บทที่ 21: สมบัติต้าจิน  

บทที่ 21: สมบัติต้าจิน

ซุยเฮ็งรู้สึกประหลาดใจกับการอัพเกรดของระบบ

นี่หมายความว่าตราบเท่าที่เขาพบสมบัติที่มีมูลค่าเพียงพอ เขาก็จะสามารถแปลงมันเป็นเงินและเอาไปชำระค่าธรรมเนียมเพื่อรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้ เขาก็ยังไม่คิดเลยว่าเขาจะพบรายการที่สามารถแปลงเป็นสกุลเงินของระบบได้ในทันทีที่การอัพเกรดระบบเสร็จสิ้น

นี่สินะที่เขาเรียกกันว่าโชคสองชั้น!

ซุยเฮ็งตรวจสอบหน้าต่างของระบบในทันที

ตอนนี้มันมีเพียงข้อความสองบรรทัดเท่านั้น

[ เงิน: 0 ]

[ สินค้า: แพ็คเกจการฝึกตนแบบรอบด้าน ราคา: 99 ]

นอกเหนือจากนี้ มันก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นแล้ว

มันเรียบง่ายมาก

เช่นเดียวกับที่ซุยเฮ็งคาดการณ์เอาไว้ หากเขาต้องการจะได้รับสิทธิ์ในการต่ออายุสิทธิพิเศษสำหรับผู้เริ่มต้น เขาก็จะต้องเติมเงินให้เพียงพอเพื่อแลกซื้อแพ็คเกจมาครอง

ซุยเฮ็งกลอกตา แต่เขาก็ยังออกคำสั่ง “แปลงมันเป็นสกุลเงินเลย!”

จากนั้นจากมุมมองของเขา แผ่นหินด้านล่างก็เริ่มเรืองแสงสีเงินจางๆ จากนั้นในชั่วพริบตา แสงนั้นก็หายไป

ในเวลาเดียวกัน จำนวนเงินบนหน้าต่างของระบบก็เพิ่มขึ้น

[ เงิน: 0.03]

ซุยเฮ็งรู้สึกประหลาดใจมาก

สิ่งของที่สามารถแปลงเป็นเงินได้ก็คือแผ่นหินพวกนี้จริงๆ หรอ?

หลักการของมันคืออะไรกัน?

ซุยเฮ็งขมวดคิ้วเล็กน้อยและคิดกับตัวเองว่า “หากแผ่นหินในสุสานสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ งั้นสิ่งของในสุสานก็น่าจะสามารถแปลงเป็นเงินได้เหมือนกันใช่ไหม?”

ซุยเฮ็งคิดว่ามันมีความเป็นไปได้สูง

ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงตัดสินใจเปิดแผ่นหินเหล่านี้ในทันทีและเข้าไปในสุสานเพื่อดูข้างใน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากจำนวนเงินที่แปลงได้จากแผ่นหินหน้าหลุมศพแล้ว ข้างในโลงศพเองก็ไม่น่าจะมีสมบัติระดับสูงใดๆ

ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากมันถูกฝังอยู่ใต้พื้นดินลึกเพียงไม่กี่เมตรและยังไม่มีค่ายกลป้องกันหรืออะไรคอยปกป้องเลย ดังนั้นมันก็หมายความว่ามันไม่น่าจะเป็นภัยคุกคามต่อผู้ฝึกตนขอบเขตแก่นแท้ทองคำได้

หลังจากเข้าไปข้างในสุสาน ซุยเฮ็งก็ตระหนักได้ว่ามันเป็นไปตามที่เขาคาดการไว้ มันไม่ใช่สุสานระดับสูง

ทั้งขนาดของสุสานและสิ่งของที่อยู่ในนั้นล้วนธรรมดา

จากการประเมินเบื้องต้นแล้ว มันก็น่าจะเคยถูกปล้นมาก่อน

เครื่องลายครามหลายชิ้นที่ถูกฝังเอาไว้พร้อมกับศพล้วนมีร่องรอยความเสียหายเป็นส่วนใหญ่ มันมีทองคำ, เงินและเพชรพลอยเหลืออยู่น้อยมาก และส่วนใหญ่ก็กระจัดกระจายอยู่ตามพื้น

แม้แต่ฝาโลงศพก็ยังถูกเปิดอ้าทิ้งไว้

ซุยเฮ็งเดินเข้าไปและเห็นซากศพที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ มันมีผ้าขาดๆ ห้อยอยู่ เห็นได้ชัดว่าโจรปล้นสุสานให้ความสนใจกับมันเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ มันก็ยังมีเหรียญทองแดงกระจัดกระจายอยู่ในโลงศพ พวกมันจะต้องถูกทิ้งไว้โดยโจรปล้นสุสานแน่นอน

“สมบัติต้าจิน?” ซุยเฮ็งเห็นข้อความบนเหรียญทองแดง เขาเลิกคิ้วขึ้นและพึมพำ “ฉันจำได้ว่าจักรวรรดิของฉีฉีถูกเรียกว่าต้าจิน”

เขาหยิบเหรียญทองแดงออกมาจากโลงศพและตรวจสอบมันอย่างระมัดระวัง

รายละเอียดของเหรียญทองแดงนั้นค่อนข้างประณีต และข้อความบนเหรียญเองก็ยังชัดเจนอยู่ ดังนั้นแล้วมันก็น่าจะไม่ใช่ของโบราณอะไรมาก

ด้านหน้าของมันมีคำว่า “สมบัติต้าจิน” และอีกด้านหนึ่งคือ “ปีแรกของเจียนหมิง”

ต้าจินเป็นจักรวรรดิ และเจียนหมิงก็น่าจะเป็นปีของจักรพรรดิ

ในเวลาเดียวกัน ซุยเฮ็งก็ยังได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ

[ ขอแสดงความยินดีด้วย! ท่านได้ค้นพบรายการที่สามารถแปลงเป็นเงินได้ ท่านต้องการจะแปลงทันทีเลยหรือไม่? ]

เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า

“แปลง!”

ในช่วงเวลาต่อมา ซุยเฮ็งก็เห็นว่าเครื่องลายคราม, อัญมณี, เครื่องประดับและตัวโลงศพเอง ทั้งหมดล้วนเริ่มส่องแสงสีเงินสว่างขึ้น

ในขณะเดียวกัน ช่องเงินของซุยเฮ็งก็เพิ่มขึ้น

[ สกุลเงิน: +20 ]

“แพ็คเกจอัพเกรดอยู่ห่างออกไปอีกเพียง 79 คะแนนเท่านั้น”

มุมปากของซุยเฮ็งโค้งขึ้นเล็กน้อยในขณะที่เขาแสดงสีหน้ามีความสุข ความรู้สึกของการได้รับนั้นยอดเยี่ยมเสมอ

ในเวลาเดียวกัน เขาก็ยังสงสัยว่าระบบใช้อะไรในการตัดสินมูลค่าของสิ่งของต่างๆ

จากการแปลงทั้งสองครั้งนี้ มันก็ดูเหมือนว่าทั้งสองจะเป็นวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้น นอกจากนี้ หลังจากการแปลงแล้ว ตัววัตถุเหล่านั้นก็ยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย

ซุยเฮ็งมองไปรอบๆ และพูดว่า “มูลค่าของเหรียญทองแดงมีค่าน้อยมากที่สุด พวกมันแทบจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ เลย โลงศพและแผ่นหินเองก็มีค่าน้อยมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หยกและเครื่องลายครามก็เป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด และยิ่งพวกมันสวยงามมากเท่าไหร่ เงินที่แปลงออกมาได้ก็จะมีค่ามากขึ้นตามเท่านั้น เป็นไปได้ไหมว่ามันจะขึ้นอยู่กับระดับของงานฝีมือด้วย?”

ตอนนี้เขายังไม่สามารถยืนยันได้ เขาทำได้เพียงคาดเดามูลค่าของพวกมันจากจำนวนเงินที่ได้รับมาเท่านั้น

ในท้ายที่สุด เขาก็มองไปที่เหรียญทองแดงในมือของเขาและสังเกตเห็นข้อความบนเหรียญนั้น

ต้าจิน!

สิ่งนี้ทำให้ซุยเฮ็งนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้

“ระบบ โลกนี้เป็นโลกของเจียงฉีฉีหรือเปล่า?”

[ เรียนโฮสต์ที่เคารพ! ระยะเวลาการเป็นผู้เริ่มต้นของท่านได้หมดลงไปแล้ว โปรดชำระค่าธรรมเนียมและอัพเกรดเป็นแพ็คเกจการฝึกตนแบบรอบด้าน ระบบจะยังคงปกป้องเส้นทางสู่การเป็นเซียนของท่านต่อไป!]

ไอ้หน้าเงิน!!!

ซุยเฮ็งสบถในใจ จากนั้นเขาก็เก็บเหรียญทองแดงและออกจากสุสานแห่งนี้ไป

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้กลับขึ้นมาบนพื้นผิว และไม่ได้จมลงไปอีก

เขายังคงใช้วิชาแหวกปฐพีเพื่อท่องไปในใต้ดินรอบๆ เพื่อค้นหาสุสานเพิ่มเติม

แม้ว่าเขาจะไม่รู้กฎที่แน่นอนของการแปลงสกุลเงินของระบบ แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าสิ่งของในสุสานนั้นสามารถแปลงออกมาเป็นเงินได้!

ด้วยเหตุนี้เอง ภารกิจที่สำคัญที่สุดของเขาในตอนนี้จึงเป็นการตามหาสุสานเพิ่มอีกสองสามแห่งและรวบรวมเงินที่จำเป็นในการอัพเกรดแพ็คเกจ

…

ไม่นาน ซุยเฮ็งก็ค้นพบสุสานโบราณถึงห้าแห่ง อย่างไรก็ดี สามในนั้นก็ได้ถูกผู้บุกรุกปล้นเอาไปหมดแล้ว

เขาแปลงพวกมันทั้งหมดเป็นเงินได้แค่ 30 คะแนนเท่านั้น

เมื่อสุสานทั้งห้าหลุมรวมกัน มันก็มีค่ามากกว่าหลุมแรกที่เขาพบเพียง 10 คะแนนเท่านั้น

โชคดีที่มีสุสานมากมายที่นี่

ซุยเฮ็งพบสุสานอีกเจ็ดแห่งอย่างรวดเร็ว

[ เงิน +0.3 ]

[ เงิน: +15 ]

[ เงิน +0.2 ]

…

[ เงิน +0.5 ]

[ เงิน +21.3 ]

แม้ว่าสุสานส่วนใหญ่จะถูกปล้นไปก่อนแล้ว แต่มันก็มีบางแห่งที่ยังเหลือรอดอยู่ และในท้ายที่สุด ซุยเฮ็งก็เก็บเงินได้มากกว่า 80 คะแนน

เขาใกล้จะได้รับเงินตามเป้าหมายที่เขาวางเอาไว้แล้ว!

หลังจากค้นหาอยู่ระยะหนึ่ง ซุยเฮ็งก็พบสุสานขนาดใหญ่อีกแห่ง จากสิ่งของนอกสุสาน เขาก็ได้แปลงมันเป็นเงินได้อีก 0.5 คะแนน

เมื่อเขาเข้าไปข้างใน เขาก็พบว่าขนาดของสุสานแห่งนี้นั้นใหญ่กว่าเหล่าสุสานที่เขาเคยพบมาก่อนหน้านี้มาก

นอกจากนี้ เขาก็ยังพบหนังสือและคัมภีร์มากมายในหลุมฝังศพ

สิ่งสำคัญที่สุดคือสุสานแห่งนี้ยังไม่เคยถูกปล้น

“แปลง!” ซุยเฮ็งสั่งระบบ

[ สกุลเงิน: +58 ]

เป็นกำไรที่น่าทึ่งมาก!

เจ้าของสุสานแห่งนี้จะต้องเป็นคนที่มีสถานะสูงมากในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ หรือไม่บางที อีกฝ่ายก็อาจจะเป็นขุนนางก็ได้

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นคนระดับนั้น แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่มีการป้องกันพิเศษใดๆ ในสุสาน

มันมีเพียงกับดักเด็กเล่นบางอย่างเท่านั้น

สิ่งนี้ทำให้ซุยเฮ็งรู้สึกงงงวยเล็กน้อย

กับดักธรรมดาเหล่านี้จะไปมีผลอะไรต่อผู้ฝึกตนอย่างเขา?

“มาดูกันซิว่ามันมีอะไรเขียนอยู่ในหนังสือเหล่านี้บ้าง” ซุยเฮ็งเดินไปที่ชั้นวางหนังสือ

บู้มมมม!

ในขณะนี้ ซุยเฮ็งก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากข้างนอก สุสานทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และใบไผ่บนชั้นหนังสือก็ร่วงหล่นลงมา

จากนั้นเสียงหัวเราะก็ดังเข้ามาจากข้างนอก

“เปิดแล้ว! มันเปิดออกแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่า! พี่น้องดูสิ! เรารวยแล้ว! นี่คือสุสานของราชาลู่จริงๆ! เรารวยแล้ว!”