ตอนที่แล้วตอนที่ 110 จอมแฟ็บ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 112 การตัดสินใจของแม็กนัส (อ่านฟรี)

ตอนที่ 111 ราคาของโลหิตและน้ำตา (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 111 ราคาของโลหิตและน้ำตา

มันเป็นวันปกติสำหรับอดัมและเกรซ พวกเขาตื่นขึ้นมาตอนเช้าเหมือนคนอื่นๆ กอดกันแล้วก็ลุกขึ้นไปเตรียมตัว

มันเป็นวันที่เป็นเลขคี่ของเดือน และนั่นหมายความว่าอดัมจะต้องเตรียมอาหารเช้า ในขณะที่เกรซจะต้องเตรียมเครื่องแบบสำหรับพวกเขา นี่คือวิธีที่พวกเขาจัดการกับวิถีชีวิตของพวกเขา

“วันนี้ฝ่าบาทจะเสวยอะไรดีพะย่ะค่ะ” อดัมถามขำๆ ขณะที่เขาลุกขึ้น

เกรซหัวเราะหึๆ “คุณทำอาหารเก่ง จะทำอะไรก็ได้ค่ะ และตั้งแต่เราเริ่มกินน้ำยาที่รักนาร์มอบให้ เราก็มีสุขภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย”

“ใช่ รักนาร์เป็นเด็กดี น่าเศร้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเขา แต่เราจะต้องทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่บ้านให้ได้เลยที่รัก” อดัมกล่าวว่า

“ตามนั้นค่ะ โอเคที่ เร็วเข้า วันนี้ฉันมีเคสผ่าตัดในอีก 2 ชั่วโมงนะคะ” เกรซผลักเขา

ในไม่ช้าทั้งสองก็ออกจากบ้านหลังใหญ่ด้วยรถยนต์คนละคัน อดัมไปถึงที่ทำงานเพื่อตรวจสอบว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง วันนี้ เขาควรจะไปตรวจดูห้องปฏิบัติงานที่สำนักงานใหญ่ของกองพลร่มที่ 16 แห่งกองทัพบกอังกฤษ เป็นการตรวจสอบโรงงานขนาดเล็ก ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีผู้ใต้บังคับบัญชามากนัก มีแค่ผู้ช่วยและพลขับอย่างละคน พวกเขาขึ้นรถเรนจ์โรเวอร์ที่ออกโดยกองทัพและไปถึงที่ตั้งในเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง

เขาเกลียดงานด้านนี้ของเขา เขาเป็นวิศวกร ผู้ศึกษาและสรรสร้างเครื่องจักร แต่เขารู้ว่าการตรวจสอบเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าโรงงานปฏิบัติการของกองทัพอยู่ในสภาพดี

เขาลงจากรถและไปทำงานทันที แต่ในขณะที่เขาไม่อยู่ รถของเขาจอดอยู่ในที่จอดรถ มีใครบางคนทำบางอย่างกับมัน หลังจากตรวจสอบเสร็จ พวกเขาก็กลับมาที่รถพร้อมกับเจ้าหน้าที่อีก 20 คนซึ่งชะเลียอดัมเพราะเขาเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง

หลังจากรับวันทยหัตถ์แล้วเขาก็ไปที่รถ คนขับรถเข้าไปข้างในก่อน

“วันนี้ฉันมีธุระที่ต้องไปไหนอีกไหม?” อดัมถามผู้ช่วยของเขา

"ไม่มีครับท่าน เราเสร็จงานสำหรับวันนี้แล้วครับ"

“ดี ฉันมีงานต้องทำที่ออฟฟิศ กลับกันเถอะ อ่า เดี๋ยวนะ... ไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า” อดัมสั่ง

เมื่อได้ยินเขา คนขับก็รับคำเข้าใจว่าเขาต้องขับรถไปที่ใด เขาเสียบกุญแจเข้ากับสวิตช์กุญแจแล้วหมุน

*ตู้มมม*

...

ดัมเบิลดอร์หายตัวมาอยู่บนหลังคาของอาคารของโรงพยาบาลที่อดัมถูกนำตัวมาในแผนกฉุกเฉิน ดัมเบิลดอร์เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดมักเกิ้ลด้วยเวทมนตร์บุกเข้ามา

แม็กนัสและคนอื่นๆ ตามมาติดๆ

“ฉันหวังว่าเขาจะมีของวิเศษอยู่กับตัวนะ” แม็กนัสพึมพำ

ไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องไอซียู มีทหารสองคนยืนเฝ้าอยู่นอกห้อง ดัมเบิลดอร์ไม่พูดอะไรเขาเข้ามาโดยไม่มีใครสังเกต อาจจะเป็นของวิเศษก็ได้

แต่ก่อนที่ดัมเบิลดอร์จะเข้ามา แม็กนัสก็เดินผ่านข้างเขาและวิ่งเข้าไป

วินาทีที่เขาเข้าไป เขาเห็นแม่ของเขานั่งอยู่ข้างเตียง ขณะที่อดัมอยู่บนเตียง คลุมด้วยผ้าพันแผลตั้งแต่หัวจรดเท้า ขณะที่เครื่องจักรต่างๆ ส่งเสียงดังรอบๆ ตัวเขา ตอนนี้เขายังไม่ได้สติ

“แม่ฮะ...” เขาเรียกเกรซ

เธอหันไปหาเขาและน้ำตาไหล เธอวิ่งไปหาเขาและกอดเขาแน่น "ที่รัก ขอบคุณที่มานะจ๊ะ"

“พ่อเป็นยังไงบ้างฮะ?” เขาถามจากอ้อมกอดของเธอ

เกรซควบคุมตัวเองได้อย่างรวดเร็ว "โดยรวมแล้วเขายังดีอยู่จ่ะ กระดูกหักและผิวหนังไหม้จำนวนมาก ใจของเขาช็อกระหว่างการระเบิดนั้น และไม่รู้ว่าเขาจะฝื้นมาตอนไหน แม่คิดว่าพวกของวิเศษที่ลูกให้เราช่วยชีวิตเขาไว้ แต่ผู้ช่วยและคนขับเสียชีวิตทันที"

แม็กนัสพยักหน้าและค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้พ่อของเขา เขาจับมือเขาไว้ "ใครทำครับ?"

เขายังคงคิดว่ามันน่าจะเป็นราชวงศ์หรือไม่ก็พวกผู้เสพความตาย แต่การวางระเบิดเป็นรูปแบบของการโจมตีแบบมักเกิ้ล ส่วนพวกพ่อมดมักจะโจมตีโดยตรง

*ก๊อกก๊อก*

การพูดคุยของพวกเขาหยุดลงเมื่อมีชายคนหนึ่งเข้ามา เขาอยู่ในชุดลำลองของพนักงานออฟฟิศ

“ผมชื่อเฮนรี่ จากหน่วยข่าวกรองทางการทหาร ผมได้รับคำสั่งให้นำแฟ้มนี้มาให้คุณพร้อมจดหมายฉบับนี้” เขาพูดและยื่นแฟ้มให้เกรซ เขามองแม็กนัสจากมุมหางตาและออกจากห้องไปทันทีที่เขามา

เกรซเปิดไฟล์และอ่านทันที ในทางกลับกัน แม็กนัสอ่านจดหมายฉบับนั้นให้คนในห้องฟัง

"ถึง แม็กนัส แกรนท์ เอมริส เพนดราก้อน, ฉัน อลิซาเบธ ที่ 2 เขียนสิ่งนี้เพื่อชี้แจงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฉันหรือครอบครัวของฉัน มันเป็นอาชญากรรมที่ก่อโดยบางกลุ่มที่ก่อความรำคาญมาระยะหนึ่งแล้ว Intel จาก Intelligence จะถูกส่งต่อไปยังท่าน เพื่อให้ท่านสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ฉันจะอธิษฐานให้บิดาของท่านหายป่วยโดยเร็ว...”

แม็กนัสอ่านและปิดมันหลังจากนั้นไม่นาน “แม่ครับ ขอดูไฟล์หน่อยได้ไหมครับ”

เธอได้อ่านมันเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่แม็กนัสเริ่มอ่าน เซเวอร์รัสและรักนาร์ก็เข้ามาอ่านใกล้เขา

ปรากฎว่าการโจมตีนี้ไม่ได้วางแผนจากราชวงศ์และก็ไม่ใช่พวกผู้เสพความตาย

"พวกเวร IRA นี่ใคร?" รักนาร์ถามทันทีเพราะตอนนี้เขาโกรธมากเช่นกัน สเนปก็มีเครื่องหมายคำถามทั่วใบหน้าเช่นกัน แต่ดัมเบิลดอร์ถอนหายใจอยู่ข้างหลังเขา

แม็กนัสอ่านรายงานต่อ ยิ่งอ่านยิ่งโกรธ ผลปรากฎว่าอดัมไม่ได้เป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีด้วยซ้ำ การวางระเบิดในครั้งนี้ที่จริงเกิดขึ้นเพื่อตอบโต้เหตุการณ์วันอาทิตย์ทมิฬ การสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม ในพื้นที่บ็อกไซด์ของเมืองเดอร์รี ไอร์แลนด์เหนือ เมื่อทหารอังกฤษก่อเหตุยิงพลเรือนไป 26 คนระหว่างเดินขบวนประท้วงต่อต้านการกักขังโดยไม่มีการพิจารณาคดี

สถานที่ที่อดัมไปคือสำนักงานใหญ่ของกองพลร่มที่ 16 ซึ่งเป็นกองพลเดียวกันที่รับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคม

ผู้ก่อการร้าย IRA แค่มองหาเป้าหมายที่มีมูลค่าสูงพอที่จะเป็นสิ่งที่สร้างข่าวใหญ่โตได้ และโชคไม่ดีที่อดัมไปอยู่ที่นั่น พร้อมชุดเครื่องแบบทหารเต็มยศ ดูเป็นคนสำคัญเพราะมีเจ้าหน้าที่มากมายเดินล้อมหน้าล้อมหลังอยู่รอบตัวเขา

พวกผู้ก่อการร้ายจึงเลือกเขาและวางระเบิดในรถ ในเหตุการณ์นี้มีคนเสียชีวิตทั้งหมดเพียงสองคน ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่อดัมรอดมาได้ นอกเหนือจากนี้ มีเจ้าหน้าที่อีก 20 นายคอยดูอดัมอยู่ พวกเขาทั้งหมดได้รับบาดเจ็บในระดับหนึ่งโดยมีเพียงรายเดียวที่อาการวิกฤต

แม็กนัสไม่ได้ตอบคำถามของ รักนาร์ แม้ว่าเขาจะไม่รู้เรื่อง IRA มากนักและสิ่งที่เกิดขึ้นในไอร์แลนด์เหนือ

ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือประชาชนผู้บริสุทธิ์กำลังสูญเสียชีวิตของพวกเขา เพราะดูเหมือนจะไม่สามารถทนกับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่นับถือศาสนาเดียวกันกับพวกตัวเองได้ แต่เขารู้ดีว่าเขาจำเป็นต้องรู้มากกว่านี้เพราะข้อมูลน้อยก็อันตราย

แต่การแก้แค้นไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของเขาในตอนนี้ การปลุกพ่อของเขาให้ตื่นคือสิ่งสำคัญ

“ไม่ต้องห่วงนะฮะแม่ ผมจะช่วยพ่อเอง” แม็กนัสพูดและขยับเข้าไปใกล้ร่างไร้สติของอดัม

เขาค่อยๆ บังคับดวงตาของอดัมให้เปิดขึ้นเล็กน้อย

"แม็กนัส นี่ลูกทำบ้าอะไร-..." เกรซต้องการจะตำหนิเขาแต่ถูกดัมเบิลดอร์ห้ามไว้เพราะเขารู้ว่าแม็กนัสกำลังทำอะไร ทำไมเขาถึงมั่นใจในแม็กนัสงั้นหรอ? เพราะเขาเห็นแม็กนัสเคยทำการพินิจใจกับโทมัส เชลบีในความทรงจำของโทมัส

แม็กนัสพินิจใจของอดัมอย่างอ่อนโยน เขาเริ่มเห็นความทรงจำบางอย่าง แต่สิ่งที่เขามองหาคือสิ่งที่อดัมกำลังรู้สึกอยู่ในใจอย่างต่อเนื่อง นี่มันเป็นพื้นที่ว่างหรือความทรงจำกันนะ?

ไม่นานนัก เขาก็พบความทรงจำอดัมที่วัยเพียง 5 ขวบนั่งอยู่บนเบาะหลังของจักรยานคันใหญ่โดยมีชายอีกคนปั่นมันช้าๆ

พวกเขาปั่นกันไปตามถนนที่ตัดผ่านส่วนที่ถูกทำลายของเมืองจากการทิ้งระเบิด สงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงจุดสูงสุด ณ จุดนี้ และชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องง่ายยิ่งสำหรับคน

ยุโรป มีเพียงเศรษฐกิจของอเมริกาเท่านั้นที่เติบโตรวดเร็ว เพราะพวกเขาอาศัยอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยซึ่งมีเพียงญี่ปุ่นเท่านั้นที่กล้าโจมตี ทั้งที่โผล่มาแค่ครั้งเดียว

แม็กนัสเห็นความทรงจำที่เผยออกมา อดัมตัวน้อยน่ารัก แต่เขามีผมยุ่งและเสื้อผ้าสกปรก เขาจับเสื้อของพ่อตัวเองแน่นในขณะที่มองไปรอบๆ ซากปรักหักพังของเมืองด้วยดวงตากลมโต

นี่เป็นครั้งแรกที่แม็กนัสได้เห็นปู่ของเขา เขาเคยได้เห็นเพียงรูปถ่ายจนถึงตอนนี้ ในไม่นานเขาก็ได้ยินปู่ของเขาพูดกับพ่อเขาตอนเด็ก

"อดัมลูกเอ๋ย ลูกคงจะไม่ชอบใจคิดว่าทำไมพ่อถึงจน ทำไมซื้อขนมเหมือนเด็กคนอื่นไม่ได้ พ่อขอโทษนะ ที่พ่อทำให้ครอบครัวของเราล้มเหลวเพราะไม่สามารถหาเงินเพิ่มได้ ตอนนี้ลูกอาจจะยังไม่เข้าใจคำพูดของพ่อ แต่จงจำไว้เสมอนะลูก

การเกิดเป็นคนจนเป็นเรื่องปกติ แต่การตายอย่างยากจนนี่สิถือเป็นความผิดของลูกทั้งหมด และลูกโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวลูกเอง สำหรับลูก การศึกษาคือหนทางสู่ชีวิตที่ดีขึ้น สักวันหนึ่ง สงครามนี้จะต้องจบลง ประเทศนี้จึงต้องการคนหนุ่มสาวที่เฉลียวฉลาดเพื่อแบกรับประเทศไว้บนหลังของพวกเขาและกลับคืนสู่ความรุ่งเรืองดังเช่นในอดีต

"หึ... นี่ฉันพูดพล่ามอะไรกับเด็ก 5 ขวบ? อดัม วันนี้พ่อจะช่วยหาช็อกโกแลตแท่งให้ลูกนะ อยากได้ไหม?" เขาถามด้วยความรัก

อดัมตัวน้อยส่งเสียงเชียร์อย่างมีความสุข "ฮะ พ่อ หนูชอบช็อกโกแลต"

*เสียงไซเรนโจมตีทางอากาศ*

"อ้า! ไอ้พวกเวรนาซีเอ๋ย เราใกล้จะถึงบ้านแล้ว จับแน่นๆ นะอดัม" เขากำชับลูกชายแล้วปั่นกลับบ้านเร็วขึ้น

แม็กนัสเห็นทุกอย่างคลี่คลายแล้ว เขาตระหนักว่าชีวิตในตอนนั้นไม่ต่างจากนรกจริงๆ และพ่อของเขาก็เคยเจอวันที่แย่ๆ แบบนี้มาแล้ว เขาตระหนักว่าเขาโชคดีและได้รับสิทธิพิเศษตั้งแต่เด็กเพราะเขาเกิดมากับพ่อแม่ที่ทั้งรักและประสบความสำเร็จทั้งสองคน

เมื่อความทรงจำกำลังจะจบลง เขาพบว่าอดัมกำลังเข้านอนในตอนกลางคืน การทิ้งระเบิดสิ้นสุดลงแล้วและโชคดีที่วันนี้บ้านของพวกเขายังไม่พังทลาย เตียงของเขาวางไว้ในห้องครัวเพราะไม่มีห้องว่าง มันเป็นเตียงพับที่พวกเขาวางไว้ตรงนั้นทุกคืน

อดัมเพียงแค่จ้องมองไปที่เพดาน ไม่มีใครแม้แต่แม็กนัสไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในใจของเด็กน้อย เขาแค่เหม่อลอยธรรมดาๆ หรือมีอะไรที่ซับซ้อนกว่านั้นนะ?

"เรียนหนักหรอ?" อดัมพึมพำกับตัวเอง

"ฉันจะทำให้ได้!" เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่ในวินาทีต่อมาและมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าปูที่นอน

*พรึบ*

แต่จู่ๆ แม็กนัสก็พบอดัมตัวน้อยกำลังถอดผ้าห่มออกและหันศีรษะไปทางแม็กนัสอย่างกับอดัมร่างเด็กมองเห็นเขา

แม็กนัสรู้สึกราวกับว่าเขามองเห็นได้จริงๆ แล้ววินาทีต่อมาเขาก็รู้สึกขนลุก

“แม็กนัสหรอ?”

ทันทีที่เรียกชื่อ เขาก็รู้สึกว่าสติถูกดึงกลับมา

ขณะที่เขากำลังจะจากไป เขาเพียงฉากเดียวเท่านั้น หนึ่งมาจากวินาทีที่ระเบิดเพิ่งระเบิด มีความกลัว ความโกรธ และความเสียใจในความทรงจำนั้น ขณะที่อดัมพยายามปกปิดใบหน้าของเขาจากการระเบิดของไฟที่กำลังจะมาถึง ขณะที่ในใจของเขามีเพียงความคิดเดียวเท่านั้นที่จะเกิดขึ้น "ฉันยังตายไม่ได้...ยังไม่ใช่ตอนนี้!"

ฉากต่อไปที่แม็กนัสเห็นคือฉากที่เกรซและอดัมกำลังคุยกันอย่างจริงจัง ข้างหน้าพวกเขาคือทารกแม็กนัสนอนในเปล

“เราจะต้องบอกเขาสักวัน...” เกรซพึมพำ

"และนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่จนกว่าจะถึงเวลานั้น เรามาอาบน้ำให้เขาด้วยความรักกันเถอะ อ๊าาาา... แม็กนัสของพ่อ... อย่ากินไม้นะ... กินนี่สิลูกรัก..." อดัมเปล่งเสียงและชี้ไปที่ทารกแม็กนัส

*พรึบ*

แม็กนัสพบว่าตัวเองกลับมาอยู่ในหัวของเขาเอง ~ต้องบอกอะไร?~

แต่เขาอดคิดไม่ได้เมื่อเห็นอดัมลืมตาขึ้นช้าๆ รูม่านตาของเขาหันไปหาแม็กนัส รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากที่มองเห็นได้ของเขา ล้อมรอบด้วยผ้าพันแผล

แม็กนัสจับมืออดัมอย่างรวดเร็ว "ไม่ต้องกังวลนะฮะ พ่อจะสบายดีในไม่ช้า ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับแผลไฟไหม้ เวทมนตร์สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ โดยเฉพาะเรื่องของเวทมนตร์ทางการแพทย์"

อดัมพยักหน้ารับรู้เล็กน้อย เขายังคงเจ็บปวด เนื่องจากร่างกายของเขาถูกไฟไหม้ในระดับหนึ่ง

เกรซก็ออกมาด้วยใบหน้าที่ร้องไห้ “แม็กนัสพูดถูก ที่รัก คุณไม่ต้องกังวลนะ ทุกอย่างจะดีเอง ฉันจะอยู่ที่นี่กับคุณตลอดเวลาเลยค่ะ”

พวกเขาคุยกับอดัมอยู่พักหนึ่ง แต่มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่พูด ไม่นานอดัมก็ผล็อยหลับไป เกรซปฏิเสธที่จะกลับไปทำงานหรือที่บ้าน ดังนั้นแม็กนัสจึงส่งอดัมไปอยู่วอร์ดห้องที่หรูหราที่สุด ซึ่งเกรซจะได้มีโซฟานุ่มๆ ไว้พักผ่อนด้วย

หลังจากนั้นก็ออกมาจากห้อง รักนาร์กับเซเวอรัสกำลังรอว่าแม็กนัสจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป แต่เขาคงจะไม่ตัดสินใจอะไรในตอนนี้ เพราะดัมเบิลดอร์อยู่ที่นี่

แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนนั่นคือเขาจะไม่ปล่อยพวกอาชญากรไป

"ฉันสามารถเจรจากับใครก็ได้ แต่มีเส้นสีแดงที่พวกเขาไม่ควรข้าม นั่นคือครอบครัวของฉัน ฉันไม่สนใจว่าใครเป็นผู้ก่อการร้าย หรือทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น ทั้งหมดที่ฉันรู้คือพ่อของฉันอยู่ที่โรงพยาบาลและแม่ของฉันกำลังร้องไห้” เขากล่าว

แต่แม็กนัสก็พูดให้จบอย่างเงียบ ๆ ~และสำหรับเลือดทุกหยดและน้ำตาที่พ่อและแม่ของฉันเสียไป พวกมันจะต้องชดใช้~

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

การระเบิด

ภาพจำของอดัม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด