ตอนที่ 9-17 ก้าวขึ้นเวที
วันที่ 12เมษายน ปียูลานที่ 10009นี่คือวันที่วอร์ตันกับนีน่าจะทำพิธีหมั้นในเมืองหลวงหนึ่งในคู่รักนี้คือน้องชายของยอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูง ขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นราชธิดาของจักรพรรดิพิธีหมั้นเช่นนี้ย่อมถูกจัดเป็นอย่างดี
ข้าราชสำนักที่อยู่ประจำในเมืองหลวงได้รับจดหมายเชิญรู้สึกภูมิใจมาก ขุนนางทั่วไปหลายคนไม่มีคุณสมบัติพอได้รับเชิญให้เข้าร่วมเหตุการณ์นี้ ที่สำคัญ ถ้าขืนทุกคนได้รับเชิญ คฤหาสน์เคานท์คงไม่สามารถรองรับคนทุกคนได้
คฤหาสน์ของเคานท์มีงานเฉลิมฉลองในวันนี้ และด้านนอกของคฤหาสน์เต็มไปด้วยรถม้าเข้าออกไม่ขาดสายซึ่งกินพื้นที่ของถนนโบลเดอร์ไปถึงครึ่ง องครักษ์และบ่าวไพร่ของขุนนางไม่มีคุณสมบัติพอจะเข้ามาในคฤหาสน์ได้ ทุกคนต้องรออยู่ข้างนอก รวมๆ แล้วมีองครักษ์และบ่าวรับใช้ต้องรออยู่ด้านนอกหลายพันคน
คลื่นมหาชน!
รถม้าแต่ละคันประดับตกแต่งหรูหราเรียงกันและสุภาพสตรีชนชั้นสูงที่อายุเยาว์แต่งชุดงดงามน่าหลงใหลกว่าครั้งใดๆ งานเลี้ยงฉลองพิธีหมั้นที่คฤหาสน์ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญระดับสูงสุดของราชวงศ์และผู้ที่มาร่วมมีสถานะยิ่งใหญ่ทุกคน
“พี่ใหญ่,ข้ารู้สึกอึดอัดเมื่อแต่งตัวแบบนี้” วอร์ตันเสียเวลาเล็กน้อยอยู่ในห้อง เขารู้สึกกังวลยิ่งกว่าที่เคยมีมาก่อน
ลินลี่ย์หัวเราะ “พอเถอะ วอร์ตัน เจ้าดูหล่อมากแล้ว มั่นใจหน่อยเถอะ”
วอร์ตันสูดหายใจลึก
“ไปกันเถอะ ได้เวลาไปต้อนรับแขกเหรื่อที่ห้องโถงได้แล้ว” ลินลี่ย์แนะนำพลางหัวเราะ “เจ้าจะปล่อยให้ปู่แอชลีย์ต้อนรับอาคันตุกะต่อไปไม่ได้นะ ยกตัวอย่าง เมื่อฝ่าบาทเสด็จมาถึง เป็นไปได้ไงที่เจ้าจะไม่ออกไปต้อนรับพระองค์?”
วอร์ตันและลินลี่ย์เข้าไปในห้องโถงใหญ่ และทันทีที่พวกเขามาถึง พวกเขาเพิ่งหายใจได้คล่อง โอวสวรรค์, มีคนมากมายอยู่ตรงนั้น ช่างมากมายจริงๆ นอกจากนี้นั่นยังเป็นส่วนเล็กๆของขุนนางที่ปรากฏ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายคนยังเดินทางมาไม่ถึง
“เมืองหลวงสมกับเป็นเมืองหลวงจริงๆ มีขุนนางอยู่ที่นี่มากมายกว่าเมืองเฟนไลเสียอีก” ลินลี่ย์ถอนหายใจ
ในอดีตลินลี่ย์เคยเข้าร่วมพิธีหมั้นของอลิซและคาลันจำนวนของผู้คนที่มาร่วมในวันนั้นน้อยกว่าจำนวนคนที่มาร่วมงานพิธีในวันนี้อย่างเห็นได้ชัด และความสามารถของผู้คนยังต่ำกว่ามาก
ตระกูลขุนนางของราชอาณาจักรย่อมมีจำนวนน้อยกว่าตระกูลขุนนางในจักรวรรดิเป็นธรรมดา
ทันทีที่ลินลี่ย์และวอร์ตันเข้ามาในหอโถงใหญ่ พวกเขาตกเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจทันทีโครงร่างที่ใหญ่โตของวอร์ตันสะดุดตาได้ง่ายมากและหลายคนเข้ามาทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง
“วอร์ตัน, มาทางนี้” พ่อบ้านแอชลีย์เรียกเขาทันที
วอร์ตันรีบเร่งไปที่ประตูใหญ่ของห้องโถงทันทีและเริ่มทักทายแขกเหรื่อที่มาถึงทีละคนๆสำหรับลินลี่ย์ เขาเติมแก้วไวน์จากนั้นเดินไปกลางห้องโถงชนแก้วกับอาคันตุกะในงานอย่างต่อเนื่อง
ขุนนางเหล่านี้สำนึกตนเป็นอย่างดีและไม่พยายามเข้าไปใกล้ลินลี่ย์นักหรือรบกวนเขามากเกินไปได้แต่ชูแก้วของพวกเขาอย่างสุภาพให้ลินลี่ย์จากระยะห่าง
อย่างไรก็ตาม...
สุภาพสตรีชั้นสูงบางส่วนชม้ายชายตาให้ลินลี่ย์ พวกนางรู้ว่าลินลี่ย์ยังไม่แต่งงาน ยอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูงอายุราวยี่สิบปี..จะไปหาบุรุษอื่นอย่างนี้ได้ที่ไหนกัน?
“ปวดหัวดีแท้” ลินลี่ย์เห็นสุภาพสตรีผู้ดีสามคนแยกออกมาและเริ่มพยายามมาทางเขา ลินลี่ย์แกล้งทำเป็นไม่เห็นพวกนาง
เมื่อสุภาพสตรีผู้ดีทั้งสามนางเข้ามาใกล้ลินลี่ย์ในระยะหนึ่งเมตร...
“วูบบบบ” ลมกระโชกสายหนึ่งเกิดขึ้นทันทีดันร่างของสตรีทั้งสามไว้ ไม่ว่าพวกนางจะพยายามยังไงสุภาพสตรีทั้งสามก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้ลินลี่ย์ได้
และจากนั้นลินลี่ย์ชูแก้วของเขาและยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่มุมห้องโถงและนั่งลง
“นั่นคือ..อาจารย์ลินลี่ย์...” สุภาพสตรีผู้งดงามเยาว์วัยผมทองและนัยน์ตาสีทองตื่นเต้น “วิชาที่น่าตื่นเต้นนั่นคือวิชาแบบไหนกัน?”
สุภาพสตรีอีกสองคนไม่รู้เช่นกัน
ไม่รู้ย่อมไม่เป็นปัญหานี่ไม่มีผลต่อสถานะของลินลี่ย์ในหัวใจพวกนาง ความจริงกลับตรงกันข้ามนี่ทำให้ลินลี่ย์ดูเหมือนจะยิ่งทรงพลังและลึกลับสำหรับพวกนาง ความจริงลินลี่ย์แค่ใช้การเคลื่อนพลังลมที่ง่ายที่สุด
“เจ้าได้เห็นร่างแปลงมังกรของอาจารย์ลินลี่ย์ในวันนั้นที่สนามประลองไหม? ดูเหมือนเขาดุร้ายและป่าเถื่อนมากเลยข้าตื่นเต้นมาก”
“เขาน่าตื่นเต้นจริงๆ ข้าชอบผู้ชายแบบนี้ พวกผู้ชายที่โรงเรียนอ่อนเหมือนนุ่นกันทุกคนไม่มีใครที่เหมือนกับเขาเลย”
โสตประสาทของลินลี่ย์ดีมากอยู่แล้วเมื่อได้ยินสิ่งที่สุภาพสตรีสาวแต่ละคนคุยกันลินลี่ย์รู้สึกในใจอยากจะออกไปเสียเหลือเกิน พวกนางเรียกร่างแปลงมังกรของเขาว่า ดุร้าย ป่าเถื่อน? และดูมีมาดบุรุษ?”
“จักรพรรดิเสด็จมาถึงแล้ว!”
เสียงของผู้ประกาศต้อนรับอาคันตุกะที่ประตูใหญ่ดังขึ้นทันที เห็นได้ชัดว่าเขาใช้ปราณยุทธตะโกนทำให้แขกเหรื่อในห้องโถงใหญ่ได้ยินชัดเจนทั่วกัน
ขุนนางที่เต็มอยู่ในห้องโถงใหญ่ทุกคนตกอยู่ในความเงียบขณะมองไปที่ประตูใหญ่กันทุกคน ด้านนอกห้องโถงก็มีขุนนางอยู่มากมายเช่นกันวันนี้มีแขกเหรื่อมากมายเกินไป และห้องโถงใหญ่ไม่สามารถรองรับทุกคนในภายในได้
“โจฮันน์มาถึงแล้ว?” ลินลี่ย์ยืนขึ้นและเดินออกไปนอกห้องโถง
“ใต้เท้า”เกรทส์อยู่ในชุดเครื่องแบบร้องเรียกลินลี่ย์
วันนี้ห้าพี่น้องบาร์เกอร์แต่งชุดเครื่องแบบดูภูมิฐานขณะที่พวกเขาเดินตรวจไปรอบๆคฤหาสน์โครงร่างขนาดมหึมาของพวกเขาทำให้พวกขุนนางสั่นสะท้านขุนนางทุกคนลอบถอนหายใจ.. ตระกูลนักรบเลือดมังกรมีชื่อจริงๆ แม้แต่องครักษ์ของพวกเขาก็ยังดูเหลือเชื่อขนาดนั้น
จักรพรรดิโจฮันน์ปรากฏในสายตาเหมือนอย่างที่คุ้นเคย เขาจูงหัตถ์ราชินีเดินเข้ามาโดยมีราชองครักษ์เดินตามสองสามคน
“วอร์ตัน” จักรพรรดิโจฮันน์เห็นวอร์ตันจากกลุ่มผู้คนทันที เมื่อเห็นว่าวอร์ตันดูหล่อและแข็งแรงเพียงไหนจักรพรรดิโจฮันน์ทรงพอพระทัย “ไม่เลว ไม่เลว”
ลินลี่ย์เข้ามาถึง
“ถวายบังคมฝ่าบาท เชิญเสด็จข้างในพะยะค่ะ” ลินลี่ย์หัวเราะ
“ได้, เรามีเรื่องอยากจะสนทนากับเจ้ามากอาจารย์ลินลี่ย์” จักรพรรดิโจฮันน์ตรัสอย่างเป็นกันเอง ทั้งสองเข้าไปในห้องโถงต้อนรับอาคันตุกะทันที ขณะที่ขุนนางอำมาตย์หลีกเปิดทางให้กับพวกเขา
ข้าราชสำนักประจำเมืองหลวงมากมายมาถึงในวันนี้ แต่ลินลี่ย์ไม่ได้ออกมาต้อนรับใครเลย ขุนนางทุกคนรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องธรรมดา จะให้นักสู้ระดับเซียนมาต้อนรับพวกเขาหรือ? จะเป็นไปได้หรือ?
“ประธานหอการค้าดอว์สันเดินทางมาถึง!”
เสียงฟังชัดดังขึ้นอีกครั้ง ประธานหอการค้าดอว์สันหนึ่งในสามหอการค้าใหญ่ของทวีปยูลาน แม้ว่าหอการค้าดอว์สันจะไม่มีมียอดฝีมือระดับเซียนแต่อย่างใดแต่ก็ยังมีพลังทางเศรษฐกิจที่น่าทึ่ง
แม้แต่จักรพรรดิโจฮันน์ก็ยืนรับและคุยกับลินลี่ย์ “หอการค้าดอว์สันคือหนึ่งในมิตรที่ดีของเรา”
ลินลี่ย์ก็ลุกขึ้นเช่นกัน
เยลมั่นใจว่าต้องมาพร้อมกับมอนโรดอว์สันด้วย แน่นอนว่าลินลี่ย์จะต้องต้อนรับพวกเขาแน่นอน
“ฮ่าฮ่า...” มอนโรดอว์สันร่างใหญ่ลงพุงเดินนำหน้าโดยมีเยลเดินเคียงข้างบิดาของเขา เมื่อเห็นจักรพรรดิโจฮันน์ มอนโรดอว์สันคำนับเล็กน้อยทันที “มอนโรขอถวายบังคมฝ่าบาทจักรพรรดิโจฮันน์”
จักรพรรดิโจฮันน์ทรงแย้มอย่างเป็นกันเอง “มอนโร วันนี้ลินลี่ย์เป็นเจ้าภาพสถานที่นี้ไม่จำเป็นต้องมากมารยาทกับเราก็ได้”
“อาจารย์ลินลี่ย์และข้าพระองค์เป็นสหายกันมานานแล้ว เพียงแต่ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาอาจารย์ลินลี่ย์จะมีความสำเร็จถึงระดับนี้แล้ว ฮ่าฮ่า...” มอนโร ดอว์สันหัวเราะจนตาหยีด้วยอารมณ์ร่าเริง
“ลุงดอว์สัน เรียกข้าลินลี่ย์เฉยๆ เถอะ” ลินลี่ย์ยิ้มขณะกล่าวเขากับเยลเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน เป็นธรรมดาที่เขาต้องให้เกียรติบิดาของเยลด้วย
“วอร์ตัน มาทักทายลุงดอว์สันก่อน”
วอร์ตันเข้ามาหาเช่นกัน
“ช่างเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาสง่างามจริงๆ”ตาของมอนโร ดอว์สันเป็นประกายเมื่อเห็นวอร์ตันชัดเจน ขนาดและสัดส่วนของวอร์ตันทำให้เขาประหลาดใจ
ขุนนางคนแล้วคนเล่าเดินทางมาถึงและแม้แต่บลูเมอร์ก็มา วันนี้บลูเมอร์แสดงมารยาทของสุภาพบุรุษเต็มที่ และใช้เวลาชั่วครู่กล่าวแสดงความยินดีกับวอร์ตัน
แต่ในใจของวอร์ตันยังคงรู้สึกอึดอัดมากกว่าเมื่อบลูเมอร์อยู่แถวนั้น เขายังคงรู้สึกได้ว่าบลูเมอร์ไม่ได้พูดจากใจจริง
“บลูเมอร์, วันนี้พี่ชายเจ้าไม่ได้มาด้วยหรือ?” จักรพรรดิโจฮันน์ทรงพระสรวลขณะตรัสกับบลูเมอร์
“พี่ชายของข้าพระบาทในตอนนี้ปิดประตูฝึกสมาธิเพื่อเตรียมการประลองกับท่านเฮนด์เซนเดือนหน้าพะยะค่ะ” บลูเมอร์ยิ้ม
“โอว สมเหตุผลดีแล้ว” จักรพรรดิโจฮันน์พยักหน้า
จากนั้นบลูเมอร์มองไปทางวอร์ตันที่กำลังต้อนรับแขกอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ ดวงตาของเขาเป็นประกายเย็นชา ในใจของเขาบลูเมอร์ไม่พอใจที่วอร์ตันทูลขอแต่งงานกับนีน่าได้สำเร็จ
“เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนเดินทางมาถึง!”
เมื่อมีเสียงดังขึ้น,จักรพรรดิโจฮันน์ ลินลี่ย์ มอนโร ดอว์สันและอีกหลายคนลุกขึ้นยืนทันทีและหันหน้าไปที่ทางเข้า
“เฮนด์เซนมา?” ลินลี่ย์ประหลาดใจระคนยินดี เขาคิดว่าเฮนด์เซนจะวุ่นวายกับการเตรียมตัวประลองในเดือนหน้า
ในเวลาไม่นานเฮนด์เซนในชุดยาวสีเทาเดินเข้ามาด้วยตนเอง จักรพรรดิโจฮันน์ ลินลี่ย์ วอร์ตันและคนอื่นๆออกไปต้อนรับเขาทุกคน
“ฮ่าฮ่า วอร์ตัน ขอแสดงความยินดีด้วย” รอยยิ้มที่เป็นมิตรปรากฏอยู่บนใบหน้าของเฮนด์เซน จากนั้นเขามองลินลี่ย์พูดเชิงหยอกล้อ “น้องชายเจ้ากำลังจะหมั้น แล้วเจ้าผู้เป็นพี่ชายเล่า?”
ลินลี่ย์สะดุ้ง เขานึกไม่ถึงว่าเฮนด์เซนจะถามคำถามเช่นนั้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า...” จักรพรรดิโจฮันน์ทรงพระสรวลด้วยเสียงดัง พลางพยักหน้าย้อนถาม “ลินลี่ย์ ได้เวลาที่เจ้าจะต้องแต่งงานแล้วนะ ถ้าเจ้าหมายตาผู้ใดไว้ แค่บอกเรา เราจะส่งหญิงสาวผู้โชคดีผู้นั้นไปให้เจ้าแน่นอน”
ลินลี่ย์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“ใต้เท้าจากวิทยาลัยเทพสงครามเดินทางมาถึง!”
เสียงร้องเรียกจากหน้าประตูคราวนี้ทำให้ลินลี่ย์เป็นอิสระไม่ต้องคอยตอบคำถามเนื่องจากทุกคนไปต้อนรับคนจากวิทยาลัยเทพสงคราม
“ข้านึกไม่ถึงเลยว่าวิทยาลัยเทพสงครามจะส่งคนมาร่วมด้วย” จักรพรรดิโจฮันน์ถอนหายใจอย่างปลาบปลื้มใจ
เฮนด์เซนก็พยักหน้าเช่นกัน วิทยาลัยเทพสงครามเป็นหนึ่งในองค์กรที่สำคัญที่สุดในทวีปยูลาน พวกเขาไม่ค่อยมาร่วมงานหมั้นหรืองานแต่งงาน เว้นแต่จะเป็นงานคนของพวกตน และมักจะเป็นศิษย์อื่นมาเข้าร่วม
แลงค์และคาสโตรเดินเคียงไหล่กันเข้ามา
คาสโตรยิ้ม “ฮ่าฮ่า, น้องวอร์ตัน ขอแสดงความยินดีด้วย” เนื่องจากคาสโตรพบว่าอาจารย์แสดงออกต่อวอร์ตันดังนั้นวอร์ตันจึงมีคุณสมบัติพอให้เขาเรียกเป็นน้องวอร์ตัน
แต่สถานะนี้ทำให้ลินลี่ย์โจฮันน์ เฮนด์เซนและคนอื่นๆ งง
สมาชิกของวิทยาลัยเทพสงครามล้วนถือดีกันทั้งนั้น
พวกเขายากจะให้ความสนใจคนอื่น ทัศนคติของคาสโตรทำให้ผู้คนรู้สึกงงงวยจริงๆ
“วันนี้ เราสองคนผู้เป็นศิษย์มาที่นี่ในฐานะเป็นตัวแทนของวิทยาลัยเทพสงครามเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าวอร์ตันในโอกาสที่เป็นมงคลนี้ และนี่คือของขวัญที่อาจารย์ของเราสั่งเราด้วยตนเองให้เรานำมามอบให้เจ้า” คาสโตรยื่นกล่องบุไหมให้วอร์ตัน
อาจารย์?
ทุกคนที่อยู่รอบๆพวกเขาตะลึง เทพสงครามมอบของขวัญด้วยหรือ?
“เราขอบคุณและซาบซึ้งเป็นอย่างมาก” ลินลี่ย์เป็นคนแรกที่รู้สึกตัวก่อน เขายิ้มและยอมรับของขวัญแสดงความยินดี “ท่านคาสโตร, ท่านแลงค์เชิญนั่งพักตรงนี้”
กล่าวโดยทั่วไปบ่าวทาสจะเป็นผู้รับของขวัญร่วมแสดงความยินดีที่หน้าประตู...แต่พนักงานลงทะเบียนของขวัญในคฤหาสน์ท่านเคานท์จะกล้ารับของขวัญของคนจากวิทยาลัยเทพสงครามหรือ? ต่อให้พวกเขามามือเปล่า นั่นก็รู้สึกเป็นเกียรติแล้ว
คฤหาสน์ท่านเคานท์มีเสียงดังจอแจ ขุนนางชั้นสูงหลายคนเช่นดยุคและเคานท์ต่างก็สนทนาในกลุ่มพวกเขากันเอง ขณะที่ลินลี่ย์ จักรพรรดิโจฮันน์ มอนโร ดอว์สัน คาสโตร แลงค์ เฮนด์เซนและคนอื่นๆก็สนทนาเช่นกัน
แขกเหรื่อในงานพิธีหมั้นหมายล้วนดูเหลือเชื่อกันทั้งนั้น
แค่เพียงแต่ดูการจัดแถวที่นั่ง ที่โต๊ะของลินลี่ย์มีคนที่ไม่ได้เป็นนักสู้ระดับเซียนก็คือ จักรพรรดิ, ประธานหอการค้าในขณะนี้เท่านั้น
“นักสู้ระดับเซียนกำลังบินอยู่โน่น” หลายคนร้องบอก ลินลี่ย์มองผ่านประตูไปที่ท้องฟ้า และเป็นความจริง เมื่อเห็นบุรุษผู้หนึ่งทะยานผ่านกลุ่มเมฆออกมาอย่างสง่างาม
ลินลี่ย์ จักรพรรดิโจฮันน์และคนอื่นๆลุกขึ้นยืนด้วยความสับสน
แต่ไม่ว่าจะเป็นใครเนื่องจากท่านผู้นี้เป็นนักสู้ระดับเซียน พวกเขาก็ต้องเห็นแก่หน้าเขา
แค่ชั่วประกายวูบขึ้นในกลางอากาศบุรุษผู้นั้นก็มาถึงประตูใหญ่ นี่คือชายชราผมขาว มีเครายาวเช่นกันเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนยุคเก่า แต่ดวงตาสีฟ้าเหมือนฝันดูคมชัด
“ฮ่าฮ่า ข้ามาโดยมิได้รับเชิญ ข้าหวังว่าที่นี่คงจะไม่ถึงกับไม่ต้อนรับข้านะ?” ชายชราผมขาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
เขาไม่ได้แม้แต่จะมองดูลินลี่ย์และคนอื่นๆ แต่กลับบินเข้าไปที่ซึ่งลินลี่ย์และคนอื่นๆนั่งอยู่แล้ว ขณะที่เขาเข้าไปใกล้ เฮนด์เซนและคาสโตรรีบหลีกทางให้เขาและชายชราผมขาวนี้นั่งบนเก้าอี้ที่เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนนั่งอยู่ก่อนหน้านั้น
“ที่นั่งนี้ดี ข้าจะนั่งตรงนี้” ชายชราผมขาวหัวเราะลั่น
จักรพรรดิโจฮันน์ขมวดคิ้ว บุรุษผู้นี้ไร้มารยาทไปหน่อย ลินลี่ย์ก็รู้สึกเช่นกันว่าชายชราผมขาวผู้นี้ยโสเกินไปบ้าง
“ข้าขอถาม...”ก่อนที่ลินลี่ย์จะมีโอกาสพูดจบคำ เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนรีบพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพทันที “ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าท่านจะมาถึงที่นี่ใต้เท้า นับว่าสร้างความประหลาดใจให้เราอย่างคาดไม่ถึง”
คาสโตรและแลงค์ที่ยืนเคียงข้างกันพยักหน้าอย่างนอบน้อม ท่าทีของพวกเขาอ่อนน้อมอย่างเหลือเชื่อ