ตอนที่แล้วตอนที่ 35 : ร่างกายขั้น 8
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 37 : เหตุการณ์หลายหลาก

ตอนที่ 36 : ใช้ผลไม้จิต


หลังจากใช้หมัดทลายศิลาแล้ว พลังที่ไหลผ่านร่างกายหลินมู่จางหายไปและแทนที่ด้วยความเหนื่อยล้า หลินมู่ล้มลงกับพื้นด้วยความเหนื่อยอ่อน เขาไม่คิดว่าเขาจะเหนื่อยถึงเพียงนี้จากการใช้หมัดทลายศิลาสำเร็จ

‘ทำไมมันถึงใช้พลังมากกว่าเดิมล่ะ?’

หลินมู่คิดว่าการหมดของพลังเกิดจากการใช้หมัดทลายศิลาที่ยังไม่สมบูรณ์ เขาไม่รู้เลยว่าเมื่อวิชาสมบูรณ์แล้วมันจะใช้พลังมากขึ้นไปอีก

ก่อนที่เขาจะใช้หมัดทลายศิลาได้สำเร็จนั้นเขาเคยใช้มันมาก่อนสองครั้ง แต่ครั้งนี้เมื่อเขาใช้มันได้อย่างดีเยี่ยม มันกลับทำให้เขาใช้ได้ครั้งเดียวก่อนที่แทบจะขยับตัวไม่ได้อีกเลย

‘ข้าจะใช้หมัดทลายศิลาในตอนที่ข้ามั่นใจว่าข้าจะชนะหรือไม่มีทางเลือกแล้วเท่านั้น’

หลินมู่คิด

หลินมู่นอนลงบนพื้นครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะฟื้นพลังได้บางส่วน เขาลุกขึ้นเตรียมออกล่า เขากลับมาในเวลาก่อนพระอาทิตย์ตกดินพอดี ในวันนี้เขาได้หงส์ปีกตะขาและกวางหกง่าม

หลินมู่ไม่เคยจับกวางหกง่ามที่โตแล้วได้มาก่อน มันเป็นเพราะความเร็วของเขาที่เพิ่มขึ้นหลังจากเป็นขั้น 8 ในตอนนี้เขาเร็วกว่ากวางหกง่ามอย่างง่ายดายและจบชีวิตมันด้วยการฟันดาบสั้นครั้งเดียว

หลังกลับมาถึงกระท่อม เขาทำความละอาดและเตรียมชำแหละสัตว์ก่อนจะทำอาหารค่ำ หลินมู่ยังคงฝึกอาวุธหลากหลายชนิดที่ซื้อมาเมื่อวานต่อไปจนกระทั่งเที่ยงคืนที่รอยแยกมิติเปิดออกในที่สุด เขาเจอชิ้นผ้าไหมที่ขาดในรอยแยกมิติรอบนี้

หลินมู่มองดูชิ้นผ้าขาดแต่ก็พบว่ามันเป็นผ้าธรรมดา เขาเก็บมันไว้ในแหวน จากนั้นจึงหลับและเข้าสู่ห้วงหลับใหล ในห้วงหลับใหลนั้นเขาฝึกหมัดทลายศิลา แต่เมื่อใช้หมัดทลายศิลาได้เป็นอย่างดีแล้วเขาก็ไม่ต้องฝึกมันมากนัก เพราะเขาไม่รู้ว่าจะพัฒนาตัวเองในด้านใดได้อีก

‘ตำราบอกว่าขั้นต่อไปของหมัดทลายศิลาคือการเพิ่มพลังวายุในตอนที่ใช้วิชา’

หลินมู่นึกย้อนกลับไป

หลินมู่มิอาจฝึกวิชาต่อสู้ได้เต็มที่ในห้วงหลับใหลเพราะเขาใช้พลังชีวิตในร่างกายไม่ได้ เขาทำได้เพียงแค่ฝึกการตั้งท่าและการผสานร่วมกัน

‘อย่างน้อยข้าก็น่าจะฝึกอาวุธได้บ้างสิ’

หลินมู่บ่นกับตัวเอง

หลินมู่ไม่มีสิ่งที่เขาทำได้ในห้วงหลับใหลอีกแล้วนอกเสียจากว่าเขาจะมีวิชาใหม่ให้เรียนรู้ เมื่อรู้ตัวว่ามิอาจทำอะไรได้มาก หลินมู่ก็นั่งลงและคิดถึงสิ่งที่เขาจะต้องพัฒนาตัวเองต่อไป กว่าจะตื่นนอนหลินมู่ก็คิดถึงสิ่งที่ต้องทำในใจเสร็จแล้ว

ขั้นแรกคือเขาอยากจะเป็นผู้บ่มเพาะปราณ จากนั้นเขาจะหาเงินให้มากพอเพื่อซื้อบ้านที่ถูกยึดไปคืน สุดท้าย เขาอยากจะสำรวจและผจญภัยในโลกแห่งนี้

ความปรารถนาที่จะผจญภัยในโลกของหลินมู่นั้นมาจากมารดาที่เคยบอกเล่าเรื่องราวจากนักเดินทางและตำราที่นางอ่าน นางเล่าเรื่องสถานที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ สัตว์ดุร้าย อาณาจักรที่เจริญรุ่งเรือง และองค์หญิงงดงามมากมาย และเรื่องราวที่หลินมู่สนใจมากที่สุดก็คือเรื่องผู้บ่มเพาะเซียนและตำนานของพวกเขา

ทุกเป้าหมายของเขานั้นเชื่อมโยงกับอีกเป้าหมายและเป้าหมายถัดไป การเป็นผู้บ่มเพาะพลังทำให้เขาหาเงินได้มากซึ่งทำให้เขาซื้อบ้านคืนมาได้ เขาจะเติมเต็มหน้าที่ดูแลสมบัติบรรพบุรุษและสุสานตระกูลที่ตั้งอยู่ที่นั่น

เมื่อหลินมู่ทำเป้าหมายทั้งสองสำเร็จแล้ว เขาจะเป็นอิสระที่จะพเนจรสำรวจโลก เขาตั้งหน้าตั้งตาที่จะได้เห็นสถานที่ที่ได้ยินในเรื่องราวของมารดา

เมื่อตื่นนอน หลินมู่เริ่มเตรียมอาหารเช้าและฝึกหมัดทลายศิลา เขาลองเรียกวายุที่สองออกมาขณะที่ใช้วิชาแต่ก็มิอาจทำได้เพราะพลังชีวิตสลายไปก่อนที่เขาจะเรียกวายุที่สอง

หลินมู่หยุดฝึกหมัดทลายศิลาหลังจากล้มเหลวหลายครั้งและกินอาหารเช้า เขาท่องบทสงบใจและดูดซับพลังชีวิตเช่นเดิม เขาบอกได้เลยว่าการดูดซับพลังของเขานั้นดีขึ้นหนึ่งในห้าส่วน และเขาสามารถดูดซับพลังชีวิตได้มากกว่าเดิม

หลังจากสะสมพลังเรียบร้อยแล้ว เขาฝึกการใช้อาวุธต่าง ๆ ขณะที่ฝึกหลินมู่ได้ข้อสรุปว่าเขารู้สึกคุ้นเคยกับการใช้ดาบ มีด และหอกมากกว่า เขาฝึกด้วยขวานแต่ก็พบว่ามันใช้งานลำบาก และโล่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าใดนักเพราะมันเป็นแค่เครื่องป้องกัน

ส่วนสนับมือ เขาใช้มันได้อย่างดีด้วยหมัดทลายศิลา สนับมือถูกสร้างด้วยหนังแข็งและทนทานที่เสริมแกร่งด้วยแผ่นเหล็ก จะสวมมันในตอนต่อสู้ก็ได้แต่หลินมู่คงใส่มันไม่ได้ตลอดเหมือนกับชุดเกราะหนังที่ชิงมาจากโจร

ขณะที่หลินมู่ฝึกอยู่นั้นเองเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเขามีร่างกายขั้น 8 แล้ว เขาหยุดฝึกและเรียกผลไม้จิตสีม่วงขนาดเท่าองุ่นที่เขาต้องเสี่ยงชีวิตแลกมาออกมา ทันทีที่ได้มาเขาก็รู้สึกถึงปราณจิตหนาแน่นที่กักเก็บอยู่ในนั้น ปราณจิตนั้นหนาแน่นกว่าแอปเปิ้ลจิตและเทียบได้กับศิลาจิต

‘ข้ากินตอนนี้คงไม่เป็นอะไรแล้วล่ะมั้ง’

หลินมู่คิด

หลินมู่รอที่จะมีร่างกายขั้น 8 เพื่อที่เขาจะได้เป็นผู้บ่มเพาะพลัง แม้ว่าเขาจะต้องการตำราบ่มเพาะและเป็นผู้บ่มเพาะพลังเต็มตัว ในตอนนี้เขาก็อยากที่จะกินผลไม้จิตก่อน

หลินมู่ทำใจและทำตามสิ่งที่ต้องการ เขาหายใจเข้าลึกและนำผลไม้ลูกเล็กเข้าปาก เขากัดผลไม้ในปากและรู้สึกถึงความหวานน่าพึงใจกระจายในปาก หลังจากเคี้ยวในปากจนพอใจแล้วก็กลืนลงไป และผลไม้นี้มีขนาดเท่ากับผลองุ่นเท่านั้น มันจึงเข้าปากเขาทั้งหมดในการกลืนครั้งเดียว

ในนาทีแรกที่กินเข้าไป หลินมู่ไม่รู้สึกอะไรเลย จนเขาคิดว่าเขาอาจจะเข้าใจผิดว่ามันเป็นผลไม้จิตปลอม แต่หลังจากหนึ่งนาทีผ่านไปก็ถึงเวลาที่เขาทุกข์ทรมาน

ความเจ็บปวดแสบร้อนปะทุออกมาจากกระเพาะและแผ่ซ่านไปทั่วร่าง มันเจ็บปวดทั้งเส้นเลือด กล้ามเนื้อ และผิวหนังไปจนถึงกระดูกจนถึงม้าม เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

“อ๊ากกกกกกก!”

เสียงกรีดร้องแสดงความทุกข์ระดมของหลินมู่ดังก้องไปทั่วป่าจนเหล่าวิหคบินหนี ปราณจิตกระจายไปยังจุดที่หลินมู่คิดนั่นก็คือเส้นเลือดจนกระทั่งเขาแน่ใจว่ามันคืออย่างอื่น เส้นสายเหล่านั้นคล้ายกับเส้นเลือดและอยู่ติดเคียงคู่กัน แต่ก็แยกออกจากกันด้วย

ในที่สุดหลินมู่ก็รู้แล้วว่าเส้นสายนั้นคืออะไร มันมิใช่สิ่งใดนอกจากเส้นปราณที่เขาเคยได้ยินจากเรื่องเล่าและคนอื่น ความเจ็บปวดผ่านเส้นปราณไปถึงช่องท้องที่พักพลัง ก่อนจะไหลเวียนอีกครั้งเป็นวงจร

หลินมู่เหนื่อยล้าเกินกว่าจะส่งเสียงกรีดร้องได้อีก ทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อตั้งแต่หัวจรดเท้า ชุดสีเทาของเขาเปียกชุ่มไปทั้งตัว หลังจากไม่กี่นาทีแห่งความทรมานเขาก็รู้สึกได้ว่าพลังชีวิตที่ถูกเก็บในร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ปราณจิตจากผลไม้นั้นถูกดูดซับเข้าสู่ร่างกายและใช้เป็นเชื้อเพลิงสร้างพลังชีวิต

ในตอนนี้ ในที่สุดหลินมู่ก็ตั้งสติและท่องบทสงบใจได้ ในแหวนลึกลับนั้นมีแท่นบูชาที่เกิดจากอักษรโบราณอยู่ แท่นบูชานั้นส่องแสงประกายสว่างเดิมตั้งแต่ที่หลินมู่กินผลไม้จิตเข้าไป มันสว่างจ้าขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกขณะ

เมื่อหลินมู่ท่องบทสงบใจ แท่นบูชาก็ตอบรับและปล่อยกระแสคลื่นพลังของตัวเองออกมา ในตอนนั้นเองหลินมู่ได้ยินเสียงสวดของพระพันรูปในหัวที่ดังกระหึ่ม เสียงสวดนั้นเป็นเสียงที่หลินมู่มิอาจเข้าใจได้ แต่เขาก็ดูจะรับรู้ได้ถึงเหตุผลที่ซ่อนอยู่ด้วยเหตุผลบางประการ

ภายใต้เสียงสวดกระหึ่มดังก้องนั้น ปราณจิตที่รุกรานเข้ามาถูกทำให้เชื่องและมั่นคงขึ้น ปราณจิตหยุดพยศและพักที่ท้องของหลินมู่ เขารู้สึกว่าตำแหน่งที่ปราณพักอยู่นั้นอยู่เหนือสะดือเล็กน้อยและรู้สึกราวกับจับต้องไม่ได้ หลินมู่มั่นใจว่านั่นคือจุดตันเถียนของเขา

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด