ตอนที่ 441 เจ็ดดาวเหนือ (ดาวกระบวย)
ลำแสงที่ยิงออกมาจากวังสูญสลายไปในทันทีและรั้งกลับมาครอบคลุมลำแสงทองแพรวพราวที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของถังเทียน มีอาเฮ่อและหลิงซิ่วที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าแสงสีทองนั้นก็คือกระดูกสีทองชิ้นหนึ่ง
กระดูกหมีเดียวดาย
กระแสพลังดวงดาวที่ไร้ขีดจำกัดที่แผ่ทะลักออกมาจากกระดูกหมีเดียวดายไม่สูญสลายหายไป
ในท้องฟ้าสีน้ำเงินเหนือกลุ่มดาวหมีใหญ่ที่สลัว ดาวดวงหนึ่งที่อยู่ด้านหลังพลันฉายแสงเจิดจ้าจากนั้นดวงดาวที่อยู่ใกล้เคียงสุกสว่างเป็นประกายมากขึ้น ทีละดวงๆดวงดาวที่อยู่ด้านหลังล้วนสว่างทุกดวง ดาวเจ็ดดวงมีรูปคล้ายกระบวยตักน้ำที่สุกใสพลังดวงดาวหนาแน่นแผ่ออกมาจากดาวทั้งเจ็ดดวง ดาวรูปกระบวยเริ่มเคลื่อนตัวช้าๆและเกิดความเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งกับกลุ่มดาวหมีใหญ่ ตำแหน่งของดวงดาวต่างๆ เริ่มเคลื่อนตัว
ในอดีตดาวสิบแปดดวงของกลุ่มดาวหมีใหญ่เป็นรูปหมีหมอบครึ่งตัวและในปัจจุบันนี้รูปศีรษะหมีเริ่มมีการเคลื่อนตัว ดูเหมือนว่าหมีจะเริ่มยืนขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงของพลังดวงดาวทั้งดาวฤกษ์และดาวเคราะห์เหล่านี้เห็นได้ยาก สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคน
ในทันใดนั้นกลุ่มดาวหยุดการเปลี่ยนแปลง พลังงานดวงดาวที่เข้มข้นดูเหมือนละลายไปทันทีและกลายเป็นแหล่งพลังใช้งานทันที พลังงานในอากาศเทียบกับครั้งก่อน แม้ว่าจะเบาบางมากกว่าแต่กลับเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาแทน
อาเฮ่อทำสีหน้าเหลือเชื่อ “นี่...นี่คือการยอมรับสมบัติชั้นเซียนชิ้นใหม่ของกลุ่มดาวหมีใหญ่! จอมห้าวถังทำได้..”
เรื่องสำคัญอย่างการเปลี่ยนสมบัติดวงดาวของมันเคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์สวรรค์วิถี แต่เพราะอาเฮ่อเพิ่งได้เห็นประจักษ์จึงทำให้เขาทึ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถังเทียนจอมห้าวได้รับการยอมรับจากกลุ่มดาวหมีใหญ่....
เพราะเกิดเรื่องประหลาดเช่นนี้ได้จริงๆ อนาคตของกลุ่มดาวหมีใหญ่มีแนวโน้มจะถูกยกให้เป็นหมีบ้า......นักสู้หมีบ้า.... นั่นเป็นชื่อที่น่าเกรงขามจริงๆ
หลิงซิ่วกำหอกเงินในมือแน่นโดยไม่รู้ตัวความเคลื่อนไหวทั้งหมดของกลุ่มดาวและพลังดวงดาว ฉากภาพที่น่าทึ่งกว้างไกลไร้ขอบเขตทำให้ทุกคนรู้สึกด้อยค่า
ปิงเงยหน้าใบหน้าไพ่ของเขาแข็งค้าง สายตาของเขาจ้องดูดาวเจ็ดดวงของกลุ่มดาวหมีใหญ่ส่องแสงระยิบระยับ
“นี่คือ....”
สวรรค์วิถีปัจจุบันแตกต่างยุคของเขาในอดีตไปแล้วกลุ่ดาวหมีใหญ่อาจนับได้ว่าเป็นเพียงกลุ่มดาวชั้นสามในสวรรค์วิถี แต่เมื่อเขาได้เห็นเป็นครั้งแรกเขาถึงกับตกใจ เพราะในรุ่นของเขากลุ่มดาวหมีใหญ่ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มดาวเผด็จการ แม้แต่กลุ่มดาวกางเขนใต้ก็ยังเกรงกลัวพวกเขา แต่ปัจจุบันนี้พวกเขาเป็นกลุ่มดาวที่ตกต่ำจนอยู่ในระดับสามนี่จะไม่ทำให้เขาถอนหายใจได้ยังไง?
บางทีในสายตาคนอื่นกลุ่มดาวหมีใหญ่ในรุ่นของเยี่ยนหย่งเลี่ยนับว่าเป็นมหาอำนาจแล้ว แต่ความจริงพวกเขาไม่รู้เรื่องพลังของกลุ่มดาวหมีใหญ่ในอดีต แม้แต่พลเมืองกลุ่มดาวหมีใหญ่ก็ลืมอดีตที่รุ่งเรืองของพวกเขาไปนานแล้วมันนานเกินกว่าพวกเขาจะจำได้
กลุ่มดาวเผด็จการใดๆก็ตามจำเป็นต้องมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งทรงพลังทั้งนั้น ตัวอย่างเช่นกลุ่มดาวแกะในปัจจุบันนี้มีพลังตกต่ำลงแต่อย่างไรก็ตามอูฐผอมก็ยังตัวใหญ่กว่าม้าอยู่ดี สำหรับกลุ่มดาวหมีใหญ่สามารถยืนหยัดได้สูงในอดีตปกติพวกเขาจะมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งซึ่งนั่นก็คือดาวเจ็ดดวงที่สุกสกาวอยู่ในท้องฟ้า
พวกเขาเคยมีอีกชื่อหนึ่งชื่อที่ผู้คนลืมเลือนไปนานแล้ว เจ็ดดาวเหนือ (ดาวกระบวยใหญ่)
เจ็ดดาวเหนือ!
ความตกต่ำของกลุ่มดาวหมีใหญ่เกี่ยวข้องโดยตรงกับความอับแสงของเจ็ดดาวเหนือ มรดกสุดยอดของกลุ่มดาวหมีใหญ่ร่มดาราดาวหมีใหญ่ก็คือวิทยายุทธที่พัฒนาขึ้นมาจากการเติบโตและวิวัฒนาการของเจ็ดดาวเหนือ แต่ไม่มีใครคาดเลยว่าร่มดาราแห่งกลุ่มดาวหมีใหญ่จะสาบสูญไปอย่างรวดเร็วส่งผลให้เจ็ดดาวเหนืออ่อนแอลง แต่ไม่มีใครคาดเลยว่าแม้แต่เจ็ดดาวเหนือก็พลอยหายไปด้วย
ผลตอบสนองของนักสู้ผู้สูญเสียสุดยอดวิทยายุทธของพวกเขาไปก็คือทำให้เจ็ดดาวเหนือหมองลงในที่สุดและเข้าสู่สภาวะหลับไหลและนั่นคือเหตุผลที่ทำให้กลุ่มดาวหมีใหญ่ตกต่ำ
สำหรับถังเทียนสามารถแยกพลังดวงดาวของกลุ่มดาวหมีใหญ่ออกมาได้กำหนดสมบัติชั้นเซียนขึ้นใหม่ ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้ปิง ถังเทียนถือครองพลังกลุ่มดาวถึงหนึ่งในสามอยู่ในร่างกายของเขานั่นทำให้เขาเท่าเทียมกับเยี่ยนหย่งเลี่ย และนอกจากนี้เขายังรู้ว่ากลุ่มดาวยังคงมีสัญชาตญาณเป็นของตนเอง การสันดาปโดยพื้นฐานก็คือความเคลื่อนไหวทำลายตนเองเป็นการกระทำบางอย่างที่ดวงดาวไม่รับรู้ แต่เพราะสรรพสิ่งในโลกโดยธรรมชาติแล้วจะต่อต้านการทำลายตัวเอง
ถังเทียนผู้บ้าระห่ำมั่นใจตัวเองมากเขาเป็นหมายเลขหนึ่งของผู้มีศักยภาพยากจะหยั่งถึงตลอดไปสามารถต่อต้านเยี่ยนหย่งเลี่ยผู้ที่ปิงเห็นว่าไม่ดีพอกับตำแหน่งพญาหมี นอกจากนี้พวกเขายังอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่จิตวิญญาณยุทธกำลังทำการสันดาป
แต่การปลุกเจ็ดดาวเหนือได้...
ปิงตะลึงกับเรื่องนั้นไม่มีเหตุผลที่ถังจอมระห่ำผู้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเจ็ดดาวเหนือเลยสักนิดแล้วเขาเป็นต้นเหตุให้เจ็ดดาวเหนือตื่นขึ้นได้ยังไง
เป็นไปได้ไหมว่า...กระดูกหมีเดียวดาย?
เมื่อคิดเช่นนั้นตาของปิงเป็นประกายทันที
เขาหลับตาตรวจรับรู้ระลอกอากาศอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นชั่วขณะในที่สุดเขาก็ตระหนักบางอย่างได้ เป็นกระดูกหมีเดียวดายนั่นเอง
มีความสัมพันธ์เลือนรางระหว่างกระดูกหมีเดียวดายและเจ็ดดาวเหนือ
ปิงตื่นเต้นทันที
เจ็ดดาวเหนือคือเหตุผลที่แท้จริงซึ่งมีต่อพลังของกลุ่มดาวหมีใหญ่ กลุ่มดาวหมีใหญ่กับเจ็ดดาวเหนือที่ตื่นขึ้นแล้วจะได้รับพลังเก่าแก่ของมันอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นมากก็คือ เขาสงสัยว่ามีความเป็นไปได้ที่กระดูกหมีเดียวดายจะมีมรดกวิชาร่มดาราแห่งดาวหมีถูกผนึกอยู่ในนั้น!
ในอดีตวิทยายุทธที่ตั้งชื่อง่ายๆ ตามชื่อดาวจะเป็นวิชาที่ทรงพลังอย่างมากตัวอย่างเช่นหอกดาราแห่งดาวแกะแห่งกลุ่มดาวแกะ ก็เป็นสุดยอดมรดกวิชาเช่นกัน
นอกจากนี้แม้ว่าจะไม่ใช่ร่มแห่งดาวหมีใหญ่ เจ็ดดาวเหนือก็ทรงพลังอยู่ดี!
ดีใจอย่างคาดไม่ถึง เป็นความดีใจที่คาดไม่ถึงจริงๆ ปิงแทบรอไม่ไหวเกือบฉุดถังเทียนมาขอศึกษากระดูกทองอย่างระมัดระวังแล้ว
แต่ปิงก็รีบสงบจิตใจได้เร็วในฐานนะผู้ให้การอบรมสั่งสอน กลยุทธและการคาดหวังของเขาเกินกว่าคนอื่น เพราะเจ็ดดาวเหนือถูกปลุกขึ้นมานั่นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่จะมีผลกระทบตามมาอีกยาวเป็นพรวนแน่นอน
เขาไม่เพียงแต่เป็นคนที่รู้เรื่องราวของเจ็ดดาวเหนือเท่านั้นสำหรับคนที่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกลุ่มดาวหมีใหญ่มาเล็กน้อยก็คงจะรู้ได้ว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่จะเข้าสภาพที่เติบโตอย่างรวดเร็วความบริสุทธิ์ของพลังงานกลุ่มดาวหมีใหญ่ที่เติบโตแล้วนั้นจะอยู่ในระดับสูงอย่างแน่นอน
กลุ่มดาวหมีใหญ่จะกลายเป็นที่ต้องการมากทันที
เพียงแต่ในช่วงเวลานี้จะมีคนผู้แยกเขี้ยวกางเล็บอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลุ่มดาวหมีใหญ่อยู่ในเงื้อมมือของเขาแล้ว กลุ่มดาวมังกรก็นับว่าไม่มีอะไร ปิงตัดสินใจลืมเรื่องการโจมตีกลุ่มดาวมังกร แต่แม้ว่าเขาจะไม่มีแผนโจมตีกลุ่มดาวมังกรแต่เขาไม่ตั้งใจจะยกโทษให้พวกเขา
สงครามที่ชนะไม่จำเป็นต้องจ่ายราคาอะไร
ปิงมองดูถังเทียนที่ยังไม่ลืมตา หัวใจของเขาปลาบปลื้ม สถานการณ์ดีขนาดนั้นเราจะแพ้ได้อย่างไร
“ทุกคนให้ความสนใจไว้ให้ดี เป้าหมายก็คือกลุ่มดาวมังกร เดินหน้าเต็มที่!”
กองทัพนักเรียนมือสมัครเล่นและกองทัพหมาป่าของถังอี้กลับหลังหันอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งหน้าไปกลุ่มดาวมังกรราวกับพายุ
อาเฮ่อและหลิงซิ่วประหลาดใจความเคลื่อนไหวของกองทัพ
“เอ่.. พวกเขากำลังจะไปไหน?” หลิงซิ่วผงะ
ดูเหมือนอาเฮ่อจะรู้และเผยรอยยิ้มที่ไม่เป็นอันตราย “โอกาสดีอย่างนั้น ลุงปิงไม่ยอมปล่อยผ่าน เมื่อพูดถึงในเวลาเช่นนี้ ดูเหมือนข้าจะเห็นด้วยกับเขามาก”
หน้าของหลิงซิ่วสับสน เขาไม่เข้าใจ แต่อาเฮ่อไม่อธิบายต่อและหัวเราะ “เราเพียงแต่คอยปกป้องจอมห้าวถังพอ”
“จะดีที่สุดถ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งมา” หลิงซิ่วแค่นเสียง จากนั้นนั่งขัดสมาธิ หอกเงินวางพาดอยู่บนขาของเขาหลับตาเดินพลังภายใน
ถังเทียนและพลังของกลุ่มดาว สถานการณ์เช่นนั้นได้ปลุกเร้าจิตใจนักสู้ของหลิงซิ่วเพิ่มขึ้น เขาต้องการหาคนมาสู้ด้วยและฆ่าซะ
นั่นคือสิ่งที่มีความหมายต่อการเป็นลูกผู้ชาย
ความรู้สึกกระสับกระส่ายยังคงอยู่ในใจเขาต่อไป เขาไม่สามารถสงบใจได้ เขาจึงได้แต่ไม่สนใจกระพรวนลมเขาแกะดูเหมือนสามารถรู้สึกถึงความตั้งใจต่อสู้ของเขาจึงเปล่งเสียงดังขึ้น เพลงศึกของพาหนะเงินยังคงดังอยู่ในใจเขา
หอกเงินน่าจะนุ่มนวลราวหิมะและบริสุทธิ์เหมือนปุยเมฆ กระพรวนลมเขาแกะสายลมเย็นไม่อาจจับเสียงของเจ้าได้ ตะวันส่องแสง แต่มิมีเงาครึ้ม เพราะหอกตั้งตรงเสมอ...”
เหมือนกับว่าเขาสามารถได้ยินเสียงกีบเท้าสัตว์ เหมือนกับว่าเขาได้ยินดนตรีป่า เหมือนกับว่าเขาได้ยินเสียงคนนับไม่ถ้วนส่งเสียงร้องคลอเบาๆ เพลงเต็มไปด้วยความมั่นใจและเขาสามารถได้ยินเสียงแห่งความภาคภูมิใจจากเพลงที่นุ่มนวล
เพราะเหตุผลบางอย่างหลิงซิ่วสามารถรู้สึกได้ว่าตัวเขาเองสงบลง
ความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนสภาพเป็นเงินในขณะนั้นดูเหมือนจะหายไปเขาฟังเสียงเพลงอย่างเงียบเหมือนกับว่าเขาได้ยินทหารผ่านศึกผู้หยิ่งลำพองบอกเล่าความสำเร็จที่รุ่งเรืองของพวกเขา
แม้ว่าความเชื่อและวิธีคิดของเจ้าจะแตกต่างจากข้า ข้านับถือพวกท่าน และเคารพพวกท่านทุกคน แต่ข้าจะไม่เดินตามเส้นทางของพวกท่าน
มรดกนี้ตกอยู่กับข้าข้าจะใช้มันก้าวไปข้างหน้า เส้นทางแตกต่างจากพวกท่านทุกคน แม้ว่าจะเป็นการดันทุรัง แม้ว่าเป็นเพียงความบ้าระห่ำแต่นั่นคือเส้นทางของข้าหลิงซิ่ว
แต่โปรดเชื่อใจข้าไม่ว่ายังไงข้าจะไม่ทำให้อัปยศ
เพราะว่าข้าจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกท่านทุกคนให้ได้
หอกเงินดูเหมือนจะสามารถได้ยินความในใจของหลิงซิ่ว เพลงในหูของเขาเริ่มดังฟื้นจากความหดหู่เป็นสำเนียงมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น ร่างสีเงินนับไม่ถ้วนวิ่งออกมาจากซ้ายไปขวา หอกเงินพุ่งอยู่รอบๆ ในการต่อสู้ที่ยากลำบาก
พาหนะหิมะเงิน..
หลิงซิ่วรู้ว่าเป็นภาพหลอน แต่ภาพหลอนที่อยู่ต่อหน้าเขาเหมือนมีชีวิตชีวาจริงๆ ทุกร่างดูเหมือนเป็นจริงทั้งหมด แต่เมื่อหลิงซิ่วมองดูง่ายๆเขาต้องตะลึง
หอกดาราแห่งดาวแกะหอกดาราแห่งดาวแกะที่แตกต่างกันสิ้นเชิง
พวกท่านทุกคนกำลังแสดงให้ข้าดู....
อาเฮ่อสังเกตความเปลี่ยนไปของหลิงซิ่ว สีหน้าของเขาดูพิศวงและเปลี่ยนเป็นมีความสุข แน่นอนว่าพวกเขาทั้งหมดไม่ใช่คนธรรมดา การรู้แจ้งขณะคุ้มครองสหายร่วมกลุ่มของเจ้าจะรับได้มากเพียงไหน?
อาเฮ่อโดดไปอยู่ห่างๆอย่างเงียบๆ เกรงว่าจะรบกวนหลิงซิ่ว
โชคดีที่ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้เพราะกระดูกหมีเดียวดายลอยอยู่เหนือศีรษะของถังเทียนกำลังปล่อยระลอกพลังที่สมบัติระดับเซียนปล่อยออก แม้ว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่จะประสบเหตุรุนแรงได้รับความเสียหายมาก แต่ถังเทียนซึ่งถือสมบัติระดับเซียนก็ไม่ใช่คนธรรมดาที่นักสู้ธรรมดาสามารถรบกวนได้
แม้ว่าแอนเดรียนาจะถือครองห่วงนางฟ้าไว้แต่พลังส่วนตัวของนางมีขีดจำกัด ดังนั้นพลังที่ปลดปล่อยออกมาจากห่วงนางฟ้าจึงได้แค่เพียงหนึ่งในสิบของศักยภาพของมัน แต่พลังส่วนตัวของถังเทียนเฉียบขาดรุนแรงมาก พอมีสมบัติระดับเซียน นั่นจึงน่ากลัวพอสมควร
ลำแสงหายไป ต่อหน้าของถังเทียนจิตวิญญาณยุทธที่เลือนรางลอยอยู่ มงกุฎศีรษะหมีเหนือศีรษะของเขามีรัศมีหมอง นั่นคือสมบัติระดับเซียนรุ่นก่อน ศีรษะพญาหมี
เพราะการสันดาปถูกบังคับให้หยุด จิตวิญญาณยุทธของเยี่ยนหย่งเลี่ยจึงตื่นขึ้น
อา..ข้าแพ้แล้ว..เสียใจด้วย...
ข้าไม่สามารถอยู่สนับสนุนพวกเจ้าทุกคนจนได้รับชัยชนะ..พวกเจ้าทุกคนยังคงต่อสู้.. ตอนนี้ข้าตายแล้ว ชีวิตของพวกเจ้าทุกคนจะพลอยเสียไปด้วย
ข้าเสียใจจริงๆ
ไม่ใช่เพราะแพ้
แต่เพราะไม่สามารถรับภาระความพ่ายแพ้และความอัปยศร่วมกับพวกเจ้าทุกคนได้
……
สายลมกระโชกพัดเข้ามา ร่างวิญญาณนั้นและศีรษะพญาหมีที่หม่นหมองสลายกลายเป็นธุลี หายไปในท้องฟ้าหายไปไม่เหลือร่องรอย