ตอนที่แล้วตอนที่ 10-4 เครื่องจักรสงคราม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10-6 พี่สาม?

ตอนที่ 10-5 ออกดอกออกผล


ยามดึก ภายในห้องหนังสือที่เงียบสงัดมีเพียงโต๊ะทำงานหนึ่งตัวกับโคมไฟหรี่แสง

บนโต๊ะ มีบุรุษร่างผอมจมูกงองุ้มเหมือนเหยี่ยวไว้ผมยาวสีม่วง  คนผู้นี้กำลังพลิกหนังสือเล่มหนา ลักษณะของคนจมูกเหยี่ยวไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน  แต่ในขณะนั้นเอง  “ก๊อก ก๊อก กีอก” เสียงเคาะประตูดังขึ้น

“เข้ามา”  บุรุษจมูกเหยี่ยวไม่เงยหน้าขึ้นยังคงอ่านหนังสือต่อไป

“แอ๊ดดดด” ประตูผลักเปิดออกและบุรุษวัยกลางคนผมทองรูปหล่อเดินเข้ามา ทันทีที่เข้ามาแล้วเขาปิดประตู จากนั้นคำนับด้วยความเคารพ  “ใต้เท้าตุลาการ!  กองกำลังของลินลี่ย์ยึดหัวเมืองโมแอ็ตไปแล้ว”

บุรุษจมูกเหยี่ยวคือหัวหน้าตุลาการแห่งศาลศาสนจักรกลางแห่งศาสนจักรเจิดจรัสโอเซนโน

ต่อหน้าสาธารณะจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะเป็นผู้นำศาสนจักรเจิดจรัส อย่างไรก็ตามศาสนจักรจะต้องกระทำตนเองให้ดูบริสุทธิ์สูงส่ง  เมื่อต้องจัดการกับยอดฝีมือบางคน พวกเขามีศาลศาสนจักรคอยรับภารกิจอย่างโหดอำมหิตเต็มที่  หัวหน้าของพวกเขาตุลาการเป็นคนในศาสนจักรเจิดจรัสเองมีพลังและอำนาจไม่น้อยไปกว่าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์

“เหรอ” โอเซนโนยังคงอ่านหนังสือต่อไป

บุรุษผมทองพูดด้วยความเคารพต่อ  “ยืดหัวเมืองโมแอ็ตเป็นเรื่องเล็กน้อย ที่สำคัญกว่า..ด้านลินลี่ย์ใช้อสูรชั้นเซียนลึกลับเป็นอสูรประเภทเสือดำบุกทำลายกำแพงเมือง!”

“พวกเขาใช้อสูรชั้นเซียนด้วยหรือ?”  โอเซนโนเงยหน้าทันที

ตาของโอเซนโนลึกล้ำเหมือนทะเล บุรุษผมทองรู้สึกว่าหัวใจของเขาสั่นสะท้านจากการจ้องมองของโอเซนโน  แต่ข่มความกลัวและพูดต่อ  “ใต้เท้าตุลาการ ฝ่ายลินลี่ย์ใช้เซียนเข้าสู้รบนี่เป็นเรื่องยั่วยุอย่างเห็นได้ชัด”

กล่าวโดยทั่วไปเซียนจะไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการสู้รบ

เมื่อมีเซียนเข้ามาเกี่ยวข้องนั่นหมายความว่าจะไม่มีอะไรเบี่ยงเบน ไม่มีโอกาสปรองดองกันได้มีแต่ต้องสู้ตายเท่านั้น

เนื่องจากหัวเมืองโมแอ็ตไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของศาสนจักรเจิดจรัส เพราะลินลี่ย์กระทำเช่นนั้นไม่ได้เป็นการยั่วยุตรงต่อศาสนจักรเจิดจรัส  แต่สำหรับเขาการมีอสูรเวทระดับเซียนเข้าร่วมทำศึก..นี่คือการแสดงท่าที ท่าทียั่วยุที่มีต่อศาสนจักรเจิดจรัส ความตั้งใจของลินลี่ย์ค่อนข้างชัดเจน...

อสูรเวทของข้าแสดงตัวแล้ว กองกำลังเหล่านี้เป็นของข้า ลินลี่ย์ ดังนั้นศาสนจักรเจิดจรัสของเจ้าจะทำอะไรได้?

ขณะเดียวกันฝ่ายลินลี่ย์ก็กำลังแสดงกำลังของเขา  ‘เนื่องจากข้ากล้าส่งอสูรเวทระดับเซียนเข้าสู้รบ ถ้าศาสนจักรเจิดจรัสเจ้าต้องการสู้รบกับข้า  จะดีที่สุดให้พวกเจ้านำเซียนมาด้วย  อย่าได้เปลืองกำลังทหารเลย’

“ใต้เท้าตุลาการ?”  บุรุษผมทองมองโอเซนโน

ดวงตาลึกล้ำของโอเซนโนไม่อาจหยั่งคาด  ทันใดนั้นโอเซนโนกล่าว  “จำเอาไว้ จากวันนี้ไป อย่าสู้กับลินลี่ย์โดยตรง เราจะอดทน!”  บุรุษผมทองตกใจและเขามองดูโอเซนโนอย่างเหลือเชื่อ

โอเซนโนคือยอดฝีมือที่แข็งแกร่งทรงพลังอย่างมากแน่นอน

ในฐานะหนึ่งในเสาหลักของศาสนจักรเจิดจรัส พลังของเขาไม่ต่ำกว่าเฮนด์เซนและบางทีอาจสูงล้ำกว่า ศาสนจักรเจิดจรัสมีเซียนอยู่สองสามคนในแดนอนารยชนเช่นกันไม่จำเป็นที่พวกเขาจะต้องกลัวลินลี่ย์

“ใต้เท้าตุลาการ, ฝ่ายลินลี่ย์รวมกับเขาด้วย มีอสูรเวทระดับเซียนอยู่สองตัว”  บุรุษผมทองพูดอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ

โอเซนโนพูดอย่างใจเย็น “ไม่, เขาไม่ได้มีเซียนแค่เพียงสองสามคน ห้าพี่น้องบาร์เกอร์ ถ้าเราคาดการณ์ได้ถูกก็น่าจะเป็นเชื้อสายของอาร์มันด์  ตอนนี้ทุกคนเป็นนักรบระดับเก้าแล้ว  เมื่อแปลงร่างพวกเขาจะเป็นเซียนระดับต้น มีแต่ยอดฝีมือชั้นเซียนระดับกลางจึงจะเอาชนะพวกเขาได้”

“นักรบอมตะ?” บุรุษผมทองมีท่าทางตกใจ

โอเซนโนมองเขา

เมื่อซีซาร์ช่วยบาร์เกอร์และน้องๆ พวกเขาได้ขู่สเตลห์ไว้,จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์สงสัยว่าพี่น้องบาร์เกอร์คือคนของตระกูลอาร์มันด์  ที่สำคัญคือซีซาร์ลงมืออย่างแข็งขันจริงจัง...ไม่มีคำอธิบายเป็นอย่างอื่น

“พวกเขาไม่ได้อ่อนแอกว่าเรา”  โอเซนโนก้มหน้าอ่านหนังสืออีกครั้ง  เขาพูดย้ำอย่างใจเย็น  “จำไว้ อดทน”

“อย่างนั้นถ้าลินลี่ย์ตั้งอาณาจักรปกครองอิสระและเริ่มรุกรานดินแดนของเรา?” บุรุษผมทองถาม แม้ว่าเขาจะเป็นผู้สั่งการระดับสูงของกองกำลังศาสนจักรเจิดจรัสในแดนอนารยชน  แต่ตอนนี้โอเซนโนอยู่ที่นี่  โอเซนโนย่อมมีอำนาจเหนือกว่าเป็นธรรมดา

โอเซนโนพูดอย่างใจเย็น “ถ้าพวกเขารุกรานดินแดนของเรา เราจะถอยและปล่อยให้เขายึดไป”

“หือ...” บุรุษผมทองจ้องมองโอเซนโนอย่างตกใจ

โอเซนโนพูดอย่างใจเย็น “พวกเขายั่วยุเรา  เราจะทน  ถ้าพวกเขาโจมตีดินแดนของเรา  เราจะถอย! ปล่อยให้ลินลี่ย์คิดว่าเรากลัวพวกเขาและว่าพลังของเราน้อยกว่าพวกเขา...อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจเรื่องนี้ไว้ด้ว้ย เมื่อเขายึดดินแดนของเรา เขาจะต้องจัดระเบียบและใช้ทหารของเมืองเป็นธรรมดา”

“อา!”  ตาของบุรุษผมทองเป็นประกาย  เขาเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ของโอเซนโน

“ใต้เท้าตุลาการช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก”  บุรุษผมทองพูดอย่างตื่นเต้น

โอเซนโนหัวเราะอย่างใจเย็น “นี่คือวิธีการที่สงครามเป็นไปอยู่เสมอ ทรัพยากรมนุษย์คือสิ่งที่สำคัญสูงสุด!  ในแง่ของความจงรักภักดีจะมีอะไรที่ทรงพลังมากกว่าความศรัทธา? ลินลี่ย์.. ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่าพลังของความศรัทธาน่ากลัวเพียงไหน”

บุรุษผมทองลอบสะท้านใจ

โอเซนโนน่ากลัวเกินไปจริงๆ

พวกเขามีพลังยิ่งใหญ่และมียอดฝีมือหลายคน  แต่พวกเขายังใช้วิธีการที่น่ากลัวแบบนั้น  บุรุษผมทองสามารถมองเห็นภาพทั้งหมด...กองทัพที่อวดดีจองหองของลินลี่ย์คงจะต้องพ่ายแพ้กลับไปยังจุดเริ่มต้น

“ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว” โอเซนโนก้มหน้าอ่านหนังสือขณะเขาพูดอย่างใจเย็น

“ขอรับ, ใต้เท้าตุลาการ”

บุรุษผมทองเดินออกมาจากห้องด้วยความเคารพปล่อยให้โอเซนโนอยู่คนเดียวในห้องหนังสือที่มีแสงสลัว  เขายังคงอ่านหนังอย่างเงียบงัน ข้างๆตัวเขานั้นมีม้วนเอกสารซึ่งมีหนังสือเขียนไว้ด้านบน ‘ลินลี่ย์ บาลุค’

…..

ในพื้นที่ตอนเหนือของดินแดนอนารยชนในอึดใจเดียวพวกเขาก็ยึดหัวเมืองใหญ่หนึ่งเมืองและเมืองน้อยอีกเก้าเมือง,ก่อตั้งเขตแคว้นปกครองมีพลเมืองในบังคับเก้าล้านคน  แต่แม้ว่าพวกเขาตีเมืองโมแอ็ตได้  แต่ศูนย์กลางการปกครองฝ่ายลินลี่ย์ยังคงอยู่ในเมืองแบล็คเดิร์ท

เมืองแบล็คเดิร์ทในปัจจุบันนี้พัฒนาไปมาก

นโยบายยกเว้นภาษี ทำให้หลายคนต้องการอพยพเข้าเมืองแบล็คเดิร์ทและทำให้เมืองแบล็คเดิร์ทล้นทะลักจากตามชายตะเข็บ นี่เป็นผลให้ฝ่ายบริหารในเมืองแบล็คเดิร์ทเพิ่มนโยบายมีข้อกำหนดการอพยพเข้าเมือง  แต่เมืองแบล็คเดิร์ทที่เป็นศูนย์กลางการปกครองพื้นที่นี้ยังคงดึงดูดผู้อพยพมาเป็นจำนวนมาก

“พี่ใหญ่, เมืองแบล็คเดิร์ทเปลี่ยนแปลงไปมากเลย” บีบียืนอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์ขณะที่ลินลี่ย์เดินไปตามถนนหลัก

ลินลี่ย์ยังคงมองดูโรงแรมรอบๆ ร้านเสื้อผ้าและร้านอาวุธตั้งอยู่สองฝั่งข้างถนน เมื่อลินลี่ย์มาถึงเมืองแบล็คเดิร์ทครั้งแรก  พลเมืองท้องถิ่นแต่งตัวด้วยผ้าขาดรุ่งริ่งส่วนใหญ่ตัวเหลืองเหมือนเป็นโรคขาดอาหาร แต่ในช่วงไม่กี่เดือนนี้ เมืองแบล็คเดิร์ทเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ร้านเก่าโกโรโกโสได้รับการปรับปรุงหมด

ถนนได้รับการซ่อมแซมเช่นกัน และมีต้นไม้สองข้างฝั่งถนน  ในบางโรงแรมลินลี่ย์เห็นประชาชนทั่วไปกำลังดื่มเหล้าสนทนากันตามปกติ  เกือบทุกคนคุยเรื่องห้าเทพสงครามของพวกเขา

ภายใต้การนำของห้าเทพสงครามผู้ไร้เทียมทานนี้  ชีวิตของพวกเขามีความมั่นคงยิ่งขึ้น และการงดเว้นภาษีทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นกว่าเดิมมากมายหลายระดับ

“ถ้าห้าเทพสงครามพ่ายแพ้เล่า....”  ขณะนั้นคนผู้หนึ่งในโรงแรมพูดขึ้น...

“แม่มันเอ๊ย...เจ้าผายลมอะไรอีกเล่า?”

“เทพสงครามเหล่านั้นไร้เทียมทาน  พวกเขาจะพ่ายแพ้ได้ยังไง?  เด็กน้อย เจ้าระวังปากเจ้าไว้ดีกว่า”

หลายคนเริ่มก่นด่าเขาอย่างโกรธเคือง  ประชาชนเหล่านี้ลึกๆแล้วพอใจกับความสงบสุขในปัจจุบันของพวกเขา เป็นธรรมดาที่พวกเขาไม่ต้องการให้ชีวิตของพวกเขาต้องระหกระเหิน

“ในจักรวรรดิโอเบรียนและสหภาพศักดิ์สิทธิ์ชีวิตที่สงบสุขหาได้ง่ายมาก แต่ในดินแดนอนารยชน ชีวิตแบบนั้นมีคุณค่ามาก”  ลินลี่ย์ตื่นเต้นมากทันที  “นี่คือสาเหตุให้เกิดความวุ่นวาย”

“ถ้าสักวันหนึ่งแดนอนารยชนสามารถเป็นอันหนึ่งเดียวกันได้ ความวุ่นวายก็จะสิ้นสุดลง...”

เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของประชาชนทั่วไปแล้ว ทันใดนั้นลินลี่ย์ตระหนักได้ว่าหัวใจของเขามีความสุข  มีความรู้สึกพอใจ

“รวบรวมแผ่นดิน?” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและหัวเราะ

เขาไม่ตั้งใจจะทำแบบนี้ สามารถทำให้คนที่เขารักมีความสุขและทำให้ตนเองก้าวหน้าในการฝึกฝนนี่ก็ทำให้เขาพอใจมากอยู่แล้ว

“จะดีที่สุดคือปล่อยให้ซาสเลอร์และบาร์เกอร์รับมือกับเรื่องสงครามต่อไป”  ร่างของลินลี่ย์หายวับไปกับสายลม

ภายในจวนเจ้าเมืองในเมืองแบล็คเดิร์ท  เจนน์ รีเบ็คกา  ลีนาและคนอื่นๆกำลังทานมื้อกลางวันในห้องโถง ทันใดนั้นลินลี่ย์มาปรากฏต่อหน้าประตู..

“ใต้เท้า” บาร์เกอร์ลุกขึ้นยืนทันที และคนอื่นๆ ก็ทำเช่นกัน ลินลี่ย์รีบกล่าว “นั่งเถอะ ทุกคนข้าแค่มาเยี่ยมพวกเจ้าและคุยด้วยสองสามคำ” ลินลี่ย์ยิ้มขณะที่เขาเดินเข้ามาที่เก้าอี้และนั่งลง

ซาสเลอร์พูดทันที “ลินลี่ย์, เราตั้งใจจะไปหาเจ้าและหารือพูดคุยความก้าวหน้ากับเจ้า  ตอนนี้เจ้าก็มาแล้ว,  เจนน์.. เจ้ารายงานให้ลินลี่ย์ทราบ ”ตอนนี้เจนน์เป็นระดับผู้บริหารชั้นสูงของพวกเขา

เพียงแค่เจนน์กำลังจะอ้าปากพูด  ลินลี่ย์หัวเราะและยื่นมือห้ามนาง  “เจนน์ นั่งก่อน ไม่ต้องรีบ”

เจนน์พยักหน้าและนั่งลง

“ตราบเท่าที่สงครามยังเป็นเรื่องที่น่ากังวล  เจ้าต้องทำใจตัวเองให้ดีก่อน  ตอนนี้ ข้ากำลังคิดว่า.. ยังมีช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่เราจะเริ่มสู้กับศาสนจักรเจิดจรัส ข้าต้องการถือโอกาสในช่วงนี้เดินทางลงใต้เพื่อซ้อมมือกับเซียนสักสองสามคน”

ลินลี่ย์ยังจำคำเชิญจากมิลเลอร์ได้

ซ้อมมือกับยอดฝีมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยอดฝีมือที่เรียนกฎธรรมชาติอย่างเดียวกัน  จะช่วยให้เขารู้แจ้งได้มาก  นอกจากนี้กองทัพของเขาจะต้องสู้กับศาสนจักรเจิดจรัสในอีกไม่ช้า  เมื่อเวลาสู้รบเริ่มขึ้น  เขาคงไม่กล้าจากไปจริงๆ

เขาต้องฉวยเวลาที่เขามีอยู่

“ใต้เท้าไม่ต้องกังวล” บาร์เกอร์หัวเราะ “อย่างไรก็ตามอีกราวเจ็ดแปดวัน เราจึงจะเริ่มโจมตีแคว้นที่อยู่ในบังคับของศาสนจักรเจิดจรัส เพราะเรื่องที่เราได้คุยกับท่านเมื่อล่าสุด  ใต้เท้า, ถ้าศาสนจักรเจิดจรัสสู้เราตรงๆ  เราไม่กลัวพวกเขา  และหนึ่งเดือนจากนี้เราจะก่อตั้งอาณาจักรปกครองบาลุค ถ้าพวกเขากลัวเรา เราสามารถทำเป็นเหมือนว่าจะบุกโจมตีพวกเขา และใช้ชื่ออื่นแทน”

ลินลี่ย์พยักหน้า

“งั้นก็ดีแล้ว แฮรุจะอยู่กับพวกท่าน  ในกรณีมีเรื่องฉุกเฉิน  บีบีกับข้าจะออกหน้าเอง  ลินลี่ย์ยืนขึ้นทันที

“พี่ลินลี่ย์, ท่านไม่ร่วมทานอาหารกับเราหรือ?”  เจนน์พูดทันที

ลินลี่ย์หัวเราะให้เจนน์ จากนั้นส่ายหัว  “ไม่” ร่างของลินลี่ย์กระพริบและหายไปจากห้องนั่งเล่น  เจนน์รู้สึกผิดหวัง ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ

……….

ในตอนใต้ของดินแดนอนารยชน ภายในหมู่บ้านน้อยที่ลึกลับและเงียบสงบ

ตั้งแต่ข่าวว่าเรย์โนลด์เลือกจะอยู่ที่นี่ในหมู่บ้านนี้แพร่กระจายออกไป  เรย์โนลด์ก็ถูกขัดขวางไม่ให้เข้าหมู่บ้าน!  เหตุผล?  โมนิกา!  โมนิกาคือคนที่งดงามที่สุดเป็นหญิงสาวที่สวยเด่นสะดุดตาที่สุดในหมู่บ้านนี้ มีคนติดพันนางอยู่มากมาย

เดิมทีบุรุษหนุ่มหลายคนคิดว่าเรย์โนลด์จะออกไปอย่างแน่นอน  ดังนั้นจึงไม่มีการคุกคามอะไร

แต่ในที่สุดแล้ว เรย์โนลด์ก็ยังอยุ่

ภายในโรงแรมหมู่บ้านภูเขา เรย์โนลด์กำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นั่น

“เฮ้ เจ้าเด็กน้อย, หลีกไปซะ” เด็กหนุ่มสามคนเดินเข้ามาหาและตบโต๊ะเขาอย่างแรงขณะที่พวกเขาตะคอกใส่เรย์โนลด์

เรย์โนลด์เงยหน้ามองดูพวกเขา

“อะไร, เจ้ามีปัญหาหรือไง?” ร่างของเด็กหนุ่มทั้งสามคนเริ่มเลือนรางขณะเร่งเร้าปราณยุทธ จอมเวทระดับเจ็ดคนหนึ่งไม่ถือว่ามีอะไรมากนักในหมู่บ้านภูเขาลึกลับนี้ มีเด็กหนุ่มที่ถึงระดับเจ็ดเป็นสิบๆคน และมีสองสามคนที่ถึงระดับแปด เด็กหนุ่มต่อหน้าเขาทั้งสามคนเล่า? คนหนึ่งเป็นนักรบระดับเจ็ด คนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นนักสู้ระดับแปด

ไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้ ถ้าพวกเขาจะลงมือกับเขา

เรย์โนลด์สูดหายใจลึกสงบสติอารมณ์และหลบออกไปด้านข้าง  ไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้ เขาไม่มีคนให้พึ่งพาอาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้  แต่ลุง ป้า ปู่ย่าตายายหลายๆคนไม่เว้นกระทั่งเด็กหนุ่มพวกนี้ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งนั้น  เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะสู้กับพวกเขา?  และเด็กหนุ่มหลายคนที่นี่เติบโตมาด้วยกัน  ถ้าพวกเขารวมกลุ่มกัน เขาจะสู้ได้ยังไง?

“พวกเจ้าจะทำอะไร?”

โมนิกาและสาวใช้ของนางเดินเข้ามาและแสดงความไม่พอใจต่อพวกเขา

“องค์หญิงโมนิกา” คนทั้งสามคนคำนับทันที  ภายในหมู่บ้านภูเขา  สถานะของบิดาของโมนิกาสูงส่งนัก  ตามตำนาน..หมู่บ้านภูเขาลึกลับนี้มีอยู่มานานเกินพันปีแล้ว และในเวลานั้น, บิดาของโมนิกายังดูดีจนถึงเดี๋ยวนี้

โมนิกาจ้องมองพวกเขาแต่ละคนอย่างไม่พอใจ  จากนั้นคว้ามือเรย์โนลด์  “พี่เรย์โนลด์ ไปกันเถอะ”

เรย์โนลด์ยืนขึ้น สูดหายใจลึก เขาออกไปพร้อมกับโมนิกา

“ทั้งหมดที่เขาทำได้คือหลบอยู่หลังอิสตรีเจ้าคนไร้ประโยชน์” ทั้งสามคนสบถใส่เขาเบาๆ เรย์โนลด์เดินออกไปกับโมนิกาได้ยินเสียงพวกเขาเป็นธรรมดา ร่างของเขาสั่นเล็กน้อย  และจากนั้นเขาตามโมนิกาออกไป

ในหมู่บ้านภูเขาลึกลับนี้ เขาไม่มีคนให้พึ่งพาอาศัย  ทั้งหมดที่เขาทำได้คืออดทน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด