ตอนที่ 86 ความภักดีนิจนิรันดร์ไม่เปลี่ยนแปลง! (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 86 ความภักดีนิจนิรันดร์ไม่เปลี่ยนแปลง!
แม็กนัสและคนอื่นๆ หันไปมองทันทีเพื่อดูว่าเป็นใคร แต่กลับไม่เห็นมีใคร
"ตรงนี้"
พวกเขาหันกลับไปด้านหน้า ในที่สุดพวกเขาก็เห็นว่าผู้อาวุโสสูงสุดคนนี้คือใคร แน่นอนว่ามันไม่ยิ่งใหญ่อย่างที่พวกเขาคาดไว้ ออกแนวน่ารักมากกว่า เธอสวมชุดสีแดงพร้อมหูกระต่าย แล้วก็มีหมวกพ่อมดทรงแหลมอยู่บนหัวของเธอ และในมือของเธอมีไม้กายสิทธิ์ขนาดเล็ก
“ท่านคือ...ผู้อาวุโสสูงสุด?” แม็กนัสถามเธอด้วยความไม่เชื่อ
“แน่นอนเพคะฝ่าบาทที่รัก หม่อมฉันอาศัยอยู่ในปราสาทแห่งนี้มา 200 ปีแล้ว ฝ่าบาทในฐานะกษัตริย์แห่งบริเตนสามารถเรียกหม่อมฉันง่ายๆ ว่ามาร์ธาหรือหญิงชราก็ได้เพคะ หม่อมฉันเป็นทวดของแชดด้วยเพคะ” เธอกล่าวด้วยความเคารพ แม้ว่าเสียงของเธอจะใจดีและสงบจนรู้สึกเหมือนเสียงเพลง
"อะไรนะ?" ทุกคนอุทานพร้อมกัน
“ข้ารู้แล้ว...” อาเธอร์อุทานเสียงดังเช่นกัน
“ข้าก็ว่ารู้สึกแปลกๆ เกี่ยวกับแมวอ้วนตัวนั้นตั้งแต่แรก แล้วกำลังคิดถึงแมวที่เราจ้างมาดูแลปราสาท” อาเธอร์กล่าว
ขณะที่แม็กนัสตกใจ "แชดก็พูดได้ด้วยเหรอครับ?"
“เปล่าเพคะ เขายังเด็กเกินกว่าจะพูดได้” มาร์ธาตอบ
-_-
"คุณ...เอ่อ คุณเป็นสายพันธุ์อะไรหรอครับ? ผมไม่เคยอ่านเรื่องเกี่ยวกับแมวพูดได้มาก่อนเลย" แม็กนัสถาม
“โอ้ หม่อมฉันไม่ใช่แมวธรรมดา หม่อมฉันเป็นลูกครึ่งเนียเซิล บรรพบุรุษคนแรกของฉันคือแมวจริงๆ แต่เขาถูกทดลองโดยพ่อมดผู้บ้าคลั่ง เมอร์ลินช่วยเขาไว้และแก้ไขความเสียหายทางร่างกาย อย่างไรก็ตาม การทดลองที่พ่อมดบ้าคลั่งทำก็ประสบความสำเร็จในขณะที่เมอร์ลินกำลังรักษา ตั้งแต่วันนั้นแมวตัวนั้นก็กลายเป็นแมวน้อยคล้ายมนุษย์ ตอนนี้เขาตายไปแล้ว แต่สายเลือดของเขายังคงดำเนินต่อไป” เธออธิบาย
สเนปพูด "งั้นคุณเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงสินะ"
“เจ้าค่ะ” เธอยืนยัน
“อืม ถ้าคุณอยู่มานานขนาดนี้ งั้นผมจะเรียกคุณว่าคุณยายมาร์ธา อา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณส่งแชดมาหาผม” แม็กนัสตัดสินใจ
เธอหัวเราะ "ฮิฮิ ถ้าอย่างนั้นคงจะดีกว่าเพคะ เชิญเสด็จเพคะ หม่อมฉันจะพาฝ่าบาทไปทอดพระเนตรโต๊ะกลม หม่อมฉันได้ยินพระองค์ตรัสถึงมันตอนเดินเข้ามา "
“คุณสอดแนมเราเหรอครับ?” บ๊อบบี้ถาม
"ไม่ ไม่ใช่เจ้าค่ะ เวทมนตร์ของฉันทำให้ฉันรู้สึกว่าปราสาททั้งหลังเป็นอีกส่วนหนึ่งของร่างกาย ฉันเชื่อมโยงกับมัน ฉันเลยรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น” เธอเปิดเผย
“ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมพวกเขาถึงกลัวคุณมากแล้วเรียกคุณว่าผู้อาวุโส” รักนาร์พึมพำ
เธอตัวเล็กมาก เท้าของเธอจึงขยับได้เร็วกว่าเท้าของพวกเขามาก และมันทำให้เธอดูน่ารักมากๆ ท้ายที่สุดแล้วเธอก็เป็นแมวตัวหนึ่งและสมควรได้รับการกอดและลูบเบาๆ แต่เมื่อรู้ว่าเธอมีอายุมา 200 ปีแล้ว พวกเขาจึงหยุดแรงกระตุ้นนี้ทันที
เธอเดินนำไปเรื่อยๆ ผ่านห้องโถงต่างๆ ประตูถูกเปิดเองโดยอัตโนมัติเมื่อเธอเข้ามา ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงประตูบานใหญ่ซึ่งมีมังกรตัวใหญ่สลักอยู่
"นี่ไงเพคะ ห้องที่มีโต๊ะกลม เชิญฝ่าบาทเบิกพระทวารเพคะ" เธอแนะนำ
แม็กนัสพยักหน้าและเดินไปข้างหน้า เขาวางฝ่ามือลงบนประตูแล้วผลักมันเบาๆ
มันเปิดออกโดยไม่ส่งเสียงดังใดๆ อีกด้านมืดจนมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้าไปข้างในห้องก็พลันสว่างขึ้น มันใหญ่มาก แต่ไม่มีอะไรเลยนอกจากโต๊ะกลมยักษ์ตรงกลาง
"ว้าว... มันดูน่าเกรงขามจัง" แม็กนัสพึมพำ
"นี่คือโต๊ะที่เรารู้จักกันดี ต้นกำเนิดประเทศอังกฤษ" บ๊อบบี้ตกใจ
แม็กนัสเดินไปข้างหน้าเพื่อดูโต๊ะ มีผิวหินอ่อนสีเข้มแวววาวอยู่ด้านบน แต่สิ่งที่ทำให้มันดูแตกต่างออกไปก็คืออักขระรูนที่ส่องประกายอยู่บนนั้น จากนั้นก็มีลวดลายมังกรอยู่บนนั้น ทำจากวัตถุแวววาวสีส้ม โต๊ะดูโอ่อ่าเกินกว่าที่แม็กนัสคาดไว้
"บ็อบบี้ รักนาร์ และ เซฟ นั่งลง เรามาเปิดการประชุมโต๊ะกลมครั้งแรกอย่างเป็นทางการกันเถอะ เราจะหารือกันว่าจะทำอย่างไรเพื่อเพิ่มอิทธิพลของเรา" แม็กนัสประกาศกร้าว
เมื่อได้ยินเขาทั้งสามก็ดูจริงจังทันทีและนั่งลง
มาร์ธายิ้ม “ทรงงานหนักมาก ฝ่าบาทเพคะ ให้หม่อมฉันส่งความสดชื่นหน่อยนะเพคะ”
แม็กนัสพยักหน้าให้เธออย่างใจดีพลางพูดว่า "ขอบคุณครับ คุณเป็นผู้ดูแลปราสาทนี้ทั้งหมด เรียกผมว่าแม็กนัสก็ได้ ให้คำว่า 'ฝ่าบาท' สงวนไว้สำหรับผู้อื่น"
มาร์ธาพยักหน้า เธอชอบกษัตริย์องค์นี้มากขึ้นเรื่อยๆ ยังเด็ก ช่างคิดช่างเจรจา
“ดีเจ้าค่ะ แม็กนัส งั้นดิฉันไม่รบกวนเธอแล้วเจ้าค่ะ” เธอออกจากห้องโถง
ไม่นานก็เหลือเพียงแค่พวกเขาที่อยู่ในห้องโถง แม็กนัสวางรูปเหมือนของอาเธอร์และเมอร์ลินไว้บนที่นั่งด้วย พวกเขาจะคอยเป็นที่ปรึกษาของเขา
"เอาล่ะมาเริ่มการประชุมกันเถอะ เราต้องการคนมากกว่านี้เพื่อเติมเต็ม 21 ที่นั่งที่เหลือ พอจะเดาได้ไหมว่าน่าจะเป็นใครบ้าง?” แม็กนัสถาม
บ๊อบบี้ยกมือขึ้นทันที
...
ตรอกน็อคเทิร์น
ในขณะที่ แม็กนัสกำลังวางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น ศัตรูของเขากำลังลับคมมีดของพวกเขาเช่นกัน
การตายของ แอแบรกซัส มัลฟอย ไม่ใช่สิ่งที่แม็กนัสวางแผนไว้ แต่ในใจของลูเซียส แม็กนัสเป็นผู้กระทำทั้งหมด นอกจากคำสาปที่แม็กนัสพูดใส่เขาแล้ว จิตใจของเขาก็ไม่ยอมให้เขาลืมความแค้นกับแม็กนัส
นับตั้งแต่วันที่แอแบรกซัสเสียชีวิต ชีวิตของเขากลับแย่ลง เมื่อสิ้นพ่อเขาแล้ว เขาก็สูญเสียอิทธิพลทั้งหมดที่ตระกูลของเขาเคยมี แถมตอนนี้เขายังเป็นคนสุดท้ายในตระกูลที่เหลืออยู่
แต่สิ่งที่ทำให้เขารังเกียจยิ่งกว่าคือพฤติกรรมของพวกเลือดบริสุทธิ์คนอื่นๆ ที่พ่อของเขาเคยคิดว่าเป็นเพื่อนไม่ก็พันธมิตร
พวกมันทั้งหมดหันหลังให้เขา แม้แต่ผู้นำตระกูลแบล็กก็ไม่สนใจเขาเมื่อเขาขอให้พวกนั้นช่วยฆ่าแม็กนัส
ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของเขา เขาใช้ชีวิตคนเดียวในบ้านของตระกูลใหญ่
เขาจัดการประชุมที่นี่ กับคนที่สำคัญมาก อันที่จริงเขาเองก็ไม่เคยเชื่อเรื่องทฤษฎีเลือดบริสุทธิ์จนสุดโต่งขนาดนั้น สำหรับเขาและพ่อมันก็เป็นเพียงแค่หนทางสู่จุดสูงสุดของความมั่งคั่งและมีอำนาจ
แต่ตอนนี้ ใจของเขาเปลี่ยนไปแล้ว
~ แมกนัส ฉันจะทำให้แกรู้สึกเจ็บปวดแบบเดียวกันกับฉัน แกรอก่อนเหอะ ~ เขาพึมพำภายใต้ลมหายใจของเขา
*ฟืบ*
มีคนปรากฏตัวเป็นผู้หญิงผมดำยุ่งเหยิง ผิวขาวราวน้ำนม เธอสวย รูปร่างของเธอมีส่วนเว้าส่วนโค้งพอดี แต่การแสดงออกทางสีหน้าของเธอดูบ้าคลั่งอันตราย แล้วมันก็มาจากความบ้าในจิตใจของเธอเอง
"ฮิฮิ... ลูซี่น้อย แกยังมัวครุ่นคิดถึงการตายของแอแบรกซัสอยู่ใช่ไหม? อิ๊วววว... แกนี่อย่างกะลูกหมาเล้ย แต่ไม่กอดนะ ฉันให้แตะได้แค่สองคน... ฮ่าๆ… แกรู้ว่าพวกเขาเป็นใครใช่ไหม? แกอยากสัมผัสหญิงสาวคนนี้ด้วยหรือเปล่า ลูซี่? สายตาที่จ้องมองมานั่นหมายความว่ายังไงฮะ?” เธอพูดไม่หยุดเหมือนแม่มดบ้า
*ฟืบ*
เสียงหายตัวคนอื่นดังขึ้นมา คราวนี้เป็นร่างสูงเพรียว เขาเตือนผู้หญิงคนนั้นทันที “เบลลาทริกซ์ ขอโทษลอร์ดมัลฟอยซะ”
“อ่า ขออภัยเจ้าค่ะ ท่านลอร์ด” เธอขอโทษทันที แต่ใบหน้าของเธอแสดงให้เห็นว่าเธอชอบถูกดุ
ชายร่างสูงจึงหันไปหาลูเซียสซึ่งคุกเข่าให้เขาอยู่ก่อนแล้ว
"ลุกขึ้น ลูเซียส" คนตัวสูงเดินเข้าไปใกล้และกอดอย่างน่าขนลุก เขาตบไหล่ของลูเซียส
"การตายของแอแบรกซัส เป็นการสูญเสียของชุมชนผู้วิเศษอังกฤษทั้งมวล เขาเป็นสมาชิกคนสำคัญของฉัน แต่เขาถูกพลากไป” เขาพูดด้วยความกระตือรือร้น
ดวงตาของลูเซียสเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำ เขาพยายามกลั้นน้ำตา *โคร้ม* จู่ๆ เขาก็คุกเข่าอีกครั้ง
“ข้าแต่ท่านลอร์ด โปรดมอบความยุติธรรมแก่ผมด้วยเถิดครับ ไอ้เลือดสีโคลนนั้นมันต้องทนทุกข์ทรมาน ผมพร้อมทำทุกอย่างเพื่อสิ่งนั้น” ลูเซียสร้องขอ
คราวนี้ชายร่างสูงบังคับให้ลูเซียสลุกขึ้นยืน เขาลูบผมสีเงินของลูเซียสอย่างน่าขนลุก
"ใช่แล้วๆ... การแก้แค้นเป็นสิ่งที่ต้องทำ เพื่อเลือดสีโคลนแหงนหน้ามามองเรา คงต้องสอนบทเรียนแก่ชาวโลก
การต่อสู้ของฉัน... เพื่อพวกเราชาวเลือดบริสุทธิ์ทั้งมวล เมื่อเราชนะ เราจะครองโลก และผู้ที่อยู่ภายใต้เราจะรับใช้เรา!
“ลูเซียส มัลฟอยเอ๋ย เธอจงเข้าร่วมกลุ่มของฉัน แล้วความยุติธรรมจะมอบให้เธอ แต่กลุ่มของฉันต้องการความภักดี ความภักดีนิจนิรันดร์ไม่เปลี่ยนแปลง! เธอให้ฉันได้ไหม?” เขาถาม
ลูเซียสมองใบหน้าที่ไร้ผมของคนตัวสูง เขาจ้องตรงเข้าไปในดวงตาด้วยความมุ่งมั่นจนไม่มีสิ่งใดมาทำลายมันได้
"ผมให้นายท่านด้วยทุกอย่างของผม!" ลูเซียสตอบ
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...ต่อจากนี้ไปเธอจะเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการของฉัน หน้าที่เธอคือพาพวกเด็กเลือดบริสุทธิ์ที่หลงผิดในบ้านสลิธีรินกลับไปสู่เส้นทางที่ถูกต้อง พามาหาฉัน!
เธอจะได้รับตรามารของฉันก็ต่อเมื่อเธอเรียนจบ เพราะมันอาจจะถูกติดตามโดยดัมเบิลดอร์และทำให้ชีวิตเธอตกอยู่ในอันตราย ถ้าฉันให้ความสำคัญกับเธอมากมันจะเสี่ยงเกินไป
ความตายจะติดตามสิ่งที่เรียกว่าทายาทแห่งเมอร์ลินเอง ลูเซียส เธอจงโฟกัสไปที่งานของคุณ แล้วเราจะรอเธอกลับมา"
ลูเซียสคุกเข่าอีกครั้งทันที คราวนี้ชายคนนั้นไม่ได้ทำให้เขาลุกขึ้น แต่กลับชี้ไม้กายสิทธิ์ของเขาขึ้นตรามารขึ้นสู่ท้องฟ้า
แล้วก็เปล่งสุรเสียงดังลั่นว่า "ข้าลอร์ดโวลเดอมอร์จะปฏิบัติต่อเพื่อนเลือดบริสุทธิ์ของเขาอย่างถูกต้อง! เพราะเราคือพ่อมดที่บริสุทธิ์ที่แท้จริง! เราคือผู้นำแห่งความตายมาสู่ทุกคนที่รับเอาเลือดที่แปดเปื้อนสิ่งโสโครกเข้ามา!”
"ยินดีต้อนรับ...ลูเซียส มัลฟอย สู่สมาชิกกลุ่มของผู้เสพความตาย"
_____________________________
มาร์ธา
โต๊ะกลม
ตรอกน็อกเทิร์น
เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์
ตรามาร
ลอร์ดโวลเดอมอร์