ตอนที่แล้วตอนที่ 109 MEDA (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 111 ราคาของโลหิตและน้ำตา (อ่านฟรี)

ตอนที่ 110 จอมแฟ็บ (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 110 จอมแฟ็บ

แม็กนัสรู้สึกขอบคุณมากที่พวกผู้เสพความตายเงียบไปตั้งแต่เขากระทืบพวกมันด้วยหอกของเหล่าเซนติเนล

วันเวลาของเขาในฮอกวอตส์ตอนนี้กำลังดำเนินไปอย่างสงบสุข เนื่องจากเขาใช้เวลาทั้งหมดไปกับการศึกษา หนึ่งเดือนผ่านไปกุมภาพันธ์ก็ใกล้เข้ามา

"พวก ฉันนี่อย่างเกลียดวิชาดาราศาสตร์เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ" รักนาร์บ่นอย่างเหนื่อยล้า

“อ่าวฉันก็นึกว่าสักวันหนึ่งนายอยากจะไปดวงจันทร์นี่” แม็กนัสถาม

รักนาร์ส่ายหัว "งั้นนายอยากจะกินแพนเค้กหรือศึกษาโครงสร้างโมเลกุลของมันมากกว่ากันล่ะฮะ?"

“เค เก็ตละ ฉันก็ต้องกินมันอยู่แล้ว ว่าแต่เซฟอยู่ไหนล่ะ?” แม็กนัสถาม

พวกเขามองไปรอบๆ ไม่เจอเขาเลย ชั้นเรียนต่อไปจะเป็นวิชาปรุงยาและหมอนั่นน่าจะอยู่แถวๆ นี้สิ

*ตึก ตึก*

ในขณะที่พวกเขากำลังมองไปรอบๆ รักนาร์ก็หยุดกะทันหันพลางสะกิดแมกนัสด้วย

“ดูนั่นสิ...” รักนาร์พูดด้วยน้ำเสียงต่ำ

แม็กนัสหันไปมอง เขาแทบลืมหายใจจริงๆ สเนปอยู่ข้างหน้าพวกเขาเนี่ยแหละแต่ เดินเคียงข้างลิลลี่ด้วย เขายิ้มขณะที่เธอก็กำลังหัวเราะด้วย

“หมอนั่น... เล่าเรื่องตลกให้เธอฟังหรือเปล่า?” แม็กนัสสงสัย

“ดูเขาสิ เขาถือหนังสือให้เธอ เราต้องหาชื่อเล่นให้เขา อืม... ไอ้เด็กหื่นสุดกากกระโปกหมาไม่มีใครเอา อ้อสั้นๆ จอมแฟ็บ” รักนาร์แสดงความคิดเห็น

“ปู้ดดด… มีอะไรผิดปกติในหัวนายหรือไง? ไมมักมาพร้อมกับเรื่องโง่ๆ อยู่เรื่อยเลย” ถึงแม็กนัสพูดอย่างนั้นเขาก็ขำอยู่ดี

รักนาร์แก้ตัว "เฮ้ ครั้งนี้ฉันพูดถูกนะ ดูเขาสิ ถือหนังสือให้เธอแล้วคอยเทียวไล้เทียวขื่อเธอราวกับทาสอย่างงั้นอ่ะ"

"ตามพวกเขาไป พวกนั้นน่าจะไปที่ชั้นเรียนปรุงยา" แม็กนัสตัดสินใจ

พวกเขาแอบเคลื่อนตัวตามไปห่างๆ แต่ก็ยังอยู่ในจุดที่มองเห็นได้ชัดเจน ไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องเรียน ขณะที่พวกเขาเข้ามา เซเวลรัสกับลิลลี่ก็แยกกันไปนั่งคนละที่ บ้านใครบ้านมัน

แม็กนัสรีบโผล่หน้าไปหาเขา "นี่คือสิ่งที่นายทำทำ? ทิ้งพี่น้องแล้วไปหาสาว?"

“เด็กกระโปรกหมา คนทรยศ” รักนาร์แสดงความคิดเห็นจากด้านหลังแม็กนัส

"ฉันแค่ทำตามที่นายเคยบอกเท่านั้น เธอเป็นนักปรุงยาที่เก่งที่สุดในโรงเรียนรองจากฉัน ฉันอยากตั้งกลุ่มเรียนและสอนวิชาปรุงยาให้นักเรียนคนอื่นๆ ไง" เซเวอรัสชี้แจง

"เฮ้! ฉันต่างหากเป็นนักปรุงยาที่เก่งที่สุดในโรงเรียน... *อ้าปากค้าง* เดี๋ยวนะ! นั่นมัน... หนังสือของฉันเหรอ?" รักนาร์สังเกตเห็นหนังสือข้างกายลิลลี่ที่เซเวอรัสถืออยู่ก่อนหน้านี้

“นี่นายแอบเอาหนังสือของฉันไปโดยไม่ถามได้ยังไง...นี่มันผิดนะเฟ้ย” เขาท้วง

เซเวอรัสเย้ยหยัน “แล้วนายคิดจะทำอะไรกับมันล่ะ? นายอ่านมันจบตั้งแต่เดือนแรกที่เข้าเรียนแล้ว แล้วฉันก็ขอนายไปแล้ว เมื่อเช้านายก็พึมพับรับคำไง”

“นายก็รู้ว่าสิ่งที่ฉันพูดตอนนอนนั้นไม่สามารถจริงจังได้” รักนาร์แย้ง

แม็กนัสหัวเราะเบา ๆ “ช่าย นายจำไม่ได้หรอว่าครั้งหนึ่งเขาเคยลองกินแชด เพราะคิดว่าแมวฉันเป็นไก่ แชดผู้น่าสงสารบอบช้ำมาก”

เซเวอรัสเห็นด้วย "หมอนี่ก็นอนเหมือนท่อนซุงจริงๆ นั่นแหละ ไงก็เหอะฉันหนังสือกับเธอเพราะเธอถามฉันว่ามีเล่มไหนไม่ได้ใช้ไหม เธอจะบริจาคให้โรงเรียน เพื่อให้นักเรียนยากจนได้ใช้เมื่อพวกเขามาโรงเรียน"

รักนาร์สงบลงทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น "เอ่อ.. ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร นายให้หนังสือไปก็ได้ ที่จริงฉันก็มีหนังสือสำรองอีกสองสามเล่มด้วย ฉันจำทุกอย่างในนั้นได้หมดแล้ว”

*แค็กๆ*

“เรามาเริ่มคลาสกันเลยดีไหม?” ซลักฮอร์นเข้ามาในห้องเรียน

*ตู้ม*

ยังไม่ทันได้เริ่มเรียน เสียงระเบิดก็ดังขึ้นแล้ว แม็กนัสหันไปมองว่าเป็นใคร และก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจมส์และซิเรียส

ซลักฮอร์นขมวดคิ้ว "โอ้ที่รัก... คุณสองคนต้องมีความรักอย่างสุดซึ้งกับการกักบริเวณนะ"

ทั้งสองเกาหัวอย่างเขินอาย ซิเรียสพูดขึ้นว่า "เราแค่พยายามศึกษาฮะศาสตราจารย์"

"แน่นอน การพยายามศึกษายาสูดลมหายใจมูลสัตว์นั้นสำคัญมากสำหรับหลักสูตรของโรงเรียนคุณแบล็ค หักกริฟฟินดอร์ 5 คะแนน มาเริ่มกันเลย” เขาลงโทษพวกเขาและกลับไปสอน

“ตอนนี้พวกนั้นกำลังวางแผนอะไรกันอีกน่ะ?” แม็กนัสกระซิบ

“ใครจะไปรู้ ฉันแค่หวังว่าพวกเขาจะไม่มีวันสร้างมันได้สำเร็จ แต่ถ้าสำเร็จ ฉันหวังว่าฉันจะไม่ใช่เป้าหมาย” รักนาร์พึมพำ

ชั้นเรียนก็น่าเบื่อเช่นเคย แม็กนัส พยายามปรุงยานี่อยู่ 2 ครั้ง ผลลัพท์ก็ประมาณค่าเฉลี่ย ในขณะที่เซเวอรัสกับรักนาร์ เบื่อจนไม่อยากเชื่อ

แต่ต่อไปคือชั้นเรียนวิชาคาถาที่แม็กนัสรออยู่ ชั้นเรียนนั้นง่ายมากสำหรับเขา และหลังจากนั้น เขาก็ไปหาศาสตราจารย์ฟลิตวิก

“ศาสตราจารย์ครับ ผมอยากรู้ว่าอาจารย์เก่งในดวลประลองเวทกันขนาดไหนหรอครับ?” ที่เขาถาม แม้ว่าเขาจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่เขาแค่อยากปล่อยให้ฟลิตวิกโม้อย่างนอบน้อมและรู้สึกดี

“โอ้ ในที่สุดเธอก็ถามเรื่องนี้ ฉันรู้ว่าวันนี้จะมาถึง ฉันเป็นแชมป์การต่อสู้ของพ่อมด คุณเพนดราก้อน” ฟลิตวิกตอบอย่างภาคภูมิใจจากเก้าอี้สูงของเขา ซึ่งทำให้ความสูงของเขาอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยของผู้ใหญ่

แม็กนัสยิ้ม "งั้นศาสตราจารย์ครับ ผมสงสัยว่าเราจะเริ่มชมรมประลองเวทกันเองในโรงเรียนได้ไหมครับ เพราะท้ายที่สุดแล้ว คนเรามักจะจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นเมื่อเราได้สัมผัสกับตัวเองจริงๆ ประสบการณ์นี้สามารถช่วยอนาคตที่สดใสของเราได้เช่นกัน

ลองนึกดูนะครับว่าวันหนึ่ง กระประลองเวทกลายเป็นกีฬา กีฬาที่มีกฎห้ามใช้คาถาอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต เช่นเดียวกับที่มักเกิ้ลสร้างกีฬาที่ปลอดภัยจากรูปแบบการต่อสู้โบราณมากมาย แล้วพวกมันก็เป็นที่นิยมมากทั่วโลก

แล้วทำไมเราไม่ลองไม่จัดการแข่งขันการประลองทุกปี ผมจะสนับสนุนด้วยเงินรางวัลสำหรับอันดับที่ 1, 2 และ 3” แม็กนัสแนะนำ

ศาสตราจารย์ฟลิตวิก ลูบคางขณะคิด แม็กนัสสำทับเสริมเข้าไปอีกเพื่อปิดดิล

“ลองนึกภาพตามนะครับศาสตราจารย์ อาจารย์อาจถูกเรียกว่าบิดาผู้สร้างกีฬา การดวลในอนาคต คนในโลกเวทมนตร์ทั้งหมดจะรู้จักชื่อของอาจารย์” เขาวาดภาพที่สวยงามในหัวของ ฟลิตวิก ทำให้เขาตื่นเต้นเช่นกัน

"แน่นอน เป็นความคิดที่วิเศษมาก คุณเพนดราก้อน กีฬาประลองกันที่มีการควบคุม มันจะดีขึ้นไปอีกถ้าแชมป์เปี้ยนคนแรกจะเป็นเธอ ทายาทแห่งเมอร์ลิน” ตอนนี้ ฟลิตวิก เข้าร่วมอย่างเป็นทางการแล้ว

จากนั้นแมกนัสก็ถามขึ้นว่า "แล้วเราจะหวังว่าจะจัดได้เมื่อไหร่หรอครับ?"

“ฉันจะตั้งชมรมของโรงเรียน ตอนเธอกลับมาฮอกวอตส์ในปีหน้า เธอจะพบว่ามันเป็นกิจกรรมนอกหลักสูตรของโรงเรียน” ฟลิตวิกสัญญา

เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เขาก็กลับไปที่หอพักเพื่อเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง

"ฉันไม่ร่วมนะ" รักนาร์ปฏิเสธทันที แม็กนัสเข้าใจความกังวลของเขา เขาไม่มีพรสวรรค์ด้านคาถา และถ้าเขาต้องดวลเวทกัน หมอนี่จะถูกโยนออกไปนอกสนามในเวลาไม่กี่วินาที

แต่แม็กนัสให้กำลังใจเขาว่า "งั้นนายก็ต้องพัฒนารูปแบบการต่อสู้ใหม่ นายลืมไปหรือเปล่าว่าตัวเองเป็นใคร? ลืมไปหรือเปล่าว่าเป้าหมายในชีวิตของนายคืออะไร? เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น นายต้องเรียนรู้วิธีต่อสู้ นายลืมดาบที่ฉันให้นายไปแล้วหรอ? ตอนนี้มันถูกลงคาถาจากก็อบลินแล้ว ใช้มันนำล่องสิ นายจะหาโอกาสแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วนะ”

แรงผลักดันจากเพื่อนเป็นสิ่งที่ร้ายกาจ รักนาร์ตกลงที่จะลองดู ดังนั้น พวกเขาจึงเริ่มรอคอยวันที่พวกเขาสามารถเอาชนะเด็กคนอื่นๆ ได้อย่างถูกกฎหมาย

วันต่อมา แม็กนัสตื่นแต่เช้าเพื่อออกกำลังกายยามเช้า จากนั้นเขาก็ไปที่ห้องโถงกลางเพื่อรับประทานอาหารเช้า วันนี้มีชั้นเรียนไม่มากนักและจะเป็นวันพักผ่อนของนักเรียนส่วนใหญ่

ในไม่ช้าจดหมายและพัสดุก็เริ่มเข้ามา น่าแปลกที่ แม็กนัส, เซเวอรัส และ รักนาร์ ทั้งสามคนได้รับพัสดุที่มีขนาดใกล้เคียงกัน

รักนาร์รีบเปิดมันก็พบโน้ตเล็กๆ อยู่ด้านบน

"ลองพายแอปเปิ้ลเลมอนใหม่ของดิฉันสิเจ้าคะที่รัก ดิฉันหวังว่าพวกคุณจะชอบ

ด้วยรัก คุณยายมาร์ธา"

แม็กนัสยิ้มกว้าง “ฮิฮิ เธอเหมือนคุณยายจริงๆ เลยแฮะ ฉันเดาว่าเธอคงพลาดเรื่องนี้กับหลานแมวไร้ประโยชน์ของเธอ”

*หง่ำ หง่ำ หง่ำ*

เซเวอรัสกินไปแล้ว "รสชาติดีมาก คุณยายมาร์ธาทำอาหารได้สุดยอด น่าจะเปิดร้านอาหารได้เลยนะ"

“งั้นก็หวังว่าดั๊กจะไม่อ้วนเกินไปนะ” แม็กนัสพูดติดตลก

พวกเขากำลังเพลิดเพลินกับอาหารอย่างมีความสุขในขณะที่พูดคุยกัน ห้องโถงเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย ทันใดนั้น ดัมเบิลดอร์ร่างสูงโปร่งก็ปรากฏตัวขึ้นหลังโต๊ะของแม็กนัส

เขาเดินไปข้างหน้าวางมือข้างหนึ่งไว้บนไหล่ของเขา "คุณเพนดราก้อน เธอช่วยตามฉันไปที่สำนักงานข้างๆ ได้ไหม เธอสองคนมาด้วยก็ได้”

แม็กนัสตกตะลึง ทำไมดัมเบิลดอร์ถึงดูเหมือนไม่ใช่ดัมเบิลดอร์

~เขาโกรธเรื่องกางเกงในหรือเปล่า?~ เขาสงสัย

ท่ามกลางเสียงพูดคุยและบ่นพึมพำของทุกคนที่นั่น แม็กนัสและเพื่อนๆ ของเขาก็ตามดัมเบิลดอร์ไป

เมื่ออยู่ในที่ส่วนตัว ดัมเบิลดอร์วางหมวกลงราวกับแสดงความเศร้าโศก เขาเข้ามาใกล้แม็กนัสและตบไหล่

แม็กนัสรู้สึกเป็นลางไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาถามอย่างกระวนกระวายว่า "เกิดอะไรขึ้นครับ อาจารย์"

ดัมเบิลดอร์แสดงอารมณ์เศร้าที่หาได้ยาก "แม็กนัส พ่อของเธอ... มีเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างการตรวจสอบตามปกติของเขา"

ราวกับว่าโลกว่างเปล่าและเงียบงัน หัวใจของแม็กนัสเต้นเร็วจนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองดังลั่น ช่วงเวลาทั้งหมดที่เขาใช้กับพ่อของเขาแวบเข้ามาในหัวของเขา เสียงหัวเราะทั้งหมด ช่วงเวลาที่สนุกสนานทั้งหมด พวกมันเข้ามาย้ำเตือนทันทีว่าเขารักพ่อและแม่มากแค่ไหน

"ข-เขาโอเคไหมครับ?" เขาถามตะกุกตะกักด้วยความเป็นห่วงถึงที่สุด

“ฉันก็ไม่รู้ เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันทีที่มันเกิดขึ้น ฉันมาที่นี่เพื่อพาเธอไปที่นั่น” ดัมเบิลดอร์เปิดเผย

แม็กนัสพยักหน้าและพยายามอย่างที่สุดที่จะสงบสติอารมณ์ในขณะที่พยายามจะไม่นึกถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุด

สเนปยังคงหนักแน่นถามคำถามสำคัญ "เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ ศาสตราจารย์?"

ดัมเบิลดอร์มองแม็กนัสพลางถอนใจ “มีการระเบิดเกิดขึ้น”

ทันใดนั้น แม็กนัสกำหมัดแน่น เหตุผล สถานการณ์ และผู้คนทุกประเภทเริ่มปรากฏขึ้นในใจของเขา เขาเริ่มคิดถึงทุกคนที่อาจมีเหตุผลที่จะทำร้ายครอบครัวของเขา และจากเรื่องราวที่ผ่านมา เขากำลังจะได้ข้อสรุปที่จะไม่ส่งผลใดๆ ต่อความสุภาพจากคนข้างกายของเขา ในครั้งนี้มีใครบางคนต้องตาย คำถามคือใครล่ะ นี่เป็นคำถามเดียวที่เหลืออยู่

“กรุณาพาผมไปที่นั่นโดยด่วนเลยครับ ศาสตราจารย์ ตอนนี้เลยครับ!” เขาร้องขอ

“จับแขนฉันไว้ พวกเธอสองคนก็มาด้วย” ดัมเบิลดอร์ส่งสัญญาณให้รักนาร์และเซเวอร์รัส เขารู้ว่าสองคนนี้จำเป็น เพื่อให้แม็กนัสสงบสติอารมณ์หากมีเรื่องน่าสลดใจเกิดขึ้น

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

ที่เพจถึง vip สุดท้ายแล้วนะจ๊ะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด