ตอนที่แล้วตอนที่ 9-15 ประกาศผลเขยขวัญ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9-17 ก้าวขึ้นเวที

ตอนที่ 9-16 ของขวัญร่วมยินดี


พระราชวังหลวงตกอยู่ภายใต้การคุ้มกันอย่างแน่นหนาอัศวินผู้กล้าพบเห็นได้ทุกที่พอๆกับนางกำนัลผู้งดงามในวัง  จักรพรรดิโจฮันน์และลินลี่ย์เดินเคียงคู่กันโดยมีวอร์ตันเดินตามหลังพวกเขา ด้านหลังคนทั้งสามนี้มีทหารมหาดเล็กจำนวนหนึ่งและนางกำนัลประจำวังเดินตาม ทหารทุกคนที่พบพวกเขาคำนับพวกเขาอย่างสุภาพเมื่อได้เห็นจักรพรรดิโจฮันน์

“นี่คืออาจารย์ลินลี่ย์” นักรบหลายคนเมื่อเห็นลินลี่ย์เดินเคียงคู่จักรพรรดิโจฮันน์ก็เริ่มพึมพำเบาๆ กันเอง

สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพและชื่นชมลินลี่ย์ พวกเขายังอายุน้อยทุกคนและหลายคนยังไม่แก่กว่าลินลี่ย์ คนหนุ่มหลายคนในจักรวรรดิตั้งลินลี่ย์เป็นเป้าหมายที่พวกเขาจะต้องไปให้ถึง

“จักรวรรดิโอเบรียนขึ้นชื่อว่าทรงอำนาจทางทหารมากที่สุดในบรรดาหกมหาอำนาจ นักรบทั้งหมดนี้ในวังหลวงล้วนแข็งแกร่งมากทั้งนั้น”  ตามรายทางลินลี่ย์สังเกตว่าที่นี่ไม่มีนักรบแม้แต่คนเดียวที่มีระดับต่ำกว่าหก

ส่วนใหญ่จะระดับหกและหลายคนที่มีระดับเจ็ด  แม้ระดับแปดก็มีสองสามคนก็ยังพอเห็นได้อยู่

แม้แต่องครักษ์เดินยามธรรมดาก็แข็งแกร่งมาก ใครจะสามารถคิดได้ว่าทั้งอาณาจักรนั้นจะทรงพลังมากมายเพียงไหน

“ลินลี่ย์, ดูสิสายตาขององครักษ์จะเป็นประกายเมื่อพวกเขาเห็นเจ้า ข้าเกรงว่าในใจของพวกเขา ความเคารพที่พวกเขารู้สึกต่อเจ้าจะยิ่งใหญ่กว่าเราเสียอีก”  จักรพรรดิโจฮันน์ตรัสพลางทรงพระสรวลพลาง

ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น

ตั้งแต่การประลองที่สนามประลองครั้งนั้นชื่อเสียงของลินลี่ย์แพร่กระจายไปทั่วจักรวรรดิโอเบรียน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะอายุของเขา  เขาจึงกลายเป็นตำนานไปแล้ว

ลินลี่ย์อยู่ในวัยยี่สิบและไม่ใช่แค่เป็นประติมากรอัจฉริยะเท่านั้น แต่ยังคงเป็นจอมเวทอัจฉริยะและเป็นนักรบระดับเซียน  ในหัวใจหลายคน แม้ว่าพวกเขาไม่มีมีพรสวรรค์เท่ากับลินลี่ย์  ตราบใดที่พวกเขาฝึกฝนอย่างหนัก พวกเขาอาจบรรลุถึงความสำเร็จอย่างลินลี่ย์ได้สักหนึ่งในสิบก็ยังดี  นั่นก็ทำให้พวกเขามีความสุขแล้ว

ความจริงเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้เยาว์มากมายในจักรวรรดิขะมักเขม้นฝึกฝนกันมากยิ่งขึ้น

จักรวรรดิโอเบรียนยืนหยัดมายาวนานเมื่อใดก็ตามที่มีอัจฉริยะปรากฏตัวขึ้น จักรวรรดิจะแพร่กระจายข่าวไปอย่างเป็นทางการร่วมกับข่าวลือในหมู่ชาวบ้านธรรมดา  ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพลเมืองของจักรวรรดิจึงมีอย่างกว้างขวาง

….

ในอุทยานของวังหลวงมีงานจัดเลี้ยง โต๊ะเต็มไปด้วยอาหารและผู้ที่นั่งอยู่มีเพียงจักรพรรดิโจฮันน์ลินลี่ย์และวอร์ตัน

พนักงานประจำวังลำเลียงอาหารเลิศรสจานแล้วจานเล่ามาวางบนโต๊ะ ขณะที่องครักษ์รายล้อมพวกเขามองพวกเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“พวกเจ้าทุกคนออกไปกันได้แล้ว”  จักรพรรดิโจฮันน์โบกพระหัตถ์

“พระเจ้าค่ะ..ฝ่าบาท”

พนักงานชายหญิงและองครักษ์แยกย้ายไปหมด  ในไม่ช้าก็มีแต่เพียงโจฮันน์ลินลี่ย์และวอร์ตันเท่านั้น

จักรพรรดิโจฮันน์มองดูวอร์ตัน  ความจริงขณะที่เดินไปทั่ววังใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย

ทำไมเทพสงครามถึงต้องการช่วยวอร์ตัน?

ในจักรวรรดิเทพสงครามมีอำนาจสูงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย วอร์ตันไม่มีทางเทียบเขาได้เทพสงครามและวอร์ตันก็มีแนวโน้มว่าจะไม่มีความสัมพันธ์กันมาก

“เป็นไปได้ไหมว่าบรรพบุรุษที่เคารพของเราเทพสงครามมีความเกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษของตระกูลนักรบเลือดมังกร?ไม่น่าจะเป็นอย่างอื่นไปได้ ห้าพันปีที่แล้ว เมื่อจักรวรรดิก่อตั้ง บาลุคนักรบเลือดมังกรก็มีชื่อเสียงมากแล้วเป็นความจริง  แต่พวกเขาไม่มีอะไรมากไปกว่านักสู้ระดับเซียนชั้นสูง ยังมีความห่างชั้นระหว่างพวกเขากับเทพสงครามช่วงใหญ่  และทั้งสองมีความเกี่ยวพันแบบไหนกันแน่?”

จักรพรรดิโจฮันน์ไม่เชื่อเรื่องนั้น

เทพสงครามคือผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกับนักพรตสูงสุด จะมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับบาลุคมากขนาดไหน?  ต่อให้มีแล้วเป็นไปได้ไหมที่ลึกซึ้งเพียงพอจนถึงกับต้องช่วยลูกหลานของบาลุคในห้าพันปีต่อมา?

“วอร์ตัน!”  จักรพรรดิโจฮันน์ไม่คิดอะไรมากต่อไป  เขายิ้มและตรัส“ต่อไปเจ้ากับนีน่าก็จะต้องอยู่ด้วยกันแล้ว เจ้าต้องดูแลนีน่าให้ดี เด็กคนนี้เป็นองค์หญิงเจ้าอารมณ์ เราหวังว่าเจ้าจะปฏิบัติกับนางเป็นอย่างดี”

วอร์ตันยืดอกรีบทูลทันที“ฝ่าบาท, มิต้องทรงกังวล”

แต่ลินลี่ย์จ้องมองจักรพรรดิโจฮันน์

“สองสามวันก่อน เคย์ลันบอกว่าจักรพรรดิโจฮันน์จะเลือกบลูเมอร์ แต่ตอนนี้...”  ลินลี่ย์ยังงงกับเรื่องนี้

ลินลี่ย์ถามตามตรง  “ฝ่าบาท, ข้าพระองค์ขอทูลถาม,  ทำไมพระองค์ถึงเลือกวอร์ตันน้องชายข้าพระองค์?”

จักรพรรดิโจฮันน์สะดุ้งเล็กน้อย

“ฮะฮะ..” จักรพรรดิโจฮันน์ทรงพระสรวลเสียงดัง “ลินลี่ย์, เราพูดเรื่องนี้ไปที่ตำหนักแล้วมิใช่หรือ?  เราไตร่ตรองหลายอย่างจากจุดยืนของนีน่าด้วย  ที่สำคัญคือ นีน่าชอบพอกับวอร์ตัน  เรายินดีอย่างลึกซึ้งที่เราสามารถนำความสุขมาให้นีน่าได้”

ลินลี่ย์ลอบหัวเราะ

ถ้าจักรพรรดิโจฮันน์พิจารณาหลายอย่างจากจุดยืนของนีน่าจริงๆ  อย่างนั้นเมื่อวอร์ตันทูลขอแต่งงานนางเขาคงไม่ทอดเวลายาวนานจนมีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามมาเป็นพรวนกว่าจะยอมรับได้

จักรพรรดิโจฮันน์เห็นสีหน้าท่าทางของลินลี่ย์  “อะไรกัน? เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ, ลินลี่ย์?”

“ข้าพระองค์ไม่ปักใจเชื่อเต็มที่นัก”  ลินลี่ย์โพล่งออกมา

จักรพรรดิโจฮันน์สะดุ้งใครจะกล้าพูดเช่นนั้นต่อหน้าพระองค์? แต่คนที่พูดคำเหล่านี้ก็คือลินลี่ย์ ยอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูง  จักรพรรดิโจฮันน์หัวเราะเบาๆ แก้เก้อ  “ความจริงเรายอมรับว่าแต่เดิมเราก็พิจารณาบลูเมอร์”

นั่นมีแนวโน้มอย่างนั้น

แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ลินลี่ย์ได้พบกับเคย์ลัน  แต่เขารู้สึกว่าเคย์ลันเป็นคนที่เชื่อถือได้

“ลินลี่ย์, เจ้าควรจะรู้ว่าในความเป็นจริงเป็นยอดฝีมือระดับเซียนจะกำหนดความรุ่งเรืองและล่มสลายของจักรวรรดิได้”  จักรพรรดิโจฮันน์ถอนหายใจ “ยอดฝีมือระดับเซียนสามารถฆ่าแม่ทัพทหารฝ่ายศัตรูได้อย่างง่ายดายแม้จะมีทหารเป็นล้านล้อมรอบ  ส่วนจอมเวทระดับเซียนมีคาถาทำลายล้างต้องห้ามและทำลายกองทัพที่มีคนเป็นล้านได้  อาจกล่าวได้ว่าในสายตาของคนธรรมดาระดับเซียนก็คือยอดฝีมือไร้เทียมทาน”

ลินลี่ย์พยักหน้า  เมื่อเขายังอายุน้อย ระดับเซียนเป็นนักสู้ที่สูงสุดแน่นอนในชีวิตที่เจอมา

“แม้ว่าเราจะเป็นจักรพรรดิ  เราก็ไม่กล้าออกคำสั่งเซียน  ถ้าเรารุกรานพวกเขา พวกเขาอาจไปจากจักรวรรดิได้  เราเชื่อว่ามีหลายสถานที่รอต้อนรับการมาถึงของยอดฝีมือระดับเซียน”จักรพรรดิโจฮันน์ฝืนหัวเราะ

ลินลี่ย์เข้าใจตรงนี้

ถ้ายอดฝีมือระดับเซียนจะหนีไปเนื่องจากความสามารถในการบินของพวกเขา นั่นเป็นเรื่องง่ายมาก

“บลูเมอร์และวอร์ตันทั้งสองคนมีแนวโน้มว่าจะบรรลุถึงระดับเซียนในอนาคต  แต่ปัญหาที่สำคัญก็คือ  บลูเมอร์เป็นคนของวิทยาลัยเทพสงคราม ยอดฝีมือทั้งหมดของจักรวรรดิรวมกลุ่มอยู่ที่วิทยาลัยเทพสงคราม  เราไม่ต้องการขัดใจกับวิทยาลัยเทพสงคราม  ที่สำคัญมีกลุ่มยอดฝีมือระดับเซียนอยู่ที่นั่นไม่ใช่แค่คนหรือสองคน!”

กลุ่มยอดฝีมือระดับเซียนแค่ได้ยินคำพูดนี้ก็เพียงพอทำให้ผู้คนสั่นสะท้านได้

“ศิษย์สำนักเดียวกับบลูเมอร์เข้ามาพูดมาคุยให้บลูเมอร์  เราไม่มีทางเลือกเลย”  จักรพรรดิโจฮันน์ส่ายพระพักตร์ถอนหายใจ

“อย่างนั้นทำไมพระองค์ถึงเลือกน้องชายข้าพระองค์ในที่สุดเล่า?”  ลินลี่ย์ถาม

เขาสงสัยเรื่องนี้มาตลอดเวลา  เหตุผลใดกันแน่?

จักรพรรดิโจฮันน์จ้องมองลินลี่ย์กับวอร์ตันอย่างงงงัน  “ลินลี่ย์,ตระกูลบาลุคเจ้ามีสัมพันธ์ใดในทางประวัติศาสตร์กับเทพสงครามหรือไม่?”

“เทพสงคราม?”

ลินลี่ย์เข้าใจทันทีเขาตกใจทูล “ฝ่าบาท, พระองค์ตรัสว่าเป็นเทพสงครามทำให้พระองค์เลือกวอร์ตันหรือพระเจ้าค่ะ?”

“ถูกแล้ว” จักรพรรดิโจฮันน์ตรัส  “ลินลี่ย์คิดดูให้ดี ในจักรวรรดิ ใครจะมีน้ำหนักมากกว่าสมาชิกของวิทยาลัยเทพสงคราม?  มีแต่เทพสงครามผู้ทรงอำนาจที่สุดในแผ่นดิน”

“บรรพบุรุษที่เคารพของเรา เทพสงครามบอกกับเราทางใจตรงๆและสั่งให้เราเลือกวอร์ตัน” แววตื่นเต้นยังอยู่ในดวงตาของจักรพรรดิโจฮันน์  “นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ยินเสียงเทพสงครามบรรพบุรุษของเรา”

เทพสงคราม!

เป็นเทพสงครามจริงๆ!

เทพสงครามคือบุคคลที่เหลือเชื่อ  ห้าพันปีที่แล้ว  เขาสู้รบกับนักพรตสูงสุดเหนือแม่น้ำยูลานที่หยุดนิ่งพิสูจน์ว่าเขาเป็นนักสู้ระดับเทพแน่นอน

หลังจากห้าพันปี  แม้ว่าไม่มีใครเคยเห็นเทพสงครามสู้อีกเลย  แต่ทุกคนเข้าใจว่าเนื่องจากพรสวรรค์ธรรมชาติของเทพสงคราม เขาก็ยังมีพลังที่น่ากลัวมากขึ้นในตอนนี้

เทพสงครามฝึกได้รวดเร็วเหลือเชื่อจากบุคคลธรรมดา ไปเป็นระดับเทพในช่วงเพียงไม่กี่ร้อยปี

เขายกระดับฉับพลันเมื่อห้าพันปีก่อนทำให้ชื่อเสียงและเกียรติยศของเขาครอบคลุมสี่สุดยอดนักรบกลายเป็นดาวจรัสฟ้าแห่งยุคนั้น

“เทพสงครามช่วยน้องชายของข้า?”  ลินลี่ย์ไม่อาจเข้าใจได้

“อาจเป็นไปได้ว่าเขารู้ว่าด้านเรามียอดฝีมือระดับเซียนถึง6?” ลินลี่ย์เริ่มสงสัย เนื่องจากพลังของเทพสงครามเขาย่อมรู้สึกได้ถึงพลังของกองกำลังของลินลี่ย์ได้

ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ

เป็นไปไม่ได้  สำหรับเทพแล้ว พวกเซียนไม่มีอะไรเลยมีแนวโน้มว่าเทพสงครามสามารถฆ่าพวกเขาทั้งหกด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

“อย่างนั้นยังจะมีเหตุผลใดกันแน่?  เป็นไปได้จริงๆหรือว่าเพราะเขามีสัมพันธ์บางอย่างกับบรรพบุรุษตระกูลบาลุค?”  ลินลี่ย์ไม่เข้าใจจริงๆว่าเบื้องหลังการกระทำของเทพสงครามมีเหตุผลใดกันแน่

…..

ด้านตะวันตกของเมืองหลวง ภูเขาเทพสงคราม นอกจากยอดเขาหลักแล้ว  ยังมียอดเขาอื่นอีกสี่ยอดมีถ้ำธรรมชาติเชื่อมยอดเขาสองยอดเข้าด้วยกัน

แลงค์และคาสโตรกำลังเดินเคียงไหล่ไปตามถ้ำ

หลังจากเดินเข้าไปหลายร้อยเมตรผ่านอุโมงค์ถ้ำที่คดเคี้ยวอุโมงค์พลันชันลงอย่างรวดเร็ว  ถ้ามีคนจ้องมองหลุมมืดลึกอย่างน่าทึ่งจะมองไม่เห็นสิ่งใดสักอย่างไม่มีผู้ใดสามารถบอกได้ว่าอุโมงค์ลึกเพียงใด

“วูบบบ”

แลงค์และคาสโตรกระโดดลงไปในหลุมลึก  พวกเขาร่วงลงไปด้วยความเร็วค่อนข้างช้า  หลังจากร่วงลงมาหลายพันเมตรทั้งสองคนก็ลงสัมผัสที่พื้นอย่างนุ่มนวลเหมือนใบไม้ร่วง  จากทางเข้าอุโมงค์ถึงหลุมนี้เพียงพันเมตรแต่หลุมนี้ยังลงไปใต้ดินอีกหลายพันเมตร

“อาจารย์มักใช้เวลาปิดประตูฝึกฝนตามปกติ  และเมื่อใดก็ตามที่ท่านทำเช่นนั้น  ปกติท่านจะใช้เวลาหลายปี หลายสิบปีหรืออาจเป็นการฝึกระยะยาว  เมื่อท่านมาช่วยฝึกฝนให้  ท่านไม่เคยพูดทางจิตกับเรา  แต่ครั้งนี้ที่ตำหนักผู้กล้าท่านส่งพลังทางจิตและบอกเราให้บอกโจฮันน์เลือกวอร์ตัน  จากนั้นก็บอกให้เรากลับมาที่นี่”  แลงค์รู้สึกประหลาดใจ

นี่นับว่าตรงกันข้ามกับนิสัยของเทพสงครามมาก

มีน้อยเรื่องในโลกซึ่งนักพรตอย่างเทพสงครามจะออกคำสั่งเอง

“ศิษย์น้อง ไม่ต้องคิดมากเกินไปหรอก  อาจารย์มีเหตุผลของการกระทำอย่างนี้แน่นอน  ทั้งหมดที่เราต้องทำก็คือ เชื่อฟัง”  คาสโตรกล่าว

“ศิษย์พี่พูดถูก”  แลงค์พยักหน้า

สำหรับศิษย์ของวิทยาลัยเทพสงครามคำสั่งของเทพสงครามไม่อาจละเลยได้  พวกเขาจะต้องทำทุกอย่างที่เทพสงครามสั่งให้พวกเขาทำ  ไม่มีความจำเป็นต้องคิดอะไร

“ครืนนน...”ความร้อนที่แสบผิวรู้สึกได้จากส่วนลึกของในถ้ำ ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไป หินค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเช่นกัน

อุณหภูมิที่นี่สูงมาก

หลังจากเข้าไปมากกว่าร้อยเมตรแล้วแลงค์และคาสโตรก็มาหยุดอยู่หน้าประตูหินสีดำสนิท ผนังหินล้อมประตูนี้มีสีแดงจัดและอุณหภูมิสูงจัด แม้แต่แลงค์กับคาสโตรยังต้องใช้ปราณยุทธที่เท้าเพื่อป้องกันตนเอง

ถ้ากระดาษชิ้นหนึ่งถูกโยนออกไปเป็นไปได้ว่าจะถูกผลาญจนไม่เหลืออะไรทันที

“เจ้ามากันแล้ว”  เสียงสงบเย็นดังขึ้นจากหลังประตู

เสียงของเทพสงครามนุ่มนวล  แต่มีพลังทะลุทะลวง เสียงเป็นเหมือนกับเข็มชอนไชเข้าไปในวิญญาณของคน  คาสโตรและแลงค์ศิษย์ทั้งสองคนของเขาแม้จะสงสัยว่าเทพสงครามอาจทำให้วิญญาณของพวกเขาหลุดลอยได้โดยใช้แค่เพียงเสียงอย่างเดียว

นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่คาสโตรและศิษย์คนอื่นของเทพสงครามกลัวอาจารย์ของพวกเขามาก  เทพสงครามทรงพลานุภาพมากจริงๆ

“ขอรับอาจารย์” คาสโตรและแลงค์พูดด้วยความเคารพ คาสโตรพูดต่อ  “อาจารย์,  ท่านมีอะไรจะแนะนำพวกเราบ้าง?”

เสียงของเทพสงครามดังขึ้นอีกครั้ง  “วันที่ 12เมษายนจะเป็นวันพิธีหมั้นหมายของเจ้าหนูวอร์ตัน ไปบอกศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าให้เตรียมแหวนมิติเก็บสมบัติวงหนึ่งในวันพิธีหมั้นของเจ้าเด็กวอร์ตัน ให้มอบแหวนนี้เป็นของขวัญวันหมั้นของเขา”

คาสโตรและแลงค์ตะลึงไปหมด

เทพสงครามจะประทานของขวัญวันหมั้น?

เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน  แม้เมื่อพวกเขาที่เป็นศิษย์ส่วนตัวแต่งงานเทพสงครามไม่ได้ใส่ใจ  ที่สำคัญคือคนระดับเทพสงครามต้องส่งของขวัญร่วมยินดีให้ผู้อื่นด้วยหรือ?  แม้ว่าเขาต้องการจะทำเช่นนั้นแต่ว่าใครจะคู่ควรแก่การรับของขวัญจากเขา?

แต่ตอนนี้เทพสงครามสั่งพวกเขาให้ส่งของขวัญแสดงความยินดีไปร่วมฉลองงานหมั้นหมายของวอร์ตัน?

“ตอนนี้ พวกเจ้าไปได้แล้ว”  เสียงสงบของเทพสงครามดังก้องในอุโมงค์อีกครั้ง

คาสโตรและแลงค์จ้องดูประตูหินดำสนิทจากนั้นมองหน้ากันเอง แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจแม้แต่น้อย แต่พวกเขามิกล้าขัดคำสั่งของเทพสงคราม

“ขอรับ, อาจารย์”  แลงค์และคาสโตรตอบ  เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเคารพไม่มีใครเหมือน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด