ตอนที่แล้วตอนที่ 2 : โลกใบใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 : กลับเมืองหลวง

ตอนที่ 3 : การตื่น


หลังจากสามวันผ่านไป เทียนหลงก็ยังคงไม่ตื่น

การที่ต้องแบกรับความเจ็บปวดในหัวอย่างสม่ำเสมอไม่หยุดพักตลอดเวลาที่ผ่านมาทำให้เขาเหมือนกับผู้ที่ทุกข์ทรมานกับฝันร้าน

“เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้กัน? เขาป่วยงั้นรึ? แต่หมอที่จ้างมาก็บอกว่าเขาสุขภาพดีสมบูรณ์กับอายุเท่านี้นี่ ซึ่งมันก็แปลกอยู่แล้วเพราะว่าเขาไม่เคยได้สติมาก่อนเลยตั้งแต่เกิดมา…”

“สวรรค์ช่วยเราจริง ๆ รึ?”

เกรพึมพำเพราะยากที่เขาจะเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้

‘ช่างเถอะ ก็แค่รายงานให้คนอื่นรับรู้…’

เขาเปิดประตูออกจากห้องไป

หลังจากไม่นานเมื่อห้องเงียบสงบ…

เด็กในยห้องลืมตาขึ้นมาอย่างมึนงง

‘นี่เราอยู่ไหน? ที่นี่ที่ไหนกัน? ทำไมถึงยังไม่ตายล่ะ?’

เทียนหลงมีความสงสัยและคำถามมากมายในหัวแต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ…

‘ไอของดำ ๆ ในวิญญาณเรามันคืออะไรกันแน่?’

‘เอ๋…เดี๋ยวก่อน! เรารู้สึกถึงวิญญาณตัวเองเรอะ?’

เทียนหลงรู้สึกสับสนและถึงกับกลัวอยู่เล็กน้อย ความรู้สึกที่ระหว่างคิ้วของเขามันคือความรู้สึกใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย

วิญญาณอยู่ตรงบริเวณระหว่างคิ้ว…นี่เป็นสิ่งที่เขาคิดขึ้นเอง ดังนั้นเขาจึงคิดไปเองเลยว่านี่คือความรู้สึกของดวงวิญญาณ

เขาใจสั่นเป็นการตอบสนองกับการค้นพบครั้งใหม่

เทียนหลงกัดริมฝีปากกระซิบกับตัวเองเป็นภาษาจีน

“เอาล่ะ ใจเย็นก่อนตัวเรา! ถ้าค่อย ๆ คิดให้ดี บางทีมันอาจจะสมเหตุสมผลกับสถานการณ์ตอนนี้ก็ได้!”

เขาหายใจเข้าลึกเพื่อให้ตัวเองใจเย็นลงแต่มันก็ไม่พอ เขาทำใจให้ว่างและหายใจเข้าอีกหลายครั้งเพื่อให้ใจเย็นลง จากนั้นสีหน้าของเขาก็กลับมาค่อนข้างใจเย็น เขาเริ่มเชื่อมโยงเรื่องต่าง ๆ ทีละเรื่อง

‘บันทึกมรณะถูกทำลายในอุโมงค์มิติ แล้วเราก็ได้เห็นเรื่องทั้งหมดกับตา เรามั่นใจมาก แล้วของสีดำในวิญญาณที่เหมือนกับหนังสือมันคืออะไรล่ะ?’

‘หรือว่ามันคือบันทึกมรณะ? มันก็คล้ายกันอยู่นะ…’

เทียนหลงกัดริมฝีปากอย่างแรงอย่างแรงแต่ก็หยุดเพราะรู้ว่ามันอาจจะเป็นอันตรายกับร่างเด็กแต่ก็รู้ตัวว่ามันคือตัวเขาเอง เขาคิดต่อไปด้วยความรู้สึกย้อนแย้งนี้

‘แต่ถ้าบันทึกมรณะตามเรามาในโลกนี้ มันก็น่าจะฆ่าเราได้หลังจากที่ออกมาจากอุโมงค์มิติแล้วได้ร่างนี้ ถ้ามันไม่ฆ่าเรา เราก็คิดถูก… บันทึกมรณะอาจจะโดนจำกัดพลังไว้ด้วยกฎเกณฑ์ของโลกใบนี้!’

เทียนหลงรู้สึกดีใจมาก! เขาหวังพึ่งแค่ดวงตัวเองและการเข้ามาในต่างโลกควรจะทำลายหรือไม่ก็ล้างบันทึกมรณะขึ้นใหม่!

เขาไม่เคยฆ่าหรือควบคุมสัตว์ด้วยบันทึกมรณะมาก่อน ดังนั้นภายในตรรกะที่ว่าบันทึกมรณะทำงานตามหลักการนั้น มันก็น่าจะมีกฎเกณฑ์แบบนั้นในโลกใบนี้ด้วย

เขายังเตรียมคิดเผื่อว่าบันทึกมรณะจะไม่ทำงานบนโลกใบนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเชื่อได้ยากที่มันอยู่ในดวงวิญญาณเขา

‘โลกใบนี้อาจจะต้องการเวลาตรวจพบการมาถึงของสิ่งที่ไม่รู้จัก บันทึกมรณะน่าจะทำตามเงื่อนไขของเราที่ให้หาร่างอ่อนแออายุต่ำกว่ายี่สิบปี แต่มันก็ฆ่าเราไม่ได้หลังจากห้านาทีที่เราจะต้องตายด้วยบันทึกมรณะ เพราะมันน่าจะถูกทำลายหรือรีเซ็ตด้วยกฎของโลกนี้’

‘ถ้าอย่างนั้น ถ้าวัตถุสีดำนี่คือบันทึกมรณะ แล้วมันมาหลอมรวมกับวิญญาณเราได้ยังไง? หรือเพราะว่าในตอนนี้เราคือเจ้าของมัน?’

‘ใช่แล้ว น่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเป็นแบบนี้ก็สมเหตุสมผล’

แม้ว่าเทียนหลงจะมีสิ่งที่สงสัยมากมายแต่มันก็ฟังดูมีเหตุผลกับเวลาแบบนี้ แม้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่ผิดเพี้ยนไปหมด เขาก็รู้สึกว่าเขาอยู่ไม่ไกลจากความจริงนัก

เทียนหลงลงจากเตียง และเขาก็ล้มลงในตอนที่พยายามจะเดิน

‘อะไรกันเนี่ย!?’

เขาพยายามลุกขึ้นยืนแต่ก็ทำไม่ได้ เขาคลานไปจนถึงหน้าต่างที่มุมห้อง เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีที่สามารถรวบรวมได้

‘อ่อนแอจริง ๆ!’

เขาบ่นแต่ก็เข้าใจได้เพราะเขาอยู่ในร่างของเด็ก เขาเป็นคนขอให้เข้ามาในร่างที่อ่อนแอเองเพื่อที่จะสิงร่างได้อย่างไม่ยาก แต่ดูเหมือนว่าสำหรับเด็กคนนี้แล้ว เขาไม่ควรตั้งเงื่อนไขแบบนั้นเลย

เขามองร่างสูงเก้าสิบเอ็ดเซนติเมตรด้วยผิวเนียน ดวงตาสีไพลินดูน่ารัก แต่ใบหน้านั้นดูอ่อนแอและซูบผอมเหมือนกับร่างกาย ผมสั้นสีบลอนด์ยุางเหยิงกับร่างเล็กที่เป็นปกติสำหรับเด็ก 3 ขวบ เขาดูไม่ต่างจากเด็กที่ไม่ได้รับการดูแลหรือเด็กกำพร้าเท่าไหร่

แต่เขาก็ดูสะอาดสะอ้านโดยไม่มีคราบเปื้อนแม้สภาพร่างกายจะเป็นเช่นนี้ บางทีเขาอาจจะถูกดูแลโดยชายวัยกลางคนคนนั้นและเขาน่าจะเป็นพ่อของเด็กคนนี้เมื่อได้เห็นครั้งแรก

แต่ในตอนนี้ เขารู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่เหมือนกับชายวัยกลางคนเลยแม้แต่น้อย

‘เด็ก 2 หรือ 3 ขวบ? เด็กกำพร้า? จะเป็นยังไงก็ช่าง ถ้าเราเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่นี้ได้…’

‘ไม่รู้ว่าแกเป็นใคร แต่ขอโทษนะที่มายึดร่างไปแบบนี้ คงไม่มีข้ออ้างอะไรเพราะฉันเป็นคนฆ่าแกทางอ้อม…’

เทียนหลงไม่รู้ว่าเด็กคนนี้หลับใหลไม่ได้สติมานานตั้งแต่เกิดและกำลังจะตายเมื่อสามวันก่อน เขาต้องแบกรับความรู้สึกซับซ้อนในเรื่องที่เขาเป็นคนฆ่าเด็กบริสุทธิ์ แต่นั่นไม่ได้หยุดเขาจากการใช้ชีวิตนี้ต่อ

‘ขอสาบานว่าจะใช้ชีวิตในส่วนที่เหลือของแกให้ดี’

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกลักลั่นเพราะเด็กคนนี้กลายเป็นความสูญเสียแรกในโลกใบนี้จากเขา

=====

หลังจากที่เกรออกจากห้อง เขามุ่งหน้าไปยังห้องที่หัวหน้าอยู่

*ก๊อก!~*

“เข้ามา…”

เสียงดังมาจากในห้อง

*เอี๊ยด!~*

เกรเปิดประตูเดินเข้าไป ฝีเท้าของเขาทำให้พื้นไม้ส่งเสียงแหลม

“โอ้ เกร มีอะไรรึ?”

“หัวหน้า ถึงเวลาที่ข้าจะเลิกเป็นทหารรับจ้างแล้ว…”

ในห้องมีเพียงความเงียบ

“เฮ่อ เวลาสองปีหมดลงแล้วหรือ? เวลาผ่านไปเร็วนัก…”

หัวหน้านึกถึงอดีตเมื่อถอนหายใจ

“ใช่ ขอบคุณที่คอยดูแลข้าในกลุ่มทหารรับจ้าง เรื่องการชดเชย จะได้ก็ต่อเมื่อคนจากอาณาจักรมารับข้า”

“ดูแลเจ้าเรอะ? ปกป้องชายที่พลังบ่มเพาะมากกว่าข้าเนี่ยนะ? เจ้าล้อข้าเล่นแน่ ๆ หรือว่าเด็กคนนั้น?”

หัวหน้าหัวเราะ

“รู้แล้วงั้นเหรอ?”

เกรพูด แต่เขาไม่ได้ดูแปลกใจ

“ข้าอยู่กับเจ้ามาเกือบสองปี ใช่ ถ้าข้าไม่รู้ ข้าก็น่าจะเลิกเป็นทหารรับจ้างได้แล้วล่ะ…”

เกรกระพริบตา

“ดีที่บอกข้าตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าเป็นเมื่อเดือนก่อน ข้าอาจต้องฝืนฆ่าเจ้า…”

“เป็นคำสั่งรึ?”

หัวหน้ายิ้มแหย

“ใช่…”

เกรเอียงคอตอบไปราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว

“ราชวงศ์ลอเรตน่ากลัวจริง ๆ ตั้งแต่ที่เอาตัวรอดมาได้และประหารตระกูลขุนนางที่เข้าร่วมในการก่อกบฏ”

“ว่าไงนะ? ตระกูลลอเรตปราบพวกกบฏได้แล้วรึ?”

“ใช่ ข้าเพิ่งจะได้ข่าวเมื่อสองวันก่อน”

หัวหน้าพยักหน้า

เกรยืนตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น!

‘ถ้าเป็นแบบนี้ เราสองคนก็รอดแล้ว…’

เกรถอนหายใจด้วยความโล่งอกและใจเย็นลง

“เช่นนั้น ข้าจะกลับแล้ว หัวหน้า!”

“โชคดีล่ะ…”

หัวหน้าถอนหายใจ เป็นอีกครั้งที่เขาคิดว่าเขากำลังจะต้องสูญเสียลูกน้องที่ดีและแข็งแกร่งที่สุดไป แต่เขาก็รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นสิ่งที่มิอาจเลี่ยงได้

=======

*เอี๊ยด!~*

เกรเปิดประตูห้องและเดินเข้ามา แต่เขาก็เกือบหัวใจวาย

“เด็กหายไปไหน?”

เกรชักดาบออกจากฝักและวิ่งเข้ามาอย่างตื่นตระหนกทันที

เทียนหลงลรีบหันไปที่มุมห้องและเห็นเกรวิ่งเข้ามาในห้อง

‘เรย์ โนแลน คือชื่อของเขางั้นเหรอ?’

‘ดูเหมือนว่าข้ายังมีเนตรเทพมรณะอยู่ ก็หมายความว่าข้ายังมีบันทึกมรณะอยู่กับตัว…’

ด้วยเหตุนี้ เทียนหลงจึงยืนยันว่าเขายังมีบันทึกมรณะอยู่กับเขา แต่เขารู้สึกว่าบันทึกมรณะอยู่ในตัวเขามากกว่า

เรย์ โนแลนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าเด็กปลอดภัย แม้ว่าเขาพยายามจะทำบางอย่างอยู่

“เนเยย…เยย…อุเดล…”

เทียนหลงเริ่มแสร้งทำหน้าตาน่ารัก

‘ดูจากที่เรานอนบนเตียง ชายคนนี้น่าจะเป็นคนดูแลเรา และก็ไม่แปลกด้วยที่เด็กกำพร้า 3 ขวบจะยังพูดไม่เป็น!’

เรย์ โนแลนเดินเข้ามาหาเด็กและอุ้มเขาทันที

“หา ข้าต้องโดนบั่นหัวแต่น่าพวกเขารู้ว่าเจ้าชายไม่รู้วิธีพูดน่ะ?”

เรย์ โนแลนกลัวเล็กน้อยแต่เมื่อคิดให้ถี่ถ้วนแล้ว

‘ก็อาจจะไม่…’

เทียนหลงไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายพูดอะไรเพราะเขาไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย

เนตรเทพมรณะแสดงเพียงแค่ชื่อและอายุขัย ยกเว้นแต่อย่างหลังที่ดูเหมือนจะแสดงเป็นอย่างอื่นแทน

‘เจ้าหมอนี่ พูดภาษาที่ฟังรู้เรื่องหน่อยสิฟะ…’

เทียนหลงอ้อนวอนด้วยใจจริงและความเศร้า

“เจ้าหนู ถึงเวลาที่เจ้าจะกลับอาณาจักรแล้ว และที่นั่นเจ้าจะได้เริ่มเรียนภาษาซักที”

เรย์ โนแลนเริ่มบรรยายและสอนเด็กคนนี้แม้เขาจะรู้ว่าเด็กคนนี้ไม่มีทางเข้าใจเขาเพราะชีวิตเขาขึ้นอยู่กับเด็กคนนี้

“...”

การบรรยายดำเนินต่อไปสิบนาที ทิ้งใบหน้าเทียนหลงที่เต็มไปด้วยรอยขมวด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด