ตอนที่แล้วบทที่ 4 เนินเต่าดำหมอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 6 กับดักในกับดัก?

บทที่ 5 หัวข้าอยู่ที่ไหน


"อาวุธวิญญาณ!"

เมื่อว่านเฟิงเห็นกระบี่เล่มนั้น สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป ก่อนจะถอยหลังไปสองสามก้าวเพื่อปกป้องลู่อวิ๋นที่อยู่ด้านหลัง

“ฮึๆ เจ้าหนูว่านเฟิง หลังจากที่ข้าสังหารลู่อวิ๋นเสร็จข้าจะเอาเจ้ามาเป็นสนมน้อยของข้า ลู่อวิ๋นสังหารหลานสาวเพียงคนเดียวของข้า เพราะฉะนั้นเจ้าจะต้องมีลูกหลานให้ข้าเต็มบ้านเต็มเมือง!”

เก่อหลงหัวเราะเสียงดังลั่น ก่อนจะเล็งกระบี่แทงเข้าไปที่คอลู่อวิ๋นในทันที

"เร็ว!"

ลู่อวิ๋นใจหายวาบ ความเย็นเยียบของความตายเกาะกุมหัวใจ

แต่น่าแปลกที่ลู่อวิ๋นกลับรู้สึกสงบผิดปกติ

ความตาย… เขาเคยผ่านมันมาแล้ว!

เมื่อเผชิญหน้ากับความตายอีกครั้ง ลู่อวิ๋นจึงสามารถรับมือกับมันได้อย่างใจเย็น

ลู่อวิ๋นคิดจะหลบ แต่กลับต้องตกใจเมื่อพบว่าร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไป ไม่เท่ากับคนธรรมดาด้วยซ้ำ

สมองลู่อวิ๋นคิดและคำนวณได้ว่าจะหลบอย่างไร แต่ร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่อสิ่งที่คิดได้

“นี่ข้ากำลังจะตายอีกแล้วหรือ?”

ลู่อวิ๋นพึมพำ เงาแห่งความตายช่างดูคุ้นเคย

“ฮึบ!”

ว่านเฟิงส่งเสียงด้วยความโกรธ

ลำแสงสีเขียวพุ่งออกมาจากปลายนิ้วของนาง

แกร๊ง

แสงสีเขียวกระทบเข้ากับอาวุธวิญญาณของเก่อหลง เบี่ยงกระบี่ที่แทงเข้าใส่ลู่อวิ๋น

เก่อหลงสัมผัสได้ถึงแรงปัดจากกระบี่ มันรุนแรงจนทำให้เขาเซออกไป

แต่ว่านเฟิงเองก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดูดีมากนัก สีหน้าของนางซีดลงและต้องถอยออกไปเพราะแรงกระแทก

“วิชาอาคม! เจ้าอยู่ในเขตแดนแก่นแท้แล้ว!”

ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเก่อหลง

"ว่านเฟิง ฆ่ามันซะ!"

ลู่อวิ๋นหายใจอย่างยากลำบาก หน้าอกเหมือนถูกบดขยี้ เสียงของเขาแหบ

“ข้า… ข้าไม่กล้า”

ว่านเฟิงยืนมองเหม่อ ฆ่าคนงั้นหรือ?

นางเคยฆ่าคนด้วยหรือ?

แม้ว่านางและลู่อวิ๋นจะทำให้คนในท้องถนนต้องหวาดกลัว แต่นั่นก็เป็นแค่การกลั่นแกล้ง นางไม่เคยฆ่าใครมาก่อน

“สุดท้ายเจ้าก็ยังเป็นแค่เด็กอมมือ!”

เก่อหลงตาเป็นประกาย เขากระโดดขึ้นจากพื้น และรุดเข้าไปหาว่านเฟิงด้วยวิชาตัวเบาในก้าวเดียว

“อย่าเข้ามา!”

ด้วยความตกใจ ว่านเฟิงชี้นิ้วออกมาอีกครั้งพร้อมกับปล่อยแสงสีเขียวออกมา

แต่ในครั้งนี้เก่อหลงเห็นได้อย่างชัดเจน มันคือพายุหมุนขนาดเล็ก

“วิชาอาคมขั้นต่ำที่เจ้าฝึกฝนเองงั้นหรือ? ถึงเจ้าจะไปถึงเขตแดนแก่นแท้ แต่ประสบการณ์ของเจ้านั้นเป็นศูนย์!”

เก่อหลงก้าวขาหลบการโจมตีของว่านเฟิงและอ้อมไปด้านหลัง ก่อนจะฟาดฝ่ามือไปที่สันคอของนาง

ว่านเฟิงกลอกตาขึ้น แล้วก็หมดสติไป

“เอาล่ะท่านผู้ว่า นี่หรือคือคนที่เจ้าฝากความหวังไว้? คราวนี้ก็ตาเจ้าแล้ว”

เก่อหลงยิ้มกริ่มและค่อยๆ เดินไปหาลู่อวิ๋นทีละก้าว

"ตาย!"

เก่อหลงตะโกน ฟาดกระบี่ในมือเข้าไปที่คอของลู่อวิ๋น

“นี่ข้าจะตายอีกแล้วงั้นหรือ?”

ลู่อวิ๋นถอนหายใจ

แต่ในตอนนั้นเอง ลู่อวิ๋นก็รู้สึกราวกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังพุ่งออกมาจากร่าง

เขายกมือขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวและประกบมือเข้าด้วยกัน

โอม――

แสงสีดำพวยพุ่งออกมาจากร่องมือ เก้ามังกรแบกโลงปรากฏตัวขึ้นมาในมือของเขาและกระแทกเข้าไปที่หน้าอกของเก่อหลงอย่างรุนแรง

“วิชาอาคม!”

เก่อหลงกรีดร้อง ภายในน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความงุนงง

ลู่อวิ๋นฝึกพลังยุทธ์ไม่ได้ไม่ใช่หรือ? เขามีวิชาอาคมได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้น วิชาอาคมนี้ทรงพลังกว่าพายุหมุนเล็กๆ ของว่านเฟิงหลายสิบเท่า

เสียงกระดูกหักดังไปทั่วหน้าอกของเก่อหลง ก่อนที่จะกระเด็นออกไปหลายสิบเมตร และกระอักเลือดออกมาไม่หยุด ร่างกายสั่นกระตุกอย่างต่อเนื่อง และเหมือนว่าจะจากโลกนี้ไปแล้ว

"นี่มัน….?!"

ลู่อวิ๋นมองดูภาพที่พุ่งออกมาจากฝ่ามือของตนพร้อมกับนิ่งไป

“อ๋อใช่! ฮวงจุ้ยเมื่อคืนก่อนที่ก่อตัวขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าใส่ร่างของข้านี่ เก่อหลงเรียกมันว่าวิชาอาคมอย่างนั้นหรือ?”

ใบหน้าของลู่อวิ๋นเปี่ยมไปด้วยความสับสน

แต่ว่าในครั้งนี้ ลู่อวิ๋นตัวอ่อนไปทั้งร่าง แม้แต่แขนก็ยกไม่ขึ้น

“แสดงว่า… มังกรนั่นกลายมาเป็นวิชาอาคมของข้าหลังจากที่พุ่งเข้ามาใส่ตัวอย่างนั้นหรือ? แต่ว่าข้าก็ไม่ใช่จอมยุทธ์นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ลู่อวิ๋นสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ

“นายท่าน?”

หลังจากผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ว่านเฟิงก็ฟื้นขึ้นมา ก่อนที่จะตะโกนออกมาเสียงดังเมื่อเห็นลู่อวิ๋นนอนอยู่กับพื้นและเก่อหลงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

"นายท่าน ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า!? ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่านเฟิงไร้ประโยชน์ไม่กล้าฆ่าคน!"

ว่านเฟิงตาแดง

“เอากระบี่นั่นตัดหัวเก่อหลงซะ”

ลู่อวิ๋นสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อฟื้นฟูพลังนิดหน่อย ก่อนจะเปิดปากกล่าว

เขาเป็นนักล่าสุสาน ไม่ใช่นักบุญ การเชือดคอคนเขาก็เคยทำมาแล้วมากพอสมควร คนตายพูดไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้วต้องเก็บงานให้ละเอียด ต้องแทงจุดตายอีกสักสองสามทีให้มั่นใจว่าตายแล้วจริงๆ ถึงแม้ว่าจะตายไปแล้ว แต่นั่นก็เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด

“เอ๋?”

ว่านเฟิงยืนนิ่ง ทำอะไรไม่ถูก

“เฮ้อ… เจ้าไปได้แล้ว”

เมื่อเห็นสีหน้าของสาวใช้ ลู่อวิ๋นก็ถอนหายใจ

“เอ๋?”

สาวใช้ทวนคำ ยังคงทำอะไรไม่ถูก

“ข้าคนก่อนนั้นมีศัตรูมากมาย อนาคตต่อไปข้างหน้าจะเต็มไปด้วยอันตราย ถ้าเจ้าไม่สามารถฆ่าคนหรือแค่แทงศพได้ เจ้าก็ไม่เหมาะที่จะอยู่กับข้า ไม่อย่างนั้นข้าก็คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าตายในสักวัน” ลู่อวิ๋นพูดช้าๆ

เมื่อได้ยินคำของลู่วิ๋น ว่านเฟิงรู้สึกหนักใจ

ทันใดนั้น นางก็หยิบกระบี่ของเก่อหลงที่พื้นขึ้นมาก่อนจะเดินไปที่ศพของเก่อหลง

“ถ้าตัดหัวก็หมายความว่าข้าจะได้อยู่ข้างๆ นายท่าน!”

ว่านเฟิงกัดฟัน ฟันกระบี่ลงไปที่คอของเก่อหลง

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าแกล้งตาย!” ศพของพ่อบ้านดีดตัวขึ้นมาในทันที ก่อนจะซัดหมัดเข้าใส่ที่อกของว่านเฟิง

“ยังไม่ตาย!”

ว่านเฟิงตกใจ นางกัดฟันและใช้วิชายุทธ์ กระบี่ในมือส่งเสียงสั่น

หึ่ง—-

รังสีดาบพุ่งออกมาจากอาวุธและแทงทะลุหว่างคิ้วของเก่อหลง

“อาวุธวิญญาณ… มีแค่จอมยุทธ์เขตแดนแก่นแท้ที่จะ…” ไม่ทันพูดจบประโยค เขาก็ร่วงลงกับพื้น ในครั้งนี้ตายจริงๆ

ว่านเฟิงยกดาบขึ้นและฟันลงไปเพื่อตัดศีรษะอีกฝ่าย ก่อนจะหันกลับไปหาลู่อวิ๋น

“ถ้าเจ้าไม่ฆ่ามัน มันก็จะฆ่าข้า และมันก็คิดจะให้เจ้าเป็นตั้งท้องลูกของมัน เพราะฉะนั้นมันต้องตาย” ลู่อวิ๋นกล่าว “หากเราอยากมีชีวิต เราต้องฆ่าใครก็ตามที่คิดจะฆ่าเรา”

“นี่แหละคือวิถีของโลก ไม่เขาก็เราที่ต้องตาย”

ความจริงอันขมขื่นของลู่อวิ๋นตรงเข้าไปในใจของว่านเฟิง

หากคิดจะมีชีวิตรอด ก็ต้องฆ่าคนที่คิดจะฆ่าเรา

“อื้ม!”

ว่านเฟิงพยักหน้าอย่างแรง

“ไปกันเถอะ สู่สุสานเซียน”

ลู่อวิ๋นกล่าวอีกครั้ง

ด้วยสภาพร่างกายของลู่อวิ๋นในตอนนี้ เขาไม่แข็งแรงพอจะขุดสุสานเองได้ เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องพาว่านเฟิงไปด้วย

ตัวคนเดียวในโลกเซียน คนที่เขาพึ่งได้นอกจากตัวเองก็มีแต่สาวน้อยคนนี้

….

ร่างของลู่อวิ๋นและว่านเฟิงค่อยๆ หายไปลับสายตา

อันที่จริงแล้ว ลู่อวิ๋นตั้งหน้าตั้งตาคิดว่าโลกเซียนจะเป็นสวรรค์ แต่เก่อหลงสอนบทเรียนให้เขา

ว่าโลกนี้ก็โหดร้ายเช่นกัน

……

"หัวข้าอยู่ไหน? อ๋อ อยู่นี่"

อยู่ๆ ร่างไร้ศีรษะของเก่อหลงก็ลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับควานหาบางอย่างรอบๆ ตัว เมื่อพบศีรษะของตน เขาก็วางกลับไปบนคอ

รูขนาดใหญ่ตรงหว่างคิ้วทะลวงผ่านด้านหน้าทะลุไปด้านหลัง เผยให้เห็นสมองเละขาวด้านใน

แววตาที่ว่างเปล่า รอยยิ้มบิดเบี้ยว

เก่อหลงลุกขึ้น เดินโซเซไปยังทิศทางที่ลู่อวิ๋นและว่านเฟิงจากไป

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด