ตอนที่แล้วตอนที่ 85 ผู้อาวุโสสูงสุด (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 87 แม็กนัสขี้เหนียว (อ่านฟรี)

ตอนที่ 86 ความภักดีนิจนิรันดร์ไม่เปลี่ยนแปลง! (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 86 ความภักดีนิจนิรันดร์ไม่เปลี่ยนแปลง!

แม็กนัสและคนอื่นๆ หันไปมองทันทีเพื่อดูว่าเป็นใคร แต่กลับไม่เห็นมีใคร

"ตรงนี้"

พวกเขาหันกลับไปด้านหน้า ในที่สุดพวกเขาก็เห็นว่าผู้อาวุโสสูงสุดคนนี้คือใคร แน่นอนว่ามันไม่ยิ่งใหญ่อย่างที่พวกเขาคาดไว้ ออกแนวน่ารักมากกว่า เธอสวมชุดสีแดงพร้อมหูกระต่าย แล้วก็มีหมวกพ่อมดทรงแหลมอยู่บนหัวของเธอ และในมือของเธอมีไม้กายสิทธิ์ขนาดเล็ก

“ท่านคือ...ผู้อาวุโสสูงสุด?” แม็กนัสถามเธอด้วยความไม่เชื่อ

“แน่นอนเพคะฝ่าบาทที่รัก หม่อมฉันอาศัยอยู่ในปราสาทแห่งนี้มา 200 ปีแล้ว ฝ่าบาทในฐานะกษัตริย์แห่งบริเตนสามารถเรียกหม่อมฉันง่ายๆ ว่ามาร์ธาหรือหญิงชราก็ได้เพคะ หม่อมฉันเป็นทวดของแชดด้วยเพคะ” เธอกล่าวด้วยความเคารพ แม้ว่าเสียงของเธอจะใจดีและสงบจนรู้สึกเหมือนเสียงเพลง

"อะไรนะ?" ทุกคนอุทานพร้อมกัน

ข้ารู้แล้ว...” อาเธอร์อุทานเสียงดังเช่นกัน

“ข้าก็ว่ารู้สึกแปลกๆ เกี่ยวกับแมวอ้วนตัวนั้นตั้งแต่แรก แล้วกำลังคิดถึงแมวที่เราจ้างมาดูแลปราสาท” อาเธอร์กล่าว

ขณะที่แม็กนัสตกใจ "แชดก็พูดได้ด้วยเหรอครับ?"

“เปล่าเพคะ เขายังเด็กเกินกว่าจะพูดได้” มาร์ธาตอบ

-_-

"คุณ...เอ่อ คุณเป็นสายพันธุ์อะไรหรอครับ? ผมไม่เคยอ่านเรื่องเกี่ยวกับแมวพูดได้มาก่อนเลย" แม็กนัสถาม

“โอ้ หม่อมฉันไม่ใช่แมวธรรมดา หม่อมฉันเป็นลูกครึ่งเนียเซิล บรรพบุรุษคนแรกของฉันคือแมวจริงๆ แต่เขาถูกทดลองโดยพ่อมดผู้บ้าคลั่ง เมอร์ลินช่วยเขาไว้และแก้ไขความเสียหายทางร่างกาย อย่างไรก็ตาม การทดลองที่พ่อมดบ้าคลั่งทำก็ประสบความสำเร็จในขณะที่เมอร์ลินกำลังรักษา ตั้งแต่วันนั้นแมวตัวนั้นก็กลายเป็นแมวน้อยคล้ายมนุษย์ ตอนนี้เขาตายไปแล้ว แต่สายเลือดของเขายังคงดำเนินต่อไป” เธออธิบาย

สเนปพูด "งั้นคุณเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงสินะ"

“เจ้าค่ะ” เธอยืนยัน

“อืม ถ้าคุณอยู่มานานขนาดนี้ งั้นผมจะเรียกคุณว่าคุณยายมาร์ธา อา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณส่งแชดมาหาผม” แม็กนัสตัดสินใจ

เธอหัวเราะ "ฮิฮิ ถ้าอย่างนั้นคงจะดีกว่าเพคะ เชิญเสด็จเพคะ หม่อมฉันจะพาฝ่าบาทไปทอดพระเนตรโต๊ะกลม หม่อมฉันได้ยินพระองค์ตรัสถึงมันตอนเดินเข้ามา "

“คุณสอดแนมเราเหรอครับ?” บ๊อบบี้ถาม

"ไม่ ไม่ใช่เจ้าค่ะ เวทมนตร์ของฉันทำให้ฉันรู้สึกว่าปราสาททั้งหลังเป็นอีกส่วนหนึ่งของร่างกาย ฉันเชื่อมโยงกับมัน ฉันเลยรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น” เธอเปิดเผย

“ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมพวกเขาถึงกลัวคุณมากแล้วเรียกคุณว่าผู้อาวุโส” รักนาร์พึมพำ

เธอตัวเล็กมาก เท้าของเธอจึงขยับได้เร็วกว่าเท้าของพวกเขามาก และมันทำให้เธอดูน่ารักมากๆ ท้ายที่สุดแล้วเธอก็เป็นแมวตัวหนึ่งและสมควรได้รับการกอดและลูบเบาๆ แต่เมื่อรู้ว่าเธอมีอายุมา 200 ปีแล้ว พวกเขาจึงหยุดแรงกระตุ้นนี้ทันที

เธอเดินนำไปเรื่อยๆ ผ่านห้องโถงต่างๆ ประตูถูกเปิดเองโดยอัตโนมัติเมื่อเธอเข้ามา ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงประตูบานใหญ่ซึ่งมีมังกรตัวใหญ่สลักอยู่

"นี่ไงเพคะ ห้องที่มีโต๊ะกลม เชิญฝ่าบาทเบิกพระทวารเพคะ" เธอแนะนำ

แม็กนัสพยักหน้าและเดินไปข้างหน้า เขาวางฝ่ามือลงบนประตูแล้วผลักมันเบาๆ

มันเปิดออกโดยไม่ส่งเสียงดังใดๆ อีกด้านมืดจนมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้าไปข้างในห้องก็พลันสว่างขึ้น มันใหญ่มาก แต่ไม่มีอะไรเลยนอกจากโต๊ะกลมยักษ์ตรงกลาง

"ว้าว... มันดูน่าเกรงขามจัง" แม็กนัสพึมพำ

"นี่คือโต๊ะที่เรารู้จักกันดี ต้นกำเนิดประเทศอังกฤษ" บ๊อบบี้ตกใจ

แม็กนัสเดินไปข้างหน้าเพื่อดูโต๊ะ มีผิวหินอ่อนสีเข้มแวววาวอยู่ด้านบน แต่สิ่งที่ทำให้มันดูแตกต่างออกไปก็คืออักขระรูนที่ส่องประกายอยู่บนนั้น จากนั้นก็มีลวดลายมังกรอยู่บนนั้น ทำจากวัตถุแวววาวสีส้ม โต๊ะดูโอ่อ่าเกินกว่าที่แม็กนัสคาดไว้

"บ็อบบี้ รักนาร์ และ เซฟ นั่งลง เรามาเปิดการประชุมโต๊ะกลมครั้งแรกอย่างเป็นทางการกันเถอะ เราจะหารือกันว่าจะทำอย่างไรเพื่อเพิ่มอิทธิพลของเรา" แม็กนัสประกาศกร้าว

เมื่อได้ยินเขาทั้งสามก็ดูจริงจังทันทีและนั่งลง

มาร์ธายิ้ม “ทรงงานหนักมาก ฝ่าบาทเพคะ ให้หม่อมฉันส่งความสดชื่นหน่อยนะเพคะ”

แม็กนัสพยักหน้าให้เธออย่างใจดีพลางพูดว่า "ขอบคุณครับ คุณเป็นผู้ดูแลปราสาทนี้ทั้งหมด เรียกผมว่าแม็กนัสก็ได้ ให้คำว่า 'ฝ่าบาท' สงวนไว้สำหรับผู้อื่น"

มาร์ธาพยักหน้า เธอชอบกษัตริย์องค์นี้มากขึ้นเรื่อยๆ ยังเด็ก ช่างคิดช่างเจรจา

“ดีเจ้าค่ะ แม็กนัส งั้นดิฉันไม่รบกวนเธอแล้วเจ้าค่ะ” เธอออกจากห้องโถง

ไม่นานก็เหลือเพียงแค่พวกเขาที่อยู่ในห้องโถง แม็กนัสวางรูปเหมือนของอาเธอร์และเมอร์ลินไว้บนที่นั่งด้วย พวกเขาจะคอยเป็นที่ปรึกษาของเขา

"เอาล่ะมาเริ่มการประชุมกันเถอะ เราต้องการคนมากกว่านี้เพื่อเติมเต็ม 21 ที่นั่งที่เหลือ พอจะเดาได้ไหมว่าน่าจะเป็นใครบ้าง?” แม็กนัสถาม

บ๊อบบี้ยกมือขึ้นทันที

...

ตรอกน็อคเทิร์น

ในขณะที่ แม็กนัสกำลังวางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น ศัตรูของเขากำลังลับคมมีดของพวกเขาเช่นกัน

การตายของ แอแบรกซัส มัลฟอย ไม่ใช่สิ่งที่แม็กนัสวางแผนไว้ แต่ในใจของลูเซียส แม็กนัสเป็นผู้กระทำทั้งหมด นอกจากคำสาปที่แม็กนัสพูดใส่เขาแล้ว จิตใจของเขาก็ไม่ยอมให้เขาลืมความแค้นกับแม็กนัส

นับตั้งแต่วันที่แอแบรกซัสเสียชีวิต ชีวิตของเขากลับแย่ลง เมื่อสิ้นพ่อเขาแล้ว เขาก็สูญเสียอิทธิพลทั้งหมดที่ตระกูลของเขาเคยมี แถมตอนนี้เขายังเป็นคนสุดท้ายในตระกูลที่เหลืออยู่

แต่สิ่งที่ทำให้เขารังเกียจยิ่งกว่าคือพฤติกรรมของพวกเลือดบริสุทธิ์คนอื่นๆ ที่พ่อของเขาเคยคิดว่าเป็นเพื่อนไม่ก็พันธมิตร

พวกมันทั้งหมดหันหลังให้เขา แม้แต่ผู้นำตระกูลแบล็กก็ไม่สนใจเขาเมื่อเขาขอให้พวกนั้นช่วยฆ่าแม็กนัส

ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของเขา เขาใช้ชีวิตคนเดียวในบ้านของตระกูลใหญ่

เขาจัดการประชุมที่นี่ กับคนที่สำคัญมาก อันที่จริงเขาเองก็ไม่เคยเชื่อเรื่องทฤษฎีเลือดบริสุทธิ์จนสุดโต่งขนาดนั้น สำหรับเขาและพ่อมันก็เป็นเพียงแค่หนทางสู่จุดสูงสุดของความมั่งคั่งและมีอำนาจ

แต่ตอนนี้ ใจของเขาเปลี่ยนไปแล้ว

~ แมกนัส ฉันจะทำให้แกรู้สึกเจ็บปวดแบบเดียวกันกับฉัน แกรอก่อนเหอะ ~ เขาพึมพำภายใต้ลมหายใจของเขา

*ฟืบ*

มีคนปรากฏตัวเป็นผู้หญิงผมดำยุ่งเหยิง ผิวขาวราวน้ำนม เธอสวย รูปร่างของเธอมีส่วนเว้าส่วนโค้งพอดี แต่การแสดงออกทางสีหน้าของเธอดูบ้าคลั่งอันตราย แล้วมันก็มาจากความบ้าในจิตใจของเธอเอง

"ฮิฮิ... ลูซี่น้อย แกยังมัวครุ่นคิดถึงการตายของแอแบรกซัสอยู่ใช่ไหม? อิ๊วววว... แกนี่อย่างกะลูกหมาเล้ย แต่ไม่กอดนะ ฉันให้แตะได้แค่สองคน... ฮ่าๆ… แกรู้ว่าพวกเขาเป็นใครใช่ไหม? แกอยากสัมผัสหญิงสาวคนนี้ด้วยหรือเปล่า ลูซี่? สายตาที่จ้องมองมานั่นหมายความว่ายังไงฮะ?” เธอพูดไม่หยุดเหมือนแม่มดบ้า

*ฟืบ*

เสียงหายตัวคนอื่นดังขึ้นมา คราวนี้เป็นร่างสูงเพรียว เขาเตือนผู้หญิงคนนั้นทันที “เบลลาทริกซ์ ขอโทษลอร์ดมัลฟอยซะ”

“อ่า ขออภัยเจ้าค่ะ ท่านลอร์ด” เธอขอโทษทันที แต่ใบหน้าของเธอแสดงให้เห็นว่าเธอชอบถูกดุ

ชายร่างสูงจึงหันไปหาลูเซียสซึ่งคุกเข่าให้เขาอยู่ก่อนแล้ว

"ลุกขึ้น ลูเซียส" คนตัวสูงเดินเข้าไปใกล้และกอดอย่างน่าขนลุก เขาตบไหล่ของลูเซียส

"การตายของแอแบรกซัส เป็นการสูญเสียของชุมชนผู้วิเศษอังกฤษทั้งมวล เขาเป็นสมาชิกคนสำคัญของฉัน แต่เขาถูกพลากไป” เขาพูดด้วยความกระตือรือร้น

ดวงตาของลูเซียสเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำ เขาพยายามกลั้นน้ำตา *โคร้ม* จู่ๆ เขาก็คุกเข่าอีกครั้ง

“ข้าแต่ท่านลอร์ด โปรดมอบความยุติธรรมแก่ผมด้วยเถิดครับ ไอ้เลือดสีโคลนนั้นมันต้องทนทุกข์ทรมาน ผมพร้อมทำทุกอย่างเพื่อสิ่งนั้น”  ลูเซียสร้องขอ

คราวนี้ชายร่างสูงบังคับให้ลูเซียสลุกขึ้นยืน เขาลูบผมสีเงินของลูเซียสอย่างน่าขนลุก

"ใช่แล้วๆ... การแก้แค้นเป็นสิ่งที่ต้องทำ เพื่อเลือดสีโคลนแหงนหน้ามามองเรา คงต้องสอนบทเรียนแก่ชาวโลก

การต่อสู้ของฉัน... เพื่อพวกเราชาวเลือดบริสุทธิ์ทั้งมวล เมื่อเราชนะ เราจะครองโลก และผู้ที่อยู่ภายใต้เราจะรับใช้เรา!

ลูเซียส มัลฟอยเอ๋ย เธอจงเข้าร่วมกลุ่มของฉัน แล้วความยุติธรรมจะมอบให้เธอ แต่กลุ่มของฉันต้องการความภักดี ความภักดีนิจนิรันดร์ไม่เปลี่ยนแปลง! เธอให้ฉันได้ไหม?” เขาถาม

ลูเซียสมองใบหน้าที่ไร้ผมของคนตัวสูง เขาจ้องตรงเข้าไปในดวงตาด้วยความมุ่งมั่นจนไม่มีสิ่งใดมาทำลายมันได้

"ผมให้นายท่านด้วยทุกอย่างของผม!" ลูเซียสตอบ

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...ต่อจากนี้ไปเธอจะเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการของฉัน หน้าที่เธอคือพาพวกเด็กเลือดบริสุทธิ์ที่หลงผิดในบ้านสลิธีรินกลับไปสู่เส้นทางที่ถูกต้อง พามาหาฉัน!

เธอจะได้รับตรามารของฉันก็ต่อเมื่อเธอเรียนจบ เพราะมันอาจจะถูกติดตามโดยดัมเบิลดอร์และทำให้ชีวิตเธอตกอยู่ในอันตราย ถ้าฉันให้ความสำคัญกับเธอมากมันจะเสี่ยงเกินไป

ความตายจะติดตามสิ่งที่เรียกว่าทายาทแห่งเมอร์ลินเอง ลูเซียส เธอจงโฟกัสไปที่งานของคุณ แล้วเราจะรอเธอกลับมา"

ลูเซียสคุกเข่าอีกครั้งทันที คราวนี้ชายคนนั้นไม่ได้ทำให้เขาลุกขึ้น แต่กลับชี้ไม้กายสิทธิ์ของเขาขึ้นตรามารขึ้นสู่ท้องฟ้า

แล้วก็เปล่งสุรเสียงดังลั่นว่า "ข้าลอร์ดโวลเดอมอร์จะปฏิบัติต่อเพื่อนเลือดบริสุทธิ์ของเขาอย่างถูกต้อง! เพราะเราคือพ่อมดที่บริสุทธิ์ที่แท้จริง! เราคือผู้นำแห่งความตายมาสู่ทุกคนที่รับเอาเลือดที่แปดเปื้อนสิ่งโสโครกเข้ามา!

"ยินดีต้อนรับ...ลูเซียส มัลฟอย สู่สมาชิกกลุ่มของผู้เสพความตาย"

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

มาร์ธา

โต๊ะกลม

ตรอกน็อกเทิร์น

เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์

ตรามาร

ลอร์ดโวลเดอมอร์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด