ตอนที่แล้วChapter 2 : สิ้นสุดการทดสอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter  4 : สามวัน

Chapter 3 : ฟอรั่มและตลาดแลกเปลี่ยน


โจวเฉินตรวจสอบฟอรั่มของจักรวรรดิมังกรเป็นลำดับแรก ฟอรั่มนี้เองก็มีชีวิตชีวาไม่ต่างจากช่องแชททั่วไปเท่าไหร่นัก มีเหล่าเซอร์ไวเวอร์หลายคนมาโพสต์ถามและตอบกันมากมายทำให้มีหลายๆโพสต์ที่ล่วงไปและหลายๆโพสต์ที่ถูกดันขึ้นมา

[ภารกิจเซอร์ไววัลรอบถัดไปของฉันเริ่มพรุ่งนี้แล้ว ไม่รู้จริงๆว่าหนนี้จะรอดกลับมาได้ไหม]

[ได้ยินมาว่านักกีฬาประจำจักรวรรดิหมีที่ทำลายสถิติโลกไปในการแข่งวิ่งเองก็เป็นหนึ่งในเซอร์ไวเวอร์ด้วย]

[ข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับระบบเอาชีวิตรอดไร้ขีดจำกัด]

[ได้ยินมาว่ามีขาใหญ่คนหนึ่งได้พรสวรรค์ที่ชื่อว่า ‘จอมเวทย์ดวงดารา’ มาซึ่งเป็นหนึ่งในอบิลิตี้ประเภทพยากรณ์]

[ภารกิจเซอร์ไววัลทีผ่านมาของฉันแมร่งย้อนไปอยู่ในยุคจูราสสิคเลย!]

[มีใครพอจะรู้วิธีการจัดกับไอ้ระบบส้นตีนนี่บ้างไหม?]

[เรื่องควรรู้สำหรับเซอร์ไวเวอร์มือใหม่]

[เซอร์ไวเวอร์ที่ฉันเพิ่มเพื่อนเอาไว้ในอาทิตย์ที่สิบคนตายไปตั้งสามคนแน่ะ]

[ดูเหมือนบริษัทยักษ์ใหญ่ในจักรวรรดิเหยี่ยวจะมีความคืบหน้าในการค้นคว้าเกี่ยวกับโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตระดับทองแดงในระดับหนึ่งแล้ว]

โจวเฉินกดเข้าไปดูในโพสต์ให้คำแนะนำและได้ข้อมูลมีประโยชน์มาบางส่วนจากเหล่าเซอร์ไวเวอร์ที่เข้ามาก่อน

แน่นอนว่าเขาย่อมไม่เชื่อข้อมูลพวกนี้เต็มร้อยแต่เอาไว้เป็นข้อมูลอ้างอิงก็ไม่เสียหาย

หลังจากย่อยข้อมูลทั้งหมดเขาก็ได้ทราบว่าลักษณะเฉพาะของเซอร์ไววัลดันเจี้ยนเป็นยังไงบ้างจากการสรุปโดยสังเขปโดยเหล่าเซอร์ไวเวอร์หลายๆคน

อย่างแรกเลยก็คือนอกจากเสื้อผ้าและรองเท้าแล้วไอเทมอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบจะไม่สามารถนำไปเข้าไปยังเซอร์ไววัลดันเจี้ยนได้

อย่างที่สองเซอร์ไวเวอร์จะไม่สามารถนำสิ่งใดๆจากดันเจี้ยนกลับมายังโลกได้

อย่างที่สามไอเทมที่ถูกสร้างโดยระบบจะสามารถนำเข้าออกโลกแห่งดันเจี้ยนได้ตามอัธยาศัย

อย่างที่สี่ไม่ว่าเหล่าเซอร์ไวเวอร์จะใช้เวลาในดันเจี้ยนไปนานเท่าไหร่ก็ตามแต่เมื่อถูกส่งกลับมายังโลกเวลาจะผ่านไปเพียงสองวินาทีเท่านั้น

“มีข้อจำกัดการใช้ไอเทมแล้วก็เรื่องการไหลของเวลาด้วย...”

โจวเฉินเริ่มสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว เขาวางแผนว่าจะลองทดสอบดูเมื่อภารกิจเซอร์ไววัลครั้งหน้ากำลังจะเริ่มต้นขึ้น เนื่องจากบททดสอบมือใหม่มันปุ๊ปปั๊ปเริ่มและก็จบลงอย่างรวดเร็วเขาเลยไม่ทันได้สังเกตุข้อมูลสำคัญตรงนี้

หลังจากอ่านคำอธิบายโดยคร่าวของภารกิจเซอร์ไววัลจากในฟอรั่มแล้วเขาก็เปลี่ยนไปดูพื้นที่สำหรับแลกเปลี่ยนต่อ

พื้นที่สำคัญแลกเปลี่ยนนี้ดูสบายตากว่าที่คิด ไอเทมหลายๆอย่างถูกแบ่งออกเป็นหลายๆประเภทตามหมวดหมู่ เหล่าผู้ที่ต้องการซื้อก็สามารถทำการค้นหาได้ไม่ยากเย็น

หลังจากตรวจสอบโจวเฉินก็พบว่าเหล่าผู้ที่นำของมาวางขายที่นี้ล้วนแล้วแต่เป็นเซอร์ไวเวอร์กันทั้งนั้น ส่วนทางระบบไม่ได้ขายสินค้าอะไรเลย เซอร์ไวเวอร์บางคนก็ขอแลกเปลี่ยนไอเทมกับไอเทมขณะที่บางคนก็รับแลกเป็นเงินอย่างเดียว

[ขาย : มีด (ทองแดงขั้นต่ำ) – ราคา : คัมภีร์ค่าสถานะใดๆก็ได้]

[ขาย : โพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิต (ทองแดงขั้นต่ำ) – ราคา : 100,000 เหรียญมังกร]

[ขาย : ท่อเหล็ก (ทองแดงขั้นต่ำ) – ราคา : 80,000 เหรียญมังกร]

โจวเฉินทำความเข้าใจพื้นที่แลกเปลี่ยนอยู่ซักพักและให้ความสนใจกับราคาของอาวุธเสียส่วนใหญ่ จากนั้นเขาก็ตัดสินใจวางขายเล็บผีดิบที่มีในราคาที่ค่อนข้างต่ำ

[เล็บผีดิบ (ทองแดงขั้นต่ำ) – ราคา : 50,000 เหรียญมังกร]

“จะมีคนซื้อไหมนะ...รู้สึกว่าไอ้ของชิ้นนี้มันก็ไม่ได้มีค่าอะไรซักเท่าไหร่นอกจากพิษซากศพที่ติดมาด้วย...ถ้าพรุ่งนี้ยังขายไม่ออกค่อยลดราคาแล้วกัน”

โจวเฉินค่อนข้างต้องการเงินอย่างเร่งด่วนจริงๆ ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างหวังกับไอเทมชิ้นนี้ว่ามันจะทำให้เขามีเงินจ่ายค่าเช่า

หลังจากวางขายเล็บผีดิบไปแล้วเขาก็ไปค้นหาและทำความเข้าใจข้อมูลทั้งหลายจากเหล่าผู้มาก่อนภายในฟอรั่มต่อ

จากจำนวนโพสต์มหาศาลเขาจึงอนุมานได้ว่าระบบเอาชีวิตรอดไร้ขีดจำกัดได้ปรากฏขึ้นบนโลกเป็นเวลาได้เดือนเศษแล้ว เซอร์ไวเวอร์รุ่นบุกเบิกส่วนใหญ่ต่างก็เสียชีวิตกันไปหมดแล้วขณะที่เหล่าผู้ที่ยังเหลือรอดต่างก็เป็นขาใหญ่กันทั้งนั้น ระดับพลังโดยรวมของพวกเขาอย่างน้อยก็อยู่ในระดับทองแดงขั้นต่ำเป็นอย่างน้อย

นี่เป็นเกณฑ์ประเมินโดยทั่วไปของทางระบบก็ว่าได้

ภารกิจเซอร์ไววัลมีระดับชัดเจนตั้งแต่ทองแดงขั้นต่ำไปจนถึงทองแดงขั้นสูง ทุกๆคนเดากันว่าน่าจะยังมีระดับที่สูงกว่านี้อีกยกตัวอย่างเช่นระดับเงินและทอง

ภารกิจเซอร์ไววัลครั้งแรกของทางระบบจะเริ่มต้นขึ้นหนึ่งอาทิตย์ให้หลังหลังจากผ่านบททดสอบมือใหม่ หลังจากนั้นความถี่ของภารกิจก็จะมากขึ้นเรื่อยๆและอาจจะกระทั่งต้องลุยภารกิจทุกๆสองหรือสามวันเลยก็เป็นไปได้

โจวเฉินหมกตัวอยู่ในฟอรั่มเป็นเวลานาน ในตอนที่เขารู้สึกหิวขึ้นมาเล็กน้อยและคิดว่าจะลงไปกินก๊วยเตี๋ยวเนื้อวัวราคา20เหรียญมังกรซักชามนึงเขาก็สังเกตุเห็นว่าทางระบบได้ส่งแจ้งเตือนมา แจ้งเตือนนี้เป็นแจ้งเตือนจากระบบที่แจ้งกับเขาว่าเล็บผีดิบของเขาถูกขายออกไปแล้ว

“เร็วขนาดนั้นเลย?”

โจวเฉินดีใจเป็นอย่างยิ่งขณะเดียวกันเขาก็หยิบเอาปึกเงินปึกใหญ่ออกมาจากในช่องเก็บของ

เนื่องด้วยระบบตรวจสอบอัตโนมัติของทางระบบเขาจึงค่อนข้างมั่นใจว่าเงินพวกนี้เป็นของจริงและสามารถใช้ได้อย่างแน่นอน

“กลับกลายเป็นว่าการหาเงินผ่านระบบมันง่ายขนาดนี้เลย? สงสัยจริงๆว่าเศรษฐีคนไหนที่ซื้อเล็บผีดิบไปแล้วยังขจัดปัญหาการเงินฝืดเคืองให้กับเราในครั้งนี้...”

โจวเฉินรู้สึกว่าการได้รับเลือกจากระบบก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่เพราะระบบการที่เขาจะหาเงินมาจ่ายค่าเช่าในเวลาสองถึงสามวันคงเป็นเรื่องยาก ยังไงซะฐานะของเขาในปัจจุบันก็เป็นเพียงแค่ชายหนุ่มกำพร้าคนหนึ่งซึ่งไม่มีทั้งที่พึ่งและงาน

“กินดีๆซักมื้อแล้วกัน...”

โจวเฉินวางแผนใช้เงินที่ได้มาอย่างรวดเร็ว

“จากนั้นก็เปลี่ยนไปอยู่ห้องที่ดีกว่านี้...แต่สำหรับตอนนี้ที่นี่ก็ยังโอเคอยู่”

“ต้องคิดหาทางในการยกระดับตัวเองเพื่อรับมือกับภารกิจเซอร์ไววัลครั้งหน้าด้วย ยังไงก็ตามพวกอาวุธที่มีขายอยู่ในพื้นที่แลกเปลี่ยนนี่เราเองก็สู้ราคาไม่ไหว คงทำได้แค่ดูแลร่างกายหรือไม่ก็ฝึกศิลปะการต่อสู้บางประเภท...”

โจวเฉินทำความสะอาดห้องอย่างลวกๆแล้วก็เดินออกไป ระหว่างที่เดินลงบันไดเขาก็ขบคิดไปด้วย

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เดินเข้าไปยังร้านอาหารตะวันตกที่อยู่ใกล้ๆห้องเช่าและสั่งสเต๊กชิ้นใหญ่ สลัดผักและน้ำผลไม้มา โดยมื้อนี้เขาใช้เงินไปกว่าร้อยเหรียญมังกร

หลังจากจัดการทานอาหารเสร็จเขาก็เดินทอดน่องเรื่อยเปื่อยไปบนถนน

บนถนนในเวลานี้มีผู้คนอยู่ไม่มากนัก รถราเองก็สวนไปสวนมาอยู่ตลอดเวลา ร้านค้าทั้งสองฝากฝั่งถนนส่วนใหญ่ก็เปิดกันทั้งนั้นดูๆไปแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากถนนในเมืองทั่วๆไป

“ก่อนหน้านี้มีคดีคนหายเกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง ทางรัฐบาลขอแจ้งเตือนให้พวกท่านระมัดระวังตัวเวลาอยู่ภายนอกเคหะสถาน ถ้าพบเห็นความผิดปกติใดๆโปรดแจ้งเจ้าหน้าที่โดยทันที...”

ระหว่างที่เดินอยู่เขาก็พลันได้ยินเสียงประกาศข่าวดังออกมาจากร้านค้าทั่วไป

“คดีคนหาย? คิดว่าคนที่หายไปส่วนใหญ่น่าจะเป็นพวกเซอร์ไวเวอร์น่ะสิ...”

โจวเฉินเดาได้ในทันที

เขาเคยอ่านเหตุการณ์พวกนี้ในฟอรั่มของระบบมาก่อนและทราบดีว่าภารกิจเซอร์ไววัลมันยากเพียงใด แม้ว่าระบบเอาชีวิตรอดไร้ขีดจำกัดจะโผล่มาได้เพียงเดือนเดียวแต่ก็มีคนตายไปแล้วมากมายและก็มันนี่แหละที่เป็นต้นตอของคดีคนหายที่ไขไม่ได้บนโลกในตอนนี้

เหล่าเซอร์ไวเวอร์ไม่ค่อยชอบสถานการณ์ในตอนนี้เท่าไหร่นักแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ระบบไม่ได้สนใจความคิดของเหล่าเซอร์ไวเวอร์แต่อย่างใด ตัวระบบดูคล้ายกับโปรแกรมไร้ความรู้สึกที่คอยแต่จะโยนเหล่าเซอร์ไวเวอร์เข้าไปในดันเจี้ยนเมื่อเวลามาถึงเสียมากกว่า

“พรสวรรค์ในการช่วงชิงสกิลติดตัวที่เราบังเอิญได้มามีศักยภาพสูงมากจริงๆ ด้วยพรสวรรค์นี้เราก็น่าจะค่อยๆพัฒนาไปได้อย่างมั่นคง เพียงแค่เราต้องอดทนเท่านั้น...”

แม้ว่าอนาคตจะไม่แน่ไม่นอนแต่โจวเฉินก็ค่อนข้างมั่นใจ

ในเวลาเดียวกันเขาก็ไม่ได้หนักใจเช่นเซอร์ไวเวอร์คนอื่นๆ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าเขาเคยตายมาแล้วหนหนึ่ง ตอนนี้เมื่อได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งเขาย่อมมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้ชีวิตนี้มันอาจจะสั้นแต่ก็ยังถือว่าเขาได้กำไรอยู่ดี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด