ตอนที่แล้วตอนที่ 15-10 รวมตัวกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15-12 แจ่มแจ้งในธาตุลม

ตอนที่ 15-11 ความลับ


ในท่ามกลางทะเลทรายที่ว่างเปล่ามีซากศพเปื้อนโลหิตกระจัดกระจายนับสิบ กองกำลังของนักสู้อสูรกับกองกำลังของอินนิโกชะงักการต่อสู้  ขณะที่ลินลี่ย์และเดเลียกอดกันแน่น

“เดเลีย!”  ตอนนี้ลินลี่ย์สงบใจได้แล้ว

แม้ว่าพวกเขาจะติดอยู่ในปราสาททราย แต่ลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวในหัวใจของเขา  เขากลัวว่าเดเลียจะตาย  ลินลี่ย์จำได้เมื่อตอนที่เดเลียยังอายุน้อยและพบกับเขาที่สถาบันเอินส์และจากนั้นก็หวนกลับมาพบกันอีกที่จักรวรรดิโอเบรียน

ยิ่งเวลาผ่านไปหลายทศวรรษ เดเลียก็ยิ่งเหมือนกลายเป็นชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของลินลี่ย์

เมื่อเขาเห็นนางหัวใจลินลี่ย์สงบลง

และเดเลียก็มีความรู้สึกต่อลินลี่ย์ทำนองเดียวกันไม่ใช่หรือ?

“ขอบคุณสวรรค์” เดเลียพูดอย่างอ่อนโยนอยู่ในวงแขนของลินลี่ย์  “ลินลี่ย์!  เมื่อครู่ที่ผ่านมา มันอันตรายมาก  ข้าเกือบถูกเทพชั้นสูงฆ่าเสียแล้ว  แต่ข้าไม่ต้องการตาย...ข้าต้องการเห็นเจ้า” เดเลียนึกย้อนถึงช่วงเวลาเฉียดตายที่นางได้ผ่านมา  และรู้สึกสะท้านใจ

เมื่อเผชิญกับอันตรายที่ยิ่งใหญ่เดเลียได้แต่ทุ่มเทสุดตัวและใช้โกเลมมัจจุราชพร้อมทั้งเคล็ดลึกลับของกฎธาตุลมด้วยเช่นกัน

โชคดีที่นางรู้วิชาแยกร่างมายาและเชี่ยวชาญ ‘ลมมิติ’จึงทำให้นางโชคดีพอหลบได้

“ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าต้องตกอยู่ในอันตรายใดๆอีก”  ลินลี่ย์กอดเดเลียไว้ในวงแขน  เมื่อลินลี่ย์จับมือของคนรักเขารู้สึกว่าพลังชีวิตและวิญญาณของเขาเติมเต็มสมบูรณ์แบบ

ขณะที่ลินลี่ย์และเดเลียดื่มด่ำกับการดีใจที่ได้พบกันอีก....

“ปัง”

เสียงระเบิดที่น่ากลัวดังอยู่ในกลางอากาศรังสีแสงสีเขียวและรังสีดำปะทะกันหลายครั้ง แต่ละครั้งทำให้โลกสั่นสะเทือน  และจากนั้นรังสีสองสายก็พุ่งลงไปบนพื้นทะเลทรายกลายเป็นชายชราชุดเขียวและแลร์มองต์ชุดดำ

หน้าของชายชราชุดเขียวซีดขาวเขาจ้องมองแลร์มองต์ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง “พลังของแลร์มองต์ผู้นี้น่ากลัวกว่าที่ข้าคาดการณ์ไว้ วิชากระบี่ของเขาในวิถีทำลายล้างสูงถึงระดับที่น่ากลัวขนาดนั้น” ช่วงเวลานี้ชายชราชุดเขียวต้องการแต่เพียงพัวพันแลร์มองต์ไว้ชั่วขณะ

โชคไม่ดีที่พลังของแลร์มองต์เกินกว่าที่เขาคาดคิดไปมาก

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชายชราชุดเขียวเป็นผู้ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงแทน เขาไม่กล้าปล่อยให้ตนเองเสียสมาธิกับการควบคุมปราสาททราย  ดังนั้นจึงยอมปลดปล่อยการควบคุมปราสาททรายและเพ่งสมาธิสนใจกับศัตรูน่ากลัวข้างหน้า แลร์มองต์

แลร์มองต์ถือดาบยาวและมองดูชายชราชุดเขียวอย่างสงบมีรอยยิ้มอารมณ์ดีปรากฏอยู่บนใบหน้า “พลังของเจ้าไม่เลว เจ้าคู่ควรรับพลังดาบโจมตีเต็มที่ของข้า”

หน้าของชายชราชุดเขียวเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

“อะไรนะ? การโจมตีที่ทรงพลังที่สุด?”หัวใจของชายชราชุดเขียวหนาวยะเยือก ก่อนนี้ เขาสามารถเอาตัวรอดได้  แต่ก็ต้องใช้พลังทั้งหมดจึงทำเช่นนั้นได้

ยอดฝีมือที่กำลังมองดูเมื่อได้ยินคำพูดของแลร์มองต์ ต่างพากันประหลาดใจทุกคน

“เดเลีย, เราถอยไปห่างๆ อีกนิดเถอะ” ลินลี่ย์จูงมือเดเลียถอยไปยังจุดที่โซโลมอนและบีบีอยู่มองดูยอดฝีมือเหล่านี้ต่อสู้จากในระยะที่ปลอดภัย “ข้าอยากจะเห็นนักว่าพลังโจมตีของพวกเขาเหมือนอะไร!”

ช่วงเวลานี้เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับโจรที่ลอบทำร้ายดาบโจมตีของแลร์มองต์ทำให้ลินลี่ย์ตะลึง โอกาสที่อยู่ต่อหน้าเขานี้มีคุณค่ามาก

“เจ้าแก่สองคนนั่นเล่นตลกกับข้า!”  อินนิโกสบถกับตัวเอง  เขาชำเลืองมองซาโลมอน  “ไม่มีความผิดพลาดแน่แต่เราไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้ว  ดูเหมือนว่าอาจารย์ไม่สามารถทนต้านรับได้ต่อไปข้าจากไปเป็นดีที่สุด!” อินนิโกพรางตัวผสานกับทรายและหายไป ตอนนี้ความสนใจของทุกคนอยู่ที่สุดยอดฝีมือทั้งสอง  ไม่มีใครให้ความสำคัญกับอินนิโก

นอกจากนี้....

ฝ่ายพวกอสูรมีคนเดียวที่รู้จักอินนิโกและโชคดีรอดชีวิตอยู่ได้ก็คือชายชราเขาสีขาว แต่ชายชราเขาสีขาวไม่ได้สังเกตเห็นอินนิโกซึ่งอยู่ในระยะไกลแม้แต่น้อย

“บึ้ม!”

ตลอดทั้งตัวของแลร์มองต์ระเบิดพลังดาบที่น่ากลัว ร่างของแลร์มองต์ปล่อยภาพดาบลวงตาซึ่งเป็นวิถีทำลายล้าง แลร์มองต์ดูเหมือนเปลี่ยนไปเป็นใจกลางของดาบลวงตาขนาดใหญ่และพลังดาบที่คมและดุร้ายกวาดม้วนอยู่โดยรอบ

พลังของดาบเพิ่มขึ้นรุนแรงขึ้น

“แครก...” เจตจำนงดาบทำให้มิติเกิดอาการสั่นสะท้าน

ทุกคนเมื่อเห็นแบบนี้ถึงกับสีหน้าเปลี่ยน  แดนนรกเป็นหนึ่งในพิภพระดับสูงและมีความมั่นคงยิ่งกว่าพิภพโลกธาตุ  พลังดาบยังไม่ถูกปลดปล่อยออกมาแต่ก็มีพลังถึงขนาดนั้นแล้ว อย่างนั้นพลังดาบโจมตีของแลร์มองต์จะทรงพลังถึงระดับใด?

“บ้าไปแล้ว เขาเป็นคนบ้าจริงๆ” หัวใจของชายชราชุดเขียวเย็นยะเยือก

พลังของแลร์มองต์ทำให้เขารู้สึกกลัว

“ฮึ่ม.. ต่อให้เจ้าทรงพลังแล้วยังไงเล่า  กฎพลังธาตุลมที่ดีที่สุดนั้นเอาไว้ใช้หลบหนี!”  ชายชราชุดเขียวเผชิญหน้ากับแลร์มองต์  เขารู้สึกตกใจหวาดกลัว ทันใดนั้นเขาเปลี่ยนเป็นร่างเงามายาหลายร้อยร่างกระจายหนีไปในทุกตำแหน่ง

หนึ่งในเคล็ดลึกลับของกฎธาตุลม– เงามายา!

“ร่างเงามายาช่างมากมายนัก?”  เดเลียตกใจและลินลี่ย์ถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ

เมื่อเดเลียใช้ร่างเงามายานางสามารถแยกออกเป็นเก้าร่าง อย่างไรก็ตามชายชราชุดเขียวนี้ เปลี่ยนเป็นร่างเงามายาได้หลายร้อยร่าง เคล็ดลึกลับร่างเงามายเมื่อถูกใช้โดยยอดฝีมือต่างระดับกันก็มีพลังแตกต่างกันมากมาย

“วิชาร่างเงามายาเป็นวิธีหนีที่ยอดเยี่ยามแน่นอน  ร่างเงามายาหลายร้อยร่างทั้งหมดยากที่ผู้ใดจะจำแนกได้จากรัศมีของพวกเขา  แลร์มองเองก็ยากจะจับได้เช่นกัน”  ลินลี่ย์พูดกับตนเอง  อย่างไรก็ตามลินลี่ย์ยังคงมองแลร์มองต์รอดูว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอะไร

“หนีเหรอ? ช่างน่าผิดหวัง” เสียงของแลร์มองต์ดังขึ้น

ขณะเดียวกัน....

“ครืนนน...”

ในพื้นที่รัศมีพันเมตรรอบตัวแลร์มองต์ ไม่ว่าที่ไหนก็มีพลังรังสีดาบกระบี่นับไม่ถ้วนปรากฏออกมา  ในพริบตาร่างเงามายาทั้งหมดหลายร้อยร่างก็ถูกกำจัดหมดเหลือแต่เพียงร่างบุรุษชราชุดเขียวเพียงร่างเดียว

“เป็นไปได้ยังไง?”  หน้าของชราชุดเขียวเปลี่ยนไปมากมาย

แลร์มองต์บินเข้าหาเขาด้วยความเร็วสูงโจมตีเหมือนกับมังกรร้าย  ที่ใดก็ตามที่ร่างของเขาผ่านไปจะเกิดระลอกมิติกระเพื่อมตาม ความเร็วของแลร์มองต์ไม่ต่ำกว่าชายชราชุดเขียวแม้แต่น้อย

“ข้าไม่สามารถหนีได้!” ชายชราชุดเขียวเข้าใจทันทีเมื่อเขาได้เห็นความเร็วของอีกฝ่ายหนึ่ง

ชายชราชุดเขียวถอยหลังทันที  ขณะเดียวกันกระบี่ขอบเงินปรากฏในมือของเขา  “ในเมื่อข้าหนีไม่ได้  อย่างนั้นข้าก็ต้องทุ่มสู้สุดตัว!” ตาของชายชราชุดเขียวตอนนี้เต็มไปแววอำมหิตดุร้ายและเกลียวพลังงานสีเขียวม้วนอยู่รอบตัวเขากลายเป็นร่างมังกร

“โกรวววว!”  มังกรเขียวขนาดมหึมาคำรามลั่น

เมื่อเห็นการต่อสู้ลินลี่ย์รู้สึกประหลาดใจ “แก่นธาตุลมและเคล็ดลึกลับดนตรี” ลินลี่ย์สามารถบอกได้ทันทีว่าพลังโจมตีนี้ของชายชราชุดเขียวทรงพลังขนาดไหน “มังกรเขียวขนาดยักษ์ไม่เพียงแต่สามารถปกป้องร่างของเขาได้เท่านั้น มันยังสามารถสร้างพลังโจมตีเสียงดนตรีที่ส่งผลต่อศัตรู”

นี่คือความสามารถหนุนเสริม

“ฮ่าฮ่า....ระเบิดจุดดาว!” เสียงเยือกเย็นปราศจากอารมณ์ความรู้สึกของแลร์มองต์ดังขึ้นและตอนนี้เริ่มเผยให้เห็นด้านป่าเถื่อนของเขา เสียงหัวเราะบ้าคลั่งพร้อมกับกระบี่ยาวในมือพุ่งออกไปทันที

กระบี่ยาวพุ่งแหวกอากาศ!

ขณะที่กระบี่พุ่งออกไปนั้นปรากฏหลุมดำเมื่อกระบี่บิดตัวทะลวงผ่านรอยแยก ที่ใดก็ตามที่กระบี่ยาวผ่านไป มิติจะฉีกขาดปรากฏอย่างต่อเนื่อง  และทุกสิ่งทุกอย่างโดยรอบจะสลายหายไป

เมื่อเผชิญหน้ากับพลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของแลร์มองต์ชายชราชุดเขียวค่อยๆ กวัดแกว่งควงกระบี่เงิน

“ครืนนน...”

กระบี่เงินยังยาวและแคบมากกว่ากระบี่เลือดม่วง  สามารถตัดฟันยืดหยุ่นได้เหมือนแส้  แครก!ภายใต้แรงตัดฟันของกระบี่เงิน มิติอวกาศแยกเปิดออก เกิดเป็นรอยฉีกมิติแคบๆขณะที่มีเพลงประหลาดดังออกมา

ทั่วทั้งท้องทะเลทรายเงียบกริบ

ลินลี่ย์และคนอื่นต่างตกตะลึงกับพลังโจมตีของกระบี่ทั้งสอง ที่น่ากลัวก็คือกระบี่ที่แฝงไปด้วยวิถีพลังทำลายล้าง  ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งใช้ความแหลมคมของกฎธาตุลม

“บึ้ม!”

กระบี่เงินเคลื่อนไหวในลักษณะที่แปลกประหลาดปะทะกับคมกระบี่ยาวของแลร์มองต์

“ปัง!”

กระบี่เงินระเบิดทันทีกลายเป็นเศษเงินนับไม่ถ้วนกระจายไปทั่วทุกที่

“ซวบ!”

ปลายกระบี่ยาวแทงเข้าที่หน้าผากของชายชราชุดเขียวเกือบทั้งหมด ไวมากจนชายชราชุดเขียวไม่สามารถหลบได้แม้แต่น้อย  ตาของเขาเต็มไปด้วยอาการตื่นตระหนกและเลือดค่อยๆ ไหลออกมาจากหน้าผากของเขา

“ตุ้บ!”  ศพของชายชราชุดเขียวล้มลง

“กระบี่อ่อนนั่น...เคลื่อนไหวฟาดฟันได้เหมือนแส้...”  หัวใจของลินลี่ย์เพิ่มความตื่นตัวทันที  เหมือนกับว่ามีบางอย่างผุดขึ้นมาในใจของเขาและเขาหลับตาเงียบๆ ทันที

ในทะเลทรายทุกคนมองดูยอดฝีมือทั้งสองคน แต่ลินลี่ย์กลับดำดิ่งอยู่กับการทำสมาธิและการรู้แจ้งของเขา

แน่นอนว่าพลังของชายชราชุดเขียวอ่อนกว่าพลังของแลร์มองต์เล็กน้อย แต่ความรู้แจ้งในกฎธรรมชาติธาตุลมของเขามากมายนัก เขาสามารถหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้สองสามเคล็ดแล้ว

ความเคลื่อนเหมือนแส้ที่เรียบง่ายรวมเอาเคล็ดลึกลับไว้หลายชั้น

เร็วๆนี้ลินลี่ย์ติดอยู่ในสภาพคอขวดเกี่ยวกับสัจธรรมแห่งความเร็ว เขาไตร่ตรองว่าจะบรรลุสภาวะคอขวดและหลอมรวมเคล็ดลึกลับ ‘เร็ว’ กับ ‘ช้า’ ได้ยังไง

หลังจากผ่านการดิ้นรนเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายภายในปราสาททรายรวมทั้งความรู้สึกปั่นป่วนกังวลใจและจากนั้นก็สงบ และตอนนี้หลังจากเห็นพลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของชายชราชุดเขียวลินลี่ย์เริ่มสร้างรอยร้าวในการทำลายสภาวะคอขวดของสัจธรรมแห่งความเร็วได้...

ศพของชายชราชุดเขียวนอนอยู่บนพื้น

แลร์มองต์ระบายลมหายใจโล่งอก  การถอนหายใจนี้แฝงไปด้วยร่องรอยความผิดหวัง

แลร์มองต์เหลือบมองดูศพชายชราชุดเขียว  “เจ้าทั้งสองใช้กระบี่ยืดหยุ่นแต่พลังของเจ้าอ่อนแอเกินไปเมื่อเทียบกับอสูรเลือดม่วง เวลาของเจ้าดูเหมือนจะใช้ไปกับการป้องกันและการดักจับผู้คน  ดังนั้นเมื่อว่าถึงพลังรุก..จึงอ่อนแอยิ่งนัก”  แลร์มองต์พูดแผ่วเบา

ทันใดนั้นร่างคนผู้หนึ่งปรากฏออกมาจากภายในศพชายชราชุดเขียว  เป็นร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของชายชราชุดเขียว  เพียงแต่เป็นร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ระดับเทพแท้

“แลร์มองต์ ที่เจ้าพูดมาก็จริง”  ชายชราชุดเขียวพูดสรุป  “เพียงแต่ในอนาคตข้าจะไม่มีทางฝึกในกฎธรรมชาติธาตุลมได้อีก” ชายชราชุดเขียวไม่พยายามหนี ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของเขาเป็นเพียงระดับเทพแท้  เขาจะหนีได้ยังไง?

“ท่านแลร์มองต์, โปรดฆ่าเขา”  ผู้เฒ่าเขาสีขาวเดินเข้ามา  ตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียด  “เขาฆ่าพี่ชายของข้า  ข้าหวังว่าท่านจะฆ่าเขาหรือไม่ก็ให้ข้าจัดการกับเขาด้วยตัวเอง” หัวใจของชายชราชุดขาวเต็มไปด้วยความเกลียด

เขาและชายชราเขาดำพี่ชายของเขาอยู่ด้วยกันมาหลายปี แม้ว่าพวกเขารู้ว่าการเดินทางกลับไปทวีปเจดโฟลทนี้จะอันตราย  แต่เมื่อพี่ชายของเขาตาย  หัวใจของชายชราเขาสีขาวเต็มไปด้วยความแค้นและโกรธเกลียด

“ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าต้องลงมือเอง”  แลร์มองต์กล่าว

ในใจของแลร์มองต์ชายชราชุดเขียวมีแต่ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ระดับเทพที่เหลืออยู่  ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นยอดฝีมือระดับสูงล้ำ  พวกยอดฝีมือมักจะทนทรมานใจไม่ได้

ชายชราชุดเขียวมองดูเขาจากนั้นพูดกับแลร์มอง  “แลร์มองต์, ข้ารับว่าข้าแพ้เจ้า  ถ้าเจ้ายินดีจะปล่อยให้ข้ารอดชีวิต  ข้าจะบอกความลับอย่างหนึ่งแก่เจ้า!”

“เจ้าจะทำอะไร?”  ชายชราเขาขาวเริ่มคลั่ง

ชายชราชุดเขียวหัวเราะอย่างเยือกเย็น  “เจ้ากลัวหรือ?”

“ควั่บ!”  ชายชราเขาขาวบินเข้ามาทันที  ตาของเขาเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน เพียงแต่ประกายกระบี่พุ่งวาบใส่ชายชราเขาขาวกระแทกเขากระเด็นกลับไป

“ท่านแลร์มองต์, ท่าน”  ชายชราเขาขาวกล่าว

แลร์มองต์หัวเราะอย่างใจเย็น  “ข้าสงสัยอยู่บ้างว่ามีความลับอะไรกัน”  ขณะที่เขากล่าวแลร์มองต์มองดูชายชราชุดเขียว

ชายชราเขาขาวได้แต่กระวนกระวาย

ชายชราชุดเขียวมองดูชายชราเขาขาวอย่างเหยียดหยามจากนั้นพยักหน้าและกล่าว  “ก็ได้,ข้าจะบอกเจ้า  ความจริง ผู้ว่าจ้างเจ้าในภารกิจคุ้มกันภัยนี้ก็คือบ่าวชราของตระกูลบอยด์แห่งแคว้นโคล์ดคาล์มแห่งทวีปเจดโฟลด..”

“เจ้า...” ชายชราเขาขาวแตกตื่นอย่างหนัก “แลร์มองต์ เจ้า ... เป็นไปได้หรือว่าเจ้า..”

แลร์มองต์ชำเลืองมองเขาอย่างเย็นชา“หุบปาก”

หน้าของชายชราชุดเขียวมีรอยยิ้มปรากฏทันที  เขายังคงพูดต่อ  “หลังจากตระกูลบอยด์ถูกทำลายสหายเฒ่าสองคนนี้ก็เอามรดกมหาศาลที่ตระกูลบอยด์มีอยู่นับไม่ถ้วนหนีออกไป  แลร์มองต์ข้าคิดว่าเจ้าคงนึกภาพออกเช่นกัน ว่าสมบัติจะมีมากมายมหาศาลเพียงไหนซึ่งตระกูลที่ทรงอำนาจครอบครองมานานนับปีไม่ถ้วน

ชายชราเขาขาวหน้าซีดขาว

ครั้งนี้นีซที่อยู่ข้างบีบีมีสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ  แต่ซาโลมอนมองดูอย่างเยือกเย็น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด