ตอนที่ 244 สายฟ้าน้ำเงิน
ทั่วทั้งสนามสอบเงียบกริบราวกับป่าช้า
ไม่ว่าจะเป็นคนดูรอบๆที่มาเฝ้ามองดูเรื่องสนุก, เฉินชวน, เจ้าหน้าที่ผู้รับลงทะเบียน หรือเซรีนล้วนแต่ปากอ้าค้างจ้องมองภาพพร่าเลือนของเงาสีน้ำเงินที่บินอยู่ในท่ามกลางฝุ่นละอองอย่างสง่างาม
ความคิดของทุกคนว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออก
“ขอโทษทีนะ, ข้าผ่านหรือเปล่า?”
เสียงทุ้มต่ำดังแทรกผ่านฝุ่นและก้องสะท้อนอยู่ในชุด
เจ้าหน้าผู้ดูแลสะดุ้งตื่น พวกเขารีบหันศีรษะไปดูเวลาด้านข้างและแล้วเหมือนกับว่าพวกเขาถูกผีหลอก 17.6วินาที
ปะ..เป็น..ไป..ได้..ยังไง...
เจ้าหมอนี่เสียเวลาไปสิบวินาทีก่อนหน้านั้น นี่หมายความว่าใช้เวลาเพียง 7.6วินาทีงั้นหรือ?
ผ่านทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งภายใน7.6 วินาที นี่มันตลกเกินไปแล้ว เป็นเรื่องตลกอย่างร้ายกาจ พวกเขาจ้องมองตัวเลขบอกเวลาด้วยความมึนงง ในช่วงนั้นทุกคนเหม่อลอยกันหมด
“เอ่อ? มิทราบมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
เสียงเย็นยะเยือกคล้ายกับเสือย่องมาช้าๆมันชะงักฝีเท้ากระทันหันและถอยกลับเล็กน้อย
คลื่นอำมหิตที่น่ากลัวแผ่กระจายไปทั่ว
พวกเจ้าหน้าที่รู้สึกราวกับถูกน้ำเย็นราดใส่พวกเขาเลือดในตัวพวกเขาแทบผนึกแข็ง หน้าของพวกเขาซีดราวกับกระดาษ ผู้อาวุโสที่เป็นหัวหน้ามีประสบการณ์มากที่สุดรังสีอำมหิตที่อีกฝ่ายปล่อยออกมาแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนก้าวร้าว และพฤติกรรมของพวกเขาในตอนนี้เท่ากับหาเรื่องยุ่งยากใส่ตัวไปแล้วหากลังเลสักเล็กน้อย น่ากลัวว่า...
ผู้อาวุโสนั้นข่มใจที่กำลังเต้นแรงและรีบตอบทั้งที่เสียงสั่น“ไม่มีปัญหา, ไม่มีปัญหา! สอบผ่าน!”
ดวงตาที่แดงเหมือนเลือดของถังเทียนจางลง ไฟโกรธในใจเขาแทบจะมอดดับลงและเขาทำตัวตามปกติอีกครั้ง
“ดีมาก, หิมะสายฟ้า!”
เขาให้กำลังใจหิมะสายฟ้า
แรงจูงใจของหิมะสายฟ้าทำให้ถังเทียนประหลาดใจเล็กน้อย หิมะสายฟ้าดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
อย่างไรก็ตามถังเทียนไม่ได้ใส่ใจ เขาก้าวไปข้างหน้า
ครอก..แครก,ครอก...แครก!
เสียงที่ดังมาจากหิมะสายฟ้าดูเหมือนจะไม่เป็นที่ตลกอีกต่อไปสำหรับพวกคนที่ได้ยิน พวกเขาไม่คิดต่อไปอีกแล้วว่าหิมะสายฟ้าเหมือนกับมีขยะแขวนห้อยอยู่รอบตัว เสียงคล้องแคล้งเต็มไปด้วยรังสีอำมหิตและทุกคนก็รู้ด้วยว่ามันเป็นเสียงดังของนักรบที่อยู่ในเกราะ
หิมะสายฟ้าเดินมาถึงช้าๆเสียงคล้องแคล้งก็ชะงักและหยุดลง
หิมะสายฟ้าที่มีรอยฉีกและรอยบุบแต่ผู้คนไม่เห็นว่ามันน่าเกลียดอีกต่อไปแล้ว ไม่มีใครเห็นว่ามันฉีกหรือแตกชำรุด บาดแผล รอยบุบจำนวนมากเป็นเครื่องหมายของความฉลาดในการเอาตัวรอดในสงครามได้
แผลรอยฉีกและรอยแตกเหล่านั้นเหมือนกับเวทมนต์ที่ไม่ได้ร่ายสามารถดึงดูดสายตาทุกคน
มันน่ากลัว
“ข้าขอถามนามคุณชายและชื่อของอาวุธจักรกลของท่านด้วยได้ไหม” ชายชราพูดอย่างนอบน้อม “ตามกฎแล้ว คุณชายจะเป็นผู้ได้รับคัดเลือกเข้าแข่งขันในอันดับเก้าสิบเก้า”
เขายังไม่ลืมหน้าที่ของเขา แม้ว่าพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของเขา มีความเป็นไปได้สูงที่จะนำความลำบากมาสู่ตนเอง แต่ตอนนี้มีผู้ที่ทำลายสถิติแล้วทำให้เขาภูมิใจอย่างแท้จริงแทน
เขารีบอธิบาย “มีผู้แข่งขันที่ได้คัดเลือกก่อนท่าน98 คนแล้ว เนื่องจากเปิดดำเนินการไปนานแล้ว ท่านอยู่ในลำดับที่ 99 ในตอนนี้ ผู้แข่งที่ได้รับคัดเลือกไปแล้วไม่จำเป็นต้องมาลงทะเบียนล่วงหน้าแต่จะเข้าไปในรอบหลักได้โดยตรง
“ข้าชื่อสายฟ้า (เหลย)” เสียงของถังเทียนดังกระจายออกมาจากอาวุธจักรกลได้ยินออกมาจากชุด“นี่คือเจ้าหิมะ (เสวี่ย)”
หิมะสายฟ้าอยากประท้วงไม่เห็นด้วย มันไม่พอใจมากกว่าที่ถังเทียนแย่งชื่อของมันไปครึ่งหนึ่งและครึ่งหนึ่งที่เหลือฟังดูคล้ายผู้หญิง!
แน่นอนถังเทียนไม่สนใจการประท้วงของมัน
ในท่ามกลางความเงียบนี้เองถังเทียนควบคุมหิมะสายฟ้ารับหลักฐานผู้แข่งขันที่ผ่านคัดเลือกจากมือชายชราและเดินไปหยุดอยู่ข้างเซรีนรับเซรีนที่ยังตะลึงอยู่และหายไปจากสายตาของฝูงชน
สำหรับถังเทียนแล้วเนื่องจากนี้เป็นแค่การทดสอบคัดเลือก ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยใส่ใจมากนัก
เขาไม่เข้าใจสักนิดเลยว่าความโกลาหลที่เกิดจากการทดสอบพื้นฐานนี้มากเกินกว่าเขาจะนึกภาพออก
ในคืนเดียวกัน
พื้นที่ทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งก็เต็มไปด้วยผู้คน สมาชิกเจ้าหน้าที่ด้านข้างคุ้มครองอยู่ด้านข้างด้วยความเคารพ
ขณะที่อาวุธจักรกลสีขาวหิมะเครื่องหนึ่งบินเข้าหาจุดหมายบุรุษหนุ่มคนหนึ่งออกมาจากชุดและเขาส่ายหน้าผิดหวัง “ไม่, ข้าก็ทำไม่ได้”
แม้ว่าพวกเขาได้เห็นผลประจักษ์กับตาตนเอง เมื่อบุรุษหนุ่มนั้นยืนยันด้วยตัวเองก็ยังก่อให้เกิดความวุ่นวาย
บุรุษผู้นี้คือผู้แข่งขันผ่านคัดเลือกคนที่23 ในการแข่งขันกระชับมิตรนี้ เจี่ยหมิงเว่ยจากกลุ่มดาวนกฟีนิกซ์ และอาวุธจักรกลของเขานามว่าฟีนิกซ์ขาว ฝีมือของเจี่ยหมิงเว่ยมีชื่อเสียงกว้างขวาง ในสี่สิบสองกลุ่มดาวท้องฟ้าใต้เขามีชื่อเสียงจริงๆ
เจี่ยหมิงเว่ยชำเลืองมองดูเวลาเวลารวมเขาใช้ไป 18.3 วินาที
ถ้าเป็นวันปกติเขาคงมั่นใจกับผลเช่นนี้ ผ่านทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งได้คือข้อพิสูจน์ว่าเขามีฝีมือแน่นอน แต่เมื่อคิดว่าคนชื่อเหลยใช้เวลา 7.6วินาทีทำให้เขายากจะสบายใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนเห็นประจักษ์จำนวนมาก เขาคงสงสัยว่าเป็นผลการทดสอบปลอม
7.6 วินาที! แม้ว่าเขาจะเค้นสมองมากเพียงไหน แต่เจี่ยหมิงเว่ยก็ยังคิดไม่ออกว่านักสู้สายจักรกลแบบไหนจับคู่กับอาวุธจักรกลแบบไหนจึงสร้างผลการทดสอบออกมาเช่นนั้นได้
18.3วินาทีเป็นผลทดสอบที่ดีที่สุดหลังจากเขาทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงหกครั้งและเป็นผลที่ดีที่สุดในวันนี้รองจาก ‘สายฟ้า’ เขาเต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับสายฟ้าผู้ลึกลับและหิมะที่ฉีกขาดรุ่งริ่งนั้น
“มียอดฝีมือเก่งขนาดนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?” บุรุษหนุ่มอีกคนหนึ่งมีสีหน้าแปลก “อาจเป็นยอดฝีมือจาก 12ตำหนักในระนาบสุริยะก็เป็นได้”
เขาคือผู้เข้าแข่งขันลำดับ65 เว่ยจื้อ
เจี่ยหมิงเว่ยค่อยกลับมารู้สึกตัวพลางส่ายหัว “ไม่เคยได้ยินมาก่อน”
เขารำพึง“การแข่งขันครั้งนี้ดูเหมือนจะมีเรื่องน่าสนใจแล้ว”
“ไม่ว่าเขาจะทรงพลังเพียงไหนเขายังจะดีกว่าหลิ่วย่าจืออีกหรือ?” เว่ยจื้อพูดอย่างไม่พอใจ นัยน์ตาเขามีประกายโทสะ“อาวุธพลังสายเลือดจะเป็นผู้ชนะที่แท้จริงในอนาคต! ข้าต้องนึกหาวิธีซื้ออาวุธพลังสายเลือดมาให้ได้ ดูเหมือนว่าข้าคงต้องตามรอยเท้าของหลิ่วย่าจือเสียแล้ว”
เจี่ยหมิงเวยส่ายหัว“ข้าไม่ชอบอาวุธพลังสายเลือดเลย มันสุดโต่งเกินไป นั่นไม่ใช่วิชาวิศวจักรกลอีกต่อไปแล้ว”
คำพูดของเจี่ยหมิงเว่ยกระทบความรู้สึกของคนอื่นๆหลายคน หลิ่วย่าจือกับคิงคองของเขายอดเยี่ยมไร้เทียมทาน พลังของอาวุธพลังสายเลือดแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพแต่พลังอย่างนั้นมาจากพลังสายเลือดและอสูรดวงดาว จึงถูกตั้งข้อรังเกียจโดยคนที่รักจักรกลหลายคน
พวกนั้นไม่ใช่วิชาจักรกลอีกต่อไปแล้ว
นี่คือสามัญสำนึกของคนพวกนี้
เว่ยจื้อไม่ท้อแท้“นั่นก็พอแล้ว ตราบใดที่มันมีพลังมาก”
เจี่ยหมิงเว่ยชำเลืองมองเว่ยจื้อและพูดเฉื่อยชา“ถ้าเจ้าต้องการแข็งแกร่งขึ้น ทำไมเจ้าถึงไม่เป็นนักสู้สายจักรกลเล่า?”
สายตาที่รายล้อมจ้องมองเว่ยจื้อเต็มไปด้วยความรังเกียจ วิชาสายจักรกลและนักสู้สายจักรกลตกต่ำมาเป็นเวลานานแล้วในตอนนี้ แม้แต่วิศวกรจักรกลส่วนใหญ่ทำขึ้นมาเพราะอาศัยใจรักล้วนๆ
พลังรบของนักสู้สายจักรกลยังห่างไกลสุดกู่เมื่อเทียบกับนักสู้ธรรมดา
ทันทีที่พูดจบ เจี่ยหมิงเว่ยหันกายจากไปโดยไม่เหลียวมองเว่ยจื้อที่หน้าแดงด้วยความอับอาย
ข่าวเจี่ยหมิงเว่ยทดสอบได้ผลเวลา18.3 วินาทีกระจายออกไปในวงกว้างในเวลาไม่นาน แม้แต่เจี่ยหมิงเว่ยก็สามารถทำเวลาได้เพียง 18.3 วินาทีคนชื่อเหลยผู้นั้นต้องน่ากลัวแน่นอน
หลายๆคนรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถเห็นการทดสอบที่กลายเป็นตำนานนั้น ตรงกันข้ามพวกที่อยู่ในเหตุการณ์ลืมไปหมดสิ้นว่าพวกเขาได้เยาะเย้ยล้อเลียนถังเทียนและหิมะสายฟ้ายังไงบ้าง และอธิบายให้คนที่รุมล้อมเข้าฟังเรื่องร่างสีน้ำเงินเหมือนสายฟ้าอย่างออกรสชาติ
และด้วยเหตุนั้นสายฟ้าผู้แข่งขันลำดับที่99 จึงมีชื่อเล่นใหม่ว่า สายฟ้าน้ำเงิน
ไม่จำเป็นต้องพูดเกินไป เอกลักษณ์ของผู้คัดเลือกได้แข่งขันมีประโยชน์มากกว่า ถังเทียนกับเซรีนหาเช่าบ้านที่มีโรงเก็บของได้ไม่ยากนักและดูเหมือนเซรีนราวกับกินยาปลุกพลังมา นางเต็มไปด้วยจิตวิญญาณต่อสู้
หลังจากตะลึงกับการเปิดตัวอย่างน่าทึ่งสุดอัศจรรย์ในการทดสอบพื้นฐานชั้นหนึ่งแล้ว นางมองเห็นโอกาสทำเงินและเริ่มหมกมุ่นกับงานทันที
“ข้าได้ตรวจสอบดูแล้ว โครงสร้างภายในยังมั่นคงเสถียรดีมาก”จากนั้นเซรีนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย “ข้าไม่คิดเลยว่าหิมะสายฟ้าจะถูกพวกเจ้าปูยี่ปู้ยำจนสภาพเป็นแบบนี้ ข้าเลยไม่ได้นำวัสดุมามากพอ ดังนั้นลักษณะภายนอกข้าจึงซ่อมไม่ได้ แต่โครงสร้างภายในไม่ได้รับผลกระทบอะไร”
“ลักษณะภายนอกไม่ใช่เรื่องสำคัญ” ถังเทียนไม่กังวลสนใจแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินถังเทียนพูดเช่นนั้นเซรีนพูดต่อไปและเปลี่ยนคำถาม “เจ้าจะไม่ใส่การ์ดวิญญาณอะไรลงไปหรือ? หิมะสายฟ้าสนับสนุนการ์ดวิญญาณระดับห้าได้ถึงสามใบหรือวิทยายุทธระดับหกได้หนึ่งใบ
ถังเทียนส่ายหน้า “ไม่จำเป็น”
จากความสามารถหิมะสายฟ้ายังไม่สามารถแสดงพลังของถังเทียนได้เต็มรูป ตัวอย่างเช่นกรงเล็บเพลิงภูตพรายของถังเทียนเป็นวิทยายุทธระดับเจ็ด หิมะสายฟ้าจะไม่สามารถทนรับมันถ้าถังเทียนฝืนใช้วิชากรงเล็บเพลิงภูตพราย หิมะสายฟ้าจะพังเนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระหนักเช่นนั้นได้
หิมะสายฟ้าถูกสร้างขึ้นมาให้ทนต่อวิทยายุทธระดับห้า ถ้าเป็นวิทยายุทธระดับหกก็เต็มกลืน
โชคดีที่ถังเทียนมีวิทยายุทธระดับห้าอย่างเช่นประทับหัตถ์ใหญ่ เท้าดาบถานถุ่ยและวังวนวิหคขาว
ตอนนี้เขาเข้ากันได้ดีกับหิมะสายฟ้า เมื่อพลังของวิทยายุทธทั้งสามถูกนำมาใช้ก็แทบจะทัดเทียมกับวิทยายุทธระดับหกแล้ว นี่คือกำลังของอาวุธจักรกล ภายในขอบเขตที่มันทนรับได้ ก็จะช่วยเพิ่มพลังของวิทยายุทธได้อย่างมาก
เมื่อพูดถึงการ์ดวิทยายุทธ ถังเทียนจำได้ว่าการ์ดที่เขาได้รับมากจากเซียนกระบี่ลับ ทุกคนเดาว่าอาจเป็นมรดกวิชาหมัดเหล็กกลืนแสง แต่เขาไม่เคยใช้มันได้
เขาล้วงการ์ดออกมาบนผิวการ์ดเป็นรูปดวงตาที่โกรธเกรี้ยวคู่หนึ่ง
นี่อาจเป็นการ์ดวิญญาณที่แปลกที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา
อย่างไรก็ตามดูจะไม่เหมาะสมที่จะใช้การ์ดวิญญาณในภูมิภาควิญญาณ หลังจากไตร่ตรองอย่างหนักแล้วเขาเก็บการ์ดไว้อีกครั้ง
และเมื่อเขาเริ่มฝึกกับหิมะสายฟ้า ถังเทียนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวหิมะสายฟ้าได้ทันที จิตวิญญาณพลังยุทธของมันดูเหมือนจะกล้าแข็งยิ่งขึ้น
เป็นไปได้ไหมว่าจิตวิญญาณพลังยุทธของอาวุธจักรกลสามารถเพิ่มพลังได้เช่นกัน?
ถังเทียนนึกขึ้นได้ถ้าเป็นไปได้จริงๆ ที่จะเสริมพลังให้มัน อย่างนั้นพลังของหิมะสายฟ้าจะเพิ่มขึ้นอีกมากมาย
ถังเทียนรีบไปหาเซรีนและถามข้อสงสัยนี้
เซรีนอธิบาย“เจ้าสามารถเพิ่มพลังให้มันได้อย่างแน่นอน อาวุธจักรกลใหม่นี้เหมือนกับสมบัติดวงดาวสมบัติดวงดาวสามารถเสริมพลังได้ฉันใด หิมะสายฟ้าก็สามารถเสริมพลังได้ฉันเดียวกัน”
ดูเหมือนถังเทียนจะตื่นเต้นมากขึ้น เขาคิดถึงถุงมือดาวเตาหลอมของเขา มันเคยมีพัฒนาการมาก่อน ชุดเกราะนกยูงก็เช่นกัน
ถ้าเขาใช้จิตวิญญาณพลังยุทธของเขาเองฝึกหิมะสายฟ้า จะช่วยเสริมพลังให้หิมะสายฟ้าได้ไหม?
เหมือนกับจะทราบความคิดของถังเทียน เซรีนไม่ได้ตกใจแต่อย่างใด “นี่เป็นเพียงอาวุธจักรกลสำหรับใช้แข่งขันครั้งนี้ ถ้าเจ้าต้องการอาวุธจักรกลในอนาคตข้าสามารถสร้างอาวุธจักรกลที่แข็งแกร่งให้เจ้าได้อีกชุด ความสามารถของมันยังมีจำกัดอยู่ ไม่ว่าเจ้าจะเสริมพลังไปมากเพียงไหน ผลของมันก็ยังมีขีดจำกัด”
อย่างไรก็ตามถังเทียนตอบอย่างจริงจัง“เพิ่มได้นิดๆ หน่อยๆ ก็ยังนับว่าดีเช่นกัน”
เมื่อพูดจบถังเทียนวิ่งออกไปหาหิมะสายฟ้าอย่างตื่นเต้น เขาต้องการไตร่ตรองว่าเขาสามารถเสริมพลังหิมะสายฟ้ายังไง