ตอนที่แล้วตอนที่ 483 เหล่าร้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 485 คลื่นพลังเย็น

ตอนที่ 484 พญาหมีพิโรธ


ปิงรู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติกับถังเทียน  เขารีบเตือน “พ่อหนุ่ม ใจเย็น!”

เงาที่อยู่ต่อหน้าเขาหายไปทันทีทำให้ผมขนในร่างของเสี่ยวจินลุกชัน ความรู้สึกถึงอันตรายที่ไม่เคยพบมาก่อนรายล้อมตัวเขาทันที

ถังเทียนสีหน้าเฉยเมย  แต่ตาของเขาลุกโชนด้วยเพลิงโกรธ

เขาคิดเรื่องของตัวเองคิดเรื่องที่เขาอยู่ในสถาบันแอนดรูว์คิดถึงความหวังเลือนรางที่เขามีและเดิมพันห้าปีที่มีค่ามากที่สุดของเขา  แต่เขาไม่เสียใจ เพราะว่านั่นคือความหวัง  นั่นคือความฝัน

ไม่มีอะไรที่สำคัญมากไปกว่านั้น!

เพราะนั่นคือเกียรติสุดท้ายของชีวิต  เพราะนั่นคืออากาศที่ท่านหายใจอยู่ในโลก เพราะนั่นคือแสงตะวันที่สามารถสาดส่องทะลุหมอกควันได้เพราะนั่นคือเหตุผลเดียวที่พิสูจน์ว่าท่านยังคงมีชีวิต ไม่ว่าท่านจะถูกสายตาเย็นชาในโลกนี้เยาะเย้ยถากถางสักเพียงใด ไม่ว่าท่านจะพบกับโชคชะตาชีวิตลำเค็ญขนาดใดก็ตาม  ไม่ว่าท่านกำลังดิ้นรนมองหาความหวังสักอย่างในห้วงเวลาเลวร้ายก็ตาม  แต่สิ่งที่ทำให้ท่านกล้ายืนหยัดไม่พังทลายลงไปก็คืออุดมการณ์เล็กๆน้อยๆ ที่อยู่ในใจท่าน ความหวังเลือนรางที่มองเห็นได้เหมือนอยู่ในก้อนเมฆ!

ทำไมต้องข่มขู่?  ทำไมต้องเล่นกับสิ่งนี้?

ทำไม?

ยึดความฝันและความหวังของพวกเขาล้อเล่นกับชีวิตพวกเขา  นั่นยกโทษให้ไม่ได้!

ยกโทษให้ไม่ได้...เด็ดขาด!

ความเกลียดชังและรังสีอำมหิตทำให้ดวงตาของถังเทียนมีรอยเส้นเลือดปูดขึ้นสร้างความแตกตื่นให้กับเสี่ยวจิน  เขาไม่มีความเห็นใจแต่อย่างใด  เขาพุ่งวาบเข้าที่อกของเสี่ยวจินรวดเร็วดุจปีศาจ  เสี่ยวยื่นแขนผลักโดยไม่รู้ตัว  แต่แขนทั้งสองของเขารู้สึกเจ็บปวดแปลบปลาบ  ราวกับว่าถูกสัตว์ร้ายกระแทกชน

กร๊อบบแขนทั้งสองของเขาหัก

ถังเทียนพุ่งชนโดยไม่ชะลอความเร็วลงสักนิดพุ่งเข้าใส่ที่แขนของเสี่ยวจิน ทันทีที่แขนทั้งสองสัมผัส ร่างของถังเทียนสั่นเล็กน้อย

วิชาถล่มทลาย

ร่างของเสี่ยวจินสั่นเขาเบิกตาโพลงทันที แววตาเต็มไปด้วยความกลัวและสิ้นหวัง

ทุกคนรู้สึกเพียงว่าตาพร่าไปชั่วขณะ  และไป่อาโฉ่วสร้างภาพลวงตาที่เกิดจากความเร็วบุกตรงเข้าหาแขนของเสี่ยวจินราวกับว่าเขาหวดฟาดด้วยค้อน ปัง, เสี่ยวจินปลิวทันที

เสียงปังทำให้หนังหัวของทุกคนชา พอจนทำให้พวกเขาจินตนาการว่าแรงปะทะนั้นน่ากลัวเพียงไหน

ร่างของเสี่ยวจินยังไม่ทันจะกระทบพื้นแต่ทุกคนเห็นได้ชัดว่าเขาตาลอยเสียแล้ว ร่างของเขาอ่อนยวบเหมือนงูงอในมุมแปลกประหลาดและเห็นได้ชัดว่ากระดูกในตัวป่นเป็นผงไปแล้ว

“หาที่ตาย...”ก่อนที่เสียงที่น่ากลัวของมู่เหล่าซานจะพูดจบ ถังเทียนย่อตัวใช้ปลายเท้าจิกพื้นปัง พื้นหิมะระเบิดทันทีท้องฟ้าเต็มไปด้วยหิมะและมีร่างลวงตาถังเทียนเคลื่อนไหว  เขากระโจนเข้าหามู่เหล่าซาน

รังสีมีดชั่วร้ายสายหนึ่งพุ่งวาบต่อหน้าถังเทียนทันที

รังสีมีดแยกออกเป็นสองสายจากสองเป็นสี่  จากสี่เป็นแปด...

ทันใดนั้นรังสีมีดนับไม่ถ้วนก่อตัวเป็นข่ายใหญ่ ถังเทียนพุ่งเข้าหาข่ายใหญ่เหมือนกับแมงเม่าบินเข้ากองไฟ

หน้าของมู่เหล่าซานมีรอยยิ้มที่เหี้ยมเกรียมพลังของถังเทียนทำให้เขาตกใจ หมัดโจมตีของเขาคือไม้ตายแน่นอนไม่มีความปราณีในใจแม้แต่น้อย

ดาบทอฝัน!

เขาไม่เคยแพ้ในเรื่องการใช้วิชามาก่อน  นอกจากนี้ ครั้งนี้เขาใช้ปราณแท้ในร่างทั้งหมดอย่างไม่ลังเล คลื่นปราณแท้ลอยเข้าไปในดาบโค้งของเขา

ดาบโค้งในมือของเขาแม้ว่าจะไม่ใช่สมบัติชั้นทอง แต่ก็ไม่ใช่ของธรรมดา  มันคือสมบัติชั้นเงินคุณภาพกลุ่มดาวระนาบสุริยุปราคา  มันคือดาบโค้งครีบปลาแห่งกลุ่มดาวปลา (มีน)

สมบัติเงินความลับระดับทองคือสมบัติชั้นเงินลับขั้นสุดยอด  กระแสปราณแท้เมื่อทะลวงผ่านร่างกายจะทำให้มีดสั่นเบาๆ คล้ายกับครีบของปลาในน้ำ

รังสีมีดที่หนาแน่นเป็นกลุ่มเกาะติดไป่อาโฉ่วอย่างรวดเร็วแนบแน่นรังสีใบมีดเหล่านั้นเหมือนกับปลาในน้ำคล่องแคล่วไม่มีช่องว่าง

เผียะเผียะ เผียะ!

เสียงระเบิดราวกับข้าวตอกแตกดังออกมาจากข่ายรังสีมีด  รอยยิ้มของมู่เหล่าซานชะงักค้างอยู่บนใบหน้า

“แย่แล้ว.....”

ก่อนที่เขาจะพูดจบข่ายที่สว่างเจิดจ้าซึ่งสร้างมาจากกลุ่มรังสีใบมีดระเบิดออกมาเหมือนเกล็ดหิมะ  ในกลุ่มเกล็ดหิมะที่ล่องลอยอยู่ในท้องฟ้าร่างเลือนรางคล้ายกับปีศาจปรากฏอยู่ต่อหน้ามู่เหล่าซาน

ในดวงตาของมู่เหล่าซานที่ยืนตะลึงนั้นมีแววเต็มไปด้วยความหวาดกลัวถังเทียนแค่ต่อยหมัดออกไปง่ายๆ ร่างของเขาก็กลายเป็นเหมือนกับติดสปริง  หมัดของเขาปะทะใส่ดาบโค้งเต็มที่

ต่อให้เป็นสมบัติเงินระดับชั้นตำหนักระนาบสุริยุปราคาก็ตามก็ไม่สามารถทนรับพลังหมัดได้ เกิดรอยแตกเหมือนใยแมงมุมเต็มผิวดาบ  ปัง.. ตัวดาบแตกกระจายสลายไปชิ้นส่วนใหญ่ขนาดเท่าเล็บร่วงกราวราวสายฝนโปรยใส่ร่างของมู่เหล่าซาน

ฟู่...

รอยเลือดฉีดพุ่งเป็นร้อยสายจากร่างของมู่เหล่าซานในเวลาเดียวกัน

“แย่แล้ว”

ปิงลนลานและหงุดหงิดสบถด้วยความโกรธ คราวนี้เขารู้ว่าสถานการณ์เกินกอบกู้ ดังนั้นปิงและหยาหยาลอยออกมาจากร่างของถังเทียนพร้อมกัน

เสี่ยวเอ้อยังถือร่มดาวหมีใหญ่ลอยออกมาจากร่างของถังเทียนเหมือนกับหมอกควัน  ร่มดาวหมีใหญ่ในมือของเขาหมุนวนทำให้ดวงดาวนับไม่ถ้วนหลุดออกมาและเปลี่ยนเป็นก้อนกรวดรกระพริบแสงบินเข้าหานักสู้ที่กำลังเตรียมจะหลบหนี

หยาหยาบินลงมาที่พื้นจากนั้นร้องลั่นเมื่อกระทบกับพื้นมันพุ่งหายไปในอากาศเหมือนกับยิงออกจากกระสุนปืนใหญ่พริบตาต่อมามันปรากฏอยู่ด้านหลังนักสู้ที่กำลังหนี  มันเงยหน้ามองและปล่อยหมัดน้อยๆ ออกไป

หมัดเหล็กกลืนแสง!

นักสู้ที่หนีเอาชีวิตรอดใช้วิชาป้องกันตัวตามสัญชาตญาณโล่แสงสีฟ้าปรากฏอยู่ที่ด้านหลังของเขา

หมัดของหยาหยาที่ปล่อยออกไปปกคลุมด้วยความมืดแต่ไม่ปล่อยเสียง ความมืดกลืนกินและทะลวงแสง หมัดของหยาหยาปะทะเข้าที่หลังของคู่ต่อสู้ เป็นภาพที่ดูน่าตลกขบขัน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตามมาติดๆมีเสียงก้องต่ำ ‘ปัง’ เหมือนกับแผ่นบรอนซ์หนาถูกเจาะ  ร่างของนักสู้นั้นชะงักค้างหลังของเขามีรูโลหิตที่ใหญ่กว่าตัวหยาหยาทะลุจนถึงหน้าอกเขา

สีหน้าของนักสู้นั้นแข็งค้างร่างของเขาชะงักอยู่กับที่

ดาวดวงน้อยของเสี่ยวเอ้อเหมือนกับฝูงหิ่งห้อยบินเข้าไปในร่างของนักสู้สองสามคนร่างของทุกคนระเบิดแตกเหมือนลูกโป่ง

สายตาของถังเทียนจับจ้องอยู่ที่ตัวหลี่เหลียงชิวเขาแค่นเสียงด้วยท่าทางน่าเกรงขาม

มือและเท้าของหลี่เหลียงชิวเย็นเฉียบ  เขารู้ว่าครั้งนี้เจอตอเข้าเสียแล้ว  เขาฝืนตัวในท่าสง่างาม “ท่านที่นับถือ  นี่เป็นความเข้าใจผิด  ข้ายินดีจะชดเชยให้ท่าน ไม่ว่ายังไงก็ตาม”

“ชดเชย?” ถังเทียนไม่พยายามซ่อนความดูถูกและรังเกียจบนใบหน้าไว้  “เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงมาถกเรื่องชดเชยกับข้า?”

เขาจับจ้องร่างของเขาและเคลื่อนตัวเข้าหาและปล่อยหมัดอย่างง่ายที่สุด!

มือของหลี่เหลียงชิวมีกระบี่เล่มหนึ่งปรากฏทันที  รังสีเยือกเย็นที่ปลายกระบี่ระเบิดออกเสียงดังขณะที่เขาปล่อยรังสีพายุกระบี่ยิงเข้าใส่ร่างของถังเทียน  เขาไม่ได้ใช้ไม้ตาย เนื่องจากไม้ตายของมู่เหล่าซานทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าพลังของคู่ต่อสู้เหนือกว่าที่เขาคิดไว้มากมาย

ต่อเมื่อรังสีกระบี่ของเขาปะทะเข้ากับหมัดของถังเทียนเขาถึงรู้ความน่ากลัวของพลังเจ้าเด็กอัปลักษณ์ผู้นี้!

แย่แล้ว!

จากนั้นเขาเสียใจทำไมเขาถึงไม่ส่งสัญญาณขอกำลังสนับสนุน...

รังสีกระบี่หนาแน่นสามารถเจาะเหล็กกล้าได้ เมื่อสัมผัสกับหมัดของคู่ต่อสู้เหมือนกับคลื่นที่ซัดเซาะใส่ฐานหินพังทลายทันที หลี่เหลียงชิวตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้!

เขารู้ว่าเขาตกอยู่ในอันตรายที่แท้จริง  เมื่อหางตาเขาเหลือบไปเห็นร่างหนึ่งเขาดีใจทันที  เขาขึ้นเสียงตะโกนลั่น  “ติงเฉิน ไปตามกำลังหนุนมา!”

ห่างออกไปจากสนามฝึกฝนราว30 ลี้ ทันทีที่พวกเขาส่งสัญญาณขอกำลังหนุน กำลังหนุนจะมาถึงในเวลาอันรวดเร็ว

ติงเฉินคือนักสู้ที่นำกลุ่มนักเรียนมา  หน้าของเขาซีดขาวไม่มีสีเลือดเขารู้ว่าหลายอย่างกำลังจะกลายเป็นปัญหาหนัก ไป่อาโฉ่วไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน เขามาในฐานะศิษย์  แต่มีแรงจูงใจอย่างอื่น  ถ้าหลี่เหลียงชิวตาย ผลที่ตามมาจะเกินคาดคิดการต่อต้านสำนักมวยชางหยาง ก็คือการเกิดแผ่นดินไหว  เขาเป็นคนที่มีบทบาทเล็กน้อย  คงต้องพินาศอย่างแน่นอน

มือของเขาสั่นและเตรียมจะขอความช่วยเหลือ...

“เจ้าคิดให้ถี่ถ้วนดีกว่า!”

เสียงเย็นยะเยือกเต็มไปด้วยอาการเยาะเย้ยดังกรอกข้างหูของเขา...

มือของติงเฉินสั่นเขาเงยศีรษะ เห็นแต่เพียงขุนพลวิญญาณลอยอยู่ใกล้ตัวเขามองดูเขาคล้ายยิ้มและมิคล้ายยิ้ม

เมื่อปิงออกมา  เขาไม่ยินดีจะต่อสู้  กลับสังเกตกลุ่มศิษย์ใหม่ป้องกันไม่ให้ใครหนี ด้วยพลังของจอมห้าวถัง  การเอาชนะเด็กกลุ่มนี้เป็นงานกล้วยๆและเขาไม่จำเป็นต้องช่วยเลย

หน้าของหลี่เหลียงชิวบิดเบี้ยวน่าเกลียดภายใต้การบีบคั้นกระหน่ำของถังเทียน ทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายร่อแร่

ถังเทียนควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างสิ้นเชิง  อกของเขาเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ  เขามีตาแดงก่ำ วิชาที่ใช้ก็เป็นวิชาง่ายๆเป็นวิชาต่อสู้พื้นฐาน แต่ทุกท่ามีพลังแฝงที่น่าทึ่ง นอกจากนี้ยังมีความถี่ไวมาก  หลี่เหลียงชิวทุ่มสุดฝีมือแต่ทำได้แค่ต้านรับเอาไว้

ความรู้ที่แข็งแกร่งของหลี่เหลียงชิวในพื้นฐานของเขาถูกใช้แสดงออกมาเต็มที่

แต่เมื่อเขายิ่งสู้ก็ยิ่งตกใจ  ยิ่งสู้ก็ยิ่งรู้สึกกลัว  คู่ต่อสู้ไม่ได้ใช้ปราณแท้อะไรเลยแต่เขาก็มีฝีมือเหนือกว่าเขามาก ในโลกนี้มีคนที่น่ากลัวแบบนี้ได้ยังไงกัน!

ข้าจะตายที่นี่งั้นหรือ?

ความกลัวตายกัดกินจิตวิญญาณของเขา   เสียงร้องไห้ของสหายรอบๆตัวของเขาทำให้เขาใกล้จะพังทลายเต็มที หน้าของเขายิ่งหน้าเกลียดขณะที่ร้องเสียงแหลม  “ติงเฉินเจ้าต้องการมีชีวิตต่อไปหรือเปล่า ถ้าเจ้าไม่ขอความช่วยเหลือ ข้าจะฆ่าครอบครัวเจ้าให้หมด....”

ติงเฉินสั่นอย่างควบคุมตนเองไม่ได้  แต่ขุนพลวิญญาณนั่นมีรูปร่างพร้อมกับกลิ่นอายที่ทำให้เขาหายใจไม่ออกได้ดักเขาไว้อย่างสิ้นเชิง เขาไม่มีแรงพอจะขยับนิ้ว

ถังเทียนตวาดลั่นด้วยความโกรธ  “มาดูซิว่าเจ้าจะสามารถฆ่ายกครัวใครได้”

พลังแฝงในหมัดทุกหมัดเพิ่มทะลักขึ้น  เขากระหน่ำหมัดใส่รังสีกระบี่ของหลี่เหลียงชิวเหมือนกับช่างตีเหล็กกระหน่ำค้อน

หลี่เหลียงชิวกระอักโลหิตออกมาเต็มปากเขาอยู่ในสภาพร่อแร่และเกิดอาการคลุ้มคลั่งทันที ผมของเขาสยายโบกสะบัด “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า... เมื่อข้าตาย..แผนการของเจ้าก็พัง เจ้ามาที่นี่เพราะมีวัตถุประสงค์บางอย่าง ฮ่าฮ่า!”

รังสีกระบี่ของเขาเพิ่มทะลัก  เขาเริ่มโคจรปราณแท้อย่างไม่มีแบบแผน

“พ่อของข้าจะต้องตามหาฆาตกรที่แท้จริง  เจ้าไม่มีทางหลบหนีได้!  แผนของเจ้าพังแล้ว  จบแน่ๆ....”

พลังหมัดต่อยถี่ครั้งแล้วครั้งเล่ากระทบใส่ม่านกระบี่ทำให้มันสั่นสะเทือน  ร่างของหลี่เหลียงชิวสั่นอย่างรุนแรง เลือดทะลักออกมาจากปากและจมูกของเขาเป็นภาพน่ากลัวอย่างมิอาจบรรยาย

ปัง!

ตัวกระบี่แตกหักและม่านรังสีกระบี่หายไป

หมัดกระแทกใส่หัวใจหลี่เหลียงชิวและพลังทะลักเข้าไปในร่างของหลี่เหลียงชิว  ร่างของหลี่เหลียงชิวสั่นรุนแรง  ผมของเขากระเซิง ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยโลหิต  ขณะที่เขามองดูถังเทียนอย่างว่างเปล่าเหมือนกับไม่เชื่อว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนี้

เขาค่อยๆล้มหงายหลังเหมือนกับท่อนไม้

ถังเทียนมองดูร่างที่ล้มของหลี่เหลียงชิว  ความโกรธที่เต็มใบหน้าค่อยจางหายไป  เหลืออยู่แต่เพียงความมุ่งมั่น  เขาพูดเพียงคำเดียวหลังจากค่อยๆแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหิมะ

“ถ้าอย่างนั้นข้าคงต้องนำกองทัพใหญ่บุกตะลุยกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์เสียแล้ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด