ตอนที่ 9-16 ของขวัญร่วมยินดี
พระราชวังหลวงตกอยู่ภายใต้การคุ้มกันอย่างแน่นหนาอัศวินผู้กล้าพบเห็นได้ทุกที่พอๆกับนางกำนัลผู้งดงามในวัง จักรพรรดิโจฮันน์และลินลี่ย์เดินเคียงคู่กันโดยมีวอร์ตันเดินตามหลังพวกเขา ด้านหลังคนทั้งสามนี้มีทหารมหาดเล็กจำนวนหนึ่งและนางกำนัลประจำวังเดินตาม ทหารทุกคนที่พบพวกเขาคำนับพวกเขาอย่างสุภาพเมื่อได้เห็นจักรพรรดิโจฮันน์
“นี่คืออาจารย์ลินลี่ย์” นักรบหลายคนเมื่อเห็นลินลี่ย์เดินเคียงคู่จักรพรรดิโจฮันน์ก็เริ่มพึมพำเบาๆ กันเอง
สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพและชื่นชมลินลี่ย์ พวกเขายังอายุน้อยทุกคนและหลายคนยังไม่แก่กว่าลินลี่ย์ คนหนุ่มหลายคนในจักรวรรดิตั้งลินลี่ย์เป็นเป้าหมายที่พวกเขาจะต้องไปให้ถึง
“จักรวรรดิโอเบรียนขึ้นชื่อว่าทรงอำนาจทางทหารมากที่สุดในบรรดาหกมหาอำนาจ นักรบทั้งหมดนี้ในวังหลวงล้วนแข็งแกร่งมากทั้งนั้น” ตามรายทางลินลี่ย์สังเกตว่าที่นี่ไม่มีนักรบแม้แต่คนเดียวที่มีระดับต่ำกว่าหก
ส่วนใหญ่จะระดับหกและหลายคนที่มีระดับเจ็ด แม้ระดับแปดก็มีสองสามคนก็ยังพอเห็นได้อยู่
แม้แต่องครักษ์เดินยามธรรมดาก็แข็งแกร่งมาก ใครจะสามารถคิดได้ว่าทั้งอาณาจักรนั้นจะทรงพลังมากมายเพียงไหน
“ลินลี่ย์, ดูสิสายตาขององครักษ์จะเป็นประกายเมื่อพวกเขาเห็นเจ้า ข้าเกรงว่าในใจของพวกเขา ความเคารพที่พวกเขารู้สึกต่อเจ้าจะยิ่งใหญ่กว่าเราเสียอีก” จักรพรรดิโจฮันน์ตรัสพลางทรงพระสรวลพลาง
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
ตั้งแต่การประลองที่สนามประลองครั้งนั้นชื่อเสียงของลินลี่ย์แพร่กระจายไปทั่วจักรวรรดิโอเบรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะอายุของเขา เขาจึงกลายเป็นตำนานไปแล้ว
ลินลี่ย์อยู่ในวัยยี่สิบและไม่ใช่แค่เป็นประติมากรอัจฉริยะเท่านั้น แต่ยังคงเป็นจอมเวทอัจฉริยะและเป็นนักรบระดับเซียน ในหัวใจหลายคน แม้ว่าพวกเขาไม่มีมีพรสวรรค์เท่ากับลินลี่ย์ ตราบใดที่พวกเขาฝึกฝนอย่างหนัก พวกเขาอาจบรรลุถึงความสำเร็จอย่างลินลี่ย์ได้สักหนึ่งในสิบก็ยังดี นั่นก็ทำให้พวกเขามีความสุขแล้ว
ความจริงเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้เยาว์มากมายในจักรวรรดิขะมักเขม้นฝึกฝนกันมากยิ่งขึ้น
จักรวรรดิโอเบรียนยืนหยัดมายาวนานเมื่อใดก็ตามที่มีอัจฉริยะปรากฏตัวขึ้น จักรวรรดิจะแพร่กระจายข่าวไปอย่างเป็นทางการร่วมกับข่าวลือในหมู่ชาวบ้านธรรมดา ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพลเมืองของจักรวรรดิจึงมีอย่างกว้างขวาง
….
ในอุทยานของวังหลวงมีงานจัดเลี้ยง โต๊ะเต็มไปด้วยอาหารและผู้ที่นั่งอยู่มีเพียงจักรพรรดิโจฮันน์ลินลี่ย์และวอร์ตัน
พนักงานประจำวังลำเลียงอาหารเลิศรสจานแล้วจานเล่ามาวางบนโต๊ะ ขณะที่องครักษ์รายล้อมพวกเขามองพวกเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“พวกเจ้าทุกคนออกไปกันได้แล้ว” จักรพรรดิโจฮันน์โบกพระหัตถ์
“พระเจ้าค่ะ..ฝ่าบาท”
พนักงานชายหญิงและองครักษ์แยกย้ายไปหมด ในไม่ช้าก็มีแต่เพียงโจฮันน์ลินลี่ย์และวอร์ตันเท่านั้น
จักรพรรดิโจฮันน์มองดูวอร์ตัน ความจริงขณะที่เดินไปทั่ววังใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
ทำไมเทพสงครามถึงต้องการช่วยวอร์ตัน?
ในจักรวรรดิเทพสงครามมีอำนาจสูงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย วอร์ตันไม่มีทางเทียบเขาได้เทพสงครามและวอร์ตันก็มีแนวโน้มว่าจะไม่มีความสัมพันธ์กันมาก
“เป็นไปได้ไหมว่าบรรพบุรุษที่เคารพของเราเทพสงครามมีความเกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษของตระกูลนักรบเลือดมังกร?ไม่น่าจะเป็นอย่างอื่นไปได้ ห้าพันปีที่แล้ว เมื่อจักรวรรดิก่อตั้ง บาลุคนักรบเลือดมังกรก็มีชื่อเสียงมากแล้วเป็นความจริง แต่พวกเขาไม่มีอะไรมากไปกว่านักสู้ระดับเซียนชั้นสูง ยังมีความห่างชั้นระหว่างพวกเขากับเทพสงครามช่วงใหญ่ และทั้งสองมีความเกี่ยวพันแบบไหนกันแน่?”
จักรพรรดิโจฮันน์ไม่เชื่อเรื่องนั้น
เทพสงครามคือผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกับนักพรตสูงสุด จะมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับบาลุคมากขนาดไหน? ต่อให้มีแล้วเป็นไปได้ไหมที่ลึกซึ้งเพียงพอจนถึงกับต้องช่วยลูกหลานของบาลุคในห้าพันปีต่อมา?
“วอร์ตัน!” จักรพรรดิโจฮันน์ไม่คิดอะไรมากต่อไป เขายิ้มและตรัส“ต่อไปเจ้ากับนีน่าก็จะต้องอยู่ด้วยกันแล้ว เจ้าต้องดูแลนีน่าให้ดี เด็กคนนี้เป็นองค์หญิงเจ้าอารมณ์ เราหวังว่าเจ้าจะปฏิบัติกับนางเป็นอย่างดี”
วอร์ตันยืดอกรีบทูลทันที“ฝ่าบาท, มิต้องทรงกังวล”
แต่ลินลี่ย์จ้องมองจักรพรรดิโจฮันน์
“สองสามวันก่อน เคย์ลันบอกว่าจักรพรรดิโจฮันน์จะเลือกบลูเมอร์ แต่ตอนนี้...” ลินลี่ย์ยังงงกับเรื่องนี้
ลินลี่ย์ถามตามตรง “ฝ่าบาท, ข้าพระองค์ขอทูลถาม, ทำไมพระองค์ถึงเลือกวอร์ตันน้องชายข้าพระองค์?”
จักรพรรดิโจฮันน์สะดุ้งเล็กน้อย
“ฮะฮะ..” จักรพรรดิโจฮันน์ทรงพระสรวลเสียงดัง “ลินลี่ย์, เราพูดเรื่องนี้ไปที่ตำหนักแล้วมิใช่หรือ? เราไตร่ตรองหลายอย่างจากจุดยืนของนีน่าด้วย ที่สำคัญคือ นีน่าชอบพอกับวอร์ตัน เรายินดีอย่างลึกซึ้งที่เราสามารถนำความสุขมาให้นีน่าได้”
ลินลี่ย์ลอบหัวเราะ
ถ้าจักรพรรดิโจฮันน์พิจารณาหลายอย่างจากจุดยืนของนีน่าจริงๆ อย่างนั้นเมื่อวอร์ตันทูลขอแต่งงานนางเขาคงไม่ทอดเวลายาวนานจนมีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามมาเป็นพรวนกว่าจะยอมรับได้
จักรพรรดิโจฮันน์เห็นสีหน้าท่าทางของลินลี่ย์ “อะไรกัน? เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ, ลินลี่ย์?”
“ข้าพระองค์ไม่ปักใจเชื่อเต็มที่นัก” ลินลี่ย์โพล่งออกมา
จักรพรรดิโจฮันน์สะดุ้งใครจะกล้าพูดเช่นนั้นต่อหน้าพระองค์? แต่คนที่พูดคำเหล่านี้ก็คือลินลี่ย์ ยอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูง จักรพรรดิโจฮันน์หัวเราะเบาๆ แก้เก้อ “ความจริงเรายอมรับว่าแต่เดิมเราก็พิจารณาบลูเมอร์”
นั่นมีแนวโน้มอย่างนั้น
แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ลินลี่ย์ได้พบกับเคย์ลัน แต่เขารู้สึกว่าเคย์ลันเป็นคนที่เชื่อถือได้
“ลินลี่ย์, เจ้าควรจะรู้ว่าในความเป็นจริงเป็นยอดฝีมือระดับเซียนจะกำหนดความรุ่งเรืองและล่มสลายของจักรวรรดิได้” จักรพรรดิโจฮันน์ถอนหายใจ “ยอดฝีมือระดับเซียนสามารถฆ่าแม่ทัพทหารฝ่ายศัตรูได้อย่างง่ายดายแม้จะมีทหารเป็นล้านล้อมรอบ ส่วนจอมเวทระดับเซียนมีคาถาทำลายล้างต้องห้ามและทำลายกองทัพที่มีคนเป็นล้านได้ อาจกล่าวได้ว่าในสายตาของคนธรรมดาระดับเซียนก็คือยอดฝีมือไร้เทียมทาน”
ลินลี่ย์พยักหน้า เมื่อเขายังอายุน้อย ระดับเซียนเป็นนักสู้ที่สูงสุดแน่นอนในชีวิตที่เจอมา
“แม้ว่าเราจะเป็นจักรพรรดิ เราก็ไม่กล้าออกคำสั่งเซียน ถ้าเรารุกรานพวกเขา พวกเขาอาจไปจากจักรวรรดิได้ เราเชื่อว่ามีหลายสถานที่รอต้อนรับการมาถึงของยอดฝีมือระดับเซียน”จักรพรรดิโจฮันน์ฝืนหัวเราะ
ลินลี่ย์เข้าใจตรงนี้
ถ้ายอดฝีมือระดับเซียนจะหนีไปเนื่องจากความสามารถในการบินของพวกเขา นั่นเป็นเรื่องง่ายมาก
“บลูเมอร์และวอร์ตันทั้งสองคนมีแนวโน้มว่าจะบรรลุถึงระดับเซียนในอนาคต แต่ปัญหาที่สำคัญก็คือ บลูเมอร์เป็นคนของวิทยาลัยเทพสงคราม ยอดฝีมือทั้งหมดของจักรวรรดิรวมกลุ่มอยู่ที่วิทยาลัยเทพสงคราม เราไม่ต้องการขัดใจกับวิทยาลัยเทพสงคราม ที่สำคัญมีกลุ่มยอดฝีมือระดับเซียนอยู่ที่นั่นไม่ใช่แค่คนหรือสองคน!”
กลุ่มยอดฝีมือระดับเซียนแค่ได้ยินคำพูดนี้ก็เพียงพอทำให้ผู้คนสั่นสะท้านได้
“ศิษย์สำนักเดียวกับบลูเมอร์เข้ามาพูดมาคุยให้บลูเมอร์ เราไม่มีทางเลือกเลย” จักรพรรดิโจฮันน์ส่ายพระพักตร์ถอนหายใจ
“อย่างนั้นทำไมพระองค์ถึงเลือกน้องชายข้าพระองค์ในที่สุดเล่า?” ลินลี่ย์ถาม
เขาสงสัยเรื่องนี้มาตลอดเวลา เหตุผลใดกันแน่?
จักรพรรดิโจฮันน์จ้องมองลินลี่ย์กับวอร์ตันอย่างงงงัน “ลินลี่ย์,ตระกูลบาลุคเจ้ามีสัมพันธ์ใดในทางประวัติศาสตร์กับเทพสงครามหรือไม่?”
“เทพสงคราม?”
ลินลี่ย์เข้าใจทันทีเขาตกใจทูล “ฝ่าบาท, พระองค์ตรัสว่าเป็นเทพสงครามทำให้พระองค์เลือกวอร์ตันหรือพระเจ้าค่ะ?”
“ถูกแล้ว” จักรพรรดิโจฮันน์ตรัส “ลินลี่ย์คิดดูให้ดี ในจักรวรรดิ ใครจะมีน้ำหนักมากกว่าสมาชิกของวิทยาลัยเทพสงคราม? มีแต่เทพสงครามผู้ทรงอำนาจที่สุดในแผ่นดิน”
“บรรพบุรุษที่เคารพของเรา เทพสงครามบอกกับเราทางใจตรงๆและสั่งให้เราเลือกวอร์ตัน” แววตื่นเต้นยังอยู่ในดวงตาของจักรพรรดิโจฮันน์ “นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ยินเสียงเทพสงครามบรรพบุรุษของเรา”
เทพสงคราม!
เป็นเทพสงครามจริงๆ!
เทพสงครามคือบุคคลที่เหลือเชื่อ ห้าพันปีที่แล้ว เขาสู้รบกับนักพรตสูงสุดเหนือแม่น้ำยูลานที่หยุดนิ่งพิสูจน์ว่าเขาเป็นนักสู้ระดับเทพแน่นอน
หลังจากห้าพันปี แม้ว่าไม่มีใครเคยเห็นเทพสงครามสู้อีกเลย แต่ทุกคนเข้าใจว่าเนื่องจากพรสวรรค์ธรรมชาติของเทพสงคราม เขาก็ยังมีพลังที่น่ากลัวมากขึ้นในตอนนี้
เทพสงครามฝึกได้รวดเร็วเหลือเชื่อจากบุคคลธรรมดา ไปเป็นระดับเทพในช่วงเพียงไม่กี่ร้อยปี
เขายกระดับฉับพลันเมื่อห้าพันปีก่อนทำให้ชื่อเสียงและเกียรติยศของเขาครอบคลุมสี่สุดยอดนักรบกลายเป็นดาวจรัสฟ้าแห่งยุคนั้น
“เทพสงครามช่วยน้องชายของข้า?” ลินลี่ย์ไม่อาจเข้าใจได้
“อาจเป็นไปได้ว่าเขารู้ว่าด้านเรามียอดฝีมือระดับเซียนถึง6?” ลินลี่ย์เริ่มสงสัย เนื่องจากพลังของเทพสงครามเขาย่อมรู้สึกได้ถึงพลังของกองกำลังของลินลี่ย์ได้
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ
เป็นไปไม่ได้ สำหรับเทพแล้ว พวกเซียนไม่มีอะไรเลยมีแนวโน้มว่าเทพสงครามสามารถฆ่าพวกเขาทั้งหกด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“อย่างนั้นยังจะมีเหตุผลใดกันแน่? เป็นไปได้จริงๆหรือว่าเพราะเขามีสัมพันธ์บางอย่างกับบรรพบุรุษตระกูลบาลุค?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจจริงๆว่าเบื้องหลังการกระทำของเทพสงครามมีเหตุผลใดกันแน่
…..
ด้านตะวันตกของเมืองหลวง ภูเขาเทพสงคราม นอกจากยอดเขาหลักแล้ว ยังมียอดเขาอื่นอีกสี่ยอดมีถ้ำธรรมชาติเชื่อมยอดเขาสองยอดเข้าด้วยกัน
แลงค์และคาสโตรกำลังเดินเคียงไหล่ไปตามถ้ำ
หลังจากเดินเข้าไปหลายร้อยเมตรผ่านอุโมงค์ถ้ำที่คดเคี้ยวอุโมงค์พลันชันลงอย่างรวดเร็ว ถ้ามีคนจ้องมองหลุมมืดลึกอย่างน่าทึ่งจะมองไม่เห็นสิ่งใดสักอย่างไม่มีผู้ใดสามารถบอกได้ว่าอุโมงค์ลึกเพียงใด
“วูบบบ”
แลงค์และคาสโตรกระโดดลงไปในหลุมลึก พวกเขาร่วงลงไปด้วยความเร็วค่อนข้างช้า หลังจากร่วงลงมาหลายพันเมตรทั้งสองคนก็ลงสัมผัสที่พื้นอย่างนุ่มนวลเหมือนใบไม้ร่วง จากทางเข้าอุโมงค์ถึงหลุมนี้เพียงพันเมตรแต่หลุมนี้ยังลงไปใต้ดินอีกหลายพันเมตร
“อาจารย์มักใช้เวลาปิดประตูฝึกฝนตามปกติ และเมื่อใดก็ตามที่ท่านทำเช่นนั้น ปกติท่านจะใช้เวลาหลายปี หลายสิบปีหรืออาจเป็นการฝึกระยะยาว เมื่อท่านมาช่วยฝึกฝนให้ ท่านไม่เคยพูดทางจิตกับเรา แต่ครั้งนี้ที่ตำหนักผู้กล้าท่านส่งพลังทางจิตและบอกเราให้บอกโจฮันน์เลือกวอร์ตัน จากนั้นก็บอกให้เรากลับมาที่นี่” แลงค์รู้สึกประหลาดใจ
นี่นับว่าตรงกันข้ามกับนิสัยของเทพสงครามมาก
มีน้อยเรื่องในโลกซึ่งนักพรตอย่างเทพสงครามจะออกคำสั่งเอง
“ศิษย์น้อง ไม่ต้องคิดมากเกินไปหรอก อาจารย์มีเหตุผลของการกระทำอย่างนี้แน่นอน ทั้งหมดที่เราต้องทำก็คือ เชื่อฟัง” คาสโตรกล่าว
“ศิษย์พี่พูดถูก” แลงค์พยักหน้า
สำหรับศิษย์ของวิทยาลัยเทพสงครามคำสั่งของเทพสงครามไม่อาจละเลยได้ พวกเขาจะต้องทำทุกอย่างที่เทพสงครามสั่งให้พวกเขาทำ ไม่มีความจำเป็นต้องคิดอะไร
“ครืนนน...”ความร้อนที่แสบผิวรู้สึกได้จากส่วนลึกของในถ้ำ ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไป หินค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเช่นกัน
อุณหภูมิที่นี่สูงมาก
หลังจากเข้าไปมากกว่าร้อยเมตรแล้วแลงค์และคาสโตรก็มาหยุดอยู่หน้าประตูหินสีดำสนิท ผนังหินล้อมประตูนี้มีสีแดงจัดและอุณหภูมิสูงจัด แม้แต่แลงค์กับคาสโตรยังต้องใช้ปราณยุทธที่เท้าเพื่อป้องกันตนเอง
ถ้ากระดาษชิ้นหนึ่งถูกโยนออกไปเป็นไปได้ว่าจะถูกผลาญจนไม่เหลืออะไรทันที
“เจ้ามากันแล้ว” เสียงสงบเย็นดังขึ้นจากหลังประตู
เสียงของเทพสงครามนุ่มนวล แต่มีพลังทะลุทะลวง เสียงเป็นเหมือนกับเข็มชอนไชเข้าไปในวิญญาณของคน คาสโตรและแลงค์ศิษย์ทั้งสองคนของเขาแม้จะสงสัยว่าเทพสงครามอาจทำให้วิญญาณของพวกเขาหลุดลอยได้โดยใช้แค่เพียงเสียงอย่างเดียว
นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่คาสโตรและศิษย์คนอื่นของเทพสงครามกลัวอาจารย์ของพวกเขามาก เทพสงครามทรงพลานุภาพมากจริงๆ
“ขอรับอาจารย์” คาสโตรและแลงค์พูดด้วยความเคารพ คาสโตรพูดต่อ “อาจารย์, ท่านมีอะไรจะแนะนำพวกเราบ้าง?”
เสียงของเทพสงครามดังขึ้นอีกครั้ง “วันที่ 12เมษายนจะเป็นวันพิธีหมั้นหมายของเจ้าหนูวอร์ตัน ไปบอกศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าให้เตรียมแหวนมิติเก็บสมบัติวงหนึ่งในวันพิธีหมั้นของเจ้าเด็กวอร์ตัน ให้มอบแหวนนี้เป็นของขวัญวันหมั้นของเขา”
คาสโตรและแลงค์ตะลึงไปหมด
เทพสงครามจะประทานของขวัญวันหมั้น?
เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้เมื่อพวกเขาที่เป็นศิษย์ส่วนตัวแต่งงานเทพสงครามไม่ได้ใส่ใจ ที่สำคัญคือคนระดับเทพสงครามต้องส่งของขวัญร่วมยินดีให้ผู้อื่นด้วยหรือ? แม้ว่าเขาต้องการจะทำเช่นนั้นแต่ว่าใครจะคู่ควรแก่การรับของขวัญจากเขา?
แต่ตอนนี้เทพสงครามสั่งพวกเขาให้ส่งของขวัญแสดงความยินดีไปร่วมฉลองงานหมั้นหมายของวอร์ตัน?
“ตอนนี้ พวกเจ้าไปได้แล้ว” เสียงสงบของเทพสงครามดังก้องในอุโมงค์อีกครั้ง
คาสโตรและแลงค์จ้องดูประตูหินดำสนิทจากนั้นมองหน้ากันเอง แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจแม้แต่น้อย แต่พวกเขามิกล้าขัดคำสั่งของเทพสงคราม
“ขอรับ, อาจารย์” แลงค์และคาสโตรตอบ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเคารพไม่มีใครเหมือน