ตอนที่ 442 ผู้ครองอำนาจคนใหม่?
ถังเทียนลืมตาอย่างงงงวยมองดูรอบๆ เขามีท่าทางสับสน “จบแล้วหรือ?”
อาเฮ่อหลับตาขณะนั่งเดินปราณเหมือนกับเป็นคนไม่รับรู้เหตุผลแต่เขายังตอบเบาๆ “ถ้าเจ้าเสร็จแล้ว อย่างนั้นก็จบแล้ว”
“ข้าน่ะหรือ?” ถังเทียนสับสนกับคำพูดของอาเฮ่อ แต่หลังจากนั้นชั่วขณะ เขาก็เข้าใจ จากนั้นกระดูกทองก็ตกลงมาข้างหน้าของเขา เขายื่นมือออกไปรับ
กระดูกหมีเดียวดาย
ระลอกพลังที่ไม่สามารถอธิบายได้ไหลพรั่งพรูออกมาจากกระดูกหมีเดียวดายเข้าไปในมือของเขาทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างไม่สามารถอธิบายได้
กระดูกนี่ มันยังไม่พังอีกหรือ?
ถังเทียนไม่สามารถจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้น การผสานกันกับพลังของดวงดาวทำให้ทั่วทั้งตัวเขาเหมือนกับเข้าไปในเตาเผาทำให้เขาอยู่ในสภาวะมึนงงตลอดเวลา
พลังดวงดาวในตัวของเขายังคงพลุกพล่าน แต่ไม่รุนแรงเหมือนกับเมื่อก่อน เหมือนกับว่ามันเชื่องเชื่อแล้ว
ถังเทียนสงบจิตใจลงได้ เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ ทุกคนปลอดภัย ลำแสงหายไปแล้ว กลุ่มดาวหมีใหญ่กลับคืนสู่สภาพปกติ จากลักษณะของมัน เห็นได้ชัดว่าเขาชนะ
ตราบใดที่เราชนะ
หลังจากได้ข้อสรุปนั้นเขายิ้มทันที ทันใดนั้นตาของเขาหันไปมองหลิงซิ่วและเขาอุทานเบาๆ“เสี่ยวซิ่วซิ่วกำลังรู้แจ้งนี่ อา”
“ใช่แล้ว ข้าคาดว่าเขากำลังจะตื่นขึ้นในไม่ช้า” อาเฮ่อตอบ เขาเงยหน้ามองดูท้องฟ้าเหนือกลุ่มดาวหมีใหญ่ซึ่งค่อยๆ ถูกครอบคลุมแสงจากเจ็ดดาวเหนือสว่างไสวมากกว่าดาวดวงอื่น
เจ็ดดาวเหนือ, เจ็ดดาวเหนือที่หลับใหลมาเป็นเวลานานตื่นขึ้นแล้ว... นี่น่าตื่นเต้นจริงๆ...
แต่การเพ่งดูของอาเฮ่อผ่อนคลายลงด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของถังเทียนทั้งยังมีสมบัติระดับเซียนอยู่ในมือของเขา ถ้านักสู้ระดับเซียนคนใดตั้งใจจะสู้กับเขา ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย เขาคลายใจทำให้ความเหนื่อยล้าท่วมทับเขา เขาเอนตัวพิงผนังและหลับไป
ถังเทียนเดินมาดูตามปกติทันที เมื่อเห็นท่าทางอาเฮ่อ เขารู้สึกอุ่นใจ สำหรับทุกคนการต่อสู้นี้ยากลำบากมากจริงๆ
กลุ่มดาวมังกร
เหลียงฟงมองดูกองทัพสองกองที่อยู่ข้างหน้าเขาพลางลอบถอนหายใจ ข่าวความพ่ายแพ้ของกองกำลังสะท้านภูผาส่งกลับมาถึงกลุ่มดาวมังกรแล้ว กลุ่มดาวมังกรเข้าสู่ความวุ่นวายและความแตกตื่นที่ไม่สามารถพูดได้ตั้งแต่เบื้องบนยันเบื้องล่าง กองกำลังสะท้านภูผาคือกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่มดาวมังกร กองทัพอื่นทั้งหมดต่างก็หวาดกลัวและไม่สามารถรับผิดชอบภาระที่หนักหน่วงได้
ถังเทียนไม่มีทางยอมเลิกราง่ายๆคงย่ามใจจากชัยชนะและวิ่งเข้าประตูบ้านพวกเขาเป็นแน่
เหลียงฟงเดิมทีไม่สนใจเรื่องนี้ ถ้าเป็นแค่กองทัพเดียว เขาอาจมีโอกาส แต่...
สายตาของเขากวาดดูกองทัพสองกองข้างหน้าเขาอยู่หลายครั้งนับไม่ถ้วนกองทัพจักรกลขนาดใหญ่ไม่ทำให้เขาต้องจ้องนานเกิน แต่กองทัพหมาป่าขนาดเล็กกว่าทำให้ม่านตาของเขาหดลีบ
กองทัพหมาป่าโผล่ขึ้นมาอย่างฉับพลันกองทัพสมัครเล่นที่เรียกว่ากระสุนมนุษย์มีจำนวนนับไม่ถ้วนที่เอาชนะศึกได้ครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้ผู้คนไม่สามารถดูแคลนพวกเขาได้เลย เหลียงฟงโดยนิสัยไม่ได้ดูแคลนพวกเขา แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้นำทหาร แต่เมื่อพิจารณาถึงกำลังความสามารถความรู้สึกของเขาไวมากกว่าผู้นำทหารทั่วไป กองทัพเล็กที่มีจำนวนคนเพียงไม่กี่ร้อย มีการประสานพลังปราณที่น่ากลัว มีจุดอ่อนอยู่น้อยมาก แต่เมื่อดูกองทัพจักรกลขนาดใหญ่แม้พวกเขาจะมีจำนวนมาก แต่พลังของพวกเขายากจะเข้ากัน และเห็นได้ชัดว่ามีจุดอ่อนที่ยุ่งเหยิงมาก
ถ้ามีแค่เพียงกองทัพจักรกล เขามีความมั่นใจ แต่พอเพิ่มกองกำลังหมาป่าด้วย ระดับความยากในการรบพุ่งขึ้นสูง
แต่ตัวเขาเองไม่มีความตั้งใจจะสู้ เนื่องจากกลุ่มดาวมังกรมีนักสู้ระดับเซียนเพียงคนเดียว สถานะของเขาสูงส่งมาก แม้แต่จ้าวกลุ่มดาวมังกรก็ไม่สามารถสั่งเขาได้ ถ้าไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมาก เขาคงไม่ยอมรับคำสั่งอะไร
“หลงจู้นำกองกำลังออกไปเป็นการส่วนตัวสร้างความตกตะลึงให้กับกับกลุ่มดาวมังกร ข้าหวังว่าทางด้านของท่านคงจะยอมเชื่อว่ากลุ่มดาวมังกรไม่ได้มีแผนอะไรกับกลุ่มดาวหมีใหญ่แน่นอน การบุกโจมตีของกองกำลังสะท้านภูผาเป็นการกระทำของหลงจู้เพียงผู้เดียวเท่านั้น
เหลียงฟงอธิบายอย่างเสียใจยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้น ในฐานะนักสู้ระดับเซียนเขาจะก้มหัวพูดกับคนอื่นแบบนั้นได้ยังไง?
อาวุธจักรกลวิญญาณสีฟ้าที่สวยงามเดินออกมาข้างหน้าและหยุดห่างเขาประมาณสองร้อยเมตร
หัวใจของเหลียงฟงเย็นยะเยือก
ความอ่อนไหวในสภาพแวดล้อมของนักสู้ระดับเซียนคือสิ่งที่ไม่มีนักสู้คนใดเทียบได้ อาวุธจักรกลวิญญาณสีฟ้าที่เดินออกมาหยุดอยู่กับที่ สำหรับเหลียงฟงถือว่าเป็นการบ่งบอกอะไรได้มาก
ห่างออกไปสองร้อยเมตรก็พ้นระยะโจมตีของเขา
หัวใจของเขาเพิ่มความเข้าใจผิดทันทีตราบใดที่เขาเพิ่มพลังมากขึ้น เขาสามารถเอาชีวิตของฝ่ายตรงข้ามได้ ฆ่าผู้บัญชาการทหาร ความคิดนั่นเป็นสิ่งที่เย้ายวนใจแม้แต่เหลียงฟงในชั่วเวลานั้นก็ยังต้องการลงมือ
แต่เขาฝืนข่มความคิดที่โง่เขลาอย่างหักโหม ใจเย็นและตระหนักได้ทันที แม้ว่าศัตรูจะดูว่าออกมาจากกระบวนทัพ แต่ปราณรอบๆตัวศัตรูมิได้แยกออกมาจากกองทหารด้านหลังแทนที่จะอยู่กับตัว
กลลวง!
ความคิดผุดขึ้นมาในใจของเหลียงฟงคิดใช้ผู้บัญชาการเป็นเหยื่อล่อเป็นหนึ่งในวิธีที่กองทัพใช้จัดการนักสู้ระดับสูงบ่อย แต่ความมั่นใจของเขาในฐานะว่าเป็นนักสู้ระดับเซียนทำให้เหลียงฟงไม่ถอย เขาคำนวณในใจอย่างรวดเร็ว
กับดักอาจไม่จริง เนื่องจากยอดฝีมือสามารถฮุบเหยื่อและคายเบ็ดออกมาก็ได้ซึ่งเป็นเรื่องทั่วไป และเรื่องเช่นนั้นสำหรับนักสู้ระดับเซียน ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะผู้นำทหารธรรมดาไม่สามารถเข้าใจพลังของนักสู้ระดับเซียนและขณะจัดเตรียมกับดัก พวกเขาจะเปิดเผยช่องว่างและจุดอ่อนได้งาย จุดอ่อนเล็กน้อยทั้งหมดนี้ถือว่าเพียงพอสำหรับนักสู้ระดับเซียนแล้ว
ถ้าเราลงมือแล้วแนวโน้มของการสำเร็จจะเป็นยังไง?
ยิ่งคำนวณมากความระมัดระวังและความเยือกเย็นก็มากขึ้นในใจทุกที เขาตระหนักด้วยความทึ่งทันทีว่าเขาไม่มีความมั่นใจอย่างเพียงพอ การคำนวณและผลลัพธ์ที่ได้คลุมเครือชนะหรือพ่ายแพ้ถูกแยกไว้ด้วยเส้นแบ่งบางๆ
ความเข้าใจพลังของนักสู้ระดับเซียนของฝ่ายตรงข้ามลึกซึ้งและชัดเจน
การตัดสินใจอย่างคร่าวๆทำให้เหลียงฟงระมัดระวังมากก่อนที่กลุ่มดาวราชสีห์และสมาพันธ์ชาวยุทธจะสู้กัน สวรรค์วิถีมีความสงบสุขมาเป็นเวลานานและการเผชิญหน้าของกองทัพและนักสู้ระดับเซียนไม่เคยได้ยินมาเกนิสิบปีแล้ว พลังของนักสู้ชั้นเซียนถ้าว่ากันในเรื่องขอบเขตดินแดน ไม่ประสบด้วยตนเองก็คงยากจะทำความเข้าใจ
เฉพาะมหาอำนาจใหญ่เท่านั้นที่จะให้ผู้นำทหารได้โอกาสพวกเขาได้เผชิญหน้ากับนักสู้ระดับเซียนมาและพบกับความล้มเหลวมาแล้ว
แน่นอน บางทีอาจมีผู้นำทหารที่มีพรสวรรค์และทรงอัจฉริยภาพอันแข็งแกร่งอยู่แน่นอน แต่เหลียงฟงยังไม่ดีพอขนาดนั้น
ความรู้สึกที่ประหลาดใจและเยือกเย็นทำให้ทัศนคติเหลียงฟงเปลี่ยนไป
“ใช้ข้ออ้างเรื่องอย่างนั้น คงยอมกันไม่ได้”เสียงเย้ยหยันดังมาจากภายในอาวุธจักรกลสีน้ำเงิน
เหลียงฟงหัวเราะเช่นกัน “นั่นก็จริงทำไมไม่บอกข้อเรียกร้องที่ท่านมีออกมา เรื่องทั้งหมดเราคุยกันได้”
ฟังน้ำเสียงของอีกฝ่ายเหลียงชิวสามารถบอกได้ว่าเขาไม่มีเจตนาจะฮุบกลุ่มดาวมังกร ตราบใดที่อีกฝ่ายหนึ่งยินดีเจรจา นั่นถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่ง
ปิงไม่พบความผิดปกติสำหรับความคิดเห็นของเหลียงฟง ตราบเท่าที่เหลียงฟงไม่โง่ เขาจะไม่ส่งกลุ่มดาวมังกรเข้าไปสู่ความตาย
“ข้ายินดีเห็นแก่หน้าพี่เหลียง ขอเรียกค่าชดเชยสงครามสามแสนล้านเหรียญดาว,อสูรสะท้านภูผาระดับแปด 10 ตัว การ์ดสุดยอดวิชาโดดเด่น 10 ใบ แร่ผลึกมังกรสี่ร้อยตัน โอว..ไม่มีการต่อรองราคาใดๆทั้งนั้น”
เหลียงฟงรู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งกำลังคุยข่ม แต่เขารู้ว่านั่นเป็นเรื่องธรรมดา
กลุ่มดาวมังกรในปัจจุบันสูญเสียการป้องกันจากกองทัพสะท้านภูผาและกลายเป็นเนื้อขึ้นเขียงรอให้ผู้คนแล่เนื้อเถือหนังตามชอบใจ
“สิบวัน ข้าให้เวลาเพียงสิบวัน ถ้าท่านไม่ยอมรับ อย่างนั้นเราจะไปขอรับทุกอย่างด้วยตัวพวกเราเอง” น้ำเสียงของปิงดูเป็นมิตรราวกับคุยกับสหายเก่า “นี่เห็นแก่หน้าพี่เหลียงแล้ว สิบห้าวัน เพียงสิบห้าวันเราสามารถยึดกลุ่มดาวมังกรได้แน่ เราสามารถไปรับทรัพย์สมบัติดังกล่าวด้วยตัวเราเอง ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการรีดไถคนจนกระเป๋าแห้งอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเราไม่มีความจำเป็นต้องใช้กลุ่มดาวมังกร เราก็แค่ขายออกไป กลุ่มดาวมังกรยังคงเป็นหนึ่งในห้าดินแดนขั้วขอบฟ้า ข้าคิดว่าน่าจะขายได้ราคาดี สำนักยุทธอมตะ, กลุ่มดาวราชสีห์ พวกเขาจะให้ความสนใจแน่นอน นั่นคือข้อตกลงการค้าที่ดี จ่ายแล้วก็เข้าอยู่ได้เลย”
เหลียงฟงเวียนหัวและตกตะลึงเพราะปิง ยึดกลุ่มดาว, จากนั้น เอาไปขาย...
วิธีคิดที่อัจฉริยะ โอ๊ะไม่..วิธีคิดที่โลภปานนั้น เขาคิดได้ไง...
เขาเป็นผู้บัญชาการทหารจริงๆหรือเปล่า?โลกนี้มีผู้บัญชาการทหารที่ไร้ยางอายเหมือนพวกนักธุรกิจเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใดกัน...
จากนั้นเหลียงฟงเรียกความรู้สึกกลับมาและหัวเราะในใจ ผลประโยชน์ของกลุ่มดาวมังกรเกี่ยวข้องกับเราตั้งแต่เมื่อใดกัน? เขายอมออกหน้ามาก็เพื่อให้กลุ่มดาวมังกรได้มีโอกาสไกล่เกลี่ยเรื่องนอกนั้นเขาไม่จำเป็นต้องห่วงเลย
เพื่อให้กองทัพยับยั้งได้ก็นับว่าเป็นเรื่องดีแล้วพอจะกล่าวอ้างได้ว่าพวกเขากลัวเขาที่เป็นนักสู้ระดับเซียน แต่เพราะการเจรจาต่อรองนั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาถนัดและต้องการมีส่วนร่วม
เหลียงฟงยิ้ม “ข้านับว่าเป็นหนี้ท่านที่นับถือ เหลียงฟงได้รับเกียรตินักแต่เหลียงฟงจะต้องส่งสารแจ้งข่าวก่อน และข้อสรุปส่งกลับไปที่วังแล้ว โปรดรอสักครู่ ข้าเชื่อว่าพวกเขาจะให้คำตอบในเวลาไม่นาน”
เหลียงฟงคุ้นเคยกับผู้มีอำนาจเบื้องบนของกลุ่มดาวมังกร เขารู้ว่าสภาพการณ์รุนแรงมาก แต่กลุ่มดาวมังกรมีแนวโน้มเลือกจะยอมรับ พวกเขาทุกคนขลาดเขลา ไม่มีความเด็ดเดี่ยวในการต่อสู้ สำหรับพวกเขาการยอมรับเงื่อนไขเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง
เหลียงฟงตัดสินใจออกจากกลุ่มดาวมังกร ดาบของฝ่ายตรงข้ามร้ายกาจรุนแรงมากและกลุ่มดาวมังกรจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน สูญเสียกองทัพสะท้านภูผาไปก็เท่ากับพวกเขาสูญเสียเลือดเนื้อไปมาก และกลุ่มดาวมังกรจะดึงดูดฝ่ายอื่นๆมาอย่างแน่นอน
และสำหรับฝ่ายถังเทียนให้เวลามาสิบวันนั่นเป็นเพราะพวกเขาต้องการจะได้ชิ้นเนื้อสดก่อนที่หมาป่าอื่นจะกระโจนขย้ำ
ฉลาดเจ้าเล่ห์จริงๆ
เหลียงฟงสงสัยเรื่องผู้บัญชาการทหารและถังเทียนมาก ถังเทียนขนานนามตัวเองว่าหนุ่มชาวฟ้ากล่าวกันว่าอายุกว่าสิบเจ็ดปีและรอบๆ ตัวเขาจะมีกลุ่มเด็กหนุ่มอัจฉริยะ ทุกคนอ่อนเยาว์แต่มีพรสวรรค์ที่น่าทึ่ง
เป็นไปตามคาด ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงกลุ่มดาวมังกรก็ส่งคำตอบมา พวกเขาเห็นด้วยกับข้อเสนอของปิง แต่พวกเขายื่นข้อเสนอเข้ามาเพิ่มเดิม
พวกเขาหวังจะได้รับการปกป้องจากถังเทียน
เหลียงฟงประหลาดใจ ดูเหมือนระดับสูงของกลุ่มดาวมังกรไม่ถึงกับใช้ไม่ได้ สามารถมีความคิดที่ไม่ธรรมดาได้ ถ้าพวกเขาจะต้องถูกคนอื่นเฉือนแบ่งทำไมไม่เริ่มเข้าร่วมกับพวกเขาก่อนเลย
ทันใดนั้นเขาคิดถึงเรื่องที่น่ากลัวขึ้นมาได้ ถ้าการสร้างพันธมิตรนี้ทำได้สำเร็จ..
กลุ่มดาวหมีใหญ่ กลุ่มดาวมังกรกลุ่มดาวอันโดรเมดา กลุ่มดาวหมาป่า, กลุ่มดาวหมีใหญ่กับเจ็ดดาวเหนือที่ตื่นขึ้น,กลุ่มดาวมังกรมีรากฐานที่แข็งแกร่ง กลุ่มดาวอันโดรเมดามีเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู กลุ่มดาวหมาป่ามีกำลังพลมากมาย
ผลของการร่วมมือกันของสี่กลุ่มดาวเหล่านี้นับเป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ
ผู้นำกลุ่มอำนาจใหม่ถือกำเนิดขึ้นแล้ว?