ตอนที่แล้วบทที่ 31: เซียนยืนอยู่ต่อหน้าท่าน แต่ท่านไม่เห็นเขา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 33: ใหญ่แค่ไหนก็หลบไปก่อน

บทที่ 32: วิ่งกลับไปกลับมา มณฑลลู่  


บทที่ 32: วิ่งกลับไปกลับมา มณฑลลู่

“โอ้?” หยานเฉิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ฮุ่ยฉี วันนี้เจ้าเป็นอะไรไป ศิษย์ของอารามดอกปทุมจะทำหน้าที่เป็นเด็กส่งสารได้อย่างไร?”

“ไม่ว่าท่านผู้ว่าการจะว่ายังไง แต่สุภาพบุรุษท่านนั้นก็ได้สั่งให้ข้ามาส่งข้อความถึงท่านให้ได้” ฮุ่ยฉีพยายามยันตัวเองขึ้น “เขาหวังว่าท่านจะยอมละทิ้งความทะเยอทะยานของท่านซะตั้งแต่เนิ่นๆ และทำให้วรยุทธ์ของตัวท่านเองพิการก่อนที่จะกลับขึ้นไปบนภูเขา”

“กล้าดียังไงกัน!” หญิงในชุดดำตะโกนด้วยความโกรธ “ฮุ่ยฉี อารามดอกปทุมส่งเจ้ามาเพื่อช่วยงานท่านผู้ว่าการ แบบนั้นแล้วเจ้ากล้าดียังไงมาพูดแบบนี้!”

“ใจเย็นลงก่อน” หยานเฉิงโบกมือและมองตรงไปที่ฮุ่ยฉี “ข้าไม่คาดคิดมาก่อนว่าศิษย์ของอาจารย์ชานจะมีด้านแบบนี้กับเขาด้วย โดยเฉพาะ…”

ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ ทันใดนั้นหยานซานก็ได้ตวัดคันเบ็ดในมือของเขาไปทางบ่อน้ำ ในเวลาเดียวกัน พลังปราณจำนวนมหาศาลก็ได้ถูกฉีดเข้าไปในบ่อน้ำนั้นในทันที!

สาด!

บ่อน้ำกว้างสิบเมตรตกอยู่ในความโกลาหล น้ำที่อยู่ภายในถูกซัดลอยขึ้นไปในอากาศ จากนั้นมันก็ก่อตัวเป็นลูกบอลน้ำเดือดขนาดใหญ่

ปลาทั้งหมดที่อยู่ในนั้นถูกไฟคลอกตายในทันที ในเวลาเดียวกัน สีหน้าของหยานซานก็ดูเคร่งขรึมมาก เขายกมือขึ้นและตวัดคันเบ็ดในมือเขาอีกครั้ง ในครั้งนี้ ลูกบอลน้ำเดือดก็พุ่งตรงไปทางฮุ่ยฉี!

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงเสี้ยววินาที

แน่นอนว่าฮุ่ยฉีและหญิงในชุดดำไม่สามารถตอบโต้ได้ทัน

ปัง!

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังโครมครามก็ปะทุขึ้นในอากาศ

ลูกบอลน้ำเดือดระเบิดกลางอากาศก่อนจะโดนฮุ่ยฉี อุณหภูมิของมันเองก็ลดลงอย่างรวดเร็วและกระจายตัวออกเป็นสายฝนอันอ่อนโยน

สิ่งนี้ทำให้ฮุ่ยฉีและหญิงในชุดดำได้สติกลับคืนมา

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ หยานเฉิงก็ได้กระโดดขึ้นไปบนกำแพงเมืองเพื่อเตรียมที่จะหลบหนีแล้ว

ผู้ว่าการมณฑลจูเหอที่เคยสงบนิ่งและใจเย็นราวกับสามารถรับมือได้ทุกปัญหาบนโลกได้ บัดนี้กำลังวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน!

แม้ว่าเขาจะไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ แต่เนื่องจากอีกฝ่ายสามารถปราบปรามฮุ่ยฉีลงได้และยังกล้าที่จะสั่งให้ฮุ่ยฉีกลับมาเพื่อส่งข้อความอีก ดังนั้นนี่จึงหมายความว่าอีกฝ่ายจะต้องทรงพลังมากแน่ๆ

เขาอาจจะเป็นจอมยุทธ์ขอบเขตประตูลึกล้ำก็ได้!

และเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังเช่นนี้ หยานเฉิงก็ย่อมเลือกที่จะหนีก่อนอย่างแน่นอน

“จงฆ่าไอ้หัวโล้นนั่นซะ มันทรยศเราไปเรียบร้อยแล้ว!” เขาสั่งผู้หญิงในชุดดำขณะเตรียมจะกระโดดออกจากสำนักงานเทศมณฑล

เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงในชุดดำเองก็สับสนเช่นกัน เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็ตัดสินใจทำตามคำสั่งของหยานเฉิง

“ฮุ่ยฉี ท่านผู้ว่าการได้สั่งข้ามา ดังนั้นข้าจึงต้องทำ!” ผู้หญิงในชุดดำจ้องมองไปที่เขาอย่างเย็นชา เธอหยิบมีดสั้นออกมาจากเอวและเล็งไปที่คอของฮุ่ยฉี

ปัง!

ในขณะนี้ หยานเฉิงก็ได้กระโดดขึ้นไปบนกำแพงสำนักงานเทศมณฑลแล้ว

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้กระโดดออกไปข้างนอก

กลับกัน เขากระโดดกลับเข้ามาไปที่ขอบสระ สิ่งนี้ให้ผู้หญิงในชุดดำซึ่งกำลังจะโจมตีฮุ่ยฉีรู้สึกสับสนเล็กน้อย

เกิดอะไรขึ้น?

“ท่านผู้ว่าการ?” ผู้หญิงในชุดดำมองไปที่หยานเฉิงด้วยความประหลาดใจ

“เป็นไปได้ยังไงกัน” หยานเฉิงตกใจมาก เขาไม่ได้ตอบหญิงในชุดดำกลับไป แต่เขาเลือกที่จะกระโดดกลับขึ้นไปบนกำแพงอีกครั้งและพยายามจะกลับออกไปในทิศทางเดิม

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาก้าวเท้าออกไป เขาก็สัมผัสได้ว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ เขากำลังเคลื่อนไหวในทิศทางที่ตรงกันข้าม!!!

ในทุกครั้งที่เขาพยายามจะกระโดดออกไปจากกำแพง เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กระโดดกลับมาทางบ่อน้ำอีกครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ

ข้ากลับมาที่นี่อีกแล้ว!?

“นี่ นี่ นี่…”

หยานเฉิงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไป ใบหน้าของเขาซีดลงอย่างมากและเขาก็ลุกลี้ลุกลนอย่างมาก เขาพยายามจะหลบหนีอีกครั้ง ถึงกระนั้นผลลัพธ์ในคราวนี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

เขายังคงกลับมาที่ริมบ่อน้ำ!

“เป็นไปไม่ได้!” หยานเฉิงตะโกนและวิ่งออกไปอีกครั้ง

ในคราวนี้ เขาก็ใช้แรงทั้งหมดที่มี พลังอันมหาศาลระเบิดออกมาจากร่างของเขาในขณะที่เขากระทืบเท้าลงกับพื้นเสียงดังโครมครามและสั่นสะเทือนอาคารโดยรอบ

ด้วยความเร็วนี้ เขาก็จะสามารถกระโดดข้ามกำแพงสำนักงานเทศมณฑลไปได้ในก้าวเดียว อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เขาต้องการจะออกไปข้างนอก เขาก็จะกลับมาที่ริมบ่อน้ำทุกคราว

วัฏจักรนี้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ในขณะนี้ หยานเฉิงก็กำลังวิ่งกลับไปกลับมาราวกับแมลงวันหัวขาด ถึงกระนั้น เขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลย

ผู้หญิงในชุดดำและฮุ่ยฉีต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็นฉากนี้

พวกเขาไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้เลย และในขณะที่เธอกำลังรู่สึกตกใจ ความกลัวก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในจิตใจของเธอเช่นกัน

ในขณะนี้ หนึ่งชั่วโมงเต็มก็ได้ผ่านพ้นไป

หยานเฉิงซึ่งพยายามจะหลบหนีในที่สุดก็หยุดลง ใบหน้าของเขาซีดเซียวและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความกลัว เขาเหลือบมองผู้หญิงในชุดดำแล้วพูดเสียงเบาว่า “หยุดก่อน”

เมื่อได้ยินคำสั่ง ผู้หญิงในชุดดำก็หยุดโจมตีและรอดูสถานการณ์โดยรอบต่อไป

“ฮุ่ยฉี สุภาพบุรุษที่เจ้าพูดถึงอยู่ใกล้ๆ นี่หรือเปล่า?” หยานเฉิงหายใจเข้าลึกๆ และพูดต่อว่า “เจ้าพอจะขอให้ผู้อาวุโสคนนี้แสดงตัวออกมาและหยุดแกล้งข้าผู้น้อยสักทีจะได้ไหม?”

ภายใต้การแทรกแซงของพลังที่มองไม่เห็นเมื่อกี้ เขาก็รู้สึกราวกับเป็นเด็กที่กำลังตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของผู้ใหญ่ มันไม่มีที่ว่างสำหรับการต่อต้าน

เขาทำได้เพียงยอมรับชะตากรรมเท่านั้น

“ข้าไปแกล้งเจ้าตอนไหนกัน?” เสียงของซุยเฮ็งดังออกมาจากด้านหลังของฮุ่ยฉี

ในเวลาเดียวกัน เขาและชายชราก็ปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่า พวกเขาทำแสดงท่าทีราวกับว่าพวกเขายืนอยู่ตรงนั้นมาโดยตลอดและกำลังมองดูเขาราวกับคนโง่

ฉากที่แปลกประหลาดนี้ทำให้หยานเฉิงรู้สึกตกใจอย่างอธิบายไม่ถูก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้เห็นรูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์ของซุยเฮ็ง เขารู้สึกตกใจมากจนไม่รู้จะพูดอะไรไปครู่หนึ่ง

“มันก็เป็นแค่การทดสอบ” ซุยเฮ็งยิ้ม “เจ้าไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกไปหรอก”

ก่อนหน้านี้ หยานเฉิงก็ได้วิ่งกลับไปกลับมารอบๆ อย่างไร้จุดหมายเพราะพลังของแก่นแท้ทองคำของซุยเฮ็งที่ขัดขวางประสาทสัมผัสของเขาที่มีต่อโลกภายนอก

นี่เป็นเพียงการทดสอบเล็กๆ น้อยๆ ของซุยเฮ็งเกี่ยวกับวิธีการใช้พลังของแก่นแท้ทองคำ

อย่างไรก็ตาม ในการทดสอบนี้ มันก็ยังมีกำไรที่คาดไม่ถึงอีกด้วย นั่นคือเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนทางอารมณ์ที่รุนแรงอย่างมากจากหยานเฉิง

ความกลัว!

เมื่อเทียบกับคนทั่วไปแล้ว อารมณ์ของหยานเฉิงก็แข็งแกร่งกว่ามาก ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงทำให้ซุยเฮ็งสามารถพัฒนาจิตวิญญาณของเขาได้มากขึ้น

สิ่งนี้ทำให้เขาตั้งข้อสงสัยว่ายิ่งคนแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ อารมณ์ของพวกเขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นตามเท่านั้น และในทำนองเดียวกัน มันก็จะยิ่งเป็นประโยชน์สำหรับการฝึกตนของเขามากขึ้นเท่านั้น

“การทดสอบ?” หยานเฉิงไม่สามารถเข้าใจได้

อย่างไรก็ตาม เขาก็สงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว ก่อนอื่นเขาป้องมือและโค้งคำนับให้กับซุยเฮ็งก่อนที่จะพูดว่า “ผู้อาวุโส ข้าเป็นทหารภายใต้ราชาหยาน ข้ามาที่นี่ตามคำสั่งของราชาหยาน ดังนั้นแล้วข้าขอทราบได้ไหมว่าทำไมท่านถึงมาที่นี่?”

“ราชาหยานจากประเทศภูผาหยานที่ได้ทำการกวาดล้างมณฑลต่างๆ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมากำลังจะมาถึงมณฑลลู่แล้วหรอ?” ซุยเฮ็งยิ้ม เขาเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับบุคคลนี้จากผู้เฒ่าหลี่

“ถูกต้อง” หยานเฉิงพยักหน้าและดูผ่อนคลายขึ้นมาก “ราชาหยานมีกองกำลังนับแสนอยู่ภายใต้บัญชา และด้วยความช่วยเหลือจากอารามดอกปทุมและอารามมหาจำเริญ เขาก็จะต้องเข้ายึดครองต้าจินได้ภายในสิบปีอย่างแน่นอน!”

เมื่อมาถึงจุดนี้ เขาก็หยุดชั่วครู่และคุกเข่าลงต่อหน้าซุยเฮ็ง เขาพูดด้วยเสียงดังว่า “ผู้อาวุโส ทักษะวรยุทธ์ของท่านช่างลึกล้ำเหนือจะคาดเดา ทำไมท่านถึงไม่มาช่วยราชาหยานกวาดล้างโลกใบนี้กันล่ะ?”

“ด้วยความแข็งแกร่งของท่าน เมื่อโลกทั้งใบรวมกันเป็นหนึ่ง ท่านก็จะต้องได้รับการเลื่อนขั้นเป็นราชครูขององค์ราชาอย่างแน่นอน! และเมื่อถึงเวลานั้น แค่เพียงคำพูดของท่านก็เพียงพอแล้วที่จะพลิกคว่ำโลกยุทธ์ให้ต้องสั่นสะเทือน! แบบนั้นแล้วท่านคิดว่ายังไงบ้าง?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด