เขาต้องแอบส่งสำนึกเทพบอกเปาโลให้ซุ่มทำร้ายข้า มิฉะนั้น...เปาโลจะสามารถจากไป และจากนั้นกลับมาลอบทำร้ายข้าได้ยังไง?”

ประธานผู้อาวุโสได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้ว

“สำหรับลินลี่ย์ไม่ช่วยเหลือให้เร็วแสดงว่าเขาจงใจให้เจ้าเป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการโจมตีครั้งต่อมาของเปาโล...ไม่มีทางที่พิสูจน์ได้ว่าลินลี่ย์ใช้สำนึกเทพส่งข่าวให้เปาโลหรือไม่” ประธานผู้อาวุโสพูดด้วยเสียงเบา “แม้ว่าลินลี่ย์จะไม่ช่วยเจ้า ที่สำคัญเจ้าไม่ตาย ความตายของเจ้าเป็นเพราะการโจมตีของเปาโล ไม่อาจถือได้ว่าลินลี่ย์เป็นต้นเหตุ”

“ประธานผู้อาวุโส!” เอ็มมานูเอลแตกตื่น

แม้ว่าประธานผู้อาวุโสจะมีศักดิ์เป็นย่าของเขา แต่นางใจแข็งมากและไม่รู้สึกอะไร ต่อให้ฟอร์ลันเป็นบุตรของนาง นางก็ยังวางตัวเป็นประธานผู้อาวุโสอยู่ดี

“ประธานผู้อาวุโส คิดดูสิ ถ้าลินลี่ย์ไม่มีความตั้งใจฆ่าเอ็มมานูเอล ร่างแยกธาตุน้ำของเอ็มมานูเอลจะตายได้อย่างไร?” ฟอร์ลันพูดอย่างแตกตื่น “ทำไมเขาไม่กลับมาพร้อมเอ็มมานูเอล? ทำไมเขาต้องแยกกันด้วย? แม้ว่าเขาต้องการจะพูดกันเป็นส่วนตัว จะไม่ให้เอ็มมานูเอลรออยู่ใกล้ๆ หรือไง?”

“นอกจากนี้ เปาโลนั้นถูกยอดฝีมือลึกลับสั่งให้ออกไป.... ทำไมเขากล้ากลับมาโจมตีเล่า? เขาต้องถูกลินลี่ย์เรียกตัวมาแน่” ฟอร์ลันพูดอย่างบ้าคลั่ง

แต่พวกเขาทุกคนลืมไปอย่างหนึ่ง...

เปาโลหลังจากใช้พลังมหาเทพ เขายังสามารถใช้พลังมหาเทพตรวจสอบได้

“ประธานผู้อาวุโส” ฟอร์ลันพูดอย่างร้อนรน

ประธานผู้อาวุโสอดมองดูเอ็มมานูเอลไม่ได้

“ปัง!” ฟอร์ลันคุกเข่าทันที เขาพูดอย่างร้อนรน “ท่านแม่!!!”

ประธานผู้อาวุโสตัวสั่น ตั้งแต่นางสั่งให้ฟอร์ลันเรียกนางเป็น ประธานผู้อาวุโส นับเป็นเวลานานหลายปีแล้ว ตอนนี้บุตรของนางเรียกนางในฐาน ‘แม่’ อีกครั้ง

“ท่านแม่! เอ็มมานูเอลเป็นลูกคนเดียวของข้า ตอนนี้ร่างแยกธาตุน้ำของเขาตายไปแล้ว สำหรับร่างแยกธาตุลมของก็เพิ่มพลังได้ยาก ทั้งที่ผ่านมานานนับปีไม่ถ้วนแล้ว! ท่านแม่, อนาคตหลานชายของท่านแหลกสลายเพราะลินลี่ย์ ท่าน.. ท่านเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยได้ยังไง....”

ขณะที่เขาพูด ฟอร์ลันเริ่มเช็ดน้ำตา

ประธานผู้อาวุโสรู้สึกว่าใจนางสั่นสะท้าน

ถ้านางต้องการลงโทษลินลี่ย์เล็กน้อย นางสามารถลงโทษเขาบางส่วนได้

“ท่านแม่!!!” ฟอร์ลันเร่งรัดอีก

ประธานผู้อาวุโสมองดูบุรุษสองคนต่อหน้านาง คนหนึ่งเป็นบุตรของนาง และอีกคนเป็นหลานชาย ประธานผู้อาวุโสสูดหายใจลึก จากนั้นพูดเบาๆ “ลุกขึ้นเถอะลูก”

ยากนักที่ประธานผู้อาวุโสจะแสดงอารมณ์ออกมา และภายในตระกูลนางมักจะให้ความรู้สึกว่าเย็นชาและไร้ความรู้สึก

อย่างไรก็ตาม.....

นางยังคงเป็นมารดา ลึกลงไปในจิตวิญญาณนาง ยังคงมีส่วนที่อ่อนโยนมาก นางไม่ใช่คนใจชาด้านและไร้ความรู้สึก

ฟอร์ลันและเอ็มมานูเอลได้ยินเช่นนี้ก็ดีใจ

“ท่านแม่ ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของลินลี่ย์ตอนนี้ยังอยู่ในภูเขาสกายไรท์ เราสามารถสอบปากคำเขาได้ทันที” ฟอร์ลันรีบพูด “เผ่ามังกรฟ้าเราควรสามัคคีและทำงานด้วยกัน แต่ลินลี่ย์กล้ากระทำการเช่นนั้น แม้ว่าเราจะไม่ประหารเขา แต่เราต้องลงโทษเขาให้หนัก”

“ใช่แล้ว ต้องลงโทษเขาให้หนัก”

เอ็มมานูเอลรีบกล่าว “นอกจากนี้ แหวนที่เขามีตอนนี้ เป็นผู้เยาว์รุ่นหลังแต่ถือครองแหวนมังกรฟ้าของบรรพบุรุษ? แหวนมังกรฟ้าควรเป็นสมบัติของท่านย่า ต่อให้ท่านไม่ต้องการ ก็ควรยกให้ท่านพ่อ”

ประธานผู้อาวุโสเงียบ

“ท่านแม่, เราจะส่งคนไปเรียกตัวลินลี่ย์มาได้ไหม?” ฟอร์ลันรีบพูด

ร่างหลักและร่างแยกของธาตุลมของลินลี่ย์อยู่ในสนามรบข้างนอก ขณะที่ร่างแยกธาตุไฟ ธาตุน้ำและธาตุดินยังคงอยู่ในภูเขาสกายไรท์ พวกเขาสามารถเรียกมาสอบปากคำได้ทันที

“จะรีบร้อนทำไม?”

ประธานผู้อาวุโสชำเลืองมองพวกเขาแต่ละคน “ต่อให้ข้าลงโทษเขา จะให้ข้าลงโทษร่างแยกเหล่านั้นหรือ? ร่างหลักของลินลี่ย์ยังไม่กลับมา”

ฟอร์ลันและเอ็มมานูเอลค่อยรู้สึกตัวทั้งคู่

“ใช่แล้ว เราไม่ควรสอบสวนเขาตอนนี้ มิฉะนั้น ถ้าเราสอบสวนร่างแยกเขา เขาอาจจะกลัวจนให้ร่างหลักของเขาหนีไป นั่นนับว่าไม่คุ้มกันเลย” เอ็มมานูเอลรีบกล่าว ขณะที่เอ็มมานูเอลและฟอร์ลันเห็น คุณค่าของร่างแยกของลินลี่ย์ยังด้อยกว่าคุณค่าร่างหลักมากมาย

ที่สำคัญ...

โดยทั่วไปมีความแตกต่างในเรื่องพลังระหว่างร่างแยกของยอดฝีมือ ที่สำคัญที่สุดก็คือพลัง

ภายในเขตแดนของแคว้นอินดิโก สถานที่ซึ่งสี่ในแปดตระกูลใหญ่ประจำอยู่

ประมุขตระกูลแอ็ชครอฟท์ซึ่งย้ายมาที่นี่จากแดนยมโลกในเวลานี้กำลังคุยกับร่างแยกธาตุน้ำของเปาโล ที่สำคัญคือร่างแยกวิถีมรณะอยู่ในระหว่างเดินทางกลับ

“เปาโล! เจ้าว่าเขามีสมบัติมหาเทพงั้นหรือ?” ตาของประมุขตระกูลแดงฉาน และคิ้วของเขาดูน่ากลัวมาก ผมสีเขียวอ่อนของเขายาวจนถึงเข่า และมีงูสีเขียวสองตัวห้อยอยู่ที่หูของเขากำลังจ้องมองเปาโล

คนผู้นี้...

คือประมุขตระกูลแอ็ชครอฟท์ และเป็นบรรพบุรุษของเผ่าอสรพิษอเวจี! ยอดฝีมือที่ทรงพลังที่สุดของเผ่าอสรพิษอเวจี

“ถูกแล้ว, ท่านพ่อ สมบัติมหาเทพประเภทไฟ มันน่ากลัวมาก” เปาโลพูดด้วยความเคารพ “เขาขอให้ข้าส่งข้อความถึงท่าน เขาบอกว่าเขาไม่ฆ่าข้าเพราะเขาเห็นแก่หน้าท่าน แต่ถ้าในอนาคต เรากล้าแตะต้องลินลี่ย์ อย่างนั้นผลตอบรับจะเป็นเช่นไร... เราสามารถไปคิดเอาเอง”

“ฮึ..บังอาจนัก”

ประมุขผู้นี้แค่นเสียงเย็นชา

“สมบัติมหาเทพของเขาเป็นธาตุไฟ เขาน่าจะเป็นทูตของมหาเทพธาตุไฟ” ประมุขเผ่าอสรพิษอเวจีไตร่ตรองเรื่องนี้ จากนั้นเขาอดตะคอกไม่ได้ “ไปเยือนตระกูลโบลีนพร้อมกับข้า”

“ขอรับ ท่านพ่อ”

ทันใดนั้นประมุขเผ่าอสรพิษอเวจีพาเปาโลไปตระกูลโบลีนที่อยู่ใกล้ๆ

ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มีเผ่ามังกรฟ้าเป็นผู้นำ ขณะที่แปดตระกูลใหญ่ผูกเป็นพันธมิตรชั่วคราว ปัจจุบันนี้ ตระกูลที่ทรงพลังที่สุดก็คือตระกูลโบลีนแห่งแดนสวรรค์เป็นผู้นำของพวกเขา

ตำหนักแสงสว่าง ตระกูลโบลีน

ตำหนักแสงสว่างสูงเกินร้อยเมตรมีเสามากมายเปล่งแสงขาวนวลคอยค้ำอยู่ ตอนนี้ที่ด้านนอกตำหนักแห่งนี้ เปาโลยืนนิ่งกับที่ด้วยความเคารพ ขณะที่ภายในตำหนักมีคนนั่งอยู่แปดคน

แปดคนเหล่านี้เป็นประมุขของแปดตระกูลใหญ่!

จะพูดให้ถูกยิ่งกว่าก็คือ สี่คนเป็นร่างจริงของประมุขตระกูล ขณะที่อีกสี่เป็นร่างหุ่นของผู้นำอีกสี่ตระกูลที่อยู่ห่างออกไปอีกฟากหนึ่งของแคว้นอินดิโก ร่างแยกหุ่นนี้ก็คือโกเล็มมัจจุราชซึ่งบรรจุสำนึกอยู่ภายใน

เหตุผลที่พวกเขาใช้โกเล็มมัจจุราชที่นี่ก็เพื่อที่พวกเขาสามารถประชุมปรึกษาเป็นกลุ่มได้

เปาโลรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการสู้รบครั้งนี้ด้วยความเคารพ หลังจากพูดเสร็จเขาพูดสรุป “นั่นคือเรื่องทั้งหมด!”

เสียงพูดคุยปรึกษาของแปดประมุขตระกูลใหญ่ได้ยินชัดจากภายใน

“ไรเนล! ตระกูลของเจ้าอยู่ในแดนนรกมาตลอด เจ้าน่าจะคุ้นเคยกับยอดฝีมือผู้นี้ เจ้าเคยได้ยินชื่อฟูโซ่มาบ้างไหม?”

“ฟูโซ่?” ข้าไม่เคยได้ยินชื่อแบบนั้นในแดนนรกมาก่อน”

“ไม่สำคัญ ถ้าเขามีสมบัติมหาเทพประเภทอาวุธ เขาก็เป็นทูตของมหาเทพแน่นอน!”

“แล้วยังไงเล่า ถ้าเขาเป็นทูตของมหาเทพ? ถ้าเขากล้าลงมือกับแปดตระกูลใหญ่เราอย่างป่าเถื่อนและบังคับเราจริง เราก็แค่ฆ่าเขา... ตราบใดที่เราไม่ได้เป็นคนลงมือก่อน มหาเทพที่อยู่เบื้องหลังเขาก็จะไม่ตำหนิเรา!”

เปาโลได้ยินเช่นนี้ก็อดลอบสะดุ้งในใจไม่ได้

อย่างไรก็ตาม เปาโลยังคงรู้ว่าบรรดาตระกูลใหญ่แปดตระกูล มีเจ็ดตระกูลที่เป็นทูตมหาเทพ มีตระกูลที่แปดไม่ได้เป็นทูตมหาเทพ แต่ก็ยังครอบครองสมบัติมหาเทพ ความจริง ตระกูลที่แปดเป็นตระกูลที่ทรงพลังที่สุดในหมู่พวกเขา

ที่สำคัญ..

ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ก็มีสมบัติมหาเทพเช่นกัน

เนื่องจากแปดตระกูลใหญ่กล้าลงมือกับตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะไม่มีอำนาจของตนอย่างเพียงพอได้ยังไง?

“ต้องอีกนานเท่าใดกว่าข้าจะมีสมบัติมหาเทพกับเขาด้วย?” เปาโลคิดในใจ อย่างไรก็ตาม เขาเข้าใจว่าต่อให้ประมุขตระกูลทั้งแปดไม่มีสมบัติมหาเทพ พวกเขาก็ยังแข็งแกร่งเหลือเชื่อ พูดให้ถูกก็คือพวกเขาแข็งแกร่งเกินไป...

จนพวกเขาถูกสังเกตเห็นและได้รับคุณค่าก็จะได้รับสมบัติมหาเทพ

ในใจของเปาโล...

ประมุขตระกูลทั้งแปดมีศักดิ์ศรีสูงส่ง ความจริงเป็นเรื่องธรรมดาที่ทูตมหาเทพสูงส่งเหนือกว่าคนอี่น

“อย่าเร่งสร้างศัตรูใหม่!” เสียงแหบแห้งดังขึ้นเป็นเชิงตำหนิจากในตำหนัก “เราไม่มีความจำเป็นต้องกลัวฟูโซ่ผู้นั้นแต่อย่างใด ตอนนี้ข้าสงสัยอีกคนหนึ่งมากกว่า”

“เปาโล” เสียงดังมาจากข้างใน

เปาโลคำนับทันที

“ข้าขอถามเจ้าเรื่องนี้ เมื่อเจ้าเห็นลินลี่ย์ผู้นั้น เจ้าเองเชื่อว่าเขาเป็นเทพแท้อย่างนั้นหรือ? เจ้าไม่ได้รู้สึกถึงรัศมีเทพชั้นสูงจากเขาหรือ?” เสียงแหบแห้งจากในตำหนักดังขึ้น

“ขอรับ ข้าไม่รู้สึกอะไร ข้าส่งสำนึกเทพไปตรวจสอบ แต่รู้สึกได้แต่เพียงว่าเขาเป็นเทพแท้” เปาโลกล่าว

เสียงแหบแห้งดังอีกครั้ง “ใช่แล้ว, ข้าคุ้นเคยกับพลังของเปาโล ตระกูลแอ็ชครอฟท์ของเจ้าเชี่ยวชาญในพลังวิญญาณมาแต่เริ่มแรก ขณะที่เปาโลเป็นหนึ่งในสมาชิกชั้นสูงของตระกูลเจ้า และมีความสำเร็จในพลังวิญญาณในระดับสูง จำนวนผู้คนในแดนนรกมีผู้สามารถซ่อนพลังของพวกเขาและเปาโลตรวจไม่ได้แทบจะนับได้ด้วยมือข้างเดียว คนที่มีพลังระดับนี้.... ไม่น่าจะอ่อนแอกว่าข้า ถ้าลินลี่ย์น่ากลัวขนาดนั้นจริง การฆ่าเปาโลสำหรับเขาก็คงเป็นเรื่องง่าย”

“แต่เขาทำไม่ได้! และในความเป็นจริง ก็เป็นฟูโซ่ที่มาช่วยเขาไว้”

“ข้ามีความสงสัย! ข้าสงสัยว่าลินลี่ย์ผู้นี้คงจะเป็นเทพแท้จริงๆ! เหตุผลที่วิญญาณของเขาแข็งแกร่งทนทานก็คือเขามีสมบัติมหาเทพประเภทปกป้องวิญญาณ!” เสียงแหบแห้งดังขึ้น

“เขาเป็นแค่เทพแท้จริงๆ หรือ? ประมุขตระกูลโบลีน อย่าล้อเล่นแบบนั้นเลย” ใครบางคนพูดขึ้นทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด