ตอนที่แล้วตอนที่ 312 กระบี่เซียนกักสมุทร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 314 ความจำเสื่อม

ตอนที่ 313 นามกระบี่ปลอดสำเนียง


เมื่อเห็นกระบี่ในมือของถังเทียนค่อยๆส่าย เหมิงเว่ยรู้สึกขนในตัวลุกชัน ความรู้สึกถึงอันตรายทำให้นางต้องการหันหลังวิ่งหนี

แต่...

แต่นางจับกระบี่แน่นพยายามควบคุมลมหายใจของนางและเรียกความปรารถนาต่อสู้ของนาง นางมักคิดเสมอว่าจิตตานุภาพของนางมั่นคงราวกับเหล็กกล้า  แต่ในเวลานั้นมันกลับสั่นคลอนช้าๆ

แข็งแกร่งมาก!  ถังเทียนแข็งแกร่งมากจนถึงขนาดที่นางไม่มีความคิดจะต่อต้านเขา

นางมีประสบการณ์ต่อสู้มากมายและรู้ว่านางเองไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย

ข้าอาจจะตายได้

ปากของเหมิงเว่ยมีรอยยิ้ม  นางกลับรู้สึกโล่งใจแทน  ถ้านางตาย อย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องสู้อีกต่อไป

ฉากภาพนับไม่ถ้วนผ่านเข้ามาในสายตานาง  วัยเด็กของนาง เมื่อนางเป็นเด็กเร่ร่อน ถูกผู้อาวุโสเก็บมาเลี้ยง การแข่งขันต่อสู้อันโหดร้ายและเด็กหญิงอ่อนแอที่ถือกระบี่เปื้อนเลือดด้วยความหวาดหวั่นขวัญผวาสะอื้นไห้เงียบๆ ในกลางดึก .... มันจะมาถึงจุดสิ้นสุดหรือไม่?

ชีวิตที่ขื่นขมมืดมนของนางจะถึงคราวสิ้นสุด

นางสามารถรู้สึกถึงความเสียใจในตัวกระบี่ได้มันไม่ใช่สมบัติดวงดาว  นอกจากหนักแล้วมันไม่มีอะไร ก็แค่กระบี่ฝึกธรรมดาเท่านั้น ไม่มีคม มีแต่ความทนทาน  นางใช้มันมาทั้งชีวิต  หลังจากมีประสบการณ์การแข่งขันที่โหดร้ายจนอยู่รอดเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด นางไม่เคยเปลี่ยนมันเลย มันติดตามนาง มันคือต้นแหล่งความแข็งแกร่งและความสะดวกของนาง  ทุกครั้งที่นางรู้สึกกลัว แค่จับกระบี่หัวใจนางก็สงบลง

หลังจากฆ่าคนมานับไม่ถ้วนจนเลือดท่วม  กระบี่สำหรับฝึกธรรมดาก็ค่อยๆมีวิญญาณเติบโตขึ้น

โปรดอย่าเศร้าเพราะข้าเลย  นี่คือการไถ่บาปให้ข้าเอง

ในสายตาของเหมิงเว่ยมีแววอ่อนโยน กระบี่ธรรมดามีจิตวิญญาณ ชีวิตของเจ้าเพิ่งเริ่มต้นแท้ๆ ต่อไปเจ้าจะต้องมีชื่อเสียงและสั่นสะเทือนโลก

ตัวกระบี่เริ่มมีรอยบิ่นเต็มไปด้วยรอยแตก  แม้ว่านางจะรักมันแต่มันก็เป็นอาวุธระดับธรรมดา

เมื่อข้าตายเจ้าจะต้องถูกมองข้ามแน่นอน มีคนน้อยมากที่ชอบกระบี่ฝึกหัด แต่เจ้าแข็งแกร่งมาก เจ้าคงไม่พอใจอย่างแน่นอน

ขอบคุณที่เจ้าต่อสู้เคียงข้างกับข้ามาตลอดโปรดรับการขอบคุณเป็นครั้งสุดท้ายจากข้า

เหมิงเว่ยจับกระบี่สองมือชูข้างหน้านางและหลับตา

เผียะ...เกิดเสียงระเบิดในร่างกายนาง และนางสั่นสะท้าน

ปัง ปัง ปัง!

คลื่นเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากในร่างของนางจนสะดุ้ง ใบหน้าของนางที่มักเย็นชาและไร้ความรู้สึกเสมอ  ขมวดคิ้วทันทีเหมือนกับว่านางกำลังทรมานจากความเจ็บปวด

เปิดพลังอัญเชิญสายเลือดดวงดาวครั้งที่สอง!

สายเลือดวาฬขาวในตัวเหมิงเว่ยมีความพิเศษมาก เลือดวาฬขาวเป็นแค่สายเลือดสาขาของสายเลือดกลุ่มดาววาฬ  แต่สายเลือดในตัวนางมีความบริสุทธิ์ถึง 90เปอร์เซนต์

นั่นอาจเป็นเหตุผลทำให้นางสามารถใช้พลังอัญเชิญสายเลือดดวงดาวได้อีกครั้ง

ตลอดทั้งตัวของนางสว่างด้วยรัศมีสีขาว กลุ่มดาววาฬที่หายไปจากท้องฟ้าปรากฏให้เห็นอีกครั้งและปล่อยลำแสงสีขาวเข้ามาในกระบี่ในมือนางอย่างต่อเนื่อง

“กระบี่เหล็กธรรมดาไร้ชื่อ ก่อเกิดวิญญาณหลังจากผ่านการรบร้อยศึกด้วยพลังสายเลือดวาฬขาว ขอมอบชีวิตให้เจ้า”

รัศมีขาวอาบไปตามตัวกระบี่และจู่ๆ ก็เริ่มไหลเร็วมากขึ้นจนเป็นช่องสว่าง

เสียงจริงใจของสตรีคนหนึ่งดังลอยล่องในสายลม

“ไม่มีใครสามารถทำลายเจ้าได้”

“ไม่มีอะไรคมกล้าเท่ากับเจ้า”

“เจ้าจะไม่ถูกโลหิตย้อม!”

….

เมื่อได้ยินเสียงกระซิบของสตรีนางนั้นสีหน้าเย็นชาของถังเทียนไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยแต่หัวใจของเขาหวั่นไหวเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง

“น่าขัน”

เสียงเย็นชาของถังเทียนดังขึ้น กระบี่กักสมุทรซึ่งอยู่ในมือเขาชี้ตรงมาที่เหมิงเว่ย

ปัง

คลื่นเปลวเพลิงดำทะลักออกจากตัวกระบี่และกระแสเพลิงสีดำพุ่งตรงไปที่เหมิงเว่ย

ทัศนวิสัยการมองของเหมิงเว่ยปกคลุมไปด้วยเพลิงดำซึ่งคลุมเต็มถึงท้องฟ้า  นางไม่มีที่ให้ซ่อนทันใดนั้นตัวกระบี่เปล่งแสงสีขาวคลุมตัวเหมิงเว่ย ขณะที่แสงขาวกับเพลิงดำสัมผัสกันก่อให้เกิดสภาพที่ไม่เสถียร

เพลิงดำดุร้ายรุนแรงคุกคามทำให้แสงสีขาวตกอยู่ในอันตรายทันที

หน้าของสตรีผู้นี้ซีดขาวและเสียงของนางสั่น นางยังคงพูดอย่างมั่นคง

“เจ้าจะมีชีวิตที่ปลอดภัยและมีชื่อ”

รังสีขาวรอบๆกระบี่ระเบิดออก ในพริบตารังสีขาวก็หายไปทั้งหมดทั้งหมดถูกดูดซับเข้าไปในตัวกระบี่

ตัวกระบี่ดำปกคลุมไปด้วยลายเส้นเงินเล็กละเอียดทำให้ตัวกระบี่ดูงดงามไม่มีร่องรอยของความชั่วร้าย  แต่ตัวกระบี่ยังมีรอยบิ่นรอยแตกและรูทำให้ดูเหมือนมันได้รับความเสียหาย ภาพกลุ่มดาววาฬในท้องฟ้าฉายรังสีขาวทันที ในพริบตาท้องฟ้ากลายเป็นมืดดำ ขณะที่เมฆสีเทาปกคลุมไปทั่วทุกแห่ง

ดาวของกลุ่มดาววาฬเริ่มส่องแสงกันทั้งหมดดวงแล้วดวงเล่า

ถังเทียนรั้งกระบี่กักสมุทรกลับมาเพลิงดำในท้องฟ้าหายไปทันที เขามองดูเหมิงเว่ย

เท้าของเหมิงเว่ยเริ่มหายไป  ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนทำให้นางตกใจหนัก

กลุ่มดาววาฬต้องการทำลายกระบี่

ไม่!

เหมิงเว่ยแตกตื่น  กระบี่คือห่วงกังวลประการเดียวในโลกและเป็นคู่หูของนาง นางต้องการให้มันอยู่ต่อไป แต่นางไม่เคยคิดว่านางต้องเผชิญหน้ากับความกราดเกรี้ยวของกลุ่มดาววาฬ

กลุ่มดาววาฬต้องการกินมันซึ่งจะทำให้มันเหลืออยู่แต่เพียงผงธุลี

เหมิงเว่ยใจสลายและเศร้าโศก  ทันใดนั้นนางมองถังเทียนนางเหมือนคนกำลังจะจมน้ำที่พยายามคว้าเศษฟางเพื่อช่วยชีวิตในท่ามกลางความตื่นกลัวนางวิงวอน “จอมยุทธ, โปรดช่วยมันด้วย”

“ได้โปรด  ข้าขอร้อง โปรดช่วยมัน”

ร่างที่แม้แต่กลุ่มดาววาฬก็ยังเกรงกลัวจะช่วยเหลือกระบี่ได้แน่นอน!

เหมิงเว่ยขอร้องอย่างน่าสงสารน้ำตานองหน้า

ถังเทียนที่ยังมีสีหน้าเย็นชาเอ่ยปากทันที“ชื่อของกระบี่”

ชื่อกระบี่?  ชื่อกระบี่!

เหมิงเว่ยพึมพำ  “ชื่อกระบี่....  ชื่อกระบี่...”

นางเงยหน้า“มันเรียกว่ากระบี่ปลอดสำเนียง”

ข้าขอให้เจ้าปลอดภัยและมีชื่อ

กระบี่ร้องออกมามีแสงล้อมรอบมันตลอดเวลา มีแสงยิงออกไปยังกลุ่มดาววาฬในท้องฟ้า  ขณะเดียวกัน กลุ่มดาววาฬก็เปล่งแสงแพรวพราว และยิงรังสีออกมาเช่นกันรังสีทั้งสองปะทะกัน

ปัง,ท้องฟ้าสั่นสะเทือน

เมฆมืดครึ้มหนาขึ้นทุกที ทั้งฟ้าแล่บฟ้าร้องเริ่มปรากฏราวกับว่าจะเป็นอวสานของโลก

นั่นคือ...การกลืนกลุ่มดาว

สมบัติดวงดาวทุกอย่างถือกำเนิดจากกลุ่มดาวและสมบัติดวงดาวของกลุ่มดาวทั้งหมดจะมีระบบที่เข้มงวดกวดขันมาก  สำหรับคนที่สร้างสมบัติดวงดาวจะได้รับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากกลุ่มดาว และนั่นก็คือการกลืนกินของกลุ่มดาว

ตราบใดที่มันสามารถต่อต้านการกลืนกินของกลุ่มดาววาฬได้  มันจะสามารถกลายเป็นสมบัติดวงดาวชิ้นใหม่ได้

สมบัติดวงดาวแบบนี้ไม่สามารถใช้พลังของกลุ่มดาวได้  แต่มีความพิเศษอย่างอื่น นั่นก็คือไม่ถูกพลังกลุ่มดาวควบคุมและแน่นอนมันถูกถือว่าเป็นสมบัติกลุ่มดาวมืด

แต่พลังของการกลืนกินของกลุ่มดาวนั้นมีอำนาจทำลายล้างมาก ดังนั้นจึงมีสมบัติกลุ่มดาวมืดอยู่เพียงไม่กี่ชิ้นในประวัติศาสตร์

อาเฮ่องงงวยสำหรับตำนานที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาทำให้เขาตะลึง  และเมื่อเขาเห็นว่าถังเทียนถูกเพลิงดำห่อหุ้มไม่มีความตั้งใจจะถอยหรือหลบสีหน้าของเขาเปลี่ยนทันที

เจ้าบ้านั่นอย่าบอกนะว่าต้องการจะช่วยกระบี่?

อาเฮ่อสบถอยู่ในใจร่างของเขาเหมือนกับสายฟ้าขณะบินเข้าหาถังเทียน

หลิงซิ่วก็คิดเหมือนกับเขา  แม้ว่าหลิงซิ่วจะไม่รู้ว่าสมบัติกลุ่มดาวมืดคืออะไร แต่เขาอาศัยแต่เพียงสัญชาตญาณก็รู้ว่าถังเทียนตกอยู่ในอันตราย

ตาของถังเทียนเหลือบเห็นร่างทั้งสองกำลังตรงมาทางเขาและระลอกเสียงดังก้องในหัวใจเขา เขาพูดออกมาทันที “เจ้าโง่”

กระบี่กักสมุทรในมือของเขาปลดปล่อยรังสีกระบี่สีดำสองสายทันที

อาเฮ่อกับหลิงซิ่วตระหนักได้ทันทีว่ารังสีกระบี่เพลิงดำกำลังพุ่งตรงมาทางพวกเขา  พวกเขาสั่นทันที

อาเฮ่อสะบัดกระบี่กระเรียนในมือสร้างคลื่นพลังประหลาดและปล่อยออกมาจากตัวกระบี่เป็นเหตุให้เขาลอยไปข้างหน้า  ปฏิกิริยาของเขารวดเร็ว  เขาสามารถรู้สึกได้ว่าแม้พลังจะน่ากลัว  แต่มันไม่ได้ให้ความรู้สึกเจ็บปวดใดๆกับเขา  ดังนั้นเขาจึงปล่อยไหลไปตามพลัง

หลิงซิ่วไม่ฉลาดเท่าอาเฮ่อ  ทั้งร่างคนร่างนกปลิวออกไปเหมือนกระสุนไกลกว่าสองสามร้อยเมตร หลิงซิ่วที่อยู่ในกลางอากาศสบถด่าด้วยความโกรธขณะปลิวห่างออกไป

“เจ้าบัดซบเอ๊ย! เจ้าตายแน่...”

ถังเทียนพูดเบาๆ  “งี่เง่า”

เหมิงเว่ยที่อยู่ต่อหน้าถังเทียนร่างของนางกลายสภาพเป็นรูปโปร่งใสอย่างรวดเร็ว มองดูถังเทียนด้วยความซาบซึ้ง  “ขอบคุณ!”

ถังเทียนมีสีหน้าเฉยเมย กระบี่ลอยเข้ามาอยู่ในมือของเขาพร้อมกับคลื่นพลัง มีคำอยู่บนตัวกระบี่“ปลอดสำเนียง”

เหมิงเว่ยหายไปในอากาศโดยไม่เหลือร่องรอย

กระบี่ปลอดสำเนียงในมือถังเทียนเปล่งเสียงร้อง

เมฆมืดครึ้มในท้องฟ้าสีดำทะมึน  มีแต่กลุ่มดาววาฬที่สว่างเจิดจ้า

ถังเทียนเงยหน้าขึ้นมองฟ้า  เพลิงดำลุกท่วมทำให้เขาทั้งดูสง่าและดุร้ายทั้งสงบอย่างไม่มีอะไรต้องกลัว

“เขาทำสำเร็จไหม?”  ซือหม่าเซี่ยวพูดหลังจากเงียบไปชั่วขณะ

ร่างเพลิงดำในท้องฟ้าเพราะเหตุผลบางอย่างมันเต็มไปด้วยอำนาจคุกคาม ด้วยพลังของเขากลับกล้าเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของสวรรค์  เขาไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนใจ

“ข้าไม่รู้” ชิวจื่อจวินส่ายศีรษะ  ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความนับถือ

ใครก็ตามที่เผชิญหน้ากับอันตรายเช่นนั้นคงจะวิ่งหนีฝุ่นตลบไปแล้ว  แต่ถังเทียน...

ไม่มีใครสามารถคิดได้ว่าการต่อสู้จะจบลงโดยขยายวงมาถึงขนาดนี้ แต่ภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าทุกคนสร้างความตื่นตะลึงยิ่งกว่าคนสองคนต่อสู้กันเสียอีก  นี่คือการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับสวรรค์

ทุกคนที่อยู่หน้าจอพูดไม่ออก

ปราณยะเยือกรุนแรงไหลออกมาตามกระบี่กักสมุทรเข้ามาในตัวถังเทียน หัวใจที่เมินเฉยของเขาเหมือนกับกระจกเงาไม่มีความกลัว ขณะที่วิชากระบี่นับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามาในสมองของเขา  ทั้งคุ้นเคยแต่ก็มีความรู้สึกแปลก

มือซ้ายของเขาถือกระบี่ปลอดสำเนียง  มือขวาถือกระบี่กักสมุทรร่างของเขาย่อตัวลงเล็กน้อย

พลังในท้องฟ้าหนาแน่นขึ้นทุกทีเมฆสีดำหนาแน่นเข้มข้นขึ้น

วืดดดด

ลำแสงสายหนึ่งยิงลงมาพร้อมกับส่งเสียงดัง  มันแตกต่างจากลำแสงครั้งก่อนสิ้นเชิงรุนแรงและอันตรายยิ่งกว่า

เฟี้ยววว

สายฟ้าแล่บแปลบปลาบเป็นข่ายสายมาบรรจบกันเป็นลำแสง

ถังเทียนยังคงไร้ความรู้สึกกระบี่กักสมุทรสว่างวาบและปลดปล่อยพลัง

รังสีกระบี่เปลวเพลิงดำดูเหมือนกับลำแสงดำพุ่งตรงขึ้นไปบนฟ้าปะทะกับลำแสงที่ยิงมาโดยกลุ่มดาววาฬ  “ปัง!”

แสงขาวและแสงดำแตกกระจายรังสีสายฟ้าแตกเป็นเสี่ยง ปราณประหลาดกวาดกระจายไปทั่วทุกตำแหน่ง

ท้องฟ้าสั่นรุนแรง

จอภาพที่ใช้ดูพลอยสั่นสะเทือนและพร่าเลือน  คลื่นพลังงานเข้มข้นมีผลต่อสมบัติดวงดาวทั้งหมด

ถังเทียนเซ  แต่ปากของเขามีรอยยิ้มเย้ยเย็นชา  วิชากระบี่ที่หลั่งไหลเข้ามาในสมองของเขาและประสบการณ์ชีวิตทั้งหมดของอูหวังไห่ที่ถูกไล่ล่าตามฆ่าถึงยี่สิบปี เขาถูกกดขี่ข่มเหงจากอำนาจระดับสูงทุกระดับจึงเต็มไปด้วยความรังเกียจและเกลียดชัง  ความรู้สึกรังเกียจและเกลียดชังฝังลึกเข้ากระดูก

แต่เขาสามารถใช้ความรู้สึกนี้  เขาสามารถใช้อารมณ์เช่นนี้เพื่อนำพลังกระบี่กักสมุทรมาใช้ และตัวกระบี่กักสมุทรที่แท้จริงนั้นอยู่ในมิติว่างเปล่า เนื่องจากความเกลียดชังของมันจึงเพิ่มพลังให้กับตัวกระบี่ภาพจำลองในมือถังเทียน

สายตาของถังเทียนเหี้ยมโหดดุร้ายทันที  เหมือนกับว่าเขาคือสัตว์ป่าที่โกรธแค้น

เพลิงดำปะทุออกมาทำให้ปราณของเขาเพิ่มความเข้มข้นขึ้น

ในมิติมืดมนไร้ขอบเขตร่างหนึ่งยืนอยู่ตามลำพัง  เขาหัวเราะเสียงแหบแห้ง“เป็นลูกชายของเขาตามที่คาดจริงๆ สามารถใช้ความเกลียดชังของข้าได้ ดีมาก”

“หึหึ ข้ารู้ชัดแล้ว  ถึงถูกนำมาใช้ ข้าก็ยังเกลียดมัน”

เสียงแหบแห้งของอูหวังไห่ดังเหมือนสัตว์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บ

ถังเทียนเงยหน้ามองไปทางกลุ่มดาววาฬในท้องฟ้า  สายตาเขาเต็มไปด้วยความเกลียด

เขาสะบัดกระบี่กักสมุทรเพลิงดำ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด