ตอนที่แล้วตอนที่ 1 : อารัมภบท
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 : การตื่น

ตอนที่ 2 : โลกใบใหม่


ศิลาข้ามโลกพังทลายในท้องนภาและสร้างแสงสีเขียวอมม่วงเปล่งประกายล้อมรอบดวงวิญญาณของเทียนหลง แสงสว่างนั้นพุ่งทะยานไปยังทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าความเร็วของแสง

ในสถานที่แห่งหนึ่งที่ไกลจากศิลาข้ามโลกไม่กี่กิโลเมตรนั้นคือสถานที่ที่เพิ่งจะปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่าเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน

“แย่แล้ว เขาไม่รอดแน่…”

ชายวัยกลางคนถอนหายใจ สีหน้าของเขามีแต่ความหม่นหมอง นัยน์ตาสั่นระริกแต่มันก็ดูเหมือนเกิดจากความกลัวมากกว่าความเศร้า

ชายวัยกลางคนสวมชุดเกราะสีฟ้าและมีภาพพยัคฆ์พิมพ์เอาไว้ นอกเหนือจากชุดเกราะที่ดูน่ากลัวมันก็ดูเสียหายและผุพัง

“เขาอยู่ในขีดอันตรายตั้งแต่ที่เจอตัว มันคุ้มค่าแล้วรึที่ต้องดูแลเด็กที่เจ้าไม่ได้มีสายสัมพันธ์ด้วยเลยขนาดนี้ เกร?”

ชายวัยกลางคนอีกคนที่สวมชุดเกราะแบบเดียวกันถาม

“ข้าเป็นคนอุ้มเขามาตามอำเภอใจ และข้าก็ควรเป็นคนที่ดูแลเขา หุบปากซะ เมล”

เกรสวนกลับ

เส้นผมแดงปรกหน้าทำให้เห็นดวงตาเพียงข้างเดียว เขามีสีหน้าหงุดหงิดและทำให้สีหน้าของเมลเหยเกในทันที

“ก็ใช่น่ะสิ! ข้าเบื่อคุณธรรมของเจ้ามามากพอแล้วเกร เจ้าไม่ทำสิ่งที่ผู้นำควรจะทำด้วยซ้ำ ที่เจ้าทำก็แค่ดูแลเด็กนั่น เด็กนั่นเป็นลูกเมียน้อยเจ้ารึไง?!”

เมลตะโกนด้วยความโกรธ

แต่ถึงอย่างไร สำหรับเกร เมลแค่อดทนไม่ได้ที่จะก่อเรื่องอีกครั้ง

สายตาเกรเย็นชาลงเล็กน้อย เขาชักดาบออกมาจากฝัก ใบดาบสะท้อนกับแสงอาทิตย์

“เมล ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พอใจข้า หยุดจับผิดข้าครั้งแล้วครั้งเล่าเถอะ ถ้าเจ้ากล้าก็มาจบเรื่องนี้กัน”

“คิดว่าข้ากลัวเจ้าเรอะ? ข้าจะแสดงให้เห็นว่าใครจะได้ตำแหน่งหัวหน้าหลังจากหัวหน้าเกษียณจากทหารรับจ้างพยัคฆ์คราม!”

เมลเองก็ชักดาบออกมาตั้งท่าต่อสู้เช่นกัน

เมื่อเห็นเมลตอบรับการต่อสู้ทางอ้อม เกรก็กระโดนไปด้วยพลังที่เหลือเชื่อจากพลังบ่มเพาะของเขา เขาสร้างแสงสว่างจ้าด้วยดาบและปกคลุมทั่วพื้นที่ด้วยแสงสว่างทันที

‘อะรไกัน!? วิชาต่อสู้ใหม่เรอะ?’

เมลตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ

เขาเกือบจะฉี่ราดเมื่อการมองเห็นถูกขัดขวางด้วยแสง เขาไม่ขยับตัวเพราะมองอะไรไม่เห็นเมื่อดวงตาบอดพร่าและเจ็บปวดที่ดวงตาเพราะแสงสว่าง

และในชั่วขณะเวลานี้เอง แสงประหลาดที่หม่นลงจากแสดงสว่างของวิชาดาบก็ได้พุ่งมาใส่เด็กที่เพิ่งจะหยุดหายใจไป

ทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดจึงไม่ทันเห็นปรากฏการณ์ประหลาดนี้

เมลลืมตาขึ้นและได้เห็นดาบที่จ่อคอ เขารู้สึกได้ถึงชีวิตที่หลุดลอยไปจากมือหรือพูดว่าคอคงดีกว่า เขาเริ่มตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ด้วยความกลัวตาย เขาปากสั่นเพราะอยากจะพูดแต่ทำไม่ได้

“ข้าคิดว่าข้าทนเจ้ามามากพอแล้วล่ะ ไอ้เวรเอ้ย…”

เกรพูดอย่างเย็นชา แขนของเขาขยับและในทันทีที่เขากำลังจะสะบั้นศีรษะของเมล เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นให้เขาหยุด

“ช้าก่อน!”

“ชิ หัวหน้าเรอะ…”

เกรพึมพำและถอยกลับ

นี่เป็นเวลาสำคัญ และเขาไม่มีเวลาจะมายุ่งกับเมลหรือหัวหน้าเลย

ในขณะเดียวกัน เทียนหลงที่ได้เข้าสู่ร่างของเด็กก็เริ่มรู้สึกอบอุ่นแต่สับสนในเวลาเดียวกัน เทียนหลงนั้นไม่พบการต่อต้านเมื่อเข้าสู่ร่างกายนี้เลย ราวกับว่าดวงวิญญาณของเด็กไม่ได้อยู่ในร่างกายนี้มาตั้งแต่แรก

แต่เขารู้สึกอ่อนแออย่างมาก และในขณะเดียวกันที่ภายใน ความอบอุ่นก็ได้แผ่เข้ามาทำให้เขาสบายกายขึ้น

‘ศิลาข้ามโลกกำลังฟื้นฟูร่างอ่อนแอของเด็กนี่รึ?’

ในเวลาเดียวกัน เทียนหลงมิอาจเชื่อว่าร่างของเด็กจะกลายเป็นร่างกายของเขาแล้ว! มันเป็นเรื่องเพ้อฝันที่แม้แต่เขาก็รู้สึกสับสนมันจากความเป็นจริงไปชั่วขณะ!

แต่เขายังคงคิดอ่านได้อย่างดีแม้จะเจอกับเรื่องเหนือจริงเช่นนี้

“ฮ่าฮ่า ข้ารอดแล้ว! รอดแล้ว! หัวหน้า เกรคิดจะฆ่าข้าจริง ๆ ฆ่ามันเลย! มันเป็นคนทรยศ!”

เมลตะโกนออกมาด้วยความดีใจและใส่ร้ายเกรโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองแม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาบ้าคลั่งไปชั่วขณะ

“อย่างนั้นรึ?”

หัวหน้าเดินมาหาเมลที่กำลังตะโกนอย่างน่าสมเพช

เพียงแค่ตอนที่เมลคิดว่าเขาจะได้แก้แค้น หมัดก็ปะทะกับใบหน้าทำให้เขาเบิกตากว้าง!

*ตู้ม~*

หัวหน้าชกหน้าเขาอย่างไม่ออมแรงแม้แต่น้อย

แก้มของเมลเป็นรอยกำปั้นและตัวเขากระเด็นไปสองเมตรกระแทกกับกำแพง กำแพงไม่ได้พังและแบกร่างของเมลเอาไว้

เกรกระพริบตาเพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาสับสนว่าทำไมหัวหน้าถึงไม่ปกป้องเมลในคราวนี้

“ทำไมกัน!?”

เมลที่ฝังอยู่ในกำแพงพูดด้วยความงุนงงขณะที่เจ็บปวดจนรู้สึกอัปยศ

“เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้แผนของเจ้าเรอะ? ต้องให้ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งว่าอย่าไปยุ่งกับเกร?”

หัวหน้าเดินไปที่เมลและหันมามองเกร

“เกร ยกโทษให้หลานเมลข้าด้วยเถอะ มันจะไม่ทำแบบนี้อีก และข้าจะลงโทษมันด้วยตัวเอง”

เขาโค้งศีรษะเล็กน้อย

เกรพยักหน้าและไม่พูดอะไร เขาเพียงแค่แบกรับความยากลำบากและพยายามสุดความสามารถในตอนนี้ แต่สถานการณ์กำลังสิ้นหวังมานาน ด้วยสภาพของเด็กที่อ่อนแอตลอดหลายปีที่ผ่านมา

หัวหน้าถอนหายใจก่อนจะคิดอะไรได้

“ว่าแต่ว่า เจ้าเห็นแสงส่องสว่างแถวนี้บ้างหรือไม่?”

“ที่มันสว่างที่นี่ก็มีแต่ดาบข้า…”

เกรพูดในคอ

“ไม่ใ…เอาเถอะ”

หัวหน้าหยุดพูด เขาคิดว่าเขาเจอสมบัติและไม่เต็มใจจะบอกคนอื่น

เทียนหลงที่สิงร่างใหม่เริ่มเหงื่อออกเมื่อได้ฟังที่พวกเขาคุยกัน ไม่ใช่เพราะหัวหน้าพูดถึงแสงสว่างแต่เป็นเพราะเขาไม่เข้าใจสิ่งที่ทุกคนคุยกันเลย

‘โชคชะตาอะไรกันเนี่ย? มีคนอ่อนแออายุต่ำกว่ายี่สิบปีตั้งเยอะ ทำไมถึงเป็นเด็กนี่ล่ะ? แบบนี้ดูแลตัวเองยังไม่ได้เลย ตายแล้ว!’

เทียนหลงทำหน้าหมดอาลัย

เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่มีเมฆครึ้มไม่ต่างกับโชคชะตาที่หม่นหมองของเขาอย่างเคย แสงตะวันน้อยนิดที่ทอดลงมาบนใบหน้าของเขามิอาจสร้างความอบอุ่นได้เลย

ในตอนนั้นเขาก็ทำหน้ามุ่งมั่นที่จะอยู่รอดให้ได้ในโลกใบนี้ซึ่งนับว่าน่ารักสำหรับใบหน้าของเด็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องรอเวลาห้านาที เขาได้แต่รอ

แม้ว่าบันทึกมรณะจะสลายไปแล้ว ความเสียหายกับดวงวิญญาณของเขาก็เกิดขึ้นไปแล้วด้วย เขายังคงสงสัยว่าเขาจะอยู่รอดหลังจากผ่านเวลาห้านาทีไปหรือไม่

เกรหันมาและเดินกลับมายังเด็กที่นอนหงายอยู่ เขาอึ้งในทันทีที่เห็นเด็กตื่นขึ้นมา!

“เจ้าหนู! ได้ยินข้ารึเปล่า? เจ้าไม่เป็นอะไรแล้วงรึ?”

เกรตะโกนด้วยความตื่นเต้น เขาคุกเข่าข้างตัวเด็ก

“ใจเย็นก่อนเกร เขาเป็นแค่เด็กที่อยู่ในขีดอันตรายตั้งแต่ที่เจ้าเจอ เจ้าคิดว่าเขาจะพูดได้รึ?”

หัวหน้าหัวเราะเบา ๆ

“อ๊ะ จริงด้วย ข้าดีใจจนลืมตัว ขอโทษที…”

เกรตอบด้วยความเขินอายเล็กน้อย

“เอาล่ะ ดูแลเด็กนั่นไป ข้ามีเรื่องต้องทำ…”

หัวหน้าบอกลาและเดินจากไป เขาตาเป็นประกายและเดินทั่วไปซ้ายทีขวาทีเพื่อมองหาต้นกำเนิดแสงที่เห็น

‘เจ้าพวกบ้านี่พูดอะไรกัน? ไม่เห็นจะเข้าใจเลย…นี่มันภาษาบ้าอะไรเนี่ย?’

เทียนหลงใจเย็นลงก็เมื่อเขาพยายามจะคิดถึงสถานการณ์ตอนนี้

‘แล้วที่จริง นี่มันที่ไหนแล้วเด็กคนนี้คือใคร?’

เขามองชายวัยกลางคนที่ดูเป็นห่วงเป็นใยเขา

‘หรือว่าเจ้านี่จะเป็น…พ่อของเด็กคนนี้?’

ในตอนนั้นเอง ที่กลางระหว่างติ้วของเทียนหลงก็เริ่มเจ็บแปลบอย่างรุนแรง

“อ๊ากกกกก!”

“เจ้าหนู! เจ้าเป็นอะไร?”

เกรตื่นตระหนกเมื่อมองเด็กที่ตะโกนด้วยความเจ็บปวด

“ไม่นะ!”

เขารู้สึกว่าร่างกายกำลังเย็นลง!

‘ของดำ ๆ ตรงหน้าเรานี่มันอะไร?’

เทียนหลงเห็นภาพน่ากลัวตรงหน้า ภาพของเขาดับหายไปและกลายเป็นความดำสนิทราวกับไม่เหลือแสงจากที่ใดเลย แต่ต่อมาความดำสนิทก็กลายเป็นความผิดปกติในสิ่งที่เขาเห็น

แต่มันเป็นความผิดปกติในแบบที่คุ้นเคยถ้าเขาจะพูด…

เทียนหลงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมานและใช้มือจับศีรษะจนกระทั่งหมดสติไปเพราะความเจ็บปวดรุนแรง

เกรที่แตกตื่นเริ่มหวาดกลัวในทันทีที่เห็นว่าเด็กหยุดดิ้นรน เขาดูชีพจรและถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“เขาแค่สลบไป ขอบคุณจริง ๆ …บางทีอาจจะแค่กลัวหน้าข้าก็ได้…นั่นก็สมเหตุสมผล ยังไงนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขาลืมตา…”

‘เจ้าเด็กนี่ชอบแขวนข้าไว้บนเส้นด้ายเสียจริง’

เขาหัวเราะแห้ง ๆ และถอนหายใจเมื่อคิดถึงความยากลำบากที่เขาเผชิญมาถึงตอนนี้

‘นี่ก็เกือบถึงวันเกิดรอบที่สามของเด็กนี่แล้ว ดีจริง ๆ ที่เขาตื่นมาก่อน ไม่งั้นข้าคงโดนบั่นคอแน่…’

เกรขอบคุณสวรรค์เมื่อรู้สึกถึงความบังเอิญ

เขาแบกเทียนหลงไปที่ห้องของเขาและจัดให้เทียนหลงนอนบนเตียงของเขาเอง จากนั้นเขาก็นั่งหน้าโต๊ะและเขียนจดหมายอย่างไร้คำผิด ตลอดด้วยรูปแบบที่คล้ายกับผนึกลับที่ออกแบบมาอย่างดี

เขายืนข้างหน้าต่างและผิวปาก นกพิราบงดงามตัวหนึ่งบินผ่านหน้าต่างและยืนบนไหล่เกร ดวงตาของมันเฉียบคมและดูน่ากลัวถ้าเทียบกับขนาดตัวที่เล็กของมัน

เกรผูกจดหมายกับขาพิราบ จากนั้นมันก็บินออกไปจากไหลเขาไปสู่จุดหมายที่เขาตั้งใจไว้

‘ดีจริง ๆ ในที่สุดภารกิจของข้าก็เกือบจบลงแล้ว…ถ้าหากทุกอย่างราบรื่น ข้าเดานะ..’

เกรได้เผชิญกับความยากลำบากมามากเกินไปแล้วเป็นเวลาเกินสองปีที่ผ่านมานี้ เขาใช้เงินทั้งหมดที่มีดูแลเด็กคนนี้ทำให้เขายากจนเสียยิ่งกว่าขอทาน

เขาไม่มีทางเลือกนอกจากเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างเพื่อดูแลเด็กคนนี้และเลี้ยงตัวเอง

“เกือบสามปีแล้วตั้งแต่ที่ข้าออกจากอาณาจักร หวังว่ากระแสนั้นจะข้ามไปแล้ว มิเช่นนั้นเราทั้งคู่คงต้องตาย”

เขาหัวเราะแห้ง ๆ อีกครั้งและนอนแผ่กับพื้น ดวงตาหลับสนิทราวกับคนตาย แต่เขาก็ปล่อยเสียงกรนออกมาในเวลาไม่กี่วินาที

นี่เป็นครั้งแรกหลังจากที่เกรได้รับภารกิจมาและได้หลับอย่างเป็นสุข

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด