ตอนที่แล้วตอนที่ 9-16 ของขวัญร่วมยินดี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9-18 ยอดฝีมือจากพิภพอื่น

ตอนที่ 9-17 ก้าวขึ้นเวที


วันที่ 12เมษายน ปียูลานที่ 10009นี่คือวันที่วอร์ตันกับนีน่าจะทำพิธีหมั้นในเมืองหลวงหนึ่งในคู่รักนี้คือน้องชายของยอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูง  ขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นราชธิดาของจักรพรรดิพิธีหมั้นเช่นนี้ย่อมถูกจัดเป็นอย่างดี

ข้าราชสำนักที่อยู่ประจำในเมืองหลวงได้รับจดหมายเชิญรู้สึกภูมิใจมาก ขุนนางทั่วไปหลายคนไม่มีคุณสมบัติพอได้รับเชิญให้เข้าร่วมเหตุการณ์นี้  ที่สำคัญ ถ้าขืนทุกคนได้รับเชิญ คฤหาสน์เคานท์คงไม่สามารถรองรับคนทุกคนได้

คฤหาสน์ของเคานท์มีงานเฉลิมฉลองในวันนี้ และด้านนอกของคฤหาสน์เต็มไปด้วยรถม้าเข้าออกไม่ขาดสายซึ่งกินพื้นที่ของถนนโบลเดอร์ไปถึงครึ่ง องครักษ์และบ่าวไพร่ของขุนนางไม่มีคุณสมบัติพอจะเข้ามาในคฤหาสน์ได้  ทุกคนต้องรออยู่ข้างนอก รวมๆ แล้วมีองครักษ์และบ่าวรับใช้ต้องรออยู่ด้านนอกหลายพันคน

คลื่นมหาชน!

รถม้าแต่ละคันประดับตกแต่งหรูหราเรียงกันและสุภาพสตรีชนชั้นสูงที่อายุเยาว์แต่งชุดงดงามน่าหลงใหลกว่าครั้งใดๆ งานเลี้ยงฉลองพิธีหมั้นที่คฤหาสน์ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญระดับสูงสุดของราชวงศ์และผู้ที่มาร่วมมีสถานะยิ่งใหญ่ทุกคน

“พี่ใหญ่,ข้ารู้สึกอึดอัดเมื่อแต่งตัวแบบนี้” วอร์ตันเสียเวลาเล็กน้อยอยู่ในห้อง เขารู้สึกกังวลยิ่งกว่าที่เคยมีมาก่อน

ลินลี่ย์หัวเราะ  “พอเถอะ วอร์ตัน  เจ้าดูหล่อมากแล้ว มั่นใจหน่อยเถอะ”

วอร์ตันสูดหายใจลึก

“ไปกันเถอะ ได้เวลาไปต้อนรับแขกเหรื่อที่ห้องโถงได้แล้ว”  ลินลี่ย์แนะนำพลางหัวเราะ  “เจ้าจะปล่อยให้ปู่แอชลีย์ต้อนรับอาคันตุกะต่อไปไม่ได้นะ  ยกตัวอย่าง เมื่อฝ่าบาทเสด็จมาถึง  เป็นไปได้ไงที่เจ้าจะไม่ออกไปต้อนรับพระองค์?”

วอร์ตันและลินลี่ย์เข้าไปในห้องโถงใหญ่  และทันทีที่พวกเขามาถึง  พวกเขาเพิ่งหายใจได้คล่อง  โอวสวรรค์, มีคนมากมายอยู่ตรงนั้น  ช่างมากมายจริงๆ  นอกจากนี้นั่นยังเป็นส่วนเล็กๆของขุนนางที่ปรากฏ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายคนยังเดินทางมาไม่ถึง

“เมืองหลวงสมกับเป็นเมืองหลวงจริงๆ  มีขุนนางอยู่ที่นี่มากมายกว่าเมืองเฟนไลเสียอีก”  ลินลี่ย์ถอนหายใจ

ในอดีตลินลี่ย์เคยเข้าร่วมพิธีหมั้นของอลิซและคาลันจำนวนของผู้คนที่มาร่วมในวันนั้นน้อยกว่าจำนวนคนที่มาร่วมงานพิธีในวันนี้อย่างเห็นได้ชัด  และความสามารถของผู้คนยังต่ำกว่ามาก

ตระกูลขุนนางของราชอาณาจักรย่อมมีจำนวนน้อยกว่าตระกูลขุนนางในจักรวรรดิเป็นธรรมดา

ทันทีที่ลินลี่ย์และวอร์ตันเข้ามาในหอโถงใหญ่   พวกเขาตกเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจทันทีโครงร่างที่ใหญ่โตของวอร์ตันสะดุดตาได้ง่ายมากและหลายคนเข้ามาทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง

“วอร์ตัน, มาทางนี้”  พ่อบ้านแอชลีย์เรียกเขาทันที

วอร์ตันรีบเร่งไปที่ประตูใหญ่ของห้องโถงทันทีและเริ่มทักทายแขกเหรื่อที่มาถึงทีละคนๆสำหรับลินลี่ย์ เขาเติมแก้วไวน์จากนั้นเดินไปกลางห้องโถงชนแก้วกับอาคันตุกะในงานอย่างต่อเนื่อง

ขุนนางเหล่านี้สำนึกตนเป็นอย่างดีและไม่พยายามเข้าไปใกล้ลินลี่ย์นักหรือรบกวนเขามากเกินไปได้แต่ชูแก้วของพวกเขาอย่างสุภาพให้ลินลี่ย์จากระยะห่าง

อย่างไรก็ตาม...

สุภาพสตรีชั้นสูงบางส่วนชม้ายชายตาให้ลินลี่ย์  พวกนางรู้ว่าลินลี่ย์ยังไม่แต่งงาน  ยอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูงอายุราวยี่สิบปี..จะไปหาบุรุษอื่นอย่างนี้ได้ที่ไหนกัน?

“ปวดหัวดีแท้” ลินลี่ย์เห็นสุภาพสตรีผู้ดีสามคนแยกออกมาและเริ่มพยายามมาทางเขา  ลินลี่ย์แกล้งทำเป็นไม่เห็นพวกนาง

เมื่อสุภาพสตรีผู้ดีทั้งสามนางเข้ามาใกล้ลินลี่ย์ในระยะหนึ่งเมตร...

“วูบบบบ” ลมกระโชกสายหนึ่งเกิดขึ้นทันทีดันร่างของสตรีทั้งสามไว้  ไม่ว่าพวกนางจะพยายามยังไงสุภาพสตรีทั้งสามก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้ลินลี่ย์ได้

และจากนั้นลินลี่ย์ชูแก้วของเขาและยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่มุมห้องโถงและนั่งลง

“นั่นคือ..อาจารย์ลินลี่ย์...”  สุภาพสตรีผู้งดงามเยาว์วัยผมทองและนัยน์ตาสีทองตื่นเต้น  “วิชาที่น่าตื่นเต้นนั่นคือวิชาแบบไหนกัน?”

สุภาพสตรีอีกสองคนไม่รู้เช่นกัน

ไม่รู้ย่อมไม่เป็นปัญหานี่ไม่มีผลต่อสถานะของลินลี่ย์ในหัวใจพวกนาง ความจริงกลับตรงกันข้ามนี่ทำให้ลินลี่ย์ดูเหมือนจะยิ่งทรงพลังและลึกลับสำหรับพวกนาง  ความจริงลินลี่ย์แค่ใช้การเคลื่อนพลังลมที่ง่ายที่สุด

“เจ้าได้เห็นร่างแปลงมังกรของอาจารย์ลินลี่ย์ในวันนั้นที่สนามประลองไหม?  ดูเหมือนเขาดุร้ายและป่าเถื่อนมากเลยข้าตื่นเต้นมาก”

“เขาน่าตื่นเต้นจริงๆ  ข้าชอบผู้ชายแบบนี้  พวกผู้ชายที่โรงเรียนอ่อนเหมือนนุ่นกันทุกคนไม่มีใครที่เหมือนกับเขาเลย”

โสตประสาทของลินลี่ย์ดีมากอยู่แล้วเมื่อได้ยินสิ่งที่สุภาพสตรีสาวแต่ละคนคุยกันลินลี่ย์รู้สึกในใจอยากจะออกไปเสียเหลือเกิน พวกนางเรียกร่างแปลงมังกรของเขาว่า ดุร้าย ป่าเถื่อน? และดูมีมาดบุรุษ?”

“จักรพรรดิเสด็จมาถึงแล้ว!”

เสียงของผู้ประกาศต้อนรับอาคันตุกะที่ประตูใหญ่ดังขึ้นทันที เห็นได้ชัดว่าเขาใช้ปราณยุทธตะโกนทำให้แขกเหรื่อในห้องโถงใหญ่ได้ยินชัดเจนทั่วกัน

ขุนนางที่เต็มอยู่ในห้องโถงใหญ่ทุกคนตกอยู่ในความเงียบขณะมองไปที่ประตูใหญ่กันทุกคน  ด้านนอกห้องโถงก็มีขุนนางอยู่มากมายเช่นกันวันนี้มีแขกเหรื่อมากมายเกินไป และห้องโถงใหญ่ไม่สามารถรองรับทุกคนในภายในได้

“โจฮันน์มาถึงแล้ว?”  ลินลี่ย์ยืนขึ้นและเดินออกไปนอกห้องโถง

“ใต้เท้า”เกรทส์อยู่ในชุดเครื่องแบบร้องเรียกลินลี่ย์

วันนี้ห้าพี่น้องบาร์เกอร์แต่งชุดเครื่องแบบดูภูมิฐานขณะที่พวกเขาเดินตรวจไปรอบๆคฤหาสน์โครงร่างขนาดมหึมาของพวกเขาทำให้พวกขุนนางสั่นสะท้านขุนนางทุกคนลอบถอนหายใจ.. ตระกูลนักรบเลือดมังกรมีชื่อจริงๆ แม้แต่องครักษ์ของพวกเขาก็ยังดูเหลือเชื่อขนาดนั้น

จักรพรรดิโจฮันน์ปรากฏในสายตาเหมือนอย่างที่คุ้นเคย  เขาจูงหัตถ์ราชินีเดินเข้ามาโดยมีราชองครักษ์เดินตามสองสามคน

“วอร์ตัน” จักรพรรดิโจฮันน์เห็นวอร์ตันจากกลุ่มผู้คนทันที  เมื่อเห็นว่าวอร์ตันดูหล่อและแข็งแรงเพียงไหนจักรพรรดิโจฮันน์ทรงพอพระทัย  “ไม่เลว  ไม่เลว”

ลินลี่ย์เข้ามาถึง

“ถวายบังคมฝ่าบาท เชิญเสด็จข้างในพะยะค่ะ”  ลินลี่ย์หัวเราะ

“ได้, เรามีเรื่องอยากจะสนทนากับเจ้ามากอาจารย์ลินลี่ย์”  จักรพรรดิโจฮันน์ตรัสอย่างเป็นกันเอง ทั้งสองเข้าไปในห้องโถงต้อนรับอาคันตุกะทันที  ขณะที่ขุนนางอำมาตย์หลีกเปิดทางให้กับพวกเขา

ข้าราชสำนักประจำเมืองหลวงมากมายมาถึงในวันนี้  แต่ลินลี่ย์ไม่ได้ออกมาต้อนรับใครเลย  ขุนนางทุกคนรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องธรรมดา  จะให้นักสู้ระดับเซียนมาต้อนรับพวกเขาหรือ?  จะเป็นไปได้หรือ?

“ประธานหอการค้าดอว์สันเดินทางมาถึง!”

เสียงฟังชัดดังขึ้นอีกครั้ง  ประธานหอการค้าดอว์สันหนึ่งในสามหอการค้าใหญ่ของทวีปยูลาน แม้ว่าหอการค้าดอว์สันจะไม่มีมียอดฝีมือระดับเซียนแต่อย่างใดแต่ก็ยังมีพลังทางเศรษฐกิจที่น่าทึ่ง

แม้แต่จักรพรรดิโจฮันน์ก็ยืนรับและคุยกับลินลี่ย์  “หอการค้าดอว์สันคือหนึ่งในมิตรที่ดีของเรา”

ลินลี่ย์ก็ลุกขึ้นเช่นกัน

เยลมั่นใจว่าต้องมาพร้อมกับมอนโรดอว์สันด้วย แน่นอนว่าลินลี่ย์จะต้องต้อนรับพวกเขาแน่นอน

“ฮ่าฮ่า...” มอนโรดอว์สันร่างใหญ่ลงพุงเดินนำหน้าโดยมีเยลเดินเคียงข้างบิดาของเขา  เมื่อเห็นจักรพรรดิโจฮันน์ มอนโรดอว์สันคำนับเล็กน้อยทันที  “มอนโรขอถวายบังคมฝ่าบาทจักรพรรดิโจฮันน์”

จักรพรรดิโจฮันน์ทรงแย้มอย่างเป็นกันเอง  “มอนโร วันนี้ลินลี่ย์เป็นเจ้าภาพสถานที่นี้ไม่จำเป็นต้องมากมารยาทกับเราก็ได้”

“อาจารย์ลินลี่ย์และข้าพระองค์เป็นสหายกันมานานแล้ว  เพียงแต่ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาอาจารย์ลินลี่ย์จะมีความสำเร็จถึงระดับนี้แล้ว ฮ่าฮ่า...”  มอนโร ดอว์สันหัวเราะจนตาหยีด้วยอารมณ์ร่าเริง

“ลุงดอว์สัน เรียกข้าลินลี่ย์เฉยๆ เถอะ”  ลินลี่ย์ยิ้มขณะกล่าวเขากับเยลเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน เป็นธรรมดาที่เขาต้องให้เกียรติบิดาของเยลด้วย

“วอร์ตัน มาทักทายลุงดอว์สันก่อน”

วอร์ตันเข้ามาหาเช่นกัน

“ช่างเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาสง่างามจริงๆ”ตาของมอนโร ดอว์สันเป็นประกายเมื่อเห็นวอร์ตันชัดเจน  ขนาดและสัดส่วนของวอร์ตันทำให้เขาประหลาดใจ

ขุนนางคนแล้วคนเล่าเดินทางมาถึงและแม้แต่บลูเมอร์ก็มา วันนี้บลูเมอร์แสดงมารยาทของสุภาพบุรุษเต็มที่ และใช้เวลาชั่วครู่กล่าวแสดงความยินดีกับวอร์ตัน

แต่ในใจของวอร์ตันยังคงรู้สึกอึดอัดมากกว่าเมื่อบลูเมอร์อยู่แถวนั้น เขายังคงรู้สึกได้ว่าบลูเมอร์ไม่ได้พูดจากใจจริง

“บลูเมอร์, วันนี้พี่ชายเจ้าไม่ได้มาด้วยหรือ?”  จักรพรรดิโจฮันน์ทรงพระสรวลขณะตรัสกับบลูเมอร์

“พี่ชายของข้าพระบาทในตอนนี้ปิดประตูฝึกสมาธิเพื่อเตรียมการประลองกับท่านเฮนด์เซนเดือนหน้าพะยะค่ะ”  บลูเมอร์ยิ้ม

“โอว สมเหตุผลดีแล้ว”  จักรพรรดิโจฮันน์พยักหน้า

จากนั้นบลูเมอร์มองไปทางวอร์ตันที่กำลังต้อนรับแขกอยู่ที่หน้าประตูใหญ่  ดวงตาของเขาเป็นประกายเย็นชา  ในใจของเขาบลูเมอร์ไม่พอใจที่วอร์ตันทูลขอแต่งงานกับนีน่าได้สำเร็จ

“เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนเดินทางมาถึง!”

เมื่อมีเสียงดังขึ้น,จักรพรรดิโจฮันน์ ลินลี่ย์ มอนโร ดอว์สันและอีกหลายคนลุกขึ้นยืนทันทีและหันหน้าไปที่ทางเข้า

“เฮนด์เซนมา?” ลินลี่ย์ประหลาดใจระคนยินดี เขาคิดว่าเฮนด์เซนจะวุ่นวายกับการเตรียมตัวประลองในเดือนหน้า

ในเวลาไม่นานเฮนด์เซนในชุดยาวสีเทาเดินเข้ามาด้วยตนเอง  จักรพรรดิโจฮันน์ ลินลี่ย์ วอร์ตันและคนอื่นๆออกไปต้อนรับเขาทุกคน

“ฮ่าฮ่า วอร์ตัน ขอแสดงความยินดีด้วย” รอยยิ้มที่เป็นมิตรปรากฏอยู่บนใบหน้าของเฮนด์เซน จากนั้นเขามองลินลี่ย์พูดเชิงหยอกล้อ  “น้องชายเจ้ากำลังจะหมั้น  แล้วเจ้าผู้เป็นพี่ชายเล่า?”

ลินลี่ย์สะดุ้ง  เขานึกไม่ถึงว่าเฮนด์เซนจะถามคำถามเช่นนั้น

“ฮ่าฮ่าฮ่า...” จักรพรรดิโจฮันน์ทรงพระสรวลด้วยเสียงดัง พลางพยักหน้าย้อนถาม “ลินลี่ย์  ได้เวลาที่เจ้าจะต้องแต่งงานแล้วนะ  ถ้าเจ้าหมายตาผู้ใดไว้ แค่บอกเรา เราจะส่งหญิงสาวผู้โชคดีผู้นั้นไปให้เจ้าแน่นอน”

ลินลี่ย์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

“ใต้เท้าจากวิทยาลัยเทพสงครามเดินทางมาถึง!”

เสียงร้องเรียกจากหน้าประตูคราวนี้ทำให้ลินลี่ย์เป็นอิสระไม่ต้องคอยตอบคำถามเนื่องจากทุกคนไปต้อนรับคนจากวิทยาลัยเทพสงคราม

“ข้านึกไม่ถึงเลยว่าวิทยาลัยเทพสงครามจะส่งคนมาร่วมด้วย”  จักรพรรดิโจฮันน์ถอนหายใจอย่างปลาบปลื้มใจ

เฮนด์เซนก็พยักหน้าเช่นกัน  วิทยาลัยเทพสงครามเป็นหนึ่งในองค์กรที่สำคัญที่สุดในทวีปยูลาน พวกเขาไม่ค่อยมาร่วมงานหมั้นหรืองานแต่งงาน  เว้นแต่จะเป็นงานคนของพวกตน  และมักจะเป็นศิษย์อื่นมาเข้าร่วม

แลงค์และคาสโตรเดินเคียงไหล่กันเข้ามา

คาสโตรยิ้ม  “ฮ่าฮ่า, น้องวอร์ตัน ขอแสดงความยินดีด้วย” เนื่องจากคาสโตรพบว่าอาจารย์แสดงออกต่อวอร์ตันดังนั้นวอร์ตันจึงมีคุณสมบัติพอให้เขาเรียกเป็นน้องวอร์ตัน

แต่สถานะนี้ทำให้ลินลี่ย์โจฮันน์ เฮนด์เซนและคนอื่นๆ งง

สมาชิกของวิทยาลัยเทพสงครามล้วนถือดีกันทั้งนั้น

พวกเขายากจะให้ความสนใจคนอื่น  ทัศนคติของคาสโตรทำให้ผู้คนรู้สึกงงงวยจริงๆ

“วันนี้ เราสองคนผู้เป็นศิษย์มาที่นี่ในฐานะเป็นตัวแทนของวิทยาลัยเทพสงครามเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าวอร์ตันในโอกาสที่เป็นมงคลนี้ และนี่คือของขวัญที่อาจารย์ของเราสั่งเราด้วยตนเองให้เรานำมามอบให้เจ้า”  คาสโตรยื่นกล่องบุไหมให้วอร์ตัน

อาจารย์?

ทุกคนที่อยู่รอบๆพวกเขาตะลึง  เทพสงครามมอบของขวัญด้วยหรือ?

“เราขอบคุณและซาบซึ้งเป็นอย่างมาก”  ลินลี่ย์เป็นคนแรกที่รู้สึกตัวก่อน  เขายิ้มและยอมรับของขวัญแสดงความยินดี  “ท่านคาสโตร, ท่านแลงค์เชิญนั่งพักตรงนี้”

กล่าวโดยทั่วไปบ่าวทาสจะเป็นผู้รับของขวัญร่วมแสดงความยินดีที่หน้าประตู...แต่พนักงานลงทะเบียนของขวัญในคฤหาสน์ท่านเคานท์จะกล้ารับของขวัญของคนจากวิทยาลัยเทพสงครามหรือ?  ต่อให้พวกเขามามือเปล่า  นั่นก็รู้สึกเป็นเกียรติแล้ว

คฤหาสน์ท่านเคานท์มีเสียงดังจอแจ  ขุนนางชั้นสูงหลายคนเช่นดยุคและเคานท์ต่างก็สนทนาในกลุ่มพวกเขากันเอง ขณะที่ลินลี่ย์ จักรพรรดิโจฮันน์ มอนโร ดอว์สัน  คาสโตร แลงค์  เฮนด์เซนและคนอื่นๆก็สนทนาเช่นกัน

แขกเหรื่อในงานพิธีหมั้นหมายล้วนดูเหลือเชื่อกันทั้งนั้น

แค่เพียงแต่ดูการจัดแถวที่นั่ง  ที่โต๊ะของลินลี่ย์มีคนที่ไม่ได้เป็นนักสู้ระดับเซียนก็คือ จักรพรรดิ, ประธานหอการค้าในขณะนี้เท่านั้น

“นักสู้ระดับเซียนกำลังบินอยู่โน่น”  หลายคนร้องบอก ลินลี่ย์มองผ่านประตูไปที่ท้องฟ้า และเป็นความจริง เมื่อเห็นบุรุษผู้หนึ่งทะยานผ่านกลุ่มเมฆออกมาอย่างสง่างาม

ลินลี่ย์  จักรพรรดิโจฮันน์และคนอื่นๆลุกขึ้นยืนด้วยความสับสน

แต่ไม่ว่าจะเป็นใครเนื่องจากท่านผู้นี้เป็นนักสู้ระดับเซียน พวกเขาก็ต้องเห็นแก่หน้าเขา

แค่ชั่วประกายวูบขึ้นในกลางอากาศบุรุษผู้นั้นก็มาถึงประตูใหญ่  นี่คือชายชราผมขาว มีเครายาวเช่นกันเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนยุคเก่า แต่ดวงตาสีฟ้าเหมือนฝันดูคมชัด

“ฮ่าฮ่า ข้ามาโดยมิได้รับเชิญ  ข้าหวังว่าที่นี่คงจะไม่ถึงกับไม่ต้อนรับข้านะ?”  ชายชราผมขาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

เขาไม่ได้แม้แต่จะมองดูลินลี่ย์และคนอื่นๆ  แต่กลับบินเข้าไปที่ซึ่งลินลี่ย์และคนอื่นๆนั่งอยู่แล้ว  ขณะที่เขาเข้าไปใกล้  เฮนด์เซนและคาสโตรรีบหลีกทางให้เขาและชายชราผมขาวนี้นั่งบนเก้าอี้ที่เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนนั่งอยู่ก่อนหน้านั้น

“ที่นั่งนี้ดี ข้าจะนั่งตรงนี้” ชายชราผมขาวหัวเราะลั่น

จักรพรรดิโจฮันน์ขมวดคิ้ว  บุรุษผู้นี้ไร้มารยาทไปหน่อย  ลินลี่ย์ก็รู้สึกเช่นกันว่าชายชราผมขาวผู้นี้ยโสเกินไปบ้าง

“ข้าขอถาม...”ก่อนที่ลินลี่ย์จะมีโอกาสพูดจบคำ เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนรีบพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพทันที  “ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าท่านจะมาถึงที่นี่ใต้เท้า นับว่าสร้างความประหลาดใจให้เราอย่างคาดไม่ถึง”

คาสโตรและแลงค์ที่ยืนเคียงข้างกันพยักหน้าอย่างนอบน้อม  ท่าทีของพวกเขาอ่อนน้อมอย่างเหลือเชื่อ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด