ตอนที่แล้วตอนที่ 86 ความภักดีนิจนิรันดร์ไม่เปลี่ยนแปลง! (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 88 งานหลักของมู้ดดี้ (อ่านฟรี)

ตอนที่ 87 แม็กนัสขี้เหนียว (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 87 แม็กนัสขี้เหนียว

“เราไม่ได้อยู่ในโรงเรียนนะ บ๊อบบี้ มีอะไรในใจก็แค่พูดออกมา” แม็กนัสบอกพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

บ๊อบบี้เริ่ม "โดยส่วนตัวแล้วฉันเชื่อว่าเราควรรักษาจำนวนสมาชิกโต๊ะกลมนี้ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากสิ่งที่ฉันเข้าใจ ตั้งแต่สมัยก่อน ผู้คนรวมตัวกันอย่างภักดีภายใต้กษัตริย์อาเธอร์ เพราะพวกเขาต่างต้องการสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค

แต่เรามีทุกอย่างอยู่แล้ว อาหาร ความสงบ ความหรูหรา เราไม่สามารถไว้ใจใครได้มากถึง 25 คน อย่างมากที่สุด เราควรมีสมาชิกกลุ่มลับนี้ไว้แค่ 6 คน เราจึงสามารถตั้งโต๊ะกลมที่แท้จริงได้ โต๊ะกลมนี้จะอยู่เบื้องหลัง แล้วเราค่อยสร้างกลุ่มขึ้นมาอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งจะคล้ายๆ กับโต๊ะกลมและจะมีสมาชิกครบ 25 คน แต่พวกเขาจะไม่เป็นสมาชิกของวงในของเรา"

สเนปพยักหน้ากับแผนของเขา “บ๊อบบี้พูดถูก เราไม่สามารถไว้ใจคน 25 คนให้เก็บความลับและทำตามเป้าหมายของเราได้ ความโลภของมนุษย์มันไร้ขอบเขต”

“ฉันเห็นด้วยนะ 6 น่าจะเป็นตัวเลขที่ดีสำหรับโต๊ะกลมของเรา เราสามารถสร้างกลุ่มย่อยที่มีสมาชิก 25 คน ถึงจะบอกว่าเป็นอีกกลุ่มก็เถอะแต่ก็ควรรักษาความลับไว้ให้ดีที่สุด” รักนาร์กล่าวเสริม

แม็กนัสฟังพวกเขาทั้งหมดและต้องเห็นด้วย "พวกนายได้ตามนั้น โต๊ะกลมสามารถเป็นผู้ดูแลความลับของสาขาที่ทำงานอยู่ได้ แต่เราจะเรียกอีกกลุ่มนี้ว่าอะไรดี”

นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนนึกถึง แต่พวกเขาไม่สามารถคิดชื่อที่เหมาะสมได้

ทันใดนั้น อาเธอร์ก็แนะนำบางอย่าง "แม็กนัส ทำไมเจ้าไม่รักษาประเพณีต่อไปล่ะ? เจ้าตั้งชื่อกลุ่มหลักว่าโต๊ะกลม กลุ่มที่สองจะมีสมาชิกมากมาย ทำไมไม่เรียกว่าภาคีเหรียญตราเมอร์ลินล่ะ? ตอนนี้มันใช้ชื่อร่วมกับเหรียญตราพ่อมดไปแล้ว ดังนั้นไม่ว่าใครได้ยินเกี่ยวกับมัน พวกเขาก็คงจะสับสน”

"ใช่เลย! ในที่สุดคุณก็พูดสิ่งที่เป็นประโยชน์นะ อาเธอร์" แม็กนัสกล่าวชื่นชม

"ฮิฮิ... ขอบคุณนะ... หะ หมายความว่าไงในที่สุด?" อาเธอร์ถามแต่ถูกเมินเฉย

แม็กนัสตั้งชื่อมันอย่างกระตือรือร้นว่า "โอเค ภาคีเหรียญตราเมอร์ลินจะเป็นคณะทำงานหลักของเรา เราต้องการคนอย่างน้อย 25 คน ทุกคนต้องเชื่อถือได้อย่างแน่นอน มีแรงจูงใจในการทำความดี และพวกเขาควรจะมีความสามารถอย่างมากในบางสิ่งไม่ก็มีเงินหรือมีอำนาจ

"รักนาร์กับสเนปมาจากโรงเรียนและชั้นปีเดียวกับฉัน ดังนั้นพวกนายคงหาใครไม่ได้เลยจริงๆ ก็อาจจะได้แค่คนฝั่งโลกเวทมนตร์ แต่ไม่ใช่คนในฝั่งของมักเกิ้ล

บ๊อบบี้ นายต้องทำมัน ฉันต้องการคนฉลาดทุกประเภท หมอ วิศวกร ศิลปิน นักการเมือง ลูกหลานเจ้าของบริษัทที่ร่ำรวย แต่จำไว้ว่าต้องมี ความซื่อสัตย์ ความไว้วางใจ และความภักดีนี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด"

“พ่อกับแม่ของนายก็เป็นหมอและวิศวกรชั้นหนึ่ง ทำไมนายไม่เพิ่มพวกเขาเข้าไปล่ะ” บ๊อบบี้ถาม

"ฉันจะนับพวกท่านไว้แน่นอน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ฉันอยากให้พวกเขามีชีวิตที่สงบสุขและสนุกสนานไปอีกสักสองสามปี เมื่อฉันขึ้นเป็นราชา กลุ่มของเราจะเริ่มทำงานหนักและจริงจังมากขึ้น” แม็กนัสตอบ

“รักนาร์ เซฟ ฉันอยากให้พวกนายปรุงยาบำรุงสุขภาพสำหรับมักเกิ้ล พวกยาชูกำลังที่สามารถเพิ่มสุขภาพร่างกายให้ถึงจุดสูงสุด ฉันต้องการมันให้กับครอบครัวของฉัน” แม็กนัสร้องขอ

“เข้าใจแล้ว ฉันจะเริ่มทำมัน ตามทฤษฏีแล้ว มันไม่น่าจะยาก” รักนาร์รับประกันความเทพของเขา

“ก็ดี แล้วนายจะจัดการกับพวกราชวงศ์ยังไง?” สเนปถามแม็กนัส

*ถอนหายใจ*

"นี่... ฉันไม่รู้เลย" เขาพึมพำ

*ประตูเปิด*

"อาหารเครื่องดื่มเจ้าค่ะ..." มาร์ธากลับมาพร้อมกับอาหารมากมายที่ถูกดึงอยู่ข้างหลังเธออย่างน่าอัศจรรย์

แจ่มเลย ฉันหิวพอดี!” บ๊อบบี้อุทาน

...

หลังจากที่พวกเขากินอาหารบนโต๊ะกลมแล้ว พวกเขาก็รู้สึกอยากนอนพักเพราะทั้งการเดินทางและเรื่องทั้งหมดที่พวกเขาทำ พวกเขายังต้องกลับบ้านในวันรุ่งขึ้นอีก มิฉะนั้น พ่อแม่ของแม็กนัสกับบ็อบบี้จะเริ่มสงสัยว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน

แทนที่จะหาห้องนอน พวกเขาตัดสินใจไปที่ระเบียงที่สูงที่สุดของปราสาทและไปนอนรวมที่นั่น ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพรายอยู่เหนือพวกเขา ดวงจันทร์เต็มดวงก็ส่องสว่างไปทั่วอาณาบริเวณ แม็กนัสมองเห็นปราสาททั้งหลังได้กว้างไกล มันถูกจุดด้วยคบเพลิงมากมาย

~อืม ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะได้ใช้ประโยชน์จากไฟฟ้านะ~ เขาคิด

"นี่มัน...ช่างงดงาม ตลอดทั้งชีวิตของฉันไม่เคยคิดเล้ยว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง ถึงฉันจะไม่มีเวทมนตร์ แต่ชีวิตของฉันก็เหมือนกลายเป็นเวทมนตร์" บ๊อบบี้พูดอย่างมีความสุข

แม็กนัสหัวเราะเบา ๆ “เด็กชายอายุ 11 ขวบ ได้เป็นเจ้าของบริษัทของตัวเองและค้นคว้าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นี่มันก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์ในตัวมันเองอยู่แล้วบ๊อบบี้ ฉันตกใจอยู่ว่าทำไมถึงไม่มีมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ เรียกตัวนาย นายอยากไปเข้าที่ไหนหรอ? MIT, Stanford หรือที่อื่น?”

"สำหรับตอนนี้ ฉันอยากอยู่ในสหราชอาณาจักรก่อน ทำงานในบริษัทเช่นเดียวกับโต๊ะกลม ฉันว่าจะไปที่อ็อกซ์ฟอร์ด สำหรับตอนนี้ ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาเริ่มศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และมันก็ดูดีด้วย บางทีฉันอาจจะต่อปริญญาโทที่อเมริกา มันต้องมีอัจฉริยะบางคนที่เราสามารถรวมไว้ในภาคีเหรียญตราเมอร์ลินได้” บ๊อบบี้อธิบายแผนของเขา

"เยี่ยมไปเลย นายจะกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะที่มีชื่อเสียงระดับโลก..." แม็กนัสชื่นชมเขา

“ฮะ หลอกใครเนี่ย? นายต่างหากที่เป็นอัจฉริยะทั้งด้านเวทมนตร์และมักเกิ้ล นายสิถึงจะสมควรถูกเรียกว่าอัจฉริยะที่แท้จริง” บ็อบบี้แย้ง

"ฮิฮิ เอาล่ะ เรามันก็เป็นพี่น้องอัจฉริยะกันทั้งคู่แหละ นายจะมุ่งความสนใจไปที่เทคโนโลยีอย่างเดียวเลยหรอ?” แม็กนัสถามเขา

"เปล่า จริงๆ แล้ว เทคโนโลยีไม่ใช่เป้าหมายหลักในชีวิตด้วยซ้ำ จำได้ไหม? ฉันเคยบอกนายแล้วว่าฉันได้ตัดสินใจแล้วว่าฉันอยากเป็นอะไรในชีวิตนี้? ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีหรือวิทยาศาสตร์ แต่ฉันรู้ดีว่าอนาคตจะมีเรื่องเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมีส่วนร่วมในเรื่องนี้" บ๊อบบี้อธิบาย

“ว้าว ตอนนี้ฉันอยากรู้เป้าหมายชีวิตของนายจริงๆ ซะแล้วสิ บอกฉันหน่อยไม่ได้เหรอ?” แม็กนัสถาม

“แน่นอน ฉันจะบอกนายในวันที่นายสวมมงกุฎ” บ๊อบบี้เลี่ยงคำถามของเขา

“หึ กล้ามีความลับหรอ ฮะ? ได้ ฉันก็ชอบเซอร์ไพร์ส ยังไงก็ฝันดีนะน้องพี่” แม็กนัสเดินไปที่เตียงชั่วคราว เข้าสู่ห่วงนิทราไป

...

วันรุ่งขึ้นแม็กนัสอยากรู้ว่าประชากรและสัตว์บนเกาะส่วนตัวเล็กๆ ของเขาใช้ชีวิตอย่างไร ว่าที่กษัตริย์ตัวน้อยจึงเสด็จไปยังย่านตลาด ที่นั่น ทั้งสิ่งมีชีวิตสามเผ่าพันธุ์ที่มีร้านค้าของตัวเอง ขายของเฉพาะทาง

คุณยายมาร์ธาอยู่ที่นั่นเพื่อนำทางพวกเขา

"นี่คือร้านค้าที่ดีที่สุดในการซื้อไอเท็มเวทมนตร์ หัวหน้าก็อบลิน โกลด์รุกเป็นผู้ดำเนินการเอง” เธอแนะนำพวกเขา

"วะวะว้าวววว... นี่คือหม้อปรุงยาก็อบลินอย่างงั้นหรอ?!" รักนาร์วิ่งเข้าไปในร้านอย่างตื่นเต้นเพื่อดูรายการที่ตู้โชว์

แม็กนัสและพวกที่เหลือก็ตามเข้าไปในร้านด้วย โกลด์รุกก็อยู่ที่นั่น

"หม้อปรุงยานี้มีความสามารถพิเศษอะไรหรอครับ?" สเนปถาม เพราะยังไงเขาก็เป็นนักปรุงยาเหมือนกัน

คนขายก็อบลินในร้านบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ "นี่เป็นเพียงหม้อธรรมดาๆ แต่เราได้ทำท่อบางๆ ที่ผิวหม้อ ทำให้มันมีความร้อนกระจายไปทั่วหม้ออย่างสม่ำเสมอ ทำให้การปรุงยาดีขึ้นมากในเวลาอันสั้น" ก็อบลินอธิบาย

"แจ่มฮะ... ผมต้องการ 5 ใบ" รักนาร์ออกคำสั่งซื้อ

“แน่นอน แต่ราคาไม่ถูกสำหรับสินค้าที่ทำจากก็อบลิน หม้อหนึ่งใบราคา 10 เกลเลียน” ก็อบลินกล่าว

“หึ มันค่อนข้างถูกสำหรับฉันนะ ขอห้าใบเลย” รักนาร์ออกคำสั่งอย่างภาคภูมิใจ จากนั้นเขาก็หันไปหาแม็กนัสและจับไหล่ของเขาทันที

“พี่ชายของฉัน นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในโลก คุณจะให้ฉันยืมเงินไหม ฉันไม่ได้พกมาด้วย” เขาร้องขอ

แม็กนัสไอหลังจากได้ยินเสียงที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของเขา "*แค็กๆ* โอเค โอเค... แต่ฉันก็ไม่ได้พกเงินมาเหมือนกัน"

แต่มาร์ธาแก้ให้เขา "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แม็กนัส มีห้องท้องพระคลังราชวงศ์อยู่ในปราสาทมันเต็มไปด้วยความมั่งคั่ง "

“จริงเหรอครับ? พาเราไปที่นั่นหน่อยได้ไหมครับ?” เขาถาม

"ได้สิเจ้าคะ ตามฉันมาเจ้าค่ะ" จากนั้นเธอก็พาพวกเขาไปที่ส่วนใต้ดินของปราสาท มันใหญ่พอๆ กับปราสาทด้านบน และถ้าใครไม่รู้ทางก็อาจหลงทางที่นี่ได้

เธอพาเขามาที่หน้าประตูโลหะขนาดยักษ์ “มีเพียงฉันและเธอเท่านั้นที่สามารถเปิดมันได้เจ้าค่ะ แต่ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้นำเงินออกไปทั้งหมด”

เขาไปข้างหน้าและเปิดมัน เพราะเขาเคยเห็นห้องใต้ดินของเขาที่กริงกอตส์สิ่งที่เขาเห็นตอนนี้ไม่ได้ทำให้จิตใจของเขาสับสน

แต่นั่นก็ไม่ได้นับพวก สเนป, รักนาร์ และบ๊อบบี้ได้ ขากรรไกรของพวกเขาแทบจะแตะพื้น

แม็กนัสถอนหายใจ "นี่เป็นห้องโถงใหญ่จริงๆ ฉันคิดว่าห้องท้องพระคลังนี้ใหญ่พอๆ กับห้องนิรภัยสองห้องในกริงกอตส์รวมกัน แถมที่นี่มีแต่ทองและเพชรพลอย ฉันมีเงินเท่าไหร่กันแน่เนี่ย? สักวันฉันจะต้องตรวจสอบให้ได้"

"ม-แม็กนัส นายมีเงินเยอะมาก นายน่าจะซื้อของขวัญให้เรานะ อาจจะเป็นหม้อพวกนั้น" รักนาร์ถาม

แม็กนัสเย้ยหยัน "หึ นั่นจะทำให้นายจากรวยกลายเป็นจน นายอยากซื้อของเหรอ? ใช้เงินตัวเองเซ่”

"อั๊ก...ไอ้ขี้งก" รักนาร์พึมพำ

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

ท้องพระคลัง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด