ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0125
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0127

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0126


บทที่ 39 รังมด (1)

* * *

เหมือนกับทุกครั้งที่กลับบ้าน พวกเราตั้งวงเหล้า

แต่คราวนี้มีจองจีฮุนร่วมแจม ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับงาน

ลิลี่ดูมีความสุขกว่าทุกครั้ง ถึงจะยิ้มแค่มุมปาก แต่ก็ดีกว่าครั้งก่อนๆ ที่ไม่เคยทำมากไปกว่ายิ้มอ่อน

ชาโซฮีจัดหนักตั้งแต่ต้นเหมือนเดิม ผ่านไปสักพักก็ไร้สติและเอาแต่กอดก่ายคนใกล้ตัว

ส่วนใหญ่จะเป็นซอจีอา คงเพราะผิวเอลฟ์ทั้งนุ่มและเนียน

เมื่อเมามาย เอลฟ์สาวเริ่มพูดเสียงหลง

“ได้โปรด ทำอะไรกับมันสักอย่าง!”

ซอจีอาผลักชาโซฮีด้วยสีหน้ารังเกียจ จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินไปถอนหายใจไกลๆ

“โฮ่ง!”

จอห์นสันข้างๆ จ้องหน้าฉันพร้อมกับเห่า

ฉันลูบหัวอย่างอ่อนโยน

ตอนนี้เริ่มชินกับการอัญเชิญแล้ว ดูเหมือนจะมีกฎสักข้อสองข้อ ไว้ค่อยตรวจสอบอย่างละเอียดวันหลัง

สายตาที่คนอื่นมองมาทางลูกหมาผีแตกต่างกันไป โดยเฉพาะซอจีอา

“…เจ้าจงรู้เอาไว้”

“หือ?”

“โดยสัญชาตญาณแล้ว เผ่าพันธุ์ของข้าต่อต้านผี”

ก็เข้าใจได้ เผ่าพันธุ์ที่ใกล้ชิด ‘ชีวิต’ มากที่สุด ย่อมต่อต้านสิ่งที่ใกล้เคียงความตาย

“…ข้าจะพยายามทำตัวให้ชินก็แล้วกัน”

พูดจบ ซอจีอาเพิ่มระยะห่าง

ดูเหมือนว่าจะเป็นพฤติกรรมจากความกลัวมากกว่ารังเกียจ

ความอยากแกล้งผุดขึ้นทันที

ฉันอุ้มจอห์นสันไปหาซอจีอา

“แฮ่!”

“…นี่เจ้า…อึ่ก!”

“แฮ่ก! แฮ่ก!”

ซอจีอาผงะถอยหลังจนเผลอกัดปาก

ขณะพวกเราเล่นเป็นเด็ก จองจีฮุนจ้องฉันสักพักก่อนจะพูด

“คุณเพิ่งกลับมาแท้ๆ แต่ต้องมาเก็บงานให้พวกเรา ขออภัยเป็นอย่างสูงครับ”

ฉันรู้ดีว่าจองจีฮุนกังวลอะไร

“เกี่ยวกับการโจมตีจากสิ่งมีชีวิตประเภทแมลง… ตอนนี้ผมเสนอให้เบสแคมป์ทำตัวตามปกติเหมือนที่คุณบอกแล้ว แต่ทีมบริหารยังไม่คลายความกังวล ผมเองก็ไม่มีเหตุผลไปโน้มน้าวให้พวกเขาสบายใจ”

“อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า พวกมันจะยังไม่ลงมือ หลังจากกำหนดเป้าหมาย ขั้นตอนถัดไปคือการเตรียมตัว”

“สักวันพวกมันก็ต้องเตรียมตัวเสร็จ ผมเชื่อว่าคุณจะจัดการได้ก่อนหน้านั้น แต่ว่า… ผมจำเป็นต้องทราบวิธีแก้ปัญหาของคุณ เพื่อเป็นข้ออ้างในการโน้มน้าวเบื้องบน”

“นี่”

ฉันเขย่าแก้ว

จองจีฮุนมองด้วยสายตางุนงง

“แอลกอฮอล์… พวกมันแพ้ทางแอลกอฮอล์ แค่ดมก็ตัวชาแล้ว”

“ไอ้มดเวรนั่น… ต้องเจอชาโซฮีคนนี้จัดการ…”

ฉันอาจเคยเปรียบมันกับรังมด แต่ที่จริงแล้วสายพันธุ์นี้แตกต่างจากมดมาก

พวกมันไม่ได้ขุดดินทำรัง แต่คล้ายกับชนเผ่าเร่ร่อนที่เตร็ดเตร่ไปยึดครองที่ว่าง

กล่าวคือ การที่มันโผล่แถวนี้ แปลว่าข้างล่างมีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่เหมือนกับโพรงถ้ำเซลฟี

หากมีแอลกอฮอล์มากพอ ก็ไม่ยากที่จะรับมือการบุกของแมลง แถมยังสำรวจรังมันได้ง่ายๆ

นั่นคือเหตุผลที่ฉันอยากตามไปจำกัดถึงรัง

ไม่มีเหตุผลให้ไม่ทำ เพราะถ้าโชคดีก็อาจได้พบอาวุธเจ๋งๆ ที่นั่น

ขณะฉันครุ่นคิด จินซอยอนใช้มือข้างหนึ่งกระดกแก้วเหล้า พลางก้มมองรูปที่ฉันถ่ายมาให้

อย่างน้อยก็ช่วยระวังเหล้าหกหน่อยได้ไหม…

นั่นปะไร ไม่ทันขาดคำ เหล้าก็ล้นจากขอบปาก

ขณะเธอรีบใช้ทิชชูเช็ด สายตายังคงไม่ละจากรูปถ่าย

“ดินแดนแห่งความตาย… พื้นที่ตรงนั้นดำสนิทเลยสินะ”

“ใช่ แต่บนโลกก็มีภูมิประเภทใกล้เคียงกัน”

“ภูเขาหินบะซอลต์พบได้ทั่วไปก็จริง แต่ไม่มีที่ไหนมีปีศาจ! ให้ตายสิ ดินแดนแห่งความตายและเหล่านักวิจัย… ฉันอยากลองไปดูสักครั้งจัง”

หงึก

ที่นั่นไม่อันตราย จะแวะไปสักครั้งก็ไม่เสียหาย

นอกจากนั้น ได้ยินว่าพิษของต่างโลกเริ่มจางลงเรื่อยๆ

“…ฉันอิจฉาทุกครั้งที่คุณได้ทำอะไรแบบนี้ คนธรรมดามักไปไหนได้ไม่ไกล จึงยากจะได้เห็นทิวทัศน์แปลกใหม่ ก่อนที่คุณซอนฮูจะมา ฉันเคยไปไกลสุดแค่พื้นที่รอบนอกป่าเบอร์มิวด้า…”

“ใช่… ฉันก็อยากตามนายไปเที่ยวด้วย… อุก!”

ชาโซฮีกับจินซอยอนอิจฉาฉันมาก ชีวิตประจำวันของพวกเธอเคยมีแต่งานจำเจ

ครุ่นคิดสักพัก ฉันผุดไอเดีย

“…ไปด้วยกันไหมล่ะ”

จินซอยอนที่กำลังเหม่อมองรูปถ่าย หันหน้ามาทางฉัน

“ใต้ดินน่ะ… การที่แมลงย้ายมาอาศัย แปลว่าทิวทัศน์ข้างล่างต้องเจ๋งพอดู”

“…ใต้ดิน”

“อยากไปกับผมไหม”

“จะไม่เป็นไรแน่หรือ”

ซอจีอาที่ยืนฟังข้างๆ ถามด้วยสีหน้ากังวล

“ฟังดูอันตรายอยู่นะ”

ไม่ว่าใครก็คงคิดแบบนั้น เพราะเป็นถึงรังของสัตว์ประหลาดยักษ์ที่บุกโจมตีหมู่บ้าน

แต่นั่นไม่จริงเลย

“ฉันกล้ารับประกัน… แต่ถ้าเธอเริ่มเห็นว่าอันตราย จะกลับกลางทางไม่ก็สาย”

จินซอยอนวางรูปถ่ายลง จ้องหน้าฉันก่อนจะหันไปหาชาโซฮี

ชาโซฮีตอบก่อน

“ฉันไป!”

ลิลี่จิบเหล้าในแก้ว พลางจ้องฉันด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

แค่อยากให้คนอื่นได้เห็นทิวทัศน์ของโลกนี้บ้าง

เท่านั้นเอง

* * *

หลังจากนั้น ขณะจัดกระเป๋าสัมภาระ ฉันบังเอิญเห็นรูปที่ถ่ายติดนักบุญหญิง

“เธอชื่อเบลล่าสินะ”

“เบลล่า·วีว่าซิสซิโม่… ตามปกติแล้ว ลูกหลานดวงดาวจะไม่มีนามสกุล ทั้งเผ่าเปรียบเสมือนหนึ่งตระกูล”

“แล้วทำไมถึง…”

“วีว่าซิสซิโม่คือนามสกุลที่มอบให้ผู้เกิดมาพร้อมโฉมผู้ปกครองและเครือญาติ เป็นการยกย่องรูปแบบหนึ่ง”

ครุ่นคิดสักพัก ฉันจำได้ว่าเคยเจอน้องสาวของเธอมาก่อน

ดูเหมือนจะชื่อ…

“น้องสาวนักบุญหญิงชื่ออะไรแล้วนะ? ที่เราเคยเจอ”

“เอลลี่… เอลลี่·วีว่าซิสซิโม่”

ลิลี่มีความจำเป็นเลิศ เพราะเป็นแวมไพร์หรือ?

ดูเหมือนเบลล่าจะเป็นห่วงเอลลี่พอสมควร

เธอเคยเล่าว่า ตนตระหนักถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคำพยากรณ์ หลังจากได้รับวิวรณ์ว่าน้องสาวจะตายแต่ไม่ได้พูดออกไป

“เทวราชาก็มีด้านชั่วร้ายอยู่สินะ พวกเขาพยายามควบคุมผู้คนด้วยคำพยากรณ์”

“ไม่ใช่ด้านชั่วร้าย เราแค่ยังไม่เข้าใจความหมาย”

“นั่นแหละชั่วร้าย มีคนตายเพราะคำพยากรณ์เชียวนะ”

“แต่ละเผ่าพันธุ์คงไม่สนใจว่าอาณาจักรข้างเคียงจะรบกันและตายไปกี่คน… ตรงกันข้าม อาจหาเรื่องยุยงให้มีคนตายเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ จึงไม่แปลกที่เทพจะมองว่านั่นเป็นเรื่องปกติ”

ฉันรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร แต่ว่า…

ฉันไม่ชอบแนวคิดแบบนี้

ลิลี่เป็นลูกขุนนาง เธอจึงถูกฝึกให้คุ้นเคยเกมการเมืองตั้งแต่เด็ก

ช่างเถอะ

ไม่นานพวกเราก็เก็บกระเป๋าเสร็จ คราวนี้ไม่ได้พกสัมภาระไปเยอะ จึงเก็บกระเป๋าได้เร็วและมีเวลาพักผ่อนมาก

สองวันถัดมา จินซอยอนถึงกับใช้วันลาหยุดเพื่อเตรียมตัวสำรวจใต้ดิน

ฉันอยากให้ผู้คนได้เห็นความงดงามของต่างโลก รวมถึงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของสรรพสัตว์

“จะไม่อันตรายแน่นะ? ถึงศัตรูจะไม่อันตราย… แต่เราอาจต้องเจออุปสรรคด้านภูมิประเทศ ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะไต่เชือกเป็น”

“ฉันจะช่วยเท่าที่ทำได้ การสำรวจคือความโรแมนซ์ จำเป็นต้องทำให้สมจริงที่สุด”

ลิลี่อมยิ้มเมื่อได้ฟังคำตอบ

ขณะเดียวกัน ประตูห้องรับรองเปิดออก

“รุนหวัด!”

“อรุณสวัสดิ์ของเธอคือหลังอาหารกลางวัน?”

“ฉันตื่นตอนไหนก็เช้าตอนนั้น!”

สองวันที่ผ่านมา ชาโซฮีแวะกลับโลก และกลับมาพร้อมสัมภาระพะรุงพะรัง

“หอบอะไรมาด้วยนักหนา”

“ชุดนักผจญภัย! นี่รองเท้าปีนเขา และนี่… เรียกว่าอะไรแล้วนะ เข็มขัดนักผจญภัยใช่ไหม? แล้วนี่ล่ะ?”

“…”

ชาโซฮีมักเป็นแบบนี้เสมอ เป็นพวกบ้าอุปกรณ์

ฉันมองผ่านๆ เพื่อคัดกรอง

อันที่จริง การเดินทางครั้งนี้ไม่ต้องพกพาอุปกรณ์หรูหรา เพราะไม่ได้ไปทำอะไรยิ่งใหญ่

“เปลืองเงินเปล่าๆ เอาไปขายที่ตลาดแคร์รอตดีกว่า”

ฉันพูดแบบนั้นขณะยืนมองอุปกรณ์ที่ชาโซฮีพกมา

สองวันถัดมา ตอนเช้า

เมื่อเปิดประตูออกไป ทุกคนกำลังรวมตัว แต่ละคนพกอาวุธและอุปกรณ์ครบครัน

“นี่คือปืนอัดอากาศ ถ้ายิงให้แรงพอ จะไล่หมาป่าออกไปได้”

“ถ้ายิงให้แรงพอ…?”

ฟังดูแปลกๆ นะ

แต่ช่างเถอะ อาจเป็นมุกตลกของจองจีฮุน

เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นจินซอยอนในชุดผจญภัย ชาโซฮีเองก็สวมแจ็กเกตเท่ๆ ที่น่าจะเป็นฝีมือพ่อ

สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ ซอจีอาก็อยู่ด้วย

“เธอเอากับเค้าด้วยหรือ”

“ข้าอยากยืดเส้นยืดสายบ้าง ช่วงนี้ใช้ชีวิตสุขสบายไปหน่อย”

“เผ่าพันธุ์ของเธอเป็นพวกฮิคคิโคโมริ*ไม่ใช่รึไง” (Hikkikomori — คนเก็บตัว, หนีสังคม)

“…ไม่ถึงขั้นนั้น”

ตรวจสอบสัมภาระแต่ละคนคร่าวๆ เสร็จ ฉันแจ้งมาตรการความปลอดภัยเบื้องต้นและเริ่มมุ่งหน้าไปทางตะวันตก

เนื่องจากห่างออกไปเพียงครึ่งวัน พวกเราตัดสินใจเดินเท้า

ไม่นานก็มาถึงอาณานิคมมด ดูคล้ายจอมปลวกที่ใหญ่กว่าปกติสิบเท่า

“…ปลอดภัยแน่ใช่ไหม?”

ชาโซฮีถามเสียงสั่น ดูเหมือนว่าเธอจะกลับมาเผชิญความจริงแล้ว

คงเพราะเหลือบไปเห็นแมลงจำนวนมากที่ยืนนิ่งๆ รอบอาณานิคมประหนึ่งหุ่นยนต์ดับเครื่อง

โดยไม่ตอบคำถาม ฉันหยิบสเปรย์ขวดยักษ์ออกจากกระเป๋าและฉีดใส่ทุกคน

“อุก! กลิ่นขิง! อุแหวะ!”

“…นี่คือ?”

“สเปรย์ราฟน่า… เจ้าเอามาจากไหน?”

มีแค่ซอจีอาที่รู้จัก

ถ้าผสมกับแอลกอฮอล์และฉีด สารตั้งต้นจะระเหยช้าลง คุณสมบัติจะอยู่นานขึ้น

เป็นวิชาที่เรียนมาจากเมืองโบราณ และเป็นเหตุผลที่ตัวฉันเหม็นขิงตลอดเวลาเมื่อครั้งยังดิ้นรนในต่างโลก

“หลังจากนี้พวกแมลงจะหลบหน้าเรา”

พูดจบ ฉันนำไม้เท้าคนตายออกมา

“ทัล talle”

“โฮ่ง!”

“ชู่ว!”

“…ฮุ่ง!”

จอห์นสันยังคงปรากฏตัวในร่างโปร่งใส

ซอจีอารีบถอยห่างคล้ายกับยังไม่ชิน

“อุก… เจ้าผี…”

ไม่ว่าจะปลอดภัยแค่ไหน ก็ห้ามละเลยการลาดตระเวนเด็ดขาด

สมัยจอห์นสันยังมีชีวิต ฉันมักพึ่งพาการดมกลิ่นและความคล่องตัวอันเป็นเลิศของมัน

“เหมือนเดิม… ฝากด้วยนะ”

จอห์นสันจ้องฉันสักพักก่อนจะกระโจนออกจากพุ่มไม้

ร่างลูกหมาน่ารักหายไปทันที

แม้ดวงอาทิตย์จะเฉิดฉายอยู่กลางฟ้า แต่จอห์นสันลบตัวตนได้อย่างน่าทึ่ง มันหลอกประสาทสัมผัสของแมลงด้วยการกระโดดไปหลบหลังหินก้อนแล้วก้อนเล่า

ไม่สิ บางทีหนวดแมลงอาจตรวจจับผีได้ยาก

สายพันธุ์ของจอห์นสันออกล่าแบบนี้เสมอ ประหนึ่งหมาป่าที่เคลื่อนย้ายตำแหน่งในเงามืด ศัตรูที่ต่อกรด้วยจะรู้สึกเหมือนกำลังสู้กับกิ้งก่าคาเมเลี่ยน

จะเรียกแชโดว์·วูล์ฟก็คงไม่ผิด (Shadow Wolf)

เวลาเดียวกัน จอห์นสันเข้าไปในปากถ้ำขนาดใหญ่ซึ่งเป็นทางเข้าอาณานิคม

ถ้ำแห่งนี้คงนำไปสู่พื้นที่ว่างใต้ดิน

ผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมง จอห์นสันกลับมาอีกครั้ง

“ฮุ่ง!”

มันนั่งลงตรงหน้าฉันพร้อมกับกระดิกหาง

ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในร่างลูกหมา จึงดูเท่อย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะดวงตานั่น

ในปากจอห์นสันคาบบางสิ่ง — สิ่งที่ช่วยบอกให้รู้ว่าข้างล่างมีอะไร

นี่คือวิธีรายงานผลลัพธ์ของจอห์นสัน

ความทรงจำเก่าค่อยๆ หวนกลับมา ความสุขเอ่อล้นจากก้นบึ้งหัวใจฉัน

แต่ที่สำคัญกว่านั้น

สิ่งที่จอห์นสันคาบกลับมา

มันคือชิ้นส่วนของอุปกรณ์กลไกบางชนิด

รูปร่างคล้ายท่อ ข้างในมีฟันเฟืองทองเหลือง

ฉันยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

“…สิ่งประดิษฐ์”

จินซอยอนพูดขึ้น สีหน้าเคร่งเครียดกว่าปกติ

เพราะนั่นแปลว่า มีโครงสร้างสิ่งประดิษฐ์บางอย่างอยู่ใต้ดินใกล้กับเบสแคมป์

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (3/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด